ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic 2PM TJ & KD & CH] Hyung, Can we be more than friend?

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 ฉันอาจจะ... ยอมรับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 491
      3
      11 ต.ค. 53

    Chapter 4 ฉันอาจจะ... ยอมรับ

                    ผมมาที่นี่... เพื่อเรียนรู้...

                    ตอนที่อยู่อเมริกา... อยู่ดีๆผมก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าจะกลับมาที่เกาหลี ประเทศบ้านเกิด ด้วยความคิดที่ว่า... ทั้งๆที่เราเป็นคนเกาหลีแท้ๆ ทำไมสกิลภาษาเรามันห่วยอย่างงี้วะ? ไม่ได้ละ... ต้องรีบกลับมาเรียนรู้ที่เกาหลี ก็เลยโทรเช็กคนรู้จักที่เกาหลี ถามว่ามีห้องพักพอจะให้เช่าบ้างมั้ย? แต่ไม่เห็นจะมีใครปฏิบัติตัวเป็นเพื่อนที่ดีต่อผมผู้แสนจะน่ารักเลย (?) ไม่ง้อพวกเมิงก็ได้วะ... โทรไปหาไอ้คุณดีกว่า... นิชคุณเป็นรุ่นน้องคนไทยที่มาอยู่ที่เกาหลี ผมซี้ปึ้กกับมันมากถึงมันจะกวนพระบาทไปหน่อยก็เหอะ พอโทรไปบอก... มันก็ทำท่าดี๊ด๊าใหญ่ยังกับปลากระดี่ได้น้ำ บอกว่ามาพักกับมันก็ได้ แกช่างเป็นน้องกตัญญูจริงๆไอ้น้องเลิฟ... ผมเลยละทิ้งงาน B-Boy มากลางคันแล้วจัดกระเป๋าบินลัดฟ้ากลับมาเกาหลีในทันที

                    พอมาถึงสนามบินกรุงโซลเท่านั้นแหล่ะ... คนละลานตาไปหมด แต่ไม่เป็นไรเพราะไอ้นิชคุณมักจะมีรัศมีความหล่อพุ่งออกมาจากตัวทำให้หาได้ไม่ยากนัก (โดยเฉพาะในที่มืด) รอไปสักพัก... ประมาณ 10 นาทีกว่าๆ ก็ชักเริ่มเมื่อย เดินไปหาที่นั่งพักสบายๆ พอผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง... ชักจะสงสัย... ทำไมช้านักวะ? แต่ก็คิดว่าอีกไม่นานมันก็คงจะตรงดิ่งมาหาเอง พอผ่านไปชั่วโมงนิดๆ ก็เริ่มหงุดหงิด... มึงไม่มาใช่มั้ย... กูโทรไปเร่งเองกะด้าย... พอโทรไป... มันก็บอกว่าจะให้เพื่อนไปรับ ทั้งๆที่มันนอนแช่อิ่มอยู่ที่บ้าน... ยังคุยไม่จบก็มีคนมาทัก... พอดีกับตอนที่ไอ้น้องชั่วนั่นวางสายพอดี...

                    คนที่ทักเป็นผู้ชายตัวสูง ผิวคล้ำ ฟันเยอะ หน้าตาเหมือนแมว... ท่าทางดูโง่ๆ ไม่น่าจะเก่งภาษาอังกฤษ... มาบอกว่าเป็นเพื่อนของไอ้คุณอย่างโง้นอย่างงี้ เอาเหอะ... เรื่องนี้รู้อยู่แล้ว เจอไอ้แทคครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาเลยในทันที... ผมเลยยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง บอกว่าไม่อยากไปกับคนแปลกหน้า คิดว่าพอไอ้เหมียวนี่ถอดใจกลับไปแล้วก็ค่อยบีบบังคับให้ไอ้คุณมารับ... แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด... ไอ้แทคบ้าหน้าเหมือนแมวนั่นงัดไม้เด็ดออกมาใช้... เป็นเชิงว่า “ไม่มาใช่มั้ย? งั้นกูแบกมึงไปเอง” ไอ้บ้านั่นมันอุ้มผม... น่าเกลียดที่สุด... จากที่ไม่ค่อยถูกชะตา... กลายเป็นว่าเกลียดขี้หน้าซะงั้น... อย่าหวังเลยว่าชาตินี้ฉันจะชอบแกไอ้อ๊ค แทคยอน!!

                    ตอนแรกนึกว่าไอ้แทคนี่มันจะโง่ซะอีก... แต่กลับพ่นภาษาอังกฤษน้ำไหลไฟดับชนิดว่าขนาดผมยังอึ้ง ต่อล้อต่อเถียงกับผมได้อย่างสบาย พอไปถามไอ้คุณ... มันก็บอกว่าเห็นหน้าโง่ๆอย่างงี้ล่ะก็นะ... จริงๆมันฉลาดมากพอๆกับอันดับหนึ่งของห้องเลย (ไอ้คุณนั่นเอง...) แต่บางทีผลคะแนนออกมาดูทุเรศทุรังไม่น่าชื่นชมนัก... เพราะอาจารย์ทั้งหลายหมั่นไส้มัน ด้วยความที่มันสัปหงกคาโต๊ะเรียนได้ทุกชั่วโมง พออาจารย์สั่งให้เปิดหนังสือปุ๊ป... ก็ตั้งป้อมเตรียมหลับทันที ช่วงแรกๆก็โดนเปิ๊ดกะโหลกเป็นว่าเล่น แต่หลังๆนี่ท่าทางอาจารย์จะเบื่อแล้วเลยใช้การหักคะแนนแทน... ยังไงก็แล้วแต่... คะแนนสอบก็ออกมาดีทุกทีสิน่า... แถมยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนที่อยากเก่งโดยไม่ต้องเรียนอีกต่างหาก (อันนี้ยอมรับไม่ได้ว่ะ)

                    “Good morning, Jay hyung (พี่เจย์... อรุณสวัสดิ์ครับ)” พอเดินออกมาจากห้อง... ก็เจอไอ้หน้าแมวนั่งหน้าแสลนอยู่หน้าทีวี วันนี้สงสัยจะซวยทั้งวันแน่เลย โอ้... ไม่นะ

                    “Good morning… (เออ... อรุณสวัสดิ์)” มันเป็นธรรมเนียมน่ะครับ... ถึงต้องจำใจตอบไป ผมกวาดตามองรอบห้องนั่งเล่น... ไม่อยู่... ไอ้น้องบ้านั่นมันหายหัวไปไหนอีกล่ะ?

                    “Khun’s going out with Wooyoung (คุณออกไปกับอูยองน่ะครับ)” แทคพูดขึ้นอย่างรู้ทันว่าผมหาอะไร แต่ฉันไม่ได้ถามแกเฟ้ยไอ้แมว...

                    ผมทำเป็นไม่สนใจ... พักนี้ไอ้คุณมันออกไปข้างนอกบ่อยมาก แถมยังออกไปกับเด็กที่ชื่ออูยองทุกครั้งเลยด้วย ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเด็กคนนั้นหรอกนะ... ถึงจะคุยกันแค่ไม่กี่ครั้งก็รู้ว่าอูยองน่ะเป็นคนดี แถมน่ารักด้วย พอยิ้มแล้วแก้มป่อง... ดูน่ารักดี (มิน่าไอ้คุณถึงติดแจ)

                    ผมเดินเข้าห้องครัวไปเพื่อหาอาหารเช้ากิน... เปิดตู้เย็นออกอย่างเซ็งๆ ก็เจอวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารอยู่ซะเยอะ... สงสัยไว้ทำกินตอนเย็น... ผมเลยเลือกที่จะหยิบขนมปังมาหนึ่งแผ่น โยนใส่เครื่องปิ้งไปซะ แล้วหันไปหยิบไข่ออกมาตอกใส่กระทะ... ไม่นานก็ได้ขนมปังปิ้งหนึ่งแผ่นกับไข่ดาว นี่แหล่ะอาหารเช้าง่ายๆแบบอเมริกัน นี่ถ้าเกิดมีแฮมกับเบค่อนร้อนๆล่ะก็เพอร์เฟ็ค

                    พอจัดการกับอาหารเช้าเสร็จ... ผมก็เดินออกมาเจอกับแทคพอดี เขาหันมามองผมเล็กน้อย... วันนี้มันแต่งตัวดูดีกว่าปกติแฮะ เหมือนกับตอนที่ไปรับผมครั้งแรก... หรือว่ามันจะนัดสาวไว้?

                    “I will go to friend’s party. I’ll come back maybe in the evening (ผมจะไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อน อาจจะกลับมาตอนเย็นๆ)” ใครถามแกกัน?

                    เอ๊ะ... ออกไปข้างนอก... แสดงว่าวันนี้ผมก็ได้อยู่คนเดียวน่ะสิ...

                    “If you have to stay here alone for a while, Are you OK? (ถ้าพี่ต้องอยู่ที่นี่คนเดียวสักพัก... แล้วพี่จะโอเคมั้ยครับ?)”

                    “Very good, bye (ดีมากเลยล่ะ... บาย)” ผมส่งยิ้มให้... แล้วก็เดินไปนั่งหน้าจอโทรทัศน์ต่ออย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมอง... เห็นไอ้แมวทำหน้าบูดด้วยอ่ะ สะใจชะมัด

                    ในที่สุดผมก็ได้อยู่คนเดียวในห้องอย่างที่ต้องการ ตอนแรกก็รู้สึกสุขกายสบายใจอยู่หรอก... แต่อยู่ไปนานๆก็ชักจะรู้สึกแปลกๆ ดูทีวีก็ไม่ได้อะไรในเมื่อผมฟังภาษเกาหลีไม่ค่อยออก (พูดได้บางคำ) เริ่มเหงาขึ้นมาบ้างแล้ว... จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนที่ขาดความอบอุ่นไม่ได้หรอกนะครับ... อันที่จริงผมชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่า... แต่พอมาอยู่ในที่ๆไม่คุ้นเคยก็เลยรู้สึกแปลกๆ...

                    นี่ก็ผ่านไปได้หลายชั่วโมงแล้วหลังจากที่ไอ้แมวออกจากบ้านไป... ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย? ตายล่ะหว่า.. ยังไม่ได้กินอะไรเลย ผมทรุดลงนั่งที่เก้าอี้พลางวางแผนไปด้วยว่าเที่ยงนี้จะกินอะไรดี

                    อยากกินแฮมเบอร์เกอร์... นี่เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว แต่ก็ต้องจำใจสลัดมันทิ้งไปเพราะไม่มีความ สามารถพอ แต่ยังไงก็เปลี่ยนใจไม่ได้อ่ะ... อยากกิน...

                    งั้นก็... ไปกินข้างนอกสิ...

                    ใช่แล้ว... เราก็พอจะพูดภาษาเกาหลีได้นิดหน่อย กะอีแค่สั่งอาหารจะไปมีอะไรมาก งั้นไปเลยดีกว่า...

                    ผมเลยเข้าไปอาบน้ำอาบท่าแล้วออกจากหอพักไป... ผมเลือกที่จะเดินในบริเวณใกล้ๆหอพักไว้เพื่อจะได้ไม่หลงทางจนกู่ไม่กลับ แต่ถ้าหลงทางจริงๆค่อยโทรให้ไอ้คุณมารับ หลังจากหาข้าวเที่ยงกินเสร็จก็ตั้งใจจะเดินกลับหอพักเลย

                    แต่ก็มีเหตุการณ์ผิดคาด.......

                    “เฮ้!! น้องชาย” เสียงห้าวๆดังขึ้นเบื้องหลัง ผมหันกลับไปมองด้วยความหงุดหงิด... ไอ้โม่งที่ไหนเรียกกูวะ??

                    แล้วก็เห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ทำท่าทางเหมือนกับแก๊งเด็กอันธพาล... ที่อเมริกามีอย่างงี้เยอะผมเลยดูออก ผมก็เลยทำเป็นเหมือนกับไม่สนใจทั้งๆที่ใจก็หวั่นอยู่ว่ามันจะตามมากระทืบ แต่ยังไงก็เอาตัวให้รอดก่อน...

                    “น้องชาย... พี่เรียกไม่ได้ยินรึไงวะ?” ท่อนแขนของผมถูกดึงไว้ในขณะที่กำลังจะก้าวขาเพื่อเดินหนี ทำให้ผมถึงกับเซเล็กน้อยแต่ก็พยุงตัวได้ทันทำให้ไม่ล้มลงไป ผมหันกลับไปมองหน้าเจ้าตัวปัญหา... แต่พอเห็นใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องแล้วมัน.......

                    “จะทำอะไร?” นี่ก็เป็นคำที่ผมพอจะพูดได้เพื่อใช้เวลามีคนมาหาเรื่อง... อย่างเช่นตอนนี้ไง

                    “แหม... น้องชายนี่น่ารักดีนะ... บังเอิญว่าพี่ชอบของแปลกซะด้วยสิ” เฮ้ย... มะกี้เมิงพูดอะไรนะ?? น่ารักเรอะ? แล้วที่ว่าชอบของแปลกเนี่ยมัน.....

                    แย่แล้ว... ต้องรีบหนี...

                    ผมสะบัดแขนเพื่อให้มือของเจ้าหมอนั่นหลุดออกไป แต่มือมันเกาะติดแน่นชะมัดยังกับหนวดของปลาหมึก ซวยล่ะสิ... จะทำไงดีล่ะวะเนี่ย? บ้าที่สุดเลย... ทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย??

                    “ปล่อยนะ” ผมรู้ครับว่าถึงจะพูดอะไรไปคนอย่างหมอนี่ก็คงไม่ฟัง แต่ก็ยังคงงี่เง่าพูดออกไปอย่างไร้จุดหมาย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงปรากฏบนใบหน้าที่หาดีไม่เจอของมัน... ยิ่งทำให้ผมใจเสียเข้าไปใหญ่ สงบสติอารมณ์ไว้เจย์... นายต้องรอด... นายจะไม่เสียความบริสุทธ์ให้ไอ้พวกนี้แน่นอน... ไม่มีวัน...

                    แต่...ก็ชักไม่แน่ใจแล้วดิ...

                    ผมถูกดันให้ล้มลงในขณะที่กำลังยื้อยุดกันอยู่พอดี... ทำให้ก้นผมกระแทกเข้าที่พื้นอย่างจัง แต่ไม่ใช่แค่ก้นนะที่เจ็บ... ขางี้ปวดไปทั้งโคนเลย

                    “เฮ้ย... พวกมึงจับไว้ดิ๊” เจ้าคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น... แล้วไอ้สองตัวที่อยู่ข้างๆนั้นก็ช่างทำตัวเป็นลูกน้องที่ภักดีเสียเหลือเกิน ร่างของผมถูกฉุดให้ลุกขึ้นโดยไม่ไยดี แขนทั้งสองข้างของผมถูกจับล็อกไว้ด้วยแขนของลูกน้องสองคน พยายามจะสะบัดให้หลุดจากการจับกุมยังไงก็ไม่หลุดซะที...

                    Shit!!! ปล่อยนะ!!” ผมร้องตะโกน ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจดีว่าถึงทำไปก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น

                    ในตอนที่สายตาของผมไปสบเข้ากับเจ้าหมอนั่น... ฝ่ามือหนาและแข็งแรงนั้นก็ถูกยื่นเข้ามาจับที่ใบหน้าของผมอย่างรุนแรงจนรู้สึกปวดแปลบ ใบหน้าของผมบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแต่สายตาก็ยังแสดงถึงความไม่ยอมแพ้ เจ้าหมอนั่นแสยะยิ้มชั่วร้าย... ใบหน้าที่หาดีไม่เจอของมันค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกใจเสียขึ้นมาทันที

                    ผมพยายามหันหน้าหนี... แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะฝ่ามือแข็งแกร่งนั้นจับไว้แน่น ใบหน้าของผมกับมันห่างกันไม่ถึงคืบ เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีทางรอดแล้ว... ผมจึงหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว

                    ตอนนี้ผมคิดถึงนิชคุณขึ้นมาจับใจ... และถึงไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่นัก... แต่ผมก็คิดถึงเจ้าแมวแทคนั่นด้วย ผมไม่เกี่ยงแล้วว่าจะเป็นคนที่เกลียดขี้หน้ามากขนาดไหน... แค่มาช่วยผมก็เป็นพอแล้ว... ใครก็ได้... ใครก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ... ช่วยด้วย... ช่วยฉันที...

                    แทค... ฉันรู้ว่าฉันทำตัวไม่ดีกับนาย... แต่ได้โปรดช่วยพี่ด้วยเถอะ...

                    “พี่เจย์!!!” เสียงเรียกชื่อดังลั่นนั้นทำให้ผมกล้าที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง... ตอนนี้เจ้าหมอนั่นเอาใบหน้าทุเรศลูกตาของมันออกไปแล้ว แต่ผมก็ยังถูกลูกน้องอีกสองคนจับตัวอยู่ สายตาของทุกคนหันไปในทางเดียวกัน... รวมถึงผมด้วย

                    แทคยืนอยู่ตรงนั้น..........

                    ผมกัดฟันกรอด... ใช้จังหวะนี้แหล่ะที่เจ้าหมอนั่นไม่ทันตั้งตัว ผมยกขาขึ้นถีบมันเข้าให้ด้วยกำลังทั้งหมดที่ผมมี... เป็นไปดั่งคาด... ร่างของเจ้าหมอนั่นเซจนล้มไป... แต่ผลของมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวผมเองด้วยเพราะเจ้าลูกน้องสองคนนั้นใช่มือข้างที่เหลืออยู่ชกหน้าผมเข้าอย่างจัง

                    “พี่เจย์!!!!

                    “ไอ้เวร!!!

                    เสียงของแทคและเจ้าหน้าปลาจวดนั้นดังขึ้นพร้อมกัน... พร้อมกับที่กำปั้นใหญ่ๆนั้นพุ่งเข้ามาชกใบหน้าผมเข้าเต็มๆ แต่ในขณะเดียวกันแทคก็พุ่งเข้ามาชกหน้าของเจ้าหมอนั่นด้วยจนล้มตึงลงไปอีกรอบ... ไม่รู้ด้วยอารมณ์โกรธหรืออะไร... แทคก็ไม่รอช้าที่จะสอยเจ้าลูกน้องอีกสองคนที่จับตัวผมไว้ด้วย

                    ผมที่หลุดจากพันธนาการแล้วก็รีบวิ่งไปหลบอยู่หลังแทคทันที... ตอนนี้ทั้งแขนทั้งหน้านั้นปวดระบมไปหมดเลย แต่ผมก็พยายามซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ไม่ให้อีกคนรู้

                    “พี่ไม่เป็นไรนะครับ? Are you OK??” แทคหันขวับกลับมาถามผมทันทีด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วง... ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ แค่ผมโดนต่อยไม่กี่ครั้งนี่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนไปด้วยเลยเหรอ?

                    “It’s OK” ผมตอบกลับไปทั้งๆที่จริงๆแล้วยังรู้สึกเจ็บไม่หาย ฝ่ามือผมยังคงกุมไว้ที่แก้มที่แดงช้ำจากการถูกต่อยไปเมื้อกี้ ไม่ใช่แค่ข้างเดียวนะ... ทั้งสองข้างเลย

                    แทคพาผมเดินกลับบ้าน... ตลอดทางเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย ทั้งๆที่ผมเองมีเรื่องที่อยากถามตั้งหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องที่บอกว่าจะไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อน แล้วยังมีเรื่องที่มาช่วยได้ยังไงอีก... ส่วนแทคก็พยายามจะถามผมอยู่เรื่อยๆว่าเจ็บมั้ย ผมไม่อยากบอกความจริงหรอกกลัวเสียฟอร์ม ถึงจะมาช่วยก็ใช่ว่าจะทำให้เลิกเกลียดขี้หน้าหรอกนะ

                    “โอ็ย!” ผมร้องขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่คนตรงหน้าจะได้ยินแล้วรีบร้อนหันกลับมาดูอาการ

                    “Your left leg is injured (ขาซ้ายของพี่เป็นแผล)” ผมก้มลงมองที่ขาของตัวเองตามที่แทคบอก จริงๆด้วย... ขาผมมีแผลถลอกนิดหน่อย สงสัยตอนที่ถูกผลักล่ะมั้ง

                    “It’s OK. Don’t worry (ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปใส่ใจเลยน่า)” ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป... ทั้งๆที่เจ็บจนใจจะขาด

                    แต่แทคไม่ได้ทำตามที่ผมว่า... เขาหันหลังแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าผม ซึ่งผมมองการกระทำนั้นอย่างงงๆ

                    “Get up on my back (ขี่หลังผมสิครับ)”

                    “No…. (ไม่เอา)”

                    “Please (เถอะนะครับ...)” ผมลังเลใจอยู่ชั่วครู่... แต่ไม่นานก็จำใจยอมทำตามแต่โดยดีเพราะขามันทำท่าเหมือนจะไม่ไหวแล้ว ผมขึ้นขี่หลังแทคอย่างไม่เต็มใจ... แต่ก็สบายดีแฮะ

                    ตอนแรกผมก็ทำท่าเหมือนจะรังเกียจอยู่หรอก... การที่ต้องมาใกล้ชิดกับคนที่เราไม่ค่อยชอบนี่มันก็แปลกๆ แต่เมื่ออยู่แบบนี้ไปนานๆก็รู้สึกดีเหมือนกัน... คล้ายกับความสบายใจ... ผมซบใบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้าง ซึ่งคนที่แบกผมอยู่ก็ทำท่าเหมือนตกใจน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร... อุ่นดีจัง... ทำไมถึงอุ่นแบบนี้นะ...

                    การที่เราไม่ชอบเขา... เพราะแค่อคติในใจรึเปล่านะ?... อันที่จริงเราอาจจะไม่เกลียดเขาก็ได้นี่.....

     

                    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงที่คล้ายกับของแข็งกระทบกัน และกลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาจากในครัว ผมสูดกลิ่นนั้นเข้าไปเสียเต็มปอด... คาดว่าเจ้าแทคคงกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ว่าแต่ฝีมือของมันจะเชื่อได้รึเปล่านะ ผมค่อยๆลุกขึ้นมา... พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนโซฟา แถมมีหมอนกับผ้าห่มซะเสร็จสรรพ ไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง... ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

                    ฝีมือเจ้านั่นแหงๆ........

                    ผมก้มลงมองบาดแผลบนขาตัวเอง... มีพลาสเตอร์แปะอยู่ เจ้าหมอนั่นคงปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แล้วนิดหน่อย เพราะฉะนั้นตอนนี้เลยไม่ค่อยรู้สึกเจ็บซักเท่าไหร่ หมอนั่นก็พอจะมีส่วนดีบ้างนี่นา

                    พอลุกขึ้นมาแล้วก็มุ่งหน้าเข้าไปในห้องครัวทันที... เห็นแทคกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอะไรสักอย่างกับกระทะอยู่ตรงหน้า (น่าจะกำลังทำอาหารอะไรสักอย่างอยู่ล่ะมั้ง) ผมไม่ได้ทักอะไรเขา... ก็แค่เดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างเงียบๆ

                    แทคก็ไม่ได้ทักอะไรผมเช่นกัน รู้สึกน้อยใจหน่อยๆเหมือนกันะ... แต่ความรู้สึกนั้นก็หายไปในทันทีเมื่ออาหารมาวางอยู่ตรงหน้า

                    “Are you okay now? (ตอนนี้ดีขึ้นรึยังล่ะครับ)” ตอนที่ผมกำลังจะตักข้าวผัดใส่ปากพอดีแทคก็เริ่มต้นบทสนทนา ผมก็แค่พยักหน้าน้อยๆแล้วจัดการกับข้าวผัดในจานต่อ

                    “Taec…. (แทค)” ผมเรียกเบาๆ ไม่ค่อยจะกล้าเรียกเสียงดังนักในตอนนี้... แต่คนที่ถูกเรียกก็ได้ยินชัดแจ่มแจ้ง

                    “Yes, hyung?? (ครับพี่เจย์??)”

                    “Thank you (ขอบคุณนะ...)” ผมเอ่ยต่อด้วยเสียงที่เบามาก... ผมรู้ว่าตั้งแต่มาที่นี่ก็ทำตัวแย่ๆใส่เขาหลายครั้ง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา เลยไม่ได้เห็นสีหน้าของเขาในตอนนั้น

                    “You’re welcome… (ไม่เป็นไรครับ)” จากนั้นเราทั้งสองก็ทานข้าวเย็นต่อไป... โดยที่ไม่มีใครปริปากพูดอะไรขึ้นมาอีก...

                    ฉันอาจจะยอมรับนายได้บ้างแล้วล่ะ... อ๊ค แทคยอน......

    ________________________________________________________________________________

    Talk with Writer :

    รู้สึกว่าตอนนี้เจย์จะใจอ่อนง่ายไปไหม? (แต่ก็นะ... ถ้าเป็นเรามีคนมาทำดีด้วยขนาดนี้ใครจะไม่ยอมใจอ่อนกันล่ะ)
    สำหรับตัวอักษรของพาร์นี้... เอิ่ม... มาแบบเขียวเรืองแสงเลยทีเดียว แสบตาสุดๆ
    ส่วนตัวอักษรของพาร์ทื่แล้วเป็นสีชมพู ดูหวานแหววเข้ากันกับคู่คุณด้งดี อิอิ ^^
    พาร์ทต่อไปนี้เรื่องอาจจะยุ่งขึ้น (เล็กน้อย) นะคะ คอยติดตามกันเด้อออ
    รอเม้นอยู่ ฮ่าๆๆๆ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×