ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic 2PM TJ & KD & CH] Hyung, Can we be more than friend?

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 8 ข้างๆกาย...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 439
      1
      16 ต.ค. 53

    Chapter 8 ข้างๆกาย...

                    (ฮัลโหล)

                    "เอ่อ... ไง..."

                    (อ้าว... อูยอง เป็นยังไงบ้าง)

                    "ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ เธอ... เป็นยังไงบ้าง"

                    (ก็สบายดี อ้อ... นี่นายรู้มั้ย วันนี้น่ะมีเพื่อนมาเยี่ยมฉันเต็มไปหมดเลยนะ สนุกมากๆเลย เสียดายจังที่นายไม่ได้อยู่ด้วย)

                    "ฉันขอโทษนะ"

                    (ไม่ต้องขอโทษก็ได้ ฉันรู้ว่าเธอกำลังยุ่งอยู่กับการสอบ พยายามเข้าล่ะ แต่อย่าหักโหมมากเกินไปนะ เดี๋ยวร่างกายมันจะพาลไม่ไหวเอา)

                    "อืม... ขอบคุณมาก... เธอก็เหมือนกันนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ"

                    (จ้า... ถึงฉันจะไม่ดูแลตัวเองแต่ยังไงๆก็มีคนดูแลให้อยู่แล้วล่ะ นายน่ะอยู่คนเดียว... รักษาสุขภาพด้วยนะ)

                    "อืม... งั้นบายนะ"

                    (บาย แล้วเจอกัน)

                    ผู้ที่อยู่ปลายสายกล่าวขึ้นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่จะตัดสายไป ผมหยุดนิ่งและถือโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้สักพักหลังจากการสนทนาจบลง ก่อนที่จะตัดสินใจวางมันลงบนโต๊ะเตี้ยที่อยู่ข้างหน้า และหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ใกล้ๆกันอย่างเหนื่อยล้า ผมเพิ่งเรียนพิเศษในช่วงเช้าจบ วันนี้ตอนบ่ายผมไม่มีโปรแกรมไปติวหนังสือที่ไหนอีกจึงกลับมานั่งทอดหุ่ยอยู่ที่ห้องพักของตัวเอง ถ้าหากตัดโปรแกรมเรียนพิเศษหรือติวหนังสือที่บ้านเพื่อนออกไป... ชีวิตนี้ผมก็คงจะไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำอีกแล้วล่ะ

                    ไม่สิ... มีอีกอย่างนึง...

                    RRRRRRR… RRRRRRRR….

                    นั่นไง... นึกถึงก็มาเลย ตายยากจริงๆนะพ่อคนนี้...

                    สวัสดีครับพี่คุณ ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทันทีหลังจากยกมันขึ้นมากดรับสายแล้ว อีกฝ่ายที่อยู่ปลายสายนั้นก็ยังคงมีน้ำเสียงร่าเริงอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเหมือนปกติ

                    (อูด้ง วันนี้ไม่มีเรียนพิเศษใช่มั้ย)

                    ครับ... ผมเพิ่งเรียนเสร็จไปเมื่อเช้านี้เอง พี่มีอะไรรึเปล่า? ถามอย่างนี้แปลว่าจะพาไปเที่ยวล่ะสิใช่มั้ย

                    (เอ่อ... ถ้าเกิดนายไม่มีอะไรทำล่ะก็ไปเที่ยวกันมั้ย?)

                    นั่นไง... รู้ใจกันดีจริงๆนะพี่คุณ... หึๆๆๆ

                    เอาสิครับ แต่มีข้อแม้นะ

                    (พี่เลี้ยงใช่มั้ยล่ะ เออๆ ก็ได้ๆ เพื่อด้งนะเนี่ย)

                    แหน่ะ... รู้ทันอีก...

                    พี่คุณเนี่ยน่ารักที่สุดเลย ฮ่าๆๆๆ

                    (จ้าๆๆๆ พี่น่ะรู้นิสัยของด้งดีอยู่แล้วล่ะ)

                    แหงล่ะ... ก็พี่คุณเล่นโทรมาหาผมทุกวันเลยนี่นา... ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผมน่ะมีหรือที่คนชอบล้วงลับเรื่องของชาวบ้านอย่างพี่คุณจะไม่รู้...

                    แต่ว่านะ... ยังมีอีกเรื่องนึงที่ผมมั่นใจว่าพี่คุณยังไม่รู้แน่นอน...

                    งั้นพี่คุณมารับผมด้วยนะ ผมขี้เกียจเดินไปหาพี่ที่หอพักอ่ะ

                    (ระวังเหอะ... ขี้เกียจมากๆด้วยอ้วนเป็นหมูนะด้ง)

                    ยุ่งน่า... เอ้า... อย่าลืมมารับด้วยนะ

                    (ครับๆคุณชาย รอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไป)

                    ครับ... มาเร็วๆนะ ผมหิวแล้ว

                    และในที่สุดเราก็ปิดบทสนทนาลงจนได้ ก็อย่างนี้แหล่ะครับ... พี่คุณเป็นพวกชอบพูดพล่าม กว่าจะเข้าเรื่องธุระที่โทรมาคุยได้ก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ก็ดีนะ... ทำให้คู่สนทนาอย่างผมไม่รู้สึกเบื่อไปเสียก่อน หลังจากที่ผมขับรถเฉี่ยวพี่คุณเข้าในครั้งนั้นพี่คุณเขาก็ติดผมแจ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร... ถ้าผมไม่ได้ติดเรียนพิเศษผมก็มักจะไปเที่ยวกับพี่คุณอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง พี่คุณเลยใช่วิธีโทรมาหาผมเองแทน คุยกันทีเป็นชั่วโมงๆ... ไม่รู้ว่าเปลืองค่าโทรศัพท์ไปตั้งเท่าไหร่แล้ว

                    แต่ก็... สนุกดีอ่ะนะ...

                    ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...

                    โว้ว... มาเร็วทันใจดีจัง... ผมรีบเดินออกไปเปิดประตูห้องทันที และคนที่อยู่หน้าห้องก็ไม่ใช่ใคร... คนที่คุณๆคิดกันไว้นั่นแหล่ะครับ

                    ไปกันรึยังคุณชายแก้มป่อง ใครแก้มป่องมิทราบ... แบบนี้เขาเรียกว่าหน้ารูปไข่เฟ้ย

                    ครับๆ คุณชายกวนขั้นเทพ

                    ใคร? ใคร? พี่ไม่รู้จัก? พี่คุณปฏิเสธเสียงสูง แต่อย่าปฏิเสธเลยในเมื่อมันเห็นกันอยู่ตำตาอยู่แล้วอ่ะนะ

                    พี่อยากรู้เหรอ? ผมถาม งั้นพี่ก็ลองเข้าไปในห้องน้ำแล้วส่องกระจกดูสิครับ คนๆนั้นน่ะแหล่ะที่ผมหมายถึง

                    เออ... จริงด้วย หล่อมากๆเลยเนอะ มีใครเคยบอกมั้ยเนี่ย (นอกจากผม) ว่าพี่คุณน่ะ... ทั้งกวน ทั้งหน้าด้าน

                    แต่ก็... อ่านะ... ฮาดี...

                    อย่ามัวเสียเวลาเถียงกันอยู่เลยดีกว่า ไปกันเถอะพี่คุณ

                    ก็เด็กคนไหนกันล่ะที่เป็นตัวการทำให้ช้าอ่ะ ก็เด็กปัญญาอ่อนตรงหน้าผมนี่ไงเล่า... แหน่ะ... ยังมาส่งสายตาค้อนให้อีก ไม่ดูตัวเองเล้ยยย

                    ไปกันเหอะพี่

                    จ้าๆ

                    หลังจากที่เราทั้งสองปิดบทสนทนาลงเราทั้งสองก็เดินไปที่รถของพี่คุณซึ่งจอดแปะอยู่ใกล้ๆ พี่คุณเดินไปเปิดประตูที่นั่งข้างๆคนขับให้ผม แหม... ทำตัวเป็นคนดีซะด้วย ผมก้มหัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณก่อนที่จะเข้าไปนั่งในรถ เมื่อผมเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วพี่คุณก็เดินไปยังที่นั่งของคนขับในทันที

                    แล้วนี่พี่คุณมีกำหนดการณ์จะไปไหนอ่ะ? ผมถามขึ้นหลังจากที่นั่งรถมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว

                    อ๋อ... คือว่าพี่ยังไม่ได้คิดไว้หรอกนะ พี่คุณกล่าวขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามอง... เพราะว่าพี่คุณกำลังตั้งอกตั้งใจกับการขับรถอย่างระมัดระวังอยู่ ไม่งั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุอย่างที่ผมเคยทำไว้กับพี่คุณได้... พอคิดถึงเรื่องนั้นแล้วก็ขำดีแฮะ ขนาดตอนนี้ยังอดที่จะทึ่งไม่ได้ว่าคนบ้าอะไรกันเนี่ยหนังเหนียวขนาดนี้ พี่แค่อยากจะหนีออกมาจากไอ้แมวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านเฉยๆ ไม่ได้คิดแผนการท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้าหรอก

                    เหรอครับ? แล้วแมวที่ว่า... เอ่อ... พี่แทคสินะ ทะเลาะกับพี่แทคมาเหรอครับ?

                    เปล่าๆ เราสองคนยังรักใคร่กลมเกลียวกันดีอยู่ พี่คุณรีบปฏิเสธทันควัน แค่ตอนนี้พี่รู้สึกเบื่อมันขึ้นมานิดๆเท่านั้นเอง

                    พี่คุณกับพี่แทค... ผมกล่าวขึ้นอย่างติดๆขัดๆ พอคิดภาพอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัวแล้วก็อดที่จะคลื่นไส้นิดๆไม่ได้ เป็นแฟนกันเหรอครับ?

                    ห๊ะ??!! เฮ้ยยยยย ไอ้แท็กซี่เวรนี่ดันมาปาดหน้ากันเฉย อยากตายนักรึไงวะ?!!” รู้สึกว่าคำถามของมันสามารถทำให้สติของพี่คุณหลุดและทำให้ลืมที่จะมองทางข้างหน้าไปชั่ววูบหนึ่งได้เลยทีเดียว โอเค... ต่อจากนี้ไปผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว... ห่วงชีวิตตัวเอง

                    เอ่อ... เมื่อกี้นายถามว่ายังไงกันน่ะ??? ยังจะให้ถามต่ออีกเหรอคร้าบบบ

                    คือผมถามว่า... พี่สองคนเป็นแฟนกันเหรอ?

                    ...?!!!” พี่คุณแทบจะเอาหัวโขกพวงมาลัยทันทีที่ผมกล่าวถามออกไปอีกครั้ง ผมเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเสียวไส้ขึ้นมาจับจิต... เสียวรถชนระเบิดตู้มจริงๆเล้ย หัดห่วงชีวิตของคนที่นั่งอยู่ข้างๆหน่อยสิเฟ้ย (เอ๊ะ หรือเขาเห็นว่าเราไม่ใช่คน??)

                    ทำไมนายคิดยังงั้นล่ะ?? พี่คุณตวาดแว้ดใส่ผมทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาออกไปจากเส้นทางเบื้องหน้า

                    ก็... เห็นพี่พูดอ่ะ

                    ฉันพูดว่าฉันเป็นแฟนกับไอ้เหมียวนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่??!!”

                    ก็พี่พูดว่าพี่สองคนรักใครกลมเกลียวกันดีนี่ครับ แล้ว... จะให้ผมคิดว่าเป็นยังไงกันล่ะ

                    ด้งเอ็ยยย... เข้าใจพี่ผิดไปใหญ่แล้ววว... พี่คุณร้องโอดครวญอย่างน่าสงสาร ก็นะ... โดนคนอื่นมองว่าเป็นเกย์ใครๆก็ต้องรู้สึกอย่างนี้กันทั้งนั้นแหล่ะ (แต่ถ้าเป็นผมล่ะฮะพี่จะว่ายังไง?)

                    แล้วตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ครับ? เอาให้กระจ่างแจ้งไปเลยดีกว่าก่อนที่ผมจะคิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปเสียก่อน... แล้วเดี๋ยวจะทำให้เกียรติยศของพี่คุณเสื่อมเสียไปมากกว่านี้

                    คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ พี่คุณเริ่มต้นเล่าเรื่องขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง... จริงจังเสียจนผมอดคิดไปไม่ได้ว่านี่เรื่องล้อกันเล่นรึเปล่า เพราะเวลาพี่คุณทำสีหน้าจริงจังทีไรสุดท้ายก็หลุดทุกที แทคน่ะมันชอบพี่เจย์... นายก็คงจะดูออกใช่มั้ย?

                    อ่า... ครับ ผมตอบรับไปทั้งๆที่ยังงงๆไม่หาย อ๊ะ... นี่แปลว่าพี่แทคชอบพี่เจย์จริงๆอย่างนั้นเหรอเนี่ย ผมเองก็สังเกตว่าท่าทางของพี่แทคดูมีพิรุธอยู่หรอก แต่ก็ไม่คิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง...

                    แต่ว่า... พี่เจย์ดันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แล้วหมอนั่นก็ชอบพี่เจย์ตอบด้วย ก็ชอบพอกันอยู่ทั้งสองคนแล้วทำไมถึงไม่เป็นแฟนกันไปซะเลยล่ะ แต่ไม่ดีหรอกมั้ง... เดี๋ยวพี่แทคก็ปลงชีวิตแล้วหนีไปฆ่าตัวตายพอดี เด็กคนนั้นชื่อลีจุนโฮ เมื่อหลายปีที่แล้วเขาได้กลับมาเรียนต่อที่นี่ แต่ปัญหาก็คือเมื่อหลายวันก่อนพี่เจย์กับแทคได้ไปเดินด๊อกแด๊กที่ตลาดกันสองคนอย่างมีความสุข แล้วในตอนนั้น... ก็ดันมาเจอะกับจุนโฮพอดีเป๊ะ

                    แล้วยังไงต่อล่ะครับ

                    ถ่านไฟเก่ามันก็เลยคุกรุ่นขึ้นมาน่ะสิ... อืม... พูดอย่างงี้แล้วเห็นภาพเลยแฮะ

                    แล้วอย่างนี้พี่แทคเขาไม่เข้าไปต่อยหน้าหมอนั่นเลยเหรอครับเนี่ย

                    เปล่า... แต่คนที่มันเลือกที่จะลงไม้ลงมือด้วยน่ะมันเป็นพี่ต่างหาก พี่คุณกดเสียงต่ำกล่าวขึ้น อืม... ฟังจากเสียงของเจ้าตัวแล้วน่าจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่เพื่อนควรจะทำต่อกันเท่าไหร่นัก พอมันเห็นว่าพี่เจย์ไปคุยโทรศัพท์กับจุนโฮในห้องทีไร มันก็มักจะร้องไห้ฟูมฟายมาหาพี่ตลอดทำให้ต้องคอยปลอบมันทั้งๆที่ไม่ย้ากไม่อยากเลยซักนิดเดียว เฮ่อ... เห็นแล้วล่ะเซ็ง

                    แต่ฟังแล้วพี่แทคก็ดูน่าสงสารออกนะครับ

                    ก็ใช่น่ะสิ พี่ก็เลยบอกให้มันตัดใจได้แล้ว คนเขาจะมีความสุขกันจะไปขวางกั้นเขาทำไมล่ะเนอะ... แต่มันก็ไม่ฟัง แถมยังจะขู่ว่าจะแย่งอูยองมาจากพี่อีกล่ะ...

                    ห๊ะ?? เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะ??

                    อ้า... เอ่อ... พี่จะพูดว่ามันคิดจะแย่งพี่เจย์มาจากจุนโฮน่ะ ฮ่ะๆๆๆ

                    ... ตกลงผมฟังผิดไปใช่มั้ย... แต่เมื่อกี้ผมได้ยินชัดๆเต็มสองรูหูเลยอ่ะว่าเป็นชื่อของผม อ่ะ... อ้า... แล้วพี่แทคจะทำยังไงล่ะครับ

                    ยังไงน่ะเหรอ... เอ้อ... อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าตัวอ่ะนะ พี่คุณตอบ แต่พี่คิดว่าโอกาสมันช่างน้อยนิดซะเหลือเกิน

                    พี่เจย์... เขาไม่คิดจะเปลี่ยนใจเหรอครับ?

                    พี่เจย์คงยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำมั้งว่าไอ้เหมียวมันชอบอยู่ พี่คุณพูด จะถามว่าพี่เจย์จะเปลี่ยนใจมั้ยนะเหรอ?... อาจจะได้ แต่ก็คงจะยาก

                    ยากเหรอครับ

                    ใช่... ยากมากๆเลยด้วย พี่คุณกล่าวพลางพยักหน้าหงึกหงักประกอบ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันที่อเมริกาน่ะ จุนโฮทำตัวให้พี่เจย์ประทับใจเอามากๆเลยทีเดียว ถ้าหากไอ้เหมียวมันอยากจะแทนที่ตรงนั้นล่ะก็... ไม่รู้สิ... คงจะต้องเอาใจเขาให้มากๆล่ะมั้ง

                    ฟังดูง่าย... แต่ว่าคงจะยากสินะครับ

                    โห้ยย นายยังไม่รู้อะไร การจะทำให้พี่เจย์ประทับใจอะไรสักอย่างในตัวของเราน่ะมันยากยิ่งกว่าขุดหาโคตรเพชรซะอีกนะ กว่าฉันจะมาสนิทกันจนถึงขั้นเล่นหัวกันได้เนี่ยกินเวลาตั้งปีกว่า ใจของพี่เจย์น่ะเข้าถึงยากและแข็งยิ่งกว่าหินซะอีก พี่คุณพล่ามยาวใส่ผมด้วยความที่ตัวเองเคยเป็นผู้มีประสบการณ์มาก่อน ผมเองก็เคยเห็นพี่เจย์มาหลายครั้ง... แต่ว่าไม่คิดว่าจะเป็นคนที่เข้าถึงยากมากขนาดนี้ จะว่าไปแล้วไอ้แทคมันก็เก่งนะ... ปกติพี่เจย์น่ะจะเกลียดคนดำๆ หน้าโง่ๆ ดูกวนตีนๆ อย่างมันเป็นที่สุด เรียกได้ว่าแทคเนี่ยเป็นคนแรกในคนกลุ่มนั้นเลยแหล่ะที่ครองสถิติการเข้าหาพี่เจย์ได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

                    เหรอครับ...

                    เออ... แต่ว่าคงจะยากที่จะให้พี่เจย์เปลี่ยนใจอยู่ดีอ่ะนะ ก็จุนโฮอ่ะ... เป็นคนที่ดีในสายตาของเขาเอามากๆเลยนี่นา

                    พี่แทคน่าสงสาร... ผมพูดขึ้น เพราะคำๆนั้นทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ

                    ทำไมนายคิดอย่างนั้นล่ะ?

                    ก็เพราะว่า... พี่แทคอาจจะต้องอกหักน่ะสิครับ

                    ... พี่คุณหันมามองผมเล็กน้อย มันบ้า... อย่าไปสนใจมันเลย

                    เราควรจะช่วยเขามั้ยครับ?

                    อย่าเลย... เรื่องของเขาเราไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยว

                    นั่นสินะครับ.... แต่ว่า... จากที่ฟังดูแล้วพี่แทคก็น่าสงสารจริงๆนี่นา ทำให้ผมอดที่จะรู้สึกแปลกๆแทนพี่แทคไม่ได้

                    กลับมาเรื่องของเรากันดีกว่านะอูยอง พี่คุณว่า... คำพูดของพี่คุณในตอนนั้นทำเอาผมหน้าแดงขึ้นมานิดนึง เรื่องของเรา... งั้นเหรอ

                    ครับ? ร้อนเว้ย... ในนี้เปิดแอร์อยู่จริงๆรึเปล่าวะเนี่ย

                    ด้งอยากจะไปไหนล่ะ เดี๋ยวพี่จะพาไปนะ บ้า... พี่คุณ พูดให้เขินทำไม

                    เมื่อวันก่อนโน้นน่ะพี่จำได้มั้ย?

                    วันไหนอ่ะ

                    ก็วันที่พี่แทคแย่งโทรศัพท์ไปจากพี่ในตอนนั้นไง ผมยังพูดไม่จบเลยนะ ผมหันไปทำแก้มป่องใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างงอนๆ เพราะฉะนั้นวันนี้จงพาผมไปโซ้ยไก่ทอดเคเอฟซีตามที่สัญญากันไว้ซะดีๆ

                    อ่ะ... อ้า... โธ๊เอ๊ย นี่ยังไม่ลืมอีกเหรอเนี่ย? พี่คุณตบหน้าผากตัวเองเบาๆเป็นเชิงว่า... ให้ตายสิ ได้ๆ เดี๋ยวพี่จะพาไปโซ้ยให้เรียบเลย เอางั้นดีมั้ยอูยอง

                    ผมยิ้มแก้มแทบปริ... แหงสิ... ได้กินของฟรีทั้งทีนี่นา...

                    เอาสิครับ ดีจังเลยที่มีคนคอยตามใจ... ฮ่าๆๆๆ

                    หลังจากนั้นพี่คุณก็พาผมไปกินไก่ทอดที่ร้านเคเอฟซีในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ระหว่างที่กำลังกินไก่กันอยู่นั้นเราก็คุยกันในเรื่องต่างๆที่ไม่ค่อยจะมีสาระซักเท่าไหร่เหมือนปกติ พี่คุณเป็นพวกชอบพล่าม... พล่ามแล้วก็พล่ามอีก... พล่ามจนถ้าเอากันจริงๆแล้วผมก็คงจะหลับไปได้ซักสองสามตื่นแล้วล่ะ แต่เรื่องที่ออกมาจากปากของพี่คุณฟังทีไรก็รู้สึกสนุกทุกที ทำเอาคนฟังอย่างผมต้องฟังไปขำไป หลังจากที่เรากินอาหารเที่ยงกันเสร็จหมดแล้วผมกับพี่คุณก็เดินเที่ยวกันรอบๆห้างสักพักก่อนที่จะขับรถออกมาจากตรงนั้นเพื่อ... เพื่ออะไรก็ไม่รู้ เรายังไม่รู้เลยว่าจุดหมายปลายทางต่อไปจะเป็นที่ใด รู้เพียงแต่ว่าจะขับรถไปเรื่อยเปื่อยเพียงเท่านั้นเอง

                    เอาเถอะ... ขอแค่มีพี่คุณเป็นเพื่อนคุยอยู่ข้างๆก็เพียงพอแล้วอ่ะนะ...

                    ไม่มีอะไรทำเลยแฮะ พี่คุณพูดขึ้นหลังจากที่ขับรถมาเป็นเวลาสักพักแล้ว ผมหันกลับไปมองคู่สนทนาที่กำลังมองไปยังเส้นทางเบื้องหน้าแต่ปากก็ยังไม่หยุดที่จะเปล่งคำพูดออกมา นี่อูยองเบื่อมั้ยเนี่ย?

                    เบื่อ... เบื่ออะไรครับ? ผมเลิกคิ้วถาม

                    ก็เบื่อที่พี่เอาแต่พูดยังไงล่ะ

                    ... ผมกลอกตาไปมา จะว่าเบื่อเหรอ... ไม่หรอก... ออกจะขำซะด้วยซ้ำ ไม่หรอกครับ... ผมชอบฟังที่พี่พูดนะ

                    ... ถึงจะหาสาระไม่เจอก็เถอะ... แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกหายเครียดจากการเรียนและเรื่องอื่นๆได้เป็นปลิดทิ้ง...

                    งั้นเราจอดรถก่อนดีกว่ามั้ย?

                    ก็ดีครับ... จะได้ไม่เปลืองน้ำมันด้วยอ่ะนะ

                    ว่าแล้วพี่คุณก็ขับรถไปจอดอยู่ที่ริมแม่น้ำ... ที่นี่สงบเงียบดี ไม่ค่อยมีผู้คนเดินสัญจรอยู่ซักเท่าไหร่นัก ผมเปิดประตูรถและเดินลงมาบิดขี้เกียจเล็กน้อย การนั่งอยู่ในรถนานๆมันก็ทำให้รู้สึกเมื่อยได้เหมือนกันแฮะ อ่า... ลมเย็นดีจัง

                    บรรยากาศดีเนอะ... ว่ามั้ย? พี่คุณว่าแล้วยื่นแขนออกมาพาดบ่าของผมไว้ เขาหันกลับมายิ้มกว้างให้กับผม อา... ใบหน้าของพี่คุณเนี่ยเวลาโดนแสงแดดในยามเย็นส่องกระทบแล้วดูดีจังเลยแฮะ ผมเองก็อยากจะหล่อแบบนี้มั่งจัง

                    นั่นสิครับ... ผมยิ้มตอบ ผมชอบสีท้องฟ้าในเวลาแบบนี้มากเลยนะ

                    เหมือนกับพี่เลย ไม่ใช่แค่ผมสองคนหรอกที่คิดอย่างนี้ ใครๆก็คิดอย่างนี้กันทั้งนั้นแหล่ะครับ... สีของท้องฟ้าในยามเย็นเวลามองแล้วให้ความรู้สึกสบายใจ แถมลมก็เย็นสบายดีด้วย ยิ่งอยู่ที่ริมแม่น้ำแบบนี้แล้วก็ยิ่งรู้สึกเย็นสบายมากขึ้นไปใหญ่ มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนกับเรานั่งขลุกอยู่ในห้องแอร์... แอร์ทำให้เรารู้สึกเย็นก็จริงแต่ว่าก็ทำให้เรารู้สึกอึดอัดได้เหมือนกันเพราะว่าในห้องขาดออกซิเจน อยู่ในที่โปร่งๆ... โล่งๆ... แบบนี้แหล่ะดีที่สุด

                    ผมสงสาร เธอคนนั้นจังเลย... ที่วันๆต้องนอนอยู่แต่ภายในห้องโล่งๆ... มีเพียงแค่หน้าต่างบานเดียวเท่าที่ทำให้เธอสามารถมองเห็นบรรยากาศข้างนอกได้...

                    พี่คุณครับ... หลังจากที่เราสองคนตกอยู่ภายใต้ความเงียบมาเป็นเวลานานผมก็พูดขึ้น วันนี้ผมอาจจะต้องกลับเร็วหน่อยนะครับ

                    อ้าว... ทำไมล่ะ พี่ยังเที่ยวกับด้งได้ไม่ถึงไหนเลยนะ พี่คุณแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนกับจะรู้สึกเสียดาย

                    ผมติดธุระนิดหน่อยน่ะครับ

                    แย่จัง... พี่คุณถอนหายใสจออกมาเสียยาวเหยียด วันนี้ด้งอุตส่าห์มีวันหยุดทั้งทีแต่พี่กลับยังไม่ค่อยจะได้ทำอะไรให้ด้งเลยน้า

                    ... ผมเหยียดยิ้มก่อนที่จะเอาหัวโขกกับหัวของพี่คุณที่อยู่ข้างๆเล็กน้อย ทำให้พี่คุณถึงกับสะดุ้งโหยงแล้วหันกลับมามองตาขวาง ผมหัวเราะคิกคักอย่างขำๆ จนพี่คุณที่เห็นเจ้าตัวการอย่างผมเอาแต่หัวเราะร่าต้องเป้ปากอย่างงอนๆ

                    ขำอะไร? ผมคุณถามห้วนๆด้วยท่าทางงอนๆ แหม... แกล้งพี่คุณเนี่ยมันสนุกดีจริงๆเลยน้า

                    ถามได้... ก็ขำพี่คุณน่ะสิ ฮ่าๆๆ ผมตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นยิ้มกว้างให้คนข้างๆ ถึงวันนี้จะไม่ค่อยได้ทำอะไรก็เถอะ... แต่ว่าผมก็สนุกมากเลยนะครับ

                    ... ทันทีที่ผมพูดตอบออกไปแก้มของพี่คุณกลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ... ไม่รู้ด้วยความเขินหรือว่าเพราะแสงอาทิตย์ส่องมากระทบกันแน่ทำให้เห็นเป็นแบบนั้น แล้วด้งจะต้องไปธุระแล้วเหรอ?

                    ครับ... จริงๆนี่ก็เลยเวลามาค่อนข้างมากแล้วนะ ผมก้มลงมองนาฬิกา... แต่ก็คงจะไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง

                    งั้นเดี่ยวให้พี่ไปส่งนะ พี่คุณเสนอ เดินทางไปคนเดียวมันอันตราย

                    พี่เนี่ยน่ารักที่สุด ผมยิ้มกว้าง... ผมเคยบอกไปแล้วรึยังว่าพี่คุณเนี่ยเป็นคนที่รู้ใจผมมากที่สุดเลย

                    พี่คุณมักจะเป็นคนที่คอยมาเทคแคร์ผมอยู่เสมอๆ... แต่รู้อะไรมั้ย... ผมเองก็มีหน้าที่ๆจะต้องไปเทคแคร์ใครอีกคนเหมือนกัน...

    ______________________________________________________________________________

    Talk with Writer :

    ในที่สุดก็ได้เขียนพาร์ทคุณด้งอย่างเต็มๆซะที แต่ว่านะ... คู่นี้เองก็มีปัญหาใหญ่ยักษ์เหมือนกัน (ถ้าให้รักกันแบบธรรมดาๆก็ไม่สนุกสิคะ คิคิ ^^)
    ลองเดากันดูนะคะว่า "เธอ" คนนั้นเป็นใครกัน? (ขอโทษนะคะที่ไรเตอร์ติดนิสัยชอบทำให้คนสงสัยจากเรื่องเก่า - -;)
    แต่ขอบอกเลยว่า "เธอ" คนนั้นเป็นคนที่น่าสงสารมากที่สุดในเรื่องอย่างแน่นอน
    พาร์ทหน้า... ในที่สุดเราก็จะได้รู้แล้วว่าพี่เจย์กับจุนโฮมีเบื้องหลังกันยังไง ติดตามนะ
    เม้นกันเยอะๆน้า เค้ารออยู่ อิอิ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×