ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Step into my World : The Truth of SATAN and The Lie of GOD

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5 ผู้ที่น่าพรั่นพรึงที่สุดแห่งศาลมหาเทพ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 56


     

    บทที่ 5 ผู้ที่น่าพรั่นพรึงที่สุดแห่งศาลมหาเทพ

    ความสับสนวุ่นวายแผ่กระจายไปแทบทุกตารางนิ้วบนผืนโลก ภัยธรรมชาติกำลังคุกคามทุกชีวิตที่พยายามหาทางรอด องค์กรผู้มีหน้าที่ปกป้องประชาชนของแต่ละประเทศกำลังทำงานอย่างเต็มความสามารถ สถานหลบภัยฉุกเฉินถูกตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอกับจำนวนคนและความตื่นตระหนกอันมหาศาล เหล่ามนุษย์ที่ยังรอดทำทุกวิธีที่จะมีชีวิตอยู่ยังวินาทีถัดไป พวกเขาและเธอวิ่งหนีเศษซากต่างๆ ข้ามซากศพที่นอนเกลื่อนกลาด ซากอิฐหินดินปูนที่กองพะเนิน และอาคารสูงหลายแห่งกำลังจะถล่มลงมาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

    แผ่นดินไหวสร้างความเสียหายใหญ่หลวงเกินกว่าจะประเมินค่า ถนนหลายแห่งแยกแตกออกจากกัน ท่อแก๊สใต้ดินส่งเสียงพ่นออกมาคลุ้งเคล้ากับฝุ่นควัน บางประเทศมีภูเขาไฟระเบิดยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงให้แก่ชีวิตเล็กๆ อย่างมนุษย์ยิ่งขึ้นไปอีก ก้อนเมฆบนท้องฟ้าดำทะมึนและขมวดตัวแปรเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างรวดเร็วน่ากลัว พร้อมส่งเพชฌฆาตที่เกิดจากการที่อากาศเสียดสีกันลงมาเป็นระยะ

    หากแต่เหล่ามนุษย์เบื้องล่างมิได้รู้เลยว่า เหนือก้อนเมฆสีคล้ำหมองขึ้นไป เหล่าผู้สยายปีกได้ทำสงครามกันอย่างดุเดือด

    ร่างที่ปกคลุมด้วยปีกขาวและดำบินว่อน บางร่างร่วงหล่น ขนปีกฉีกขาดปนเป หลังสงครามเริ่มต้นได้ไม่กี่ชั่วโมง จำนวนพลของทั้งสองฝ่ายลดลงไปจนสังเกตได้ถนัดตา ทว่า เสียงโลหะยังคงปะทะกันดังก้อง เสียงร่ายคาถายังคงดังขึ้นจากทุกทิศ เสียงอำนาจของคาถาไม่เคยขาดช่วงไปเกิน 2 วินาที บัดนี้ร่างในปีกขาวราวกับกำลังถูกกลืนกินด้วยความมืด นางฟ้าเริ่มเสียเปรียบทุกขณะด้วยกำลังพลที่น้อยกว่าเป็นทุน หากเฉลี่ยนางฟ้า 1 คนจำเป็นต้องสู้กับลูซิเฟอร์ให้ได้มากกว่า3 คนขึ้นไปถึงจะได้รับชัย เพียงแต่ความจริงยากเกินกว่านั้น

    เหล่าลูซิเฟอร์ที่มองเห็นจุดได้เปรียบของฝ่ายตนยิ่งต่อสู้ด้วยจิตใจฮึกเหิมยิ่งขึ้น แต่เหล่านางฟ้าเองก็ไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว

    นางฟ้าหนุ่มคนหนึ่งฟาดฟันลูซิเฟอร์นับสิบคนด้วยท่วงท่าราวกับร่ายรำ ปีกดำของพวกเขาฉีกขาดและร่วงหล่นหายไปในกลีบเมฆ นางฟ้าจ้องลูซิเฟอร์ผมทองที่ถูกตรึงร่างกลางอากาศเพียงครึ่งวินาทีก่อนจะพุ่งตัวด้วยความเร็วพร้อมดาบเงินในมือ

    โครม!!!

    สิ้นเสียง ลูซิเฟอร์หนุ่มหลุดจากพันธนาการ เขากลับตัวและทรงอยู่ด้วยปีกดำ

    "นายโอเคมั้ยมันดี้"

    เทอร์รี่ การ์ดเนอร์ ถามโดยไม่ละสายตาจากร่างที่ตัวเองคว้าคอไว้อยู่ นางฟ้าหนุ่มพยายามดิ้นรนจากท่อนแขนยักษ์แต่ไม่สำเร็จ

    "ครับ คุณเทอร์รี่ ขอบคุณมากเลยครับ"

    มองโกล มันเดย์ ตอบพร้อมเสียงหอบหายใจ เทอร์รี่โยนนางฟ้าขึ้นและทุบจากด้านบน ร่างนางฟ้าผู้โชคร้ายหักสองท่อนเป็นรูปตัววีก่อนจะถูกก้อนเมฆกลืนกินหายไป

     

    เป็นอีกร่างจากนับร้อยของผู้สวมชุดขาวที่ร่วงหล่นราวโดนผลกระทบจากแรงดึงดูดของผิวโลกพร้อมรอยดำเล็กๆ 2 จุดที่คอ การโจมตีของเอ็ดเวิร์ด บราวน์ รวดเร็ว เงียบงัน ผู้ที่รู้ตัวว่าตัวเองตกเป็นเป้าโจมตีของชายผู้นี้ มีเพียงแค่ผู้ที่รู้ว่าชะตาตนเองขาดแล้วเท่านั้น

    เปรี้ยง!!!

    "ขอบคุณครับคุณแอนนิต้า"

     ริคาร์โด้ ซี สวอร์ดเอ่ยพร้อมปัดมือทั้งสองเพื่อไล่ไฟฟ้าสถิตย์ออก แอนนี่โค้งตัวให้และไม่พูดอะไรต่อ ก่อนดวงตาดำคล้ายกับของพี่ชายจะเบิกโพลง

    "คุณริคาร์โด้!!"

    แอนนี่วาดมือทันทีที่ชายหน้าหนวดหันกลับไป นางฟ้าคนหนึ่งที่เงื้อดาบฟันลงมายังร่างชายหนุ่มกลับถูกกลุ่มก้อนความมืดรั้งดาบเอาไว้

    "ขอเน้นๆ อีกสักรอบครับ เอาแบบเมื่อกี้เลยนะครับ"

    ริคาร์โด้รอจังหวะที่ก้อนสีทมิฬขยายตัวขึ้นจนกลืนกินนางฟ้าตนนั้น เพียงแต่ก้อนความมืดขนาดเท่าตัวคนได้ดูดกลืนพรรคพวกในชุดขาวสะอาดที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาด้วย ชายหนุ่มรอจนคนที่ 30 ถูกดูดเข้ามาก่อนจะตบฝ่ามือตัวเองอย่างรุนแรง กระแสไฟฟ้าแรงสูงสว่างจ้าอยู่ในบอลสีดำขนาดใหญ่เพียงชั่วครู่บอลก็ได้คลายตัวออก ภายในเหลือเพียงละอองแสงที่เตรียมตัวระเหยขึ้นฟ้าไป

     

    เป็นอีกครั้งที่เกาทัณฑ์นับสิบดอกที่แหวกอากาศมาจากทางด้านหลังไม่สามารถทำให้ ลีอาห์ ดิซอน เกิดบาดแผลได้ เมื่อครั้งนี้เธอกระโดดม้วนหลังหลบก่อนจะซัดมีดสั้นและอาวุธเล็กจิ๋วจำนวนนับไม่ถ้วนไปที่กลางหลังของนางฟ้าผู้แผลงศร

    "จะลอบกัดนินจามันเร็วไป...เอาเป็นห้าพันหกร้อยสามสิบเอ็ดปีนะจ๊ะ"

    หญิงสาวแย้มยิ้มที่ดีกรีความสดใสซุกซนอยู่ในระดับพรีเมี่ยมพลางมองร่างที่ระเหยเป็นละอองแสงด้วยหางตา ก่อนเธอจะกระพือปีกมุ่งไปยังเป้าหมายถัดไป ซึ่งกำลังฟาดฟันอยู่กับลูซิเฟอร์สามตน

     

    กางเขนแสงสว่างวาบขึ้นกลางสันหลังของนางฟ้าสาวนางหนึ่งซึ่งกำลังจะร่ายคาถาใส่ลูซิเฟอร์เพศเดียวกัน

    "เอาสิคะคุณแกรนด์สโตน"

    หลังเสกกางเขน สเตฟานี่กอดอกพร้อมกระพือปีกบางเบาอย่างใจเย็น เธอสำรวจคู่สนทนาหลังไม่มีคาถาใดๆ ปลิดชีวิตนางฟ้าสาวผู้กำลังกัดฟันเจ็บแค้น เธอถอนหายใจพลางหลับตา

    "ที่นี่สนามรบนะคุณแกรนด์สโตน ถ้าเราไม่ฆ่าเหยื่อ เหยื่อก็จะฆ่าเรา"

    ฟังจบ อลิซขบฟันแน่นก่อนจะร่ายคาถาด้วยความไม่เต็มใจอย่างที่สุด ไม่นานวงแหวนสีฟ้าสว่างจ้าใต้เท้าของนางฟ้า พริบตา ผลึกน้ำแข็งปลายแหลมราวคมมีดตกใส่วงแหวนที่เสมือนกับจุดชี้เป้า

    "บทที่122 ฉัตรทองราชสีห์นภา"

    หญิงสาวทั้งสองแปลกใจที่จู่ๆ ก็มีเสียงนุ่มเรียบของผู้หญิงดังขึ้นก่อนจะโดนเสียงอึกทึกคล้ายกระเบื้องหนักๆ แตกก้อง ไอเย็นราวเหมันต์กาลแผ่กระจายทั่วบริเวณ

    "เมื่อก่อนท่านก็เป็นเหมือนๆ กับข้าพเจ้า เป็นนางฟ้าอยู่ร่วมสวรรค์..."

    เสียงเดิมกับที่สเตฟานี่และอลิซได้ยินกล่าวเมื่อไอเย็นถูกปัดเป่า เผยให้เห็นร่างบางในผมยาวสีทอง หน้าผากคาดรัดเกล้ารูปโล่สีเงิน ดวงตาสีฟ้ามองพวกเธอราวกับกำลังเสียวฟัน อลิซเห็นแสงทองจืดจางค่อยๆ หดตัวหลังจากนางฟ้าสาวที่เธอสังหารไปเมื่อครู่ยังคงมีชีวิตอยู่

    "...เจอกันครั้งนี้ท่านก็ยิ่งตกต่ำลงไปอีกนะ ศาสตราจารย์เอลิเซีย"

    ใบหน้างดงามของนางฟ้าแสดงความปวดร้าว เธอร่อนลงเบื้องหน้าทั้ง 2 ลูซิเฟอร์สาว

    "ว้าว นี่ลูกศิษย์คุณเหรอคุณแกรนด์สโตน" สเตฟานี่ยิ้มคล้ายเด็กพลางมองสำรวจร่างบางในชุดเสื้อกล้ามรัดรูปสีขาวกับมินิสเกิร์ตสีครีมและพงกหน้าน้อยๆ

    "ท่านมิโรติค..."

    "ใช่ หากไม่นับองค์ชายลูอิสซึ่งสิ้นไปแล้ว ข้าพเจ้าก็คือศิษย์เอกของท่านอีกคน"

    นางฟ้านามมิโรติคหลับตาเสมือนรำลึกถึงอดีตแสนหวานก่อนลืมขึ้น ปีกสีขาวของเธอกระพืองดงามอยู่ด้านหลัง

    "วิชาความรู้ที่ท่านถ่ายทอดให้ข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าได้เป็นผู้นำแห่งหน่วยทศพรที่ขึ้นตรงกับท่านมิคาเอล อัลฟองเซ่ศิษย์ของท่านอีกคนก็อยู่ในหน่วยนี้ ข้าพเจ้าเองเป็นหนี้บุญคุณท่าน เพราะฉะนั้นขอให้ท่านถอยทัพกลับไปเสียเถอะ"

    ว่าจบมิโรติคชักมีดสั้นคู่ออกมาจากฝักที่ติดอยู่ที่สะโพก อลิซเพียงขมวดคิ้ว แต่สเตฟานี่ตั้งคำถามกับการกระทำนั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มิโรติคมองหน้าแจ่มใสนั้นด้วยแววตาดูถูก

    "ข้าพเจ้ารู้เต็มอกว่าถึงจะขอเช่นนั้นแต่พวกท่านเดินมาไกลเกินกว่าจะถอย เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงรู้ว่าสิ่งที่ขอจะเกิดขึ้นได้แต่เพียงในความฝัน"

    "อ๋อ...เข้าใจล่ะ แต่หันดาบใส่ครูบาอาจารย์มันบาปนะเธอ ไหนบอกสำนึกบุญคุณนักหนาไง"

    สเตฟานี่เลิกกอดอก ดาบแสงสว่างจ้ากระชับอยู่ในมืออีกครั้ง ผีเสื้อแสงเองก็บินคลอเคลียไปมาราวกับกำลังเล่นสนุก มิโรติคแลดูแปลกใจกับอาวุธที่เธอใช้

    "ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านคือใคร แต่ท่านกล้าพูดเรื่องความบาปกับผู้อื่นได้เต็มปากเต็มคำเชียวหรือ การหยุดยั้งบุคคลที่เคารพเพื่อไม่ให้เดินผิดทาง ท่านคิดว่ามันคือการทำบาปงั้นหรือ แล้วอย่างท่านล่ะ ปีกที่ติดอยู่บนหลังเป็นสีดำก็เพราะถูกสาป พระองค์เจ้าจะมอบคำสาปให้แก่ผู้ที่มีความผิดจริงๆ นั่นคือความบาปในสายตาของข้าพเจ้า และการต่อต้านความบาปทั้งปวงคือหน้าที่ของผู้ผดุงคุณธรรม ท่านไม่คิดเช่นนั้นรึ?"

    สเตฟานี่ฉีกยิ้มสยดสยองที่แม้แต่อลิซเองก็ยังเคยเห็นเพียงแค่ครั้งเดียว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เสียงเนิบเซ็กซี่สั่นกระเส่ารับกับร่างกายส่งผลให้เส้นขนที่สันหลังจนถึงต้นคออลิซลุกชัน

    "หึๆ...งั้นก็ง่ายเลย...ถ้าพูดถึงเรื่องคุณธรรมน่ะนะ"

    สาวผมบ๊อบหายไปเพียงเสี้ยวพริบตา

    เคล้ง!!!!!

    คลื่นของจิตสังหารระเบิดออกเป็นวงกลมจนนางฟ้าและลูซิเฟอร์ที่อยู่โดยรอบถูกผลักกระเด็นไปไกล อลิซเองถ้าหากไม่กั้น'ภูผาหิมะจันทรา'ก็คงถูกคลื่นจิตสังหารดีดกระเด็นไปเช่นกัน

    ไม่เพียงแค่ 2 สาวที่ได้เริ่มปะทะกันกับผู้นำแห่งทัพฟ้าแล้ว เหล่าผู้นำของลูซิเฟอร์เองก็ได้เริ่มทำการต่อสู้กับบุคคลต่างๆ ของหน่วยทศพรแห่งสวรรค์เช่นกัน โดยเทอร์รี่ได้ปะทะกับแองเจลล่า สุดยอดนักวางแผนและเคลลิโอส จอมพลัง ริคาร์โด้ถูกดูดกลืนสายฟ้าโดยเรเม่นางฟ้าหนุ่มผู้เฉื่อยชา เอ็ดเวิร์ดโดนล้อมกรอบโดย 3 นางฟ้าอันประกอบด้วย มิลตันนางฟ้าสาวผู้ควบคุมพายุ นักเวทย์มนต์ซิลโฮล และคิชเช่สายสนับสนุน ลีอาห์และแอนนี่ถูกโจมตีโดยคาถาควบคุมความฝันของอัลฟองเซ่ รองหัวหน้าหน่วย โนวและอันโนว สุดยอดแฝดผู้ชี้เป็นชี้ตาย

     

    ณ ศาลมหาเทพ

    "อีกนานเท่าไหร่ประตูมิติที่เชื่อมต่อกับสวรรค์จึงจะปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์?"

    "ไม่เกินสองชั่วโมงขอรับท่านอัยการสูงสุด"

    "งั้นรึ?" ชายผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ตอบรับสั้นๆ เขาหัวเราะออกจมูกครั้งหนึ่งก่อนจะพูดด้วยอารมณ์สบายๆต่อ "เชื่อรึเปล่าแอร์ไลท์ เมื่อนานมาแล้วข้าเชื่อว่าต้องมีวันนี้เข้าสักวัน"

    นางฟ้านามแอร์ไลท์ไม่ตอบ เขาเพียงเอามือไพล่หลังและจ้องตรงไปข้างหน้าซึ่งมีเพียงภาพของไม้สลักรูปตาชั่งสยายปีกอันเป็นสัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนโต๊ะพิพากษาอย่างแข็งขันเท่านั้น อัยการสูงสุดเคาะนิ้วกับที่วางแขนของบัลลังก์และหัวเราะอีกครั้ง

    "ไม่รู้ว่าข้าคิดผิดหรือเปล่าที่ไปสงสัยท่านผู้สร้างสรรค์สรรพสิ่ง แต่ข้าชักได้กลิ่นแหม่งๆ ของเรื่องนี้เสียแล้วสิ..."

    สิ้นคำ ร่างอันยิ่งใหญ่จนสูงเกินกว่าจะเห็นใบหน้าหายวับไปกับไม้เลื้อยสีรุ้งที่เข้าม้วนพันบัลลังก์ ก่อนจะแทงยอดออกมาที่ด้านหน้าของแอร์ไลท์ มันแตกกิ่งก้านใบสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและบิดพันไปมาจนก่อรูปโค้งคล้ายกรอบบานประตู เมื่อมันสว่างจ้าจนถึงขีดสุด ร่างหนึ่งที่เดินออกมาจากกรอบไม้เลื้อยนั่นเป็นชายหนุ่มผมสีโกลเด้นมอคค่ายาวจนถึงกลางหลัง รวบด้วยวงแหวนโลหะที่ปลาย ใบหน้าคมเข้มดุดันด้วยดวงตาสีเดียวกัน

    "ข้าไม่เคยรู้สึกทรมานกับการที่ตัวเองเป็นคนที่เดาอะไรไม่เคยผิดขนาดนี้เลย"

    อัยการสูงสุดยิ้มที่ความอ่อนโยนอยู่ในระดับต่ำ พวกเขากำลังจะก้าวเข้าร่วมในสนามรบเฉกเช่นเดียวกับเหล่านางฟ้า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×