ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Mission ภารกิจสั่งลา

    ลำดับตอนที่ #5 : Mission 05 อัลเซสตร้า

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 52


     
    Mission 05 อัลเซสตร้า
     
    เสียงอะไรวะมิว??” อโวกาโดพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
     
    ไม่รู้ได้ยินพร้อมแกนะวะมิวตอบ
     
                    เสียงนกภายนอกหุบเขาที่ร้องอื้ออึงอยู่ เงียบหาย แม้แต่แมลงก็พากับบินว่อนหนีกันไปทั่ว ลมโชยอ่อนมากจากในหุบเป็นระลอกๆ ความเงียบงันของป่าดิบภายใต้หมู่หมอกเมฆที่ปิดบังหุบนี้ทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ตกสำรวจ บัดนี้ไม่ได้เงียบอีกต่อไป ตั้งแต่มีเสียงประหลาดดังออกมาจากหุบด้านใน
     
    เสือหรือ สิงโต หรือป่าว อโวกาโดพูด
     
    สัตว์พวกนั้นมันเป็นสัตว์สงวนของโลกไปแล้ว มีแค่ตามสวนสัตว์เท่านั้นแหละรีช่าเถียง
     
    อืม น่าจะเป็นพวกสายพันธุ์ใหม่นะมิวพูด
     
    อืม คงต้องสู้กับมอนสเตอร์ไม่ใช่สัตว์แล้วล่ะ รีช่าบอก หล่อนหยุดคิดครู่หนึ่ง
     
    ไปเหอะ งานนี้ มีเฮ ซิสส่งมาที่แบบนี้ค่อยชอบหน่อยหล่อนพูดเสร็จก็หัวเราะเบาๆในลำคอ
    O_o คนอะไรน่ากลัวชะมัดเธอเป็นผู้หญิงเหรอเนี่ย สงสัยคงต้องอยู่ห่างๆไว้ อยู่ใกล้กับเจ้าอโวกาโดเพื่อนเลิฟไว้ดีกว่า น่ากลัวชะมัด
     
    T^Tยัยรีช่า เธอเวลาเจอการต่อสู้แล้วป่าเถื่อนจริงๆเลย ไม่อยากจะนึกสภาพของคนที่สู้กับเธอ ฉันเองก็เคยโดนเธออัดในภารกิจที่ทำทางใต้ของ G.K.ครั้งหนึ่งเหมือนกัน หล่อนบอกว่าเล่นละครตบตา แต่ซี่โครงหักไป ตั้ง 2- 3ซี่ โอยเครียดจะแย่ มิวเองคงรู้สึกเหมือนเรารึป่าว อโวกาโดหันไปสบตามิวภายใต้หน้ากาก เขาก็เข้าใจความรู้สึกภายใต้หน้ากากของมิวเช่นเดียวกันว่า ยายรีช่าเนี่ยน่ากลัวจริงๆ
     
                    ทั้ง 3 เดินเข้าไปในหุบเขา ต้นไม้แต่ละชนิดในหุบสูงใหญ่ดูอายุแต่ล่ะต้นไม่ต่ำกว่าร้อยปี หรือไม่ก็ครึ่งร้อยทั้งนั้น ทั้งต้นสน ต้นไทร แต่ล่ะต้น2-3คนโอบ อากาศภายในหุบค่อนข้างสบายเมื่อเข้ามาแล้วลมถ่ายเทค่อนข้างดีผิดกับตรงที่ปากหุบที่ดูอึมครึมน่ากลัวมองเข้ามาไม่น่าสนใจเท่าที่ควร ลำธารเล็กๆไหลมาเป็นสายใจตัวหุบเขาที่เป็นกำแพงกั้นระหว่างป่าในกับป่านอก เมื่อเดินมาได้สักพักก็เริ่มเจอสัตว์พวกลิง พวกชะนีมากขึ้น ลิงกังฝูงหนึ่งกำลังค้นหากล้วยจากต้นกล้วยที่พึ่งตายได้ไม่นานเพราะ แสงแดดไม่ค่อยตกมาถึง ลิงฝูงนี้มีอยู่ราว 15 -20ตัว จ่าฝูงดูสูงกว่าตัวไหนมันยืนอยู่บนต้นไทรสูงใหญ่ กำลังกินกล้วยน้ำว้าที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงของคนในฝูง ถนนที่ตักจานอกหุบเข้าไปยังในหุบแคบลงบ้างบางครั้ง แต่บางครั้งก็กว้างมาก บางที่มีกระท่อมเล็กๆที่ไม่ใช้งานแล้วตั้งอยู่
    ชั้นว่าเราควรจะเดินออกห่างจากถนนใหญ่นะ มันเป็นที่สังเกตได้ง่ายเดินเรียดถนนไปดีกว่ารีช่าแสดงถึงความชำนาญภารกิจที่เธอเป็นหัวหน้าทีมมาบ่อยๆ
     
    เดินขนานทางซ้ายแล้วกัน เผื่อมีคนผ่านมาเราได้เห็นก่อนหล่อนเดินนำไปทางขวามอที่มีต้นมะขามสูงใหญ่ 2 ต้นคู่กันอยู่ไม่นานเสียงลิงที่พวกเขาเดินผ่านมาก็เงียบหายไป เปลี่ยนมาเป็นเสียงของนกต่างๆที่อาศัยอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่แทน อันที่จริงที่นี่ตกสำรวจก็ดีเพราะจัดว่าเป็นแหล่งป่าไม้โบราณที่หาดูได้ยากเป็นป่ายุคปี 2008-2009 ที่มีน้อยมากเพราะป่าเดี๊ยวนี้มีต้นไม้แปลกขึ้นมาเยอะรวมถึงสัตว์สายพันธุใหม่ๆอีก
    แถวนี้ก็อากาศดีไม่แพ้ตอนขึ้นมาจากฐานเลย แต่แค่คนล่ะบรรยากาศ เราไม่ได้เข้าป่ามานานแล้วด้วยละ อโวกาโดบอก
     
    ปิ๊ดๆ!!!
     
    สัญญาณจากชิปที่หน้ากากเตือนภัย พบกับระบิดอยู่ตามจุดต่างๆทั่วบริเวณ ตรงนี้เป็นหุบแคบอีกครั้งหนึ่งจากที่กว้างมากตอนที่เข้าใหม่ ยิ่งเดินหุบยิ่งลู่แคบลง ช่องหุบที่จะผ่านไปยังผาชั้นในชั้นที่2กว้างเพียง 50 เมตร เป็นทางถนนเสีย 10 เมตรแล้ว ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นระหว่างทางเดิน 2หุบล้วนฝังกับระบิดไว้ทั้ง 2ฝั่ง
     
    Warning!!
     
    หา!! เซ็นเซอร์จากหน้ากากตรวจพบเลเซอร์ที่สานเป็นใยระหว่างต้นไม้แต่ละต้นไขว้ไปไขว้มากันการเดินผ่านไปอีกฝั่งโดยไม่ผ่านถนนใหญ่ เรียกว่าไม่สามารถผ่านไปได้เลยถ้าไม่มีปาฎิหาร
     
    ปิ๊ดๆ!!
     
    ห่างไปในหุบ 2ฟากถนนมีกล้องวงกรปิด ติดอยู่ 4-5 กล้องวงจรนาบทั้ง 2 ฝั่ง จับมาตรงที่ถนนที่เดียว
    ทำไงดี อโวกาโด เราผ่านที่นี่ไปยังไง ?
     
    รีช่าหันไปถามเด็กหนุ่มอย่างร้อนใจเพราะว่าถ้าจะเข้าทางนี้ไปมีแต่ต้องผ่านถนน อีกอย่างถ้าจะเก็บกับระเบิดให้หมดก็คงไม่ได้ เพราะกับระบิดเรียกว่าเป็นห่าเลยก็ได้ ฝังอยู่ใต้ดินเพียบไปหมด รวมทั้งเลเซอร์ที่ขวาทางไปอีก ทำให้ทีมของรีช่าต้องปวดหัวกันพอสมควรกับการที่จะเข้าไปทำภารกิจต่อ
     
    ติ๊ดๆ!! ตรวจจับรังสีความร้อนกำลังมุ่งหน้ามายังทางนี้บนถนนใหญ่ เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุระยะ 500 เมตรเตือน
    บางอย่างกำลังมามิวหันไปมองถนนที่ตัดยาวไปสู่นอกหุบเขา
     
                    ไม่นาน รถ บรรทุกขนาดเท่าๆกับรถทัวร์ 2 คัน เคลื่อนที่แบบไม่รีบร้อนมาตามทางถนนที่ตัดเข้าไปในป่าที่พวกมิวจะเข้าไป เป็นรถสีดำ ข้างๆมีสัญลักษณ์ปีกนกมีวงแหวน เป็นสัญลักษณ์ของบราสสกรีนอยู่ เป็น
    ชั้นรู้แล้วว่าจะไปยังไง มิวพูดพร้อมดูความสามารถของตัวเองที่เรียนมาผ่านจอโมนิเตอร์ภายใต้หน้ากาก เขาเอื้อมมือไปจับไหล่รีช่า และอโวกาโด
     
                    ไม่กี่อึดใจรถก็ขับผ่านมาบริเวณที่เขายืนอยู่ มิวกระชากทั้งสองไปยืนอยู่บนท้ายรถบรรทุกที่มีที่ยืน ยื่นออกจากตัวรถเล็กน้อย รถยังคงวิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดนไม่รู้ว่าตอนนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญขึ้นมาบนรถอีก 3 ชีวิต
    นายทำอะไรของนายมิว เราจะตายกันหมด กล้องนั่นไม่ได้หันออกนะ รวมทั้งหันเข้าไปในตัวหุบชั้นในด้วย
    เด็กสาวพูดกระซิบ
     
    ก็เพราะผ่านด้านในด้วยเราจึงต้องติดมาท้ายรถไง เดินมาก็เห็นหมดสิ มิวบอกอย่างใจเย็น
     
    นายจะทำให้เราต้องตายนะ เราต้องมีแผนที่ดีกว่านี้รู้ไหม? กล้องเห็นเราหมดแล้วตอนนี้รีช่าพูดว่า
     
    ใจเย็นสิดูที่เซ็นเซอร์สเตตัสสิรีช่า เรากำลังล่องหน เค้ามีสกิวล่องหน ความสามารถของหน่วยรบในอเมริกาหน่วยที่สู้กับมนุษย์ต่างดาวตอน ปี 2017 ตอนที่ดาวเทียมของโลกตกมาจากอวกาศเกือบหมดไง สกิวนี้จะเห็นเงา
    แต่ถ้าเราหาอะไรติดมา เราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับมันอโวกาโดอธิบาย
     
    นายมีมันได้ไง ทำไมนายเลือกความสามารถนี้อโวกาโดทำเสียงทึ่งๆ
     
    ไม่รู้สิ แต่ไม่มีความสามารถไหนที่ทนบ่นเสียงของรีช่าได้เลยจากที่ฉันดูมิวปล่อยมุขหยอกล้อรีช่า
     
    ฮ่ะๆๆ เด็กชายทั้ง 2 หัวเราะผ่านจากหุบชั้น 2 จนสุดสายตา มิวก็เอามืออกจากเพื่อนของเขา ตอนนี้ทุกคนอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีใครล่องหนอีกแล้ว
    เชอะ!! เธอก็ให้เก่งแบบนี้ตลอดละ ทำให้เราเกือบตายมากี่ทีแล้วตั้งแต่เช้าเนี่ย
     
                    เด็กสาวพูด แต่ทั้งสองคงไม่สนใจกับคำพูดของรีช่า เพราะกำลังขำกับมุขของมิวที่หยอดมาได้จังหวะพอดี รีช่าเองก็รู้สึกประทับใจมิวเล็กในก้นบึ้งหัวใจของเธอ แต่เธอยังคงอคติต่อเขาอยู่ดี หล่อนเมินหน้าไปในป่าที่เขียวขจีด้วยไม้โบราณนานาชนิด
     
    โครม!!
     
    เสียงอะไร ?มิวถามพร้อมหันไปดูด้านหน้า
    รถบรรทุกคันแรก พลิกคว่ำไปตั้งอยู่บนพื้น ไฟไหม้ที่ตัวถังของรถ สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสูงเกือบ 3 เมตร กำลังใช้มือเปิดห้องโดยสาร แล้วนำเอาบราสนายหนึ่ง มา มันเอาปากที่ใหญ่งับไปที่คอของมนุษย์จนดับสิ้นลมหายใจในไม่กี่วินาที มันกลืนลงไปในปากแล้วหันมาทางรถอีกคัน เจ้าสัตว์ประหลาดดึงสามง่ามอาวุธคู่กายที่ปักอยู่ตรงประตูโดยสาร เลื้อยดิ่งตรงมาที่รถอีกคัน คนที่ขับรถบรรทุกอยู่เปิดประตูวิ่งเตลิดหนีเข้าไปในป่า
     
                    มีงูเขียวตัวได้ๆกับอนาคอนด้าตัวเขื่องๆ 2 ตัวรวมกัน พาบราสที่วิ่ง่ข้าไป เข้าชาร์จเขา แล้วรัด เขี้ยวมันใหญ่และยาว มันอ้าปากกว้างเหนือศีรษะของบราส
     
    ฉัวะ!!
     
    อ๊ากกกกกกกกกกก!!
     เสียงกรีดร้องดังระงม ไม่กี่อึดใจก็หายไปเพราะเขาคงสิ้นใจคาปากมัจจุราชอย่างรวดเร็วด้วยความใหญ่ของมันทั้งมีเขี้ยวอีก
     
    ว่าแล้วว่าต้องเป็นมอนสเตอร์ รีช่าหัวเราะในลำคอหันมาทางมิว กับอโวกาโด
     
    ทำไมมันใหญ่อย่างนี้??”มิวถาม
     
    นายพึ่งเข้ามาทำงานที่นี่นายไม่รู้อะไรหรอก เรนคอร์ป ที่รัฐบาลเป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่นั้นได้พัฒนาสิ่งมีชีวิตที่ผิดต่อหลักมนุษยธรรมเหล่านี้ รวมทั้งการทำคิเมร่า และพวกกึ่งมนุษย์อีกมากมาย ผลการทดลองล้มเหลวเหล่านี้มีทั่วไปในเขตที่รัฐบาลปกปิดความลับ นายจะเจอมันบ่อยๆมิว และเราต้องเรียนรู้การกำจัดมันด้วย
    รีช่าอธิบาย แล้วหันไปที่ศพของบราสในขณะที่พญาจงอางตัวเขื่องๆ กำลังกินอาหารของมันอย่างโอชะ
    หล่อนหยิบแม็กนั่มหัวระเบิดที่พกมาด้วยที่เอวขวาขึ้นมา เล็งไปที่เจ้าพญางู
     
    เปลี่ยนโหมดเป็นหัวระเบิดรีช่าพูด ปลายกระบอกปืนปรับใหญ่ขึ้น
     
    ปัง!!!
     
    พญางูที่องอาจนอนดินลงกับพื้นด้วยลูกปืนหูระเบิดที่รีช่ายิงใส่ไปเพียงนัดเดียวเท่านั้น
    เจ้าพวกนี้ต้องทำลายสมองมัน ทุกๆตัวหล่อนย้ำ
     
    ก๊าสสสสส!!!
     
    เสียงบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาที่ท้ายรถที่พวกรีช่ายืนอยู่ สิ่งมีชีวิตแบบเดียวกันที่รีช่าพึ่งฆ่าไปเมื่อครู่ เงาของมันโผล่มาเหนือจากกอเฟิร์นฝั่งตรงข้าม 2 3 ไม่สิ 4ตัวภาพที่มิวมองเห็น พวกมันตัวใหญ่กว่าตัวแรกอีก เขี้ยวของมันง้างพร้อมจะงับพวกเขาทุกเมื่อ มันพุ่งตรงเข้ามาอย่างเร็ว
     
    หนี!!” อโวกาโดบอก
     
    รีช่ากระโดดหมอบลงต่ำกับพื้น ส่วนอโวกาโด กระโดดเกาะต้นไม้เบื้องบน แต่มิวยังมองมันอยู่ รีช่าที่นอนหงายลงกับพื้นหันมามองงู 4 ตัวที่เข้าตะครุบมิวถึงกับใจหาย
     
    หนีซี่มิว หนี กระโดด หรืออะไรซักอย่าง!!” หล่อนพูด
     
    ตุบ!!!
     
    เผียะๆ!!
     
    พวกเจ้าไม่ต้อง ข้าจะจัดการกับพวกนี้เองเสียงเย็นชาที่มาป้องกันมิวจากอสรพิษร้ายทั้ง 4 พูดขึ้นมา
    อย่าตาค้างพ่อหนุ่มเจ้าสัตว์ประหลาดตัวแรกที่โจมตีรถบรรทุกเอ่ยมองมาที่มิว มือขวาของมันถือสามง่าม ความจริงแล้วหัวของมันคล้ายจระเข้ ผิดแต่สั้นและดูเป็นศีรษะมากกว่าที่จะเป็นหัวจรเข้ายาวๆ ร่างกายท่อนบนบึกบึนเหมือนนักกล้าม ส่วนท่อนล่างเป็นหางงูเลื้อยได้คล้ายๆ ปลากับงูผสมกัน ที่หน้าของมันตรงใต้คางมีหนวด 2 เส้นยาวราวครึ่งเมตร ตาของมันสีเขียวมรกต
     
    บึ้มๆ ๆ!!
     
    แม่สาวน้อยอย่ายิงเลย ชั้นไม่ใช่คิเมร่านะมันหันไปพูดกับรีช่าที่กระโดดไปอยู่ทางซ้ายของถนน
     
    ทำไมแกพูดได้ รัฐบาลสร้างแกได้ไง เรนคอร์ปเอาคนมาทดลองแล้วเหรอ??” รีช่าถามเสียงสั่น ปืนในมือหล่อนยังคงกำแน่น
     
    เธอเข้าใจผิดสาวน้อย ฉันไม่ใช่พวกของทดลอง ฉันคือสัตว์เทพ ส่วนเจ้างูคือสัตว์ทดลองแต่พวกมันอยู่ใต้บัญชาฉันไม่ต้องกลัวเจ้าครึ่งสัตว์ครึ่งงูพูดอย่างใจเย็น
     
    แสดงว่าคุณอยู่ฝ่ายรัฐบาลสิ ??” รีช่าถาม
     
    โฮ่ๆๆ ป่าวเลย ข้าป่าวใช่ฝ่ายไหนข้าคือสัตว์เทพ อัลเซสตร้าที่คุ้มครองดินแดนนี้ ข้าเพิ่งตื่นจากการหลับที่ยาวนานใต้ดับเบิ้ลเองเจลเมื่อ 7 วันก่อน ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะมนุษย์ใจคอโหดร้าย เอาสัตว์มาเป็นสัตว์ทดลองแบบนี้ไม่ได้ แล้วที่นี่ธรรมชาติไม่ใช่อย่างเก่ามันเปลี่ยนไป ข้าหลับไปกว่าห้าร้อยปีที่นี่เปลี่ยนไปมาก ข้าจะจัดการต้นตอของสาเหตุนี่ เจ้าพวกหน้ากากแก๊สพวกนี้คือตัวปัญหาเข้าชี้ไปที่ศพบราส
     
    ใช่ พวกเราก็คิดเหมือนท่านเช่นกัน เรามาเพื่อกำจัดพวกนี้”!!
    เสียงของอโวกาโดดังมาจากบนกิ่งไม้เบื้องบน
    เขากระโดดม้วนตัวลงมา แล้วเดินไปที่รีช่าให้หล่อนวางปืนแล้วยืนขึ้น
     
    เธอจะทำอะไร?? ห้ามวางปืนนะเราไว้ใจมันได้ไงมันไม่ใช่คนนะรีช่าตะคอกใส่
     
    ผมเคยได้ยินเรื่องสัตว์เทพมา ทุก500 ปีเทพจะฟื้นขึ้นมาเพื่อปรับสมดุลธรรมชาติแก่โลกในเขตที่ตนรักษา คุณคือเทพของดับเบิ้ลเองเจล ผลเคยอ่านในหนังสือประวัติศาสตร์มันวาดรูปสัตว์คล้ายๆคุณไว้ในสมัยสงครามดาเปสที่ มนุษย์ทำสงครามกับพระเจ้า อโวกาโดพูด
     
    โอ้วๆ ไม่เลวนี่ เจ้าหนูคงทำการบ้านมาดี ใช่ฉันอยู่ในสงครามดาเปส ฉันรับใช้พระเจ้า ตอนนี้ตื่นขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูโลก และยังมีเทพ และสัตว์เทพองค์อื่นๆทั่วโลกที่ตื่นขึ้นมาอีก นายรู้จักฉันก็ดี เจ้าหนูนี่ได้ไว้ใจฉัน ฉันไม่ใช่คนชั่วฉันก็มีจุดประสงค์เดียวกับพวกนายหละ เราคงต้องร่วมเดินทางด้วยกันอัลเซสตร้าพูดในลำคอ
    อ้อ... เรียกฉันว่าอัลได้นะ แล้วพวกเธอชื่ออะไรกันบ้าง??อัลถาม
     
    ไม่มีใครแนะนำชื่อเพราะอึ้งๆกับเรื่องที่คิดว่าเป็นแค่คำเพ้อฝันของบรรพบุรุษจะมีจริง เทพกับพระเจ้า ล้วนเป็นสิ่งมีชิวิตที่หาตัวยาก แต่บัดนี้เขามา เขามาปรากฏกายต่อหน้าพวกเรา มีเพียงอโวกาโดที่เคยอ่านเรื่องนี้ผ่านหูผ่านตามาบ้างทั่น้นที่ไม่งงๆ กับเรื่องนี้
     
    พวกเขาคงอึ้ง อัล ผมชื่ออโวกาโด ส่วนนี่มิวเพื่อนผม และผู้หญิงนั้นรีช่าหล่อนหัวหน้าพวกเราเองละอโวกาโดบอก
     
    อืมนายมีหัวหน้าที่รักลูกน้องนะ ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นมิวนายเกร็งๆ คงทำงานครั้งแรกสิท่าอัลวิจาร์ย
    ไปกันเหอะ ไปทำให้ป่าที่สวยงามดูเป็นป่ากันหน่อยอัลชวนพวกมิว
     
    งานนี้สนุกแล้วสิ เทพเหรอรีช่าพูด
     
                    เทพ เราเคยได้ยินคำนี้แล้วอัลคนนี้เราเคยเจอที่ไหน คุ้นๆ โอยๆปวดหัวๆ นึกไม่ออก ยังไงก็อึ้งอยู่ดีเทพมีได้ไง เราคงจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนสินะ หึๆ รีบทำให้เสร็จจะได้ไปเจอ ฟลิฟ ดีกว่า ฮ่าๆ มิวคิดอยู่ในใจเพียงจะกลับไปกินอาหารแสนอร่อยจากเจ้าหุ่นยนต์กระป๋องที่ห้องของเขา
                   
    ทั้งมองเข้าไปในป่าที่มืดมัวตามทางถนนที่ตัดตรงไปเรื่อยๆดูแล้วไร้จุดหมาย ลมอ่อนๆยังคงโชยออกไปนอกป่าตามเดิม ใบไม้พลิ้วตามลมอ่อน มีเสียงนกร้องตามปกติเมื่อทุกคนรู้ว่าพวกมิวเป็นมิตรเหล่าสัตว์ก็ยินดีที่มีคนมาช่วยรักษาป่าของมัน
     
     
    --------------------------------------------------------------*-----------------------------------------------------------------------
     
     
     
    ตอนต่อไป
    เย้ในที่สุดก็มาถึงที่ทำภารกิจสักที เห้ย!! ศพๆๆ ไม่มีคนเหรอเนี่ยใครไปไหนหมด ทำไมพวกเขาพึ่งตายเอง แล้วใครละคือผู้ฆ่าพวกเขา ติดตามชมตอนที่ 6
                                                    To B Con
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×