คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 First Time...
Chapter 1 … First Time…
การที่ต้องตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อทำในสิ่งที่เรียกว่า ‘ หน้าที่ ’ มันช่างเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับคนบางคน
เช้าวันนี้มินซอกตื่นนอนขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่ที่หัวเตียง เขากดปิดมันแล้วลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกเดินทางไปโรงเรียนมัธยมต้นจองอิล ปีนี้มินซอกอายุได้ 15 ปีแล้ว เขาได้ทำบัตรประชาชนเป็นครั้งแรก แน่นอนเขาเกลียดรูปถ่ายที่ติดบนบัตรประชาชนของเขาเพราะมันทำให้เขาดูแย่กว่าตัวจริงเสียอีก
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จมินซอกก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อหาอาหารเช้ากินก่อนไปโรงเรียน วันนี้แปลก ปกติแม่จะต้องทำอาหารอยู่ที่ครัวอย่างเสียงดัง แต่ว่าวันนี้เขาไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นเลย มินซอกเดินหาแม่จนทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ ก่อนจะเดินมาที่ตู้เย็นและเห็นโพสอิทที่แปะไว้ที่ตู้เย็น
‘ มินซอกอ่า... วันนี้แม่มีธุระที่ต้องไปเชจูกะทันหัน ขอโทษที่แม่ออกไปโดยไม่ได้บอกลูกนะ ฝากดูแลลู่หานด้วยนะ แม่จะไปสักสองวัน แล้วจะซื้อขนมมาฝาก แม่... ’
ให้ตายสิ มินซอกอยากจะทึ้งหัวตัวเองสักร้อยครั้ง เขาเคยบอกแม่แล้วว่า เขาจะยอมให้ลู่หานอยู่ด้วย แต่แม่จะต้องกันลู่หานไม่ให้มาวุ่นวายเขา แต่แล้วแม่ก็ไม่เคยทำมันสำเร็จและสุดท้ายเขาก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับลู่หานเสมอเมื่อแม่ไม่อยู่ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องดูแลลู่หานทุกอย่าง ปกติแม่แค่จะฝากลู่หานไว้กับเขาสักสองสามชั่วโมง มากสุดก็ทั้งวัน แต่ไม่เคยที่เขาจะต้องดูแลลู่หานตลอดทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เพราะลู่หานน่ะ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างจนถึงตอนนี้ แม้แต่การเข้าห้องน้ำ มันน่าอายนะที่เขาจะต้องเข้าห้องน้ำกับลู่หานสองคนในห้องเดียวกันที่โรงเรียน
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“ ลู่หาน!! ตื่นได้แล้ว ฉันให้เวลานายสิบนาที ถ้านายยังไม่อาบน้ำแต่งตัวและเดินออกมา ฉันจะทิ้งนายไว้ที่นี่ เข้าใจไหม ” มินซอกตะโกนผ่านประตูไม้ไป โดยหวังว่าลู่หานจะได้ยินและทำตามคำสั่งของเขา มินซอกเดินลงมาทำอาหารเช้าง่าย ๆ รอลู่หานก่อน เขาทอดไข่ดาวและไส้กรอกใส่จาน ก่อนจะเทนมใส่แก้วและเดินขึ้นไปที่ห้องของลู่หานอีกครั้ง
“ ลู่หาน!! นายเสร็จหรือยัง!! ”
“ ... ” ไม่มีเสียงตอบรับจากลู่หาน มินซอกรอคำตอบจากลู่หานสักสิบวินาทีได้ ก่อนจะเคาะประตูอีกครั้ง
“ ลู่หาน!! นายได้ยินฉันไหม ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!! ”
“ ... ” ลู่หานยังคงไม่ตอบเขา มินซอกเลยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปให้ห้อง ทันทีที่เขาเปิดประตูเขาก็เห็นลู่หานกำลังพยายามค้นกางเกงในของเขาในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าโดยที่ไม่ได้ใส่อะไรเลย ลู่หานค่อย ๆ หันมาช้า ๆ
“ หยุด!! นายห้ามหันมาเด็ดขาด ” มินซอกบอกลู่หาน แล้วเขาก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้ที่เอวของลู่หาน ก่อนจะจัดการหาเสื้อผ้าให้ลู่หานใส่
“ โตจนป่านนี้แล้ว นายยังทำอะไรไม่เป็นอีกหรือไง ทำไมต้องมาเป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้ด้วยนะ ” มินซอกบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“ ซิ่ว... หมิน... เกอ... ” ลู่หานพยายามพูดออกมา
“ แล้วก็บอกกี่ครั้งแล้ว ว่าฉันไม่ได้ชื่อซิ่วหมิน ฉันชื่อมินซอก เรียกให้มันถูก ๆ ด้วย อ่ะ เสร็จแล้วลงมากินข้าวด้วย ” มินซอกจัดการใส่เสื้อผ้าให้ลู่หานอย่างลวก ๆ แล้วเดินลงไปข้างล่าง
ลู่หานมองมินซอกที่เดินจากไป ก่อนจะมองหากระเป๋านักเรียนและหยิบขึ้นมาสะพายแล้วเดินลงมากินข้าวข้างล่าง มินซอกกำลังนั่งกินไปได้ครึ่งจาน ลู่หานก็ยืนมองมินซอก
“ มองอะไร มานั่งกินข้าวสิ ฉันรีบนะ ถ้าไปโรงเรียนสาย นายโดนฉันขังแน่ ” มินซอกพูดขู่ลู่หาน ลู่หานหลุบตาลง ก่อนจะนั่งลงแล้วกินนมจนหมดแก้ว แล้วยื่นแก้วนมให้มินซอก
“ ซิ่วหมินเกอ... ลู่... ลู่หานขอ... ขอนมเพิ่ม... ” ลู่หานพูดตะกุกตะกักพร้อมกับมองไปทางอื่น มินซอกชักจะรำคาญนิสัยการพูดของลู่หานแล้วสิ พูดให้เหมือนคนหน่อยก็ไม่ได้
“ ฉันบอกนายแล้วใช่ไหม ว่าเวลาพูดกับคนอื่นน่ะ ให้มองตาเขาด้วย แล้วก็เลิกเอียงคอแบบนั้นด้วย ฉันเบื่อจริง ๆ เลย เมื่อไหร่นายจะทำให้เป็นคนปกติเหมือนคนอื่นบ้างนะ ” มินซอกพูดแล้วเดินไปหยิบขวดนมในตู้เย็นแล้ววางที่ข้าง ๆ ลู่หาน
“ อยากกินก็เทเองแล้วกัน ” พูดจบมินซอกก็เดินมานั่งที่เก้าอี้แล้วกินอาหารในจานต่อ ลู่หานมองแก้วนมแล้วก็มองขวดนมสลับกันไปมา มินซอกแอบมองเป็นระยะว่าลู่หานจะทำเองได้ไหม ก่อนจะจัดการอาหารตรงหน้าจนหมด
เพล้ง!!!
ให้ตายสิ มินซอกอยากจะจับน้องชายซื่อบื้อคนนี้โยนลงแม่น้ำฮันให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ ลู่หานทำหน้าตกใจ เหมือนว่าร่างกายจะของเขาจะขยับไปช้ากว่าสมองมาก มินซอกทำหน้าเซ็งก่อนจะเดินไปหยิบไม้กวาดมาจัดการเศษแก้วที่แตก โดยไม่ลืมสั่งให้ลู่หานอยู่เฉย ๆ
“ อยู่เฉย ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ” มินซอกเดินไปเอาไม้กวาดมา แต่แน่ล่ะ ใครว่าลู่หานเป็นคนปกติล่ะ
“ ซิ่วหมินเกอ... เลือด... ” มินซอกรีบวิ่งมาดู เศษแก้วบาดมือลู่หานไปแล้ว
“ ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าให้อยู่เฉย ๆ นายออกไปรอฉันข้างนอกเลย ไป๊!! ” มินซอกลากลู่หานออกไปนอกบ้าน แล้วกลับเข้ามาเก็บกวาดเศษแก้วให้เรียบร้อย แล้วเก็บของที่อยู่บนโต๊ะอาหารลงซิงค์น้ำ จากนั้นก็ออกมาหาลู่หานข้างนอก
“ ไอ้เด็กนี่ จริง ๆ เลย ” มินซอกไม่เจอลู่หานอยู่หน้าบ้านแล้ว เขารีบวิ่งตามหาลู่หาน เผื่อว่าเขาจะเดินไปได้ไม่ไกล
“ ลู่หาน!! ลู่หาน!! ” มินซอกเดินมาถึงร้านขายขนมหน้าปากซอย เขาเจอลู่หานกำลังยืนเลือกอมยิ้มอยู่หน้าร้าน
“ นี่!! ฉันบอกให้นายรอฉันก่อนไม่ใช่หรอไง ”
“ ซิ่วหมินเกอ... เอาไหม... ” ลู่หานยื่นอมยิ้มให้มินซอก มินซอกปัดอมยิ้มนั้นลงพื้นอย่างอารมณ์เสีย รู้ตัวอีกทีลู่หานก็กำลังก้มลงเก็บมันขึ้นมา มินซอกไม่ได้ตั้งใจ เขาแค่หงุดหงิดที่น้องชายของเขาไม่ฟังคำพูดของเขาเลย
“ เอาอันใหม่เถอะ เดี๋ยวฉันซื้อให้ ” มินซอกไม่ได้เป็นคนใจร้ายขนาดนั้น เขาไม่ปล่อยให้น้องชายของเขากินของที่ตกพื้นหรอก
“ ไม่เป็นไร... เดี๋ยวเอาไปล้าง มันก็กินได้แล้ว ” ปัญญาอ่อนที่สุด ลู่หาน เมื่อไหร่นายจะกลายเป็นคนปกติซะทีนะ มินซอกแย่งอมยิ้มนั้นมาแล้วก็หยิบอันใหม่เดินไปจ่ายเงิน
“ เอาไป ” มินซอกยื่นอมยิ้มให้ลู่หาน ลู่หานมองอยู่นานจนมินซอกรำคาญยัดใส่มือ แล้วก็เดินไปโรงเรียน ลู่หานมองอมยิ้มแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะวิ่งตามมินซอกไปแล้วจับมือเขาไว้ มินซอกตกใจเลยสะบัดมือออก
“ อะไรของนายเนี่ย ” มินซอกมองลู่หานด้วยสายตาดุ ๆ
“ ก็ซิ่วหมินเกอ... ซื้ออันนี้ให้... ลู่... ลู่หาน... จะพาซิ่วหมินเกอไปโรงเรียน ” ลู่หานพูด มินซอกมองลู่หานด้วยสีหน้าเอือมระอา
“ ไม่ต้อง แค่นายเดินแล้วไม่หลงกับฉันก็พอ รีบไปเถอะ ฉันไม่อยากโดนลงโทษ ” พูดจบ มินซอกก็เดินไปทันทีจนลู่หานเดินตามไปไม่ทัน
เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนมินซอกก็หยุดเดินจนลู่หานที่เดินตามหลังมาชนเข้า มินซอกส่งสายตารำคาญให้ลู่หานเหมือนเคย ก่อนจะส่งสัญญาณบอกว่าให้ลู่หานเดินเข้าไปโรงเรียนก่อนเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ลู่หานกลับดื้อไม่ยอมเข้าไปก่อน
“ ซิ่วหมินเกอ... เข้าไปพร้อม ๆ กันสิ... เพื่อนของลู่... จะได้รู้จักด้วย ” ลู่หานพูด
“ นายจะบ้าหรอไง เพื่อนนายอาจจะดีใจ แต่เพื่อนฉันคงไม่ดีใจหรอก ที่มารู้ว่าฉันมีน้องชายปัญญาอ่อนแบบนี้น่ะ ” มินซอกพูด ลู่หานเอียงคออย่างสงสัย จนมินซอกต้องหันหน้าหนีพยายามเก็บอารมณ์ตัวเองไว้
“ ถ้านายไม่เข้าไป งั้นฉันไปก่อน รอให้ฉันเข้าไปในโรงเรียนก่อน แล้วนายก็เข้าไป โอเคนะ ” มินซอกบอกลู่หาน ก่อนจะรีบเดินเข้าไป
เมื่อเข้ามาในโรงเรียนมินซอกรีบเดินไปที่ห้องของเขาทันที เพราะเขาไม่อยากให้ลู่หานตามเขาเข้ามาทัน แต่ว่าเขาคงประเมินความสามารถของลู่หานต่ำเกินไป
“ ซิ่วหมินเกอ! ” มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นล่ะ ที่เรียกชื่อเขาแบบนี้ มินซอกทำเป็นไม่ได้ยิน แล้ววิ่งเข้าตึกเรียนทันที มินซอกรีบขึ้นมาที่ห้องเรียนของเขา แล้วนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะฟุบหน้าลงที่โต๊ะของเขา ตอนนี้เขาอยากจะกรีดร้องออกมาที่สุด
“ เฮ้ย! เป็นอะไรวะมินซอก มาถึงของหลับเลยหรอ ” เสียงเพื่อนร่วมห้องของเขา คิม จงแด ทักขึ้น มินซอกยังคงฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะ เพราะตอนนี้เขายังเก็บอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองไม่อยู่
“ เมื่อคืนเล่นเกมส์หนักไปหน่อยน่ะ ” มินซอกพูดออกมาทั้ง ๆ ที่ยังฟุบหน้าอยู่ จนจงแดต้องแกะงัดแงะหน้าของมินซอกที่ติดกับโต๊ะขึ้นมา
“ เป็นอะไรวะ แล้วทำไมต้องปิดหน้าด้วย ทำอย่างกะหนีเจ้าหนี้ นี่อย่าบอกนะ ว่าไปเล่นพนันบอลมาน่ะ ” จงแดพูด นี่ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก มินซอกคงเอาเทาที่ใส่รองเท้ากีฬายี่ห้อดังถีบเข้ายอดอกจงแดไปแล้ว
“ พูดเหมือนมึงไม่รู้จักกูเลยเนอะ ” มินซอกพูดแล้วหันหน้าไปทางหน้าต่าง
“ ก็มึงเป็นอะไรล่ะ มีอะไรบอกกูได้นะเว้ย ที่ถามเพราะเป็นห่วง ” จงแดตบบ่ามินซอก
“ เปล่า กูแค่ง่วงล่ะ จะไปไหนก็ไปไป่ ” มินซอกโบกมือไล่ให้จงแดไปไกล ๆ เขา เวลานี้เขาอยากจะอยู่คนเดียว ให้ตายเถอะ แม่รีบกลับมาเถอะ มินซอกคนนี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนเดิมสักที
..
..
สำหรับลู่หานการที่ต้องเดินมาที่ห้องเรียนของเขานั้น มันเป็นเรื่องง่าย ๆ เขาไม่ใช่เด็กพิเศษที่เป็นออทิสติกเหมือนคนอื่น ๆ เพียงแต่ว่าเขามีพัฒนาการทางด้านสมองช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกันหรือที่เรียกว่าสมาธิสั้น อาการแบบนี้อาจารย์เคยบอกกับแม่ของเขาแล้วว่ามีวิธีรักษาแต่ด้วยเงินค่ารักษากับฐานะทางการเงินของแม่ ทำให้ลู่หานต้องมาเรียนที่ห้องเด็กพิเศษนี้ ลู่หานอยู่ที่นี่มีความสุขดี เพื่อน ๆ ของเขามีทั้งที่พูดด้วยแล้วเข้าใจกัน กับเพื่อนที่พูดด้วยแล้วไม่เข้าใจกัน ลู่หานไม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ เขาชอบเล่นรูบิกอยู่คนเดียว เรื่องการเรียนเขาเรียนรู้ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ แต่อาจจะทำอะไรช้ากว่าคนปกติ
“ สวัสดีคะ นักเรียนทุกคน ” เสียงอาจารย์วัยกลางคนพูดทักทายเด็ก ๆ ในห้องเรียนอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เด็ก ๆ ในห้องนั่งเรียงกันเป็นหน้ากระดาน เด็กห้องพิเศษนี้ มีแค่ 15 คนเท่านั้น ห้องเรียนก็เลยดูกว้างกว่าห้องเรียนเด็กปกติ
“ สวัสดีคะ.../สวัสดีครับ... ” นักเรียนบางคนกล่าวทักทายอาจารย์ บางคนก็ไม่สนใจแต่กลับมองไปทางอื่น อาจารย์ได้แต่ยิ้มให้พวกเขา เพราะยังไงพวกเขาก็ยังคงเป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านสมองอยู่ดี
“ วันนี้ครูจะให้นักเรียนวาดรูปกันในหัวข้อ ครอบครัวของฉัน กันนะ ” อาจารย์บอกสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องทำในวันนี้
“ ครอบครัว ๆ ลู่หานชอบครอบครัว ” ลู่หานรู้สึกดีที่ได้ยินคำว่าครอบครัว มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุข ใช่เขารู้ว่าครอบครัวหมายถึงอะไร
“ ดีจ๊ะลู่หาน แล้วหนูรู้ไหมว่า ครอบครัว หมายถึงอะไร ” อาจารย์ถามลู่หาน ในบรรดาเด็กนักเรียนของเธอ เธอรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร สำหรับลู่หานแล้ว เขาพิเศษกว่าคนอื่น เขาเรียนรู้ได้ แต่อาจทำอะไรช้า และบางครั้งเธอก็รู้ว่าลู่หานอาจจะขี้เกียจ เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่า มันจะต้องทำยังไง
“ ครอบครัว... คือ... คนที่อยู่ที่บ้านกับเรา... บ้านที่อบอุ่นและมีความสุข ” ลู่หานตอบ นี่คือความหมายของคำว่าครอบครัวสำหรับเขา
“ มันก็ใช่ส่วนหนึ่ง ความหมายของคำนี้ มันอยู่ที่เราว่าจะนิยามว่ายังไง เอาล่ะ เรามาเริ่มวาดรูปกันดีกว่านะ ”
..
..
“ เฮ้ยมินซอก วันนี้ไปเตะบอลไหม ” จงแดพูดขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนแล้ว
“ ไม่อ่ะ ฉันมีธุระ ไว้วันหลังนะ ” มินซอกพูดจบก็รีบเดินออกมาจากห้องเรียนทันที วันนี้เขาต้องไปรับลู่หานกลับบ้านมาด้วยกัน
ความจริงแล้ว เขาอยากจะออกจากห้องเรียนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วเพื่อพาลู่หานไปไว้ที่บ้านก่อน แล้วค่อยออกมาเตะบอลกับจงแด แต่ว่าถ้าเขาแบบนั้น ได้มีจดหมายร่อนมาถึงที่บ้านและแม่จะต้องมาที่ห้องปกครองแน่ ๆ มินซอกรีบเดินไปที่ตึกใกล้ ๆ หลังโรงเรียน ที่นี่เป็นตึกเรียนสำหรับวิชาคหกรรมและดนตรี ซึ่งตึกนี้มีสองชั้น และชั้นสองก็เป็นห้องเรียนสำหรับวิชาเหล่านั้น ส่วนชั้นหนึ่ง ก็เป็นห้องเรียนสำหรับเด็กพิเศษ
“ ผมมารับลู่หานครับ!! ” มินซอกตะโกนบอกอาจารย์ที่กำลังยุ่งอยู่กับเด็กนักเรียนของเธออยู่
“ จ้า ลู่หานผู้ปกครองมารับจ๊ะ ” อาจารย์ขานรับก่อนจะเดินไปจูงมือลู่หานออกมาหามินซอกที่หน้าห้องเรียน
“ สวัสดีครับอาจารย์ ” มินซอกโค้งให้กับอาจารย์ อาจารย์ดูแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้ผู้ปกครองของลูหานเปลี่ยนไป
“ ครูไม่ยักรู้ว่าเธอรู้จักกับลู่หาน ” อาจารย์บอก
“ พอดีผมมาเขาแทนป้าข้างบ้านนะครับ เธอฝากให้ผมมารับลู่หานแทนหน่อยน่ะครับ ” คำโกหกชิ้นโตหลุดออกจากปากของมินซอก เขาไม่อยากให้ใครรู้นี่ว่าเขามีน้องเป็นเด็กปัญญาอ่อน
“ อย่างนั้นหรอจ๊ะ ครูนึกว่าเธอเป็นพี่ชายของลู่หานซะอีก สงสัยว่าเธอจะสนิทมากนะ ”
“ ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ลู่หานกลับบ้านกันเถอะ ” มินซอกบอกอาจารย์ก่อนจะหันไปบอกลู่หานที่กำลังหมุนลูกรูบิกอยู่
“ วันนี้ครูให้นักเรียนวาดรูปเกี่ยวกับครอบครัวน่ะจ๊ะ เอาไว้วันหลังถ้าเธอแวะมารับลู่หานอีก ครูจะให้เธอดูรูปที่ลู่หานวาดนะ มันสวยมากจริง ๆ ” อาจารย์บอกก่อนจะยิ้มให้มินซอก
“ ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ ” มินซอกโค้งให้อาจารย์ แล้วลากลู่หานมา
“ ลาอาจารย์ซะสิ ” มินซอกบอกลู่หาน ลู่หานทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะโดนมินซอกลากออกไป
อาจารย์มองตามคู่พี่น้องนั้นไป ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ามินซอกคิดยังไงกับลู่หาน ถึงได้เลือกที่จะโกหกเธอออกมา ตอนนี้คงต้องให้เวลามินซอกได้ปรับตัว
“ สักวันเธอจะรู้ว่าต้องทำยังไงกับลู่หาน ” เธอพูดเบา ๆ ปล่อยให้คำพูดนั้นลอยไปตามลมและให้มันได้ผ่านเข้าหูของมินซอกบ้าง
..
..
“ ซิ่วหมินเกอ... ลู่หานอยากไป... ไป... ซื้อขนม ” ลู่หานดึงเสื้อมินซอกเอาไว้ มินซอกที่เดินอยู่หันมามองลู่หานด้วยสายตารำคาญทันที
“ จะกินอะไรกันนักหนา รีบกลับบ้านแล้วไปทำการบ้านซะ ” มินซอกดุลู่หานไปแล้วเดินต่อ ลู่หานหลุบตามองพื้นอย่างเสียใจ เขาแค่อยากซื้ออะไรไปกินที่บ้านเวลานั่งทำการบ้านบ้างก็เท่านั้นเอง
มินซอกก้าวเดินมาที่บ้านอย่างเร่งรีบ เขาไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาเดินมากับลู่หานเวลากลับบ้าน เพราะช่วงเวลานี้ เส้นทางที่เขาเดินผ่านมักจะมีคนรู้จักออกมาเดินเล่นกัน ในช่วงเช้ามินซอกไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่เพราะเป็นชั่วโมงเร่งรีบ มินซอกก็แค่ออกมาจากบ้านเวลาใกล้ ๆ จะเข้าเรียนก็เท่านั้น แต่เวลาเย็นหลังเลิกเรียนแบบนี้ คนรู้จักก็มักจะสังเกตสิ่งที่อยู่รอบข้างของตัวเอง จึงทำให้เขาเป็นจุดสนใจได้ง่าย
มินซอกเดินกลับมาถึงบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปทันที เมื่อเช้าเขาขอพรกับพระเจ้าแล้วว่า ขอให้งานที่แม่ไปทำเสร็จเร็วกว่ากำหนด แล้วพอเปิดประตูมา แม่ก็ยืนอยู่ครัวกำลังทำกับข้าว แต่ว่าวันนี้คงไม่ใช่วันของเขาสินะ
“ ลู่หาน นายไปทำการบ้านที่ห้องนะ เดี๋ยวฉันจะทำกับข้าว เสร็จแล้วจะเรียก ”
“... ” ไร้เสียงตอบรับ เขารีบมองหาลู่หานทันที
“ ลู่หาน! ลู่หาน! ” มินซอกเรียกหาลู่หาน เขาเดินออกไปนอกบ้าน เพื่อตามหาลู่หานแต่ก็ไม่เจอ
“ เอาอีกแล้วนะ ไอ้เด็กบ้านี่ ” เป็นอีกครั้งที่เขาคลาดสายตาจากลู่หานและผลที่ตามมาคือ ลู่หานหายไป รู้อย่างนี้ให้ลู่หานเดินนำมาก็ดี แต่ใช่ว่าเขาจะทำมันได้ มินซอกใจร้อนเกินกว่าที่จะเดินตามใคร
มินซอกเดินออกมาตามหาลู่หานตามเส้นทางที่เดินกลับบ้าน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าน้องชายของเขาหายไปตอนไหน แต่ว่าเขาก็เดินออกมาได้ไม่ไกล เขาก็เจอลู่หานยืนอยู่ที่ร้านขายขนม ร้านเดิมกับที่เขาเจอลู่หานเมื่อเช้า
“ ลู่หาน นายเคยคิดที่จะฟังฉันบ้างไหม ” มินซอกพูดออกมาเบา ๆ วันนี้ที่เขาต้องตามดูแลลู่หานมันยากกว่าการที่แม่ปล่อยให้เขาดูแลลู่หานอยู่ที่บ้านซะอีก
“ ซิ่วหมินเกอ... เอาไหม ” ลู่หานยื่นขนมถุงใหญ่ให้มินซอก มินซอกมองมันอย่างหงุดหงิดแล้วหยิบมันออกมาสองถุง ก่อนจะเดินไปจ่ายเงิน
“ ฉันจะให้นายจับมือฉันไปโรงเรียนพรุ่งนี้ก็แล้วกัน แต่ถ้าเดินมาถึงหน้าโรงเรียน นายต้องรีบเดินเข้าไปทันที โอเคไหม ” มินซอกบอกลู่หาน ลู่หานที่ได้ยินแบบนั้น เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“ พรุ่งนี้ ๆ พรุ่งนี้... ลู่หานจะได้... จับมือ... ซิ่วหมินเกอไปโรงเรียน... ” ลู่หานยิ้มให้มินซอกอย่างดีใจ มินซอกส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับบ้าน
“ งั้นวันนี้ นายก็เดินอยู่ข้างหน้าฉันแล้วกัน ” มินซอกยืนรอให้ลู่หานเดินไปก่อน ก่อนจะเดินตามหลังลู่หานไป ลู่หานเดินแล้วค่อยหันกลับมามองมินซอกเป็นระยะ มินซอกมองลู่หานเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงบ้าน
“ วันนี้นายมีการบ้านใช่ไหม ” มินซอกถาม ลู่หานพยักหน้าอย่างช้า ๆ
“ ถ้าอย่างนั้นนายก็ไปทำการบ้านซะ ฉันจะทำอาหาร ถ้าเสร็จแล้วจะไปเรียก ” มินซอกบอก ลู่หานพยักหน้ารับแล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน มินซอกมองตามแล้วถอนหายใจ เมื่อไหร่แม่เขาจะกลับมาซักทีนะ
หลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จ มินซอกก็เดินไปเรียกลู่หานที่ห้อง เขาเคาะประตูแล้วลู่หานก็ไม่ยอมออกมาสักที เขาเลยเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นลู่หานนอนหลับอยู่กับพื้น ข้าง ๆ ตัวเขามีการบ้านที่อาจารย์ให้มาทำ มินซอกเดินมาดูการบ้านลู่หานทำค้างไว้
‘ วันนี้ซิ่วหมินเกอซื้ออมยิ้มให้ ’
‘ วันนี้อาจารย์ให้วาดรูปครอบครัว ลู่หานชอบที่สุด’
‘ วันนี้ซิ่วหมินเกอซื้อขนมให้อีก ’
‘ พรุ่งนี้ซิ่วหมินเกอจะให้จับมือแล้ว ดีใจจังเลย’
การบ้านวันนี้ของลู่หานคือการเขียนบันทึกประจำวันสินะ แต่ทำไมถึงมีแต่เรื่องของเขาทั้งนั้นเลย มินซอกลุกขึ้นยืน แล้วมองไปรอบ ๆ ห้องของลู่หาน เขาไม่ได้เข้ามาที่ห้องของลู่หานนานมากแล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้วได้ ครั้งล่าสุดที่เขาเข้ามา ตอนนั้นแม่ให้เขาดูแลลู่หานและนั่งเล่นเป็นเพื่อนลู่หานอยู่ที่ห้อง เขาเบื่อมาก ๆ วันนั้นจงแดนัดเขาไปเที่ยวด้วย แต่แม่ให้เขาเฝ้าลู่หานไว้ เขาเลยเซ็งและหงุดหงิดที่สุด วันนี้ห้องของลู่หานเปลี่ยนไป เขาไม่เคยรู้เลยว่าลู่หานมีหัวด้านศิลปะมากแค่ไหน ลู่หานตกแต่งห้องของเขาด้วยกระดาษสีต่าง ๆ เป็นรูปรูบิกที่เขาชอบ ใช่ลู่หานชอบเล่นรูบิกมาก และเขาก็ทำให้มันเป็นหน้าเดียวกันได้ด้วย ซึ่งมินซอกไม่เคยทำได้เลยทั้ง ๆ ที่มินซอกก็มีสมองเหมือนคนปกติทั่วไป บางทีลู่หานคงจะเป็นเด็กอัจฉริยะด้านรูบิกก็ได้
“ อืม ๆ นม ๆ ชี.. อู.. มิน.. เกอ.. ” ลู่หานละเมอออกมา มินซอกมองหน้าลู่หานอย่างประหลาดใจ ลู่หานละเมอถึงเขาอย่างนั้นหรอ
“ ลู่หาน! ” มินซอกเรียกลู่หาน ลู่หานค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่ามินซอกยืนอยู่ตรงหน้าก็ยิ้มกว้างขึ้นมา
“ ซิ่วหมินเกอ... ”
“ ลงไปกินข้าวได้แล้ว ” มินซอกบอกก่อนจะเดินลงไป
ลู่หานลงมากินข้าวอย่างว่าง่าย เมนูวันนี้มินซอกทำอาหารง่าย ๆ อย่างข้าวผัดกิมจิ ลู่หานค่อย ๆตักข้าวกินอย่างเอร็ดอร่อย มินซอกก็นั่งกินของตัวเองไปเรื่อย ๆ
“ ลู่หาน... กินข้าวเสร็จแล้วไปอาบน้ำเลยนะ ” มินซอกบอก ลู่หานพยักหน้าอย่างว่าง่าย
หลังจากกินข้าวเสร็จลู่หานก็เดินขึ้นไปข้างบนทันที มินซอกเลยต้องจัดการล้างจาน ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องของตัวเองบ้าง เมื่อมินซอกเดินเข้ามาที่ห้อง เขาก็เห็นสิ่งที่ผิดปกติอย่างหนึ่งในห้องของเขา
“ นี่นาย!! กล้าดียังไงมาเอาเสื้อของฉันไปใส่ ห๊า!! ” มินซอกตะคอกใส่ลู่หานทันที เขาลืมล็อคประตูห้องสินะ ตั้งแต่เด็กแล้วที่ลู่หานจะชอบเข้าห้องของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต และสิ่งที่ลู่หานจะทำเมื่อเข้ามาในห้องของมินซอกก็คือ การค้นข้าวของ ซึ่งมันทำให้มินซอกหงุดหงิดกว่าตอนที่ลู่หานทำตัวให้เขาบ่นเป็นร้อยเท่า
ปลั๊ก!!!
“ นายออกไป!! แล้วก็ไม่ต้องเข้ามาที่ห้องฉันอีกเลยนะ!! ไปอาบน้ำแล้วนอนซะ พรุ่งนี้ถ้าฉันมาเรียกนายแล้วนายยังไม่เสร็จ ฉันขังนายไว้ที่บ้านแน่!! ” มินซอกทั้งถีบทั้งดันลู่หานออกไปนอกห้อง แล้วตวาดใส่ลู่หานก่อนจะปิดประตู ลู่หานไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะพูด
ตอนนี้มินซอกอยากจะกรีดร้องออกมา เมื่อไหร่แม่จะกลับมาซักที เขาต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิมแล้วนะ การที่มีลู่หานมาอยู่ในชีวิต เหมือนมีตัวถ่วงเข้ามาทำให้ชีวิตเขาวุ่นวายมาก
ลู่หาน... นายไม่ได้กำลังแกล้งฉันใช่ไหม นายไม่ได้แกล้งเป็นเด็กปัญญาอ่อนแบบนี้ใช่ไหม
แต่ถ้าเขาแกล้งมินซอก มินซอกจะไม่มีวันให้อภัยเขาอย่างเด็ดขาด
TBC…
ไรท์ทอล์ค : มาพูดคุยกันหน่อย เนื่องจากบทความเพิ่งเปิดในวันเกิดพี่หมิน แล้วทางเว็บเด็กดีก็มีการเปลี่ยนแปลงหน้าบทความเป็นแบบใหม่ ไรท์เสียใจจริง ๆ หน้าบทความเลยออกมาดูไม่ค่อยเข้าที่เท่าไหร่ เอาเป็นว่าทนไปจนกว่าจะมีคนแจกธีมบทความใหม่นะ พล่ามอะไรเนี่ย พูดถึงเนื้อเรื่องดีกว่า เรื่องนี้ไรท์ไม่รู้ว่าจะแต่งทันวันเกิดพี่ลู่ไหม แต่ไรท์จะพยายามนะคะ สำหรับนักอ่านทั้งหลาย ซึ่งไรท์ก็โรคจิตเนอะ เปิดเรื่องเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เรื่องเก่ายังไม่จบ เอาเป็นว่าอ่านแล้วคอมเม้นกันด้วยนะ ผิดพลาดอะไรบอกได้ สนุกไม่สนุกยังไงบอกได้ คนอ่านมีความสุข นักเขียนก็มีความสุข อิอิ
ความคิดเห็น