คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11 ค่ายอาสา :: หน้ากากของผู้ชายอย่างแบล็ค
เช้านี้เป็นเช้าวันใหม่ที่กันต์รู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้ออกค่ายกับชมรมอาสา ชมรมที่เขาใฝ่ฝันมานานว่าถ้าหากเข้ามหาลัยได้ไม่ว่าจะคณะไหนก็ตาม ก็ต้องลองไปกับชมรมนี้ดูซักครั้ง ทั้งเขายังโชคดีที่มีโอกาสได้เรียนในคณะนี้ เพราะกิตติศัพท์ของชมรมอาสารัฐศาสตร์ที่ขึ้นชื่อว่า โหด มันส์ ฮา
“พี่ฝนหลวง นัดล้อหมุนแปดโมงเช้าไม่ใช่เหรอ รู้งี้ผมนอนต่ออีกหน่อยดีกว่า” เขาบ่นกับพี่ผู้หญิงในคณะคนหนึ่ง พี่ฝนหลวงเป็นคนสวยมาก น่าเสียดายที่อ้วนมากด้วยเหมือนกัน แต่ก็เป็นคนยิ้มง่าย เข้าค่ายอาสาเป็นชีวิตจิตใจ
พี่นอร์ทเคยบอกว่า ผู้หญิงอาสา เป็นผู้หญิงต้นฉบับของผู้หญิงรัดสาด
อึด ถึก โหด หื่น...!!!!!!
“มึงคิดว่าหน้าอย่างคณะเราจะมาตรงเวลากันแค่ไหนวะ ไปช่วยพวกผู้ชายคนของไป ไอ้กันต์” ฝนหลวงตอบ ก่อนจะหันไปเช็คข้าวของที่ต้องเตรียมขึ้นค่ายอีกครั้ง
นอกจากงบชมรมแล้ว ชมรมอาสายังต้องใช้วิธีขอรับเงินและข้าวของบริจาค สถานที่ที่เป็นที่พึ่งที่สุดก็หนีไม่พ้นวัดวาอารามต่างๆ ทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ที่พร้อมใจกันบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง รวมถึงสังฆทานมาให้กับทางชมรมเป็นลำรถ
เจ้าอาวาสหลายๆ วัดเคยบอกกับกันต์ที่เคยติดสอยห้อยตามพี่ๆ ชมรมไปขอรับบริจาคว่า คนสมัยนี้นิยมทำบุญด้วยข้าวสารอาหารแห้ง แม้จะเก็บได้นานก็จริง แต่สุดท้ายวัดเองก็บริโภคไม่หมด ก็ต้องทิ้งไปอยู่ดี สู้เอามาให้ชมรมอาสา ที่งบน้อย และได้ใช้ประโยชน์ดีกว่า
เวลากว่าเก้าโมงครึ่งเข้าไปแล้วกว่าลูกค่ายจะมากันครบ ก้องซึ่งเป็นประธานค่ายตรวจตราความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนจะส่งสัญญาณล้อหมุน ให้รถสองคันค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป
“เก๋โคตร ผมเพิ่งเคยนั่งรถทหารนะเนี่ย” กันต์พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ยุ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เช่นกัน
“ตื่นเต้นไปเหอะ เดี๋ยวจะนั่งจนเบื่อ” ผ้าฝ้ายพูดขึ้น รถทหารคันนี้ ประกอบไปด้วยพี่ปี 3 ที่ทำหน้าที่เป็นคนทำค่าย และน้องปีหนึ่งอีกเกือบยี่สิบคน
“ทำไมล่ะฮะ” ยุ่งถามอย่างสงสัย
“ก็ตั้งแต่พี่ไปค่ายมาเกือบยี่สิบค่ายนะ ไม่เคยมีค่ายไหนที่นั่งรถน้อยกว่า 5 ชั่วโมง” ฝนหลวงตอบ
“ห๊ะ ห้าชั่วโมงเลยเหรอฮะ ทั้งๆ ที่อยู่ในเชียงใหม่เหมือนกันเนี่ยนะ”
“อื้ม พี่เคยไปค่ายนึง เดินทาง 9 ชั่วโมง ประหนึ่งเชียงใหม่กรุงเทพอ่ะ”
“มึงไหวมั้ย จะเมารถรึเปล่า” โอมหันไปถามร่างบางที่นั่งติดกับตน
“ไม่อ่ะ”
“แหม พวกมึงที่ห่วงกันดีจริงจิ๊ง เมื่อไหร่จะเปิดตัวซักทีวะ กูเป็นผู้ชมลุ้นตัวโกงแล้วเนี่ย” กันต์แซวเพื่อน ก่อนจะโดนร่างหนาข้างๆ ตบหัวเอา
“ไอ้แบล็ค กูเจ็บ”
“ถ้ากูไม่อยากให้มึงเจ็บ กูจะตบทำไมฮะ” แบล็คตอบ
“แบล็ค น้ำต้องเมื่อยแน่เลย” เสียงผู้หญิงข้างๆ แบล็คดังขึ้น ทำให้กันต์หันไปมอง เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าคุณหนูน้ำจะมาค่ายด้วย เพราะเท่าที่ดู เธอเหมือนจะไม่ชอบความลำบากอะไรทั้งนั้น ที่มาคงเพราะผู้ชายร่างหนาข้างๆ เขาล้วนๆ
‘เหอะ ห่างกันไม่ได้เลยนะ หวงขนาดนี้ ทำไมไม่จับใส่กรงไว้ที่บ้านวะ’
กันคิดในใจอย่างพลานๆ เขาไม่แน่ใจว่าน้ำรู้รึเปล่า แต่หลายๆครั้งที่กันต์ถูกหญิงสาวขัดขวางเวลาระหว่างเขากับแบล็ค จะบอกว่าเป็นเหตุบังเอิญก็คงจะเกินไป แต่จะบอกว่าหล่อนรู้เหรอ..
ไม่มีทางหรอก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้...
การนั่งรถนานอย่างที่รุ่นพี่ว่า ไม่นานคนบนรถก็ค่อยๆ หลับไปทีละคนสองคน กันต์แอบเห็นยุ่งที่กำลังซบไหล่โอมอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะชี้ชวนให้รุ่นพี่ที่มีกล้องถ่ายรูปไว้.. จะได้แบล็คเมย์พวกมันทีหลัง
ส่วนแม็คตั้งแต่ออกรั้วมหาลัยมายังคุยโทรศัพท์ไม่หยุด น่าจะชั่วโมงกว่าๆ ได้แล้ว
‘ถ้าโทรศัพท์มันระเบิดบึ้มตอนนี้ กูจะไม่แปลกใจ’
กันต์มองไปรอบๆ อีกครั้ง จนมาถึงร่างหนาข้างตัว ที่ตอนนี้มีหญิงสาวหนุนตักอยู่
“ง่วงรึเปล่า” แบล็คหันมาถาม “เดี๋ยวกูแบ่งตักให้มึงอีกข้าง”
กันต์มองไปยังน้ำที่หลับอยู่ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
‘ถ้ากูไม่ใช่คนเดียว กูก็ไม่เอาหรอก’ เขาได้แต่คิด แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป
“ไอ้กันต์ ถ้ามึงไม่นอน ก็มานั่งกับพวกกูมา” นอร์ทเรียก ทำให้เขาลุกขึ้นไปนั่งที่ด้านหลังรถ ทันทีที่กันต์เข้าร่วมวง แก้วพลาสติกที่ภายในมีเบียร์อยู่ก็ถูกยื่นมาตรงหน้าทันที
“ดื่มให้หมดละมึง ตอนนี้ปีหนึ่งก็มีแต่มึงแล้ว” พี่ก้องพูด กันต์หันไปมองแม็คที่ยังคงตื่นอยู่ มันชูมือเหมือนขอโทษเล็กน้อย ก่อนจะส่งภาษาปากมาบอกว่า เดี๋ยววางแล้วจะมาช่วย
“อย่ามอมน้องนะพวกมึง” ผ้าฝ้ายพูดขึ้น แม้ในมือจะมีแก้วที่มีน้ำสีเหลืองๆ เหมือนของเขา รวมถึงพี่ผู้หญิงอีกสามสี่คนด้วย
‘นี่ซินะ ผู้หญิงรัดสาด ที่เขาว่าคอแข็งนักหนา’ กันต์คิด และเขาได้เห็นก็วันนี้ ไม่ใช่แค่ผู้ชาย พวกพี่ผู้หญิงก็ดื่มอย่างกับเป็นน้ำเปล่าเหมือนกัน
ไม่นาน รถก็มาหยุดอยู่ที่ตลาดฮอด ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดท้าย ก่อนที่พวกเขาจะตรงไปที่อำเภออมก๋อย อำเภอที่ขึ้นชื่อว่าห่างไกลความเจริญมากที่สุดอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
พวกผู้ชายปี 1 ถูกปลุกให้ช่วยขนของขึ้นรถ ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีพี่ปี 3 อีกส่วนหนึ่งซื้อมาเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว
“เป็นไงมั่งนาว ได้ของครบมั้ย” ฝนหลวงถาม ผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งปีนขึ้นรถมา
“อืม ครบหมดแล้ว ดีนะที่มาก่อน” ผู้ชายคนนั้นตอบ ก่อนจะหันมายิ้มให้กันต์ตาหยี
...
‘เชี่ยเอ้ย โคตรน่ารัก’
ชั่วโมงนี้กันต์เชื่อแล้วว่าผู้ชายน่ารักเหมือนผู้หญิงมีจริง ไอ้ยุ่งที่ว่าน่ารักแล้ว ยังเทียบคนตรงหน้าเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ผู้ชายสมัยนี้มันเป็นอะไรกันหมดวะ
“นี่น้องกันต์ ปี 1 กันต์นี่พี่มะนาวนะ รุ่นเดียวกับพี่” ผ้าฝ้ายแนะนำ
“พี่มะนาวน่ารักขนาดนี้ ไอ้พี่พวกนี้มันไม่หลงเสน่ห์แย่เหรอฮะ” ไวเท่าความคิด ปากพาจนของเขาก็ถามขึ้น ทำเอาทั้งพี่ผู้ชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ พร้อมใจกันตบหัวเขา
“โอ้ยพี่ ผมเจ็บ ทำไมชอบมีแต่คนตบหัวผมนักวะ”
“ก็ปากมึงมันเป็นซะแบบนี้” ยิม พี่ปีสามอีกคนนึงพูด กันต์ได้แต่ยักไหล่แล้วยิ้มให้พี่ๆ
“ตอนแรกพวกกูบางคนก็คิดเว่ย แต่พอได้เป็นเพื่อนเท่านั้นแหละ ก็เป็นเพื่อนเลย เลิกคิด” นอร์ทพูด
“น้องนี่ตรงดีชะมัด” มะนาวพูดพลางมองหน้ากันต์ยิ้มๆ “พี่ไม่สนใจไอ้พวกนี้หรอกน้อง พี่ถือคติที่ว่าไม่กินคณะเดียวกัน”
“อ้าว งี้ก็ต้องเสียคนหน้าน่ารักๆ แบบนี้ให้คณะอื่นดิพี่ เสียดุลการค้าหมด”
“แล้วน้องคิดว่าพี่จะกระเดือกพวกนี้ลงเหรอวะ แม่งอยู่กันมาสามปีละ รู้จักกันถึงไส้ติ่ง ไม่เอามันทำพ่อพันธุ์หรอกหว่ะ”
หลังจากคุยกันได้ซักพัก กันต์ก็ทราบว่ามะนาวเป็นเกย์ ซึ่งดูเหมือนพี่เขาจะไม่แคร์อะไร กลับเปิดเผยและพูดออกมาง่ายๆ ว่าชอบผู้ชายด้วยกัน กันต์จึงหันไปหารุ่นพี่ผู้ชาย นอร์ทซึ่งดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่รุ่นน้องสื่อก็พูดออกมา
“ขึ้นชื่อว่าเพื่อนนะมึง ต่อให้เพศไหน จะเกย์ กระเทย ทอมดี้ หรือต่อให้มันจ้องจะแทงตูดพวกกู ยังไงมันก็คือเพื่อน”
“โหนอร์ท วันนี้นายหล่อมาก มาม๊ะ มาให้นาวแทงตูดที”
“สัด ไปส่องกระจกไป๊ หน้าอย่างมึงใครเขาจะยอมให้แทง มีแต่จ้องจะแทงมึงมากกว่า”
ไม่นานเพื่อนผู้ชายปี 1 คนอื่นๆ ก็ขนของเสร็จ หลังจากเรียกเหงื่อให้ตัวเองแล้ว อารมณ์ง่วงๆ จึงหายไปเป็นปลิดทิ้ง พวกเขาทั้งสี่คนจึงร่วมวงเหล้ากับพี่ๆ เขาด้วย ยกเว้นแบล็คที่คุณหนูมันยังงอแงไม่เลิก
“ไม่เอาอ่ะ แบล็คต้องนั่งกับน้ำซิ น้ำยังง่วงอยู่นะ”
“ถ้าน้ำอยาอกนอนอยู่ก็เข้าไปนอนข้างในกับเพื่อนซิครับ”
“ไม่เอา แบล็คต้องอยู่ใกล้ๆ น้ำนะ น้ำไม่อยากให้แบล็คไปกินเหล้าตรงนั้น”
“น้ำ” แบล็คเรียกน้ำด้วยเสียงเย็นๆ ใครที่ไม่เคยได้ยินซุปเปอร์สุภาพบุรุษแบล็คพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ล้วนแต่รู้สึกกลัวและขนลุกเป็นธรรมดา มีคนไม่เยอะที่รู้ว่าแบล็คนั้นขี้รำคาญแค่ไหน ที่ทำสุภาพบุรุษทุกวันนี้เป็นการตัดรำคาญ เพราะจะทำให้ผู้หญิงเกรงใจมัน แต่น้ำที่เริ่มจะเซ้าซี้ เริ่มจะทำให้ภาพสุภาพบุรุษแตกออก
“เข้าไปนอนข้างใน” แบล็คพูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงเดียวกัน น้ำที่เริ่มรู้สึกกลัวก็สะบัดหน้าเดินเข้าไปด้านในรถทันที แบล็คถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเดินมาทรุดตัวนั่งลงใกล้ๆ กันต์
“มึง เก็บเศษพวกนี้หน่อย” กันต์กระซิบ ก่อนทำเหมือนพยายามเก็บอะไรซักอย่างที่พื้น
“อะไรวะ” แบล็คถามอย่างสงสัย
“ก็เศษหน้ากากสุภาพบุรุษของมึงไง เมื่อกี้เกือบแตกแล้วนะ หรือว่าแตกไปแล้ววะ ฮ่าๆๆ” กันต์หัวเราะอย่างสะใจ แบล็คได้แต่ส่ายหัวกับความกวนตีนของเพื่อนรัก
“ลงค่าย ท่าจะได้เลิก” แบล็คบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่กันต์ที่ได้ยินก็อดยิ้มไม่ได้
อย่างที่บอกว่าแบล็คเป็นสุภาพบุรุษ ใครมาสารภาพรักกับเขา เขาก็พร้อมที่จะสานสัมพันธ์ เมื่อเห็นว่าไปไม่ไหวก็เลิก ซึ่งก็เป็นแบบนั้นทุกราย เพราะทุกคนคาดหวังให้ผู้ชายคนนี้ดูแลเธอราวกับเจ้าหญิง คอยเอาอกเอาใจ ซึ่งแบล็คมันก็ทำ แต่ก็แค่ช่วงแรกเท่านั้น ถ้าลองได้เริ่มรำคาญขึ้นมาแล้วละก็ เลิกหมด
ยกเว้นอยู่คนเดียว.. คนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแล้ว..
หลังจากนั่งรถทหารกันหลังคดหลังแข็ง ลูกค่ายก็เดินทางมาถึงสถานที่ทำค่าย กันต์เห็นรุ่นพี่ที่ขึ้นมาเตรียมค่ายก่อนออกมาต้อนรับลูกค่ายที่เดินทางมาถึง
ไผ่ รุ่นพี่ปีที่สามซึ่งเป็นคนที่ขึ้นมาบนค่ายก่อนแจกแจงน้องๆ ให้เอาของไปเก็บในห้องนอน แนะนำห้องน้ำ สถานที่ทานข้าวและทำกิจกรรม ก่อนจะเรียกรวมในเวลาหกโมงตรง เพราะทีมที่ขึ้นมาเตรียมค่ายก่อนได้ทำอาหารไว้รอแล้ว
หลังจากนั้นก็เป็นการแนะนำประธานค่ายกับเฮดฝ่ายต่างๆ พี่มะนาวสุดน่ารักของกันต์เป็นเฮดฝ่ายโภชนาการ ทำให้ลูกค่ายหลายๆ คนรอคอยมื้อเข้าพรุ่งนี้แทบจะไม่ไหว การทำงานเวียนเป็นฐาน แบ่งเป็นโยธาที่ต้องสร้างสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ ในโรงเรียน ฝ่ายศึกษาที่เป็นครูจำเป็น ฝ่ายโภชนาการทำอาหารทั้งสามมื้อตลอดค่าย ฝ่ายเกษตรที่ต้องซ่อมรั้วโรงเรียน ปลูกผัก และขุดบ่อเลี้ยงปลา และฝ่ายสวัสดิการที่เรียกได้ว่าเป็น GB ของค่าย ดูแลตั้งแต่ล้างห้องน้ำ เสิร์ฟน้ำ ทิ้งคณะ ฯลฯ เลยทีเดียว
“ต่อไปเราจะมาแนะนำตัวกันนะครับ แนะนำกันทีละคน บอกชื่อเล่น ชั้นปี และสถานะด้วยครับ ตัวอย่างเช่น..” นอร์ทพูด ก่อนจะโยนมุกให้ก้อง ซึ่งก็รับได้ในทันที
“ผมชื่อณเดช ปี 3 สถานะ หล่อเลือกได้ครับ”
ฮิ้ววววววว
เสียงเฮดังขึ้นทั้งจากยิมที่ตีกลองอยู่และลูกค่าย รุ่นพี่ผู้ชายล้วนแต่คอยลุ้นสถานะของน้องผู้หญิงปี 1 น้องบางคนก็บอกโสด มีแฟนแล้วง่าย ๆ แต่ที่แรงหน่อยก็จะมีตัวจี๊ดคนหนึ่งที่บอกว่า ‘หนูเกิดมามีกรรม ตัวดำแต่เสือกสวยค่า’
ซึ่งมันคงได้ใจรุ่นพี่ไปเต็มๆ
และเมื่อการไล่ชื่อมาใกล้ผม น้ำซึ่งนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ดูเหมือนจะยังงอนแบล็คอยู่ไม่เลิกก็แนะนำตัว
“สวัสดีค่ะ ชื่อน้ำ ปี 1 สถานะ โสด แฟนตายค่ะ” สิ้นเสียงของน้ำ รุ่นพี่ผู้ชายก็แซวทันที
“ร้าวฉานๆๆๆๆ!!!”
พอวนมาใกล้กันต์ แบล็คก็ลุกขึ้นก่อน
“สวัสดีครับ แบล็คปี 1 สถานะ ยังไม่ตาย รอให้คนใหม่ดูแลครับ”
และก็ฮิ้ววววว กันอีกรอบ
ส่วนของกันต์น่ะเหรอ
“ผมกันต์ปี 1 ครับ สถานะค่ายนี้ ใครเมาหลับก่อน เป็นหมา”
“เฮ้ย เชี่ยกัน มึงท้าทายพวกกูมาก” เอ็มปี 4 ชี้มาทางกันต์ทันที เขาได้แต่ยักคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่กลัว ก็พี่เขาเองก็ยิ้มอยู่นี่นะ “คืนนี้จัดหนักแน่มึง”
“กลัวก็ไม่ใช่กันต์เจ้าโลกดิพี่”
“ไหนขอกูพิสูจน์ทีดิ๊ ว่ามึงเป็นเจ้าโลกจริงเปล่า” หนุ่ย ปี 4 ก็พูดขึ้นเอง และทำเหมือนจะพยายามเดินมา
“พอเถอะครับพี่ เอาไว้ไปพิสูจน์กันนอกรอบเนอะ สงสารน้องผู้หญิงบ้าง” นอร์ทเบรกรุ่นพี่ พลางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับความกวนตีนของกันต์ เขาเองก็รู้ดีว่ากันต์มันกวนตีนไปอย่างงั้น จริงๆแล้วมันเคารพรุ่นพี่มาก และเล่นในขอบเขตที่เล่นได้เท่านั้น แต่นอร์ทก็ยังกลัวว่าถ้าคนอื่นมาได้ยินมันพูดเข้า เขาคงคิดว่ามันกำลังปีนเกลียวรุ่นพี่เป็นแน่
“กันต์ มึงท้าทายรุ่นพี่ขนาดนั้น คืนนี้มึงไม่ได้นอนดีแน่” แม็คพูดทันที เมื่อพี่ปีสามสรุปงานที่ต้องทำพรุ่งนี้เสร็จ และสั่งให้ลูกค่ายแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัว และเข้านอน
“มึงคิดว่ากูคนเดียวหรือไง พวกมึงก็ไม่รอดหรอก” กันต์ยักคิ้วให้เพื่อนทั้ง 4 คน ซึ่งมองหน้าเขาอย่างอ่อนใจ
“หาเรื่อง” แบล็คพูด ก่อนจะขยี้หัวกันต์เบาๆ
“ไม่อยากอยู่กะกูมึงก็ไปนอนดิ กูไม่ได้ขอซักหน่อย เดี๋ยวกูอยู่กะไอ้พวกนี้ก็ได้” กันต์พูด แบล็คเลยขยี้ผมคนในมือแรงขึ้นอีก
“อย่ามาทำงอนนะ กูไม่อยู่ แล้วใครจะกล้าอยู่กับมึง พาซวยขนาดนี้” แบล็คบอก ทันใดนั้นรุ่นพี่ก็เข้ามาเรียกพวกเขาให้ไปตั้งวงข้างนอก
เมนูหลักของวันนี้เป็นเหล้าขาวน้ำแดง ซึ่งภาษาเหนือจะเรียกได้ว่ามันเป็นอะไรที่ ‘กินง่าย เมาง่าว’ หมายความว่า กินง่าย ลื่นคอ แต่เมาอย่างหมาแน่นอน และพี่เขาก็ไม่ได้จัดหนักกันต์จริงๆ อย่างที่คาดโทษไว้ เพียงแต่ว่าอาจจะได้ดื่มมากกว่าคนอื่นเท่านั้น หนุ่ยพูดบางอย่างกับรุ่นน้องที่มาดื่มด้วย ทำให้กันต์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
‘เรารัฐศาสตร์ ไม่เคยห้ามกันกินเหล้า มึงจะกินกันมากแค่ไหนก็ได้ ตราบใดที่มึงเป็นน้อง พวกกูก็มีปัญญาจ่าย แต่ขออย่างเดียว มึงต้องตื่นเช้ามาทำงานให้ได้ อย่าให้เขาดูถูกและตราหน้าว่า ขึ้นค่ายมาแดกแต่เหล้า แล้วไม่ทำห่าอะไรเลย’
และอีกประโยค ที่ทำให้ความภูมิใจเมื่อซักครู่หายไป
‘อภิสิทธิ์ดื่มเหล้าแล้วเมาอย่างหมา ไม่ตื่นมาทำงานน่ะ มันของปี 4 เท่านั้น เพราะพวกกูทำมาหมดแล้ว พอพวกมึงปี 4 ค่อยทำตัวอย่างพวกกู เข้าใจ๋’
ที่พี่พูดมาแต่แรก คืออยากจะหาความชอบธรรมให้ปี 4 ที่จะไม่ทำงานแน่นอนตลอดค่ายนี้ใช่ม๊ะห๊ะ??
=============================================
เกือบลืม ฮ่าๆ
ช่วงนี้แปลการ์ตูนอย่างเดียวเลย
เหลือในสต๊อคอีกสองสามตอนเองง่ะ ต้องรีบแต่งตุนแล้ว
ใครชอบคู่นี้ยกมือ!!
ความคิดเห็น