คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 6 Friendship...
Chapter 6 … Friendship…
“ เอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะจับพวกนักเลงนี้ไปที่โรงพักนะ ส่วนนาย ก็คงต้องไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะ เข้าใจไหม ”
“ เข้าใจครับ ”
พูดจบตำรวจก็เดินจากไป มินซอกมองหน้าแบคฮยอนอย่างสงสัย ตอนนี้เขากำลังยืนมองสภาพแบคฮยอนที่มีรอยฟกช้ำไปทั่วตัวจากการต่อสู้ที่ผ่านมา
“ นายมาทำอะไรแถวนี้ ” มินซอกถามแบคฮยอน ซึ่งเขายังคงไม่มองหน้ามินซอก
“ เรื่องของฉัน ” แบคฮยอนตอบ มินซอกเริ่มหงุดหงิด
“ ถ้านายไม่บอก ฉันจะบอกให้ก็ได้นะ ว่าแถวนี้ มันไม่ได้ดีเหมือนกับแถวบ้านนายหรอก ถ้าเดินผิดไปก้าวเดียวก็จะเจอเรื่องเจ็บตัวแบบนี้ได้ ฉันไม่รู้ว่านายมาทำอะไรแถวนี้ แต่ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอีก นายก็ควรจะหาเพื่อน หรือหาใครที่รู้จักแถวนี้มาด้วยนะ ฉันบอกนายได้แค่นี้ล่ะ ” พูดจบมินซอกก็เดินจากไปทันที
“ ฉันก็มาหานายนั่นแหละ! ” แบคฮยอนพูดออกมา มินซอกหยุดเดินและหันไปมองแบคฮยอน
“ มาหาฉัน? มาหาทำไม ”
“ ฉันแค่... แค่... เฮ้อ... สุดท้ายฉันก็ต้องเป็นคนอย่างที่โค้ชบอกจริง ๆ ” แบคฮยอนยังไม่ตอบคำถามมินซอก แต่กลับพูดไปเรื่องอื่น
“ ฉันไม่เข้าใจ ”
“ ชานยอลบอกให้ฉันมาจับตาดูนาย ฉันก็ไม่รู้ว่ารับปากมันไปได้ยังไง ” แบคฮยอนแค่นยิ้มออกมา
“ ฝากไปบอกชานยอลด้วยนะ ฉันไม่มีอะไรที่จะไปสู้กับมันหรอก อีกอย่าง เราเป็นทีมเดียวกันนะ ทำไมต้องทะเลาะกันกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วย ” มินซอกบอก
“ ฉันไม่ไปบอกมันแล้วล่ะ มันอยากทำอะไรก็ให้มันทำเองแล้วกัน ” แบคฮยอนบอก และมองหน้ามินซอกเป็นครั้งแรกในวันนี้
“ .... ”
“ ถ้าฉันไม่เห็นหรือสัมผัสด้วยตัวเอง ฉันคงไม่รู้ว่านายเป็นคนแบบไหน ” แบคฮยอนพูดและยิ้มให้มินซอก
“ ขอบใจที่เข้ามาช่วยนะ มินซอก ” แบคฮยอนบอกมินซอก มินซอกค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา
“ ไม่เป็นไร ใครเจอแบบฉันก็ต้องช่วยอยู่แล้วล่ะ ”
“ ไม่หรอก ก่อนที่นายจะเข้ามาช่วย มีคนเดินผ่านไปมาตั้งหลายคน แต่ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือฉันเลย ” แบคฮยอนบอก มินซฮกได้แต่ยิ้มให้เขา
แบคฮยอนเดินไปขึ้นรถตำรวจออกไปเพื่อไปให้ปากคำที่โรงพัก มินซอกเลยเดินมาที่บ้านของเพื่อแม่ที่เขาฝากลู่หานไว้
“ ผมมารับลู่หานครับคุณน้า ”
“ มาแล้วหรอจ๊ะ เข้ามากินอะไรกันก่อนไหม เห็นลู่หานบอกว่าแม่เราไม่อยู่บ้านนี่ ”
“ ไม่เป็นไรครับ พอดีว่าอีกสองสามวันแม่ก็กลับแล้ว พวกเราไม่รบกวนคุณน้าดีกว่า ”
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ลู่หานก็กำลังกินข้าวอยู่เลย เข้ามาสิ ”
มินซอกลังเลเล็กน้อย แต่ผู้ใหญ่อุตส่าห์ชวนเขา เขาก็ควรจะรักษาน้ำใจไว้บ้าง มินซอกเดินเข้ามาในบ้านและร่วมกินข้าวกับคนในบ้านนี้ มินซอกไม่เคยรู้เลยว่าคุณน้าคนนี้มีลูกสาวสองคนเพราะปกติมินซอกจะเห็นแค่ลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้เดินไปโรงเรียนในเวลาไล่เลี่ยกับเขา
“ นี่คิม มินซอกที่แม่เล่าให้ลูกฟังไงจ๊ะ ซูยอน ” คุณน้าบอกลูกสาวคนโต เธอหันมามองมินซอกและยิ้มให้
“ สวัสดีจ๊ะ มินซอก อายุเท่าไหร่แล้วหรอ ” ซูยอนถามมินซอก
“ 15 ครับ ” มินซอกบอก เขาเผลอไปสบตาจัง ๆ กับซูยอน มินซอกรู้สึกเหมือนตัวเองโดนแช่แข็ง เขาไม่คิดว่าผู้หญิงวัยนี้จะสวยมากจริง ๆ
“ งั้นฉันก็เป็นพี่ ส่วนซูจองก็เป็นน้องสินะ ” ซูยอนหันไปมองน้องสาว
“ ก็แน่สิ พี่มินซอกเขาห่างกับหนูแค่ปีเดียวเอง ส่วนพี่ก็ห่างกับหนูตั้ง 5 ปี ” ซูจองเลยหันไปแขวะพี่สาวเธอเรื่องอายุ
“ ยัยนี่ นั่นปากหรอ ” ซูยอนหันไปค้อนใส่น้องสาว
ทุกคนหัวเราะให้กับความน่ารักของพี่น้องบ้านนี้ มินซอกรู้สึกถึงความอบอุ่นของบ้านนี้ ที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยได้สัมผัสเพราะว่าไม่ได้สนใจ
“ พี่เรียนอยู่ปีสอง คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดง ที่มหา’ลัยโซลนะ ถ้าอยากถามเรื่องเรียนหรืออะไรก็มาหาได้ พี่จะกลับบ้านทุกอาทิตย์ล่ะ ”
“ อ่อยเด็กหรอ โอ๊ย! ” พูดจบซูจองก็คงโดนอะไรบางอย่างข้างล่างโต๊ะกินข้าวนั่น
“ เดี๋ยวมีเคลียร์ ” ซูยอนมองหน้าน้องสาวอย่างคาดโทษ
“ ลู่หาน... ลู่หาน... อิ่มแล้วครับ... ” อยู่ ๆ ลู่หานก็พูดขึ้น ทุกคนหันไปมองลู่หานที่มีข้าวติดเต็มปาก
“ ดูเด็กคนนี้สิ กินข้าวเลอะเต็มปากเลย ” คุณน้าพูดและหยิบทิชชูมาเช็ดปากให้ลู่หาน มินซอกมองคุณน้าแล้วก็นึกถึงแม่ขึ้นมา เพราะปกติกินข้าวเสร็จแม่ก็จะทำแบบเดียวกับที่คุณน้าทำให้ลู่หานตอนนี้
“ ลู่หานเรียนที่ไหนหรอพี่มินซอก ” ซูจองถาม
“ เรียนที่เดียวกับพี่นั่นแหละ ” มินซอกตอบ
“ ที่โรงเรียนพี่มีห้องสำหรับลู่หานด้วยหรอคะ ”
“ อืม... ถ้าเธออยากเรียนก็มาสิ ” มินซอกลองพูดเล่นกับน้องสาวคนนี้ดู เขาอยากสร้างความสัมพันธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ กับเธอ
“ พี่มินซอกอ่า... ”
ซูจองทำแก้มพองลมใส่ ทุกคนก็หัวเราะกับบทสนทนานั้น บทสนทนายังมีมาเรื่อย ๆ ในระหว่างที่กินข้าวจนกระทั่งกันเสร็จ มินซอกอาสาล้างจานเอง แต่คุณน้าบอกว่าไม่เป็นไร แค่นี้เอง มินซอกเลยพาลู่หานมานั่งคุยกับสองสาวที่หน้าบ้าน
“ ลู่หานอายุเท่าไหร่แล้วอ่ะ ดูเหมือนจะห่างกับมินซอกไม่มากเลยนะ ” ซูยอนถาม
“ เขาเกิดหลังจากผมไม่ถึงเดือนน่ะครับ ”
“ จริงหรอ แล้วเขาเป็นแบบนี้มานานแล้วหรอ ”
“ ก็ตั้งแต่เด็กแล้วครับ เขา... เขา... ” มินซอกอึดอัดที่จะตอบ เขาแค่ไม่รู้ความจริงของลู่หานมากนัก
“ ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร พี่ถามเพราะอยากรู้เฉย ๆ ”
“ อ่าครับ ” มินซอกประหม่าเล็กน้อยที่ซูยอนมองเขา มินซอกเลยมองลู่หานกับซูจองเล่นด้วยกัน
“ ไม่คิดว่าซูจองจะได้เพื่อนเล่นคนใหม่นะเนี่ย ” ซูยอนบอก
ซูจองเล่นกับลู่หานโดยไม่ถือตัว ตอนแรกมินซอกคิดว่าซูจองจะไม่ชอบคนแบบลู่หานซะอีก แต่เห็นอย่างนี้ มินซอกก็โล่งอกที่ลู่หานไม่ทำตัวให้เขาต้องลำบากใจอีก
“ ว่าง ๆ พาลู่หานมาเล่นที่บ้านบ้างนะจ๊ะ ”
“ ครับคุณน้า สวัสดีคุณน้าสิ ” มินซอกบอกลู่หาน ลู่หานโค้งให้คุณน้าและยิ้มให้
“ ซะ.. หวัด.. ดี ครับ.. ” ลู่หานพูดและโค้งให้คุณน้า
มินซอกบอกลาคนในบ้านหลังนั้นแล้วพาลู่หานเดินออกมา มินซอกจับมือลู่หานเอาไว้และพากเดินกลับมาที่บ้าน ลู่หานหัวเราะคิกคักอยู่ข้างหลังมินซอก สิ่งนั้นมันทำให้มินซอกสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เมื่อเดินมาถึงบ้าน มินซอกก็ปล่อยมือลู่หานและไขกุญแจเข้าบ้าน มินซอกเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะบอกลู่หาน
“ ไปอาบน้ำ ทำการบ้าน และนอนซะ ” มินซอกพูดโดยเดินไปเรื่อย ๆ เหมือนเสียงปิดประตูที่ควรจะดังตามหลังเขามาไม่ดัง มินซอกเลยหันไปมอง
“ ยิ้มอะไรของนาย ” มินซอกถามลู่หานด้วยความสงสัย ที่เขาเห็นลู่หานยินยิ้มอยู่นอกบ้านไม่ยอมเข้ามา
“ ซิ่วหมินเกอ... พาลู่หานเข้าบ้านหน่อยสิ ” ลู่หานบอก
มินซอกอยากจะเอ็ดเสียงดัง ๆ เหมือนเมื่อก่อนที่เมื่อลู่หานขอร้องให้เขาทำอะไรให้ เขาก็จะปฏิเสธทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มินซอกนึกขึ้นได้ว่าเขาจับมือลู่หานเดินกลับบ้านด้วยกันเป็นครั้งแรก เขาก็ไม่อยากให้วันนี้มันเสียเพราะเขาดุลู่หานเรื่องเล็กน้อย
“ ก็เข้ามาสิ ” มินซอกเดินไปจับมือลู่หานเดินเข้าบ้านมาและพามาหยุดที่บันได
“ ขึ้นไปอาบน้ำทำการบ้าน และนอนซะ เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม ” มินซอกย้ำถามลู่หานอีกครั้ง
“ เข้าใจ... ครับ... เกอ... ”
“ งั้นก็ขึ้นไปได้แล้ว ” มินซอกไล่ลู่หานขึ้นข้างบน ลู่หานก็ทำตามอย่างว่าง่าย
เมื่อผละจากลู่หาน มินซอกก็เดินมาเปิดทีวีดูสักครู่ เพราะช่วงนี้เขาแทบไม่ได้ดูข่าวสารบ้านเมืองเลย มินซอกกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ จนถึงช่องละครเรื่องหนึ่ง
“ ( พี่ฮะ อย่าทิ้งผมไปเลยนะ ) ” << น้องชายในละคร
“ ( ไมได้! นายต้องไปรักษาตัวที่โน่น นายจะได้หายไง ) ” << พี่ชายในละคร
“ ( ไม่เอา!! ชินจะอยู่กับพี่โช ) ” << น้องชาย
“ ( ไม่ได้!! นายต้องไป!! ) ” << พี่ชายพูดและผลักน้องชายออกไป
มินซอกนั่งดูละครเรื่องนี้จนจบตอน เรื่องราวในละครกำลังดำเนินมาถึงช่วงที่ครอบครัวของน้องชายที่อยู่ข้างบ้านต้องไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ แต่น้องชายติดพี่ชายมาก เขาไม่อยากไป ซึ่งพี่ชายกลับอยากให้น้องชายไปเพื่อให้น้องชายนั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น มินซอกปิดทีวีหลังดูละครจบตอนแล้วเดินขึ้นห้องเพื่ออาบน้ำและนอน แต่ทว่าหน้าห้องของเขามีแผ่นกระดาษแปะไว้
‘ ฝันดีครับ มินซอกฮยอง... ’
มินซอกแปลกใจ มันคือตัวหนังสือของลู่หานเขาจำได้ แต่ลู่หานไม่เคยเรียกเขาว่ามินซอกฮยอง และที่สำคัญ เขาเขียนชื่อมินซอกถูกได้ยังไง ทั้ง ๆ ที่เคยให้ลู่หานเขียนชื่อตัวเองให้ถูกตั้งหลายครั้ง ซึ่งกว่าจะถูกก็ปาไปยี่สิบบรรทัดได้
“ ขอบใจนะ ลู่หาน... ” มินซอกบอกเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่มินซอกคิดว่า ลู่หานเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแล้วสินะ
...
...
“ แม่นายกลับมาแล้วหรอ ” จงแดทักขึ้นเมื่อมินซอกบอกเรื่องแม่ของเขา
“ ใช่ แถมขนขนมมาเต็มเลย ลู่หานดีใจอย่างกับลิงได้กล้วยแน่ะ ฮ่า ๆ ๆ ” มินซอกบอกแล้วหัวเราะ
“ คิม มินซอก... ” เสียงหัวเราะหยุดลง มินซอกหันไปมองตามเสียงเรียก เห็นแบคฮยอนยืนยิ้มอย่างประหม่าให้
“ มีอะไรหรอ ” มินซอกถาม
“ ขอคุยด้วยหน่อยสิ ” แบคฮยอนบอกแล้วเดินออกไป จงแดมองหน้ามินซอกเชิงถาม มินซอกยักไหล่ให้และเดินตามแบคฮยอนออกไป แบคฮยอนเดินมาหยุดที่ทางเดินอีกห้องหนึ่ง มินซอกเดินตามมา
“ มีอะไรก็พูดมาสิ ” มินซอกบอก
“ ฉันอยากจะขอโทษนายเรื่อง... ที่ฉันเคยทำไม่ดีกับนายน่ะ ” แบคฮยอนบอกแล้วก้มหน้า มินซอกเห็นแล้วก็ยิ้มและตบบ่าให้
“ ฉันไม่ได้โกรธอะไรนายหรอก แค่นายขอโทษและทำกับฉันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ฉันก็ดีใจแล้ว ”
“ งั้นฉันจะไปบอกชานยอลให้เลิกทำตัวแย่ ๆ กับนายให้นะ ”
“ ไม่ต้องหรอก ปล่อยให้เขารู้จักฉันเองดีกว่า ฉันไม่ชอบไหว้วานให้ใครมาพูดว่าฉันดียังไงให้คนอื่นฟังน่ะ มันดูเสแสร้งยังไงไม่รู้ ”
“ ตามใจนายแล้วกัน ”
“ แล้วทำไมเราต้องมาคุยกันไกล ๆ ด้วยล่ะ ”
“ ก็ฉัน... กลัวจงแดน่ะ ” แบคฮยอนพูดจบ มินซอกก็หัวเราะออกมา ทั้งสองคนหัวเราะให้กันและให้รอยยิ้มแห่งมิตรภาพเป็นตัวสร้างความสุขให้พวกเขาในเช้าวันนี้
วันนี้สำหรับมินซอกก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน มินซอกไปรับลู่หานและพาเขากลับบ้าน ซึ่งวันนี้มินซอกเพิ่งรู้ว่ามีซ้อมฟุตบอลจากแบคฮยอน
“ กลับมาแล้วครับ! ” มินซอกบอกเมื่อเดินเข้าไปในบ้าน
“ แม่ครับ เดี๋ยวผมไปซ้อมฟุตบอลที่โรงเรียนนะ ” มินซอกเดินมาบอกแม่ที่ห้องครัว
“ อ้าว วันนี้มีซ้อมหรอ ชวนลู่หานไปด้วยกันสิ ”
“ เออ... ”
“ เอาน้องไปด้วยเหอะน่า เดี๋ยวนี้ลู่หานทำตัวดีขึ้นมากเลยนะ ” แม่ยิ้มและมองไปที่ลู่หานที่กำลังยืนดูทีวีที่โซฟารับแขก
มินซอกจำใจต้องพาลู่หานมาดูเขาซ้อมตามที่แม่สั่ง มินซอกเห็นจงแดนั่งรอเขาที่ข้างสนาม มินซอกคิดว่าตัวเองโชคดีจริง ๆ ที่วันนี้จงแดมาดูเขาซ้อม
“ มึงกล้าพาลู่หานมาดูมึงซ้อมแล้วหรอ ” จงแดถาม
“ แม่สั่งอ่ะ มึงมาก็ดีเลย ฝากดูแลลู่หานหน่อยสิ ” มินซอกบอก จงแดพยักหน้ารับ และเรียกลู่หานมานั่งข้าง ๆ เขา ลู่หานวิ่งมาหาจงแดอย่างดีใจ
“ เฉินเฉิน... วันนี้.. วันนี้นะ... ลู่หานแข่งตอบคำถามในห้องได้ที่หนึ่งด้วย ” ลู่หานบอกจงแด
“ เก่งจังเลย นายเก่งขึ้นทุกวันเลยนะลู่หาน ” จงแดบอกและลูบหัวลู่หาน ลู่หานยิ้มให้จงแดอย่างมีความสุข มินซอกมองทั้งสองคนอย่างสบายใจ ก่อนจะเดินลงสนามไป
เมื่อมินซอกลงสนามเขาก็เห็นแบคฮยอนยืนโบกมือให้ข้าง ๆ ชานยอล ซึ่งเขาไม่ค่อยอยากจะมองหน้าชานยอลเท่าไหร่นัก เพราะชานยอลเองก็ไม่ได้ปลื้มที่เห็นหน้ามินซอกเหมือนกัน
“ มาวอร์มกับฉันไหม ” แบคฮยอนถาม
“ เอาสิ ” มินซอกบอก ทั้งสองคนเดินมาวอร์มร่างกายด้วยกันอีกที่หนึ่ง ที่อยู่ห่างจากชานยอล มินซอกรู้สึกว่าเขาถูกชานยอลมองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันทำให้เขาไม่พอใจนัก
“ ชานยอลเขาว่าอะไรไหม เรื่องที่นายยอมคุยดี ๆ กับฉันแล้ว ”
“ เหอะ! อย่าสนใจมันเลย มันก็เป็นแบบนี้ล่ะ น้องเล็กในบ้าน โดนตามใจจนเคยตัว ” แบคฮยอนบอก มินซฮกขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะเขาไม่ค่อยรู้เรื่องราวครอบครัวของชานยอลเท่าไหร่
“ อย่างนั้นหรอ... แล้วทำไมชานยอลถึงไม่ชอบฉันขนาดนี้ล่ะ ” มินซอกถามออกไปตรง ๆ เผื่อว่าแบคฮยอนจะรู้สาเหตุว่าทำไมชานยอลถึงเกลียดเขานัก
“ อันนี้ฉันก็ไม่รู้นะ เพราะตั้งแต่นายได้ตำแหน่งกองหน้า ชานยอลก็เหมือนจะเกลียดขี้หน้านายเลยนะ ” แบคฮยอนบอกแบบไม่ใส่ใจนัก
“ อ๋อ... ” มินซอกได้แต่เออออตามแบคฮยอน สาเหตุที่เขารู้จากแบคฮยอน เขาก็รู้อยู่แล้ว แต่ว่ามินซอกยังสงสัย ชานยอลต้องมีอะไรฝังใจกับเขาแน่ ๆ
“ เอาล่ะทุกคน เรามาเตรียมตัวกันได้แล้ว ” เสียงของโค้ชยุน ทำให้บทสทนาระหว่างมินซอกกับแบคฮยอนจบลงแค่นั้น
การซ้อมฟุตบอลในวันนี้ โค้ชยุนให้แผนการซ้อมมาและให้นักกีฬาโรงเรียนทุกคนทำตาม โดยแยกไปซ้อมในแต่ละส่วนของทีมก่อน จากนั้นก็ให้ลงเล่นแข่งกัน มินซอกยังคงทำหน้าที่ของเขาได้ดีตามคาด เมื่อเลิกซ้อม มินซอกก็เดินมาหาจงแดกับลู่หาน
“ มีคนเคยบอกมึงไหมวะ ว่ามึงเป็นเพื่อนที่โคตรดีเลยอ่ะ ” มินซอกบอกจงแด
“ มี! มึงไง ” จงแดบอก แล้วทั้งสองก็หัวเราะให้กัน ลู่หานเห็นก็ยิ้มและหัวเราะด้วย
“ มีความสุขกันจริง ๆ เลยนะ ” เสียงทุ้มต่ำที่มินซอกจำได้ ชานยอลเดินมาและยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“ ทำไมฉันต้องไม่มีความสุขด้วยล่ะ ” มินซอกถาม ชานยอลหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบ
“ ก็เพราะว่านาย... ไม่สมควรจะมีความสุขทั้งที่ทำผิดยังไงล่ะ ” ชานยอลบอก
“ ฉันทำผิดอะไร เรื่องลู่หานหรอ ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วนี่ว่าลู่หานเป็นน้องชายของฉัน และฉันก็ยอมรับมันด้วย มีอะไรที่ฉันทำผิดอย่างนั้นหรอ ”
“ ก็นายโกหกไง!! ” ชานยอลตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ เป็นครั้งแรกที่มินซอกรู้สึกว่าชานยอลทำเกินไป
“ ใช่!! ฉันอาจจะเคยโกหก แต่ฉันก็ยอมรับผิดแล้วไง มันยังมีอะไรที่ฉันต้องทำอีก พูดมาสิ!! ” มินซอกบอกและจะเดินเข้าไปหา แต่จงแดรั้งเอาไว้
“ มินซอกใจเย็น ๆ ” จงแดบอก ลู่หานยืนมองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ
“ ลาออกไง! ” ชานยอลพูด
“ อะไรนะ ” มินซอกงงกับคำพูดของชานยอล
“ มันจะดีมาก ถ้านายพาน้องชายปัญญาอ่อนของนายลาออกจากโรงเรียนนี้ และถ้านายห่วงน้องชายของนาย นายจะลาออกตามไปด้วยก็ได้นะ ฉันไม่ว่าหรอก ” ชานยอลบอก
มินซอกหันไปมองหน้าลู่หาน ที่ไม่รู้เรื่องอะไร จงแดมองชานยอลอย่างไม่เข้าใจ มินซอกหันมามองหน้าชานยอลแล้วขมวดคิ้ว
“ ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วย นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ลู่หานลาออก ” มินซอกถาม
“ ไม่ชอบ! จบป่ะ ” ชานยอลตอบและยักคิ้วให้ มินซอกเห็นก็ยิ่งโมโห
“ เหตุผลปัญญาอ่อนแบบนี้ ฉันไม่ทำหรอก ถ้าอยากให้ลู่หานลาออก นายก็หาเรื่องดี ๆ ทำให้เขาลาออกเองก็แล้วกัน ” พูดจบมินซอกก็เดินกระแทกไหล่ชานยอลออกไป จงแดเห็นแบบนั้นก็มองหน้าชานยอลอย่างไม่ชอบใจและจูงมือลู่หานออกไปด้วยกัน
ชานยอลหันมามองตามสามคนนั้นเดินจากไป แล้วแค่นยิ้มออกมา ใครจะรู้ล่ะ ว่าเขาเกลียดพวกเด็กปัญญาอ่อนพวกนี้มากขนาดไหน
“ พูดอย่างนี้ ระวังนายจะเสียใจนะ คิม มินซอก ”
TBC…
ไรท์ทอล์ค : ตอนนี้ชานยอลคงโดนด่าไปตามระเบียบ แต่อย่าเพิ่งด่าเลย เขามีเหตุผลนะ เอาเป็นว่าตอนนี้อาจจะแลดูสั้นไปหน่อย แต่ความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นะ(มั้ง) อ่านแล้วสนุกไม่สนุกยังไง หรือว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบอกไรท์ได้นะ ไรท์ยินดีแก้ไขจ้า
ความคิดเห็น