ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่จิ้น The Movie (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #2 : ทำไมมันซวยอย่างนี้วะ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 57


    ตอนที่ 2 : ทำไมมันซวยอย่างนี้วะ

     

     

                ตอนนี้คำว่า ท่อนไม้’  ยังหลอนอยู่ในหัวผมอยู่ตลอดเวลา นี่มึงเป็นเจ้ากรรมนายเวรกูหรือไงฟะ ตอนเย็นผมพาตัวเองไปซ้อมที่ค่าย ไอ้อารมณ์หงุดหงิดไม่ยอมหายไปสักที พอผมมาถึงที่ห้องซ้อมทุกคนก็มากันหมดแล้ว ไอ้หวงมือเบส ไอ้นนท์มือกีต้าร์  ไอ้ธิวมือกลอง ที่พอมันเห็นผมเข้ามาก็บ่นที่ผมมาสายไม่หยุด จนผมต้องโยนถุงขนมไปให้มัน มันถึงจะหยุดบ่นแล้วใส่ใจกินขนมแทน ผมใช้มุกนี้บ่อย แล้วก็ได้ผลตลอด วันนี้ไอ้นนท์ทำหน้าหงอยมาอีกละ แต่ก็เห็นมันหงอยมาตั้งแต่ช่วงงานแถลงข่าววง Again แล้ว ถามก็บอกไม่มีอะไร ผมไม่เชื่อหรอก แม่งเรื่องปัญหาหัวใจชัวร์ นี่คนอย่างมึงยังมีปัญหาหัวใจอีกเหรอวะ หน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี ใครมาหักอกมันนี่ถือว่าโง่มาก พอมาถึงครบกันแล้วก็ลงมือซ้อมกันตามลิสต์เพลงที่จะใช้ในช่วงนี้

     

                กว่าจะซ้อมเสร็จก็ 2 ทุ่ม ทำเอาเหนื่อยเลยทีเดียว ช่วงนี้ไม่ไหวเลย ไม่ค่อยฟิต สงสัยไม่ค่อยได้ออกกำลัง นี่ก็โดนไอ้นนท์บ่นว่าไม่มีสมาธิ ใครมันจะไปมีได้ล่ะ คำว่า ท่อนไม้ ท่อนไม้ ลอยอยู่ในหัวตลอด ผมว่าผมคงต้องไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ละ ผีไอ้เชนมากระซิบข้างหูตลอด

     

                “เห้ย พวกมึงไปก่อนนะ เดี๋ยวกูมา”  ไอ้นนท์เอาอีกละ ชอบหายไปช่วงนี้แป๊บนึง บางครั้งก็หายหัวไปเลย แต่ส่วนใหญ่ถ้ามันกลับมา ก็จะมาพร้อมสีหน้าเศร้าทุกครั้ง ผมล่ะสงสัยมันไปทำอะไรมา

     

                นั่นไงเดินกลับมาละ วันนี้ทำหน้าเศร้ากลับมาเหมือนเคย พวกผมยืนรอมันอยู่ตรงลิฟท์ คิดว่าถ้ามันมาช้าอีกนิดจะชิ่งกลับกันก่อน

     

                “มีไรบอกกูได้นะเว้ย”  ผมถามมันตอนที่ลงลิฟท์มาพร้อมกัน ไอ้พวกที่เหลือมันจอดรถไว้ชั้นก่อนหน้านี้แล้ว ก็เลยเหลือผมกับไอ้นนท์ที่จอดรถไว้ชั้นเดียวกัน

     

                “ขอบใจว่ะ ไว้ถ้ากูพร้อมกูจะเล่าให้ฟัง”  ตอบแบบนี้อีกละ ผมล่ะเซ็ง แต่ก็เออเอาเหอะ ถ้ามันอยากจะเล่าเดี๋ยวมันก็จะบอกเอง

     

                “สู้ๆ เว้ยเพื่อน”  ผมตบบ่ามันไป 2 ที มันก็หันมายิ้มแล้วถามต่อ

     

                “ได้ยินมาว่ามึงจะเล่นหนังเรื่องใหม่”  ข่าวมาเร็วจริงๆ คนอย่างไอ้ธิว ถ้าไม่ได้เล่าสงสัยจะอ้วกออกมาเป็นเลือด ผมก็พยักหน้าตอบไอ้นนท์ไปส่งๆ ไม่อยากให้มันถามต่อ

     

                “เห็นธิวมันบอกว่าหนังเกย์เหรอ”

     

                “เชี่ยยย!!! เขาเรียกว่าหนังรักโรแมนติก ชาย ชาย”  ผมฟังคำว่าหนังเกย์แล้วรู้สึกไม่ดีชอบกล ไงก็ขอแก้ตัวสักหน่อยละกัน ไอ้นนท์ขำใหญ่ เออ ใช่สิมึง มึงไม่ลองมาเป็นกูมึงไม่เข้าใจหรอก

     

                ผมล่ำลาไอ้นนท์เสร็จก็เดินไปที่รถ Audi A6 Coupe คู่ใจ ที่ใช้มารยาแสนล้านเล่มเกวียนแลกมา กว่าจะขอให้เตี่ยซื้อให้ได้ เล่นเอาอ้อนจนเหนื่อยเลยทีเดียว แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวขึ้นรถ

    “ตื่อดือดึ๊ง” เสียงไลน์ก็ดังมา พอเปิดขึ้นดู ไอ้ธิวทักมา

     

                Matthew BF :

    มึงดูนี่

                                                    ดูไรวะ

              Matthew BF :

    (ไอ้ธิวส่งรูปมาครับ ผมมองไกลๆ ก็เห็นเหมือนมันถ่ายแค็ปหน้าจอเว็บมาให้ดู)

     

                ผมกดเปิดดูรูป รอโหลดสักพัก พอรูปขึ้นก็ทำเอาผมเกือบทำโทรศัพท์ตก

     

                เจ๋ง Black Flag ทุ่มสุดตัวเล่นหนังชายชาย ลั่นกวาดทั้งเงินทั้งกล่อง

     

                ข่าวทำไมมันไปเร็วอย่างนี้วะ ซวยแล้วไงไอ้เจ๋ง เล่นประกาศไปซะขนาดนั้น เพราะความโมโหแท้ๆ ทำไมตอนนั้นไม่สงบสติอารมณ์บ้างวะ กี่ครั้งแล้วที่ต้องมารับกรรมเพราะความไม่มีสติของกูแท้ๆ ทีแรกไอ้ที่ประกาศไว้ก็กะว่าจะพูดไปอย่างนั้น แต่คราวนี้เห็นทีจะไม่ได้ล่ะสิ ข่าวออกมาขนาดนี้ ขืนทำไม่ได้ โดนด่าทั้งประเทศแน่ๆ เชี่ยเอ้ย ช่วงนี้ดวงตกหรือไงวะ ซวยซ้ำซวยซ้อนอยู่ได้

     

                But it was not your fault, but mine and it was your heart on the line
    (เสียงเพลง Little Lion Man ของ Momford & Son ดังจากมือถือ ทำเอาผมตกใจ)

     

              พี่แบงค์โทรมา มึงเห็นข่าวแล้วล่ะสิ นี่มึงจะโทรมาสมน้ำหน้ากูใช่มั้ย

     

                “เห้ย เจ๋ง มึงเห็นข่าวยังวะ”  เสียงพี่แบงค์มึงดูสะใจกูสุดๆ

     

                “อืม....”  ไม่รู้จะตอบอะไรจริงๆว่ะพี่แบงค์ กูเหนื่อย

     

                “หนังแม่งดังตั้งแต่ยังไม่ฉายเลยว่ะ ประหยัดงบโปรโมทไปได้โขเลยมึง ขอบใจเว้ย”  ฟังแล้วเจ็บครับ ไอ้เชี่ยพี่แบงค์นี่มึงหากินกับน้องกับนุ่งได้นะ

     

                “ไอ้ที่รวมหัวกันหลอกผม ยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ” 

     

                “ใครหลอก กูไม่ได้หลอก กูแค่บอกว่าลองใช้วิธีนี้ดู ก็ไม่คิดว่าไอ้เชนมันจะทำจริง”  มึงไม่ต้องโบ้ยไอ้เชี่ยพี่แบงค์

     

                “สมใจพี่แล้วล่ะสิ หลอกผมมาได้เนี่ย”  ผมก็อยากจะโกรธไอ้พี่แบงค์เหมือนกันนะ แต่แม่งมันเป็นคนมีบุญคุณกับผมไง มันเป็นคนชวนผมไปเล่นหนังจนโด่งดัง ไม่พอ MV วงผมแต่ละตัวมันก็มาช่วยกำกับให้ แถมคิดค่าตัวถูกๆ ทั้งๆที่ค่าตัวมันแม่งแพงกว่าค่าทำ MV อีก  แต่เอาจริงๆ ที่ผมไม่อยากโกรธมันก็เพราะความเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องกัน

     

                “มึงอย่าโกรธกูเลยนะ บทนี้มันเหมาะกับมึงสุดๆว่ะ เอาจริงๆนะถ้ากูไม่ได้มึงมาเล่นบทนี้ กูก็คงไม่กำกับ”  มึงจะติสต์อะไรขนาดนั้นวะ หลายคนละนะที่บอกว่าผมเหมาะกับบทนี้ คือตอนที่ต่อบทผมก็อ่านส่งๆไป ไม่ใส่ใจรายละเอียดอะไร ตอนนี้ก็เลยยังไม่รู้ว่ามันเหมาะกับผมยังไง

     

                “เออๆๆๆ ผมเข้าใจ ไม่งั้นพี่คงไม่ลงทุนมาหลอกผมหลายตลบแบบนี้หรอก”  ผมได้ยินพี่แบงค์หัวเราะใหญ่ แต่กูไม่ค่อยมีความสุขกับมึงเท่าไรวะ

     

                “แล้วมึงบอกที่บ้านยังวะ” 

     

                “ชิบหายแล้ว!!!!!!!!!”  ผมยังไม่ได้บอกที่บ้านเลย จริงๆบ้านผมก็ไม่ได้หัวโบราณอะไรหรอกครับ เรื่องแบบนี้เขาเข้าใจว่ามันเป็นงาน แต่ที่ผมตกใจคือ

     

                “ผมเพิ่งสัญญากับเตี่ยไว้ว่า อย่าทำตัวให้เป็นข่าวอีก เตี่ยเลยซื้อรถใหม่ให้ ถ้าเตี่ยเห็นข่าวเข้าล่ะก็มีหวัง ลูกชายผมโดนเตี่ยยึดแน่ๆ”   ก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างโดนข่าวเรื่องไปกิ๊กกับคนนั้น ควงกับคนนี้อยู่บ่อยๆ ก็คนมันเสน่ห์แรงอะครับ จะให้ทำไงได้  แต่ที่ทำเอาที่บ้านกุมหัวคือ โดนจับตรวจฉี่ ผมไม่ได้เล่นยานะครับ แต่ตอนนั้นซวยไปกินเหล้าแล้วตำรวจมาจับยาเสพติดผมก็เลยโดนลูกหลงไปด้วย ข่าวก็บอกว่า เจ๋งBlackFlagซ่าไม่ออก โดนจับตรวจฉี่ อ้าว ทำไมเป็นงั้นวะ ผมก็ให้ตรวจแบบแมนๆเลยนะ ข่าวก็เขียนไปได้ ทำให้เตี่ยกับม๊าโกรธสุดๆ แถมญาติๆก็ถามเตี่ยกับม๊าจนขี้เกียจตอบ ตอนนั้นเตี่ยเกือบจะไม่ซื้อรถให้แล้ว ผมเลยใช้ลูกอ้อนต่อรองว่าจะไม่ให้เป็นข่าวอีก เตี่ยก็เลยใจอ่อน แต่คราวนี้ ไอ้เจ๋งก็ไปทำวีรกรรมอีกแล้ว ผมจะทำไงดีล่ะทีนี้

     



     

     


     

                ผมไม่ยอมเสีย Audi ลูกรัก ไปแน่ๆ วิธีเดียวที่จะทำได้คือหลบหน้า เตี่ยกับม๊าสักพัก ผมเลยตัดสินใจหนีมาอยู่คอนโดที่ผมซื้อไว้ด้วยเงินจากการทำงานวงการบันเทิง เตี่ยกับม๊าไม่รู้หรอกว่าอยู่ที่ไหน ผมซื้อที่นี่ไว้ก็เพื่อการนี้แหละ

     

                ผมขับรถมาจอดที่จอดรถแล้วก็ขึ้นลิฟท์มาชั้น 15 ฝั่งซ้ายสุดของตัวตึก จะมีห้องแค่ 2 ห้องตรงข้ามกัน จริงๆผมก็อยากจะซื้อทั้ง 2 ห้องไว้เลยเพราะว่าไม่ชอบให้ใครมาอาศัยใกล้ๆ แต่ ตังไม่พอขอซื้อห้องเดียวไปก่อน แล้วเดี๋ยวเก็บตังได้จะซื้ออีกห้องละกัน

     

                อืม....แล้วนี่ห้องผมคือห้องไหนกันนะ 1501 หรือ 1502 ทำไมผมความจำปลาทองอย่างนี้เนี้ย เฮียเจ้า พี่ชายผม ก็เก่งนะบริหารงานแทนเตี่ยได้สบาย จบบริหารจากเมืองนอก เจ๊จินพี่สาวคนรอง ก็เป็นหมอ แต่ทำไมไอ้เจ๋งถึงโง่อย่างนี้วะ กะอีแค่เลขห้องที่ตัวเองซื้อยังจำไม่ได้ เอาวะ มั่วเอา ห้องไหนเปิดได้ก็ห้องนั้นแหละ

     

                เริ่มจากห้อง 1501 ก่อนละกัน ผมหยิบกุญแจห้องมาเสียบเข้าไป มันก็เสียบได้นี่หว่า ไหนลองบิดดู เหมือนจะได้ แต่ไม่ได้ หรือว่าไม่เข้าล็อค ไหนลองบิดดีๆให้ลงล็อค

     

                “แขรก!” เห้ย เปิดแล้วเว้ย แต่เอ๊ะ ทำไมในห้องถึงมีแสงออกมา แถมยังมีลมแอร์ออกมาด้วย ผีหลอกหรือเปล่าวะ หรือว่า มีขโมย

     

                “มีธุระอะไร”  เสียงคุ้นๆ ผมเงยหน้าไปมองเจ้าของเสียง หน้าก็คุ้นๆ ผมยาวๆ ตอนนี้มัดไว้แล้ว เออดีแล้วแหละมึงจะไม่ได้รกรุงรังเหมือนตอนเช้า เชี่ย นี่มึง

     

                “เห้ย!  นี่มึงมาอยู่ห้องกูได้ไงวะ!!!!!!!!”  ผมแหกปากเสียงดังด้วยความตกใจ ไอ้เชนดูจะไม่ไหวติงใดๆ มึงเป็นคนหรือว่ารูปปั้นวะ

     

                “นี่มันห้องผม คุณนั้นแหละ จะมางัดห้องผมเหรอ” ไอ้เชนมันแสดงสีหน้าหน่ายผมครับ นี่มึงรำคาญกูเหรอ

     

    “มั่วละ นี่ห้องกูชัดๆ” 

     

    “คุณแน่ใจเหรอว่านี่ห้องคุณ”  ถามทำไมวะ ก็เห็นอยู่ว่าผมไขกุญแจแล้วประตูมันก็เปิดออก

     

    “ทำไมจะไม่ใช่วะ นี่ไงกุญแจห้อง เดี๋ยวกูไขให้ดู”  มันติดครับ ไม่เห็นจะไขได้ เสียบเข้าไปได้นะ แต่ไม่ยักกะบิดได้ ไอ้เชนมองหน้าผมอย่างรำคาญแล้วก็กดล็อคข้างใน จากนั้นมันก็บิดประตู ผมยังงงไม่เข้าใจที่มันทำ มันคงเห็นผมทำหน้าเอ๋อ ก็เลยคว้ากุญแจจากมือผมแล้วเดินไปหน้าห้อง 1502 เสียบกุญแจเข้าบิดทีเดียว ประตูห้อง 1502 เปิดออกทันที ผมเลยฉลาดทันใด

     

    “ถ้าโง่ขนาดจำเลขห้องไม่ได้ ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อห้องนะครับ เอาเงินไปซื้ออาหารบำรุงสมองดีกว่า” พูดจบมันเดินเข้าห้อง ปิดประตู แล้วก็ล็อคห้องเสียงดัง นี่กูผิดอะไรวะ ก็กูจำไม่ได้ คนเรามันก็ต้องมีเรื่องให้จำมากกว่าเลขห้องหรือเปล่าวะ ทำไมต้องมาด่าว่ากูโง่ด้วย

     

    “ตึงๆๆๆๆๆ”  ผมไม่ยอมครับ มาด่ากันแล้วเปิดตูดหนีแบบนี้ ยอมไม่ได้ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับไอ้เจ๋ง ผมเลยเคาะประตูห้องไอ้เชนเสียงดัง

     

    “ตึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  เอาให้มันอยู่ไม่เป็นสุขเลย ไม่ต้องหลับต้องนอนกันแล้ว แต่นี่มันก็นานแล้วนะ ผมเคาะจนเริ่มเจ็บมือละ

     

    “ขอโทษนะครับ กรุณาอย่ารบกวนคนอื่นยามวิกาลนะครับ”  พี่ยามเดินมาบอกผมอย่างอ่อนน้อม แกคงจำผมได้ว่าเป็นเจ้าของห้องของที่นี่ นี่ถ้าแกจำผมไม่ได้ผมคงโดนด่าเปิง ดีไม่ดีอาจจะถูกโยนออกจากคอนโดเลยก็ได้ เพราะพี่ยามแกตัวใหญ่มาก แถมหน้าโหดอีกด้วย

     

                “แหะๆๆๆ ขอโทษครับ”  หน้าจ๋อยไปเลยสิไอ้เจ๋ง ผมหยุดเคาะแล้วก็เดินกลับห้อง ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เชน

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×