คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 13 ถ้าเป็นจุนโฮ... ก็คงจะทำแบบนี้ใช่ไหมครับ?
Chapter 13 ถ้าเป็นจุนโฮ... ก็คงจะทำแบบนี้ใช่ไหมครับ?
เราสองคนกลับบ้านกันเร็วกว่าที่คิด ระหว่างทางแทบจะไม่มีใครปริปากพูดอะไรขึ้นมาเลย เรื่องส่วนใหญ่ที่เราคุยกันจะเป็นประมาณเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนซะส่วนใหญ่ เพราะเปิดเทอมหน้าผมเองก็จะต้องไปเรียนแล้วเหมือนกัน เรากลับถึงบ้านเป็นเวลาห้าโมงกว่าๆ พอเข้ามาในห้องแล้วก็เจอกับนิชคุณที่นั่งดูรายการตลกในโทรทัศน์และขำกลิ้งอยู่คนเดียว น่าแปลกที่วันนี้ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับเด็กที่ชื่ออูยองเหมือนอย่างเคย และดูเหมือนกับว่าแทคเองก็คงจะสงสัยไม่แพ้กัน
“เฮ้ยไอ้คุณ... น้องด้งแกล่ะ??” แทคตะโกนถามออกไป เรียกให้คนที่กำลังนั่งขำกลิ้งให้กับมุกอะไรก็ไม่รู้ในทีวีหันขวับกลับมามองตาขวาง
“อยู่โรงพยาบาล” นิชคุณกล่าวตอบด้วยเสียงเรียบก่อนที่จะหันกลับไปดูทีวีต่อ แต่เสียงหัวเราะกลับขาดหายไปซะอย่างนั้น ผมกับแทคหันมามองหน้ากันอย่างงงๆ นี่มันเรื่องอะไรกันนะ
“ทำไมเหรอ?” คราวนี้ผมเป็นฝ่ายถามออกไปบ้าง
“มีเรื่องนิดหน่อย...”
“ก็ไอ้เรื่องที่ว่านั่นมันคืออะไรล่ะโว้ยย” แทคเริ่มที่จะอดรนทนไม่ไหวกับท่าทางไม่ยี่หระของมัน ผมเองก็เหมือนกันนะ แต่แค่ไม่แสดงอาการออกไปอย่างโจ่งแจ้งก็เท่านั้นเอง
“...” นิชคุณนิ่งไป ท่าทางเรื่องที่ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่เลย “แทค... ถ้าหากคนที่แกชอบมีคู่หมั้นอยู่แล้วแกจะทำยังไงวะ?”
“ห๊ะ??” แทคอุทานขึ้นด้วยความงุนงง ส่วนผมเองก็ย่นคิ้ว
“แล้ว... ถ้าหากว่าคู่หมั้นของคนที่นายชอบป่วยเป็นโรคร้ายแรงล่ะ? นายจะปลอบเขาว่ายังไง?”
“เดี๋ยวๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ผมถามออกไป ตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องอะไรกันแน่ ไอ้คุณก็ดูมีท่าทางที่แปลกออกไปจากเดิม ยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้น เรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ
“...” แทคนิ่งไป เขาจ้องมองนิชคุณนิ่งราวกับจะสื่อสารกันทางสายตา “ถ้าเป็นฉัน... ฉันจะบอกเขาว่าอย่าคิดมากเลยนะ”
“แล้วถ้านายอยากจะรั้งเขาไว้ให้อยู่กับนายล่ะ... นายจะบอกเขาว่ายังไง”
“ฉันจะบอกกับเขาว่า...” แทคเว้นจังหวะ เขาเหลือบตามามองผมเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวต่อ “ผมชอบคุณครับ...”
“เอ๊ะ...” ทำไมอยู่ๆผมถึงได้รู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างนี้ล่ะเนี่ย เขามองมาทางผมอย่างนั้นเหรอ... เอ๊ะ... หรือว่าบังเอิญ
บังเอิญแน่ๆเลย... เขาไม่มีทางพูดกับผมอย่างนั้นแน่ๆ...
“ตกลงแกมีเรื่องอะไรกันแน่ไอ้คุณ?”
“คู่หมั้นของอูยองป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่หัวใจ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเขายังไง... อูยองดูจะเป็นห่วงเด็กคนนั้นมากเลยทีเดียว” นิชคุณกล่าว “ฉันรู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งเด็กคนนั้นได้ ฉันก็เลย... ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี”
“นี่ไอ้คุณ...” แทคกล่าวพลางถอนหายใจออกเบาๆ “ที่บอกว่า ‘ทิ้งไปไม่ได้’ น่ะ... ไม่ได้แปลว่าเขาสองคนนั้นรักกันหรอกนะ”
“...”
“อูยองอาจจะมีหน้าที่ที่ต้องดูแลเด็กคนนั้นก็จริง แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าความห่วงไยที่มีต่อเพื่อนก็ได้” แทคกล่าวต่อ “นายเองก็คงจะไม่อยากให้อูยองทอดทิ้งผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังป่วยเป็นโรคร้ายไว้คนเดียวหรอกใช่มั้ย”
นิชคุณส่ายหัว “แล้วฉันควรจะทำยังไงดี?”
“รอดูสถานการณ์ไปก่อนสักพักหนึ่ง... แล้วค่อยบอกกับเขาว่าชอบ” แทคตอบ “ถ้าเกิดบอกไปตอนนี้ก็รังแต่จะทำให้เขาลำบากใจเท่านั้น”
ถึงจะดูเหมือนเป็นคนไม่ค่อยประสีประสาในเรื่องของความรัก... แต่ในเวลาแบบนี้แทคยอนเองก็เป็นที่พึ่งได้ดีเหมือนกันนะ...
“ตอนนี้นายก็คอยอยู่เคียงเขาหน่อยก็แล้วกัน ดูเหมือนว่าอูยองจะใช้นายเป็นที่พึ่งพิงอยู่ซะด้วย พยายามทำให้เขารู้สึกสบายใจเข้าไว้... เดี๋ยวอะไรๆมันก็ดีเองน่ะแหล่ะ”
ดูเหมือนว่าแทคยอนจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้... ก็ควรจะให้เขาสองคนได้มีเวลาคุยกันสินะ...
จะว่าไปแล้วเรื่องแบบนี้ผมเองก็ช่วยอะไรใครเขาไม่ค่อยได้... ปล่อยให้เขาสองคนคุยกันเองดีกว่า...
“งั้นนายสองคนก็คุยกันไปก่อนแล้วกันนะ... เดี๋ยวฉันจะขอไปเดินเล่นแถวนี้สักพักหนึ่ง”
ผมหยุดยืนอยู่บนกระเบื้องริมสระว่ายน้ำ ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว น้ำในสระก็คงจะเย็นเจี๊ยบถึงขั้วหัวใจ ใครที่หลวมตัวลงไปว่ายเล่นล่ะก็มีหวังแข็งตายแน่ ในช่วงเวลาแบบนี้จึงไม่มีใครสักคนเลยที่มานั่งแกร่วอยู่แถวนี้เหมือนกับผม แสงไฟจากใต้สระทำให้ผิวน้ำสะท้อนประกายระยิบระยับ แถมน้ำในสระยังใสแจ๋วจนเห็นพื้นกระเบื้องสีน้ำเงินเบื้องล่าง เสียอย่างเดียวก็คือแถวนี้ลมไม่ค่อยจะมีเพราะโดนอาคารบดบังไว้เสียจนหมด... แต่ผมชอบที่เงียบๆแบบนี้
อย่างสมัยตอนที่อยู่ม.ปลายที่ซีแอทเติ้ล นิชคุณกับจุนโฮเป็นพวกที่ชอบว่ายน้ำเอามากๆ โดยเฉพาะจุนโฮที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาชั้นแนวหน้าของโรงเรียน หลังเลิกเรียนแล้วผมก็มักจะถูกสองคนนั้นดึงไปสระว่ายน้ำด้วยกันบ่อยๆ ทั้งๆที่ผม... เอ่อ... ว่ายน้ำไม่เป็น (เอาเถอะ) ในขณะที่สองคนนั้นกำลังเฮฮาปาจิงโกะกันอยู่ในสระน้ำตามประสาคนว่ายน้ำเป็น ผมก็ได้แต่นั่งเฝ้ามองอยู่ห่างๆที่เก้าอี้ริมสระ ขอย้ำ! ว่านั่งอยู่ห่างๆจริงๆ ผมไม่กล้าแม้แต่ที่จะเหยียบผิวน้ำเลยด้วยซ้ำ กลัวว่าถ้าหากลื่นตกลงไปคงจะมีสภาพที่ดูไม่ดีนัก
แต่ว่า... ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกว่าใจมันหวิวๆจังเลยนะ...
ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว... ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วที่เขาจูบผม ผมรู้สึกว่าเขามีอาการแปลกไปจากเดิม แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำถึงขนาดนั้น ใจของผมมันเต้นระรัวอย่างรุนแรงราวกับจะกระเด้งออกมาให้ได้เลยเสียยังไงยังงั้น รู้สึกว่ารอบตัวมันร้อนๆหนาวๆไปหมด เขาทำอย่างนั้นทำไม...
แล้วทำไม... ใจของผมมันเต้นแรงขนาดนี้กันล่ะ...
ยิ่งตอนที่หมอนั่นพูดคำว่า “ผมชอบคุณ” ใจของผมมันก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ได้พูดกับผม แต่ในวินาทีนั้นเขาก็หันมามองผมจริงๆ เล่นเอาผมหน้าแดงไปเลยทีเดียว... หมอนั่นกะจะทำอะไรกันแน่
เขาคงไม่ได้... ชอบเราหรอกนะ...
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะ... ผมจะทำยังไงดี...
“แทคยอน...”
พรืด!!!!!!!!!
“เหวอ?!!!!!!!!” ผมร้องอุทานขึ้นมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจ ชั่ววินาทีหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าฝ่าเท้าของผมไถลลื่นไปกับกระเบื้องริมสระน้ำที่ตัวเองกำลังเหยียบอยู่ และชั่ววินาทีเดียวนั้นเองที่ทำให้ผมถึงกับใจเสียและทำอะไรไม่ถูก ร่างของผมจึงสัมผัสกับผิวน้ำและจมดิ่งลงไปใต้สระน้ำนั่นแทบจะภายในวินาทีเดียวกัน ผมว่ายน้ำไม่เป็น... นั่นคือความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวสมองของผม สองมือและสองเท้าตะเกียกตะกายอย่างไร้จุดหมาย... พยายามทุกวิถีทางที่จะดันตัวเองขึ้นไปสู่บนบกอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ถึงแม้จะพยายามมากขนาดไหน... รอบกายของผมก็มีแต่น้ำ น้ำ น้ำ แล้วน้ำ แล้วคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างผมล่ะ... จะทำอะไรได้
ออกซิเจนเริ่มขาดหายไปทุกๆที... พอขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงหัวสมองแล้ว... หนังตาก็เริ่มที่จะปิดลง...
สิ่งสุดท้ายที่ประสาทของผมพอจะรับรู้ได้ก็คือ... เสียงตะโกนของใครบางคน...
“พี่เจย์!!!!!!!!!!!!!”
ก่อนที่ผมจะไม่รับรู้ถึงอะไรอีกต่อไป...
“พี่เจย์... พี่เจย์... ตื่นเถอะครับ...”
... เสียงใคร...?
“พี่เจย์... โธ่เว้ย... พี่เจย์ตื่นเถอะ...”
แทคยอนเหรอ...?
“อือ..........” แรงเขย่าจากแขนของใครบางคนปลุกผมให้ตื่นขึ้น ผมส่งเสียงงึมงำออกมาจากในลำคอเมื่อเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ก่อนที่ผมจะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ในตอนแรกภาพเบื้องหน้ายังคงเป็นภาพบางๆเพราะมีหยดน้ำเล็กๆเกาะอยู่ที่แพขนตาเต็มไปหมด สักพักผมก็เริ่มที่จะเห็นชัดขึ้น สิ่งแรกที่ผมลืมตาขึ้นมาและเห็นก็คือ... แทคยอน
“พี่เจย์... พี่เป็นยังไงบ้างครับ?” แทครีบยิงคำถามใส่ผมทันทีด้วยสีหน้าแตกตื่นเมื่อเห็นว่าผมลืมตาแล้ว รู้สึกว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกชื้นไปหมดเสียจนแนบเนื้อ สภาพของคนตรงหน้าเองก็ไม่ต่างจากกันนัก... อย่างกับลูกหมาตกน้ำเลย หยดน้ำจากเส้นผมของแทคหยดติ๋งลงมาบนแก้มของผม... ทำให้รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในอ้อมกอดของแทคยอน
“แทค...” ผมเรียกชื่อของเขาออกไป รู้สึกหนาว... หนาวสั่นไปหมดทั้งตัว... “เมื่อกี้...”
“เมื่อกี้พี่จมน้ำน่ะครับ” แทคตอบ “พี่ว่ายน้ำไม่เป็นใช่มั้ย?”
“นายรู้...?” นิชคุณบอกแน่ๆเลย
“นี่ถ้าผมช่วยเอาไว้ไม่ทันเนี่ยพี่ก็คงจะตายไปแล้วนะครับ” แทคกล่าวด้วยสีหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์โกรธ แต่เขาจะโกรธอะไรกันล่ะ “วันหลังอย่าทำอะไรอันตรายๆแบบนี้อีกนะครับ... ผมขอร้อง”
“แทค...”
“พี่เจย์!!! แทค!!! เป็นยังไงบ้าง?!!” เสียงตะโกนของใครอีกคนดังขึ้นเรียกให้เราทั้งสองคนหันกลับไปสนใจแทบจะในทันที ร่างของเจ้าของเสียงวิ่งกระหืดกระหอบมาทางนี้พร้อมผ้าขนหนูผืนหนาสองผืน “พี่เจย์... พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“นิชคุณ... เอ่อ... ไม่เป็นไร”
“นี่พี่รู้มั้ย? ไอ้แทคมันอุตส่าห์กระโดดลงมาจากระเบียงชั้น 10 เพื่อช่วยพี่เลยนะ” ห๊ะ... ชั้น 10 เนี่ยนะ... จะลงทุนไปหน่อยรึเปล่า... “พอเห็นว่าพี่กำลังจะจมน้ำไอ้แทคมันก็เลยเป็นห่วงพี่เอามากๆ บอกว่าถึงจะวิ่งลงบันไดไปช่วยก็คงจะไม่ทัน มันก็เลยไม่คิดอะไรแล้วกระโดดตูมลงมาอย่างที่เห็นเนี่ยแหล่ะ... แต่ขอยอมรับเลยนะว่าแกเนี่ยหนังเหนียวจริงๆ”
“ใช่เวลามาพูดเล่นมั้ยวะไอ้คุณ เอาผ้าขนหนูมาเร็ว” แทคขู่ฟ่อใส่ทันทีเมื่อเห็นว่าเสียเวลาทำมาหากินไปมากแล้ว นิชคุณจึงยื่นผ้าขนหนูทั้งสองผืนที่ตัวเองถือมาให้กับแทคทันที ผมมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ... หมอนี่ลงทุนทำถึงขนาดนี้เพื่อช่วยผมเลยเหรอ
“นายทำอย่างนี้... นายไม่กลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปมั่งเลยเหรอ?” ผมถามออกไป แต่แทคเพียงแค่ปรายตามามองผมนิ่งๆเท่านั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการกางผ้าขนหนูผืนหนึ่งออกแล้วนำมันมาคลุมให้กับผม
“ถ้าเป็นจุนโฮ... ก็คงจะทำแบบนี้ใช่มั้ยล่ะครับ?” แทคกล่าวขึ้น... ก่อนที่จะนำผ้าขนหนูอีกผืนมาคลุมทับให้กับผมอีก “ผมน่ะไม่กลัวตายหรอก... กลัวว่าพี่จะจากผมไปเสียมากกว่า”
“...” แก้มของผมเริ่มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อเมื่อเขากล่าวคำๆนั้นออกมา ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันล่ะเนี่ย
“ฮะ ฮะ” เมื่อเห็นว่าผมมีท่าทางแบบนั้นแทคจึงหัวเราะออกมาเล็กน้อยและยื่นมือออกมาวางไว้บนศรีษะของผมอย่างแผ่วเบา... ทั้งๆที่ผมแก่กว่ามันตั้งปีกว่าๆ ไอ้นี่ชักจะเอาใหญ่ซะแล้ว...
แต่ก็... ช่างมันเถอะ...
“รู้ว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นอยู่แล้วนี่ วันหลังอย่าทำอะไรอย่างนี้อีกนะครับ ถึงมันจะเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ” แทคกล่าว “แต่ถึงมันจะเกิดขึ้นก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะผมจะเป็นคนปกป้องพี่เองนะ”
“อ... ไอ้บ้า...” พูดอย่างนี้... คนอย่างฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะเฟ้ยไอ้เด็กบ้าเอ๊ย
แต่มันก็... รู้สึกดีแปลกๆนะ...
“เอ้าๆ จะหวานกันไปถึงไหนครับคุณทั้งสองคน” ในที่สุดนิชคุณก็ออกปากขัดขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหวเพราะว่าตัวเองยืนหัวโด่เป็นตอไม้อยู่ตรงนี้โดยที่ไม่ได้รับความสนใจไยดีอะไรใดๆมาตั้งนานแล้ว และเพราะคำๆนั้นที่มันพูดออกมาทำให้ผมถึงกับหน้าแดง... ส่วนแทคก็เอาแต่หัวเราะร่า “นี่ไอ้แทค... ฉันเอาผ้าอีกผืนหนึ่งมาให้แกนะโว้ย แกไม่กลัวว่าตัวเองเป็นหวัดมั่งเลยรึยังไงวะ”
“แกเองก็เคยบอกนี่ว่าฉันเป็นไอ้แมวถึกไม่กลัวตาย... พี่เจย์เขาน่ะอ่อนแอบอบบางกว่าฉันเยอะ” แกว่าใครอ่อนแอบอบบางนะไอ้แมวยักษ์... เดี๋ยวปั๊ดกัดหูขาดเลยนี่
“เออๆ ตามใจแกแล้วกัน กลับห้องกันเหอะ ขืนตากลมอยู่อย่างงี้เดี๋ยวที่รักของฉันก็หวัดกินหมด”
“ใครที่รักแกมิทราบวะไอ้คุณ?!!” ไม่ได้เล่นมุขนี้ซะนานเลยทีเดียว
“ก็ใครซะอีกล่ะ... น้องด้งของมันไง อิอิอิ” แทคกล่าวพร้อมส่งเสียงขำคิกคัก ส่วนผมเองก็พยักหน้าแรงๆเป็นเชิงเห็นด้วย... ก็พักหลังนี่เขาทั้งสองคนตัวติดกันจะตายนี่นา
“อ่ะ....” นิชคุณถึงกับหน้าแดงแปร๊ดเป็นสีลูกตำลึงสุกเลยทีเดียว “ใครบอกกันเล่า?!!... ฉัน... ฉัน...”
“ฉันหยุดรักอูยองไม่ได้แล้วใช่มั้ยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“แก!!!!!! ไอ้แมวยักษ์!!!!! แกไม่ได้ตายดีแน่!!!!!”
... ในที่สุดพาร์ทนี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้...
______________________________________________________________________________
ความคิดเห็น