ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf first time ' chanbaek:3

    ลำดับตอนที่ #1 : intro จักรยานสีเหลือง.

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 57















    .


    ท้องฟ้ามีเมฆสีขาว เรียงตัวกันเป็นรูปต่างๆ ถนนมีก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กต่างกัน ทุ่งนาเริ่มที่จะออกรวงข้าว สีเหลืองเขียวสลับกันไปดูแปลกตาดี ปั่นจักรยานสีเหลืองคู่ใจไปตามทางอย่างมีความสุข..

     

     

     

     

     

     

     



    โครมมม 

     

     

     

     

     

     







    ร่างผมกระแทกลงกับพื้น ปวดและเจ็บไปหมด ตอนนี้ไม่อยากนึกสภาพแขนที่ลงไปกระแทกพื้นก่อน ความรู้สึกว่าจักรยานสีเหลืองล้มลงพร้อมกับทับร่างของผมเอาไว้ โดยที่ผมยังนอนหลับตาด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆลืมขึ้นมาด้วยเสียงคนอีกคน


    "นี่ ปั่นดูทางหน่อย" คนตัวสูง ผมสีแดง เปิดผมขึ้นให้เห็นหน้าผาก เสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อคลุมสีแดงลายสก๊อต ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ข้างหน้า พร้อมกับจักรยานสีแดงของตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้างๆ

     



    " เอ่ออ ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษครับ เรามัวแต่เหม่อไปหน่อย ขอบโทษครับๆ " ผมรีบลุกขึ้น ก่อนจะปัดฝุ่นที่เปื้อนเล็กน้อย ผมโค้ง90องศาพูดขอโทดษซ้ำๆเหมือนคนบ้า เพราะครั้งนี้เขาผิดเองที่ไม่ดูทางข้างหน้า
    คนข้างหน้ามองใบหน้าของผมอยู่นาน ก่อนที่จะเดินไปยกรถจักรยานสีเหลืองของผมที่ล้มข้างๆ และดูว่ามันเสียหายตรงไหนรึป่าว 

     



    "เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก จักรยานฉันไม่เป็นอะไร แต่นายมีแผลแถมจักรยานยังโซ่หลุดอีก"
    ผมรีบก้มลงดูบาดแผลที่จักรยานผมได้รับ  ผมมันโง่เองคันนี้ผมรักมันมาก ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงตัวเอง แต่เพราะพ่อให้เป็นของขวัญวันเกิดก่อนที่จะเสียไป..มันถึงสำคัญกับผมมาก

     



    "เป็นอะไรรึป่าว ทำไมทำหน้าเสียใจขนาดนั้นละ" เขาก้มมองใบหน้าผมที่เอาแต่จับจักรยานที่มองดูด้วยความอาลัยอาวรณ์



    "เอ่ออ ไม่เป็นอะไรครับ เดี๊ยวจ่ายค่าเสียหายให้นายก็ได้นะเผื่อรถเป็นอะไร แต่ขอเอาจักรยานไปให้ลุงมีแกดูให้ก่อนได้รึป่าว " ผมโค้งอีกครั้งด้วยความแนบน้อม



    "ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย ฉันซ่อมเป็น ถอยไปสิ" เขาดันตัวผมที่ยืนขวางจักรยานไว้อยู่ แรงของเขาทำให้ผมเซไปยืนข้างๆจักรยาน ก่อนที่อีกคนจะก้มลงไปซ่อมโซ่ที่มันหลุดออก

     

     




    10 นาที ผ่านไป

     




    "นี่นาย !" 



    "
    ฮะ" ผมที่นั่งเล่น มองทุ่งนาที่สุดลูกตาอยู่เพลินๆก็รีบตอบรับอย่างเร็วเมื่อเสียงของอีกคนเรียก



    "ฉันซ่อมไม่ได้"

     



    "ฮาฮาฮา นายนี่นะ บอกแล้วว่าให้เอาไปให้ลุงมีดู"

     



    "อย่ามาหัวเราะนะ นายชนฉันนะ" คนตรงหน้าหน้าเปื้อนไปด้วยสีดำจากโซ่จักรยาน ชี้หน้าผมก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมาอย่าขี้เล่น



    "ขอโทษ งั้นเดี๊ยวขอเอาจักรยานไปซ่อมก่อนนะ" ผมเดินไปที่รถจักรยานก่อนที่จะเอาขาตั้งออก เพื่อจะเขนมันไปร้านซ่อมรถแถวๆนั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลไม่ใกล้การที่ผมยืนอยู่


    "นี่"

     



    "หือ??"

     


    "ฉันไปด้วย"

     



    "ฮาฮา ^^ ตามมาสิ เหนื่อยหน่อยนะ"

     



    "เอาเถอะ สนุกดี" แปลกคนจัง..

     



    และเราสองคนก็เขนจักรยานไปตามทางที่ลาดยาวออกไป.. 

     

     

     

     

     

     





    " ขอบคุณมากครับลุง " ผมโค้งขอบคุณลุงมี จักรยานของผมเข้าอู่ของลุงมีไปเรียบร้อย โดนที่ลุงมีบอกให้ผมมาเอาจักรยานในวันพรุ่งนี้เพราะว่าคิวซ่อมของคุณลุงเยอะมา เพราะจักรยานผมอาการหนักโซ่หลุดแถมยังเบรกขาด ถ้าฝืนปั่นต่อผมอาจโดนรถชนตายก็ได้นะ  

     

     



    "ไม่เป็นไรไอ่หลานอย่าลืมมาเอาละ" ลุงมีพูดเสร็จก่อนจะก้มลงไปซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า ก่อนที่ผมจะเดินออกไปจากร้าน



    "เป็นไงบ้าง"คนที่ตามผมมาถามผมหลังจากที่เห็นผมเดินออกมาจากร้านแต่ข้างกายไม่มีจักรยานกลับมาด้วย


    "แหะๆ :(  เบรกมันแตกโซ่หลุดลุงบอกต้องใช้เวลาซ่อมนานหน่ะ เลยบอกให้เรามาเอาพรุ่งนี้"

     



    "อ่าวงั้นเหรอ" เขาดูสีหน้าเปลี่ยนไป หน้าเขาดูเป็นห่วงผมนิดหน่อย หรือผมคิดไปเอง

     



    "ขอตัวกลับก่อนนะ ไว้โอกาสหน้าเราจะให้อะไรไถ่โทษแทน.." ผมโค้งอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเพื่อที่จะกลับบ้าน วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยกายไปหมด เหมือนร่างจะแยกออกจากกัน


    "เดี๊ยว" คนข้างหลังดึงแขนผมรั้งเอาไว้เพื่อไม่ให้ผมเดินออกไป



    "ฮะ?" ผมหันหลัง ส่งสายตาที่แสดงความสงใส คนตรงหน้าปล่อยมือ ก่อนที่จะขยับตัวออกห่างนิดหน่อย



    "เอ่ออ คือ ขานายหน่ะมันยังเจ็บนะ ฉันไปส่ง"



    "ฮาฮาฮา ด้วยจักรยานนายเนี่ยนะ"



    "ใช่สิ นี่นายดูถูกจักรยานคันแพงของฉันหรอ"



    "ไม่ใช่ๆ ค ค คือออ " ผมก้มหน้าต่ำลงเล็กน้อย หัวใจของผมมันเต้นแปลกๆจัง

    "อะไร??" 



    "หนักนะ.." เสียงพูดผมแผ้วกว่ากว่าประโยคอื่น มันเป็นประโยคที่หน้าอายสำหรับตัวเอง ใครอยากจะบอกคนอื่นว่าอ้วนละ ฮืออ

     


    "ฮาฮาฮาฮาฮาฮาฮาฮา นายนี่ตลกจัง" 



    "นี่น้ำหนักมันไม่ใช่เรื่องตลกนะ ! " ผมเหวี่ยงใส่ก่อนจะหันหลังเดินกลับบ้านเอง บังอาจมาหัวเราะผม คนอุส่าเป็นห่วงกลัวปั่นละเหนื่อย


    "เห้ยๆ ไม่ใช่นะๆ" เขาคว้ามือผมไว้อีกครั้ง
    ไว้อีกครั้ง ดึงตัวผมจนต้องมาเผชิญหน้ากับเขา

    "อะไร?"



    "ฉันหัวเราะเพราะนายหน่ะตัวเล็กนิดเดียว ยังทำยังกะว่าฉันจะปั่นไม่ไหวอย่างนั้นหล่ะ"



    "ฮาฮาฮาฮา อย่ามาแก้ตัว^^" 



    "เห้ย จริงๆนะ"

    "ก็ได้ๆ"


    ไม่รู้อะไรดลใจเขาให้ไปส่งผม ลมโกรกเข้าหน้าอย่างสบาย เขาปั่นจักรยานไปเรื่อยๆทำให้เราได้มีเวลาได้คุยกัน เขาบอกว่าตัวเองมาจากรุงโซล มาพักที่บ้านพักต่างอากาศที่อยู่ข้างนอกตัวเมือง ซึ่งบ้านพักเขาอยู่ในหมู่บ้านของผม พรุ่งนี้เขาก็จะกลับบ้านแล้ว แปลกที่ระหว่างถามยังไม่มีคนเปิดปาดพูดชื่อของตัวเองเลย



    "ถึงแล้ววว จอดๆ.. " ผมสะกิดไหล่กว้างๆเบาๆ เพราะว่าข้างทางข้างหน้านั้นเป็นบ้านของผมแล้ว

     



    "อ่าวอยู่แถวนี้หรอ"

     



    "ใช่แล้ว หลังนั้น"

     



    "อ้ออ"

     


    ".."

     


    ".."


    ผมกับเขาได้แต่ยืมมองกันอยู่นาน ผมรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าอายเขาหรืออะไร แต่หัวใจผมมันเต้นเร็วกว่าปกติ



    " นี่คุยกันมาตั้งนาน.. นายชื่ออะไรหรอ.." ผมถามเขาเมื่อความเงียบทำให้ผมกับเขารู้สึกแปลกๆ ผมควรจะรู้ชื่อเขาได้แล้วสินะ



    "จริงด้วยเราคุยกันมาตั้งนาน :) ฉันชื่อ ปาร์คชานยอลหน่ะ" ชื่อเพราะจัง..



    "อ่าา" 



    "
    แล้วนายละ?"



    "
    ฉันชื่อ บ บ บ"








    "ชานยอลลลล !!!!!" ผู้หญิงวัยกลางคนวิ่งมาจากอีกฟากหนึ่งเหมือนจะเป็นแม่ของอีกคน เธอจับไหล่ชานยอลก่อนจะตีที่ไหล่เบาๆ



    "นี่ !! หาตั้งนาน หายไปไหน พ่อเค้าหาแกจะแย่แล้วนะ" 



    "
    โอ้ยยแม่ เจ็บ อย่าตียอล เรื่องมันยาวเดี๊ยวเล่าให้ฟัง" ผมตลกชานยอลจังเขาทำแมนๆในสายตาคนอื่นแต่อยู่กับแม่เขานี่ทำตัวเป็นเด็กน้อยที่ยังกินนมขวดอยู่เลย



    "กลับเร็วๆตามมา ฉันเหนื่อยนะ"



    "ครับๆๆๆ" ชานยอลรีบจับจักรยานให้อยู่ตัว ก่อนจะรีบเตรียมตัวเดินเขนจักรยานปั่นตามแม่ของเขาไป 



    "
    นี่ !! แล้วเรามาเจอกันใหม่นะ !!!" ผมมองเขาจากด้านหลังที่เดินออกไป แต่กลับเป็นชานยอลที่หันกลับมาทำท่าวิ๊งใส่ก่อนที่จะตะโกนบอกลาผม เขานี่ทะเล้นจริงๆ ผมมองเขาจนเขาลับสายตาไป 



    "
    ฉันชื่อ บยอนแบคฮยอนนะ" พูดออกไปทั้งที่คนตรงหน้าไม่อยู่ ลืมไปเลยว่าลืมบอกชื่อ แต่ฉันพูดไปแล้วนะ ชานยอล นายคงได้ยิน ใช้หัวใจฟังเอานะ.. 








    มันถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีสมัยมัธยมปลายของผมเลยละ 'ปาร์คชานยอล'

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×