ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หวั่นไหว......
Chapter 4
..ห้องพยาบาล .
“แค่ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนน่ะ  ไม่เป็นไรมากหรอก  เดี๋ยวก็ฟื้น
  ไม่เห็นจะต้องโวยวายกันใหญ่โตเลย .โดยเฉพาะเจ้านากาทสึน่ะ”
อาจารย์อูเมดะ ที่เป็นอาจารย์ห้องพยาบาล ตรวจเช็คร่างกายของอาชิยะให้แล้ว ก็ไม่พบความผิดปกติ
(ค่อยโล่งใจหน่อย)
“อะ อื้มม~ “
“อ๊ะ! อาชิยะ รู้สึกตัวแล้วเหรอ ..โชคดีจริงๆเลยนะที่ไม่เป็นอะไรมาก”
นากาทสึรีบวิ่งเข้ามาดูอาการอาชิยะใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าอาชิยะฟื้นแล้ว
“อะ..แฮ่ม!..จะจ้องตากันอีกนานมั๊ย ไอคู่นั้นน่ะ “
อาจารย์อูเมดะชักบูด  ก็เจ้านากาทสึเล่นเป็นห่วงซะจนออกนอกหน้าอย่างนั้น
    แล้วซาโนะก็จับนากาทสึ ลากจากห้องพยาบาลไปกับตน  เพื่อให้อาชิยะได้พักผ่อน
.
“ขออนุญาติครับอาจารย์ .      อาชิยะ ชั้นเอากระเป๋ามาให้นายแล้วนะ จะกลับกันรึยัง?”
“อือ..อื้ม ขอบใจนะ”
.
“อาชิยะ ..ถ้ากลับไปถึงหอแล้วก็เอาของเย็นประคบซะล่ะ “
“หืมม์?”
“ก็ดูเหมือนว่า ตอนที่นายล้มลงไปจะทำให้หัวโนน่ะ”
อาชิยะเอามือลูบหัวตัวเอง อืมม..โนจริงๆด้วยแฮะ
..
“อาชิย๊า!! ชั้น..ชั้น ขอโทษนายจริงๆ เป็นเพราะชั้นไม่ระวังเอง .
แล้วนายเป็นอะไรมากรึเปล่า? เป็นไงมั่ง? หายดีแล้วรึยังอ่ะ ?”
“ชั้นไม่เป็นไรแล้วล่ะ ,,, นายไม่ต้องคิดมากหรอก”
“นาย..นายนี่มันช่างเป็นคนดีเลิศประเสริฐอะไรอย่างนี้ ชั้นโชคดีจริงๆที่ได้เป็นเพื่อนซี้นาย”
..ชั้นยังไม่รู้เลยนะ ว่าไปเป็นเพื่อนซี้นายตอนไหนเนี่ย?!
“อาชิยะ แย่แล้วว่ะ นายโดนเจ้าตากล้องโรคจิตแอบถ่ายซะแล้ว”
เพื่อนในห้องคนหนึ่งรีบมาบอกด้วยความหวังดี
“รูปอยู่ที่ไหน?”
“ที่บอร์ดหน้าตึกอ่ะดิ นายรีบไปดูก่อนเหอะ”
ทันทีที่อาชิยะไปถึง ก็เห็นมีคนมุงกันที่บอร์ดเพียบ
..อาชิยะค่อยๆเบียดฝูงชนเข้าไป เพื่อที่จะดูว่ารูปที่ตัวเองโดนแอบถ่ายน่ะ เป็นรูปแบบไหน
-----------------------------------------------------------
สกู๊ป!! นักเรียนใหม่ เรื่องอันตรายของหนุ่มน้อย
เมื่ออาชิยะ แทรกเข้าไปได้ ก็เห็นหัวข้อสกู๊ปที่ว่านี่..และรูปที่ซาโนะบังเอิญล้มทับลงมาตอนที่เจ้ายูอิจิโร่วิ่งชน
‘ แควก! ‘ ณ วินาทีนั้นเอง ซาโนะก็ปรากฏตัวขึ้น และฉีกภาพนั่นอย่างไม่เหลือชิ้นดี
หลังจากนั้นซาโนะก็เดินเข้าไปหาเจ้าคนถ่ายถึงในห้องเรียน
เป็นที่รู้กันดีว่า คนถ่ายภาพอย่างนี้มีคนเดียวในโรงเรียน      นั่นคือนิฮงบาชิ ประธานชมรมถ่ายภาพ
ที่จ้องแต่จะถ่ายภาพโดยที่คนถูกถ่ายมักจะไม่รู้ตัว    รึพูดง่ายๆก็คือ เจ้านี่หลงใหลในการ แอบถ่าย
มากที่สุดนั่นเอง
“เฮ้ย! นี่นาย ถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะนะ ถ้าครั้งหน้าแกยังล้อเล่นบ้าๆแบบนี้อีก ได้เห็นดีกันแน่”
“อะไรกัน ทำเป็นพูดดี ที่แท้ก็ไม่อยากให้ใครรู้ใช่มั๊ยล่ะ  แถมอีกฝ่ายยังเพิ่งกลับมาจากอเมริกา
ผู้ชายเหมือนกัน ยังไงก็แค่ของหวานทานเล่น”
ทันที่ที่ได้ยินคำนั้น อาชิยะที่ตามซาโนะมา ก็ซัดเปรี้ยงเข้าให้ที่หน้าของประธานชมรมแอบถ่ายนี่อย่างแรง
“หัวเย็นลงรึยัง เจ้าบ้าปัญญานิ่ม!”
..
พอถึงตอนเย็น อาชิยะที่ตั้งใจจะชวนซาโนะกลับด้วยกัน ก็ต้องมีอาการชะงัก
เมื่อเอ่ยปากชวนแล้วซาโนะกลับเมินหน้าหนี
“ซาโนะ .”
..ว่าแล้วว่าต้องไม่พอใจ ทั้งๆที่อุตส่าห์คุยกันได้ดีแล้วแท้ๆ
“อาชิยะ ไป กลับหอกัน”
“เป็นอะไรไปน่ะ ดูท่าทางไม่ร่าเริงเลยนะ”
“ .ซาโนะไม่ยอมพูดกับชั้นน่ะ “
“เพราะเรื่องรูปนั่นน่ะเหรอ?”
“อืมม..คงงั้นล่ะ “
“หน่า..ยังไงนายก็พักอยู่ห้องเดียวกับเจ้านั่น ก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างล่ะ”
นากาทสึ พยายามพูดปลอมใจอีกฝ่าย และมองอาชิยะด้วยสายตาเป็นห่วง แต่
หน้าตาอาชิยะตอนกำลังกลุ้มใจ  กลับทำให้นากาทสึหวั่นไหวซะนี่!?!
.เดี๋ยวก่อนเซ่! ใจฉัน ทำไมต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยฟ๊ะ? ..
.
เมื่ออาชิยะกลับเข้ามาในห้อง ก็ไม่เจอซาโนะ เลยว่าจะไปตามหาซะหน่อย
แต่แล้วเท้าที่ก้าวอยู่ก็หยุดชะงัก เมื่อได้ยินคนคุยกันที่สนามหญ้าหน้าหอ
.นั่นมัน..ซาโนะไม่ใช่เหรอ แล้วผู้หญิงคนนั่นล่ะ
“นี่ กระโดดอีกครั้งเถอะ”
“ก็บอกไปหลายครั้งแล้วไง ว่าฉันเลิกสนในการกระโดดสูงแล้วน่ะ”
“โกหก ความจริงเพราะอุบัติเหตุนั่นใช่มั๊ยล่ะ”
“เพราะตอนนั้นซาโนะบังฉันไว้ ถ้าฉันระวังรถซักหน่อย ซาโนะก็ไม่ต้องประสบอุบัติเหตุหรอก”
“ริกะ  อุบัติเหตุนั่นไม่เกี่ยว เพราะตอนนี้ขาชั้นก็หายดีแล้ว ที่ชั้นเลิกกระโดดสูง ก็เพราะเป็นการตัดสินใจของชั้นเองต่างหาก”
‘ เคร้งงง!’ .ตายล่ะสิอาชิยะ อุตส่าห์แอบฟังเค้าคุยกัน ก็ดันไปเตะกระป๋องน้ำที่กองอยู่บนพื้นนั้นซะได้
ทำให้คู่สนทนาทั้งสองต้องหันควับ!
“อาชิยะ นายมาทำอะไรตรงนี้น่ะ”
“แหะๆ ก็จะมาตามนายไง คุยธุระกันอยู่เหรอ  งั้นชั้นขอตัวนะ”
แล้วอาชิยะก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นโดยทันที  .ไม่บอกก็รู้ว่าสองคนนั้นสนิทกัน แต่จะสนิทแบบไหนนี่สิ
.แล้วคนแอบฟังก็มานั่งอยู่ตรงม้านั่งข้างตึก  .ในใจก็คิดถึงเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่จนสับสนวุ่นวาย
ใครนะ ผู้หญิงคนนั้น  เท่าที่ดูก็น่าจะเป็นแฟนกัน .แล้วเรื่องอุบัติเหตุล่ะ ..
จะว่าไป เราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับซาโนะซักอย่าง
ว่าแล้วคนกลุ้มใจก็เงยหน้ามองพระจันทร์ที่เริ่มขึ้นบนท้องฟ้า    หวังจะให้ท้องฟ้าและอากาศเย็นๆยามโพล้เพล้ทำให้ใจสงบขึ้นมาได้บ้าง
.แล้วอาชิยะก็ต้องสะดุด เมื่อเงยหน้ามองฟ้าแล้วไม่เห็นท้องฟ้า กลับเห็นหน้าซาโนะบังอยู่เต็มจอ..
“มัวมานั่งทำอะไรตรงนี้หา? นี่มันได้เวลากินข้าวเย็นแล้วนะ”
“กะ..ก็ ว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“เอ่อ..คือว่า”
“หือ?”
“ เด็กผู้หญิงคนเมื่อกี๊น่ะ ใครเหรอ”
“นะ..น่ารักดีนะ”
“หืมม .ริกะน่ะเหรอ  ก็คนรู้จักตอนม.ต้นน่ะ”
คนรู้จัก? แค่นั้นเหรอ? .
ในระหว่างทางเดินกลับหอ อาชิยะก็ตัดสินใจถามเรื่องเมื่อกลางวันซะเลย
“ซาโนะ..ทำไมวันนี้ถึงเมินชั้นล่ะ?”
“ นั่นก็เพราะว่าชั้น ”
“หืมม?”
“ช่างมันเหอะ” .ก็จะให้บอกได้ไงล่ะว่า เวลาชั้นอยู่กับนายน่ะใจเต้น ..แถมตอนเห็นภาพนั้นก็อดคิดไม่ได้..
“อะไรอ่ะ? ก็บอกมาสิ..ซาโนะ?”
“อย่าเซ้าซี้น่า..ทำไมชั้นต้องบอกนายด้วยเล่า” ซาโนะที่หันไป(แกล้ง)ตอบด้วยความโมโห
แต่สายตานั้นก็หันไปเห็นรถยนต์ที่กำลังวิ่งแฉลบมาทางฟุตบาทเตี้ยๆนี่พอดี
“ระวัง!..อาชิยะ”
“เอ๊ะ! “
‘ บรืนนน ‘
ซาโนะ ที่หันมาคว้าอาชิยะเข้าไปกอด เพื่อให้หลบพ้นรถยนต์ที่เสียหลักบนถนนแคบๆนี้ได้ทัน .
ไม่ทันได้สังเกต เสียงหัวใจของคนในอ้อมแขนว่าเต้นดังกว่าตัวเองเพียงใด
.นี่เรา..รู้สึกกับซาโนะแบบ ..นี้เหรอเนี่ย
“มันอันตราย ระวังรถหน่อยสิ ไม่เป็นไรใช่มั๊ย?”
“อืม..”
“งั้นกลับกันได้แล้ว”
“อืม”
++++++++++++    ++++++++++++++    +++++++++++++++    ++++++++++++++++
..ห้องพยาบาล .
“แค่ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนน่ะ  ไม่เป็นไรมากหรอก  เดี๋ยวก็ฟื้น
  ไม่เห็นจะต้องโวยวายกันใหญ่โตเลย .โดยเฉพาะเจ้านากาทสึน่ะ”
อาจารย์อูเมดะ ที่เป็นอาจารย์ห้องพยาบาล ตรวจเช็คร่างกายของอาชิยะให้แล้ว ก็ไม่พบความผิดปกติ
(ค่อยโล่งใจหน่อย)
“อะ อื้มม~ “
“อ๊ะ! อาชิยะ รู้สึกตัวแล้วเหรอ ..โชคดีจริงๆเลยนะที่ไม่เป็นอะไรมาก”
นากาทสึรีบวิ่งเข้ามาดูอาการอาชิยะใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าอาชิยะฟื้นแล้ว
“อะ..แฮ่ม!..จะจ้องตากันอีกนานมั๊ย ไอคู่นั้นน่ะ “
อาจารย์อูเมดะชักบูด  ก็เจ้านากาทสึเล่นเป็นห่วงซะจนออกนอกหน้าอย่างนั้น
    แล้วซาโนะก็จับนากาทสึ ลากจากห้องพยาบาลไปกับตน  เพื่อให้อาชิยะได้พักผ่อน
.
“ขออนุญาติครับอาจารย์ .      อาชิยะ ชั้นเอากระเป๋ามาให้นายแล้วนะ จะกลับกันรึยัง?”
“อือ..อื้ม ขอบใจนะ”
.
“อาชิยะ ..ถ้ากลับไปถึงหอแล้วก็เอาของเย็นประคบซะล่ะ “
“หืมม์?”
“ก็ดูเหมือนว่า ตอนที่นายล้มลงไปจะทำให้หัวโนน่ะ”
อาชิยะเอามือลูบหัวตัวเอง อืมม..โนจริงๆด้วยแฮะ
..
“อาชิย๊า!! ชั้น..ชั้น ขอโทษนายจริงๆ เป็นเพราะชั้นไม่ระวังเอง .
แล้วนายเป็นอะไรมากรึเปล่า? เป็นไงมั่ง? หายดีแล้วรึยังอ่ะ ?”
“ชั้นไม่เป็นไรแล้วล่ะ ,,, นายไม่ต้องคิดมากหรอก”
“นาย..นายนี่มันช่างเป็นคนดีเลิศประเสริฐอะไรอย่างนี้ ชั้นโชคดีจริงๆที่ได้เป็นเพื่อนซี้นาย”
..ชั้นยังไม่รู้เลยนะ ว่าไปเป็นเพื่อนซี้นายตอนไหนเนี่ย?!
“อาชิยะ แย่แล้วว่ะ นายโดนเจ้าตากล้องโรคจิตแอบถ่ายซะแล้ว”
เพื่อนในห้องคนหนึ่งรีบมาบอกด้วยความหวังดี
“รูปอยู่ที่ไหน?”
“ที่บอร์ดหน้าตึกอ่ะดิ นายรีบไปดูก่อนเหอะ”
ทันทีที่อาชิยะไปถึง ก็เห็นมีคนมุงกันที่บอร์ดเพียบ
..อาชิยะค่อยๆเบียดฝูงชนเข้าไป เพื่อที่จะดูว่ารูปที่ตัวเองโดนแอบถ่ายน่ะ เป็นรูปแบบไหน
-----------------------------------------------------------
สกู๊ป!! นักเรียนใหม่ เรื่องอันตรายของหนุ่มน้อย
เมื่ออาชิยะ แทรกเข้าไปได้ ก็เห็นหัวข้อสกู๊ปที่ว่านี่..และรูปที่ซาโนะบังเอิญล้มทับลงมาตอนที่เจ้ายูอิจิโร่วิ่งชน
‘ แควก! ‘ ณ วินาทีนั้นเอง ซาโนะก็ปรากฏตัวขึ้น และฉีกภาพนั่นอย่างไม่เหลือชิ้นดี
หลังจากนั้นซาโนะก็เดินเข้าไปหาเจ้าคนถ่ายถึงในห้องเรียน
เป็นที่รู้กันดีว่า คนถ่ายภาพอย่างนี้มีคนเดียวในโรงเรียน      นั่นคือนิฮงบาชิ ประธานชมรมถ่ายภาพ
ที่จ้องแต่จะถ่ายภาพโดยที่คนถูกถ่ายมักจะไม่รู้ตัว    รึพูดง่ายๆก็คือ เจ้านี่หลงใหลในการ แอบถ่าย
มากที่สุดนั่นเอง
“เฮ้ย! นี่นาย ถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะนะ ถ้าครั้งหน้าแกยังล้อเล่นบ้าๆแบบนี้อีก ได้เห็นดีกันแน่”
“อะไรกัน ทำเป็นพูดดี ที่แท้ก็ไม่อยากให้ใครรู้ใช่มั๊ยล่ะ  แถมอีกฝ่ายยังเพิ่งกลับมาจากอเมริกา
ผู้ชายเหมือนกัน ยังไงก็แค่ของหวานทานเล่น”
ทันที่ที่ได้ยินคำนั้น อาชิยะที่ตามซาโนะมา ก็ซัดเปรี้ยงเข้าให้ที่หน้าของประธานชมรมแอบถ่ายนี่อย่างแรง
“หัวเย็นลงรึยัง เจ้าบ้าปัญญานิ่ม!”
..
พอถึงตอนเย็น อาชิยะที่ตั้งใจจะชวนซาโนะกลับด้วยกัน ก็ต้องมีอาการชะงัก
เมื่อเอ่ยปากชวนแล้วซาโนะกลับเมินหน้าหนี
“ซาโนะ .”
..ว่าแล้วว่าต้องไม่พอใจ ทั้งๆที่อุตส่าห์คุยกันได้ดีแล้วแท้ๆ
“อาชิยะ ไป กลับหอกัน”
“เป็นอะไรไปน่ะ ดูท่าทางไม่ร่าเริงเลยนะ”
“ .ซาโนะไม่ยอมพูดกับชั้นน่ะ “
“เพราะเรื่องรูปนั่นน่ะเหรอ?”
“อืมม..คงงั้นล่ะ “
“หน่า..ยังไงนายก็พักอยู่ห้องเดียวกับเจ้านั่น ก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างล่ะ”
นากาทสึ พยายามพูดปลอมใจอีกฝ่าย และมองอาชิยะด้วยสายตาเป็นห่วง แต่
หน้าตาอาชิยะตอนกำลังกลุ้มใจ  กลับทำให้นากาทสึหวั่นไหวซะนี่!?!
.เดี๋ยวก่อนเซ่! ใจฉัน ทำไมต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยฟ๊ะ? ..
.
เมื่ออาชิยะกลับเข้ามาในห้อง ก็ไม่เจอซาโนะ เลยว่าจะไปตามหาซะหน่อย
แต่แล้วเท้าที่ก้าวอยู่ก็หยุดชะงัก เมื่อได้ยินคนคุยกันที่สนามหญ้าหน้าหอ
.นั่นมัน..ซาโนะไม่ใช่เหรอ แล้วผู้หญิงคนนั่นล่ะ
“นี่ กระโดดอีกครั้งเถอะ”
“ก็บอกไปหลายครั้งแล้วไง ว่าฉันเลิกสนในการกระโดดสูงแล้วน่ะ”
“โกหก ความจริงเพราะอุบัติเหตุนั่นใช่มั๊ยล่ะ”
“เพราะตอนนั้นซาโนะบังฉันไว้ ถ้าฉันระวังรถซักหน่อย ซาโนะก็ไม่ต้องประสบอุบัติเหตุหรอก”
“ริกะ  อุบัติเหตุนั่นไม่เกี่ยว เพราะตอนนี้ขาชั้นก็หายดีแล้ว ที่ชั้นเลิกกระโดดสูง ก็เพราะเป็นการตัดสินใจของชั้นเองต่างหาก”
‘ เคร้งงง!’ .ตายล่ะสิอาชิยะ อุตส่าห์แอบฟังเค้าคุยกัน ก็ดันไปเตะกระป๋องน้ำที่กองอยู่บนพื้นนั้นซะได้
ทำให้คู่สนทนาทั้งสองต้องหันควับ!
“อาชิยะ นายมาทำอะไรตรงนี้น่ะ”
“แหะๆ ก็จะมาตามนายไง คุยธุระกันอยู่เหรอ  งั้นชั้นขอตัวนะ”
แล้วอาชิยะก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นโดยทันที  .ไม่บอกก็รู้ว่าสองคนนั้นสนิทกัน แต่จะสนิทแบบไหนนี่สิ
.แล้วคนแอบฟังก็มานั่งอยู่ตรงม้านั่งข้างตึก  .ในใจก็คิดถึงเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่จนสับสนวุ่นวาย
ใครนะ ผู้หญิงคนนั้น  เท่าที่ดูก็น่าจะเป็นแฟนกัน .แล้วเรื่องอุบัติเหตุล่ะ ..
จะว่าไป เราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับซาโนะซักอย่าง
ว่าแล้วคนกลุ้มใจก็เงยหน้ามองพระจันทร์ที่เริ่มขึ้นบนท้องฟ้า    หวังจะให้ท้องฟ้าและอากาศเย็นๆยามโพล้เพล้ทำให้ใจสงบขึ้นมาได้บ้าง
.แล้วอาชิยะก็ต้องสะดุด เมื่อเงยหน้ามองฟ้าแล้วไม่เห็นท้องฟ้า กลับเห็นหน้าซาโนะบังอยู่เต็มจอ..
“มัวมานั่งทำอะไรตรงนี้หา? นี่มันได้เวลากินข้าวเย็นแล้วนะ”
“กะ..ก็ ว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“เอ่อ..คือว่า”
“หือ?”
“ เด็กผู้หญิงคนเมื่อกี๊น่ะ ใครเหรอ”
“นะ..น่ารักดีนะ”
“หืมม .ริกะน่ะเหรอ  ก็คนรู้จักตอนม.ต้นน่ะ”
คนรู้จัก? แค่นั้นเหรอ? .
ในระหว่างทางเดินกลับหอ อาชิยะก็ตัดสินใจถามเรื่องเมื่อกลางวันซะเลย
“ซาโนะ..ทำไมวันนี้ถึงเมินชั้นล่ะ?”
“ นั่นก็เพราะว่าชั้น ”
“หืมม?”
“ช่างมันเหอะ” .ก็จะให้บอกได้ไงล่ะว่า เวลาชั้นอยู่กับนายน่ะใจเต้น ..แถมตอนเห็นภาพนั้นก็อดคิดไม่ได้..
“อะไรอ่ะ? ก็บอกมาสิ..ซาโนะ?”
“อย่าเซ้าซี้น่า..ทำไมชั้นต้องบอกนายด้วยเล่า” ซาโนะที่หันไป(แกล้ง)ตอบด้วยความโมโห
แต่สายตานั้นก็หันไปเห็นรถยนต์ที่กำลังวิ่งแฉลบมาทางฟุตบาทเตี้ยๆนี่พอดี
“ระวัง!..อาชิยะ”
“เอ๊ะ! “
‘ บรืนนน ‘
ซาโนะ ที่หันมาคว้าอาชิยะเข้าไปกอด เพื่อให้หลบพ้นรถยนต์ที่เสียหลักบนถนนแคบๆนี้ได้ทัน .
ไม่ทันได้สังเกต เสียงหัวใจของคนในอ้อมแขนว่าเต้นดังกว่าตัวเองเพียงใด
.นี่เรา..รู้สึกกับซาโนะแบบ ..นี้เหรอเนี่ย
“มันอันตราย ระวังรถหน่อยสิ ไม่เป็นไรใช่มั๊ย?”
“อืม..”
“งั้นกลับกันได้แล้ว”
“อืม”
++++++++++++    ++++++++++++++    +++++++++++++++    ++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น