ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Love Gray รักสีเทา l LUMIN CHANSOO KRISHO

    ลำดับตอนที่ #1 : Love Gray :: Character + Intro

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 59


    Character





















    ----------------------------

    Intro…

     

    นิยามของความรักมักเกิดขึ้นมาให้เฉพาะเจาะจงกับบุคคลที่มีรูปแบบการใช้ชีวิต

    และการพบปะผู้คนที่แตกต่างกันไป

    ความรักคืออะไรหรอ

    มันอยู่ที่ว่า

    ตัวบุคคลนั้นมีมุมมองการใช้ชีวิตแบบไหน พบเจอบุคคลอย่างไร

    และรู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่าความรักนั้นอย่างไรต่างหาก

     

    .

    .

     

    การใช้ชีวิตของชายหนุ่มที่ผ่านความตายมานั้น มันก็ไม่ต่างจากนกฟินิกส์ที่เผาตัวเองให้ตายไปและเกิดใหม่จากขี้เถ้าถ่าน สำหรับชายหนุ่มที่เคยโด่งดังและมีชื่อเสียงเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้เขาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วเพียงแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปมากเลยนั้นก็คือ

     

    “นี่ตีนกากูขึ้นขนาดนี้เลยหรอวะ”

     

    ลู่หาน ชายหนุ่มที่เปิดบทสนทนาในเช้าวันหนึ่งของช่วงชีวิตในห้องน้ำอย่างหงุดหงิด เขากำลังสำรวจตัวเองเพื่อที่จะออกไปทำงานของเขา

     

    “ก็ใช่ไง มึงอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ล่ะ จะบ่นหาพระแสงอาทิตย์ทำไมครับ หื้ม?”

     

    เสียงบ่นที่ดังผ่านประตูห้องน้ำออกมานั้น ทำให้ลู่หานชักสีหน้าเล็กน้อยกับปฏิกิริยาตอบรับที่ค่อนข้างแย่ของผู้จัดการส่วนตัวของเขาอย่าง คิม จงอิน

     

    “ปลอบใจกูบ้างก็ได้นะครับ กูแค่อยากเรียกความมั่นใจกลับมาว่า ที่กูได้เล่นละครอีกครั้งในรอบสองปีนี้ หน้ากูยังเต่งตึงไร้รอยตีนกาอยู่น่ะ”

     

    “บทมึงก็ไม่ใช่พระเอกนี่ จะห่วงอะไรมากมาย ตอนนี้มึงตกยุคไปแล้วล่ะ ทำใจซะเถอะ”

     

    จงอินเดินเข้ามาให้ห้องน้ำแล้วตบบ่าให้กำลังลู่หานแบบง่ายๆ ก่อนจะเดินออกไป ลู่หานมองแผ่นหลังของผู้จัดการเขาผ่านกระจกที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม เมื่อจงอินเดินเกาบั้นท้ายออกไปอย่างสบายอารมณ์

     

    “สงสัยต้องหาผู้จัดการใหม่ที่รู้จักพูดปลอบใจเก่ง ๆ แล้วล่ะ”

     

    .

    .

     

    กริ๊งงงงง.......

     

    เสียงกริ่ง ณ บ้านพักหลังหนึ่งดังขึ้น หมอหนุ่มผู้ที่ยังคงสวมชุดกาวน์สีขาวสะอาดของโรงพยาบาลชื่อดังของกรุงโซลผงกหัวขึ้นมาอย่างตกใจ คิม มินซอก  คือชื่อที่ติดอยู่ตรงป้ายหน้าอกข้างซ้ายของเขา หมอหนุ่มเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นเสียงกริ่งหน้าบ้านที่ติดตั้งไว้ตรงประตู ก่อนล้มตัวลงนอนต่อเพราะเขาเพิ่งจะได้นอนไปไม่กี่นาทีนี้เอง

     

    กริ๊งงงงง.....

     

    เสียงกริ่งยังคงดังไม่หยุด ช่วงเช้าอากาศสบาย ๆ น่านอนแบบนี้ ยังจะมีคนมาหาอีกหรอ ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วจัดการเอาหมอนอีกอันมาปิดหูของเขาเอาไว้ คิดว่าคงเป็นคนขายอาหารเช้าตามบ้านมากดกริ่งเรียกลูกค้าแน่ ๆ คิม มินซอกคนนี้จะไม่ลุกไปไหนเด็ดขาด

     

    กริ๊งงงงง.....

     

    เสียงกริ่งยังดังต่อเนื่องไม่มีหยุด เห็นทีหมอหนุ่มคงต้องจัดการไล่คนพวกนี้ไปให้พ้นสักที เพราะมันรบกวนการนอนของเขาเป็นอย่างมาก ถ้าวันนี้เขาไม่ได้เข้าเวรดึกและเพิ่งกลับมาแบบนี้ เช้าวันนี้เขาอาจจะเดินงัวเงียไปเปิดประตูให้แบบงง ๆ ก็ได้

     

    โคร้ม!!!

     

    เสียงล้มลงกับพื้นของหมอหนุ่มนั้นเกิดจากการที่เขารีบลุกจากเตียงทันที แต่เพราะผ้าห่มผืนบางที่พันขาเขาไว้นั้นทำให้เขาเสียหลักล้มลงไป เสียงโอดครวญของเขานั้นดังขึ้นไม่ถึงห้าวินาที ก่อนที่สองขาเล็กคู่นั้นจะเดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านและเดินไปยังหน้าประตูรั้วบ้านที่เขาอยู่

     

    อรุณสวัสดิ์ครับ...

     

    เสียงทุ้มต่ำที่ฟังแล้วเหมือนกับดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเลนั้น ทำให้หมอหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มผู้มาเยือนที่สูงกว่าเขาไปประมาณยี่สิบเซนติเมตรได้ เขารู้สึกแสบตากับแสงแดดที่ส่องผ่านติ่งหูของชายผู้มาเยือน หมอหนุ่มมองเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ก่อนจะได้ยินเสียงของเพื่อนร่วมบ้านดังขึ้นจากข้างหลัง

     

    มาแล้วหรอครับ คุณอู๋ อี้ฟาน เชิญข้างในเลยครับ

     

    แล้วชายผู้มาเยือนคนนั้นก็เดินผ่านหน้าเขาไปและเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับปาร์ค ชานยอล ผู้ร่วมอาศัยกับเขาในบ้านหลังนี้

     

    เดี๋ยวคุณเซ็นเอกสารตรงนี้ได้เลยครับ เจ้าของบ้านเขาให้ผมมาจัดการเรื่องของคุณแทนเสียงชานยอลกำลังอธิบายบางอย่างเกี่ยวกับเอกสารให้ผู้ชายที่ชื่ออู๋ อี้ฟานฟัง มินซอกเดินมานั่งข้าง ๆ ชานยอลอย่างเงียบ ๆ

     

    ใครอ่ะมินซอกกระซิบถามชานยอล

     

    อ๋อ... ผมลืมบอกคนนี้ชื่อคุณอู๋ อี้ฟาน เขาเพิ่งมาจากจีนจะย้ายมาอยู่กับเรา พอดีจงแดบอกผมไว้แล้วล่ะ ว่าจะมีคนย้ายเข้ามาวันนี้ แต่ว่ากว่าพี่จะกลับก็เช้านี่ ผมเลยไม่ได้บอกชานยอลบอก

     

    อ๋อ...มินซอกพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะมองดูอู๋ อี้ฟานที่กำลังเซ็นชื่อลงบนสัญญาเช่าบ้านที่ชานยอลยื่นให้ เมื่อเขาเซ็นเสร็จ ทั้งสองก็สบตากันอย่างบังเอิญ จนมินซอกต้องหลบตามองไปทางอื่น

     

    สวัสดีทุกคนอย่างเป็นทางการนะครับ ผมอู๋ อี้ฟาน เป็นนักดนตรีอิสระครับ พอดีว่าผมเพิ่งมาจากจีนเพื่อมาหาแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงใหม่น่ะ เออ... แต่ที่จริงก็มาพักผ่อนด้วยน่ะครับอี้ฟานบอก เขาโค้งหัวทั้งสองคนเล็กน้อย

     

    สวัสดีครับ ผมปาร์ค ชานยอล เป็นช่างซ่อมรถ ส่วนนี่...

     

    คิม มินซอกครับ เป็นหมออายุกรรมทั่วไปครับมินซอกบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย อี้ฟานเหมือนขยับปากเรียกชื่อของทั้งสองคนเบา ๆ แล้วยิ้มให้

     

    ถ้าอย่างนั้นเรามาฟังกฎการอยู่ร่วมกันสักหน่อยไหมครับชานยอลพูดขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้มาใหม่ต้องอึดอัดกับการต้อนรับที่ดูแย่สักหน่อยจากมินซอก

     

    กฎอะไรหรอครับอี้ฟานถาม

     

    คนเราเมื่ออยู่ร่วมกันก็ต้องมีกฎเอาไว้ เพื่อที่เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติครับมินซอกบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

     

     อ๋อ มีกฎว่าอย่างไรล่ะครับอี้ฟานบอกแล้วยิ้มให้

     

    เราจะมีเวรทำอาหารเช้ากันทุกวันครับ คุณทำอาหารเป็นหรือเปล่าครับชานยอลถามอย่างสงสัย

     

    อ๋อ ผมทำอาหารเป็นบ้างนิดหน่อยครับอี้ฟานถาม ชานยอลหันไปมองมินซอกที่นั่งเชิดปากเล็กน้อยๆ อยู่ข้างๆ มินซอกยืดตัวขึ้นเล็กน้อย

     

    คุณทำอาหารเป็นกี่อย่างมินซอกถาม

     

    ก็อาหารง่าย ๆ สไตล์คนยุโปอเมริกาพวกคุณกินได้ใช่ไหมครับ” อี้ฟานถามมินซอก มินซอกพยักหน้าเล็กน้อยให้

     

    “พวกคุณจัดเวรมาให้ผมเลยแล้วกันนะครับ ผมขอตัวขึ้นห้องก่อน พอดีว่า ผมเหนียวตัวนิดหน่อย ยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับอี้ฟานบอก ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบนทันที

     

    มินซอกมองหน้าชานยอล สลับกับอี้ฟานที่เดินขึ้นไปข้างบน ก่อนจะมองหน้าชานยอลเพื่อหาคำตอบกับเรื่องนี้

     

    ฉันสงสัยชานยอล

     

    ว่า?”

     

    เป็นคนจีน แต่พูดเกาหลีได้

     

    เขาก็อาจจะเรียนมาก็ได้มั้ง

     

    เป็นนักดนตรีอิสระ คงไม่ชอบเล่นดนตรีตอนกลางคืนใช่ไหม

     

    ตอนกลางคืนใคร ๆ เขาก็หลับกันทั้งนั้นแหละ

     

    หมอนั่น... ไม่ใช่พวกผีดิบใช่ไหม

     

    โอ๊ย!! พี่มินซอก เรียนหมอมา ถามอะไรแต่ละอย่างเนี่ย เด็กอนุบาลยังตอบได้เลย ผมไปอาบน้ำล่ะ สายแล้วเนี่ยชานยอลมองหน้ามินซอกแบบ อะไรของพี่เนี่ย แล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้

     

    เออะ! วันนี้พี่ไปทำงานกี่โมงอ่ะ

     

    วันนี้ฉันว่าจะเข้าบ่าย ทำไมหรอ

     

    ตอนกลางวันฝากซื้ออาหารให้เจ้าไคมันด้วยสิ ผมขี้เกียจไปแถวโรงบาลพี่อ่ะ ฝากด้วยนะ

     

    พูดจบ ชานยอลก็เดินเกาบั้นท้ายขึ้นไปข้างบนอีกคน มินซอกเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า แล้วเงินที่จะให้ไปซื้ออาหารเจ้าไคล่ะ มันอยู่ที่ไหน ตอนที่ชานยอลปิดประตูห้องลงแล้ว มินซอกนั่งมองหน้าสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนที่ยืนลิ้นห้อยอยู่ในบ้านของมัน ชานยอลมันจะโหดไปไหนวะ ขนาดหมามันยังเลี้ยงพันธุ์หน้าเหมือนมันอีก

     

    มินซอกตัดสินใจลุกขึ้นไปข้างบน ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงนอนของตัวเองที่เพิ่งจะลุกมาเมื่อตอนสิบห้านาทีที่แล้ว ความง่วงทำให้มินซอกจมดิ่งลงไปในโลกของตัวเองอย่างรวดเร็ว วันนี้ขอนอนไปจนกว่าจะถึงบ่ายเลยแล้วกันนะ ไม่ไหวจริง ๆ

     

    .

    .

     

    “เพราะมึงนั่นแหละ ที่บอกว่าจะแวะไปให้ยัยจอง ซูจองแต่งหน้าลบตีนกาให้ เป็นไงล่ะมาสายจนเขายกกองเลย กูบอกแล้วใช่ไหมว่ารถจากโซลมาแดกู ถ้าไม่มาก่อนเจ็ดโมงก็ไม่มีทางที่จะมาถึงภายในสองชั่วโมงได้หรอก ไอ้ห่าน

     

    เสียงบ่นนี้ยังดังอยู่ข้าง ๆ หูลู่หาน นิสัยกัดเล็บตอนนี้ของเขาถูกดึงมาใช้อย่างไม่รู้ตัวตอนนี้ลู่หานกำลังเครียดที่ผู้กำกับบอกเลิกกองเพราะแสงแดดในช่วงเวลานี้มันไม่ได้แล้ว เขาต้องการแสงแดดช่วงเช้ากว่านี้ แต่นี้มันปาเข้าไปจะสิบโมงแล้วที่ลู่หานมาถึงกองถ่ายที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ลู่หานโทรมาบอกผู้กำกับแล้วว่าเขาอาจจะไปสายหน่อย แต่เพราะว่าการนั่งรถเดินทางไกล ๆ ที่น่าหลับใหลนั้น ทำให้ลู่หานก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งลงจากรถตู้มาแล้วเห็นแต่ความว่างเปล่าของสถานที่ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วพบว่า ยี่สิบกว่าสายที่ไม่ได้รับ

     

    มึงเลิกบ่นสักทีเถอะ กูเป็นนักแสดงในสังกัดมึงนะ ไม่ใช่ลูกทาส บ่นจนขี้หูกูอยู่ไม่สุขแล้วเนี่ยลู่หานหงุดหงิด เขาโทรหาผู้กับกำตลอดตั้งแต่นั่งรถกลับ แต่เขาไม่ยอมรับสายสักที ลู่หานเองก็กลัวเหมือนกันว่าเขาจะโดนปลดกลางอากาศไหม

     

    ช่างมันเถอะ มึงคงมาได้ไกลแค่นี้ล่ะลู่หาน กูดันมึงไม่ขึ้นจริง ๆ วะ อายุใกล้เลขสามเข้าไปทุกที ไม่ใช่สิ ปีหน้ามึงก็สามสิบแล้วป่ะวะ

     

    หยุดพูดเรื่องอายุและการตกอับของกู ยังไงกูก็ไม่ยอมเป็นดาวค้างฟ้าที่แสงหมด เพราะมันเฉิดฉายอยู่นานจนเกือบหมดอายุขัยหรอกวะ กูจะต้องดังกว่านี้ มึงก็ช่วยสร้างข่าวและกระพือข่าวให้กูด้วยสิวะ เป็นผู้จัดการห่าอะไรไม่ดันเด็กในสังกัดตัวเองเยอะ ๆ วะ

     

    กลายเป็นว่าตอนนี้ลู่หานบ่นแทนส่วนจงอินเป็นคนฟัง แต่ไม่นานรถก็แล่นเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง จงอินพาลู่หานมาส่งที่บ้านก่อนที่เขาจะไปที่บริษัทต่อ ลู่หานทิ้งตัวลงโซฟาหรูที่อยู่ในบ้านของเขา ก่อนจะคิดหนักกับชีวิตในวงการเกาหลีของเขา

     

    ลู่หานหนีออกจากบ้านเมื่อเขาเรียนจบมัธยมปลาย พ่อกับแม่ไม่เห็นด้วยกับเขาอย่างมากที่จะส่งเขาไปเรียนที่เกาหลีตามความฝันของเขา มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเป็นไอดอลเกาหลีที่เป็นคนต่างชาติ ลู่หานตัดสินใจแอบเบิกเงินในบัญชีของเขาและมุ่งหน้าสู่แดนโสมโดยที่ไม่สนใจเสียงคัดค้านของพ่อแม่เขา ตอนแรกลู่หานใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก ด้วยภาษาอังกฤษที่พูดได้นิดหน่อยและคนที่นี่ก็ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกัน ทำให้ลู่หานหดหู่ในตอนแรก แต่แล้วเขาก็เจอจงอิน คนที่เขาคิดว่าในชีวิตนี้ยังไงก็จะไม่ทิ้งกันเด็ดขาด เพราะจงอินเป็นเด็กมีปัญหา เขาหนีออกจากบ้านมาเหมือนลู่หาน และมานอนที่สวนสาธารณะเหมือนกัน ถึงแม้จะใช้ภาษามือคุยกันในตอนแรก แต่จงอินก็ใจดีพาลู่หานมาเรียนภาษาเกาหลีที่บ้านเพื่อนของเขาที่เปิดสอนให้คนต่างชาติจนลู่หานสามารถพูดและฟังภาษาเกาหลีได้ดีแถมยังพาเขาไปเข้าเรียนสอบชิงทุนต่างๆ จนเรียนจบมหาลัยได้ พร้อมกับหางานทำเก็บเงินเพื่อเลี้ยงตัวเองและทำตามความฝันของเขาด้วยและเมื่อเวลาผ่านไป ความฝันที่อยากจะมาเดินเฉิดฉายอยู่ในวงการเกาหลีของเขานั้นก็ยังไม่หมด เขาพยายามทุกวิถีทางในการเป็นดาราให้ได้ ทั้งแคชงานตามบริษัทต่างๆ แม้ว่าจะล้มลุกคุกคลานมาบ้างแต่ในที่สุดความฝันของเขาก็เป็นจริง เขาเฉิดฉายอยู่ในวงการได้สองสามปี จนเมื่อสองปีที่แล้วที่เขาโดนทำร้ายร่างกายโดนกลุ่มแฟนคลับที่คลั่งไคล้เขาอย่างบ้าคลั่งที่เรียกว่าซาแซงแฟน จนต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว เขานอนผวาอยู่คนเดียวที่บ้านเกือบปี และเมื่อเขากลับมาในครั้งนี้ ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจเขาน้อยลง เพราะคลื่นลูกใหม่ที่ซัดเข้ามาเรื่อย ๆ จนงานของเขาแทบจะไม่มีในตอนนี้ เหตุผลก็คงจะเป็นอย่างที่เขาปฏิเสธมาตลอดว่า เขาเริ่มตกอับเพราะอายุที่มากขึ้นแล้วนั่นแหละ

     

    Rrrr…..

     

    เสียงโทรศัพท์ทำร้ายความคิดที่ฟุ้งซ่านของลู่หาน เขาหยิบมันมาดู ก่อนจะเห็นว่ามันโชว์เบอร์ที่คุ้นเคย

     

    มีอะไรวะเหล่าเกา

     

    “(ได้ข่าวจากจงอินว่าเฟลเลยจะชวนมาเลื้อย ว่าไงมาป่ะ)

     

    ที่ไหนวะ

     

    “(ที่เดิม)

     

    โอเค งั้นจัดไป

     

    กดวางสายเสร็จ ลู่หานรีบวิ่งขึ้นไปแต่งตัวเพื่อออกไปสังสรรค์ในสถานที่บันเทิงใจกับเพื่อนสนิทชาวจีนคนเดียวของเขาในเกาหลี เรื่องอื่นค่อยคิดต่อวันอื่นแล้วกัน วันนี้ลู่หานขอเอาเรื่องทุกข์ใจทั้งหลายไปทิ้งในน้ำเมาแล้วกัน

     

     

     

     

     

     

    TBC…

     

     

    ไรท์ทอล์ค : เพิ่งจบเรื่องพี่ชายไป เราก็มาต่อกับเรื่องใหม่เลย เลิฟเกรย์ อย่าสับสนนะคะ เรื่องของเรา เลิฟเกรย์คะ ไม่ใช่ เลิฟเกย์ รักสีเทาคะ ไม่ใช่รักน้องเทานะคะ อย่าสับสน เนื้อเรื่องยังวุ่นวายอยู่ เอาเป็นว่าไรท์แต่งคู่ที่ไม่ใช่คู่หลักเลยอาจจะไม่ค่อยมีใครชอบเท่าไหร่ แต่ไรท์ชิปลู่หมินเลยแต่งเป็นคู่หลัก อินโทรมาซะยาวเลย เหมือนเดิม เม้นกันหน่อย สนุกไหม อยากบอกต่อ ติดแท็ก #ficlovegray นะคะ

     

    ทอล์ค2 :  เนื่องจากว่าเรารีไรท์เรื่องนิดหน่อยเพื่อให้เรื่องมันมีเส้นโครงเรื่องมากกว่านี้นะคะ เรากำลังปรับแก้เนื้อเรื่องบางส่วน แต่เนื้อเรื่องต่างๆ ที่ได้ลงไปยังมีอยู่อาจจะมีปรับบ้างนะคะ ยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ไรท์ยุ่งมากช่วงนี้ พยายามปั่นแล้วจริงๆ แต่มันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ฝากแท็ก #ficlovegray ด้วยนะคะ

     
       
    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×