ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Step into my World : The Truth of SATAN and The Lie of GOD

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 6 ไม่คาดคิด

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 56


     

    บทที่ 6 ไม่คาดคิด

    ทางด้านตะวันออกของศาลมหาเทพ เหล่านางฟ้าตั้งฉากเป็นแถวหน้ากระดานจนเต็มพื้นที่เพื่อเตรียมรับมือศัตรู ตามคำบัญชาของมิคาเอล ความตึงเครียดจนเกินบรรยายทำให้ราวกับมองเห็นเสาหินอ่อนที่ตั้งเรียงกันเป็นแถวตรงเพื่อค้ำหลังคาสั่นไหว

    เพียงแต่

    นั่นไม่ใช่สิ่งที่เหล่าปักษาขาวมโนภาพขึ้น เสาหินที่สั่นไหวรุนแรงส่งผลให้พื้นหินอ่อนที่พวกเขาหยัดร่างไหวสั่นตามราวกับกำลังจะเกิดแผ่นดินไหวในอีกไม่ช้า เพียงแค่ สิ่งที่ปรากฏต่อเบื้องหน้าเหล่าผู้ปกป้องไม่ใช่ของหยิบย่อยเช่นภัยธรรมชาติ

    วงแหวนแสงสีม่วงเฉิดฉายกินบริเวณส่วนหน้าของทางเดิน ตามด้วยร่างอันโดดเด่นทั้งหมด 7 ร่าง และกองทัพจำนวนมหาศาลของยมทูตกับลูซิเฟอร์

    "มายืนกันหน้าสลอนเชียวนะ" ยิ้มเสแสร้งสุดห่วยเปื้อนบนใบหน้าหล่อเหลาพร้อมคำพูดประเดิม

    "มีใครจะบอกพวกเราว่า'ยินดีต้อนรับ'บ้างมั้ยครับ?"

    ซาตานชงมุกที่ไม่เห็นจะตลกตรงไหนในสายตาเรย์ จอห์นทัดผมยาวไว้ข้างหูขวา ส่วนยมบาลกอดอกอย่างองอาจ คริสและโบล์ตยืนนิ่งเงียบ

    "บะ.....บ้าน่า นั่นมันท่านยมบาลแห่งนรกนี่ ไหนว่าตายไปแล้วไง"

    นางฟ้าหนุ่มคนหนึ่งพูดติดขัดเพราะช็อคกับภาพตรงหน้า ซึ่งดูเหมือนใครก็ตามที่ได้เห็นก็จะเกิดอาการแบบเดียวกัน

    "ไม่ใช่! ยังไม่หมดแค่นั้น คนที่สวมผ้าพันคอสีน้ำเงินนั่น...มันองค์ชายลูอิส!"

    ประโยคนั้นทำให้เหล่านางฟ้าจับจ้องไปยังร่างโปร่ง เมื่อความจริงเผยออกมาต่อหน้าต่อตา พวกเขาหลายคนเกิดอาการคล้ายต้นขาอ่อนแรงชั่วขณะ

    "จะว่าไปไอ้พวกที่อยู่ตรงนั้นมันเป็นพวกที่เราคิดว่าน่าจะตายไปแล้วทั้งนั้น ทั้งจอมทัพคริสกับโบล์ตด้วย"

    "ใช้สามัญสำนึกปกติตัดสินกับพวกนี้ไม่ได้จริงๆ"

    "ใครว่าล่ะ ได้อยู่เรื่องหนึ่ง"

    "?"

    "เมื่อมันโผล่เผชิญหน้ากับพวกเรามันก็คือศัตรู ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น"

    เหล่านางฟ้าที่ราวกับไขโจทย์ตัวเลขที่ยากที่สุดในโลกได้แล้วจ้องศัตรูด้วยแววตาแน่วแน่ พวกเขาเห็นชายในชุดคลุมเกาหัวอันยุ่งเหยิงก่อนหางตาจะสบเข้ากับร่างข้างตัวที่ทรุดลง

    "เฮ้ย แคนโนล!!!"

    นางฟ้าอีกคนเรียกสหายที่ตอนนี้หน้าผากมีรอยดำกลมที่กำลังสมานตัวเอง

    "คุณเรย์มอนด์เปิดฉากได้เท่สุดๆ เลยครับ"

    ควันดำลอยฉุยจากปากกระบอกทรงกลมคือป้ายบอกว่าสงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    "ฆ่ามัน!!!" ยมบาลประกาศกร้าว เพียงเท่านั้น เหนือท้องฟ้าราวกับถูกปกคลุมด้วยเมฆดำก่อนฝนจะตก ลมจากปีกที่กระพือไม่ทำให้เรย์ ลุค จอห์น ซาตาน และยมบาลหยุดวิ่งบุกตะลุยด้วยความเร็วสูง

    "เอาล่ะ...ขอเคลียร์ด่านแรกก่อน"

    ซาตานพึมพัมเมื่อเห็นว่านางฟ้าทั้งหลายไม่ยอมขยับตัว เขาวิ่งเร็วจนผ้าคลุมสีเขียวลู่ติดร่างผอม ฝ่ามือซีดประกบกันดัง ปั่บ แสงสีทองที่ตอนแรกไม่มีอยู่ปรากฏขึ้นเป็นกำแพงกั้นระหว่างเสาสองต้น ก่อนมันจะสลายไปเป็นละอองแสง

    กำแพงทองสลายไปทีละชั้นๆ พวกนางฟ้าใช้คาถานี้เพื่อป้องกันการบุกรุกไว้กับทุกระยะของเสาจนซาตานยังรู้สึกขำ

    "บัดซบเอ้ย นี่มันคาถาที่ท่านอัยการสูงสูดกับพระเจ้าร่วมกันสร้างขึ้นเลยนะ มันยังคลายได้สบายๆ เลยเรอะ!"

    นางฟ้าวัยกลางคนสบถอย่างเจ็บใจ กองทัพของเหล่าผู้รุกรานกระชั้นเข้ามาใกล้มากขึ้น ทำให้นางฟ้าแถวหน้าทุกคนกระชับอาวุธในมือของตน

    "เรียบร้อย ฮึ แล้วก็จะไม่มีกำแพงใดกั้นเราจากกันได้~"

    ผู้ทลายคาถาฮัมเพลงและฉีกยิ้มให้กับเสียงแรกอันเป็นเสียงระเบิดของคาถา ความกลลาหลเกิดขึ้นทันทีที่สองฝ่ายปะทะกัน เสียงร้องคร่ำครวญของความเจ็บปวด กลิ่นฝุ่นควันแห่งอำนาจคาถา รสขมในลำคอของความแห้งผาก และภาพอันโหดร้ายของการฆ่าฟัน สิ่งเหล่านี้ไม่มีทางหดหายไปจนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะแตกพ่าย

    ลุคที่สะบั้นคอหอยนางฟ้าสาวด้วยดาบเงินอาศัยจังหวะที่อาร่างยักษ์เผลอ ฉุดร่างผอมของซาตานที่กำลังเพลิดเพลินกับการทรมานกลุ่มนางฟ้า 4 คนด้วยการกรีดที่ใบหน้า

    "ทำตามแผน"

    ลุคเน้นเสียงและลากชายผมทองมาสมทบยังเรย์กับจอห์นที่รออยู่แล้ว ยมบาลผู้ไม่รู้ตัวเลยว่าตนถูกทิ้งฟาดฟันศัตรูด้วยกระบี่เงินและทานรับอาวุธด้วยทวนเพลิงอันยาว

    "ลุงแล้วพวกมันล่ะ!?!"

    คริสตะโกนโดยไม่ได้หันหน้ากลับมาเนื่องจากซัดคลื่นน้ำใส่เหล่านางฟ้าจนกระเด็นออกไป ยมบาลสำรวจรอบตัวเมื่อไม่เห็นร่างของหลานชาย เขาจึงระเบิดความโกรธออกมาเป็นเสาเพลิง นางฟ้าผู้หลบไม่พ้นไหม้เป็นจุลทันที

    "มันเริ่มดำเนินตามแผนแล้วสินะ"

    ยมบาลคำรามได้เพียงชั่วครู่ เสียงคมดาบแล่นตัดอากาศมาจากด้านหลังของเขา

    "โดนมันกล่อมอะไรมารึท่านยมฯ ท่านถึงได้กลายเป็นสุนัขรับใช้เจ้าผีห่าซาตานเช่นนี้"

    ทว่าทวนเพลิงที่อยู่ในมือเจ้านรกทานดาบนั้นไว้ได้

    "ท่านรองอัยการ...ข้าไม่มีความแค้นใดๆ กับท่าน พวกเรากำลังถูกหลอก"

    "เกรงว่าจะเป็นท่านคนเดียวมากกว่าที่ถูกมันหลอก"

    ปากบางที่มีเคราครึ้มเป็นกรอบยกยิ้มพร้อมส่งดวงตาสีอำพันมาให้เจ้านรกอย่างล้อเลียนก่อนว่าต่อ

    "ข้าเข้าใจความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ท่านมีต่อพี่ชายดี ข้าไม่อาจทราบได้ว่าท่านได้ยินอะไรมาจากมัน แต่ท่านเชื่อมันงั้นหรือ? เชื่อสิ่งที่มันพูดโดยเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงของมันไม่ออกงั้นเลยหรือ?"

    "ข้าถึงอยากไปถามเองกับปากไง ถอยข้าไป"

    ได้ยินดังนั้นรองอัยการตัวผอมสูงในชุดเชิ้ตสีน้ำเงินจึงหัวเราะในลำคอ

    "ถ้าจะกระทำเช่นนั้นให้ได้ข้าคงต้องขอเคาะกะโหลกท่านสักครั้งแล้วล่ะ เคยได้ยินมาบ้าง แต่นึกไม่ถึงว่าสมองท่านจะทึบได้ถึงเพียงนี้"

    รองอัยการพับแขนเสื้อขึ้น พริบตาที่ร่างเขาหายไป ยมบาลเองก็หายไปเช่นกัน

    แค่อึดใจ เสียงระเบิดกัมปนาทก็ดังขึ้นโดยที่คริสและโบล์ตก็ไม่มีแม้เวลาที่จะปลีกร่างมาช่วยเจ้านายของตน

     

    "นับว่าเป็นไปตามแผนครับ นี่เราก็ใกล้ถึงประตูที่เป็นที่ตั้งของมิติแล้ว"

    ซาตานวิ่งฝ่าวงล้อมแห่งสงครามพร้อมกับลุค เรย์และจอห์น ซึ่งพยายามเลี่ยงการต่อสู้ให้มากเท่าที่จะทำได้ และต้องคอยหลบลูกหลงที่มักจะซัดเข้ามาเป็นระยะ ชายร่างแกร็นที่วิ่งนำหน้าแบมือ จากนั้นแสงสีฟ้าเล็กๆ ระเบิดออกมาวูบหนึ่ง นาฬิกาทรายเรือนจิ๋วตกใส่มือหนังหุ้มกระดูกอันขาวซีด

    "รีบหน่อยก็ดีนะครับ เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงกว่าๆ เอง"

    ซาตานเอ่ยหลังจากดูก้อนกรวดสีรุ้งในนาฬิกาทรายค่อยๆ ร่วงลง

    "ไปเอามาจากไหนน่ะ?"

    ลุคถามหลังจากที่เขาเห็นซาตานทำมันหายไปราวกับเล่นมายากล

    "ก็คนแรกที่ผมจัดการไปนั่นแหละครับ ไม่สำคัญอะไรหรอก คุณจอห์นระวังให้เราด้วยนะครับ"

    ชายหน้าสวยตอบรับและดันขาแว่นด้วยนิ้วก้อย

     

    "1...2..3...4 ดูสิ เราเจอใครกันแอร์ไลท์" อัยการสูงสุดนั่งยองอย่างใจเย็นอยู่บนโต๊ะพิพากษาขนาดเท่าเรือเหาะ เขาใช้นิ้วนับกลุ่มคนที่กำลังวิ่งแหวกความสับสนวุ่นวายของสงครามได้อย่างโดดเด่นในสายตาของเขา

    "ไอ้ผ้าคลุมเขียวๆ นั่นไม่แปลกใจ ไอ้หนุ่มผมดำนั่นก็ไม่ ไอ้ผมยาวหน้าแว่นก็ไม่ แต่ที่ตกใจจริงๆ คือหมอนั่น..."

    อัยการฯหันหน้าไปหาองค์รักษ์ที่ยืนเป็นหุ่นอยู่ด้านหลัง

    "...นั่นมันองค์ชายที่บอกว่าตายไปแล้วไม่ใช่เรอะ"

    "มีความเป็นไปได้สูงขอรับ"

    "วิ่งหูตาเหลือกไปที่แฮพเวนเกทเลยแฮะ" อัยการดันตัวลุกขึ้นพร้อมถอนหายใจ "ตัวบิ๊กๆ ออกโรงกันเกลื่อนแล้ว เราก็ไปกันบ้างเหอะ"

    ว่าจบ ชายผู้อยู่ตำแหน่งสูงสุดแห่งศาลฯก็กระโดดลงจากโต๊ะไป ตามด้วยแอร์ไลท์ที่ยังขมึงหน้าเช่นเคย

     

    "เฮ้อออออ...เกือบไปอีกแล้วนะครับ ขอบคุณนะครับคุณจอห์น" ซาตานหันกลับมายิ้มให้หลังจากที่คลื่นน้ำขนาดยักษ์และลูกศรจำนวนมากที่พุ่งมาจากข้างหน้าหายไปและไปปรากฏด้านหลังของพวกเขาแทน จอห์นเพียงผงกหน้ารับก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

    "นายท่าน!!!องค์ชาย!!!ระวังครับ!!!"

    คำเตือนของจอห์นไม่ทันการ เมื่อร่างในปีกขนนกสีขาวปลอดบินโฉบมาจากด้านหน้า

    ร่างแรกคว้าคอของซาตาน อีกร่างคว้าคอของลุคด้วยกำลังมหาศาลก่อนจะเหินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

    ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วจนแม้แต่กระสุนดำของเรย์เองยังตามไปไม่ทัน

    "คุณเรย์มอนด์! คุณจอห์น! ดำเนินแผนการต่อไปเลยครับไม่ต้องห่วงพวกเรา!"

    แม้เสียงเล็กจะอยู่ห่างไปไกลแล้วแต่เรย์ยังพอจับใจความได้ เขารับของที่อยู่ในบอลแสงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ก่อนจะฉุดแขนจอห์นที่มองตามร่างที่กำลังบินห่างไปจนภาพของการต่อสู้บนฟ้าบดบังมิดและออกวิ่งอีกครั้ง



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×