ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : END
    3 วัน            3 วันแล้วครับ ที่เบสไม่พูดกับผม ไม่มาหา  ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นวันหยุดปิดเทอม
อะไรรอบๆตัวผมก็ดูแย่ไปหมด      อึดอัด  ไม่สบายใจ ไม่เข้าใจ  เหงา?  ... ...
จะว่าไงดีล่ะ  ความรู้สึกของผมมันปนเปกันหมด  จนผมแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร
...และไม่รู้ด้วยว่า  สรุปแล้วตัวเองรู้สึกยังไง?
อยากจะเดินเข้าไปถามเบสตรงๆเหมือนกัน  ว่าตกลงเราทะเลาะกันใช่มั๊ย? 
จะว่าไป เบสโกรธเรื่องอะไร ผมก็ยังไม่รู้เลย?  ......
          แต่สิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจผมอยู่ตลอด  ก็คือภาพที่ชะอำวันนั้น  ภาพที่เบสหันหลังให้ผม
แล้วเดินไปกับพี่ชาลีน    เหตุการณ์ตอนนั้น ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆ
แต่มันกลับฝังแน่นในความทรงจำของผม.........สิ่งเดียวที่ผมรู้  ตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงเวลานี้คือ
‘เจ็บ’  และสิ่งที่เพิ่มมาจากวันนั้นคือการรู้สึกเบาโหวงในช่องท้อง  เมื่อเบสไม่ยอมคุยกับผม
  และพอนึกมาถึงตรงนี้ ผมก็ต้องตกใจตัวเองเป็นอย่างมาก  เพราะอยู่ๆน้ำตาผมก็ไหลออกมา
..........นี่เบสมีอิทธิพลกับผมได้มากถึงขนาดนี้เลยเหรอ?   
จนถึงตอนนี้ ผมก็ไม่รออะไรแล้ว อยากจะไปหาเบส  แล้วขอโทษ ขอโทษแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเบสโกรธอะไร
รู้อย่างเดียวว่า  ผมอยากเจอเบส  อยากให้เบสหันมามองผม  และพูดกับผมเหมือนเดิม
..
“น้านิตย์ๆ  เบสล่ะครับ?”
ผมตัดสินใจเข้าไปถามน้านิตย์  เมื่อมาวนเวียนอยู่หน้าบ้านเบสนานแล้ว
ก็ยังไม่เห็นคนที่ผมอยากพบเสียที
“อ้าว! ปั๊มมีอะไรรึเปล่าจ๊ะลูก ...คือ เบสไม่อยู่น่ะ”
“แล้วเบสไปไหนเหรอครับ?”
นี่ก็จะมืดแล้ว  แล้วเบสออกไปไหนนะ?
“เห็นเบสบอกว่า จะไปงานวันเกิดรุ่นพี่ ที่โรงเรียนน่ะ  ชื่ออะไรน้า ...ชาลีน..มั๊งจ๊ะ”
...ผมหายใจกระตุกขึ้นมาอีก  เมื่อได้ยินชื่อนี้  .....เบสไปงานวันเกิดพี่ชาลีนงั้นเหรอ?
คงจะตัดสินใจคบกันแล้วสิท่า  พอได้แฟนแล้วก็ลืมเพื่อนเก่าๆอย่างผมไปเลย
แล้วอย่างนี้ผมจะทำยังไงกับตัวเองดีล่ะ  ผมคงแสดงความยินดีกับเบสไม่ได้
ตราบใดที่เรายังทะเลาะกันอย่างนี้    ............
ยังไงวันนี้ผมก็ต้องคุยกับเบสให้ได้..... ไม่ว่าวันนี้เบสจะกลับดึกขนาดไหนผมก็จะรอ
..
รอ.......................
รอ..................
รอ............
..........................................................................
  นาฬิกาข้อมือของผมส่งสัญญาณบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว  แต่ผมก็ยังนั่งรอเบสอยู่ที่หน้าบ้าน   
แม้จะมืด  แม้จะหนาว  ผมก็จะรอเบสอยู่อย่างนี้    ถึงผมไม่รู้ว่าทำอะไรให้เบสโกรธ 
จนไม่พูดกับผมตั้ง3วัน    แต่ผมก็จะขอโทษเบสให้ได้    และต้องเป็นวันนี้ด้วย
....เพราะเหมือนมีอะไรบอกผมว่า    ถ้าช้ากว่านี้บางอย่างอาจจะสายไป
.
.
.
ผมนั่งรอเบสจนเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้        ตื่นขึ้นมาอีกทีก็รีบดูนาฬิกาบนข้อมือตัวเองว่ากี่โมงแล้ว
ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงรถมอ’ไซด์     
.....รถมอ’ไซด์รุ่นเดียวกับของเบส 
และพอรถคันนั้นมาจอดที่หน้าบ้านเบส  ผมก็แน่ใจทันทีว่า  คนที่อยู่ใต้หมวกกันน็อคสีดำนั้น
เป็นคนที่ผมอยากเจอที่สุดในตอนนี้
“เบส!”
“ปั๊ม!”
ดูเบสจะตกใจมาก  ที่เห็นผมนั่งอยู่หน้าบ้าน 
จนลืมตัวเรียกชื่อผม หลังจาก 3 วันที่ผ่านมา หน้าผมเบสยังไม่มองเลยด้วยซ้ำ
ผมกำลังจะเอ่ยปากขอโทษ  พร้อมกับหวังให้เบสหายโกรธผมโดยเร็วที่สุด
แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร  เบสก็ตรงเข้ามาจับไหล่ผมไว้แล้วเอ่ยเป็นชุด
“ปั๊ม! มานั่งตรงนี้ทำไมน่ะ    แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว!  นั่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่  ดูสิ  ยุงกัดเป็นรอยแดงหมดแล้ว”
เบสเลื่อนมาจับมือเย็นๆ ที่มีรอยแดงๆตามแขน อันเนื่องมาจากการนั่งตากยุงตากน้ำค้าง ของผม
แววตาที่เบสมองมาที่ผมตอนนี้  มันแฝงไปด้วยความร้อนรน ห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด
“เราไม่รู้ว่าเบสโกรธเราเรื่องอะไรนะ  แต่เราขอโทษ  ขอโทษในทุกๆอย่าง”
“โธ่! นี่อยู่รอเราเพื่อจะพูดเรื่องนี้น่ะนะ.......ดูสิตัวเย็นหมดแล้ว”
ตอนนี้มือเบส  เปลี่ยนมาประคองแก้มทั้งสองข้างของผมไว้ 
....ถึงผมจะคิดว่าเป็นการกระทำที่แปลกๆอยู่ซักหน่อย  แต่มือของเบสอุ่นมาก 
อุ่นจนแก้มที่เย็นๆของผมซับสีเลือดขึ้น
หัวใจอันแห้งแล้ง ห่อเหี่ยวของผมตลอด 3 วันที่ผ่านมา  กลับพองโตขึ้นทันที
เพียงแค่ได้รับสายตาอบอุ่น และการกระทำอ่อนโยน ของเบสในตอนนี้
“เบส...เรากลับไปเป็นหมือนเดิมนะ ”
“ไม่!”
ความจริงผมค่อนข้างมั่นใจว่าเบสจะหายโกรธแล้ว 
แต่ผมก็หน้าเสียทันที ที่ได้ยินเบสปฏิเสธเสียงแข็ง      ความรู้สึกเสียใจ แล่นวูบขึ้นมาที่อก
“ปั๊มคิดว่า จนถึงป่านนี้ เรายังจะเป็นเพื่อนกันได้อีกเหรอ?”
คำพูดประโยคต่อมาของเบส ทำผมอึ้ง  น้ำตารื้นอยู่ที่ขอบตา
“ทำไมล่ะเบส    เราทำอะไรผิด เบสบอกมาสิ  ........หรือถ้าเบสจะคบกับพี่ชาลีน ....
เราก็ไม่ว่านะ    จะแสดงความยินดีด้วย....”
บอกเบสออกไปอย่างนั้น    แต่ในใจกลับเจ็บปวด  แถมตรงประโยคสุดท้าย  เสียงก็สั่นอย่างช่วยไม่ได้
...นี่ผมเป็นอะไร.....
‘แหมะ’
น้ำใสๆหยดลงจากตาผม    ผมรีบใช้หลังมือเช็ดออกอย่างรวดเร็ว  แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเบส
ที่จับจ้องมายังผมอยู่ตลอด
“ปั๊ม    รู้ตัวมั๊ยว่า ปากไมตรงกับใจน่ะ”    พอมาถึงตอนนี้ เบสกลับยิ้ม  ดวงตาคู่คมมองมาที่ผมนิ่ง
ทั้งๆที่ผมกำลังเจ็บอยู่ข้างใน เบสก็ยิ้มบ้าขึ้นมา  มันทำให้ความรู้สึกผมพุ่งจี๊ด 
ทั้งๆที่อยากพูดให้เบสสบายใจ        ตอนนี้ผมกลับพูดทุกอย่างที่ผมคิด
“ไม่รู้.......ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ    ไม่ว่าความรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเบสเดินไปกับพี่ชาลีน
ความรู้สึกเบาโหวงตอนที่เบสไม่ยอมพูดด้วย    ความรู้สึกเจ็บร้าวเมื่อเบสทำเย็นชาใส่  แล้วยัง...  อุ๊บ”
.............สัมผัสชุ่มชื้นที่ริมฝีปากตอนนี้ ทำให้ผมหลับตาโดยอัตโนมัติ 
ลิ้นร้อนๆของเบสรุกล้ำเข้ามาในปากของผมโดยไม่ทันตั้งตัว 
ผมรู้สึกเบาราวกับจะลอยได้    สัมผัสนุ่มนวลนี้ทำเอาผมเคลิ้มจนเริ่มไม่มีแรง
อีกทั้งระยะเวลาของมัน  ก็เนิ่นนานจนผมตอบรับปลายลิ้นของผู้รุกรานอย่างติดใจ
ความหวานที่อยู่ในโพรงปาก ทำให้ผมหวั่นไหว  มือก็เกาะเสื้อเบสแน่น
จนเมื่อเบสถอนริมฝีปากออกไปนั่นแหละ จึงทำให้สติ สตางค์ของผมกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อกี๊นี้ผม ‘จูบ’ กับเบสเหรอเนี่ย?...
“ทีนี้รู้รึยัง ? ” 
เบสถาม พร้อมแววตาเป็นประกายระริก  .....บอกตามตรงว่าไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน
แต่สมองของผมก็สั่งการให้พูดสิ่งที่คาใจออกไป
ถึงแม้ว่าร่างกายจะบอกให้รู้อย่างกระจ่างชัดแล้วก็ตาม ว่าผมรู้สึกยังไงกับคนตรงหน้า
“แต่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่?”
“ผู้ชายเหมือนกันแล้วทำไม    ความรักมันไม่ได้อยู่ที่เพศหรืออะไรหรอกนะปั๊ม.....มันอยู่ที่นี่”
เบสจับมือผมไปกุมไว้ที่อกด้านซ้าย  หลังจากนั้นก็จูบเบาๆที่หลังมือผม
ทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ        ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกกับเบสอย่างนี้
แต่ก็ต้องยอมรับหัวใจตัวเอง    เมื่อเสียงของหัวใจมันบอกว่า  รู้สึกกับคนตรงหน้ายังไง
ตอนนี้ผมรู้แล้ว  รู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของหัวใจผม
ที่มันเจ็บทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องเบสกับพี่ชาลีน
และแววตาของเบสที่ผ่านมา  จนถึงตอนนี้  ทำให้ผมมั่นใจว่า เบสคงจะรู้สึกเหมือนผมเช่นกัน
ดูเหมือนอะไรๆจะลงตัวไปซะหมด  แต่ผมก็อดถามสิ่งที่ยังคาใจอยู่ไม่ได้
“เบส  แล้วตกลงคบกับพี่ชาลีนอยู่รึเปล่า?”
“โธ่! ปั๊ม ถึงขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”
“อ่าว ก็เพื่อความแน่ใจไง  ใครจะไปรู้  เห็นว่าไปงานวันเกิดเค้าด้วยนี่”
“ที่ไปก็เพื่อประชดใครบางคนหรอก”
เบสทำหน้าเบ้  ซึ่งขัดแย้งกับแววตาหวานเชื่อมนั่นอย่างที่สุด  หลังจากนั้นก็เอ่ยคำน่าอายที่ผมอยากฟัง
“เรา  รัก  ปั๊มนะ........แล้วปั๊มล่ะ  รักเรารึเปล่า?”
โห...ถึงขั้นนี้ยังจะถามอีก    จะตอบว่าไงดีนะ
“.....รัก....”
ผมตอบไปด้วยเสียงที่เบาที่สุดในชีวิต  แต่เจ้านี่ก็ยังอุตส่าห์ได้ยินอีกแน่ะ
และขณะที่ผมก้มหน้างุดๆอยู่นี่    เบสก็ก้มลงมาหอมแก้มผมทั้งสองข้าง
เล่นเอาผิวหน้าตรงที่ถูกสัมผัสด้วยริมฝีปากของเบส  ร้อนผ่าวอย่างช่วยไม่ได้
      ตอนนี้ผมมีความสุขที่สุด  ถึงแม้จะรู้ดีว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
แต่ผมก็พร้อมที่จะผ่านสิ่งต่างๆข้างหน้าไปให้ได้    ตราบใดที่ยังมีคนใกล้ใจของผมคนนี้อยู่เคียงข้าง
...........ตลอดไป.........
----------  END -----------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น