คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
บทนำ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
"ล่ะล่ะล้าลัลลา~"
เด็กหญิงในชุดกระโปรงสีสันสดใสปักลายสัตว์น่ารัก ฮัมเพลงที่ไม่เป็นทำนองด้วยเสียงที่แจ่มใสของวัยเยาว์ในขณะที่เจ้าตัวกำลังขะมักเขม้นกับการใช้ฝักบัวขนาดสำหรับเด็กรดน้ำไม้ดอกในกระถางซึ่งวางเรียงรายอยู่บนระเบียงที่สร้างขึ้นจากไม้
"ให้อาหารแล้วก็ออกดอกเยอะๆ นะจ๊ะ~"
คำพูดของเด็กสาวที่เพิ่งผ่านวัยห้าขวบมาได้อาทิตย์เศษช่างบริสุทธิ์ราวน้ำใส หนูน้อยวางบัวรดน้ำอันเบาหวิวลงกับพื้นระเบียงข้างกระถางดอกไม้สีส้มแสดก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังห้อง ทิ้งให้พฤกษาพรรณหลากสีสันบานสะพรั่งรับไออุ่นจากรางแดดเล็กๆ ยามเช้า ที่สาดส่องลอดระแนงไม้ขาวอันงดงามเมื่อถูกประดับด้วยไม้เลื้อยดอกสีชมพู
คึ่ก
"เอาล่ะ..."
หนูน้อยปั้นหน้าจริงจังและเลิกฮัมทุกคำพูดเป็นทำนองเพลงหลังจากปิดประตูกระจกบานเลื่อน เธอเช็ดมือที่แฉะชุ่มกับชายกระโปรงที่ขลิบระบาย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลหวานฉ่ำวาววับอย่างมีความหวัง ก่อนจะวิ่งเตาะแตะไปยังชั้นหัวเตียง ที่นอกจากจะมีโคมไฟหรูราวกับเครื่องประดับในห้องขององค์หญิงแสนอ่อนหวานวางอยู่แล้ว ยังมีหนังสือเล่มใหญ่สันหนาวางอยู่คู่กัน และนั่นคือเป้าหมายของเธอ
"คุณ~ย่า~ค้า~"
หนูน้อยค่อยๆ ก้าวเดินลงมาจากบันไดไม้เงาขลับอย่างระมัดระวังเนื่องจากถูกอบรมไว้เช่นนั้น เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงดังแทรกเพลงอาร์แอนด์บีที่เปิดเบาๆ และซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดหลายปีมานี้
ระหว่างที่หนูน้อยที่ยอมแพ้ความหนาหนักของหนังสือกำลังถัดลงบันไดแต่ละขั้นด้วยท่าทางน่ารัก เรือนผมยาวหนาสีหวานเฉกเช่นนัยน์ตาก็ระกับขั้นบันไดที่ก้นน้อยๆ เคลื่อนผ่าน ปากเล็กจิ้มลิ้มสีชมพูเรื่อทำเสียงออกแรงตามจังหวะการถัดก้นลงมาแต่ละขั้น
"ระวังจ้ะทริคซี่"
หญิงชราเอ่ยอย่างอ่อนหวานพลางนึกถึงตนเองสมัยยังอายุเท่าหลานสาว
เธอลุกจากเก้าอี้โยกที่ทำจากไม้หายากเพื่อรออ้อมกอดจากเด็กหญิง ดวงตาสีน้ำตาลหวานช่ำราวผลไม้ฤดูร้อนลูกโตที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของดวงตาทริคซี่พริ้มและประกายอย่างมีความสุข
เด็กหญิงนามทริคซี่คะมำเล็กน้อยเมื่อสุดตีนบันไดแต่ก็ยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วคล่องแคล้วพร้อมหนังสือปกหนังสีน้ำเงินหนาหนัก ก่อนจะวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดอ่อนโยนของผู้เป็นย่าซึ่งรออยู่แล้ว หนูน้อยแย้มยิ้มสดใสราวดอกทานตะวันเมื่อเงยหน้าขึ้นจากกระโปรงลูกไม้
"ตามสัญญานะคะ หนูรดน้ำคุณๆ ดอกไม้ให้แล้วค่ะ"
ทั้งคู่ผละจากกัน ทริคซี่อุ้มหนังสือเล่มโตยื่นให้หญิงชราก่อนทั้งคู่จะจูงมือกันกลับไปยังพื้นที่ของพรมนุ่มซึ่งเป็นที่ตั้งของเก้าอี้ไม้โยก
ด้านขวามือของเก้าอี้โยกคือโต๊ะไม้กลมขนาดกลางอันเงาวับ มันถูกวางทับด้วยเครื่องเคลือบขาวขุ่นและแก้วเข้าชุดกัน ปากแก้วส่งควันอุ่นหอมออกมาเข้ากับบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิเป็นอย่างดีราวสหายร่วมศึกที่ร่ำสุราหลังได้รับชัยในสงคราม สิ่งที่วางอยู่เคียงข้างกับแก้วเคลือบคือหนังสือเล่มหนาสองเล่ม ที่รูปร่างหน้าตา ขนาด และสีสัน ไม่ต่างกับเล่มที่หญิงชรารับมาจากหลานสาวเท่าใดนัก
"แทบจะรอไม่ไหวแล้ว คุณย่ารีบเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ หนูอยากรู้ว่าพวกนางฟ้าจะทำยังไงต่อไป"
สาวน้อยแสดงน้ำเสียงตื่นเต้นออกมาได้อย่างน่าเอ็นดูไร้ความเสแสร้งพลางบีบแข้ง บีบขาผู้เป็นย่าอย่างเอาอกเอาใจ หญิงชรามองดูกิริยานั่นก็ยิ้มออกมาพร้อมมองหนังสือในมือตนเอง
"อืม...นั่นสินะ"
เธอพึมพำและเงยหน้ามองดูนาฬิกาไม้แกะสลักที่ติดอยู่เหนือโทรทัศน์จอยักษ์สั่งทำกรอบพิเศษเป็นลายไม้ ซึ่งเข็มสั้นของมันชี้ตัวอักษร VIII ส่วนเข็มยาวชี้ที่ XI
"กว่าพ่อของหนูจะแถลงข่าวก็ประมาณสิบโมง เอาล่ะ งั้นย่าจะเล่าให้ฟัง"
ได้ยินเช่นนั้น ทริคซี่ยิงฟันขาวเต็มที่อย่างพึงพอใจส่งให้ย่าซึ่งกำลังจะพลิกปกหนังสือที่อยู่บนตักเป็นของตอบแทน
ก๊อกๆ
เด็กน้อยทำปากหวอแปลกใจเมื่อเสียงคอนเหล็กกระทบกับประตูไม้หน้าบ้าน แต่หญิงชราอมยิ้มบางเบาในอารมณ์ของผู้ที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้าแล้ว
"คุณย่ามีแขกเหรอคะ?"
น้ำเสียงเจ้าตัวน้อยเสมือนนายพรานมือฉมังที่เข้าป่ารกชัฏด้วยความหึกเหิม แต่ต้องกลับบ้านโดยไร้ซึ่งร่างไร้วิญญาณของสัตว์ หญิงชรารู้ทันเรื่องนั้นจึงแย้มยิ้มอ่อนหวาน
"นิดหน่อยจ้ะ แต่มันไม่ทำให้ย่าไม่ได้อ่านเรื่องตอนจบให้หนูฟังหรอกนะ หนำซ้ำพวกเธอก็อาจจะช่วยย่าเล่าได้ด้วย"
ทริคซี่ทำตาโต
"หรือว่า...?"
เสียงเล็กถักทอด้วยความคาดหวังว่าเรื่องที่กำลังจะได้ฟังในอีกไม่กี่นาทีนี้ จะต้องเป็นบทสรุปของนิทานอันแสนตื่นเต้นจากหญิงผู้เป็นย่าและหญิงอีกคนเจ้าของเสียงเคาะประตู
หญิงชราลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเปิดประตูต้อนรับแขกสุดพิเศษ โดยมีทริคซี่เกาะชายกระโปรงเดินตามมาด้วยจังหวะก้าวที่ความสดใสไม่ได้ลดลง
ก๊อกๆ
หญิงชราตอบรับเสียงเคาะประตูอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือจับยังลูกบิดประตู
แกร๊ก...
ความคิดเห็น