ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] LUMIN My Bro พี่ชายสุดที่รัก

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9 True of pain...

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 57


    Chapter 9 … True of pain …

     

    “ มินซอก!!!!! ตื่นได้แล้ว!!!!! ” เสียงจงแดที่ดังอยู่ข้างล่าง มันดังมากจนทำให้มินซอกสะดุ้งตื่นขึ้นมา

     

    มินซอกงัวเงียค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเพราะแสงสว่างที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านผ้าม่าน มินซอกมองไปรอบ ๆ เมื่อคืนเขานอนที่ห้องของลู่หาน แต่ตอนนี้เขาไม่เห็นลู่หานอยู่ในห้องแล้ว เสียงฝักบัวที่ดังในห้องน้ำทำให้มินซอกรู้ว่าลู่หานคงกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ มินซอกยันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ว่า..

     

    “ โอ๊ะโอ๊ย... ” มินซอกร้องออกมา

     

    ความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ความเจ็บปวดที่อยู่ที่บั้นท้ายของเขา ทำไมกันนะ เมื่อคืนเขานอนผิดท่าหรอ แต่ว่า...

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

     

    “ ( มินซอกนายนอนกับลู่หานหรอ ) ” เสียงจงแดที่ดังเล็ดลอดประตูเข้ามา ทำให้มินซอกปัดความคิดทั้งหมดออก

     

    “ ใช่ นายไปรอฉันข้างล่างเลย เดี๋ยวฉันตามไป ” มินซอกตะโกนบอกจงแด

     

    “ ( โอเค ) ” จงแดบอกแล้วเสียงฝีเท้าก็ค่อย ๆ ไกลออกไป

     

    มินซอกค่อย ๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้น ความเจ็บปวดมันเพิ่มมากขึ้น มินซอกเดินกระเผลกไปที่ห้องของเขาเพื่อทำธุระส่วนตัว จากนั้นก็เดินลงมาหาจงแดที่ช่วยแม่ทำอาหารสำหรับปาร์ตี้เลี้ยงส่งลู่หาน

     

    “ ลู่หานล่ะ ” แม่ถาม

     

    “ แต่งตัวมั้งครับ เมื่อกี้ผมออกจากห้องมาเขาเข้าห้องน้ำอยู่ ” มินซอกบอกแล้วเดินไปช่วยแม่ทำอาหาร

     

    เสียงวิ่งลงบันไดมา ทำให้ทุกคนหันไปมอง ลู่หานแต่งตัวด้วยชุดลำลองที่ดูแปลกตาไปมาก จนทำให้ทุกคนดูแปลกใจ ที่วันนี้ลู่หานเลือกชุดให้ตัวเองได้เข้ากับตัวเขามากที่สุด

     

    “ ว้าว วันนี้นายดูเท่มากเลยนะลู่หาน ” จงแดบอก

     

    “ หรอ ขอบคุณนะ ” ลู่หานบอก แล้วมองหน้ามินซอกเหมือนอยากให้มินซอกชมเขาบ้าง

     

    “ ก็ดีนะ ” มินซอกบอกแล้วหันไปสนใจล้างผักต่อ ลู่หานหน้าเสียไปเล็กน้อย

     

    “ เตรียมของกันเสร็จแล้ว มากินกันเถอะ ” แม่บอกทุกคนหลังจากที่จัดอาหารวางลงบนโต๊ะแล้ว

     

    “ เดี๋ยวครับ ยังเหลือแขกอีกคนที่ยังไม่มาครับ ” จงแดบอก

     

    “ ใครอ่ะ ” มินซอกถาม

     

    “ แปบนึงนะ ” พูดจบจงแดก็หยิบโทรศัพท์มาและกดโทรออก

     

    “ ฮัลโหล แบคฮยอน นายมาถูกหรือเปล่าเนี่ย ” ถึงบางอ้อ ที่แท้ก็แบคฮยอน

     

    มินซอกส่ายหัวกับความเยอะของจงแด ก่อนจะหันไปมองลู่หานที่นั่งนิ่งมองอาหารบนโต๊ะ ลู่หานนั่งมองอย่างไม่สนใจใคร มินซอกมองแล้วก็ใจหาย เขาคงกำลังรู้สึกถึงบรรยากาศเหงา ๆ สินะ

     

    “ เดี๋ยวแบคฮยอนจะมากินข้าวกับเราด้วยนะ รอก่อนนะ ” มินซอกเดินมาบอกลู่หานแล้วลูบหัวเขา มินซอกไม่เคยทำแบบนี้กับลู่หานเลย ลู่หานหันมามองหน้ามินซอกแล้วยิ้ม

     

    “ แบคกี้หรอ... ดี ๆ คนเยอะ...แยะดี... ”

     

    มินซอกยิ้มให้ลู่หานแล้วเดินไปจัดแจงของบนโต๊ะต่อ ลู่หานมองตามจะค่อย ๆ หุบยิ้มลง ยังไงลู่หานก็ยังไม่กล้าที่จะบอกทุกคนไปว่าเขาไม่ได้มีปัญหาทางสมอง เขาหายดีแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไปรักษาตัวแล้ว ทั้งหมดเขาแค่แกล้งทุกคน เขาแค่อยากให้ทุกคนรักเขาก็เท่านั้น แต่ลู่หานไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงที่ว่า ถ้าเขาบอกความจริงทุกคนไป ทุกคนคงเกลียดเขาและก็ไล่เขาไปเมืองนอกอยู่ดี

     

    “ สวัสดีครับทุกคน ” เสียงแบคฮยอนดังขึ้น ทำให้ลู่หานหันไปมองและยิ้มให้แบคฮยอน

     

    “ แบคกี้... มาแล้ว... ”

     

    “ วันนี้นายแต่งตัวดูดีมากเลยนะ ลู่หาน อ๊ะ นี่ ของขวัญจากฉัน ” แบคฮยอนยื่นของขวัญให้ลู่หาน ลู่หานมองกล่องของขวัญที่แบคอยอนให้มาแล้วรับไว้

     

    “ ขอบคุณนะ... ” ลู่หานยิ้มให้แบคฮยอน

     

    “ แกะเลยสิ ” แบคฮยอนบอก

     

    ลู่หานมองหน้าแบคฮยอนก่อนจะลงมือแกะของขวัญตามที่แบคฮยอนบอก มินซอกที่ยืนมองอยู่ก็มองตาม พอลู่หานแกะของขวัญออกมา มุมปากก็ถูกยกขึ้นมาอย่างมีความสุข

     

    “ ชอบไหม ” แบคฮยอนถาม ลู่หานไม่ตอบแต่พยักหน้าอย่างดีใจและมองของขวัญชิ้นนั้นอย่างปลาบปลื้ม

     

    “ นายรู้ได้ยังไงว่าลู่หานชอบรูบิก ” มินซอกถาม

     

    “ จงแดบอกฉันน่ะ อันนี้เป็นอันที่เล่นยากมากเลยนะ บางทีลู่หานอาจจะเป็นอัจฉริยะก็ได้ ถ้าเขาแก้รูบิกพวกนี้ได้เร็วอ่ะนะ ” แบคฮยอนบอก

     

    “ เอาล่ะ อาหารก็พร้อมหมดแล้ว คนก็พร้อมแล้ว เรามาเริ่มปาร์ตี้เลี้ยงส่งลู่หานกันดีกว่านะ เย่!! ” จงแดพูดขึ้น

     

    แล้วทุกคนก็นั่งรับประทานอาหารกันอย่างมีความสุข บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ คนที่สร้างบรรยากาศเป็นจงแดกับแบคฮยอน ซึ่งมินซอกไม่เคยรู้เลยว่าแบคฮยอนก็เป็นคนตลกมากกว่าที่เขาคิด

     

    “ จริงนะ วันนั้นฉันออกโรงเรียนเป็นคนสุดท้ายได้ ฉันเห็นลุงภารโรงกำลังสอยมะม่วงตรงริมรั้วพอดี ฉันก็เลยแกล้งพูดเสียงดัง ๆ ไปว่า เฮ้ย!! ทำอะไรตรงนั้นน่ะ แค่นั้นล่ะ แกก็วิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตอ่ะ ฉันเห็นฉันยังขำไม่หายเลย ดีนะที่ลุงแกไม่รู้ว่าคนที่ทำให้แกตกใจแบบนั้นเป็นฉัน ปานนี้ฉันโดนไล่จี้จากลุงแกแน่เลย ” แบคฮยอนพูดจบ เสียงหัวเราะก็เกิดขึ้น

     

    มินซอกนั่งมองเพื่อนของเขาพูดไปเรื่อย ๆ จนเขาสังเกตเห็นว่าแม่ของเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว มินซอกมองหาแม่ไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นแม่เดินมาจากหลังบ้านด้วยสีหน้าเร่งเครียด

     

    “ มีอะไรหรอครับแม่ ” มินซอกถาม ทำให้จงแดกับแบคฮยอนหันมาสนใจแม่ของเขาด้วย

     

    “ คนที่เขาจะมารับลู่หาน เขาเลื่อนไฟท์ให้เร็วขึ้นนะ ตอนบ่ายนี้ เขาจะมารับลู่หานแล้วล่ะ ”

     

    “ จริงหรอครับ ทำไมล่ะครับ ” มินซอกถาม

     

    “ เขา... เขา... คิดว่า... ควรจะรีบพาลู่หานไปรักษาน่ะ ลู่หานจ๊ะ เดี๋ยวลู่หานก็จะได้ไปลอนดอนแล้วนะ รีบกินข้าวสิ เดี๋ยวตอนบ่ายเขาจะมารับแล้วนะ ” แม่พูดก่อนจะหันไปบอกลู่หานที่นั่งเงียบอยู่

     

    “ เสียดายจัง พวกเราว่าจะชวนลู่หานออกไปเดินเล่นที่สวนของหมู่บ้านสักหน่อย สงสัยเราคงต้องนั่งพูดกันไปเรื่อย ๆ ที่บ้านแล้วล่ะ ” จงแดบอกด้วยสีหน้าที่ดูเสียดายไม่น้อย

     

    “ ไม่เป็นไรหรอก หลังจากนี้ก็เก็บความทรงจำระหว่างเรากับลู่หานไว้ให้นานที่สุดนะ ” มินซอกบอก

     

    มินซอกมองหน้าลู่หานอย่างเศร้า ๆ ลู่หานหน้ามินซอกด้วยสายตาที่บ่งบอกอารมณ์มากมาย มินซอกแปลกใจสายตาที่ลู่หานส่งมา มันช่างเต็มไปด้วยความหมาย มันไม่เหมือนกับสายตาของคนที่มีปัญหาทางสมองเลยสักนิด มินซอกหลบสายตามองไปทางอื่น ก่อนจะหันมามองลู่หานอีกครั้ง สายตาของลู่หานก็ยังคงเหมือนเดิม มินซอกเริ่มสับสน แต่แล้วเขาควรจะทำอย่างที่เขาบอกเพื่อไม่ให้สายตาที่ดูเศร้าแบบนั้นของลู่หานยังอยู่กับเขาในตอนที่ต้องจากกัน

     

    อาหารบนโต๊ะอาหารถูกเก็บไปกองที่อ่างล้าง ตอนนี้ทั้งสี่คนมานั่งที่โซฟาเพื่อเล่นเกมส์กัน จงแดเป็นคนเริ่มเล่นเกมส์กับแบคฮยอน พวกเขานั่งอยู่ข้างล่าง ส่วนมินซอกกับลู่หานก็นั่งอยู่บนโซฟาคอยเชียร์สองคนนั้น

     

    “ อย่าเล่นโกงดิวะ แบคฮยอน ” << จงแด

     

    “ ใครโกง นายต่างหากล่ะ ” << แบคฮยอน

     

    “ ไม่ต้องเลย ฉันเห็นนะ มินซอกนายแอบช่วยแบคฮยอนหรอ ” << จงแด

     

    “ ฉันเปล่านะ นายนี่มั่วจริง ๆ เลย ” << มินซอก

     

    ทั้งสี่คนหัวเราะและสนุกไปกับการเล่นเกมส์ ผลัดกันเล่นบ้างระหว่างจงแด มินซอก และแบคฮยอน ลู่หานที่นั่งมองพวกเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นและเดินออกมา เขาเดินมาหาแม่ที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะอาหาร ลู่หานกอดแม่เอาไว้จากด้านหลัง จนแม่ตกใจ

     

    “ อ่ะ... โอเคคะ คะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ” แล้วแม่ก็กดวางสายก่อนจะจับแขนลู่หานที่โอบกอดแม่เอาไว้

     

    “ ทำไมถึงไม่บอกแม่ล่ะ ว่าลูกหายแล้ว ” แม่พูดขึ้น

     

    “ ผมโดนเปลี่ยนสถานที่ที่ต้องเข้ารับการรักษาใช่ไหมครับ ” ลู่หานถาม ตอนนี้แม่ไม่แปลกใจแล้วที่ลู่หานพูดเหมือนคนปกติ แม่จับแขนลู่หานเอาไว้

     

    “ ลู่หาน ลูกจะโดนส่งตัวไปรักษากับจิตแพทย์ที่นั่น ” ลู่หานนิ่งเงียบไป ก่อนจะคลายกอดจากแม่และยืนขึ้น แม่หันมามองหน้าลู่หานและยืนขึ้น จับใบหน้าลูกชายของคนอื่นเธอที่เธอเลี้ยงมาแล้วยิ้ม

     

    “ แม่ดีใจนะ ที่ลูกไม่ได้มีปัญหาทางสมอง แต่แม่เสียใจที่ลูกเลือกที่จะบอกแม่ช้าไปนะ... ” ลู่หานมองหน้าแม่ของมินซอก ก่อนจะค่อย ๆ เช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มแม่อย่างเบามือ

     

    “ ผมขอโทษครับ... ” ลู่หานพูดไม่ออก ถ้าเขาไม่บอกแม่เร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่ถูกส่งตัวไปเมืองนอก ทำไมลู่หานถึงได้โง่แบบนี้นะ

     

    “ แม่ยกเลิกการส่งตัวผมไปลอนดอนไม่ได้หรอครับ ”

     

    “ ทางโรงพยาบาลบอกว่า เขาต้องการจะเช็คร่างกายของลูกให้ละเอียด และอาการทางจิตมันค่อนข้างน่าเป็นห่วง แม่ไม่รู้ว่าลูกมีอาการทางจิตมากน้อยแค่ไหน แต่มันก็มากพอ ที่ทำให้ทั้งแม่และมินซอกเชื่อสนิทใจว่าลูกมีปัญหาทางด้านสมอง ”

     

    “ ผมไม่ได้ป่วยทางจิตนะครับ ผมแค่... แค่.. อยากอยู่กับทุกคน อยากอยู่กับแม่ อยากอยู่กับมินซอก อยากอยู่จงแด และก็แบคฮยอนด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องทำตัวแบบไหน เพื่อให้ผมยังได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ ” ลู่หานบอก แม่ยิ่งน้ำตาไหล เพราะเหตุผลโง่ของลูกคนนี้ มันช่างโง่เขลายิ่งนัก

     

    “ โถ่... แล้วทำไมไม่บอกความจริงแม่ล่ะ ถ้าลูกอยากอยู่ที่นี่ ลูกก็อยู่ได้ แม่ไม่ทิ้งลูกหรอก ”

     

    “ ทำไมผมจะไม่รู้ครับ ลำพังแค่แม่เลี้ยงมินซอกก็เหนื่อยมากแล้ว ผมยังทำตัวเป็นภาระให้อีก ผมกลัวนี่ครับ ผมกลัวว่าถ้าผมไม่ได้เป็นเด็กปัญญาอ่อน แล้วแม่ก็จะไม่ให้ผมอยู่ที่นี่ ” แม่น้ำตาไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอกอดลู่หานเอาไว้

     

    แม่รู้แล้วว่าทำไมทางโรงพยาบาลต้องการที่จะให้ลู่หานเข้ารับการรักษาทางจิต เพราะการเรียนรู้ที่ตัวเธอเองส่งลู่หานไปเรียนมันไมได้พัฒนาสมองของเขาอย่างเต็มที่ และการอยู่กับมินซอกที่ทำท่ารังเกียจลู่หานอย่างแรง แต่เขาเพิ่งจะมาทำดีด้วย ยิ่งทำให้ลู่หานมีความคิดที่ยังเป็นเด็กแบบนี้ เธอคิดดีแล้วล่ะ ที่ส่งลู่หานไปให้กับครอบครัวใหม่ที่ดีกว่า มันคงจะทำให้ลู่หานเติบโตและมีอนาคตที่ดีกว่าแน่นอน

     

    “ แม่... ” มินซอกเรียกแม่ของเขา แม่รีบเช็ดน้ำตาออก และคลายกอดลู่หาน

     

    “ แม่แค่... ใจหายน่ะ ที่ต้องส่งลู่หานไปลอนดอน ลูกมีอะไรอยากคุยกับลู่หานไหม เดี๋ยวแม่จะไปหน้าบ้านสักหน่อย เขาบอกว่าจะมารับลู่หานแล้ว ”

     

    “ แต่นี่ยังไม่บ่ายเลยนะครับ ” มินซอกแย้ง

     

    “ พอดีเขาโทรมาเร่งแล้วล่ะ เดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ ” แม่พูดจบก็รีบเดินไปที่หน้าบ้านทันที

     

    มินซอกมองตามแม่ของเขาอย่างเป็นห่วง แต่ตอนนี้เขาควรจะเก็บความทรงจำกับลู่หานไว้สินะ

     

    “ ลู่หาน นายอยากได้อะไรจากฉันอีกไหม นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่นายจะได้ขอให้ฉันทำอะไรเพื่อนายแล้วนะ ” มินซอกพูดขึ้นและยิ้ม

     

    ลู่หานค่อย ๆ หันหน้ามามองมินซอกและค่อย ๆ เดินเข้ามากอดมินซอกเอาไว้แน่น ๆ มินซอกก็กอดเขาตอบอย่างเต็มใจ ความชื้นที่เกิดขึ้นตรงไหล่ทำให้มินซอกรู้ว่าลู่หานกำลังร้องไห้ เสียงสะอื้นของลู่หานทำให้มินซอกไม่สบายใจ ลู่หานไม่เคยร้องไห้ให้มินซอกเห็นเลยตั้งแต่เขาเจอกับลู่หาน

     

    “ มินซอก... ฮึก... ฉันขอโทษนะ... ฉันไม่ต้องการอะไรจากนายแล้วล่ะ.. ฮึก.. สิ่งที่ต้องการคือการขอให้นายรั้งฉันเอาไว้และให้อภัยฉันเรื่องเมื่อคืนและทุกเรื่อง.. ฮึก.. ได้ไหม... ” เสียงพูดของลู่หาน ทำให้มินซอกอึ้งจนทำอะไรไม่ออก

     

    มินซอกค่อย ๆ ประมวลผล คำพูด ถ้อยคำต่าง ๆ เมื่อกี้ มันไม่เหมือนกับคำพูดของเด็กปัญญาอ่อนเขาจะพูดกันเลย ลู่หานเป็นอะไรไปแล้วหรอ ทำไมเขาถึงพูดอย่างนี้ แล้วเรื่องเมื่อคืน เรื่องเมื่อคืนนั่น... เขาไม่ได้ฝันอย่างนั้นหรอ

     

    “ ลู่หาน... นายพูดอะไร... ฉันไม่เข้าใจ ” มินซอกบอก ลู่หานคลายกอดจากมินซอกและมองหน้ามินซอกทั้งน้ำตา

     

    “ นายเป็นของฉันนะมินซอก นายเป็นของฉันแล้ว ฉันขอโทษ ที่ฉันโกหกนาย แต่ที่ฉันทำไปทั้งหมดนั่นก็เพราะ... ฉันรักนายนะ ” ลู่หานพูดจบ มินซอกยิ่งอึ้งหนักเขาไปอีก

     

    “ อะไรนะ... นาย... นายโกหกฉันมาตลอด... อย่างนั้นหรอ... ” มินซอกเริ่มตั้งสติได้ และค่อย ๆ เดินถอยจากลู่หาน

     

    “ ฉันขอโทษ... ” ลู่หานเดินเข้ามาหาแต่ว่า

     

    “ หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!!! ” มินซอกตะโกนออกมา และถอยห่างจากลู่หานมากขึ้นเรื่อย ๆ

     

    “ มินซอก... ”

     

    “ รีบออกไปจากบ้านฉันเลยนะ ”

     

    “ มินซอก... ”

     

    “ ฉันบอกให้รีบออกไปไง!!!! ” เสียงของมินซอกทำให้จงแดและแบคฮยอนเดินเข้ามาดูเหตุการณ์

     

    “ เกิดอะไรขึ้นหรอมินซอก ” จงแดถาม

     

    “ ... ” มินซอกไม่ตอบ จงแดหันไปมองลู่หานอย่างงุนงง ลู่หานก็พูดไม่ออกเหมือนกัน

     

    ความจริงเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามินซอกต้องเป็นแบบนี้ เขาอยากจะขอให้พระเจ้าเข้าข้างเขาสักครั้งจัง อยากให้เขาสามารถย้อนเวลากลับไป และบอกความจริงให้แม่กับมินซอกรู้ก่อนที่เขาจะโดนเกลียดไปมากกว่านี้

     

    “ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ลู่หาน บอกฉันได้ไหม ” แบคฮยอนหันไปถามลู่หาน

     

    “ มันโกหกเรา... มันโกหกทุกคน ” มินซอกที่จ้องลู่หานจนน้ำตาไหล ลู่หานยืนนิ่งมองหน้ามินซอกอย่างเสียใจ

     

    “ มินซอก... ฉันขอโทษนะ... ”

     

    “ หุบปากไปเลยนะ!!! รู้ใช่ไหมว่าฉันเกลียดอะไรมากที่สุด ” มินซอกพูดไปน้ำตาไหลไป

     

    “ มินซอก.. ”

     

    “ การโกหก... ฉันเกลียดการโกหกที่สุดเลย... ”

     

    ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จงแดและแบคฮยอนเข้าใจแล้วว่าทำไมมินซอกถึงได้โกรธจนตัวสั่นแบบนี้ เพราะลู่หานโกหกว่าเขามีปัญหาทางสมองนี่เอง จงแดจับแขนมินซอกไว้เพื่อให้เขาใจเย็น ๆ มินซอกยังคงจ้องหน้าลู่หานอย่างไม่ละสายตา ลู่หานทำได้แค่เพียงก้มหน้ายอมรับความผิดของเขา

     

    “ รถมารับลู่หานแล้วนะ ” เสียงแม่บอกกับทุกคน ลู่หานได้ยิน เลยเข้าไปกอดมินซอกเอาไว้

     

    “ ปล่อยฉันนะ!! ” มินซอกพยายามดิ้น

     

    “ ลู่หาน นายจะทำอะไรน่ะ ”  จงแดและแบคฮยอนยืนงงอยู่แต่ก็พยายามช่วยกันแกะลู่หานออกจากตัวมินซอก

     

    “ ฉันขอโทษนะมินซอก ฉันไม่อยากไปจากนายจริง ๆ ฉันรักนายนะมินซอก ได้โปรด... ” ลู่หานบอก

     

    “ ไม่!! ฉันเกลียดนาย!! ได้ยินไหม!! ฉันเกลียดนาย!! ” มินซอกตะโกนและผลักลู่หานออกจากตัวอย่างแรงจนลู่หานล้มไป เจ้าหน้าที่ที่มารับตัวลู่หานเข้ามาเห็นพอดี เขารีบเข้าไปจับตัวลู่หานเอาไว้ และมัดตัวลู่หานทันที

     

    “ ปล่อยผมนะ!! ผมไม่ไปไหนทั้งไหน!! ผมไม่ได้เป็นอะไรเลย!! ปล่อยผมนะ!! ” ลู่หานร้องโวยวายและพยายามดิ้น

     

    “ อย่ารุนแรงกับเด็กนักสิคะ!! ” แม่ร้องออกมาทันทีที่เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่

     

    “ เด็กมีอาการคุ้มคลั่งรุนแรง เราต้องมัดตัวเขาไว้ครับ ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอก

     

    “ ผมไมได้เป็นอะไรทั้งนั้น ผมไม่ได้ปัญญาอ่อน และผมก็ไม่ได้บ้าด้วย!! ” ลู่หานบอกและพยายามดิ้นต่อไป

     

    “ ลู่หาน ลูกไปเถอะนะ แม่ขอร้อง ” แม่บอก

     

    “ แม่ครับ... ผมไม่อยากไปไหนทั้งนั้น ผมอยากอยู่กับแม่แล้วก็มินซอกนะครับ ” ลู่หานบอก

     

    “ ลู่หาน ลูกต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่ ๆ ลูกไปอยู่ที่ลอนดอน เถอะนะ ” แม่บอก

     

    “ ไม่!! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ปล่อยผมนะ!! ปล่อยผมนะ ปล่อยผม!! ” ลู่หานร้องโวยวายและพยายามดิ้น จนเจ้าหน้าที่ที่คุมตัวเขาไว้ไม่ไหว เจ้าหน้าที่อีกคนจึงต้องรีบวิ่งไปเอากล่องยาที่รถและทำการฉีดยาสลบให้ลู่หาน

     

    “ ไม่นะ!!! ไม่!!!!! ปล่อยผมนะ!!! ” ลู่หานโวยวายเป้นครั้งสุดท้ายก่อนจะค่อย ๆ อ่อนแรงลงเพราะฤทธิ์ยาสลบ

     

    “ มินซอก... อย่า... เกลียด... ฉัน... เลย... นะ... ” เสียงที่แผ่วเบาลงเรื่อย ๆ และดวงตาที่ปิดสนิทของลู่หาน ทำให้เจ้าหน้าที่รีบอุ้มตัวเขาและพาไปที่รถทันที มินซอกมองตามลู่หานไปและวิ่งออกไปดู พร้อมกับจงแดและแบคฮยอน

     

    “ ถ้าพวกเรามาไม่ทัน ลูกของคุณคงจะอาละวาดมากกว่านี้แน่ ๆ ”  เจ้าหน้าที่บอกกับแม่ของมินซอก

     

    “ ที่จริง... เขาไมได้มีอาการรุนแรงอะไรเลยนะคะ ”

     

    “ อาการของเขาเดี๋ยวเราจะส่งผลตรวจมาให้นะครับ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วก็ ถ้าลูกชายของคุณอาการดีขึ้นเมื่อไหร่ เราจะส่งให้กับมิสเตอร์โรนัลทันทีเลยนะครับ ”

     

    “ คะ ขอบคุณมากนะคะ ”

     

    พูดจบ เจ้าหน้าที่ที่เหลือก็เก็บกระเป๋าของลู่หานไว้ที่รถและขับรถออกไปทันที มินซอกมองตามรถที่ขับออกไปจนลับตาก่อนจะวิ่งเข้าห้องทันที จนจงแดและแบคฮยอนได้แต่ยืนนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก

     

    “ แม่ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้งานเลี้ยงมันดูไม่ดีเท่าไหร่ ” แม่บอก

     

    “ ไม่เป็นไรครับ ลู่หานก็ทำเกินไป ” จงแดบอกด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี

     

    “ เป็นความผิดของแม่เอง ที่เลี้ยงลู่หานได้ไม่ดี ต่อไปนี้เขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้วล่ะ จะอยู่ทานข้าวเย็นกับมินซอกไหม ” แม่ถาม

     

    “ ไม่ดีกว่าครับ พวกเราคิดว่ามินซอกคงอยากอยู่คนเดียวมากกว่า งั้นพวกเราขอตัวนะครับ ” แบคฮยอนบอก ก่อนที่จงแดและแบคฮยอนจะโค้งลาแม่ของมินซอกและเดินกลับบ้านไป

     

    แม่เดินเข้าบ้านก่อนจะค่อย ๆ เดินไปหามินซอกที่ห้องเคาะเรียกมินซอกสองสามที มินซอกก็ยังไม่ยอมเปิดประตูให้แม่เข้าไป

     

    “ มินซอก... ลูกอย่าเกลียดลู่หานเลยนะ ยังไงซะ เขาก็โชคร้ายกว่าเราอยู่ดี ปล่อยให้เขาไปมีชีวิตของเขาเถอะนะ ให้อภัยเขาเถอะนะลูก ” เสียงของแม่ลอดผ่านประตูไป มินซอกนอนร้องไห้บนเตียง เขายังคงทำใจยอมรับไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดมันเป็นเรื่องจริง

     

    มินซอกนอนคิดหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเขา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขารู้จักลู่หาน และจนถึงตอนนี้ที่เขารู้จัก มันทำให้เขาทั้งโกรธและหงุดหงิดที่ตัวเองเป็นได้มากขนาดนี้ เขาไม่เคยคิดว่าการโดนหักหลังมันจะเจ็บมากมายขนาดนี้ ครั้งแรกที่เจอลู่หาน เขาคิดแค่ว่าต้องอยู่ให้ห่างจากลู่หานที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมารับภาระดูแลลู่หาน แต่หลังจากที่เขารู้ความจริงจากแม่ว่าลู่หานเป็นยังไง เขาก็เริ่มเข้าหาลู่หานแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำให้มินซอกมีความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นในทางบวกกับลู่หานมาก และความรู้สึกนั้นมันเหมือนกับเป็นความรู้สึกที่เรียกว่ารัก มินซอกไม่เคยรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้ นี่เขารักลู่หานหรอ ทำไมเขาต้องเสียใจมากมายขนาดนี้ โกหกหรอ ใช่เขาเกลียดคนโกหก แต่ว่า...

     

    “ ฮือออ... ฮึก... ฮือออ... ”

     

    เสียงร้องไห้คงบอกให้มินซอกรู้แล้วว่า เขารักลู่หาน และไม่อยากให้ลู่หานไป แต่การโกหกของลู่หานก็ทำให้เขาเสียใจมากเหมือนกัน มินซอกไม่รู้จะทำอะไรได้แล้ว นอกจากร้องไห้และปล่อยให้เวลาช่วยนำพาเขาไปจากความเสียใจนี้

     

    ฉันรักนาย... ฮึก... แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นหน้านาย... ฮึก... ทำไมฉันต้องเป็นแบบนี้... ฮือ... ”

     

     

     

     

    TBC…

     

     

    ไรท์ทอล์ค : อะไรจะไวขนาดนี้ แต่งเสร็จมาอัพเลย โทษฐานที่หายไปเกินหนึ่งเดือน 55555 ทำไมตอนที่แล้วเรารู้สึกว่า ทำผิดร้ายแรงเลย ขอโทษที่พี่ลู่โกหกนะคะ เอาซะเนียนเลย (ได้ข่าวว่าแต่งเองนะย่ะ) ตอนนี้ก็ลงโทษพี่ลู่ไปแล้วคะ นางไปแล้วคะ แต่ทิ้งพี่หมินให้เศร้าอยู่คนเดียว ต่อตอนไป ไรท์ขอไปเรียงลำดับก่อนนะคะ อาจจะหายไปอีกแล้ว พอดีก็วางพล็อตและด้นสด เลยกลายมาหักดิบพี่ลู่แบบนี้ รู้สึกว่าเรื่องไม่เป็นอย่างที่วางเอาไว้ เอาเป็นว่า สนุกไม่สนุกยังไงก็บอกด้วยนะคะ



    themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×