ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic - Lee Joon-ki (이준기) ] อยากจะเอ่ยคำว่ารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : อยากจะเอ่ยคำว่ารัก 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 50


    [Fic - Lee Joon-ki (이준기) ] - อยากจะเอ่ยคำว่ารัก 1



    "พี่แจซอง  คุณคิม   จินยอง  มากองถ่ายอีกแล้วล่ะ"

    "เอ.. เริ่มถ่ายไปหลายตอนแล้ว ทำไมผู้อำนวยการสร้างอย่างเค้าถึงยังมาทุกวันอีกนะ  พี่นึกว่าคนอย่างคุณคิม  ธุรกิจจะรัดตัวซะอีก "


    "นั่นน่ะสิพี่ "


    กองถ่ายภาพยนตร์ แนวย้อนยุคของเกาหลีเรื่องดังที่เป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศในขณะนี้  
    คลาคล่ำไปด้วยทีมงาน  และนักแสดงประกอบหลายร้อยชีวิต  เนื่องจากวันนี้มีซีนใหญ่ที่จะต้องถ่าย   ทุกคนเลยทำหน้าที่ของตัวเองอย่างชุลมุนวุ่นวาย  ยกเว้นอยู่คนเดียวที่เดินไปเดินมา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศของฉากที่ทางทีมงานสร้างสรรค์ขึ้นเป็นเมืองสมัยเก่าอย่างน่าหลงใหล   


    "สบายใจจริงนะครับ คุณจินยอง"


    เสียงของผู้กำกับ คิม ดองซา  เอ่ยขึ้นเสียงกวน  เรียกแววตาขวางๆของลูกพี่ลูกน้องตนได้แว๊บหนึ่ง
      ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแววตาเรียบเฉย  เมื่อจะถามถึงสิ่งที่ต้องการอยากรู้ที่สุดของวัน

    "วันนี้เด็กนั่นมีถ่ายตอนกี่โมง ?"

    คนมีศักดิ์เป็นผู้น้องหัวเราะพรืด กับคำเรียกนักแสดงหนุ่มน้อย หน้าหวานประจำกองของผู้พี่


    "พูดซะหยั่งกับว่า จุนกีมันห่างกว่าพี่ซักสิบ ยี่สิบปี หรือว่าอยากจะเล่นบทคุณลุงที่เอ็นดูนักแสดงในหนังของตัวเองเป็นพิเศษล่ะ"

    คนตัวสูงแกล้งเก๊กหน้าเครียด  เอ่ยถามคำถามเดิมอีกครั้งเสียงเข้ม


    "ชั้นถามว่า วันนี้จุนกีมีถ่ายตอนกี่โมง?"

    "ฉากใหญ่ตอนบ่ายสอง  แต่นี่เดี๋ยวต้องเข้าประกอบฉากเล็กๆนิดหน่อยน่ะแต่เอ..ไม่ยักกะรู้ว่าท่านผู้อำนวยการสร้างหนุ่มจะมีเวลามาเตร็ดเตร่ที่กองถ่ายอยู่ทุกวัน งานการไม่มีทำบ้างเหรอไงครับพี่?"

    คนถูกแซวแอบยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง  ก่อนจะรีบถามคำถามต่อ


    "แสดงว่าตอนนี้อยู่ห้องแต่งตัว?"

    "คร้าบบบ"

    คิม ดองซา  เป็นลูกพี่ลูกน้องที่ค่อนข้างสนิทกับ จินยองมาก เรียนที่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่สมัยประถม จนแม้กระทั่ง ทำงาน  ก็ยังทำงานอยู่ในสายงานเดียวกัน   คำพูดคำจาระหว่างเขากับลูกพี่คนนี้จึงออกไปทางกึ่งจริงกึ่งเล่นซะมากกว่า


     
    คนใกล้ชิดที่เป็นผู้เยาว์กว่าร่างสูงคงไม่กล้าพูดเล่นกับ จินยอง เนื่องจากบุคลิกของเจ้าตัวไม่ชวนให้ล้อเล่นซักนิด  แต่ดองซารู้ดีว่าลูกพี่ของตนเป็นยังไง    และที่ไม่เซ้าซี้หาเหตุผลที่เพิ่งถามผู้พี่ไป 
    เพราะว่าก็รู้อยู่แล้ว  สาเหตุที่ผู้อำนวยการสร้างคนดังต้องมาเฝ้ากองถ่าย ทั้งๆที่ไม่จำเป็น


     
    ไม่ใช่เพราะหวังดีมาช่วยดูแลกองของลูกพี่ลูกน้อง  แต่เป็นเพราะอิทธิพลของคนหน้าใส  ในกองถ่ายนี้ต่างหาก

    แถมคนๆนั้นยังเป็นผู้ชายอีก 

    ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่เป็นเพราะเห็นใจ ลี  จุนกี   นักแสดงผู้สุภาพเรียบร้อย และตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง

    แทนที่จะได้แฟนเป็นผู้หญิงน่ารักๆซักคน  กลับต้องมาเป็นคนของพี่ซะแล้ว...


    ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้เป็น   แต่ผู้กำกับหนุ่มก็มั่นใจ  ว่าคนที่ลูกพี่ตัวเองเล็งและรุกไปบ้างแล้ว 

    'ไม่หลุดมือไปง่ายๆหรอก'

    ………………………………………

    ………………………………..

    ………………………….

    'ครืด~'


    ชายหนุ่มผู้ที่ใหญ่ที่สุดในกองถ่ายแห่งนี้ ก้าวเข้ามาในห้องแต่งตัวนักแสดง ท่ามกลางสายตาของทั้งช่างแต่งหน้า และนักแสดงนำที่จะต้องเข้าฉากต่อไปประมาณ 4-5คน


    แต่คนร่างสูงก็ไม่ได้สนใจแม้กระทั่งนักแสดงใหญ่อย่าง คัม อูซอง  หรือดาราสาวสวย คัง ซองยอนเลยซักนิด

    คนตัวใหญ่ได้แต่กวาดสายตาหาร่างเล็กบาง ที่กำลังถูกช่างแต่งหน้า เมคอัพให้เป็นตัวละครที่ร่างบางต้องสวมบทบาทในหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้


    ชายหนุ่มผู้ที่สามารถเรียกได้ว่า เป็นเจ้าของกองถ่ายแห่งนี้ ถือวิสาสะเข้าไปนั่งข้างหน้าเด็กหนุ่ม  ผู้ที่มีหน้าตาราวกับผู้หญิง  จนได้รับฉายาว่า หนุ่มหน้าสวยสุดฮอตแห่งวงการ


    "สวัสดีค่ะ คุณคิม  มีธุระอะไรกับจุนกีรึเปล่าคะ?"

    ช่างแต่งหน้าหยุดมือเอ่ยถามร่างสูงก่อน  จนได้รับคำตอบปฏิเสธเธอจึงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป  ท่ามกลางสายตาของจินยอง ที่จ้องมองร่างที่กำลังถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง อย่างไม่วางตา


    "คุณคิม มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ?"

    "เปล่า"

    "แล้ว..เอ่อ..ขอโทษนะครับ.. คุณมาจ้องหน้าผมทำไมทุกวันเนี่ย?"

    "เปล่านี่  ชั้นแค่มาดูการทำงานของช่างแต่งหน้า ก็เท่านั้นเอง"

    คำตอบแบบดูก็รู้ว่าไม่เป็นความจริง ติดจะกวนๆ ออกมาจากหนุ่มมาดเข้มอย่าง คิม จินยอง  เล่นเอาคนทั้งห้องแต่งตัวแห่งนี้ ต้องกลั้นหัวเราะไปตามๆกัน   ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครจะไปเชื่อว่าผู้อำนวยการสร้างหนัง เจ้าของธุรกิจบันเทิง และอดีตผู้กำกับฝีมือเยี่ยมมาดขรึมอย่างคิม จินยอง จะตลกหน้าตายอย่างนี้


    เมื่อช่างแต่งหน้า  จัดการแต่งหน้าให้ร่างบางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ขอตัวไปแต่งหน้าให้กับนักแสดงคนอื่น

    โดยมีสายตาตัดพ้อของ ร่างที่เพิ่งจะถูกแต่งให้ มองอย่างขอความช่วยเหลือ   เนื่องจากร่างสูงยังคงจ้องตนไม่เลิก เล่นเอาเด็กหนุ่มประหม่าเป็นเหมือนกัน

    "เป็นอะไรไปน่ะ ทำหน้าอย่างกับไม่อยากอยู่กับชั้นอย่างนั้นแหละ"

    เด็กหนุ่มหันไปมองรอบตัวเลิกลัก  อะไร ทุกคนหายไปไหนกันหมดอ่ะ?


    เจตนาของผู้อำนวยการสร้างที่แสดงออกอย่างชัดเจนถึงจุดประสงค์ของการมากองถ่ายนี้ทุกวันเป็นเวลาเกือบเดือน ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี  เมื่อชายหนุ่มต้องการจะ
    'จีบ' หนุ่มหน้าสวยประจำกองถ่ายแห่งนี้


    ยกเว้นคนเดียวที่เห็นจะไม่รู้เรื่องรู้ราวในเจตนาของคนตรงหน้าเลยซักนิด

     ติดจะระแวงว่าร่างสูงจะจับผิดอะไรตนซะอีก   .....ก็จุนกี คนนี้ไงล่ะ


    เมื่อร่างบางไม่ตอบคำถาม   ชายหนุ่มก็เลยปักหลักนั่งท้าวคาง มองหน้านักแสดงหนุ่มน้อย คนนี้ซะงั้น

    เล่นเอาคนไม่ยอมตอบคำถามไม่รู้จะทำไง   ทำหน้าคิดไม่ออกบอกไม่ถูก จนคนจ้องหน้าสงสาร

    เลยเอ่ยคำถามที่เหมือนจะพูดลอยๆ แต่น้ำเสียงจริงจังขึ้นมา


    "เย็นนี้ว่างใช่มั๊ย        ไปกินข้าวเป็นเพื่อนชั้นหน่อยสิ"

    "ห๋า? กับคุณเนี่ยนะ?"

    "ทำไมล่ะ   ชั้นมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยรึไง"

    "ปะ..เปล่าๆ ครับ  เพียงแต่ว่า แปลกใจนิดหน่อย"

    "เหรอ  ถ้างั้นทำให้ไม่แปลกใจโดยการไปกินข้าวกับชั้นทุกวันเลยแล้วกัน"

    "ง่ะ~"

    ลี จุนกี  ปรับสีหน้าไม่ถูก เมื่อเจอมุขของผู้อำนวยการสร้างเข้าไป 


    คนในกองถ่ายมักจะถามบ่อยๆว่า ทำไมเค้าถึงไม่ค่อยชอบที่จะอยู่ใกล้ คิม จินยอง  
    ทั้งๆที่นักแสดงและคนในวงการหลายชีวิต ทำทุกวิธีทางที่จะเข้าหาร่างสูง


    จะให้บอกทุกคนได้ยังไงว่า  เวลาเค้าอยู่ใกล้คนๆนี้แล้วไม่รู้ทำไมถึงทำตัวไม่ถูก  

    แล้วยังคำพูดทีเล่นทีจริงของคนตรงหน้าอีกล่ะ

    ทางที่ดีเลยอยากจะอยู่ห่างๆไว้ดีกว่า  เกิดอยู่ใกล้แล้วทำตัวไม่ถูกใจ  จะถูกปลดเอาได้


    ...ถึงแม้ว่า จุนกีจะได้รับการวางตัวเป็นนักแสดงนำอย่างแน่นอน  และถ่ายทำกันไปได้ซักพักแล้วก็เถอะ

    ร่างบางก็เกิดอาการ  กระต่ายตื่นตูมขึ้นมาทันทีอย่างช่วยไม่ได้………

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    "อ๊ะ! "

    เด็กหนุ่มอุทานออกมาด้วยความตกใจ  เมื่ออยู่ๆก็โดนขโมยหอมแก้ม ตรงมุมตึก ในบริษัทค่ายหนัง ยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลี 


    "หวา~ คุณคิม     มาทำอะไรแต่เช้าครับ"

    อุตส่าห์ เลี่ยงมาแต่เช้าแล้วนะ    เหตุผลก็คือ คุณ คิม จินยองนี่แหละ พักหลังนี้ชอบมาแกล้งประจำ  แถมชอบมาแอบหอมแก้มอีก   แกล้งเรามันสนุกตรงไหนนะ 


    วันนี้ที่เข้าบริษัท มาก็เพราะถูกผู้กำกับวานมาจัดการกับเอกสารเล็กๆ น้อยๆ   ยังจะมาซวย เจอคนขี้แกล้งซะได้

    ที่กองถ่ายยังไม่พอรึไงนะ   เดี๋ยวก็ชอบมาจ้องหน้า  ชวนทานข้าว  แล้วก็แอบหอมแก้ม 

    จะมาอะไรกับผมนักนะ คุณคิม  


    ชายหนุ่มเห็นจุนกี นิ่งไปนาน เลยช่วยตอบประโยคคำถามที่ร่างบางได้ถามค้างไว้


    "นายถามว่า ชั้นมาทำอะไรแต่เช้า ที่บริษัทตัวเองเนี่ยนะ? "

    'เออ จริงด้วยแฮะ... ทำไมถึงถามคำถามงี่เง่าออกไปได้นะเรา'


    'เฮ้ย! แต่ปกติ คุณคิมก็จะอยู่ที่กองถ่ายตลอดนี่นา   .... ไม่รู้ว่าที่กองมีอะไรดี ถึงได้ไปเฝ้าเช้า เฝ้าเย็น 
    แล้ววันนี้ ไหง๋ มาเข้าบริษัทซะได้ล่ะ?'

    ....คนซื้อบื้อก็ยังคงจมดิ่งอยู่กับความคิดที่สับสนของตัวเองต่อไป  ปล่อยให้คนเจ้าเล่ห์ ที่ตามเช้า ตามเย็น แถมรู้โปรแกรมว่า เด็กหนุ่มจะมาที่นี่  ยืนมองร่างโปร่งพร้อมกับอมยิ้ม  ในความน่ารักของคนตรงหน้า


    "ไหนๆก็เจอกันแล้ว  วันนี้นายไม่มีถ่ายใช่มั๊ย    แล้วคงไม่มีธุระที่อื่นนะ    งั้นไปเที่ยวกัน"

    คนชวน ชวนโดยไม่รอฟังคำตอบรับ หรือปฏิเสธจากร่างบางเลยซักนิด

    พูดจบก็ จูงนักแสดงของตนไปยังรถคันหรูของตัวเอง ซึ่งจอดอยู่ที่ ที่จอดรถ VIP. ของบริษัท


    "คุณจะพาไปไหนน่ะ?"

    "แล้วนายอยากไปไหนล่ะ"

    'ยังคิดไม่ได้ แต่ขับรถออกมาแล้วเนี่ยนะ.........'

    เด็กหนุ่มส่ายหน้าเอือมระอา   เอาเถอะ จะไปไหนก็เชิญคุณท่านเถอะ  ผมขอนั่งเฉยๆแล้วกัน


    ……………………………….

    …………………….

    "........................"

    "นี่ ใจคอจะนั่งเฉยๆอย่างเดียวเลยรึไง"

    ร่างบางที่ปิดปากเงียบมาตลอกทาง  หันไปมองค้อนร่างสูงนิดๆ 


    "แล้วจะให้ทำอะไรล่ะครับ "


    …..จะให้ปั่นหูให้รึไง  อยู่บนรถ ก็ต้องนั่งเงียบๆสิ  ......จุนกีได้แต่คิด ไม่กล้าพูดออกไป

    เพราะยังไงๆ ซะ อาชีพการงานของเขา  ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับคนๆนี้ 

    ไม่กล้าลามปามเท่าไหร่   เดี๋ยวจะซวยเอาได้ โดยไม่รู้ตัว
    ………………………..

    "หยิบน้ำให้หน่อย"

    ร่างโปร่งซึ่งตอนนี้กลายเป็น ตุ๊กตาหน้ารถจำเป็น ส่งขวดน้ำให้ชายหนุ่ม


    "จะให้ดื่มยังไงล่ะ  ป้อนด้วยสิ"

    "ห๋า?"

    "น้ำใจคนเราเนี่ยน้า ..... อุตส่าห์ขับรถ จะพาไปเที่ยว คอแห้ง เหนื้อย เหนื่อย คนข้างๆที่นั่งสบายๆ ยังไม่เห็นใจซักนิด"

    'แล้วกระผมไปขอร้องคุณไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ให้พาไปเที่ยวน่ะ'

    .....ถึงจะคิดในใจอย่างนั้น  แต่เด็กหนุ่มก็ ส่งขวดน้ำ พร้อมหลอด ให้คนที่กำลังขับรถอยู่ดื่มบรรเทาอาการคอแห้ง    ทำเอาคนคอแห้ง  กลืนน้ำลายกับผิวนุ่มผ่านเนื้อผ้าแขนยาวนั้น 


    'ผู้ชายอะไร ผิวสวยชะมัด' 


    ถึงจะคิดอย่างนั้น  แต่ไม่ว่าร่างโปร่งบางข้างๆนี่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาก็รักทั้งนั้น

    ก็ความรักมันไม่เกี่ยวกับเพศนี่นา


    "มีขนมอยู่ตรงนั้นน่ะ    แกะให้กินหน่อยสิ"

    จุนกีเริ่มมอง จินยองด้วยสายตาขวางกว่าครั้งแรก  แต่ก็ยอมหยิบให้แต่โดยดี 
    คราวนี้ไม่ต้องบอกอะไรมาก ร่างโปร่งก็จัดการ 'ป้อน'  สิ่งที่ร่างสูงต้องการ

    จะต่างก็ตรงความเจ้าเล่ห์ของผู้อำนวยการสร้างหนุ่มนี่แหละ


    เพราะเมื่อนักแสดงหน้าหวาน ป้อนขนมให้ชายหนุ่มถึงปากแล้ว จินยองกลับบังคับพวกมาลัยรถไว้ข้างเดียว

    ส่วนอีกข้าง ก็เลื่อนมาจับมือนิ่มของคนป้อน  ที่จ่ออยู่ตรงปาก  แถมจับ ไม่จับเปล่า  ยังเอาขึ้นมาจูบสัมผัสที่หลังมืออีกต่างหาก


    การกระทำนี้ สามารถเรียกเลือดฝอยให้มาอยู่ที่แก้มใส   บวกความไม่เข้าใจอยู่นิดหน่อย ได้เป็นอย่างดี


    ....เอาเถอะ ..... ซักวัน นายจะได้รู้เสียงของหัวใจของชั้นนะ ........


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    "ฉากพร้อม!"

    "ครับ"

    "แสงพร้อม"

    "ครับ"

    "กล้องพร้อม"

    "ครับ"

    "แอคชั่น!"

    ……

    เด็กหนุ่มหน้าสวยถ่ายฉากบู้ โดยการใช้ ศิลปะการต่อสู้แบบโบราณ ของเกาหลีอย่างสวยงามอยู่บนหลังคาทรงจีน  ท่ามกลางลวดสลิง และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของนักแสดงอย่างเต็มที่


    ทีมงานทุกคน กำลังจับจ้องฉากต่อสู้นั้นไม่วางตา  ....ราวกับถูกสะกดอยู่กับท่าทางการต่อสู้อันสวยงาม ของจุนกี และ  บุคลิกการต่อสู้แบบดุดันของฮี วอง ตัวโกงในเรื่อง


    "คัต"

    "ตรงเมื่อกี๊ขอใหม่อีกรอบนะ ..... จุนกี ยกแขนให้ตึงกว่านั้นหน่อย นิดเดียวเท่านั้นแหละ  ที่เหลือดีแล้ว"

    ลวดสลิงถูกดึงลงมาให้เท้าของรางบางสัมผัสพื้น ช่างแต่งหน้าและทีมงานเข้ามาซับเหงื่อ และจัดความเรียบร้อยให้จุนกี  ก่อนจะถูกสลิงดึงขึ้นไปอยู่บนหลังคาทรงจีนอีกครั้ง  


    และด้วยไม่มีใครคาดคิด
    !  ลวดสลิงที่เกี่ยวอยู่กับตัวของนักแสดงหนุ่มหน้าสวย  เกิดหลุดออกมา

     เมื่อร่างบางถูกดึงตัวขึ้นไปจนจวนจะถึงหลังคาอยู่แล้ว!!!!

    ทันทีที่สลิงหลุดออก ส่งผลให้ร่างของ ลี จุนกี  ตกลงมากระทบพื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของทีมงานทุกคน 

    ในขณะที่ทีมงานทั้งกองถ่ายกำลังช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

    จินยอง  ผู้อำนวยการสร้างหนุ่ม ที่เฝ้าดูการถ่ายทำมาตลอด ก็รีบวิ่งไปดูอาการของคนที่เป็นห่วงมากที่สุด


    ชายหนุ่มแทบคลั่ง เมื่อเห็นเด็กหนุ่มตกลงมาจากสายสลิงบ้านั่น 
    แล้วตะโกนให้คนเรียกรถพยาบาลมาให้เร็วที่สุด


    เหล่าทีมงาน ที่ตอนนี้พอจะหายตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็รีบไปเรียกรถพยาบาลประจำกองถ่าย

    เพื่อนำร่างบางส่งถึงโรงพยาบาล ท่ามกลางคำภาวนา ขอให้ร่างบางปลอดภัย

    ..............................................

    ………………………..

    ………………….

    …………..

    …….

    ในรถพยาบาล   ขณะนี้ร่างในอ้อมกอดของจินยอง  หมดสติ ไม่รับรู้อะไรแล้ว....
    ไม่รับรู้ แม้กระทั่ง ความกระวนกระวายใจแทบบ้าของคนที่กอดตัวเองไว้


    ชายหนุ่มได้แต่ภาวนาให้จุนกี ไม่เป็นอะไร  ขอแค่เค้าปลอดภัย......ให้เค้าปลอดภัยเท่านั้น ...

    ....ตั้งปฏิญาณ ไว้ว่า ต่อจากนี้จะไม่ยอมให้ร่างบางมีอันตรายอีกเป็นอันขาด


    คนที่ถูกใจตั้งแต่แรกพบ   เมื่อได้พูดคุย ใกล้ชิด ก็มีความสุขอย่างประหลาด  เ
    หมือนกับเป็นคนที่ตามหามาแสนนาน

    และ  ชายหนุ่มยังไม่ได้บอกความในใจแก่ร่างในอ้อมแขนนี้เลย.............


    พระเจ้า  ได้โปรด.....ขอแค่ให้เค้าลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง   ไม่ว่าอะไรก็จะยอมแลกทุกอย่าง...

    สิ่งที่พอจะทำได้ อย่างเดียวในตอนนี้คือ ภาวนา  อ้อนวอนต่อสิ่งที่มองไม่เห็น


    อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าหรือซาตาน ......ขอแค่ให้คนตรงหน้าลืมตาตื่นขึ้นมาฟังคำพูดของคนๆนี้


    "ชั้นรักเธอนะ จุนกี"

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×