คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 ได้ยุ่งแล้ว ต้องรับผิดชอบนะ!!
โงกุนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แสงที่ลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องบ่งบอกว่านี่เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว เขาก้มลงมองร่างบางในอ้อมกอดของเขา ลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่ายังคงนอนหลับอยู่ โงกุนจำได้ว่าก่อนที่เขาจะหลับไป ร่างบางกอดเขาไว้แน่นอย่างต้องการให้กำลังใจ
ลำคอและต้นแขนที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา ยังมีรอยดูดที่เห็นได้อย่างชัดเจน โงกุนลูบผิวเนียนละเอียดนั้นอย่างรู้สึกผิด เมื่อคืนใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนในอ้อมกอกเขาคือน้องชายข้างบ้าน ไม่ใช่สกาย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ด้วยความเมา หรือกลิ่นหอมติดจมูกนี้กันแน่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากยับยั้งชั่งใจ อีกทั้งด้วยความที่เพิ่งอกหักมา ทำให้เขาอยากได้ใครซักคนคอยปลอบใจ จนไม่คิดถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมา
แต่ยุ่งก็ไม่โกรธเขา เจ้าตัวเล็กของเขายังคงยิ้มให้ อ้าแขนโอบกอดเขาไว้ ทำให้โงกุนใจเย็นลง เขางรู้สึกดีและสบายใจเสมอเมื่อมีเจ้าตัวยุ่งอยู่ใกล้ๆ
“ตื่นแล้วเหรอฮะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้น ทำให้โงกุนก้มลงไปมองคนในอ้อมกอดอีกครั้ง ดวงตากลมโตจ้องมองเขาด้วยความเป็นห่วง แววตาไม่ได้ใสเหมือนทุกครั้ง แต่แฝงไปด้วยความอิดโรย และบวมน้อยๆอย่างคนเพิ่งร้องไห้มา
“ครับ ตื่นแล้ว หิวมั้ย” โงกุนถาม ร่างบางพยักหน้า พลางพยายามลุกขึ้นแต่ก็ต้องนิ่วหน้า เมื่อรู้สึกว่าการขยับช่วงล่างของตัวเองนั้นมันช่างเจ็บปวดสิ้นดี
“อูยยย” เสียงครางต่ำจากริมฝีกปากซีด ทำให้โงกุนมองด้วยความเป็นห่วง
“ยุ่งอยู่เฉยๆดีกว่านะ เดี๋ยวพี่ไปหาซื้ออะไรให้กิน แล้วก็จะซื้อยามาให้ด้วย”
ยุ่งพยักหน้า ก่อนจะยิ้มในร่างหนาเพื่อคลายความกังวลใจ
“อยากได้อะไรเพิ่มรึเปล่า”
“อืม..” ยุ่งใช้ความคิดเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มทะเล้นออกมา
“ได้ยุ่งแล้ว ต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ”
ตุบ.. “โอ้ย พี่โงตบหัวยุ่งทำไม” ร่างบางร้องขึ้น เอามือกุมหัวตนเอาไว้
“มันใช่เรื่องเล่นๆ ตรงไหนฮะยุ่ง ที่พี่..พี่.. เอ่อ” โงกุนอ้ำอึ้งทันทีเมื่อพูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“พี่โงฟังยุ่งนะ” ร่างบางพูด ก่อนจะพยายามขยับร่างตนเองทั้งที่ปวดช่วงล่างอย่างมาก มานั่งทับตักของโงกุนเอาไว้ แม้ร่างกายตนเองจะยังเปลือยเปล่าก็ตาม “สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความเต็มใจของยุ่ง มันไม่เสียหายหรอก ยุ่งเองก็ท้องไม่ได้ และมันดีกว่าที่พี่โงจะไปหาเศษหาเลอข้างนอกด้วย”
“ตะ..แต่... แต่ว่ามัน..”
“ไม่เอาอ่ะ เลิกคิดมากซิฮะ คิ้วผูกกันยุ่งแล้ว” ยุ่งบอกพลางคลึงรอยย่นระหว่างคิ้ว “ถ้าพี่โงอยากรับผิดชอบ ก็ทำตัวดีๆ รักยุ่งให้มากๆ ให้อาหารยุ่งกิน ตามใจยุ่ง และตอนนี้ยุ่งอยากอาบน้ำ และหิวมากๆ ด้วย พี่โงต้องรีบไปซื้อกับข้าว ซื้อยา และรีบกลับมาอย่างปล่อยให้ยุ่งอยู่คนเดียวนาน เข้าใจมั้ย”
โงกุนส่ายหน้ากับคำสั่งยืดยาวจากคนตัวเล็ก เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของคนตรงหน้าเขารู้ เขารู้สึกผิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว ยิ่งเขาพยายามพูดเรื่องนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่ งี่เง่าแค่ไหนที่เอาน้องชายสุดที่รักมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์ แต่ในเมื่อคนตรงหน้าพอใจจะให้เขาลืมๆ มันไป เขาก็คงต้องทำตามนั้น
“เข้าใจแล้วครับ”
“งั้นตอนนี้ก็อุ้มไปส่งที่ห้องน้ำหน่อย ยุ่งเดินไม่ไหวแล้ว”
ยุ่งพูดพลางคล้องแขนเข้ากับคอคนตรงหน้าไว้
“เฮ้อ... เรานี่น้า” โงกุนบ่นเบาๆ ก่อนจะช้อนร่างบางไปส่งในห้องน้ำ
“หอม” เสียงเล็กๆ พูดขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมา โงกุนหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะยิ้มให้
“มาทานซิยุ่ง” เขาบอก ร่างบางพยักหน้า ก่อนจะพยายามพาร่างตัวเองออกจากห้อง เขาใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในการอาบน้ำและแต่งตัว เพราะอาการเจ็บปวดตรงก้น และแข้งขาที่ดูไร้เรี่ยวแรง ทำให้หยิบจับ หรือเดินไปไหนไม่สะดวกนัก
“ไหวรึเปล่า” โงกุนพูด ก่อนจะเดินมาประชิดพลางช้อนตัวร่างบางขึ้น “เดี๋ยวพี่พาไปดีกว่านะ”
“อื้ม.. แบบนี้สบายกว่าเยอะ” ยุ่งบอก ก่อนจะเอามือคล้องคอคนตรงหน้าไว้ โงกุนพาเจ้าตัวเล็กมานั่งลงที่โซฟา ก่อนจะยกถ้วยข้าวต้มมาวางไว้ให้ ยุ่งที่รู้สึกว่าเจ้าพยาธิในท้องกำลังประท้วงอย่างหนัก จัดการอาหารตรงหน้าทันที เมื่อโงกุนเห็นว่าร่างบางทานหมดแล้ว จึงหยิบถุงยามาให้
“อ่ะ ทานเสร็จแล้วกินยา แล้วก็ดักไข้ไว้ด้วย พี่กลัวเราไม่สบาย”
“งือออ.. ยามันขมอ่ะ ไม่เอา” ยุ่งงอแงทันที จากปริมาณยาที่โงกุนเอามาวางไว้ข้างโต๊ะ มันไม่ต่ำกว่าห้าเม็ดแน่ๆ ขมจะตาย
“ไม่ได้ ถ้าไม่ทาน ยุ่งก็ไม่หายซิ”
“ไม่เอา นอนๆไปเดี๋ยวยุ่งก็หายเอง”
“อย่าดื้อน่ายุ่ง เดี๋ยวไม่หายนะ” โงกุนพูดอย่างเหนื่อยใจ ยุ่งที่จับน้ำเสียงได้ หันมาแล้วแลบลิ้นให้
“ถ้าไม่อยากเอาใจยุ่งแล้ว พี่โงก็ไม่ต้องมายุ่งกับยุ่งหรอก ยุ่งจะเป็นยังไงก็ช่างซิ”
เมื่อเห็นท่าไม่ดี โงกุนจึงเอื้อมมือไปดึงร่างบางให้แผ่นหลังมาแนบชิดกับอกเขา พลางยกมือขึ้นกอดแน่น
“ที่บอกให้ทานยา เพราะพี่เป็นห่วงนะครับ พี่ไม่อยากให้ยุ่งไม่สบายนะ”
“...”
“ถ้ายังดื้ออีก พี่จะทำกับยุ่งเหมือนเมื่อคืนนะ”
“!”
ร่างเล็กสะดุ้งทันที และเห็นมามองคนพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“พี่โง ยุ่งยัง... เอ่อ.. ยังเจ็บอยู่นะ”
“ก็ถ้ายุ่งยังดื้อกับพี่ ไม่ยอมทานยา แสดงว่ายุ่งไม่กลัวแม้มันจะเจ็บ งั้นพี่ก็ไม่สน พี่ก็จะทำ ทั้งๆ ที่เจ็บนั่นแหละ” โงกุนพูดเสียงดุ ยุ่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ในหน้าขึ้นสีระเรื่อ เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
“..เอ่อ.. ถ้ายุ่งทานยา พี่โงจะไม่ทำอะไรยุ่งตอนนี้ใช่มั้ย”
“อืม”
“งั้นยุ่งทานยาก็ได้” ร่างบางยอมแต่โดยดี โงกุนจึงเอื้อมไปเอายา แล้วแก้วน้ำที่เตรียมไว้ให้ แม้ว่าจะฝืนใจแค่ไหน ยุ่งก็ยอมอมยาพร้อมดื่มน้ำเข้าไปทันที ด้วยกลัวว่าร่างหนาที่กอดตนไว้จะเปลี่ยนใจ
“ขมอ่ะ ติดลิ้นเลย” ยุ่งพูด ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย เพื่อบรรเทาความขมตรงหน้า แม้จะดื่มน้ำหมดแล้วก็ตาม
โงกุนมองลิ้นเล็กสีชมพูนั้นอย่างเผลอไผล
‘ขมเหรอ.. แต่เท่าที่เขาจำได้ มันหวานนะ’ เร็วเท่าความคิด ร่างหนาจับคางคนในอ้อมกอดให้หันมาหาเขา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเพื่อพิสูจน์ความขม แต่เขาก็พบเจอแค่ความหวาน.. ความหวานที่เขารู้สึกเสพติดตั้งแต่เมื่อคืน เขาหยอกล้อลิ้นเล็กๆ อย่างรู้สึกสนุก ใช้ลิ้นตัวเองสำรวจโพรงปาก ทั้งฟันที่เรียงสวยและกระพุ้งแก้ม ก่อนจะตวัดเข้ากับลิ้นเล็ก ที่ยังไม่ชินกับรสจูบมากนัก
“อืม..” เสียงครางหวาน ยิ่งช่วยปลุกอารมณ์ของโงกุน แต่เขาทำได้แค่ข่มใจเอาไว้ โงกุนรู้ดีว่าเจ้าตัวเล็กของเขายังไม่พร้อม คงต้องรอให้หายดี อีกอย่าง เขาก็สัญญาไว้แล้ว
“ยังขมอยู่รึเปล่า” โงกุนถามขึ้น เมื่อถอนจูบออกมา ร่างเล็กหายใจหอบ ใบหน้าที่แดงก่ำยิ่งกว่าเดิม ทรุดลงตรงหน้าอกเขา พลางส่ายหน้าเล็กน้อย
“มะ..ไม่..ไม่ขมแล้ว”
“หึหึ” โงกุนหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้มากขึ้น
“พี่โงสัญญาแล้วนะว่าจะไม่ทำอะไรยุ่งน่ะ”
“พี่สัญญาแล้ว ไม่บอกว่าจะไม่จูบซักหน่อย” เขาตอบ ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหูของร่างบาง ทำให้ใบหน้าที่แดงก่ำเขินอายมากขึ้นไปอีก
“อีกอย่าง พี่บอกว่าจะไม่ทำอะไรยุ่งตอนนี้ ไม่ใช่ตลอดไปนะ ฉะนั้น ยุ่งหายเจ็บเมื่อไหร่ล่ะก็ หึหึ”
“ยุ่ง มึงไปเสียตัวมารึไงวะ เดินแปลกๆ” กันต์แซวทันที เมื่อเห็นท่าเดินของเพื่อน ยุ่งแยกเขี้ยวพร้อมกับยกนิ้วกลางให้
“ห่า เออ.. กูออกกำลังกายหนักไปหน่อย เลยปวดต้นขาน่ะ” ยุ่งตอบ เขาคิดเอาไว้แล้วว่าอย่างไงก็ไม่อาจหลบสายตาเพื่อนได้
“ไรวะ กูนึกว่ามึงเสร็จไอ้โอมแล้วซะอีก” กันต์บ่น แบล็คส่ายหัวกับความกวนตีนของเพื่อน ในขณะที่โอมเองก็นิ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“แล้วพวกมึงจัดของกันรึยังวะ” กันต์ถามขึ้นอีก ซึ่งเป็นคำถามให้ยุ่งต้องแปลกใจ
“จัดของไปไหนวะ” ยุ่งถาม
“เอ้า! ก็ไปค่ายไง อย่าบอกนะว่ามึงลืม ไปพรุ่งนี้แล้วนะมึง พี่เขาบอกว่าล้อแปดโมงเช้า เจอกันที่คณะ”
“ชิบหาย กูลืมสนิท” ร่างบางตบหัวตนเองเบาๆ ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาโงกุนดูแลเขาอย่างดี ทำให้เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
“ดีนะกูทักก่อน ไม่งั้นพรุ่งนี้มึงไม่มาแน่ๆ” กันต์บอกเพื่อน “แล้วพวกมึงล่ะ เก็บของยัง”
“พรุ่งนี้เช้าค่อยเก็บ” โอมบอก
“ห่า มึงจะใจเย็นไปไหนวะ” แม็คพูดขึ้นบ้าง
“แล้วมึงล่ะแม็ค เก็บเสร็จแล้วเหรอ” ยุ่งถาม
“เมียกูจัดเสื้อผ้าให้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วหว่ะ มันบอกว่าถ้าให้กูจัดเอง กูจะไม่อาบน้ำ เพราะงั้นมันเลยจัดมาให้ครบวัน แล้วตอนกลับมันจะพิสูจน์เสื้อผ้ากูด้วยว่ากูใส่ครบทุกตัวรึเปล่า”
“ก๊ากกก ก็ดีนี่หว่า มีเมียใส่ใจขนาดนี้” กันต์หัวเราะทันทีเมื่อได้ยินเพื่อนบอก
“ดีห่าอะไรล่ะ กระเป๋าใหญ่เท่าบ้าน ประหนึ่งว่ากูจะย้ายหอ แม่คุณเล่นยัดทุกอย่างลงกระเป๋าหมด แม้แต่รูปคู่”
“เดี๋ยวมึงค่อยเอามาถ่ายไว้ที่ห้องอาสาดิ แล้วตอนกลับมาค่อยเอากลับเข้ากระเป๋า เอาไปแต่เสื้อผ้ากับของจำเป็นก็พอ” แบล็คพูด
“เอ่อหว่ะ มึงฉลาด” แม็คบอกเพื่อน พลางพยักหน้าอย่างเห็นดีเห็นงามด้วย
“แล้วมึงมีถุงนอนรึยัง” โอมหันมาถามยุ่ง
“ยังอ่ะ เดี๋ยวค่อยให้คนที่ห้องพาไปซื้อ ชิบหาย! กูยังไม่ได้บอกพี่เขาเลยว่าจะไปพรุ่งนี้แล้ว โดนบ่นแน่ๆ” ร่างบางบ่น
“นั่นมันพี่ชายข้างบ้านมึงหรือพ่อ ถึงกับขนาดกับต้องขออนุญาตเลยเหรอวะ” กันต์กวนตีนอีก ทำให้ยุ่งต้องตบหัวมันหนึ่งที แต่ในใจก็ยังแอบกังวลไม่ได้
“ไม่ให้ไป” เสียงเฉียบขาดดังขึ้นทันที เมื่อร่างบางเอ่ยปากขออนุญาต
“ง่า.. วันนั้นพี่โงก็ให้ยุ่งไปแล้วนี่”
“วันนั้นก็ส่วนวันนั้นซิ วันนี้ก็ส่วนวันนี้ ยุ่งยังไม่หายดีเลยนะ ตอนเดินยังขัดๆ แปลกๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าไปค่ายแล้วเป็นลมเป็นแล้ง ใครจะดูแลฮะ”
“เพื่อนยุ่ง รุ่นพี่ยุ่งก็อยู่กันเต็มไปหมด อีกอย่างยุ่งดีขึ้นแล้วนะพี่โง ให้ยุ่งไปเถอะนะ ยุ่งลงชื่อไปแล้ว เงินก็จ่ายไปแล้ว”
“เดี๋ยวพี่จ่ายเงินคืนยุ่งเอง”
“พี่โง..” ยุ่งเรียกเสียงอ่อน เมื่อเห็นแววอดไป โงกุนถอนหายใจ ก่อนจะดึงร่างบางมานั่งหว่างขาเขาและกอดแน่น
“ที่ไม่ให้ไป เพราะพี่เป็นห่วงนะ รู้มั้ย”
“รู้ฮะ”
“แล้วยังจะไปอีก?”
“อื้ม”
“ถ้าพี่ไม่อนุญาต?”
“จะหนีไปค่าย”
“แม้ว่าพี่จะเสียใจ?”
สิ้นคำพูด ร่างบางเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะหันมาหาคนด้านหลัง
“พี่โง” ร่างบางเรียก ก่อนจะหันมานั่งคร่อมตักเขา “พี่โงฟังยุ่งนะ ยุ่งรู้ว่าพี่โงเป็นห่วง แต่ยุ่งรู้ตัวเองดีว่ายุ่งไหว อีกอย่างยุ่งอยากไป ยุ่งไม่ได้ไปเที่ยวเล่นนะ แต่ยุ่งไปค่ายอาสา ยุ่งเรียนรัฐศาสตร์ ยุ่งอยากรู้ว่ามีคนอีกมากแค่ไหนที่เขาแตกต่างกับเรา เขาขาดเหลืออะไร และเราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง”
“...”
“แต่ถ้าพี่โงยังยืนยันจะไม่ให้ยุ่งไป.. ยุ่งก็จะไม่ไป..ก็ได้” ร่างบางพูดเสริมเมื่อไม่เห็นโงกุนพูดอะไรทั้งๆที่เขาพูดเหตุผลของเขาไปแล้ว
‘เห็นทีงานนี้ ต้องยอมโดนพวกนั้นด่าที่เบี้ยวค่ายซะแล้วเรา’
ยุ่งถอนหายใจพร้อมกับใบหน้าหวานที่กำลังเศร้า โงกุนยิ้มภาพตรงหน้า
ยุ่งโตขึ้นแล้ว เขารู้ จากการพูดเมื่อซักครู่ ทำให้เขารู้ว่ายุ่งอาจจะไม่ใช่น้องชายข้างบ้านตัวน้อยของเขาอีกต่อไป แต่กลายเป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ที่มีความคิดและอุดมการณ์เป็นของตนเอง แต่ส่วนที่น่ารักที่สุด ยังเป็นการยอมทำตามคำพูดเขาในตอนสุดท้ายนั่นเอง
“งั้นสัญญากับพี่ก่อน” โงกุนพูดขึ้น “ว่าถ้าพี่อนุญาตให้ไปค่ายแล้วจะดูแลตัวเองดีๆ ไม่ทำอะไรเกินตัว กลับมาอย่างปลอดภัย และพอกลับมาแล้วต้องไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เอาแต่ใจกับพี่ โอเคมั้ยครับ”
“... หมายความว่า ถ้ายุ่งทำได้ พี่โงจะอนุญาตให้ยุ่งไปค่ายใช่มั้ย”
“ครับ” เมื่อโงกุนรับคำ ร่างบางก็ยิ้มกว้างออกมาทันที พลางโผเข้ากอดคนตรงหน้าแน่น
“ยุ่งสัญญาฮะ สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญเลยว่ายุ่งจะดูแลตัวเองดีๆ กลับมาครบสามสิบสองแน่นอน”
“ทันทีที่กลับมา โทรหาพี่นะรู้มั้ย” โงกุนกำชับอีกครั้ง เมื่อมาส่งร่างบางที่คณะรัฐศาสตร์
“ฮะ”
“ของเก็บมาหมดแล้วใช่มั้ย ลืมอะไรขึ้นดอยไปแล้ว เอาไม่ได้แล้วฮะ”
“คิดว่าไม่ลืมอะไรแล้วฮะ”
“ดี ดูแลตัวเองดีๆ นะรู้มั้ย พี่เป็นห่วง”
“ฮะ ทราบแล้ว ยังง่วงอยู่ไม่ใช่เหรอ เมื่อคืนนอนดึกว่ายุ่งอีก” ร่างบางบอก ก็เมื่อคืนหลังจากที่ทั้งสองออกไปซื้อถุงนอนและกลับมาเวลาก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว กว่าจะอาบน้ำ และจัดของเสร็จ ยุ่งนอนตีสองกว่า ในขณะที่โงกุนซึ่งมีรายงานต้องทำยังไม่ได้หลับด้วยซ้ำ
“อืม เดี๋ยวเอารายงานไปฝากเพื่อนส่ง แล้วจะกลับไปนอนแล้วล่ะ” โงกุนบอก พลางหันหลังไปเปิดประตูรถ แต่ก็ต้องชะงัก แล้วหันกลับมาหาร่างบาง
“มีอะไรเหรอฮะ”
“เรื่องที่เราเคยคุยกันไว้”
“เรื่องไหนฮะ” ยุ่งถามอย่างไม่เข้าใจ ก็วันๆ คุยกันไม่รู้กี่แปดพันเรื่อง
“เรื่องที่พี่บอกว่า จะยังไม่ทำอะไรยุ่ง ตอนนี้ ไง พอยุ่งกลับมาพี่คิดว่าคงหมดช่วงเวลาของ ตอนนี้ แล้วล่ะ ฉะนั้นสัญญาก็สิ้นสุดแล้วนะ” โงกุนพูด ก่อนจะเข้าไปในรถและขับออกไป ทิ้งให้คนที่จะถูกทำอะไรเขินหน้าแดงอยู่ตรงนั้น
“โงบ้า..”
=========================================================
บางทีโงอาจจะไม่เคยรู้ใจตัวเองจริงๆ เลยก็ได้นะ...
คือไม่ได้ตั้งใจให้มันเศร้านะ
แต่ตอนพิมพ์มันมันส์อ่ะ y.y
แล้วเรื่องนี้มันก็หื่นนะ
เดี๋ยวมันหื่นขึ้นอีกแน่น้อนนนนนน
ความคิดเห็น