คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : intro จักรยานสีเหลือง.
.
ท้องฟ้ามีเมฆสีขาว เรียงตัวกันเป็นรูปต่างๆ ถนนมีก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กต่างกัน ทุ่งนาเริ่มที่จะออกรวงข้าว สีเหลืองเขียวสลับกันไปดูแปลกตาดี ปั่นจักรยานสีเหลืองคู่ใจไปตามทางอย่างมีความสุข..
โครมมม ‘
ร่างผมกระแทกลงกับพื้น ปวดและเจ็บไปหมด ตอนนี้ไม่อยากนึกสภาพแขนที่ลงไปกระแทกพื้นก่อน ความรู้สึกว่าจักรยานสีเหลืองล้มลงพร้อมกับทับร่างของผมเอาไว้ โดยที่ผมยังนอนหลับตาด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆลืมขึ้นมาด้วยเสียงคนอีกคน
"นี่ ปั่นดูทางหน่อย" คนตัวสูง ผมสีแดง เปิดผมขึ้นให้เห็นหน้าผาก เสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อคลุมสีแดงลายสก๊อต ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ข้างหน้า พร้อมกับจักรยานสีแดงของตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้างๆ
" เอ่ออ ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษครับ เรามัวแต่เหม่อไปหน่อย ขอบโทษครับๆ " ผมรีบลุกขึ้น ก่อนจะปัดฝุ่นที่เปื้อนเล็กน้อย ผมโค้ง90องศาพูดขอโทดษซ้ำๆเหมือนคนบ้า เพราะครั้งนี้เขาผิดเองที่ไม่ดูทางข้างหน้า
คนข้างหน้ามองใบหน้าของผมอยู่นาน ก่อนที่จะเดินไปยกรถจักรยานสีเหลืองของผมที่ล้มข้างๆ และดูว่ามันเสียหายตรงไหนรึป่าว
"เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก จักรยานฉันไม่เป็นอะไร แต่นายมีแผลแถมจักรยานยังโซ่หลุดอีก"
ผมรีบก้มลงดูบาดแผลที่จักรยานผมได้รับ ผมมันโง่เองคันนี้ผมรักมันมาก ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงตัวเอง แต่เพราะพ่อให้เป็นของขวัญวันเกิดก่อนที่จะเสียไป..มันถึงสำคัญกับผมมาก
"เป็นอะไรรึป่าว ทำไมทำหน้าเสียใจขนาดนั้นละ" เขาก้มมองใบหน้าผมที่เอาแต่จับจักรยานที่มองดูด้วยความอาลัยอาวรณ์
"เอ่ออ ไม่เป็นอะไรครับ เดี๊ยวจ่ายค่าเสียหายให้นายก็ได้นะเผื่อรถเป็นอะไร แต่ขอเอาจักรยานไปให้ลุงมีแกดูให้ก่อนได้รึป่าว " ผมโค้งอีกครั้งด้วยความแนบน้อม
"ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย ฉันซ่อมเป็น ถอยไปสิ" เขาดันตัวผมที่ยืนขวางจักรยานไว้อยู่ แรงของเขาทำให้ผมเซไปยืนข้างๆจักรยาน ก่อนที่อีกคนจะก้มลงไปซ่อมโซ่ที่มันหลุดออก
10 นาที ผ่านไป
"นี่นาย !"
"ฮะ" ผมที่นั่งเล่น มองทุ่งนาที่สุดลูกตาอยู่เพลินๆก็รีบตอบรับอย่างเร็วเมื่อเสียงของอีกคนเรียก
"ฉันซ่อมไม่ได้"
"ฮาฮาฮา นายนี่นะ บอกแล้วว่าให้เอาไปให้ลุงมีดู"
"อย่ามาหัวเราะนะ นายชนฉันนะ" คนตรงหน้าหน้าเปื้อนไปด้วยสีดำจากโซ่จักรยาน ชี้หน้าผมก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมาอย่าขี้เล่น
"ขอโทษ งั้นเดี๊ยวขอเอาจักรยานไปซ่อมก่อนนะ" ผมเดินไปที่รถจักรยานก่อนที่จะเอาขาตั้งออก เพื่อจะเขนมันไปร้านซ่อมรถแถวๆนั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลไม่ใกล้การที่ผมยืนอยู่
"นี่"
"หือ??"
"ฉันไปด้วย"
"ฮาฮา ^^ ตามมาสิ เหนื่อยหน่อยนะ"
"เอาเถอะ สนุกดี" แปลกคนจัง..
และเราสองคนก็เขนจักรยานไปตามทางที่ลาดยาวออกไป..
" ขอบคุณมากครับลุง " ผมโค้งขอบคุณลุงมี จักรยานของผมเข้าอู่ของลุงมีไปเรียบร้อย โดนที่ลุงมีบอกให้ผมมาเอาจักรยานในวันพรุ่งนี้เพราะว่าคิวซ่อมของคุณลุงเยอะมา เพราะจักรยานผมอาการหนักโซ่หลุดแถมยังเบรกขาด ถ้าฝืนปั่นต่อผมอาจโดนรถชนตายก็ได้นะ
"ไม่เป็นไรไอ่หลานอย่าลืมมาเอาละ" ลุงมีพูดเสร็จก่อนจะก้มลงไปซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า ก่อนที่ผมจะเดินออกไปจากร้าน
"เป็นไงบ้าง"คนที่ตามผมมาถามผมหลังจากที่เห็นผมเดินออกมาจากร้านแต่ข้างกายไม่มีจักรยานกลับมาด้วย
"แหะๆ :( เบรกมันแตกโซ่หลุดลุงบอกต้องใช้เวลาซ่อมนานหน่ะ เลยบอกให้เรามาเอาพรุ่งนี้"
"อ่าวงั้นเหรอ" เขาดูสีหน้าเปลี่ยนไป หน้าเขาดูเป็นห่วงผมนิดหน่อย หรือผมคิดไปเอง
"ขอตัวกลับก่อนนะ ไว้โอกาสหน้าเราจะให้อะไรไถ่โทษแทน.." ผมโค้งอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเพื่อที่จะกลับบ้าน วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยกายไปหมด เหมือนร่างจะแยกออกจากกัน
"เดี๊ยว" คนข้างหลังดึงแขนผมรั้งเอาไว้เพื่อไม่ให้ผมเดินออกไป
"ฮะ?" ผมหันหลัง ส่งสายตาที่แสดงความสงใส คนตรงหน้าปล่อยมือ ก่อนที่จะขยับตัวออกห่างนิดหน่อย
"เอ่ออ คือ ขานายหน่ะมันยังเจ็บนะ ฉันไปส่ง"
"ฮาฮาฮา ด้วยจักรยานนายเนี่ยนะ"
"ใช่สิ นี่นายดูถูกจักรยานคันแพงของฉันหรอ"
"ไม่ใช่ๆ ค ค คือออ " ผมก้มหน้าต่ำลงเล็กน้อย หัวใจของผมมันเต้นแปลกๆจัง
"อะไร??"
"หนักนะ.." เสียงพูดผมแผ้วกว่ากว่าประโยคอื่น มันเป็นประโยคที่หน้าอายสำหรับตัวเอง ใครอยากจะบอกคนอื่นว่าอ้วนละ ฮืออ
"ฮาฮาฮาฮาฮาฮาฮาฮา นายนี่ตลกจัง"
"นี่น้ำหนักมันไม่ใช่เรื่องตลกนะ ! " ผมเหวี่ยงใส่ก่อนจะหันหลังเดินกลับบ้านเอง บังอาจมาหัวเราะผม คนอุส่าเป็นห่วงกลัวปั่นละเหนื่อย
"เห้ยๆ ไม่ใช่นะๆ" เขาคว้ามือผมไว้อีกครั้ง
ไว้อีกครั้ง ดึงตัวผมจนต้องมาเผชิญหน้ากับเขา
"อะไร?"
"ฉันหัวเราะเพราะนายหน่ะตัวเล็กนิดเดียว ยังทำยังกะว่าฉันจะปั่นไม่ไหวอย่างนั้นหล่ะ"
"ฮาฮาฮาฮา อย่ามาแก้ตัว^^"
"เห้ย จริงๆนะ"
"ก็ได้ๆ"
ไม่รู้อะไรดลใจเขาให้ไปส่งผม ลมโกรกเข้าหน้าอย่างสบาย เขาปั่นจักรยานไปเรื่อยๆทำให้เราได้มีเวลาได้คุยกัน เขาบอกว่าตัวเองมาจากรุงโซล มาพักที่บ้านพักต่างอากาศที่อยู่ข้างนอกตัวเมือง ซึ่งบ้านพักเขาอยู่ในหมู่บ้านของผม พรุ่งนี้เขาก็จะกลับบ้านแล้ว แปลกที่ระหว่างถามยังไม่มีคนเปิดปาดพูดชื่อของตัวเองเลย
"ถึงแล้ววว จอดๆ.. " ผมสะกิดไหล่กว้างๆเบาๆ เพราะว่าข้างทางข้างหน้านั้นเป็นบ้านของผมแล้ว
"อ่าวอยู่แถวนี้หรอ"
"ใช่แล้ว หลังนั้น"
"อ้ออ"
".."
".."
ผมกับเขาได้แต่ยืมมองกันอยู่นาน ผมรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าอายเขาหรืออะไร แต่หัวใจผมมันเต้นเร็วกว่าปกติ
" นี่คุยกันมาตั้งนาน.. นายชื่ออะไรหรอ.." ผมถามเขาเมื่อความเงียบทำให้ผมกับเขารู้สึกแปลกๆ ผมควรจะรู้ชื่อเขาได้แล้วสินะ
"จริงด้วยเราคุยกันมาตั้งนาน :) ฉันชื่อ ปาร์คชานยอลหน่ะ" ชื่อเพราะจัง..
"อ่าา"
"แล้วนายละ?"
"ฉันชื่อ บ บ บ"
"ชานยอลลลล !!!!!" ผู้หญิงวัยกลางคนวิ่งมาจากอีกฟากหนึ่งเหมือนจะเป็นแม่ของอีกคน เธอจับไหล่ชานยอลก่อนจะตีที่ไหล่เบาๆ
"นี่ !! หาตั้งนาน หายไปไหน พ่อเค้าหาแกจะแย่แล้วนะ"
"โอ้ยยแม่ เจ็บ อย่าตียอล เรื่องมันยาวเดี๊ยวเล่าให้ฟัง" ผมตลกชานยอลจังเขาทำแมนๆในสายตาคนอื่นแต่อยู่กับแม่เขานี่ทำตัวเป็นเด็กน้อยที่ยังกินนมขวดอยู่เลย
"กลับเร็วๆตามมา ฉันเหนื่อยนะ"
"ครับๆๆๆ" ชานยอลรีบจับจักรยานให้อยู่ตัว ก่อนจะรีบเตรียมตัวเดินเขนจักรยานปั่นตามแม่ของเขาไป
"นี่ !! แล้วเรามาเจอกันใหม่นะ !!!" ผมมองเขาจากด้านหลังที่เดินออกไป แต่กลับเป็นชานยอลที่หันกลับมาทำท่าวิ๊งใส่ก่อนที่จะตะโกนบอกลาผม เขานี่ทะเล้นจริงๆ ผมมองเขาจนเขาลับสายตาไป
"ฉันชื่อ บยอนแบคฮยอนนะ" พูดออกไปทั้งที่คนตรงหน้าไม่อยู่ ลืมไปเลยว่าลืมบอกชื่อ แต่ฉันพูดไปแล้วนะ ชานยอล นายคงได้ยิน ใช้หัวใจฟังเอานะ..
มันถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีสมัยมัธยมปลายของผมเลยละ 'ปาร์คชานยอล'
ความคิดเห็น