ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] LUMIN My Bro พี่ชายสุดที่รัก

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7 Bad Memory...

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 57


    Chapter 7 … Bad Memory…

     

    “ ผมกลับมาแล้วครับ! ” เสียงทุ้มใหญ่บอกเมื่อเขาเดินเข้าบ้านมา

     

    “ มาแล้วหรอคะคุณหนู ” เสียงแม่บ้านของบ้านหลังนี้ดังขึ้น เธอเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มอบให้กับคนตรงหน้า

     

    “ ไปไหนกันหมดอ่ะ ”

     

    “ คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงไปหาคุณหนูคยองซูคะ ” แม่บ้านบอก

     

    ชานยอลขมวดคิ้วเข้าหากันและเดินออกจากบ้านไปทันที แม่บ้านเรียกชานยอลให้กลับมาแต่เขาก็ไม่สนใจ ชานยอลเดินออกจากบ้านหรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ได้ เขาเดินออกมาอย่างไม่สนใจอะไรและเดินต่อไปเรื่อย ๆ ยังจุดหมายของเขา

     

    “ ทำไมพ่อกับแม่ต้องสนใจเด็กเวรนั่นด้วย ” ชานยอลพูดออกมาอย่างอึดอัด

     

    ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงเกลียดพวกปัญญาอ่อนนอกจากคนในครอบครัวเขา แต่พวกเขาก็ยังขัดใจปาร์ค ชานยอลคนนี้ คนพวกนั้นเหมือนเป็นขยะสังคมที่ควรโดนกำจัดทิ้ง ถ้าเป็นไปได้เขาจะเขียนจดหมายร้องเรียนรัฐมนตรีให้กำจัดคนพวกนี้ให้สิ้นซาก โทษฐานที่ทำให้ชานยอลต้องสูญเสียสิ่งที่เขารัก

     

    ...

     

    “ ชานยอล... มาหาแม่หน่อยสิจ๊ะ ”

     

    เสียงเรียกจากแม่ ทำให้เด็กน้อยที่กำลังเล่นของเล่นชิ้นใหม่ต้องหันมาตามเสียงและวิ่งไปหาแม่ของเขาตามคำร้อง

     

    “ มีอะไรหรอฮะ ” เด็กน้อยถาม

     

    “ พี่ยูรามีของจะให้ลูกน่ะจ๊ะ ” แม่บอก เด็กน้อยหันไปมองหน้าพี่สาวของเขา

     

    “ ชานยอล!! ” พี่สาวเรียกเด็กน้อยไปหาและถือกล่องเดินเข้ามา เด็กน้อยวิ่งไปหาพี่สาวและมองลงในกล่อง

     

    “ ว้าว!!! ” เสียงดีใจของเด็กน้อย

     

    ชานยอลมองสิ่งที่อยู่ภายในกล่องก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา มันคือลูกหมาพันธุ์ไซบีเรียน ชานยอลยิ้มอย่างดีใจและมองทุกคนก่อนจะอุ้มลูกหมามากอดอย่างทะนุถนอม

     

    “ พี่ฝากนายเลี้ยงด้วยนะชานยอล ” พี่สาวบอก

     

    ชานยอลพยักหน้ารัว ๆ และเล่นกับลูกหมาอย่างมีความสุข

     

    เวลาผ่านไป จากลูกหมาก็กลายเป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนขนาดกลางที่แสนรู้ ชานยอลมักจะตรงมาหาเจ้าตัวนี้ทันทีที่กลับจากโรงเรียนและใช้เวลาส่วนใหญ่หมกตัวอยู่กับมัน จนกระทั่งวันหนึ่ง

     

    “ นี่คือ โด คยองซู ลูกชายของคุณน้าโด ฮยอนซูจ๊ะ ”

     

    แม่ของชานยอลแนะนำเพื่อนตัวเล็กที่น่าจะอายุเท่า ๆ กับชานยอลให้รู้จัก ชานยอลยิ้มให้คยองซู แต่คยองซูกับเมินเฉยต่อรอยยิ้มที่เป็นมิตรนั้นของชานยอล จนชานยอลรู้สึกแปลก ๆ

     

    “ แม่ ลูกคุณน้าฮยอนซู เขา... ปกติหรือเปล่า ” ชานยอลถามแม่ของเขา

     

    “ จุ๊ ๆ อย่าเสียงดังไปนะลูก คยองซูเขามีปัญหาทางสมองนิดหน่อย เห็นน้าฮยอนซูบอกว่าจมน้ำและขาดอากาศนานไปหน่อยน่ะ แต่ว่าคุณน้าเขาก็หาทางรักษาลูกเขาอยู่นะ ” แม่บอก ชานยอลพยักหน้าเข้าใจ

     

    ชานยอลไม่ใช่คนใจร้ายอะไรที่จะรังเกียจคนป่วยอย่างคยองซู ชานยอลพยายามพูดคุยกับคยองซูอย่างกับคนปกติ ถึงแม้ว่าบางครั้งคยองซูจะไม่รับรู้ว่าชานยอลพูดอะไรอยู่ก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปชานยอลก็เริ่มที่จะเข้าใจคยองซูมากขึ้น และปรับตัวเข้าหาคยองซู

     

    “ นายชอบวาดรูปหรอ ” ชานยอลถามคยองซูเมื่อเห็นว่าคยองซูกำลังถือดินสออยู่หลังกระดาษแผ่นใหญ่ คยองซูไม่พูดอะไร ชานยอลก็เดินมาหาดูผลงานของคยองซู

     

    “ สุดยอด! ” ชานยอลร้องออกมาอย่างประหลาดใจ

     

    รูปวาดของคยองซูสวยมาก ชานยอลคิดว่าคยองซูวาดรูปได้สวยกว่าเพื่อนของเขาอีกหลายคนเลย เผลอ ๆ คยองซูอาจจะวาดสวยสู้ศิลปินรุ่นใหญ่ได้เลย

     

    “ คราวหน้านายวาดรูปฉันกับเจ้าแบคมันด้วยนะ ” ชานยอลบอกแล้วเดินไปหาเจ้าแบค สุนัขสุดที่รักของเขา

     

    ความสัมพันธ์ของทั้งสองเหมือนจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันที่ชานยอลไม่อยากให้เกิดก็มาถึง

     

    “ ผมกลับมาแล้วครับ! ” ชานยอลร้องลั่นบ้านหลังจากกลับจากโรงเรียน เขาตรงดิ่งมาหาพี่สาวที่สวนหลังบ้าน

     

    “ พี่ยูรา เจ้าแบคล่ะ ” ชานยอลถาม

     

    “ ออกไปกับคยองซูน่ะ พี่เห็นว่าคยองซูเขาก็อาการดีขึ้นมากแล้ว ก็เลยให้พาเจ้าแบคมันออกไปเดินเล่นรอชานยอลน่ะ ” ยูราบอก

     

    ชานยอลพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเดินออกไปหาอะไรทำรอคยองซูกับเจ้าแบค และเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น สักครู่แม่บ้านก็เดินมาหาชายอล

     

    “ คุณหนูทำใจดี ๆ ไว้นะคะ ” แม่บ้านบอกชานยอลด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

     

    “ มีอะไรหรอป้าโอ ” ชานยอลถาม

     

    “ คุณหนูคยองซูกับเจ้าแบค... โดนรถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลแถวอิแทวอนคะ ”

     

    “ อะไรนะ!! ” ชานยอลเผลอร้องออกมาเสียงดัง ตอนนี้ใจของเขาได้ตกไปอยู่ข้างล่างแล้ว ยูราเดินออกมาหาน้องชาย

     

    “ เกิดอะไรขึ้นหรอป้าโอ ” ยูราถาม แต่ไม่ทันที่ป้าโอจะตอบ ชานยอลก็วิ่งออกจากบ้านไปทันที

     

    ชานยอลนั่งรถแท็กซี่มาที่โรงพยาบาล เขาเป็นห่วงคยองซูและเจ้าแบคมาก เขาไม่อยากให้ทั้งสองคนเป็นอะไรไป เมื่อชานยอลไปถึง เขาก็เห็นฮยอนซูยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน

     

    “ คยองซูเป็นอะไรบ้างครับ น้าฮยอนซู ” ชานยอลถาม

     

    “ ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่ คยองซูไม่เป็นอะไรมากหรอก หมอทำแผลให้อยู่น่ะ ”

     

    “ อย่างนั้นหรอครับ... แล้วเจ้าแบคล่ะครับ ” ชานยอลถามต่อ ฮยอนซูนิ่งเงียบไปสักครู่ก่อนจะตอบ

     

    “ เสียใจด้วยนะชานยอล เจ้าแบคมันตายแล้วล่ะ ” ฮยอนซูพูดจบ ชานยอลเหมือนโดนค้อนหนัก ๆ ทุบหัว ชานยอลยืนไม่อยู่จึงทิ้งตัวลงกับพื้น น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมา เขารู้สึกจุกจนพูดไม่ออกจริง ๆ

     

    “ ชานยอล ทำใจดี ๆ ไว้นะ น้าขอโทษแทนคยองซูด้วยนะ ที่ทำให้เจ้าแบคมันตายน่ะ แต่ถ้าเจ้าแบคมันไม่มาขวางรถไว้ ปานนี้คยองซูคงได้ตายแทนเจ้าแบคแล้วล่ะ ”

     

    “ อะไรนะครับ ” ชานยอลมองหน้าฮยอนซูอย่างต้องการคำตอบ เขาอยากได้ยินสิ่งที่ฮยอนซูพูดอีกครั้ง

     

    “ น้าขอโทษจริง ๆ คยองซูมันดื้อ พยายามจะข้ามถนนทั้งที่เป็นไฟเขียวอยู่ เจ้าแบคของชานยอลน่ะ มันแสนรู้จริง ๆ เลยนะ ต้องขอบใจมันที่ช่วยชีวิตคยองซูไว้ ” ฮยอนซูบอก

     

    ชานยอลที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่นั่งนิ่ง เจ้าแบคเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา ทำไมเจ้าแบคต้องมาตายเพราะคนแบบนั้นนะ ชานยอลไม่เข้าใจและชานยอลก็ไม่ยอมรับมัน

     

    “ ถ้าชานยอลอยากได้หมาตัวใหม่ เดี๋ยวน้าจะซื้อให้นะ ”

     

    “ ไม่ต้องหรอกครับ ผมขอแค่อย่าพาคยองซูมาที่บ้านของผมอีก ก็พอ... ” ชานยอลบอกแค่นั้นและเดินจากไป ปล่อยให้ฮยอนซูยืนอึ้งกับสิ่งที่เด็กคนนั้นบอก

     

    ชานยอลไม่อยากเห็นหน้าคนที่ทำให้เจ้าแบคตาย ชานยอลรักเจ้าแบคที่สุดรองลงมาจากพ่อแม่และพี่สาวของเขา เจ้าแบคคือเพื่อนที่ดีที่สุดเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เจ้าแบคคือสิ่งล้ำค่าที่ไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้ ต่อให้ฮยอนซูซื้อหมาตัวใหม่ที่เหมือนเจ้าแบคมากแค่ไหน ความรู้สึกที่เรียกว่าความผูกพัน มันก็มีให้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ชานยอลไม่อยากเห็นหน้าคนคนนั้นจริง ๆ

     

    ...

     

    “ ชานยอล!! ” เสียงเรียกไม่ไกลจากตัว ทำให้เจ้าของชื่อหันหน้าไปมอง

     

    “ พี่ยูรา... ” ชานยอลเอ่ยออกมา

     

    “ มานั่งทำอะไรอยู่แถวนี้ พ่อกับแม่บอกว่าจะไปหาคยองซูนี่ นายไม่ไปด้วยหรอ ”

     

    “ ถามแบบนี้ หุบปากไปเลย ” ชานยอลบอกและทำหน้าตึงใส่

     

    “ พี่ล้อเล่นน่า นี่นายยังไม่หายโกรธคยองซูเขาอีกหรอ  3 ปีมาแล้วนะ ”

     

    “ ถ้าพี่โดนแบบผมบ้าง พี่จะไม่พูดแบบนี้กับผมแน่ ”

     

    “ โอเค ไม่พูดก็ได้ แล้วกินอะไรมาหรือยัง ”

     

    “ แล้วคิดว่าไง ”

     

    “ นี่ ตอบคำถามฉันให้มันดี ๆ หน่อยสิ ฉันเป็นพี่แกนะ ”

     

    “ แล้วไง คนอารมณ์ไม่ดี หัดดูซะบ้างสิ ”

     

    “ ปาร์ค ชานยอล!!!

     

    “ อะไร!! ” ทั้งสองคนยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละจนยูรายอมแพ้เพราะแสบตาก่อน

     

    “ โอเค! ฉันจะกลับบ้าน นายจะกลับด้วยกันไหมล่ะ ”

     

    “ อืม! หิวข้าวแล้วอ่ะ ” พุดจบชานยอลก็เดินนำยูราไป

     

    ยูรามองตามชานยอลอย่างเห็นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วจะเรียกร้องกลับมาเท่าไหร่มันก็ไม่มีวันกลับคืนมาอีกแล้ว

     

    ...

     

    ...

     

    เช้าวันอาทิตย์ วันนี้มินซอกขอตื่นสายเพราะอ่านหนังสือดึกไปหน่อย การสอบย่อยวิชาภาษาอังกฤษในวันพรุ่งนี้ มินซอกจะต้องทำคะแนนให้ผ่านครึ่งให้ได้ ไม่อย่างนั้นเกรดออกมาไม่สวยแน่

     

    “ แม่ครับ วันนี้แม่จะอยู่บ้านหรือเปล่า ” มินซอกถามเมื่อเดินลงมาหาแม่ที่อยู่หลังบ้าน

     

    “ วันนี้แม่ว่าจะไปโรงพยาบาลน่ะ ทำไมหรอ ”

     

    “ พอดีว่าผมจะไปหาจงแด ไปอ่านหนังสือกันน่ะครับ ก็เลยจะฝากลู่หานไว้ ” มินซอกบอก

     

    “ วันนี้แม่จะไปโรงพยาบาลกับลู่หานนั่นล่ะ ไม่ต้องฝากหรอก ” แม่บอกและยิ้มให้

     

    “ หรอครับ แล้วแม่เป็นอะไรหรอครับ ทำไมต้องไปโรงพยาบาลด้วย ”

     

    “ แม่จะพาลู่หานไปหาหมอนิดหน่อย จะเช็คว่าลู่หานดีขึ้นไหมน่ะ มินซอกว่า... ลู่หานเขาอาการดีขึ้นไหม ” แม่ถามมินซอก

     

    “ ก็... ดีขึ้นมั้งครับ ” มินซอกไม่รู้ว่าลู่หานอาการดีขึ้นมากแค่ไหน และเขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบแม่เขาไปว่าอย่างไรเหมือนกัน

     

    “ งั้นไปถามหมอดีกว่าเนอะ ” แม่บอกและเดินเข้าบ้านไป

     

    มินซอกมองตามแม่อย่างสงสัย สงสัยลู่หานจะอาการดีขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ ถ้าลู่หานหายเป็นปกติ มินซอกก็จะได้มีเพื่อนคุยเวลาอยู่บ้านคนเดียวบ้าง

     

    เมื่อถึงเวลาแม่ก็พาลู่หานออกไปหาหมอที่โรงพยาบาล ลู่หานดูงอแงนิดหน่อย แต่มินซอกบอกให้ลู่หานไป ลู่หานก็ไปอย่างว่าง่ายจนแม่เขาสงสัย มินซอกเลยบอกแม่ให้รีบพาลู่หานออกไปก่อนที่ลู่หานจะเปลี่ยนใจ

     

    เมื่อแม่ออกไปแล้ว มินซอกก็เตรียมตัวไปบ้านจงแดเพื่ออ่านหนังสือ จงแดโทรมาชวนเขาตั้งแต่เมื่อคืนว่าให้มานอนค้างที่บ้าน แต่มินซอกขี้เกียจไปและกลัวว่าถ้าไปบ้านจงแด เปอร์เซ็นต์การอ่านหนังสือจะลดลงถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

     

    “ นี่เคยคิดจะย้ายบ้านไปอยู่หลังเล็ก ๆ บ้างไหมวะ ” มินซอกถามเมื่อเขามาถึงบ้านจงแดที่อยู่ในย่านกังนัม

     

    จงแดในสายตาของมินซอกนั้น เขาเป็นคนฉลาดและมีน้ำใจ ทำตัวติดดิน และชอบเล่นเกมส์แต่ก็ยังทำการบ้านส่งอาจารย์ด้วยตัวเอง มินซอกนับถือจงแดที่อะไรก็ดูดีไปซะหมด แต่ทว่าจงแดทำลายความคิดของมินซอกทิ้งทั้งหมด ด้วยการพามาที่บ้าน ซึ่งมินซอกไม่คิดว่าจงแดจะมีฐานะขนาดนี้ แถมบ้านยังอยู่ในย่านกังนัม ย่านที่มีคนรวยอาศัยอยู่กันด้วย มินซอกคิดว่าจงแดต้องแกล้งอำเขาแน่ ๆ แต่ไม่ใช่

     

    “ นี่มึงยังไม่ชินกับการมาบ้านกูอีกหรอวะ รีบ ๆ ชินได้แล้ว เดี๋ยวก็ได้มาเป็นสะใภ้บ้านนี้แล้ว ” จงแดบอก

     

    “ หยุดพูดเลย กูไม่ได้พิศวาสมึง ” มินซอกบอกพร้อมกับผลักหัวจงแด จงแดเลยได้แต่หัวเราะ

     

    ทั้งสองคนเริ่มอ่านหนังสือกันตั้งแต่สิบโมงจนถึงเที่ยง จงแดก็เริ่มที่จะก่อกวนมินซอกเพราะเขาอ่านหนังสือจบแล้ว

     

    “ มินซอก มึงรีบ ๆ อ่านหนังสือหน่อยดิวะ ”

     

    “ นี่ มึงกับกูน่ะ ทักษะไม่เหมือนกันนะเว้ย อ่านเสร็จแล้วก็ไปที่อื่นสิ จะมากวนกูทำไมวะ ”

     

    “ ก็กวนมึงสนุกกว่าอ่ะ ไม่ต้องอ่านแล้ว ไปหาอะไรกินกับกูดีกว่า ” พูดจบจงแดก็ลากมินซอกออกไปทันที จนมินซอกเกือบล้ม จงแดพามินซอกออกมาที่โรงรถของเขาก่อนจะมองดูรถแต่ละคน

     

    “ นี่มึงจะเอาไปอีกแล้วหรอ ” มินซอกถาม

     

    “ แน่นอน ฉันมีใบขับขี่นะ ” จงแดบอกแล้วมองดูรถต่อ

     

    “ แต่ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ใช่รถยนต์นี่วะ ”

     

    “ ก็ใช่ไง อ๊ะ! เห็นล่ะ ” จงแดเดินไปที่รถจักยานยนต์ที่มีราคา

     

    “ เวสป้าหรอ? มึงซื้อมาเมื่อไหร่ ” มินซอกถามด้วยความตื่นเต้น เพราะมันเป็นรถยี่ห้อที่มินซอกอยากได้มาก ๆ

     

    “ ก็สองสามวันแล้วล่ะ พ่อฉันรู้จักกับเจ้าของอู่ซ่อมรถน่ะ เขาเลยเอามาให้พ่อฉัน พอดีว่าฉันบอกพ่อว่าอยากได้มานานแล้วล่ะ ” จงแดบอกและยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเดินไปเอารถออกมา

     

    มินซอกมองรถที่จงแดลากออกมาอย่างสนใจ เขาชอบรถสไตล์นี้มาก ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยแข็งแรง แต่มันก็ใช้ขับขี่ไปได้ทั่ว  และเขารู้สึกได้ว่ามันบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขาด้วย

     

    “ ชอบใช่ไหมล่ะ กูขายถูก ๆ ให้เอาไหม ” จงแดบอก

     

    “ เฮ้ย! มึงเพิ่งซื้อมานะ จะมาขายให้กูล่ะ บ้าเปล่า ” มินซอกบอก

     

    “ เอาจริง ๆ นะ กูซื้อมาให้มึงนั่นล่ะ แต่กูรู้ไง ว่ามึงไม่มีปัญญาซื้อมันหรอก กูก็เลยซื้อมาให้มึง แล้วมึงก็ค่อยผ่อนจ่ายให้กูไง ” จงแดบอก

     

    มินซอกได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจและตื้นตัน เขาไม่คิดว่าจงแดจะเป็นผู้ให้ได้ขนาดนี้ มินซอกมองหน้าจงแดแล้วพูดไม่ออก น้ำตาที่คลออยู่คงบ่งบอกได้ว่า เขารู้สึกยังไง

     

    “ ขอบใจนะเว้ย จงแด ” มินซอกพูดและตบบ่าจงแดเชิงขอบคุณ

     

    มินซอกเดินมาสำรวจรถและมองมันอย่างจดจำรายละเอียด มินซอกใฝ่ฝันว่าถ้าเขาได้ทำงาน เขาจะขับรถเวสป้าไปทำงานทุกวันและอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ แบบนี้กับแม่แล้วก็ ลู่หาน...

     

    “ วันนี้แม่พาลู่หานไปโรงพยาบาลด้วยล่ะ ” อยู่ ๆ มินซอกก็พูดถึงลู่หาน

     

    “ อ้าว หรอ ลู่หานเป็นอะไรอ่ะ ”

     

    “ แม่บอกว่าแค่ไปเช็คอาการน่ะ ”

     

    “ อ๋อ งั้นแสดงว่าลู่หานก็ใกล้หายอ่ะดิ ดีแล้ว มึงจะได้มีน้องชายที่พูดคุยกันได้รู้เรื่องไง ” จงแดบอก

     

    มินซอกหยุดดูรถเวสป้าแล้วคิดถึงเรื่องของลู่หาน ทำไมเขายังไม่อยากให้ลู่หานหายดีนะ

     

    ...

     

    ...

     

    “ แม่กลับมาแล้วจ๊ะ มินซอก ” เสียงของแม่ดังขึ้น เมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาในเวลาเย็น มินซอกที่กำลังนั่งอ่านหนังสือที่โซฟาก็ลุกขึ้นไปหาแม่

     

    “ เป็นยังไงบ้างครับ ” มินซอกถาม

     

    “ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ เราค่อยคุยกันแล้วกันนะ ” แม่บอกมินซอก สงสัยจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่โรงพยาบาล มินซอกมองลู่หานที่กำลังยืดพื้นที่โซฟาไปแล้ว และเดินไปหา

     

    “ วันนี้เป็นยังไงบ้าง ” มินซอกถาม

     

    “ มีคน... มีคนมาหาลู่หาน... แล้วก็... แล้วก็...ถามว่า... อยากไปลอนดอนไหม... ” ลู่หานบอกและดูทีวีต่อ

     

    มินซอกที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าแม่คงจะส่งลู่หานไปรักษาตัวที่เมืองนอกแน่ ๆ มินซอกรู้สึกใจหายทันทีแต่ก็ได้แต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้แล้วค่อยคุยกับแม่หลังกินข้าวเสร็จ

     

    เมื่ออาหารถูกจัดลงบนโต๊ะ ทั้งสามคนนั่งกินข้าวกันโดยไม่มีใครพูดอะไร จะมีแค่ลู่หานที่เคี้ยวข้าวเสียงดังและทำช้อนหล่นบนจานเท่านั้น เมื่อกินข้าวเสร็จมินซอกก็ช่วยแม่ล้างจาน

     

    “ แม่จะส่งลู่หานไปรักษาที่เมืองนอกหรอครับ ” มินซอกถาม

     

    “ มินซอกรู้แล้วหรอ ” แม่ชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะล้างจานต่อ

     

    “ ผมถามลู่หานน่ะครับ แม่เก็บเงินได้มากแล้วหรอครับ ”

     

    “ เปล่าหรอก แม่ทำเรื่องไว้ที่โรงพยาบาล ว่าถ้ามีทุนหรือเงินช่วยเหลืออะไร ให้ทางโรงพยาบาลช่วยติดต่อกลับมา เพราะแม่ไม่อยากให้อนาคตของลู่หานจมอยู่กับที่นี่ เพราะสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันไม่ได้ช่วยอะไรลู่หานให้ดีขึ้นเลย ” แม่บอก มินซอกนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหันไปมองลู่หานที่โซฟา

     

    “ ประมาณอาทิตย์หน้า จะมีคนมารับลู่หานไปรักษาตัวที่อังกฤษ และแม่ก็คิดว่าเขาคงจะ... รับลู่หานไปดูแลถาวรเลยน่ะ ” แม่พูดจบ มินซอกเหมือนโดนต่อย เขารู้สึกจุกขึ้นมาทันที

     

    “ แม่พูดจริงหรอ ลู่หาน... จะไปอยู่กับคนอื่นหรอ... ” มินซอกยังไม่อยากเชื่อ เขาอยากให้แม่หัวเราะและบอกเขาว่าแม่ล้อเล่นจริง ๆ

     

    “ ใช่ มันคงจะดีกว่า ถ้าลู่หานมีคนที่ดูแลเขาอย่างถูกต้อง และมันก็จะดีสำหรับอนาคตของเขาและก็เราด้วย แม่จะได้ตัดภาระค่าใช้จ่ายด้วยไง ”

     

    “ ทำไมแม่พูดอย่างนี้ล่ะ ลู่หานเป็นภาระให้แม่มากใช่ไหม ” จู่ ๆ มินซอกก็พูดออกไปแบบนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไปแบบนั้น

     

    “ แม่... แม่แค่เหนื่อยน่ะ ” แม่บอกและก้มลง มินซอกรู้ตัวว่าทำให้แม่เสียใจ เขาเลยเดินออกมา

     

    มินซอกมองหันกลับไปมองแผ่นหลังของแม่ที่เริ่มสั่นเทา มินซอกรู้สึกผิดที่ทำให้แม่ร้องไห้ แม่คงรู้สึกเสียใจไม่แพ้เขา ความผูกพันที่มันเริ่มจะก่อตัวขึ้นตอนนี้มันกำลังจะถูกทำลายลง มินซอกรู้สึกกลัว ถ้าลู่หานหายดีเขาจะยังจำมินซอกและแม่ได้ไหม มินซอกมองลู่หานที่นั่งดูทีวีอย่างมีความสุข ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน

     

    มินซอกนั่งเหม่อที่เตียงนอน คิดวกวนเกี่ยวกับเรื่องของลู่หานไม่หยุด เขาควรทำยังไงดี เขาไม่อยากให้ลู่หานไป เขาอยากให้ลู่หานรักษาตัวที่นี่ เขาจะต้องทำยังไง เขาต้องหาเงินเพิ่มไหมเพื่อช่วยเหลือแม่เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน เขาต้องทำยังไง มินซอกคิดไม่ออก มินซอกทึ้งหัวตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนมองเพดานห้อง

     

    “ ฉันต้องทำยังไงนะ นายถึงจะอยู่กับฉัน ”

     

    มินซอกนอนคิดไปมาแล้วก็เหลือบเห็นนาฬิกาว่าเขาควรจะไปอาบน้ำนอนได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้มีสอบย่อย การอ่านหนังสือมาทั้งวันของเขาจะไม่เป็นผลแน่ถ้าเขาไม่หยุดคิดเรื่องของลู่หาน เมื่อคิดได้แบบนั้น มินซอกก็ไปอาบน้ำ แต่งตัวและเตรียมเข้านอน แต่ความคิดมันห้ามไปที่ไหน มินซอกมองไปยังห้องข้าง ๆ ลู่หานจะหลับไปหรือยังนะ

     

    ไวเท่าความคิด สองขาก็พามินซอกเดินมาหยุดที่หน้าห้องน้องชายของเขา มินซอกไม่เคาะประตู เขาเดประตูเข้าไปทันที ภายในห้องยังสว่าง แต่มินซอกไม่เห็นลู่หานอยู่ในห้อง เสียงฝักบัวในห้องน้ำบอกได้ว่าลู่หานกำลังอาบน้ำอยู่ มินซอกเดินมองรอบ ๆ ห้องของลู่หาน อีกหนึ่งอาทิตย์ห้องนี้ก็จะไม่มีคนอยู่แล้วสินะ

     

    “ ซิ่วหมินเกอ... ” เสียงของลู่หานทำให้มินซอกหันไปมอง

     

    “ ชุดนอนนายนี่มัน... ฮ่า ๆ ” มินซอกหลุดหัวเราะกับชุดนอนลาย เป็ดน้อยสีเหลืองที่แม่ของเขาซื้อให้ลู่หานตั้งแต่เขาอยู่มัธยมต้นปี 1

     

    “ ลู่หานชอบ.. ” ลู่หานเดินเช็ดผมและมานั่งที่เตียงข้าง ๆ มินซอก

     

    “ เช็ดผมให้ไหม ” มินซอกบอก ลู่หานพยักหน้าให้และหันหน้าไปหามินซอก มินซอกก็ลุกขึ้นเช็ดผมให้ลู่หาน ลู่หานเงยหน้ามองมินซอกตาไม่กระพริบ จนมินซอกรู้สึกประหม่าที่ไม่เคยโดนจ้องขนาดนี้

     

    “ จ้องฉันทำไม หน้าฉันมีอะไรติดหรอ ” มินซอกถามและพยายามไม่มองตา เพราะเขารู้สึกใจเต้นที่เผลอไปมองตาลู่หานทุกครั้ง

     

    “ ลู่หาน... ไม่อยากไปลอนดอน... ” มินซอกหยุดเช็ดไปสักครู่เพราะสิ่งที่ลู่หานพูด

     

    “ นายต้องไป นายไม่อยากหายหรอ ” มินซอกบอก

     

    “ หาย... ยังไงหรอ... ” ลู่หานทำหน้างง

     

    “ ก็สิ่งที่นายเป็นตอนนี้ไง ฉันก็อยากให้นายหายนะ แต่ฉันไม่อยากให้นายไป

     

     

     

     

    TBC…

     

     

    ไรท์ทอล์ค : เอาแล้วคะ ลู่หานต้องจากพี่หมินแล้ว ตอนนี้คงเข้าใจปาร์ค ชานยอลกันเนอะ น้องแค่มีปม อิอิ ตอนนี้มาอัพไวไปไหม เขียนทีเดียวสองตอนต่อกันเลย พอดีว่าได้ว่างแบบไม่ต้องมีคนมากวนเลยได้ลง สนุกไม่สนุกยังไง เหมือนเดิมคะ บอกไรท์เลยคะ ไรท์ยินดีปรับปรุง

    themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×