ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Other Day# [ตกหลุมรักร้ายเกินห้ามใจ!] @^_^@

    ลำดับตอนที่ #1 : The Other Day# [ตกหลุมรักร้ายเกินห้ามใจ!] @^_^@ :: บทนำ 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 48


         The Other Day # [ตกหลุมรักร้ายเกินห้ามใจ!] @^_^@



    บทเริ่มต้น 1



        ฉันมาโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูกจริงๆ  ฉันกำลังทำอะไรที่ฝืนกับตัวเองอย่างที่สุดเลยจริงๆ  เท่าที่ทำได้ก็แค่ยิ้มแบบฝืนเต็มที่ให้กับคนที่มาทักทายฉัน  แต่ฉันอยากร้องไห้ออกมาที่สุดเลยอ่ะ



        ทำไมน่ะเหรอก็ฉันไม่อยากย้ายห้องนี่นา  ฉันไม่อยากย้ายจริงๆ  ฉันเดินมาดูบอร์ดที่ติดรายชื่อห้อง  แต่เป็นใบรายชื่อเก่าที่บอกว่าใครโดนย้ายไปที่ไหนกันบ้าง  ส่วนใหญ่แล้วก็วนเวียนกันอยู่ 2 ห้องนี่เหละ  ห้อง 1 กับห้อง 2 แต่ฉันไม่อยากย้ายมาอยู่ห้อง 2 นี่นา ห้องที่มีแต่ใครก็ไม่รู้  ฉันไม่อยากอยู่ที่ห้องนี้เลย  ไม่อยากปรับตัวใหม่อีก  ไม่อยากจากเพื่อนเก่าๆเลยซักคนเดียว  



        ฉันเดินมาเรื่อยๆความจริงฉันทำใจมาจากที่บ้านแล้วเพราะว่าเพื่อนฉันโทรฯมาบอกว่าฉันได้อยู่ห้อง 2 แต่ฉันยังทำใจไม่ได้นี่นา  ฉันพบรายชื่อห้อง 2 โดยบังเอิญมันติดอยู่ที่คนที่ฉันต้องอยู่ด้วยตั้งปีนึงแน่ะ



        ฉันไล่รายชื่อลงมาเรื่อยๆมีแต่คนไม่รู้จักทั้งนั้นเลยอ่ะ  จนมาถึงชื่อนึง เอ๊ะนี่อย่าบอกนะว่าพวกนี้อยู่ด้วย ฉันรีบมองชื่อที่อยู่ล่างๆทันที  ไม่จริงฉันจะเป็นลมแล้ว  ฉันไม่อยากอยู่ห้องนี้  อยากร้องไห้  ไม่ใช่สิฉันต้องลาออกจากโรงเรียนนี้ต่างหาก  นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันน่ะ  ไม่จริงใช่มั๊ย ฉันไม่อยากคิดแล้ว  



        ฉันเดินออกมาตามหาเพื่อนฉันแล้วรีบบอกทันทีเลย



        “นี่พวกแกรู้หรือเปล่าว่าพวกนั้นมาอยู่ห้องเราด้วยอ่ะ”



        “พวกนั้น ใครเหรอ”



        ตอนนี้เรื่องราวในอดีตกำลังถูกฉายขึ้นมาทีละภาพ  ฉันอยากย้ายโรงเรียนที่สุดเลย



        “มันจำไม่ได้หรอกมันนานแล้วนะ”



        “ฉันรู้ว่านาน  แต่ฉันยังกลัวอยู่” ฉันไม่กล้าไปที่ห้องแล้วนะ  ฉันไม่อยากไปเลยค่ะ



        “กลัวอะไรเดี๋ยวเค้าช่วยเอง”



        ฉันทำเป็นว่าสบายใจ  แต่ฉันกำลังกลัวอย่างมากที่สุดเลยนะ  ฉันกลัวอ่ะ  ใครก็ได้ช่วยฉันที



        ฉันจำเป็นต้องเดินขึ้นมารายงานตัวเพราะว่าฉันจะปล่อยแม่ไว้คนเดียวได้ยังไงล่ะ  ไม่อยากจะเชื่อเลย  นั่นทำไมแม่ต้องมานั่งข้างหลังอีตานี่ที่ฉันกลัวด้วยนะ  ไม่เอานะ ฉันไม่กล้าเดินไปอ่ะ  



        ฉันไม่อยากคิดเลยว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดของฉันเพราะว่าวันต่อๆไปน่ะ  ฉันยังคงต้องอยู่ห้องนี้ไปเรื่อยๆน่ะสิแล้วฉันจะรอดปลอดภัยมั๊ยเนี่ย  ฉันไม่อยากเรียนแล้วนะ  ฉันอยากบอกแม่จังว่าไม่เอาแล้ว  ฉันจะไม่อยู่อีกแล้ว  แต่ฉันก็ไม่กล้าพูด



        เวลา 1 นาที ผ่านไปช้ามากเหลือเกิน  ฉันกลัวจริงๆกลัวว่ามันจะหันมาขู่ฉัน  กลัวมันหันมาด่าชะมัดเลยอ่ะ







        ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

        





        ฉันไม่รู้ว่าผ่านวันนั้นมายังไง  แต่ปัญหามันกำลังจะเกิดขึ้นแล้วอ่ะ  วันเปิดเรียนที่แสนจะน่ากลัวมาถึงแล้วอ่ะ



        เป็นธรรมเนียม  และเป็นธรรมดาที่เปิดเทอมเริ่มเรียนวันแรกทุกคนจะรีบไปหาห้องเรียน  ไม่ใช่รีบโดยปกติหรอกนะ  แต่ว่ารีบโดยการวิ่งๆๆๆๆๆๆๆ  ฉันเหนื่อยจริงๆที่ต้องวิ่ง  ทำไมต้องวิ่งน่ะเหรอ  ก็ถ้าหากไม่วิ่งก็ไม่มีที่นั่งน่ะสิ  ที่ต้องวิ่งกันก็เพราะว่าแย่งที่นั่งกันนี่แหละค่ะ



        แต่หากว่าฉันดูถูกคู่แข่งที่มาจากห้องอื่นมาไปน่ะสิ  เพราะเมื่อถึงคาบต่อไป  คนเหล่านี้จะวิ่งมาได้เร็วมาก  จนฉันคิดว่า  พวกนั้นต้องบ้าแน่ๆที่ต้องวิ่งมาเพื่อนั่งข้างหน้าทุกครั้งไป  ทั้งที่พวกนั้นน่ะ ตัวสูงบังคนข้างหลัง  แล้วฉันกับเพื่อนก็ต้องระเห็จเร่ร่อน  ออกมานั่งข้างประตูทุกชั่วโมงไปน่ะสิ  ฉันละหน่ายใจจริงๆนะ



        ฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่พวกนั้นมองฉันแล้วก็เข้ามาพูดกับฉันเข้ามาเล่นด้วย  แต่เผอิญว่าฉันน่ะไม่เล่นด้วยหรอก  ใครจะไปกล้าล่ะยะ  ฉันกลัวนี่นา



        รู้อะไรกันมั๊ยล่ะว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า  พระเจ้าช่างโหดร้ายจริงๆเลย  ฉันไม่เคยกลัวใครเท่านี้เลยแฮะ  ก็ดูไอ้คนนั้นสิมันมองฉันเหมือนอยากฆ่า   มันจำฉันได้งั้นเหรอ  เอ๊ยไม่จริงใช่มั๊ย  ให้ตายเหอะ  ทำไมมันต้องหันมามองฉันทุก ๆ1 นาทีด้วยนะ  มันจะฆ่าฉันมั๊ย  ฉันกลัวสิ่งแรกที่ฉันคิดออกตอนนี้ก็คือ



        “นี่ๆ พา แกดูดิ ไอ้นั่นอ่ะดูมันมองเค้าดิ  แก.........”



        ฉันเริ่มเล่าให้เพื่อนซี้ฟังว่าไอ้นั่นมันมองฉันอ่ะ



        “ไหนเค้าไม่เห็นมันจะมองแกเลย”



        “เดี๋ยวคอยดูดิ  มันมองแบบไม่ชอบเค้าอ่ะ”



        “แกคิดมากไปหรือเปล่า”



        “หรือว่ามันจะจำได้อ่ะ”



        “บ้า  ตั้งนานแล้ว  ป่านี้มันจำไม่ได้หรอก”



        “แล้วถ้าจำได้ล่ะ จะทำยังไงดี”



        “ถ้ามันจำได้  มันคงไม่มาเล่นกับแกหรอกมันคงบอกเพื่อนมันแล้วแหละ”



        อือ  มีเหตุผลนะ  แต่ฉันยังไม่ไว้ใจว่ะ



        “แกก็พูดแต่ในทางที่ดีแหละ  แกคิดมั่งมั๊ยว่ามันอาจมาตีซี้กับเราก็ได้  ให้เราไว้ใจมันแล้วหรอกเราอ่ะ”



        “บ้า  เค้าว่าแกอ่ะบ้า  แกคิดมากเกินไปแล้ว”



        ทำไมต้องมาว่าเพื่อนแกด้วยวะ  ไอ้พวกนั้นมันดีกว่าฉันตรงไหนอ่ะ



        “เดี๋ยวแกคอยดูเหอะว่ามันมองเค้ายังไงแล้วแกก็ต้องคิดแบบเค้าแน่ๆ”



        “........................”



        ยัยพา  มันทำหน้าราวกับว่า ฉันกำลังอะไรเกินเหตุไปแล้ว  สีหน้าบ่งบอกว่าไม่มีทางเป็นอย่างที่ฉันคิดขึ้นมาได้หรอก  แล้วคอยดูเถอะย่ะว่าใครกันแน่ที่บ้า  อย่างน้อยการคิดมากก็ดีกว่าการคิดน้อยไม่ใช่เหรอไง

        

        “อิม เค้าคิดว่าเคอ่ะนิสัยดีนะ  แต่คนที่ชื่อโอ๋เค้าไม่รู้นิสัย”



        เพื่อนฉันที่ชื่อ นิ่มพูดกับฉันเมื่อไอ้เคอะไรเนี่ยมาคุยด้วยแต่ฉันกลับไม่สนใจแล้วก็ไม่อยากคุยด้วย  ที่จริงฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยนะ  แต่ว่าฉันน่ะกลัวมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลกเลยแหละ  แต่ว่าคำพูดของมันก็ถูกแฮะฉันน่าจะพูดกับมันดีๆเผื่อว่ามันจะลืมจริงๆอ่ะ



        วันนี้อีกตามเคย  โธ่มันจะมองฉันถึงเมื่อไหรกันเนี่ยฮะ  ไอ้บ้าอยากฆ่าก็มาเลยสิวะ



        ไอ้หมอนี่จะไม่เลิกส่งสายตาอาฆาตแค้นมาให้ฉันเลยใช่มั๊ยเนี่ย    ฉันไม่อยากทำร้ายใครนะยะ



        “นี่ พา แกดูดิเมื่อกี้มันมองเค้าอีกแล้วนา”



        ฉันเริ่มขอความเห็นใจจากเพื่อนผู้แสนดีอีกครั้งในหลายวันต่อมา



        “เค้าบอกแล้วไงว่าแกคิดมากไปเอง”



        นี่มันจะไม่ยอมเลิกคิดแบบนี้ใช่มั๊ยเนี่ย



        ไอ้เพื่อนบ้าเอ๊ย



        “พาๆ  จริงๆนะ  เค้าก็เคยเห็นคนที่ชื่อโอ๋จ้องอิมเหมือนกัน”



        ในที่สุดก็มีคนมาเข้าข้างฉันแล้ว  หลังจากที่หามานานแสนนาน



        “ใช่ เห็นมั๊ย พา  แกมันบ้า ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอ่ะ”



        ฉันรีบออกความเห็นทันที  เนื่องจากมีเพื่อนแล้วคนนึง



        “เหรอมันมองแบบไหนอ่ะตูน”



        ไอ้พาตอนนี้แกเริ่มสนใจแล้วสิ



        “ก็มองแบบไม่ชอบ  แบบอยากจะฆ่าเค้าน่ะสิ  เค้าบอกแกตั้งหลายรอบแล้ว”



        ไอ้เพื่อนบ้าทำไมไม่ยอมรับรู้ซะทีนะ



        “เออ  เค้าก็เห็นมันจ้องอิมอย่างงั้นแหละ  จ้องตั้งนาน  จ้องบ่อยด้วยแหละ   เค้าเห็นยังกลัวเลยมันน่ากลัวมากเลยอ่ะ  แบบเหมือนว่าไม่ชอบอิม”



        ต้องได้อย่างงั้นสิ  นี่สิถึงจะเรียกว่าเพื่อนของจริง  ไอ้พา  แกมันเพื่อนหรือเปล่าเนี่ยฮะ



        “งั้นเราจะทำยังไงดีล่ะ  ไปถามกันมั๊ย”



        “ไม่เอาเค้ากลัวมัน  อยู่เฉยๆแหละดีแล้ว”



        ฉันกลัว  แล้วก็รู้สึกตัวเองด้วยว่าเริ่มกลัวมากกว่าเดิมซะอีก  ก็ฉันไม่ได้คิดไปเอง  ไม่ได้รู้สึกแค่คนเดียวนี่นา  ขนาดคนที่ไม่ได้โดนจ้องอย่างนั้นยังกลัวเลย  แล้วฉันล่ะ จะทำยังไง ดีล่ะเนี่ย



        ตอนนี้ฉันคิดไม่ออกแล้ว  ฉันไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้เลย  



        กลุ้มใจจริงโว๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

        



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×