คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ตัวปราบยุ่ง
“ยุ่ง ไม่เอาซิลูก นี่มันของพี่เค้านะ” เสียงผู้เป็นมารดาเตือนลูกชายคนเล็กที่อายุ 9 ปีด้วยความเหนื่อยใจ ที่หล่อนเลี้ยงลูกมาผิดๆ รึเปล่านะ
“ไม่เอาอ่ะ ทำไมพี่ยักษ์กับพี่ยิ้มได้ แล้วยุ่งไม่ได้ล่ะ แม่ใจร้าย ฮึก.. ฮืออออ” เสียงเจ้าตัวเล็กของบ้านดังขึ้นพลางรองไห้ ในมือกอดรองเท้าสเก็ตของพี่ชายไว้แน่น
“ก็ลูกยังเด็กอยู่ ยังใส่ไม่ได้หรอก รอลูกโตอีกหน่อยแล้วแม่จะซื้อให้นะ” หล่อนถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปหมายจะเอารองเท้าคืน
“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ให้ไอ้ยุ่งมันก็ได้” ลูกชายคนโตวัย 12 ปี ของเธอบอกอย่างเสียสละให้น้องชาย
“ได้ที่ไหนตายักษ์ ยุ่งได้ไปก็ใส่ไม่ได้อยู่ดี” หล่อนบอก
“งั้นเอาของยิ้มไปก็ได้ค่ะ ยุ่งน่าจะใส่ได้” ลูกสาวคนกลางวัย 11 ปีบอก พลางยื่นรองเท้าให้น้องชาย “อ่ะยุ่ง เอาของพี่แทนนะ”
“ไม่เอา ยุ่งจะเอาของพี่ยักษ์ ของพี่ยิ้มเป็นสีเหลือง ยุ่งไม่ชอบ” เด็กชายงอแงอีก ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัว ทั้งคุณศักดิ์และคุณวัลย์ ผู้เป็นพ่อ แม่ รวมถึงทุกคนในตระกูลไม่ว่าจะปู่ย่า ตายาย หรือญาติคนไหน ก็ล้วนแต่อยากเอาใจด้วยความสามารถในการออดอ้อนพร้อมดวงตากลมโตนั่น แต่มันก็มาพร้อมกับความเอาแต่ใจอย่างรุนแรง
“เฮ้อ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ เดี๋ยวอร เขาจะพาครอบครัวมาทานข้าวที่นี่ด้วยนะ ถ้าเจ้ายุ่งยังร้องไห้อยู่แบบนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรกันพอดี” คุณวัลย์บ่น แต่ไม่ทันขาดคำ ก็มีหญิงชายคู่หนึ่งที่จูงมือลูกชายเดินเข้ามาในบ้าน
คุณอรและคุณวัลย์เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม พอบ้านข้างๆ ประกาศขาย คุณอรจึงให้สามีซื้อทันที เพราะนอกจากเธอจะได้เจอเพื่อนได้บ่อยๆแล้ว เจ้าลูกชายคนเดียววัย 12 ปีของเธอ จะได้มีเพื่อนเล่นด้วย วันนี้หลังจากย้ายบ้านและขนของเสร็จทั้งสองครอบครัวจึงมาทานข้าวร่วมกัน
“ทำอะไรกันอยู่น่ะวัลย์ ลูกชายงอแงเหรอ” คุณอรถาม ก่อนจะเข้ามาดูเจ้าตัวเล็กที่กำลังเบะปากร้องไห้
“นิดหน่อยน่ะอร” หล่อนหันมาตอบ “เอารองเท้าคืนพี่เขาไปเถอะนะ แล้วลูกโตอีกหน่อย แม่ซื้อให้”
“ไม่เอา ยุ่งจะเอาอันนี้ ยุ่งจะเล่นอันนี้ ยุ่งจะเอา ๆๆๆๆ” เจ้าตัวยุ่ง(สมชื่อ) เริ่มโวยวายพลางน้ำตานองหน้า “แม่ไม่รักยุ่งแล้วเหรอ”
เจ้าตัวเล็กพูด พลางเบิกตาโตและช้อนตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำมามองผู้เป็นมารดา ท่าไม้ตายที่ทำให้ใครเห็นเป็นต้องชะงัก และใจอ่อนกับคนตรงหน้า
“นี่” เสียงไม่คุ้นหูดังขึ้นทำให้เจ้าตัวเล็กหันไปมอง เด็กชายแปลกหน้าทำให้ยุ่งได้แต่ทำหน้างง
‘ใครง่ะ’
“นี่ของใคร” เด็กชายคนนั้นพูดขึ้นมา แล้วชี้มาที่รองเท้าสเก็ตในมือ
“ของพี่ยักษ์”
“แล้วทำไมไม่ให้พี่เขา”
“ก็ยุ่งจะเอาอ่ะ ยุ่งอยากได้”
“เล่นได้เหรอ”
“ทำไมจะเล่นไม่ได้ ยุ่งจะเล่น” เด็กชายตอบทันที คู่สนทนาได้แต่ยิ้มมุมปาก
“ไหนลองเล่นซิ ถ้าเล่นได้ก็เอารองเท้าไป ถ้าเล่นไม่ได้ต้องคืนพี่เขานะ” ยุ่งมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็พยักหน้ารับปาก เด็กชายคนนั้นเดินมาแกะรองเท้าออกจากมือตัวเล็ก พลางช่วยใส่ให้ และฉุดตัวเล็กในลุกขึ้น
“เล่นซิ” พอพูดปุ๊บเค้าก็ปล่อยมือทันที ทำให้เด็กชายที่ใส่รองเท้าสเก็ตอยู่ไม่มั่นคงและลื่นล้มในทันที
ปั๊ก.. “โอ้ยยยย” เสียงอุทานของตัวเล็ก ที่ทรงตัวอยู่บนสเก็ตไม่ได้จึงล้มก้นจ้ำเบ้า
“ฮึก.. ฮือออออ ยุ่งเจ็บอ่า ฮืออ” เจ้าตัวเล็กร้องไห้อีกครั้ง มือก็พยายามถอดสเก็ตออกจากเท้า “ฮือ ไม่เอาแล้ว ไม่เอาก็ได้ พี่ยักษ์เอาคืนไปเลย ยุ่งเจ็บ ฮืออ”
เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยล้ม ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็แบบจะไปรับไว้ แต่เด็กชายคนเดิมก็ล้มลงไปถอดรองเท้าให้
“ไม่เจ็บนะครับ” เด็กชายพูด แล้วค่อยๆ ถอดรองเท้าให้แล้วฉุดตัวเล็กข้างหน้าให้ลุกขึ้น
“ไม่เอา ไม่ร้องไห้ หายเจ็บนะ โอมเพี้ยง” เขาพูด พลางเป่าลมที่หน้าผาก
เอ่อ.. ยุ่งเจ็บที่ก้นอ่ะ ไม่ใช่หน้าผากนะ
“หายเจ็บยัง”
เจ้าตัวเล็กสั่นหัว เด็กชายเลยเข้าไปกอดไว้ พลางตบหลังเบาๆ
“โอ๋ๆ เป็นเด็กดี ไม่ร้องนะครับ คนเก่งของพี่โงกุน”
“พี่โงกุน?”
อืม ชื่อมันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินทุกเช้าวันเสาร์อาทิตย์เลยแฮะ
“อื้ม เป็นเด็กดีนะ เอารองเท้าไปคืนพี่ยักษ์ แล้วไปกินข้าวกัน หลังจากนั้นเราค่อยหาอะไรที่ยุ่งเล่นได้ มาเล่นด้วยกันนะ”
ว่าไปก็หิวแฮะ สงสัยร้องไห้มากไป
“ก็ได้ครับ”
เมื่อตัวเล็กพยักหน้าแล้วเด็กชายจูงมือให้เดินตามไป ผู้ใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พากันยิ้มทั่วหน้า แล้วเด็กชายโงกุน ก็ได้ฉายาลับๆ จากทั้งสองครอบครัวว่า ‘ตัวปราบยุ่ง’
ความคิดเห็น