คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : อยากจะเอ่ยคำว่ารัก 2 [END]
เย็นวันนั้น หลังจากที่ผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม ส่งจุนกี ถึงมือหมอ และรอจนแน่ใจแล้วว่า ร่างบางปลอดภัย
ชายหนุ่มก็กลับมาที่กองถ่าย เพื่อหาสาเหตุที่จุนกีตกจากสลิง
“พี่จินยอง ใจเย็นๆก่อนครับพี่”
“จะให้ชั้นใจเย็นอยู่ได้ยังไง จุนกีตกจากสลิงนะ! ทีมงานก็ไม่ได้จ้างเด็กอมมือมาทำ แล้วนี่อะไร!”
“ไหน ใครตอบชั้นซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ห้ะ!”
“...............................................”
“ไม่ได้เรื่องกันซักคน ไหนบอกชั้นหน่อยซิว่า ถ้าจุนกีเป็นอะไรมากไปกว่านี้ ใครจะรับผิดชอบ!”
ในตอนนี้ ชายหนุ่มผู้มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสร้าง กำลังโกรธจัด
บุคลิกที่นิ่งอยู่แล้ว พอโมโหขึ้นมา ทำให้ดูดุอย่างน่ากลัว จนทีมงานไม่มีใครกล้าพูดออกมาซักคน
โดยเฉพาะ ทีมงานที่รับผิดชอบเรื่องฉากแอคชั่น และคนควบคุมสลิง ต่างตัวสั่น ลืมหายใจไปตามๆกัน เมื่อถูกร่างสูงนั้นตำหนิอย่างแรง จนทุกคนคิดว่า คงต้องหางานใหม่ในไม่ช้านี้แน่
ทีมงานทุกคนต่างก้มหน้านิ่ง
แม้กระทั่ง ลูกพี่ลูกน้อง ที่สนิทกับชายหนุ่มที่สุด ยังต้องรอให้ร่างสูงนั้น อารมณ์เย็นซะก่อน
ถึงจะกล้าเอ่ยคำพูดออกมา
..........................................
..............................
“พี่จินยอง ไม่มีใครอยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอกนะพี่
ทีมงานทุกคนต่างก็ตั้งใจทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ผมรับรอง
มันคงเป็นอุบัติเหตุมากกว่า อุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก....”
“อีกอย่าง ตอนนี้จุนกี ก็ปลอดภัยแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ให้จุนกีเค้าตัดสินใจนะ ตอนนี้
สิ่งที่เราทุกคนควรจะทำที่สุด ก็คือไปเยี่ยมเค้า....... และที่สำคัญ ตอนนี้พี่ควรจะไปดูเค้า
ดีกว่าจะมาหาคนลงโทษ นะครับพี่”
เมื่อโดนตอกกลับอย่างนั้น จินยองก็นึกโกรธผู้เป็นญาติ ในตอนแรก
แต่พอดองซา พูดถึงจุนกี ทำให้เขานึกถึงร่างบางที่ได้รับบาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลในขณะนี้
นั่นสินะ ในตอนนี้ เค้าควรจะไปอยู่ข้างๆจุนกี ไปบอกความรู้สึกของตัวเอง.......
ความรู้สึกที่เกือบจะไม่มีโอกาสได้บอก ความรู้สึกที่ หลังจากนี้ไป ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกรึเปล่า....
เพราะชีวิตคนเรา เป็นสิ่งเปราะบาง ....
แล้วเค้าก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า จะไม่ปล่อยให้ร่างนั้นต้องเจ็บปวดอีกเป็นอันขาด
.
.
..
.
ผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม เดินทางมาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พร้อมกับทีมงานและนักแสดงอีกหลายชีวิต
ที่มีจุดประสงค์จะมาเยี่ยม ลี จุนกี นักแสดงนำ ผู้เป็นที่รัก ที่เอ็นดู ของคนทั้งกองถ่าย
หลายคนอดใจหายไม่ได้ เมื่อรู้ว่าร่างบางต้องประสบกับอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นนี้ แต่ก็โล่งใจเมื่อทราบภายหลังว่า
จุนกีของพวกเค้าปลอดภัย ได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อย ข้อเท้าเคล็ดอีกนิดหน่อย
ส่วนภายในก็ได้รับการกระทบกระเทือนบ้าง เนื่องจากตกจากที่สูง
แต่นี่ก็ดีกว่าที่ทุกคนคิดมากแล้วราวกับปาฏิหาริย์ เพราะว่า ขณะที่ตกลงมา ร่างบางม้วนตัวลง
เนื่องจากเคยมีทักษะในการเล่นคิวบู้มาบ้าง ประกอบกับ ข้างล่างที่ตกลงมา ทีมงานก็รองฟูกไว้ด้วยส่วนหนึ่ง
จึงทำให้ จุนกี แค่ต้องพักงานไป 1 เดือนเท่านั้น
....ทันทีที่เปิดประตูห้องพิเศษชั้นหนึ่ง ของโรงพยาบาลเอกชน
ทีมงานทุกคนก็เห็น ร่างบางหันมามองทางประตูนี้ ด้วยท่าทาง และแววตาที่สดใส
จนดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งจะตกจากสลิงเลยซักนิด
“เป็นไงมั่งจ๊ะ หนุ่มน้อย”
คัง ซองยอน หนึ่งในนักแสดงนำ ที่สนิทกับร่างโปร่ง กล่าวทักทายกับคนเจ็บ
พร้อมกับเดินเข้าไปหาที่เตียงคนไข้ เป็นคนแรก หลังจากนั้น ทีมงานคนอื่นๆ ก็ทยอยกันเข้ามาจนเต็มห้อง
เรื่องที่คุยตอนนี้ก็คือ อาการบาดเจ็บของนักแสดงหนุ่มหน้าหวาน แต่เมื่อได้รับคำตอบว่า ไม่เป็นไรเลยซักนิด
นอกจากปวดๆ เคล็ดๆ นิดหน่อย แต่หมอกลับยังไม่ยอมให้ลุกจากเตียง
ก็เรียกรอยยิ้มจากเหล่าทีมงาน และนักแสดงได้เป็นอย่างดี
“โชคดีไปนะ ไอน้องชาย”
ผู้กำกับหนุ่ม ดองซา เดินเข้าไปตบไหล่นักแสดงของตน เป็นการให้กำลังใจ
“โอ้ย!”
สงสัยจะตบแรงไป เลยเรียกเสียงร้องของร่างบางออกมา เป็นเหตุให้เหล่านักแสดง
และทีมงานต่างตกอกตกใจกันยกใหญ่
เล่นเอาคนที่คอยมองดูคนเจ็บ อยู่ห่างๆจากมุมห้อง รีบวิ่งถลา มาหาร่างโปร่งถึงเตียงด้วยความรวดเร็ว
“จุนกี! เป็นอะไรมากไหม? ให้เรียกหมอรึเปล่า”
ผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม ดูเหมือนจะตกใจที่สุด แถมออกอาการห่วงซะออกนอกหน้า
จนคนในห้อง ต้องกลั้นยิ้ม
ส่วนบุคคลที่โดนห่วงใย ก็ออกอาการเหวอๆ งงๆ ปนเขินๆ กับมือของร่างสูง ที่คอยลูบหน้า ลูบหลัง
เพื่อจะดูอาการของคนเจ็บ แบบที่เจ้าตัวก็คงไม่รู้ว่าแสดงท่าทางห่วงใยร่างบางนี้มากมายขนาดไหน
“เอ่อ....ผะ..ผม ไม่เป็นอะไรมากหรอกฮะ”
คำปฏิเสธ ของจุนกี เรียกสติของจินยองให้กลับมาได้
และพอชายหนุ่มมองไปรอบๆห้อง ก็ต้องเห็นทีมงาน และนักแสดง ทำหน้าแบบขำๆ กับอาการของตน
ที่คงจะหาดูได้ยากยิ่ง จะว่าไป ทุกกิริยาอาการที่เค้าไม่เคยเป็นมาก่อน ก็เกิดจากร่างบนเตียงคนไข้นี่แหละ
ในสภาวะที่ ผู้อำนวยการสร้างหนุ่มก็เขิน นักแสดงนำหน้าหวานผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ ก็เขิน
อีกทั้ง ทีมงานก็พลอยอดเขินไปกับบรรยากาศ ของสองคนนี้ไม่ได้
จะมีก็แต่ ผู้กำกับหนุ่ม นาม ดองซา ที่ไม่เขินไปกับเค้า แถมเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นอีก
“เอ้า! ในเมื่อตอนนี้ก็รู้แล้วว่า จุนกี ไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็เลิกกังวล เลิกห่วงกันได้แล้ว และอีกอย่าง
ตอนนี้ ผู้อำนวยการสร้างของเรา คงอยากจะคุยกับนักแสดงเป็นการส่วนตัว พวกเราก็ออกไปกันก่อนเถอะ”
สิ้นเสียงชักชวนของดองซา บรรดาทีมงาน และนักแสดง ก็พากันออกจากห้องพิเศษของร่างโปร่ง พร้อมมอบรอยยิ้มให้กับคนทั้งคู่ ที่อยู่ในห้อง
ทันทีที่ประตูปิดลง ความเงียบก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง
“...................................”
“..............................”
“นายรู้มั๊ย ว่าตอนที่นายตกลงมาน่ะ ชั้นรู้สึกยังไง”
“....................”
‘แล้วผมจะรู้มั๊ยว่าคุณรู้สึกยังไง น่ะ แล้วยังท่าทางห่วงใยแปลกๆนั่นอีก’
“ชั้นแทบบ้าแน่ะ.....กลัวว่านายจะเป็นอะไรไป แล้วถ้านายเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ชั้นจะทำยังไง”
ร่างสูงมองตาร่างบางอย่างมีความหมาย ในขณะที่มือแกร่งก็กุมมืออีกฝ่ายไว้
เพื่อหวังจะถ่ายทอดความรู้สึกมากมาย ให้ร่างตรงหน้าได้รับรู้
แววตาของจุนกีในตอนนี้มีแววสับสน ไม่ใช่สับสนเพราะหวาดกลัว
แต่เป็นแววตาสับสนเหมือนเด็กที่ไม่รู้จะทำยังไงมากกว่า
ท่าทางของจุนกีในตอนนี้ น่ารักจนร่างสูงอดที่จะก้มลงมาหอมแก้ม คนไม่มีทางหนี ไม่ได้
“อ๊ะ~”
คนเจ็บรีบยกมือขึ้นปิดข้างแก้มที่เพิ่งจะถูกผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม หอมแก้มไปหยกๆ
แก้มใสๆของคนถูกหอม ซับสีเลือดขึ้นอย่างปิดไม่มิด แถมลามมายังหูเล็กบาง ที่เริ่มปรากฏสีแดงเรื่อขึ้นนั้น
เรียกรอยยิ้มของคนฉวยโอกาส ได้เป็นอย่างดี
“...................”
“แกล้งผมสนุกมากรึไง”
จุนกีพูดพร้อมส่งสายตาจริงจังมาทางร่างสูง
“หา?”
“ก็ที่คุณมาคอยแกล้งผมอยู่เสมอนี่ล่ะ คุณต้องการอะไรกันแน่”
...ชายหนุ่มร่างสูง ดูจะอึ้งกับคำถามของจุนกีไปแล้ว .....
“อย่าบอกนะว่า ที่ผ่านมานายคิดว่าชั้นล้อเล่นมาตลอดน่ะ...”
“หรือว่ามันไม่จริง ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังเล่นอะไรอยู่หรอกนะ แต่คุณคงสนุกมากล่ะสิ
ที่ได้เห็นท่าทางแปลกๆของผม
.ผม
.”
“ไม่ใช่ นายกำลังเข้าใจผิด จุนกี”
“ผมไม่เข้าใจคุณเลยซักนิด คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่..ไหนคุณลองบอกผมมาทีสิ
บางทีคุณจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยคอยแกล้งผมไง”
..ดูเหมือนร่างตรงหน้าจะไม่ได้ฟังที่ร่างสูงพยายามจะพูดซักนิด ทำให้ผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม
รั้งคนเจ็บมาไว้ในอ้อมกอดอย่างถือวิสาสะ
ร่างในอ้อมแขนขัดขืนเล็กน้อย ชายหนุ่มสังเกตเห็นน้ำตา ที่เริ่มคลออยู่ในดวงตาหวาน
จึงตัดสินใจพูดในสิ่งที่ค้างคาในใจ ให้กระจ่างเสียที
“สิ่งที่ชั้นต้องการมีเพียงสิ่งเดียวจุนกี นั่นคือหัวใจของนาย”
“....มะ..ไม่จริงหน่า..”
ร่างในอ้อมแขนแกร่งหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมาสบสายตาจริงจังของร่างสูง
แค่แววตานั้น ก็ทำให้ร่างบางรู้ว่าคนๆนี้ไม่ได้โกหก ....แต่สิ่งที่พูดมาก็แทบเป็นไปไม่ได้
“คุณกำลังจะบอกว่า คุณชอบผมเนี่ยนะ คุณเป็นถึงผู้อำนวยการสร้างหนัง และคนสำคัญในวงการบันเทิง
แล้วผมก็เป็นผู้ชาย”
“นายรู้สึกดีๆ กับชั้นบ้างรึเปล่า....หืม? ”
คนถูกย้อนถามก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตากับผู้พูด ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
จนคนถามยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น พร้อมกับสงเสียงในลำคอเป็นเชิงถาม
ลมหายใจเป่ารดข้างหูของคนในอ้อมกอด เรียกแก้มสีเรื่อของร่างบางอีกครั้ง ทำให้คนอายต้องพยักหน้ารับ
“งั้นนายก็ไม่ต้องคิดมาก ตำแหน่ง หน้าที่การงาน หรือเพศ มันไม่ได้เป็นตัวกำหนดความรักหรอกนะ”
“ที่สำคัญ ชั้นไม่ได้แค่ชอบนาย แต่ ‘รัก’ เลยต่างหาก ”
“ตะ..แต่...แต่ว่า...... อื้ออ~... อื้ม...อืมม”
คนเจ็บที่ทำท่าจะแย้ง ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรอีก เพราะโดนชายหนุ่ม คิม จินยอง จูบปิดปากเป็นที่เรียบร้อย
เป็นจูบที่แสนหวานและลุ่มลึกที่สุด ที่ร่างบางไม่เคยได้รับจากใคร และชายหนุ่มไม่เคยมอบให้กับใคร....
......นอกจากคนที่รักสุดหัวใจ คนนี้จริงๆ.....
-------END-----
ความคิดเห็น