คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 Better Day...
Chapter 3 … Better Day…
มินซอกเดินมาที่ห้องเรียนของเขาหลังจากไปส่งลู่หานและเจอกับชานยอล เมื่อมินซอกเดินมาที่ห้อง เขาก็เห็นเพื่อน ๆ จับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่ม ๆ บ้างก็อยู่นอกห้องเรียน บ้างก็อยู่ในห้อง แต่แบ่งโซนหน้าห้องกับหลังห้อง เมื่อมินซอกเดินเข้าห้องเรียน ทุกคนก็มองเขาเป็นสายตาเดียว นี่ปาร์ค ชานยอลคงปล่อยข่าวเรื่องลู่หานแล้วสินะ มินซอกพยายามไม่สนใจและเดินมานั่งที่โต๊ะของเขา
ปัง!
ทันทีที่มินซอกนั่งลงฝ่ามือของใครบางคนพร้อมด้วยกระดาษก็ถูกฟาดลงบนโต๊ะเรียนของเขา มินซอกเงยหน้ามอง ก็เห็นประธานห้องอย่างบยอน แบคฮยอนยืนมองเขาด้วยสายตาดูถูก
“ ฉันไม่คิดเลยนะ ว่านายจะโกหกพวกเราได้ขนาดนี้ ” พูดจบแบคฮยอนก็เดินจากไป มินซอกหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู ก็เจอข้อความที่ทำให้เขาอยากจะย้อนเวลากลับไปตอนที่เจอชานยอลจริง ๆ
‘ คนโกหก หลอกลวง คนอย่างแกไม่สมควรที่จะอยู่ทีมฟุตบอลอีก ’
มินซอกขย้ำกระดาษและใส่มันไว้ในชั้นใต้โต๊ะ ทั้งแบคฮยอนและชานยอลนั้นอยู่ชมรมฟุตบอลเหมือนมินซอก แต่พวกเขาได้เล่นในตำแหน่งที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาต้องการตำแหน่งที่โดดเด่น ซึ่งตำแหน่งนั้นก็คือกองหน้าที่มินซอกกำลังครอบครองมันอยู่ มินซอกหยิบหูฟังมาใส่และมองออกไปนอกหน้าต่าง มินซอกไม่อยากให้ใครมารบกวนเขาเวลานี้เลย เขายังไม่พร้อมจะตอบคำถามใครทั้งนั้น
“ มินซอก!! ” เสียงที่เข้ามาพร้อมกับมือที่จับไหล่มินซอกไว้ มินซอกหันไปมอง ก็เห็นจงแดอยู่ข้าง ๆ เขาด้วยสีหน้าที่ต้องการอยากจะถามเขาเต็มที่
“ บอกไว้ก่อนเลย ถ้าจะถามเรื่องนั้น กูไม่ตอบ ” มินซอกบอก
“ ไม่ได้! มึงต้องตอบ ทำไมล่ะมินซอก กูเป็นเพื่อนมึงนะ เรื่องนี้ทำไมกูรู้เป็นคนท้าย ๆ เลยล่ะ ” จงแดบอก มินซอกนิ่งไป
“ กูไม่รู้ว่ามึงมีปัญหาอะไร แต่มึงก็ควรที่จะแก้ข่าวด้วยนะ ไม่อย่างนั้น มึงเสียหายเยอะเหมือนกัน ” จงแดบอกมินซอกแล้วนั่งทำหน้าเป็นบูดใส่ มินซอกไม่รู้ว่าเขาจะเริ่มต้นบอกจงแดยังไง แต่มินซอกคิดว่ายังไงเขาก็ต้องบอกจงแดอยู่ดี
“ เอาไว้พักเที่ยงแล้วกูจะบอกแล้วกัน ” มินซอกบอกจงแดไปแค่นั้น ก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
บางทีเรื่องนี้มันอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้
...
...
“ ลู่หานจ๊ะ นั่นใครหรอ ” อาจารย์ถามลู่หานขึ้นเมื่อเธอสั่งให้นักเรียนของเธอวาดรูปคนที่ตัวเองรัก
“ ซิ่วหมินเกอ... ครับ... ” อาจารย์ยิ้มให้ลู่หานอย่างอ่อนโยนและลูบหัว
“ สงสัยรูปนี้ครูคงจะเอาใส่กรอบเก็บไว้ไม่ได้แล้วล่ะ วาดเสร็จแล้วเอาให้ครูด้วยนะ เดี๋ยวรูปจะเอาไปใส่กรอบให้ ” อาจารย์บอก ลู่หานพยักหน้าอย่างช้า ๆ แล้วลงมือวาดรูปต่อ
ลู่หานวาดรูปไปยิ้มอย่างมีความสุข เขาไม่รู้ว่าความรักนั่นมันคืออะไร แต่เขารู้ว่ามินซอกนั้นเป็นความรักสำหรับเขาคนเดียวเท่านั้น
“ ลู่หานรักซิ่วหมินเกอ... ”
...
...
เสียงกริ่งบอกเวลาพักเที่ยง มินซอกนั่งนิ่งอยู่ที่ห้องเรียนไม่ขยับไปไหน เพื่อน ๆ ต่างพากันออกไปหาอะไรทานกลางวันกัน จงแดเห็นมินซอกยังนั่งนิ่งก็เลยสะกิดมินซอก
“ เฮ้ย เป็นอะไรวะ เครียดเรื่องข่าวหรอ ” จงแดถาม
“ เปล่า... ”
“ เปล่าก็ไปหาข้าวกระแทกปากสิ มานั่งอยู่ทำไม ”
“ กูไม่หิว มึงไปเถอะ ”
“ อาการแบบนี้ชัดเลย เครียดก็บอกว่าเครียดสิวะ กูไม่ได้จะฆ่ามึงสักหน่อย เอาล่ะ ไหนมึงบอกว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้กูฟังตอนพักเที่ยงไง พร้อมจะเล่าหรือยัง ” จงแดลากเก้าอี้แล้วนั่งลง สายตาบ่งบอกว่ารอคอยการบอกเล่าเรื่องราวที่มินซอกบอกไว้ว่าจะเล่าให้ฟัง มินซอกถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันไปสบตากับจงแด
“ ก็ได้ เรื่องมันก็มีแค่... ” มินซอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้จงแดฟัง เขาใช้เวลาแค่สิบห้านาทีเพื่อบอกเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับลู่หาน
“ อย่างนี้นี่เอง มึงถึงไม่เคยให้กูไปเที่ยวบ้านมึงเลย กูก็คิดไปไกลว่า บ้านมึงคงเลวร้ายมากจนไม่อยากให้กูไปเที่ยว น่าขำนะ เป็นเพื่อนกันมาเกือบจะสิบปี แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนมีน้องชาย ” จงแดพูดแล้วเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้
“ เฮ้ย! กูไม่ได้อยากจะ... โกหกอะไรมึงหรอกนะ แต่ว่าตอนนั้น... กูแค่ยังไม่ได้ยอมรับเขาก็เท่านั้น ”
“ ทำไมวะ แค่มีน้องชายเป็นเด็กพิเศษถึงกับต้องปิดบังเพื่อนสนิทเลยหรอวะ หรือว่ากูไม่ใช่เพื่อนสนิทมึง ”
“ จงแด... ไปกันใหญ่แล้ว กูไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ กูขอโทษ ”
“ เอาเถอะ มึงอยากจะทำอะไรมึงก็ทำไปเถอะ กูไม่อยากโกรธมึงอ่ะ เดี๋ยวมึงจะไม่มีใครคบ ” จงแดพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ มินซอกเลยได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ให้
“ เอาเป็นว่า ตอนนี้กูจะไปนอนเล่นเกมส์ที่บ้านมึงนี่ ได้แล้วใช่ป่ะ ”
“ ได้สิ อยากมาเมื่อไหร่ก็มา ”
“ โอเค งั้นคืนนี้จัดไป ยิ่งเป็นวันศุกร์ด้วย ไปนอนค้างเลยดีไหม จะได้คุ้มหน่อย ” จงแดบอก ทั้งสองหัวเราะให้กัน ความอึดอัดในใจที่มินซอกต้องปิดบังจงแดมันไม่มีอีกแล้ว หลายครั้งที่จงแดอยากจะไปเล่นเกมส์ที่บ้านมินซอก แต่ถูกมินซอกปฏิเสธ จงแดก็รู้สึกแย่ไปเหมือนกัน เขาอยากใช้เวลาสนุก ๆ กับเพื่อนสนิทที่รู้ใจกับเขาบ้าง แต่มินซอกช่างไม่เข้าใจเขาเลย ตอนนี้จงแดก็ได้ทำสิ่งนั้นแล้ว
“ ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวของกินจะหมด ”
...
...
เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียน วันนี้มินซอกเจอเรื่องแย่ ๆ ในตอนเช้า แต่ก็ยังรู้สึกดีได้เพราะมีจงแดที่เข้าใจ มินซอกเห็นประกาศจากชมรมฟุตบอลในตอนเช้าว่าหลังเลิกเรียนจะมีการซ้อมเป็นครั้งแรกหลังจากเปิดเทอมมา มินซอกเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะบอกจงแดว่าวันนี้เขามีซ้อมฟุตบอล
“ แล้วมึงจะไปรับลู่หานก่อนไหม ” จงแดถาม
“ อื้ม! กูต้องไปรับลู่หานก่อน มึงอยากเห็นลู่หานไหม ” มินซอกถาม จงแดพยักหน้าแล้วเดินออกไปพร้อมกับมินซอก ทั้งสองกอดคอกันไปเล่นกันไปตลอดทาง จนถึงห้องเรียนเด็กพิเศษ
“ สวัสดีครับอาจารย์! ” มินซอกเรียกอาจารย์ เธอเดินมาพร้อมกับถืออะไรบางอย่างเดินมาด้วย
“ มาแล้วหรอ แล้วนี่เพื่อนหรอจ๊ะ ”
“ ครับ นี่คิม จงแด เพื่อนผมครับ ”
“ สวัสดีครับอาจารย์ ” จงแดโค้งทักทายอาจารย์ เธอก้มหัวให้เล็กน้อย ก่อนจะยื่นกรอบรูปสองอันให้มินซอก
“ จำที่ครูเคยบอกได้ไหม ว่าถ้าเธอมารับลู่หานอีกครั้ง ครูจะเอารูปที่ลู่หานวาดมาให้เธอ ” อาจารย์บอก
มินซอกมองรูปภาพที่ลู่หานวาดแล้วต้องประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นลู่หานวาดรูปเลย แต่พอเห็นแล้ว ฝีมือของเขาค่อนข้างที่จะเทียบกับมืออาชีพได้เลย
“ เขาวาดเองจริง ๆ หรอครับ ” มินซอกเงยหน้าถามอาจารย์ เธอพยักหน้าเป็นคำตอบ มินซอกมองรูปวาดนั่นอีกครั้ง
ในรูปวาดเป็นรูปครอบครัวที่แม่พามินซอกกับลู่หานไปถ่ายที่สตูดิโอใกล้ ๆ บ้านในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา แม่บอกว่าอยากมีรูปครอบครัวเก็บไว้บ้าง เพราะตั้งแต่พ่อหย่ากับแม่ แม่ก็ไม่มีรูปครอบครัวเก็บไว้เลย จนกระทั่งตอนนั้น แม่เห็นลู่หานหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นแล้วถ่ายรูปข้างหลังของแม่ที่กำลังทำอาหารอยู่ แม่เลยพามินซอกและลู่หานออกไปถ่ายรูป มินซอกค่อนข้างที่จะหงุดหงิด เพราะเขาไม่ชอบที่ลู่หานทำตัวเกาะติดเขาแจ รูปครอบครัวใบแรกเลยได้ภาพที่มินซอกยืนหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ แม่ ช่างภาพเห็นแบบนั้นเลยจัดตำแหน่งให้ใหม่และบอกให้มินซอกยิ้มกว้าง ๆ คิดถึงเรื่องที่มีความสุข มินซอกถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา ช่างภาพเลยบอกว่า นี่เป็นรูปครอบครัวนะ ไม่ใช่รูปงานศพ อยากให้คนในครอบครัวไร้ความสุขหรอ มินซอกเลยไล่ความคิดที่ว่าลู่หานเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดออกไป แล้วมินซอกก็กอดแม่เขาเอาไว้ เมื่อลู่หานเห็นเขาเลยทำตามบ้าง และภาพที่ได้ออกมา มันเป็นภาพที่ดูกี่ครั้งก็รู้สึกมีความสุข มีแม่นั่งอยู่ตรงกลาง โอบลูกชายทั้งสองคนไว้ มินซอกกอดแม่ไว้ข้างซ้ายและลู่หานกอดแม่ไว้ข้างขวา ทุกคนในรูปยิ้มกว้าง มันคงเป็นรูปใบเดียวกับที่ตั้งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ลู่หานวาดมันออกมาได้สวยงามจริง ๆ
“ รูปครอบครัวน่ะ เธอเก็บไว้เลยนะ ส่วนอีกรูป ถ้าเธอไม่เอา รูปไว้ที่นี่ก็ได้ เพราะมันออกจะดูเละเทะไปหน่อย ” อาจารย์บอกหลังจากที่มินซอกหยิบกรอบรูปอีกอันมาดู
มันเป็นรูปเดี่ยวมินซอกที่ตั้งอยู่ที่บ้านเหมือนกัน มินซอกมองภาพนั้นอย่างชื่นชม แต่ต้องสะดุดกับตัวอักษรเกาหลีตัวโต ๆ ที่เขียนทับรูปวาด
‘ ลู่หานรักซิ่วหมินเกอ ’
“ ผมเอาทั้งสองรูปได้ไหมครับ เออ... อาจารย์จะขายให้ผมหรือว่ายังไงครับ ”
“ เอาไปเลยจ๊ะ ค่ากรอบรูปครูไม่คิดหรอก ตอนแรกครูว่าจะเอามาติดโชว์เป็นผลงานนักเรียนแต่ถ้าเธอจะเอาไป ก็ไม่มีปัญหาอะไร ” อาจารย์บอก
“ ขอบคุณครับอาจารย์ ” มินซอกโค้งให้อาจารย์ ก่อนจะมองรูปวาดอีกครั้งแล้วเก็บใส่กระเป๋า
“ ซิ่วหมินเกอ! ” ลู่หานยิ้มและเดินมาหามินซอก ก่อนจะจับมือมินซอกไว้ มินซอกมองมือนั้นอย่างชั่งใจ ก่อนจะแกะมือลู่หานออก
“ ไปกันเถอะ วันนี้ฉันมีซ้อมฟุตบอล เดี๋ยวจะไปส่งนายที่บ้านก่อนนะ ” มินซอกบอก
“ ลู่หาน... ลู่หานอยากไปด้วย... ” ลู่หานบอกมินซอก
“ ไม่ได้หรอก นายกลับไปรอฉันที่บ้าน แม่ก็อยู่ที่บ้านนั่นล่ะ เดี๋ยวฉันก็กลับมา ” มินซอกบอก
“ ถ้าอย่างนั้น... เกอ... เกอ...ก็จับมือลู่หานสิ... ” ลู่หานบอก มินซอกมองหน้าลู่หานแล้วอึกอัก เขายังไม่แน่ใจตัวเองว่า เขาพร้อมที่จะเปิดเผยทุกคนว่าลู่หานคือน้องชายของเขาหรือยัง
“ ลู่หาน สวัสดีนะ ” อยู่ ๆ จงแดก็พูดขึ้น ลู่หานหันไปมองเขาด้วยสายตาสงสัย
“ ใคร... ”
“ พี่ชื่อจงแด เป็นเพื่อนกับมินซอก เออ... น้องเขาเรียกมึงอะไรอ่ะ ” ประโยคหลังจงแดหันมาถามมินซอก
“ ซิ่วหมินเกอ ”
“ อ๋อ ซิ่วหมินเกอ พี่เป็นเพื่อนกับซิ่วหมินเกอนะ ” จงแดบอก ลู่หานพยักหน้าให้อย่างกลัว ๆ
“ ลู่หาน เดี๋ยวเดินจับมือพี่ไปก่อนก็ได้นะ มินซอก... เออ... ซิ่วหมินเกอ เขาเจ็บมือนิดหน่อยน่ะ มาเดินจับมือพี่ดีกว่ามะ ” จงแดยื่นมือมาหาลู่หาน ลู่หานเกาะแขนมินซอกแล้วเดินไปหลบข้างหลัง จงแดเลยยื่นมือรอเก้อ ก่อนจะชักมือกลับ
“ จงแดเขาไม่ใช่คนไม่ดี ไม่ต้องกลัวหรอก ” มินซอกบอกลู่หานแล้วแกะมือลู่หานออก จงแดยื่นมือมาให้ลู่หานอีกครั้ง ลู่หานมองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แล้วค่อย ๆ ยื่นมือออกไป
“ ป่ะ เดินไปกับพี่นะ ” จงแดเดินจูงมือลู่หานไป ลู่หานยังรู้สึกไม่คุ้นกับจงแด แต่จงแดก็พยายามชวนลู่หานคุย มินซอกเดินตามหลังสองคนนั้น ระหว่างทางกลับบ้าน ลู่หานแวะซื้อขนม เขายังไม่ยอมปล่อยมือจากจงแด จงแดก็ไม่มีทีท่าว่าจะรำคาญเด็กคนนั้น มินซอกเดินมาจ่ายเงินหลังจากที่ลู่หานซื้อขนมจนพอใจ จงแดเดินจูงมือลู่หานมาถึงบ้าน มินซอกก็เดินไปเปิดประตู แม่เดินออกมาต้อนรับ
“ สวัสดีครับ ผมคิม จงแด เป็นเพื่อนมินซอกครับ ” จงแดโค้งทักทายแม่ของมินซอกทั้งที่ยังจับมือลู่หานไว้
“ สวัสดีจ๊ะ เข้ามานั่งข้างในก่อนสิ มากินขนมกันก่อน ” แม่เชิญชวนจงแดให้เข้ามาในบ้าน จงแดมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตา เป็นครั้งแรกที่เขามาบ้านเพื่อนสนิทของเขา เขารู้ว่าบ้านหลังนี้ดูกะทัดรัดและอบอุ่นดีจัง
“ ลู่หานจับมือพี่เขาไว้ตลอดแบบนั้นไม่ดีนะจ๊ะ ” แม่บอกลู่หาน ลู่หานมองหน้าจงแด แล้วปล่อยมือออก จงแดรู้สึกโล่งที่มือของเขาเป็นอิสระอีกครั้ง ถ้ารู้อย่างนี้เขาไม่น่ายื่นมือให้ลู่หานจับเลย ไม่คิดว่าลู่หานจะจับมือเขาไว้ไม่ปล่อยแบบนี้ สงสัยมินซอกคงจะรู้สึกเหมือนกันสินะ
“ แม่ครับ เดี๋ยวผมต้องไปซ้อมฟุตบอล ไปล่ะนะครับ ” มินซอกบอกแม่ของเขาหลังจากที่มินซอกขึ้นไปเก็บของที่ห้อง แล้วเดินออกไปทันที จงแดทำหน้างง
“ งั้นผมไปกับมินซอกนะครับ สวัสดีครับ ” จงแดโค้งให้แม่แล้วเดินตามออกไป แม่มองตามอย่างงุนงง ลู่หานไม่ได้สนใจอะไร เขาสนใจแค่ขนมที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
“ เฮ้ย มินซอก! จะรีบไปไหนวะ ” จงแดตะโกนตามหลังมินซอกก่อนจะวิ่งตามให้ทัน
“ ก็จะรีบไปซ้อมบอลไงวะ ” มินซอกตอบ
“ จะรีบอะไรขนาดนั้น ”
“ ก็กูไม่อยากโดนโค้ชว่านี่ แล้วมึงจะตามมาทำไม ไหนว่าจะนอนบ้านกูไง ”
“ นอนดิ แต่กูขอเวลากลับบ้านไปบอกคนที่บ้านก่อนได้ไหมวะ แล้วเดี๋ยวกูจะตามไปให้กำลังใจมึงที่สนามบอล ”
“ งั้นหรอ ตามใจ ”
“ งั้นกูกลับบ้านก่อน แล้วเจอกัน ” จงแดโบกมือให้มินซอกก่อนจะแยกเดินไปอีกทาง มินซอกรีบวิ่งมาที่สนามฟุตบอลแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะลงสนาม ที่สนามเพื่อน ๆ ของเขามากันครบแล้ว มินซอกรู้สึกเหมือนถูกมองด้วยสายตาที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เขามองไปรอบ ๆ เพื่อสบตากับเพื่อนร่วมทีมของเขา แต่ว่าเพื่อนของเขากลับหลบสายตาและหันวอร์มร่างกายต่อ มินซอกเลยหันวอร์มร่างกายรอโค้ชบ้าง
“ แกยังกล้ามาอีกหรอ ” เสียงใหญ่ที่มินซอกได้ยิน มันทำให้เขาต้องหันมามอง
“ ทำไมฉันต้องไม่กล้าด้วยล่ะ ” มินซอกตอบ
“ เหอะ.. ก็เรื่องน้องชายของแก ขนาดเพื่อนสนิทแกยังไม่รู้เลย ไม่คิดว่าตัวเองเป็นพวกลวงโลกหรอ ” ชานยอลพูดพร้อมกับเดินมองหน้าเข้ามาหามินซอกเรื่อย ๆ มินซอกทำเป็นไม่สนใจแล้ววอร์มร่างกายต่อ
“ มันเป็นเรื่องส่วนตัว ทำไมฉันต้องบอกคนอื่นด้วย ”
“ ก็ดี คนอื่นจะรู้ไว้ว่าคนอย่างแก มันหลอกลวงแค่ไหน ” ชานยอลพูดจบก็เดินจากไป แต่ยังไม่ทันที่มินซอกจะได้ตั้งตัวก็มีเท้าคู่หนึ่งมาหยุดอยู่ข้างหน้าทันที
“ ไง พ่อนักบอลจอมหยิ่ง ” มินซฮกเงยหน้าขึ้นมอง แบคฮยอนยิ้มให้เขาอย่างกวน ๆ มินซอกไม่สนใจหันไปวอร์มร่างกายต่อ
“ นายเนี่ยไม่มีความรู้สึกหรือไง ” แบคฮยอนยังคงพูดต่อ
“ แต่ก็เอาเถอะ เป็นดาวเด่นที่มีแต่คนเกลียด ระวังจะอยู่ยากนะ ” พูดจบแบคฮยอนก็เดินจากไปทันที มินซอกได้แต่ถอนหายใจ แล้วโค้ชยุนก็เดินเข้าสนามมาพอดี
“ เอาล่ะรวมกันทางนี้ สวัสดีต้อนรับเปิดเทอมนะ ” โค้ชยุนพูด
“ สวัสดีครับ!! ”
“ เอาล่ะ เปิดเทอมมาคราวนี้ใครไปฝึกซ้อมที่ไหนยังไงบ้าง ” โค้ชยุนถาม
“ ผมไปฝึกที่สโมสรฟุตบอลเกาหลีครับ พอดีว่าพ่อของผมรู้จักคนที่นั่น ” ชานยอลตอบ
“ ผมก็ไปฝึกกับทีมฮันโซลมาครับ เขามีเทคนิคที่ดีมาก ๆ เลย ” แบคฮยอนบอก
“ โอ้โห! พวกนายนี่โชคดีมากเลย สมัยฉันยังไม่ได้ไปฝึกในที่ดี ๆ แบบนี้เลย เอาล่ะเดี๋ยวเราจะลงสนามกันแบบไม่มีแผนดูนะ ฉันอยากรู้ทักษะเฉพาะตัวของแต่ละคน ว่ายังดีเหมือนเทอมที่แล้วไหม ” พูดจบนักกีฬาก็ลงสนามประจำตำแหน่งกันทันที
มินซอกลงในตำแหน่งกองหน้า ส่วนชานยอลกับแบคฮยอนลงในตำแหน่งกองหลัง มินซอกเห็นสายตาที่ทั้งสองคนส่งมาให้ เขาไม่รู้ว่ามันมีความหมายอะไรแอบแฝงไหม แต่มันคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ เอาล่ะ เริ่มได้! ”
เมื่อโค้ชยุนเป่านกหวีด ทุกคนก็เริ่มเล่นเกมส์ทันที มินซอกแย่งลูกบอลมาได้ก็รีบเตะไปข้างหน้าเพื่อหวังจะยิงประตูในทันที แต่ว่าชานยอลกลับแย่งลูกไปจากเขา มินซอกมองชานยอลอย่างสงสัย นี่พวกเขายังอยู่ทีมเดียวกันอยู่หรือเปล่า ชานยอลเตะลูกบอลส่งต่อให้แบคฮยอน แบคฮยอนก็ส่งต่อให้มินโฮผู้เล่นกองหน้าอีกคน และมินโฮก็เตะเข้าประตูไป
“ เย้!!! ” มินโฮวิ่งไปรอบ ๆ สนามอย่างดีใจที่ทำประตูได้ โค้ชยุนที่มองอยู่ก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างทันที
“ เอาล่ะ ๆ มารวมตัวกัน ” ทุกคนเดินมารวมตัวกันตามที่โค้ชยุนบอก
“ ทักษะของพวกนายยังดีเหมือนเดิมเลยนะ แต่ว่าฉันสงสัยอย่างหนึ่ง ปาร์ค ชานยอล... นายมีปัญหาอะไรกับคิม มินซอกหรือเปล่า ” โค้ชยุนหันไปมองชานยอลอย่างต้องการคำตอบ
“ เปล่านี่ครับ ผมแค่เห็นว่าเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็อยากเตะลูกฟุตบอลเหมือนกัน ไม่ได้อยากจะให้ใครเตะอยู่คนเดียว เพราะฟุตบอลน่ะ... มันเล่นกันเป็นทีม ” ชานยอลตอบ ประโยคหลังเขาหันมามองมินซอกที่ยืนนิ่งอยู่
“ อย่างนั้นหรอ งั้นเพื่อน ๆ ก็ควรจะขอบใจชานยอลนะ ที่เขาทำให้เพื่อนคนอื่น ๆ ได้แตะลูกบอลกันบ้าง แต่ว่าฉันว่านะ นายทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้องนะชานยอล ” โค้ชยุนพูดเชิงตำนิแต่ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มอยู่
“ เอาล่ะ เดี๋ยวพวกนายมาแยกกันไปซ้อมตามจุดต่าง ๆ ที่เด็กของฉันเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้นะ ส่วนมินซอก ชานยอล และแบคฮยอน นายด้วย ตามฉันมา ” โค้ชยุนพูดแล้วก็เดินนำหน้าทั้งสามคนมาที่ห้องพัก
“ เอาล่ะ มีใครอยากเปิดประเด็นก่อนไหม ” โค้ชยุนพูดขึ้น ทั้งสามคนมองต่ำลงไปที่พื้น ไม่มีใครอยากพูดเรื่องที่โค้ชยุนกำลังถามอยู่
“ ไม่มีหรอ แต่เมื่อกี๊เหมือนจะเปิดศึกกันเลยนะ ทำไมหรอ พวกนายมีปัญหาอะไรกัน ทำไมไม่บอกฉันล่ะ ฉันเป็นโค้ชของพวกนายมากี่ปี ทำไมฉันจะไม่รู้จักนักกีฬาของฉัน ” โค้ชยุนพูด แต่ทั้งสามคนก็ยังเลือกที่จะนิ่ง
“ เอาล่ะ งั้นฉันถามเหตุผลจริง ๆ ของพวกนานแทนแล้วกัน ชานยอล... ทำไมนายถึงเข้าไปแย่งลูกจากมินซอก ” โค้ชยุนหันไปถามชานยอล
“ คือว่าผม... ก็อย่างที่บอกก่อนหน้า ผมแค่อยากให้เพื่อน ๆ ได้แตะบอลบ้าง ไม่ใช่ให้ใครแค่คนเดียวเล่นจนจบเกมส์ ” ชานยอลบอก
“ นั่นคือเหตุผลของนายจริง ๆ หรอ ”
“ น... แน่นอนครับ ” ชานยอลตอบด้วยน้ำเสียงประหม่านิดหน่อย
“ มินซอกว่าไง นายว่ามันจริงไหม หรือว่าชานยอลแค่แหย่นายเท่านั้น ” โค้ชยุนหันมาถามมินซอกที่ยืนนิ่งอยู่
“ ผมไม่ทราบครับ... ” มินซอกบอก
“ เฮ้อ... ในเมื่อพวกนายไม่ยอมบอกความจริงให้ฉันฟัง ฉันก็คงจะพูดได้แค่ว่า ฟุตบอลน่ะ มันเล่นกันเป็นทีม ถ้าผู้เล่นคนใดเกิดขัดแย้งแตกแยกกัน สิ่งที่เราวางแผนมามันก็สูญเปล่า และมันก็ต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกันด้วย ถ้าพวกนายยังมีปัญหาคาใจอะไรกัน ก็รีบเคลียร์และเริ่มซ้อมกันได้แล้ว ฉันไม่อยากให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ พวกนายเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม ” โค้ชยุนพูดจบก็เดินออกจากห้องไป
“ เออ... เกือบลืม แบคฮยอน! นายเป็นคนมีสมองนะ อย่าให้ใครมาควบคุมนายได้ล่ะ โอเค๊? ” โค้ชยุนหันมาบอกอีกครั้ง แบคฮยอนฟังคำพูดสุดท้ายอย่างงุนงง
“ ฉันคงทำมันชัดเจนเกินไปสินะ มินซอก ” ชานยอลพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าโค้ชยุนเดินไปไกลแล้ว
“ มันก็ดีแล้วนี่ ฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งเดาว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน แต่ว่านายก็ควรที่จะแยกแยะอะไรให้เป็นด้วยนะ เรื่องทีมสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวในตอนนี้นะ ” มินซอกบอกแล้วก็เดินออกไป ชานยอลมองตามมินซอกอย่างหงุดหงิด
“ ที่โค้ชบอกหมายความว่ายังไง มีใครมาควบคุมฉันหรอ ฉันก็แค่เห็นด้วยกับนายเรื่องที่จะเล่นงานมินซอกเฉย ๆ นี่ ” แบคฮยอนถามชานยอลที่กำลังหงุดหงิด
“ ถ้านายไม่รู้ ก็โง่ต่อไปนั่นล่ะ ” พูดจบชานยอลก็เดินออกไปทันที
“ อะไรของมันวะ! หรือที่โค้ชบอกจะหมายถึงมัน หน๊อย... ฉันไม่ยอมให้แกมาบงการฉันหรอก ”
...
...
“ กลับมาแล้วครับ!! ” มินซอกและจงแดบอกแม่เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน
“ มาแล้วหรอจ๊ะ เป็นยังไงบ้าง ซ้อมเหนื่อยไหมลูก ” แม่ถามมินซอกอย่างเป็นห่วง
“ ไม่เท่าไหร่ครับ ผมคงจะไม่ได้ออกกำลังกายนานไปหน่อย ก็เลยเคล็ด ๆ ตามข้อเท้าอ่ะครับ ” มินซอกบอกแม่ของเขา
“ อย่างนั้นหรอ เดี๋ยวแม่เอายามาให้นะ ” พูดจบแม่ก็เดินไปหายาให้มินซอก
“ ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมหาเอง แม่ไปพักผ่อนเถอะ ” มินซอกบอกแม่ของเขา
“ ตามใจนะจ๊ะ คืนนี้แม่ว่าจะไปนอนกับลู่หานสักหน่อย ตั้งแต่กลับจากเชจู แม่ยังไม่ได้เล่านิทานให้น้องฟัง งั้นก็ฝันดีล่วงหน้าแล้วกันนะ ”
“ ครับ ฝันดีเหมือนกันครับ ” มินซอกบอกแม่ แล้วแม่ก็เดินขึ้นไปที่ห้องลู่หาน
“ ครอบครัวมึงนี่ อบอุ่นดีจัง กูอิจฉาวะ ” จงแดพูดขึ้นหลังจากที่ดูความอบอุ่นระหว่างแม่ลูกบ้านนี้ไป
“ ไม่ต้องอิจฉาหรอก บ้านมึงก็อบอุ่นไม่แพ้กันหรอก แถมยังมีทั้งพ่อและแม่พร้อมหน้าพร้อมตาอีก ” มินซอกพูด
“ ช่างเถอะ มึงยังมีอารมณ์จะเล่นเกมส์กับกูอยู่ไหมเนี่ย ”
“ พรุ่งนี้วันเสาร์ จะแคร์อะไรล่ะ ”
“ งั้นเลทโก ไปจัดหนักกันเลย ” พูดจบทั้งสองก็เดินขึ้นไปที่ห้องของมินซอกเพื่อเล่นเกมส์
วันนี้ของมินซอกช่างดีกว่าที่คิดซะอีกหลังจากที่ใคร ๆ ต่างก็รู้เรื่องของลู่หานแล้ว ชานยอล ถ้านายจะหาเรื่องฉันอีก ตอนนี้ฉันก็ไม่กลัวแล้วล่ะ
TBC…
ไรท์ทอล์ค : มาอัพอีกตอนล่ะ ไรท์หยุดงานช่วงวันจักรีก็เลยนั่งปั่นจนไม่ได้ออกไปไหนเลย เพราะกลัวว่าจะไม่ทันวันเกิดพี่ลู่ ถ้ามันไม่ทัน ฟิคเรื่องนี้คงจะเป็นฟิคเรื่องหนึ่งที่ไรท์อยากแต่งลงแล้วล่ะ ถ้าไม่ทันจริง ๆ ไรท์ว่าจะแต่ง Shortfic ให้พี่ลู่แทน อิอิ และตอนนี้ก็อาจจะดูน่าเบื่อไปหน่อยนะ ชานยอลของเราไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้นนะคะ แค่เป็นเด็กเอาแต่ใจไปหน่อย เป็นกำลังใจให้พี่หมินด้วยนะคะ แต่ดูเหมือนพี่หมินจะทำใจได้ดีมากเลย เห็นตัวเล็กแต่แข็งแรงอย่าบอกใครเลย อิอิ พล่ามมาเยอะ สนุกไม่สนุกยังไงก็บอกได้ ผิดพลาดอะไรบอกได้นะคะ ไรท์จะตามแก้ไข
ความคิดเห็น