ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic 2PM TJ & KD & CH] Hyung, Can we be more than friend?

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 ไอ้เด็กหน้าตี๋ที่น่าเอามาทำเป็นต้มยำกุ้งที่สุดในโลก!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 517
      4
      12 ต.ค. 53

    Chapter 5 ไอ้เด็กหน้าตี๋ที่น่าเอามาทำเป็นต้มยำกุ้งที่สุดในโลก!!!


                    หลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี้มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก... อย่างแรกเลยก็คือภาษาเกาหลีของพี่เจย์นั้นยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทักษะด้านภาษาของเขาพัฒนาเร็วมากจนน่าแปลกใจ จากแต่ก่อนที่พอจะพูดได้แบบงูๆปลาๆ แต่ตอนนี้ถึงจะหลงทางในที่ไกลๆก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ส่วนอีกอย่างหนึ่งก็คือ... ความสัมพันธ์ของผมกันพี่เจย์นั้นเริ่มดีขึ้นแล้ว (เย้) ถึงแม้จะไม่ได้สนิทกันถึงระดับนิชคุณ แต่ก็อยู่ในระดับที่เข้าหน้ากันติดมากขึ้น ช่วงนี้พี่เจย์เข้าหาผมบ่อยขึ้น แต่ฝ่ายที่เข้าหาก่อนมักจะเป็นผมมากกว่า พวกเราพูดคุยกันในเรื่องต่างๆได้อย่างสบายใจมากขึ้น ถึงจะหลงเหลือความกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้าง แต่ผมเชื่อว่า... ถึงวันนี้เราจะไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่ แต่ในวันหน้าความสัมพันธ์ของเราสองคนจะดียิ่งๆขึ้นไปอีกถ้าเกิดผมยังคงดำรงระดับนี้ไว้ได้เรื่อยๆ และไม่นานเกินรอ... ป๊ากับม๊าของผมที่รออยู่ที่บ้านจะได้ลูกสะใภ้หน้าหมวยไปเชยชม กร๊ากกกกก

                    ส่วนเรื่องที่เปลี่ยนไปอีกอย่างที่ลืมไม่ได้เลย... เมื่อก่อนจากที่นิชคุณเป็นคนติดบ้าน หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่โผล่หัวออกไปข้างนอก นอกจากจะมีธุระสำคัญจริงๆหรือว่ามีปัญหาอะไรกับเพื่อนร่วมห้องผู้แสนดีอย่างผม (?) แต่พอมันได้ของเล่นใหม่มาปุ๊ป... โป๊ะเชะ... หายหัวไปเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว จนทำให้ห้องรู้สึกโหวงๆมากกว่าปกติพอไม่มีใครมาทำให้รำคาญใจเล่น (แต่ตอนนี้ผมกลับไปเป็นฝ่ายที่ทำให้คนอื่นรำคาญใจแทน) ส่วนของเล่นที่ว่า... ก็คงไม่แคล้วจะเป็นอูยอง ผู้น่าสงสาร

                    ฮัลโหลอูยอง... เป็นไงบ้าง... พี่สบายดี เสียงคุยเจื้อยแจ้วผ่านทางโทรศัพท์จากคนที่นั่งอยู่ข้างๆทำให้ผมรู้สึกรำคาญขึ้นมาโดยใช่เหตุ ซึ่งปกติผมก็เป็นคนที่รู้สึกรำคาญง่ายถึงแม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กๆอยู่แล้วซะด้วย

                    ห่างกันซักวินาทีไม่ได้เลยรึไงฟะ... อีสองตัวนี้...

                    “หา... อะไรนะ? ต้องเรียนแล้วเหรอ? ไม่เอา... จะคุยกับด้งต่ออ่า”

                    เปลี่ยนคำพูดใหม่... อูยองน่ะไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่อีคนข้างๆผมนี่น่ะสิท่าทางจะเป็นเอามาก

                    “ก็ได้ๆ ตอนเที่ยงจะโทรไปใหม่นะ... ตอนเย็นอย่าลืมมาหาด้วย” เอาเข้าไป... เช้า สาย บ่าย เย็น ชีวิตมึงนี่ขาด (คนที่อาจจะเป็น) แฟนไม่ได้เลยรึไงฟะ

                    “ห่างกันวันสองวันไม่ได้เลยรึไงวะ?” ผมยิงคำถามไปในทันทีเมื่อเห็นว่าตัวน่ารำคาญข้างๆวางมือถือลง

                    “แกไม่เข้าใจหรอกเฟ้ย... ถ้าฉันขาดอูยองแล้วฉันจะตาย” อูยองนะเฟ้ยไม่ใช่ออกซิเจนที่ถ้าขาดไป 3 นาทีก็เดี้ยง

                    “อูยองไม่ใช่อากาศนะ”

                    “อูยองเป็นดั่งออกซิเจนหล่อเลี้ยงหัวใจของฉันเฟ้ย” แถได้เนียนมากเลยเมิง...

                    เออ... กูไม่ถามเมิงแล้ว ผมส่ายหน้าอย่างระอากับคำตอบตอแหลของมัน แล้วหันไปใส่ใจโทรทัศน์ต่อไป

                    นี่ๆ นายสองคนน่ะ มาแล้วครับนางฟ้าของผม... เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ห้ามลอกเลียนแบบแบบนี้ไม่มีใครอีกแล้วล่ะนอกจากพี่เจย์ของผม (?)

                    ครับพี่ ผมหันกลับไปทำหน้าระริกระรี้ทันที เหลือบไปเห็นแว่บๆ... ไอ้คนที่แอบขำอยู่น่ะ... อย่านึกว่าจะไม่เห็นนะเฟ้ย...

                    ฉันจะไปตลาด... เอ่อ... Will you go with me??” ยังอินเตอร์แนชชั่นแนลไม่เปลี่ยนแปลง ถึงสกิลภาษาเกาหลีจะพัฒนาแล้ว แต่ศัพท์บางคำก็ยังยากเกินไปสำหรับพี่เจย์ในการสนทนา

                    “Why not? Let’s go” ผมรีบลุกขึ้นจากโซฟาทันทีด้วยความดีใจแล้วเนียนไปเกาะพี่เจย์ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว โดยไม่สนว่าไอ้ตัวอีกตัวที่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นจะเป็นยังไง แต่ก็เอาเถอะ... ถึงยังไงอีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามันก็คงจะเทเลโฟนไปหาอูยองสุดที่รักของมันแล้วล่ะ ไอ้พวกขาดความอบอุ่นมิด้ายเอ๊ยยยย

                    พวกนายมันใจร้ายยยย ได้ยินเสียงแว่วๆ แต่ก็ไม่ต้องไปสนใจหรอก... ก็แค่เสียงนกเสียงกา

                    “Do you want to come with us?” ไม่ต้องทำตัวเป็นคนดีนักก็ได้ครับพี่... อย่างไอ้คุณถึงจะขาดความอบอุ่นไปสักชั่วโมงสองชั่วโมงมันก็ไม่ตายหรอก และอีกไม่นานเดี๋ยวเด็กแก้มป่องก็โทรมาหามันแล้ว หรือมันอาจจะโทรไปเองก็ได้ ไม่เห็นต้องเป็นห่วงมันเลย ไปกันเถอะนะพี่... นะๆๆๆ

                    ไม่ๆๆๆ ผมพยายามส่งสัญญาณไปหานิชคุณสุดความสามารถเพื่อให้มันตอบปฏิเสธไป ส่วนเพื่อนผมที่หัวไวรู้ทันก็ทำตามที่ผมส่งสัญญาณไปแต่โดยดี

                    ไม่เป็นไรครับพี่... ไปเถอะ... ผมอยู่คนเดียวได้ ถึงจะพูดกันคนละภาษาแต่เราสามารถสื่อสารให้เข้าใจกันได้ แถมตอนพูดจบก็ยังมิวายหันกลับมาขยิบตาให้ผมด้วย ส่วนผมก็แค่ชูนิ้วโป้งชื่นชมมัน ทำได้ดีมากไอ้เพื่อนเลิฟศรี... เดี๋ยวกลับมาจะตบรางวัลให้อย่างดี

                    งั้นไปก่อนนะ

                    คร้าบบบบ

                    ออกมาจากห้องไม่ถึงห้านาที... ก็รู้สึกเหมือนได้ยินอะไรบางอย่างลอดออกมาจากข้างในห้อง...

                    อูยองงงงง พี่คิดถึงนายยยยย

                    เฮ้ออออออออออ....

     

                    นี่แทค... นายว่าเย็นวันนี้จะกินอะไรดีอ่ะ? พี่เจย์ถามผมด้วยเสียงใสๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว (คิดเอาเอง) ส่วนผมก็ได้แต่เคลิบเคลิ้มกับเสียงนั่น... ซึ้งใจ

                    ร้อยวันพันปีไม่ยักกะเคยเป็นคนเปิดบทสนทนาของสองเราขึ้นมาก่อน... วันนี้ช่างเป็นวันที่โชคดีเสียจริงๆ

                    นี่ไอ้แทค ฉันถามนายอยู่นะ เจ้าของเสียงนั้นดูจะมีท่าทางไม่ค่อยพอใจเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่เงียบมาตั้งแต่เมื่อกี้ ผมจึงตื่นขึ้นมาจากภวังค์แทบจะในทันที

                    อ๋อๆ เย็นวันนี้กินอะไรดีงั้นเหรอครับ เอ่อ... อยากจะตอบว่า... ถ้าหากเป็นอาหารฝีมือพี่ล่ะก็ผมกินได้ทั้งหมดนั่นแหล่ะครับ... กร๊ากกก ไม่ดีๆๆ เดี๋ยวจะโดนหาว่าเป็นคนโรคจิต ต้องพูดอ้อมๆ...

                    แล้วพี่อยากกินอะไรล่ะครับ?อ้อมเกินไปมั้ย...

                    ฉันอยากกิน... พี่เจย์ก้มลงทำหน้าเหมือนกำลังใช้ความคิด น่ารักจริงวุ้ย อยากเข้าไปกอดจะแย่อยู่แล้วแต่กลัวว่าจะโดนประทับตราบนใบหน้าด้วยลายรองเท้าแสนฮิบของอีกฝ่าย ฉันอยากกินข้าวผัด

                    แหม... พอดีผมเองก็อยากกินอยู่พอดีเลยเหมือนกัน ตอแหลหน้าด้านๆเงี้ยเลยนะ... แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราน่ะใจตรงกัน งั้นเราไปซื้อของกันเถอะ

                    เออ... พี่เจย์ตอบผมด้วยท่าทางซังกะตายหน่ายโลก ผิดกับผมที่มีท่าทางดี๊ด๊าเสียจนเกินปกติ

                    ทำไมน่ะเหรอครับ... แหงอยู่แล้ว... เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดน่ะสิ...

                    มีนางฟ้าหน้าหมวยแถมน่ารักสุดๆมาเดินอยู่ข้างๆ... แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว...

                    อยากให้อยู่ตรงนี้อีกนานๆ... ไม่สิ... อยู่ตรงนี้ตลอดไปเลย...

                    ในที่สุดผมกับหมวยของผม (ถึงจะไม่ใช่ตอนนี้แต่ในภายภาคหน้า) ก็ซื้อของเสร็จ ผมคิดว่านะ... ที่พี่เขาอยากกินข้าวผัดนี่สงสัยจะเป็นเพราะว่าติดใจในฝีมือของกุ๊กเทวดาอ๊คแทคยอนคนนี้ล่ะสิท่า คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้... ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตกาล... เอ่อ... ครั้งที่เรายังไม่ค่อยลงรอยกันซักเท่าไหร่ หรือพูดง่ายๆก็คือครั้งที่พี่เขายังคงเกลียดขี้หน้าผมเข้าไส้ ผมได้ช่วยชีวิตและพรหมจรรย์ (?) ของเขาเอาไว้จากเหล่าคนเถื่อนไร้อารยธรรมข้างถนน หลังจากนั้นผมก็ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวให้เขาขึ้นขี่หลัง (หรือว่าเป็นม้าขาวซะเองล่ะเนี่ย...) จนพี่เจย์ผล่อยหลับไปบนหลังของผมน่ะแหล่ะ ผมพาเขาไปนอน... ทำแผลให้เขา... ดูแลเขาสารพัดอย่างเท่าที่มือคู่น้อยๆของผมนี้จะสามารถทำได้ และทำข้าวผัดให้เขากิน ตอนนั้นผมดีใจมาก... เพราะว่าพี่เขาพูดคำว่า ขอบคุณ กับผมด้วย

                    เป็นครั้งแรกที่ผมเคยได้ยินอะไรอย่างนี้จากพี่เจย์...

                    ไอ้แทค มัวแต่เหม่ออะไรอยู่เล่า รีบมาช่วยกันยกของสิ เสียงตวาดแว้ดดังขึ้นจากคนที่หอบของพะรุงพะรังเต็มทั้งสองมือ โธ่ถังกะละมังหม้อ... ตัวเล็กแค่นี้แล้วยังอวดเก่งถือของคนเดียวอีกเหรอ (ไม่ใช่เพราะแกรึไงวะนังอ๊คแคท)

                    ครับๆๆๆ ผมตอบรับแล้วรีบบึ่งไปช่วยที่รัก (ในอนาคต) ถือของทันที พี่เจย์ของผมนี่บอบบางนะครับ... ไม่สามารถปล่อยให้ไกลหูไกลตาได้เลย เดี๋ยวโดนฉุด (ก็แหงสิ... พี่เจย์ของผมทั้งหมวย ทั้งขาว ทั้งน่ารักขนาดนี้ ใครเห็นก็ต้องหลงเป็นธรรมดา)

                    นายนี่มันนิสัยเสียจริงๆ ปล่อยฉันให้ถือของคนเดียวในขณะที่นายเดินตัวปลิวออกไปนอกซุปเปอร์มาร์เก็ตเนี่ยนะ?? พี่เจย์หันกลับมาแว้ดให้ผมเสียงสูงด้วยความไม่สบอารมณ์ ไม่เอาน่า... บ่นมากเดี๋ยวตีนกาขึ้นนะ... เดี๋ยวไม่สวยไม่รู้ด้วย...

                    ก็ผมเอาแต่คิดอะไรเพลินๆนี่นา ความรักมันบังตาอ่ะครับพี่... คึ คึ คึ

                    นายนี่มัน... โว้ย!! ไอ้แมวแทคนายมันน่าถีบจริงๆเลย ก้ำปั้นเล็กๆของคนข้างๆทุบลงบนหัวไหล่ของผมจนเข่าผมแทบทรุด ที่เคยบอกว่าพี่เจย์ของผมบอบบางน่ะ... ขอถอนคำพูด

                    โอ๊ย!!” พี่เจย์ร้องออกมาเบาๆ ทั้งๆที่ฝ่ายที่โดนทำร้ายน่ะมันเป็นผม หรือว่าพี่เจย์โดนทำร้าย...

                    ใครหน้าไหนที่บังอาจทำร้ายหมวยของผมคนนี้!!! ไอ้หมอนั่นมันมีชะตาจะต้องโดนทึ้งหัว!!!!

                    ข... ขอโทษครับ พอดีผมไม่ได้มอง ว่าไงนะไอ้ปากมอม ถึงพี่เจย์ของกูจะตัวเล็กแต่ก็ไม่ได้เตี้ยถึงขนาดที่มึงจะมองไม่เห็นนะเฟ้ย

                    พี่เจย์อัดปากมันไปโลด!!! หมั่นไส้ฟรึ้ย!!!! (แล้วทำไมแกไม่ทำเอง)

                    พี่แจบอม...? ไอ้ปากเสียนั่นเรียกชื่อของพี่เจย์เบาๆ เออ... ชื่อพี่ของกูเพราะเสนาะหูใครๆก็เป็นต้องอยากเรียก แต่... ทำไมมึงถึงรู้จักชื่อนั้นได้ฟระ

                    จ... จุนโฮ ผมหันขวับกลับไปมองพี่เจย์ ว้ากกก ตอนนี้พี่เจย์กำลังอยู่ในอ้อมกอดของไอ้เด็กปากเสียนั่น คืนพี่เจย์ของฉันมานะเฟ้ย

                    พี่เจย์จริงๆเหรอเนี่ย? พี่เจย์ผละร่างของตัวเองออกจากอ้อมกอดของไอ้ปากเสียนั่นแล้วหันกลับไปมองอีกฝ่ายให้ชัดๆ ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ตัวเองคิดไว้หรือไม่ แต่ขอเห้อ... อย่าให้เป็นคนเดียวกันเลยสาธุ

                    จุนโฮ... ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่? และดูท่าว่าคำอธิษฐานของผมจะไม่เป็นผล พี่เจย์ถามไอ้เด็กบ้านั่นกลับไปด้วยถ้อยคำเหมือนจะรู้จักกันดี ทำให้ผมรู้สึกปรี๊ดแตกมากขึ้น

                    ทำไมพี่เจย์ถึงได้ดูเหมือนจะสนิทสนมกับไอ้เด็กหน้าตี๋นี่นักวะ???

                    พี่เจย์น่ะแหล่ะมาทำอะไรที่นี่ ผมบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมจะมาเรียนต่อน่ะ ไอ้เด็กหน้าตี๋ถามกลับ เฮอะ... ดูๆไปไอ้เด็กนี่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดี แค่หน้ามีเค้าเหมือนพี่เรนนิดหน่อยเท่านั้นเอง แถมยังสูง... เอ่อ... สูงในระดับที่พอจะคุยกับพี่เจย์ได้ไม่เหมือนกับเสาไฟฟ้าเคลื่อนที่อย่างผม

                    เหอะ... ไม่เห็นจะมีอะไรดีตรงไหน... สู้ผมไม่ได้... หล่อ... เท่ห์... สมาร์ท...

                    ฉันก็จะมาเรียนที่นี่เหมือนกัน พี่เจย์ตอบ เอ... ทำไมผมถึงมีความรู้สึกแปลกๆพอเห็นพี่เจย์มองไอ้เด็กหน้าตี๋นี่นะ มันเหมือนกับ... ลางร้าย

                    แหม... ไม่เจอกันแปปเดียว... พี่จ้อภาษาเกาหลีคล่องแล้วนะเนี่ย เมื่อก่อนก็เห็นพูดแค่ภาษาอังกฤษตลอดเวลาเลย ไอ้เด็กหน้าตี๋หัวเราะ เห็นแล้วหมั่นไส้... น่าจับมาทึ้งหัวเสียจริงๆ

                    อ่า... ก็นะ... พี่เจย์ตอบพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เอ่อ... เดี๋ยวนะ... นี่ผมฟังไม่ผิดใช่มั้ย แก้มของพี่เจย์ขึ้นเป็นสีชมพูระเรื่อราวกับเจ้าตัวกำลังเขินอาย น่ารักดีอยู่หรอก... แต่คนๆนั้นที่ทำให้พี่เจย์มีท่าทางแบบนั้นมันไม่ใช่ผม

                    ทำไม... ทำไม... ทำไม... อ๊คแคทไม่เข้าใจ???

                    อย่าบอกนะว่า... สเปกพี่เจย์เป็นงี้???

                    แล้วอ๊คแคทคนนี้ล่ะ... เอาอ๊คแคทคนนี้ไปหมกไว้ที่ไหน??

                    เอ่อ... พี่เจย์ครับ เดี๋ยววันนี้ผมมีธุระ เดี๋ยวค่อยโทรคุยกันนะ ไอ้เด็กหน้าตี๋ที่น่าเอามาทำเป็นต้มยำกุ้งที่สุดในโลกในสายตาของผมพูดขึ้นพลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง พี่เจย์พยักหน้ารับเล็กน้อยเหมือนจะเข้าใจ แต่เจ้าตัวกลับ... ทำหน้าเหมือนไม่อยากให้ไปเลยยังไงยังงั้น

                    ทำม้ายยยยยยยยยยยย???

                    เอ่อ... ส่วนคุณอีกคน ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณเป็นใคร แต่ยินดีที่ได้รู้จักนะ ในขณะที่ผมกำลังเกิดอาการสติแตกและอยากจะทึ้งหัวตัวเองเล่นแก้เครียดอยู่นั้น ไอ้หน้าตี๋นั่นก็หันมากล่าวกับผมพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไม่ต้องมาทำเป็นตีซี้เลยนะเอ็ง ฉันไม่ได้อยากรู้จักกับแกเลยสักนิด

                    ผมชื่อลี จุนโฮนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ดี... เดี๋ยวฉันจะเอาชื่อแกไปทำคุณสัย จะเอาไปเขียนไว้บนตัวตุ๊กตาวูดู แล้วหลังจากนั้นจะเอาเข็มมาจิ้มๆๆๆๆให้กระอักเลือดตายกันไปข้าง ไอ้หน้าตี๋ลีจุนโฮ... เดี๋ยวเราจะได้เห็นดีกัน

                    งั้นผมไปก่อนนะครับพี่เจย์ ลีจุนโฮศัตรูหัวใจตัวฉกาจของผมหันกลับไปบอกลาพี่เจย์ที่อายม้วนจนหน้าแทบจะกลายเป็นสีเย็นตาโฟไปหมดอยู่แล้ว แล้วก็อย่าลืม... โทรหาด้วยนะครับ

                    อ๊ากกกกก ขนาดจะไปอยู่แล้วยังจะมาทิ้งระเบิดไว้อีกเรอะ แกเป็นผู้ก่อการร้ายรึยังไงก๊านนนนน

                    อืม... ได้... พี่เจย์ที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนั้นแล้วก็อายม้วนหนักกว่าเดิม จนหน้าเปลี่ยนจากสีเย็นตาโฟมาเป็นสีน้ำมะเขือเทศสดแทน อ๊าคคคค เห็นแล้วของขึ้นโว้ยยยย เดี๋ยวเหอะๆ... ฉันจะแจ้งตำรวจจับแกให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกเป็นครั้งที่สอง เดี๋ยวฉันจะโทรแจ้งผู้กองนิชคุณให้มาที่นี่เดี๋ยวนี้นี่แหล่ะ

                    นี่แทค... ในขณะที่ผมกำลังจะวอหนึ่งวอสองวอสามวอสี่ไปหาผู้กองนิชคุณที่นอนอืดอยู่ที่บ้าน พี่เจย์ก็กล่าวทักผมขึ้นเสียก่อน ผมหันกลับไปมองพี่เจย์ตาขวาง... แต่ก็เปลี่ยนอารมณ์ให้กลับมาเหมือนเดิมแทบจะภายในทันที

                    ผมจะอารมณ์เสียใส่พี่เจย์ไม่ได้เด็ดขาด

                    ครับพี่ ผมตอบรับไปด้วยน้ำเสียงเด็กดี ทั้งๆที่ในคิดอยากจะจับหัวของไอ้เด็กหน้าตี๋มาโขกกับพื้นคอนกรีตแทบแย่อยู่แล้ว

                    นายเคยมี... เอ่อ... ความรักมั่งมั้ย?

    ________________________________________________________________________________

    Talk with Writer :

    ในที่สุดศัตรูหัวใจตัวที่หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นแว้วว วว
    ไม่ใช่ใคร... เรนน้อยลีจุนโฮนั่นเอง!!
    รู้สึกตอนนี้แทคมันจะดูบ้าๆบอๆนะ สงสัยจะสติแตกจากการถูกแย่งคนตัวเองที่ชอบ
    ส่วนคู่คุณด้ง ก็หวานกันต่อไปอ่ะนะ ^^

    ในที่สุดเกรดของไรเตอร์ก็ออกแล้วเด้อ!!! ดีใจมากๆรุย ได้คะแนนดีกว่าเดิมตั้งเยอะ
    ลืมบอกไป ตอนนี้ไรเตอร์เรียนอยู่ ม.2 นะคะ ^^

    ขอคอมเม้นด้วยเด้ออ รออยู่นะคะ อิอิ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×