คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : จะมีวันไหนที่สงบสุขบ้างวะ
ตอนที่ 11 : จะมีวันไหนที่สงบสุขบ้างวะ
ผมไม่รู้หรอกว่าทางโรงแรมจะไปหา ส้มตำ ปูปลาร้า ข้าวเหนียว ไก่ย่างมาให้ผมได้หรือเปล่า แต่ที่รู้คือผมสะใจมากที่เห็นไอ้ยุทธอายจนทำอะไรไม่ถูก คนรับออเดอร์ทำหน้างงๆ แต่ด้วยความที่ไอ้ยุทธเป็นหุ้นส่วนของโรงแรมนี้ ซึ่งคนรับออเดอร์ก็คงรู้จักมัน พอไอ้ยุทธคะยั้นคะยอให้ไปหาเซ็ตส้มตำที่ผมสั่ง เค้าก็เลยต้องก้มหน้ารับกรรมไปหาให้ ขอโทษนะพี่คนรับออเดอร์ ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ (เหรอวะ)
ตอนนี้เจ๊ส้มขมุบขมิบปากด่า แถมส่งสายตาอำมหิตมาให้ไม่หยุด แต่คนอย่างไอ้เจ๋งคิดว่าจะเดือนร้อนหรือไง ผมทำหน้าตายียวนกลับไป อีเจ๊ยิ่งเดือด ทำท่าจะลุกมาหาแต่พอคุณจรุงจิตหันไปคุยด้วยก็ต้องแอ๊บยิ้มคุยปกติ
“เรื่องมากจริงๆเลยนะ คุณเซเลบ” ผมว่าผมก็ไม่ได้เรียกมันนะ แต่ทำไมไอ้ยุทธย้ายมานั่งข้างๆผมวะ
“ปกติก็ไม่เป็นคนเรื่องมากนะ พอดีเหม็นขี้หน้าคนแถวนี้ เลยอารมณ์ไม่ดี ก็อยากจะเรื่องมากสักหน่อย” แล้วนี่มึงจะขำทำไมวะ กูด่ามึงอยู่นะเว้ย แถมไม่พอมันยังขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้อีก
“เหม็นขี้หน้าเหรอ ไหนลองดมดูหน่อยดิ ว่าเหม็นจริงป้ะ” ไอ้เชี่ยยุทธมันยื่นหน้ามาใกล้ผมครับ แถมยังทำลอยหน้าลอยตาใส่อีก ผมล่ะอยากจะเอาส้อมจิ้มตามันจริงๆ
“เห้ย!.....กวนตีนละ เขยิบออกไปเลยนะมึง กูไม่ชอบ” อุตส่าห์อดทนจะไม่พูดหยาบกับมันละนะ แต่ทนไม่ได้จริงๆ เอ้า แล้วนี่ทำไม กูยิ่งพูดหยาบใส่แม่งก็ยิ่งทำหน้าระรื่น โรคจิตป่าววะ
“น่ารักดี จีบได้ปะ”
“เชี่ย!!!!!!!!!!!!!” สงสัยจะตกใจดังไปหน่อย เจ๊ส้มกับคุณจรุงจิตที่กำลังคุยกันเรื่องเครื่องสำอาง เลยหันขวับมามองทันที แล้วนี่ไอ้ยุทธมันขยับเก้าอี้ออกไปตอนไหนเนี่ย ปล่อยให้ผมกลายเป็นจุดสนใจอยู่คนเดียว แล้วนี่ทำไมไอ้ยุทธมันถึงพูดแบบนั้น มันแค่อยากจะกวนตีนหรือว่ามันคิดจริงๆ แต่ดูทรงแล้วไอ้ยุทธก็ไม่น่าจะเป็นเกย์นะ หน้าตาเพลย์บอย ตาเยิ้มสาวหลงขนาดนั้น แถมมันก็เคยมีข่าวควงสาวอยู่ตลอด สงสัยมันกวนตีนชัวร์ ไอ้ยุทธมึง ทำแสบจริงๆ ทำเอาตกใจหมด
“มีอะไรเหรอจ๊ะน้องเจ๋ง” เจ๊ส้มมึงไม่ต้องปั้นเสียงพูดดีกับกูก็ได้ กูรู้ว่ามึงอยากจะฆ่ากูหมกใต้โต๊ะอยู่ตลอดเวลา
“อ่อๆ เหมือนจะได้ยินเสียงหมาขี้เรื้อนเห่าอะ เลยตกใจ แต่สงสัยจะหูฝาด” ผมจงใจพูดคำว่าหมาให้ไอ้ยุทธได้ยิน ซึ่งก็ได้ผล มันหันมายิ้มให้แต่สายตาก็มองแบบฝากไว้ก่อน ผมทำเป็นไม่สน แล้วนี่ทำไมชีวิตผมช่วงนี้ต้องมาเจอแต่เรื่องแบบนี้เนี่ย แค่ต้องไปเล่นหนังรัก ชาย ชาย ผมว่ามันก็ทำชีวิตผมเป๋แล้วนะ นี่ยังต้องมาเจอคนจ้างงานจีบอีกเหรอเนี่ย ถ้าผมเดินออกจากตรงนี้ได้ผมคงทำไปละ แต่ก็กลัวอีเจ๊จะถลกหนังหัวเอา เลยต้องฝืนทนนั่งรอ ส้มตำ ที่ผมก็ไม่รู้ว่าจะหามาได้หรือเปล่าต่อไป
อาหารของทุกคนก็มาหมดแล้ว ยกเว้นของผม แน่นอนอยู่แล้วดิ มันไม่มีในเมนูนี่หว่า อีกอย่างโรงแรมหรูขนาดนี้จะมีเมนูตำปูปลาร้าได้ไง ดีเลยผมจะได้ขอตัวกลับ อยู่ที่นี่รู้สึกอยากจะต่อยไอ้ยุทธอยู่ตงิดๆ
“ขอโทษที่ให้รอครับ” ไม่นานพนักงานโรงแรมก็เอาส้มตำปูปลาร้า ข้าวเหนียว ไก่ย่าง มาเสิร์ฟ ผมถึงกับอึ้งเลยครับ ไม่คิดว่าจะได้กิน ไอ้ยุทธยิ้มอย่างผู้ชนะ เจ๊ส้มพยายามปั้นยิ้มดีใจด้วยจนหน้ากระตุก ส่วนคุณจรุงจิตก็ยิ้มน้อยๆแล้วทานสเต๊กอย่างเรียบร้อย ส่วนผมน่ะเหรอ ของชอบมาแล้วจะเกรงใจทำไมล่ะ รีบโซ้ยส้มตำทันที เอาจริงๆ รสชาติก็ใช้ได้นะเนี่ย ผมเลยกินไม่มีเขิน ไอ้ยุทธเห็นผมก็ขำใหญ่ ทำไมวะก็กูชอบของกู
ทุกคนทานกันเสร็จหมดแล้ว แต่ผมยังคงตั้งใจตักมะละกอในส้มตำทุกชิ้นเข้าปาก อย่าให้เหลือสิ อร่อยขนาดนี้ เจ๊ส้มเคาะโต๊ะยิกๆ ดูเจ๊แกคงร้อนใจที่ผมยังกินไม่เสร็จ คุณจรุงจิต ขอตัวกลับไปทำงานที่ค้างก่อน ส่วนไอ้ยุทธน่ะเหรอ นั่งมองผมกินอย่างกับไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“น้องเจ๋งจ๊ะ รีบทานหน่อยก็ดีนะจ๊ะ พอดีพี่มีธุระต้องไปต่อ” เจ๊ส้มดูรีบจริงๆ โอเควะ ไม่กินแล้วก็ได้ แต่ขอกินคำนี้ให้เสร็จก่อนละกัน
“ถ้าคุณส้มรีบไปทำธุระ ผมว่าไปก่อนได้นะครับ” เข้าทางอีเจ๊เลยสิ ไม่ได้ละ ผมต้องรีบตักคำนี้เข้าปาก อย่าเพิ่งทิ้งกูนะอีเจ๊
“โอเคค่ะ น้องเจ๋งพี่ไปก่อนนะ” เห้ย อีเจ๊ มึงไม่รอกูเลยนะ พูดจบมันก็หยิบกระเป๋าเหลืองแล้วลุกเดินออกไปเลย ผมไม่ทันได้บอกให้เจ๊ส้มรอ มันก็รีบเชิดเดินหนีไปไกล คือทำไมต้องทิ้งผมให้อยู่กับไอ้โรคจิตนี่ด้วยเนี่ย
“อร่อยป้ะ” นี่มึงจะมาไม้ไหนเนี่ย ผมรีบดื่มน้ำอย่างเร็ว เตรียมตัวลุกจะเดินตามอีเจ๊ไป
“กินของหวานก่อนมะ” ไอ้ยุทธดึงผมให้นั่งลงที่เดิม อะไรวะ นี่มึงจะอะไรกับกูนักหนา
“ไม่กิน จะกลับแล้ว” ผมไม่สนหรอกว่ามันจะดึงหรือหลอกล่อผมด้วยอะไรก็ตาม ผมลุกขึ้นอีกรอบ ผละตัวออกจากโต๊ะ ไม่สนว่าไอ้ยุทธมันจะพูดอะไรต่อ แต่มันก็ยังตื๊อไม่หยุด เดินตามผมมาด้วย
“งั้นเดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่ต้อง! ... กูเอารถมา” อะไรของมันนักหนาเนี่ย ผมเลยรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น แต่ไอ้ยุทธก็ยังเดินตามมาติดๆ
“รถจอดอยู่ไหนล่ะ” เซ้าซี้จังเว้ย ไม่ตอบแม่ง ผมเงียบตั้งใจเดินไปไม่สนว่ามันจะถามอะไรต่อ
นี่มึงเกิดมาเพื่อทำตัวน่ารำคาญใช่ไหมเนี่ย แล้วมึงจะเดินตามไปถึงเมื่อไร ทำไมกูถึงจอดรถไว้ไกลจังวะ
“ตามกูมาทำไมเนี่ย” ผมทนรำคาญไม่ไหว เลยหยุดถามมันตรงๆ
“ก็อยากรู้จักมากกว่านี้” บ้าไปแล้ว สงสัยดมกลิ่นปลาร้าในจานส้มตำผมจนบ้าไปแน่ๆ
“มึงคิดอะไรกับกูปะเนี่ย” ไอ้เจ๋งเริ่มโมโหแล้วครับ เลยทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่มันไป
มันไม่กระเทือนเลยครับ ยังหน้าด้านยิ้มกวนอยู่ได้แถมยังตอบอีกว่า
“ก็ชอบอะ น่ารักดี จีบได้ป้ะ” ตอนแรกผมก็นึกว่ามันแค่อยากกวนตีนผม แต่มาถึงตอนนี้แล้ว ผมว่ามันเอาจริง
“สัด นี่มึงเป็นเกย์เหรอวะ” ผมรีบถอยหนีมันทันที
“ก็ไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน แต่เห็นเจ๋งแล้วชอบ น่ารักดี เลยจะลองจีบดู” อะไรของมันวะ ไอ้นี่แม่งวิปริต โรคจิตเกินไปละ ไม่ไหวๆ กูก็ตัวผู้เหมือนมึง มึงจะมาพิศวาสอะไรกูเนี่ย
“กูไม่ได้เป็นเกย์เว้ย ไม่ต้องมายุ่งกับกูเลย” ในที่สุดก็ถึงรถสักที กุญแจอยู่ไหนวะ จะได้รีบไปจากที่นี่เสียที ปวดหัวกับไอ้นี่เต็มทน
“ก็รู้ว่าไม่เป็น แต่ชอบอะ อยากได้เป็นแฟน” ไอ้ยุทธ มึงดูน่ากลัวไปละ ไม่อยู่แล้วดีกว่า ผมรีบเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งทันที สตาร์ตรถแล้วเร่งเครื่องเตรียมจะออก แต่ว่าไอ้ยุทธก็ยืนส่งยิ้มกว้างมา ไม่พอยังยักคิ้วข้างซ้ายให้อีก ผมเห็นแล้วขนลุกเลย โอยๆๆๆ นี่ผมต้องมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ แถมต้องทำงานกับแบรนด์ของมันไปอีกเป็นปี ชีวิตไอ้เจ๋งมันจะมีวันไหนที่ปกติสุขกับเขาบ้างวะ
หลังจากวันนั้นไอ้ยุทธก็กระหน่ำส่งข้อความมาทุกวัน แต่ละอย่างที่มันส่งมาเนี่ย อ่านแล้วอยากจะอ้วก
“กินข้าวยังครับที่รัก....เชี่ย แหวะ พี่ยุทธเอาจริงเหรอวะเนี่ย” ผมให้ไอ้ธิวอ่านข้อความที่ไอ้ยุทธส่งมาให้ ไอ้ธิวทำท่าขนลุก แถมดูไม่เชื่อ ตอนแรกผมเล่าให้มันฟัง มันยังหาว่าผมมั่ว จนต้องเอาข้อความมาให้มันอ่าน วันนี้วงผมมีซ้อมครับ คือจริงๆก็ซ้อมเสร็จแล้ว แต่พอผมเอาเรื่องที่ยุทธมาเล่าให้ฟังเท่านั้นแหละ หูผึ่งอยากรู้กันทุกคน แม้แต่ไอ้นนท์ก็ยังมาร่วมแจมกับเค้าด้วย
“ที่พี่เค้าควงสาวๆออกงาน มึงว่าเนียนจีบหญิงป่าววะ” ไอ้หวงถามหน้าจริงจัง คือหน้ามึงก็แก่อยู่แล้วนะหวง ยิ่งมึงทำหน้าจริงจังอายุมึงล้ำไปเป็นทวดได้เลยว่ะ ไอ้ธิวขำไปด้วยตอนที่ค่อยๆเลื่อนดูข้อความที่ไอ้ยุทธกระหน่ำส่งมาทุกวันหลังอาหารและก่อนนอน วงผมรู้จักไอ้ยุทธดีครับเพราะว่าเคยไปเล่นคอนเสิร์ตเปิดบริษัทให้กับมันมา แต่ผมไม่ค่อยชอบมันเท่าไรเลยไม่คุยเล่น และสนิทเท่ากับไอ้ธิวหรือว่าไอ้หวง ไอ้สองตัวนั้นสนิทถึงขั้นไปกินเหล้ากับเขาบ่อยๆ
"แล้วนี่เขาเข้ามาจีบมึงตั้งแต่เมื่อไร" ไอ้นนท์ถาม หลังๆมานี้ไอ้นนท์มันครึกครื้นขึ้นกว่าช่วงก่อนเยอะเลย สงสัยทำใจได้แล้วมั้ง แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร แหะๆ
"อย่ารีบว่าจีบได้มั้ยวะ กูฟังแล้วขนลุก" ไอ้นนท์ฟังผมพูดจบมันก็ยิ้มกว้าง ขำให้ผม มึงก็เป็นไปกับเขาอีกคนเหรอว่านนท์
“กูว่าไม่น่าใช่นะ พี่ยุทธแม่งหน้าหม้อสุดๆ ฟันหญิงเป็นว่าเล่น” ไอ้ธิวละสายตาจากมือถือผมแล้วเริ่มโยนบทสนทนาเข้ามาในวง
“แล้วแม่งมายุ่งกับกูทำไมวะ”
“มึงไปอ่อยเขารึป่าว” ปากหมาๆอย่างนี้มีเชี่ยธิวคนเดียวครับที่พูด
“ป้าบ!!!” ผมตบเหม่งไอ้ธิวไปทีนึง “อ่อยป้ามึงสิ” อารมณ์เสียครับ ใครจะไปอ่อยมันลง เป็นผู้ชายเหมือนกันแถมยังชอบกวนตีนอีก ไอ้ธิวได้แต่ลูบหัว ขำหึๆ
“หรือว่า พี่ยุทธจะเบื่อหญิงแล้วมาลองชาย แต่มันเบื่อกันได้เหรอวะ” ไอ้หวงวิเคราะห์อีกครั้ง แต่เอาจริงๆมึงไม่ต้องคิดหาเหตุผลให้มันหรอก กูว่าไอ้ยุทธมันบ้า
“แล้วพวกมึงเคยเบื่อหญิงแล้วอยากลองจีบชายบ้างไหมล่ะ” ผมพูดจบ ไอ้ธิวก็ส่ายหัวแรง ทำท่าทางขนลุก ไอ้หวงขำเสียงดังตอนเห็นท่าไอ้ธิว ส่วนไอ้นนท์ก็ได้แต่ยิ้มก้มหน้า
“ไม่ว่ะ กูทางตรงอย่างเดียวเว้ย ไม่เลี้ยวไปทางอื่น” ไอ้ธิวทำหน้ามั่นนะมึง เห็นละหมั่นไส้
“ไม่เลี้ยวไปทางอื่นจริงเหรอคะ พี่ธิวขา” ผมเลยพูดหวานพลางซบ และกระแซะไอ้ธิว
“เชี่ยมึง!!! กูจะอ้วก” ไอ้ธิวรีบขยับตัวหนีทันที ผมได้ทีเลยกระเถิบเข้าไปกอดคอมัน ไอ้หวงหัวเราะใหญ่ จนเกือบทำเบสตก
“จะหนีไปไหนคะพี่ธิว” ไอ้ธิวรีบสะบัดแขนผมทิ้งแล้ววิ่งไปหลบอยู่หลังไอ้นนท์ที่กำลังนั่งเช็ดสายกีต้าร์อยู่
“ไอ้เชี่ยเจ๋ง กูไม่เล่น” ไอ้ธิวขนลุกจริง ผมเห็นแล้วสะใจ ว่าจะเข้าไปแกล้งมันอีกที
“ตึ๊ง ตึ่ง” เสียงข้อความเข้ามือถือผมครับ ไอ้สัดธิวแม่งทำมือถือผมตกพื้น เลยต้องก้มลงไปหยิบมาดู นี่ถ้ามือถือกูเป็นอะไรนะ กูะเอาเหรียญไปขูดรถมึงเลยคอยดู
“ฮั่นแน่....พี่ยุทธส่งมาอีกแล้วอะเดะ ไหนกูขอดูหน่อย” ไหนมึงกลัวกูไงวะ พอเรื่องเสือกนี่รีบลืมกลัว วิ่งหางตั้งมาหาเลยนะ
‘สี่ทุ่มเจอกันที่ห้อง ห้ามเลท’ เชี่ยละ ไม่ใช่พี่ยุทธว่ะ แต่กลับเป็นไอ้เชน ไอ้ธิวโผล่หน้ามาจะดู ผมเลยรีบลบข้อความทิ้งทันที
“เห้ย ทำไมวะ เมื่อกี้ยังให้ดูอยู่เลย ทำไมตอนนี้แม่งลบทิ้งวะ หรือว่าจะไม่ใช่พี่ยุทธ” เชี่ยธิวมึงจะเดาเพื่อ แล้วแม่งเสือกเดาถูกด้วยไง แต่ผมว่าตัวเองคงเก็บสีหน้าพิรุจไม่ได้ ไอ้ธิวเลยถามต่อ
“ใครส่งมาวะ ทำเป็นไม่บอกนะมึง ปกติมีอะไร ก็จะเล่าให้พวกกูฟังตลอด แต่นี่มีพิรุจเห็นๆ ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้ ว่าใครส่งมา” เรื่องสอดรู้เนี่ยกูมอบโล่ให้มึงเลยว่ะธิว เสือกตลอด ไอ้ธิวเซ้าซี้จนผมรำคาญ แต่คงไม่ใช่แค่ผมหรอกเพราะว่าไอ้หวงก็เริ่มเก็บเบสใส่เคสละ ใครจะไปทนฟังมันถามซ้ำๆว่า ‘ใครวะ’ ‘บอกหน่อย’ ได้เกินนาที เสียงโคตรน่ารำคาญ แถมเขย่าแขนผมไปด้วย
“เห้ย นนท์กูหิวข้าวว่ะ ไปแดกข้าวกันเหอะ” ไอ้นนท์ก็คงเริ่มรำคาญไอ้ธิวเหมือนกัน มันเก็บกีต้าร์ใส่กล่องแล้วรีบยกเดินออกไป ทุกคนเดินออกจากห้องปล่อยให้ไอ้ธิวที่ยังเก็บของไม่เสร็จอยู่ในห้องคนเดียว ซึ่งผมก็ได้ยินมันด่าตามหลังมาด้วย
โทดทีว่ะธิว คือบางเรื่องกูก็ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง
ความคิดเห็น