ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic 2PM] ตะวัน ฤ จันทรา The Battle Of Werewolf And Vampire

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 New neighbor

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 53


    Chapter 1 New neighbor

                    เฮือก!!!!

                    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงและถี่ราวกับจะกระดอนออกมา กวาดสายตามองไปรอบพื้นที่... นี่ก็ห้องของเรานี่? แสดงว่า... เมื่อกี้คือฝันงั้นสินะ?

                    เฮ่อ...

                    ผมชื่อปาร์ค เจย์บอม เป็นเด็กมัธยมปลายแสนจะธรรมดา แต่เรื่องก็มีอยู่ว่าผมย้ายมาอยู่ที่บ้านใหม่นี้เมื่อสองเดือนที่แล้ว ซึ่งผมก็รู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยถูกชะตากับไอ้บ้านหลังนี้ซักเท่าไหร่ เพราะมันทำให้ผมฝันร้ายอยู่ทุกวี่ทุกวัน ฝันบ้าอะไรไม่รู้... ฝันถึงแต่หมาป่า ฝันติดต่อกันอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ยังกับจะมีหมาป่ามาขย้ำจริงๆซะงั้นอ่ะ โธ่... ทั้งๆที่อยากจะมีชีวิตแสนสุขอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่กลับพังทลายสิ้นเพราะหมาป่าที่ฝันถึงอยู่ทุกคืน ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

                    โอ๊ยยยยยผมกุมหัวที่เต้นตุ้บๆด้วยความปวด แล้วก็รู้สึกตัวว่ามีคนๆหนึ่งมายืนอยู่ตรงหัวเตียง

                    ครับ... พ่อผมเรียก ทำไมถึงไม่รู้ตัวเลยนะว่ามีคนเข้ามา? พ่อมองผมด้วยแววตาอ่อนโยน แฝงด้วยความห่วงไยเมื่อเห็นลูกชายคนเดียวที่ดิ้นกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงทั้งๆที่ไม่ได้สติ

                    ลูกเป็นอะไรรึเปล่า?” พ่อเอ่ยถามแล้วลูบศรีษะผมเบาๆ พ่อเห็นลูกดิ้นอย่างนี้มาหลายคืนแล้วนะ

                    ไม่มีอะไรครับ... ก็แค่...” ผมกล่าวตอบ ก็แค่... ฝันร้าย

                    ฝันร้ายเท่านั้นเอง...

                    มีอะไรก็ไปเรียกพ่อแล้วกันนะ...” ผู้เป็นพ่อเอื้อมมือมาคว้าร่างของผมไว้ แล้วดึงให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน มือก็ลูบศรีษะของผมไปมาเป็นการปลอบประโลม ผมซบอกกว้างของพ่อด้วยความโล่งใจ นอนต่อเถอะ... พ่อรักลูกนะ

                    ครับ... ผมก็รักพ่อครับผมเอนศรีษะลงบนหมอนนุ่ม ยิ้มให้พ่อเป็นการลา

                    ฝันดีนะเจย์พ่อกล่าวเป็นคำสุดท้ายแล้วเดินออกจากห้องไป สำหรับผมมันคล้ายจะเป็นคำอวยพร

                    ผมจำใจหลับตาลงไปอีกครั้ง...

     

                    ที่รักจ๋า!!!” เสียงเรียกดังๆนั้นทำให้ผมหันกลับไปหาโดยอัฒโนมัติ ไอ้เปรตที่ไหนแมร่งทักตรูอย่างนี้วะ??? แล้วก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงผู้ซึ้งเป็นรุ่นน้องของผมวิ่งมาหาพลางยกมือขึ้นโบกทักทาย เฮ้ยๆ แกกับฉันห่างกันตั้งหลายเมตร นี่แกหน้าด้านหน้าทนไม่นึกอายมั่งรึไงฟะ??? ถึงแกจะไม่อายแต่ฉันน่ะอายนะโว้ยไอ้เด็กเพี้ยน แว้กส์ แล้วดันมาทักตรูอีก เห็นมั้ยล่ะว่าเขามองตรงมาที่ฉันกันเป็นตาเดียว โว้ยยย หมวยเครียดสิครับ

                    ใครที่รักแกฟะไอ้เพี้ยน!!!” ผมตวาดลั่นอย่างหงุดหงิด ถึงตรูจะหน้าฉาบด้วยปูนซีเมนต์มาหนาขนาดไหนแต่ก็อายเป็นนะโว้ยไอ้คุณเมิง

                    ก็จะไม่ให้อายได้ยังไงล่ะครับ... เจ้าบ้านั่นมันเป็นถึงดาวดังของโรงเรียน เป็นสุดหล่อที่ใครๆก็หมายปอง แถมมันก็ไม่ใช่เสป็คผมด้วยเพราะว่ามันเป็นตัวผู้!!! ก็แหงสิครับ... ถึงผมจะหน้าหมวย (แถมยังหน้าเหวี่ยง) ขนาดไหนแต่ผมก็ยังมีจิตใต้สำนึกแบบผู้ชายทั้งแท่งนะครับ

                    ก็ตะเองไงล่า... ที่รักจ๋าเจ้ารุ่นน้องตัวแสบวิ่งเข้ามาเกาะแขนผม แล้วใช้ศรีษะของมันถูๆที่ไหล่ผม จริงๆมันก็น่าเอ็นดูอยู่หรอกนะ แต่ เฮ้ยๆ ฉันไม่ได้รสนิยมอย่างงี้นะเว้ย ดูสิฟะคนมองใหญ่แล้ว

                    ไอ้บ้านิชคุณ... ออกไปเดี๋ยวนี้นะเฟ้ยผมตวาดแล้วพยายามแงะมันออกมาจากตัวผม ให้ตายเถอะจอร์จ... นี่มันคนหรือปลาหมึกวะเนี่ย

                    พี่เจย์อ่ะ... ล้อเล่นปิ๊ดเดียวทำเป็นโมโหไปได้ไอ้คุณมันทำแก้มป่องอย่างงอนๆ เออๆ รู้ว่าแกอ่ะน่ารัก แต่มุขนี้มันใช้กับเพศเดียวกันไม่ได้เฟ้ย

                    ความผิดแกเองอ่ะแหล่ะไอ้คุณ

                    อ้าว... แล้วทำไมพี่ถึงตาดำคล้ำอย่างนี้เนี่ย ไอ้บ้าที่ไหนมันมาทำให้ที่รักของผมเป็นอย่างนี้อภัยให้ไม่ได้ไอ้คุณมันโวยวายทำท่าเหมือนจะไปหาเรื่องใครสักคน ผมตบกบาลมันไปหนึ่งทีเพื่อให้หายเบลอ

                    ฉันแค่อดนอนโว้ย เมื่อคืนนอนไม่หลับเลยว่ะ

                    ทำไมอ่ะพี่? หรือพี่คิดถึงผมจนทนไม่ไหว?”

                    อยากโดนตบกบาลอีกเรอะไอ้บ้าผมส่งสายตาอำมหิตไปให้มัน เป็นเชิงเตือนว่าอย่ามาวอน ฉันแค่ฝันร้าย

                    ฝันร้าย?” ไอ้คุณทำหน้างงๆ พี่ฝันเรื่องอะไรอ่ะ?”

                    มันแปลกหน่อยน่ะ ฉันฝันเรื่อง... หมาป่า

                    หมาป่า?” พอพูดไปเท่านั้นแหล่ะ เจ้านิชคุณมันก็ทำตาโต ทั้งๆที่ปกติมันก็ตาโตอยู่แล้ว มันไม่ได้ทำเพื่อให้ดูน่ารัก... พอมันทำแล้วเหมือนกับบรรยากาศมันเปลี่ยนไปเป็นอีกเรื่องเลย ผมไม่เคยเห็นมันทำหน้าน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย

                    คุณๆ ไอ้คุณ แกเป็นอะไรเปล่าเนี่ย?” ผมกล่าวถามมันอย่างห่วงๆ นี่คงไม่ใช่มีผีมาเข้าสิงหรอกนะ

                    เปล่าพี่ไอ้คุณฉีกยิ้มกว้างเป็นการตอบ บรรยากาศกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมถอนหายใจออกอย่างโล่งอก

                    งั้นวันนี้ฉันไปค้างบ้านแกได้มั้ย?” ผมถาม ด้วยความคิดที่ว่าเปลี่ยนที่นอนแล้วจะสบายขึ้น

                    อย่าเลยน่าพี่เวรกรรม... ทำไมแกปฏิเสธฉันอย่างงี้วะไอ้น้องรัก แล้วพี่จะอยู่ยังไงกันล่ะเนี่ย เฮ้ยๆ ไม่ใช่ๆ

                    ทำไมว้า แกอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ?”

                    วันนี้ญาติผมมาอ่ะพี่ เดี๋ยวคนอื่นเจอพี่จะทนไม่ไหวอ๋อ... นึกว่าอะไร ที่แท้ญาติมานี่เอง เดี๋ยวนะ? แล้วที่ว่าทนไม่ไหวนี่มันอะไร???

                    เดี๋ยวนะไอ้คุณ... เมื่อกี้แกว่า...”

                    โอ้ ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ไปก่อนนะครับพี่ บายชิส์ ยังพูดไม่ทันจบประโยคเลยไอ้บ้า อย่ามาทิ้งคำพูดกำกวมให้ฉันคิดมากสิฟะ ทนไม่ไหวอะไรกันน่ะ???

                    เฮ่อ... จะอะไรก็ช่างเถอะ นี่แปลว่า... ฉันต้องทนกับฝันร้ายนั่นต่อไปใช่มั้ย?

     

                    ผมกลับบ้านมาด้วยสภาพอิดโรยเหมือนคนอดนอน ก็เมื่อคืนเล่นไม่ยอมนอนเลยนี่นา กลัวว่าฝันร้ายจะตามมาหลอกหลอน แถมยังตื่นมาเจออาจารย์ที่รักทั้งหลายตั้งแต่เช้า... ก็นะ... เก้าวิชาต่อวัน... จะไม่ให้ง่วงได้ยังไงล่ะครับ แต่ถึงจะง่วงยังไงผมก็หลับไม่ได้ เพราะผมกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนอยู่ แถมใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วด้วย โอ๊ย... อยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด

                    อ้าว... ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเหรอ?” เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปก็ไม่ได้ยินเสียงใครเลย สงสัยจะไม่อยู่จริงๆด้วยนะนี่ เฮ้อ... น่าเบื่อจริงๆ การบ้านเพียบเลยอ่ะ สงสัยวันนี้ต้องโต้รุ่งกันยันสว่างให้หลับไม่ลงเลย เอางั้นดีมั้ย???

                    แล้วตอนที่ผมกำลังบ่นกระปอดกระแปดตามประสาเด็กขี้หงุดหงิด... ผมก็ได้ยินเสียงดังจากข้างบ้าน เหมือนกับเป็นเสียงคนกำลังขนย้ายข้าวของ เอ... จะว่าไปบ้านข้างๆผมนี่ไม่มีคนอยู่ไม่ใช่เหรอ? จำได้ว่าเจ้าของบ้านคนล่าสุดย้ายไปอเมริกาตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วแล้วนี่นา หรือว่าจะมีคนย้ายเข้ามาใหม่?

                    ผมมองข้ามรั้วที่กั้นระหว่างบ้านผมกับบ้านข้างๆ รั้วสูงจิ๊บโผงเลยอ่ะ... นี่ผมไม่ได้เตี้ยนะครับ รั้วมันสูงเกินไปต่างหากล่ะ จริงๆนะครับ เชื่อกันหน่อยเซ่ ที่หน้าประตูบ้านข้างๆมีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งยืนไขประตูบ้านอยู่ ผมว่าเขาน่าจะอายุประมาณม.ปลายนะ แต่ทำไมแมร่งสูงเกินเด็กอย่างงี้วะ? แถมยังทะมึนอีกต่างหาก ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ช่างเหอะ... เข้าบ้านดีกว่าวุ้ย

                    เฮ้... เดี๋ยว... นายคนบ้านข้างๆน่ะเสียงเรียกดังขึ้นน่ารำคาญรูหู ผมหันไปมองด้วยความสงสัย อ้าว... ไอ้มืดมันเรียกผมทำไมนะ?

                    อะไร?”

                    หวัดดี ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ไอ้มืดโบกมือทักทายพร้อมกับฉีกยิ้มโชว์ฟันครบ 32 ซี่ เหอะๆ หน้าตามันฮาดีว่ะ เหมือนแมวดี

                    ดูก็รู้... ฉันก็เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อสามเดือนที่แล้วเหมือนกัน

                    ฉันชื่อ อ๊ค แทคยอน ยินดีที่ได้รู้จักนะ

                    ฉันปาร์ค เจย์บอม เรียกว่าเจย์ก็ได้ผมทักกลับ นายอยู่โรงเรียนอะไร? ฉันอยู่โรงเรียนมัธยมปลายชินกุก

                    โอ้... ฉันอยู่โรงเรียนเดียวกับนายน่ะแหล่ะ บังเอิญจัง

                    จะเรียกว่าบังเอิญก็ไม่ถูกนัก... เพราะในละแวกนี้มันมีอยู่โรงเรียนเดียวนี่นา (แล้วจะถามเพื่อ...???)

                    แล้วนายอยู่ห้องอะไรน่ะเจย์?” แทคยอนถาม เพื่อว่าฉันจะไปหาได้

                    ฉันอยู่ปีสาม ห้องบี

                    อ้าว ปีสามเหรอ?” แทคยอนทำตาโตเหมือนกับตกใจอะไรสักอย่าง หรือว่ามันเห็นว่าผมแอ๊บเด็ก?

                    ใช่... ทำไม?” ผมถามกลับด้วยความสงสัย

                    ฉันอยู่ปีสอง ห้องเอหือ... ปีสอง แปลว่ามันเด็กกว่าผมรึ? “แปลกจัง... ฉันนึกว่านายเด็กกว่าฉันซะอีก ดูจากรูปร่างของนายน่ะ

                    เส้นสมองของผมมันเต้นตุ้บๆทันทีที่คำนั้นมันออกมาจากปากของไอ้โย่ง... นี่มันกำลังด่าผมว่าเตี้ยใช่มั้ยเนี่ย???

                    งั้นนายต้องเรียกฉันว่าพี่นะเฟ้ยไอ้เด็กโย่งตอบแทนที่แกหลอกด่าฉันว่าเตี้ย

                    ฮ่าๆๆ เรื่องสิ... ทำไมต้องเรียกคนที่ดูเด็กกว่าว่าพี่ด้วยล่ะ?”

                    ฮึ่ม... แกกำลังทำให้ความอดทนของฉันขาดผึ่ง... คอยดูเห้อ... แกไม่ได้ตายดีแน่ไอ้เด็กไร้สัมมาคารวะ...

                    ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นน่าพี่เจย์ แหม... ผมไม่ได้เป็นคนไร้สัมมาคารวะซะหน่อย อย่าโกรธเลยนะพี่นะ นะๆๆๆดูท่าทางมันสิครับ... ออดอ้อนแบบสุดฤทธิ์เลยจริงๆเชียว เชอะ... อย่าคิดนะว่าจะยกโทษให้นะไอ้บ้า เหอะ... แต่ว่าตอนมันทำแบบนี้ก็น่ารักดีแฮะ เฮ้ย... นี่ฉันคิดอะไรว่ะเนี่ย

                    เออๆ งั้นฉันเรียกนายว่าแทคแล้วกันเอาจนได้นะเรา... ทำไมเราชอบใจอ่อนกันพวกคนพรรค์นี้ตลอดเลยนะ? ไอ้คุณก็คนนึงแล้ว ยังมี...

                    คร้าบ~ งั้นผมไปล่ะนะครับพี่ เจอกันใหม่คราวหน้าครับไอ้แทคมันโบกมือบ๊ายบาย ทำท่าอย่างกับเด็กปัญญาอ่อน แล้วก็เดินหายเข้าไปในบ้าน ขนกล่องกระดาษขนาดใหญ่เข้าไปด้วยอย่างเร่งรีบ สงสัยกำลังจัดบ้านใหม่ จะว่าไปผมก็ต้องไปเคลียร์การบ้านเหมือนกันนิ

                    ผมหมุนตัวเข้าบ้านไปเมื่อนึกว่ายังมีมหัตภัยที่ต้องเผชิญหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ จะว่าไปมันก็เหมือนกับขุมนรก ผมถอนหายใจแรงๆอย่างเซ็งๆ นึกแล้วก็ขนลุกซู่เมื่อต้องถูกจับให้ทำการบ้านกองพะเนินเทินทึกยังกับภูเขาเอเวอร์เรสต์ อยากโทรไปบอกให้ไอ้คุณมาช่วยจังเล้ย แต่วันนี้ญาติมันมาเยี่ยมบ้านนี่หว่า ช่างมัน... ทำเองก็ได้ฟะ

    Talk with Writer :

    มาแล้วกับตอนที่ 1 !!! (แปะๆๆๆๆ)
    เม้นให้ด้วยนะครับ เผื่อว่าจะได้นำไปปรับปรุงได้
    รักรีดเดอร์ทุกคนเลยนะ อย่าลืม เม้นๆๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×