ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Mission 04 First mission
Mission 04 First mission
ชั้น G บริเวณผิวน้ำของฐานทัพ s.d.c.ที่ลึกลงไปใต้ทำเล 2 กิโลเมตร มีเพียงตะแกรงเหล็กขนาดใหญ่รูปวงกลมที่มีรัศมี 500 เมตร คน2คนยืนอยู่บนตะแกรงเหล็กทำให้ดูยืนบนน้ำได้ไปด้วยเพราะว่าน้ำทะแลปริ่มๆขึ้นมา ท้องฟ้าแจ่มใสน้ำทำเลสีมรกตสวยงามมองลงไปด้านใต้ไม่เห็นอะไร มีนกอินทรีย์ทะเล 2 ตัวบินโฉบไปโฉบมาบริเวณแนวหินโสโครกห่างออกไปจากบริเวณเส้นรอบวงตะแกรงเหล็ก 1-200 เมตรทางทิศตะวันออก พระอาทิตย์พึ่งขึ้นจากริมน้ำได้ไม่นานทำให้เห็นถึงสภาพอากาศที่แจ่มใสของมหาสมุทรการาทอล์ฟที่อยู่ด้านตะวันออกของสหราชอาณาจักเกรทรีเซิล ห่างจากฝั่งประมาณ 350-400กิโลเมตร เขตนี้เป็นเขตหวงห้ามเพราะใกล้น่านน้ำสากลโลกที่นี่คือเขตจับปลาอิสระ แต่ไม่ค่อยมีใครมาถึงกันเพราะทะเลที่นี่น่ากลัว มีพายุไม่เป็นเวลาล่ำเวลา มีแต่เพียงเรือของรัฐบาลโลกที่ลาดตระเวนผ่านไปมาบ้าง พื้นที่แถบนี้เรียกว่าพื้นที่ตกสำรวจก็ว่าได้ นับว่าเป็นเมอร์บิวดาในเกรทรีเซิลเลยเพราะไม่เคยมีใครกลับออกไปเล่าได้ว่าพบอะไรมา ที่นี่สัตว์ทะเลตัวใหญ่มากแต่ถ้าลึกลงไปใต้น้ำก็มีปะการังสวยงาม นับเป็นสวรรค์ใต้บาดาลไม่แพ้เกรทเบริเยอร์รีดในออสเตรเลียเลย ดาวเทียมบนอวกาศสำรวจบริเวณนี้ไม่ได้เพราะอยู่ใกล้กับแสงออร่าทางขั้วโลกใต้ แต่น่าแปลก ทั้งๆที่ใกล้ขั้วโลกใต้ขนาดนี้ยังมีสภาพอากาศหลากหลายพอๆกับประเทศที่อยู่แถบเส้นศูนย์สูตร
ที่เส้นรอบวงทางตะวันตกของวงตะแกรงเหล็กยักษ์มีลูกโลหะคล้ายๆลูกสนุ๊กแต่ผิดตรงที่มันมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2เมตรครึ่งค่อยๆโผล่ปริ่มน้ำขึ้นมาจนหมดลูกลูกสนุ๊กขนาดใหญ่แยกเป็น2ส่วน เงาตะคุ่มโผล่มาจากภายในลูกทรงกลมขนาดใหญ่ที่ไม่มีแสง ท้าวแรกก้าวออกมารับลมหลังจากที่จมอยู่ใต้บาดาลมานานโขกว่าจะได้ขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิยามเช้าบนผิวน้ำทะเลใส่ชุดทำภารกิจขององค์กร s.d.c. เด็กหนุ่มเดินมาตรงมาที่กลางศูนย์กลางของตะเกรงเหล็ก น้ำทะเลมีคลื่นเล็กน้อยปริ่มขึ้นมาเป็นละรอกๆ คน 2 คนก่อนหน้านี้ที่ขึ้นมารอมิวอยู่แล้ว มิวเดินมาหยุดสมทบกับเพื่อนร่วมภารกิจ คนหนึ่งเป็นผู้ชายสูงโปร่งขนาดได้ๆกับเขา อายุไร่เรี่ยกัน อีกคนผู้หญิงผมดำเข้ม ตัวเล็กนิดหน่อยเธอดูแข็งแรงเมื่อมองจากด้านหลัง
“ไง ได้ข่าวว่านายเด็กใหม่”ชายผมสีน้ำตาลหน้าตาดูคมเข้ม สูงได้ๆกับมิวที่ยืนอยู่ขาวมือถาม
“อืม ผมพึ่งทำภารกิจแรกแนะนำด้วยครับ” มิวตอบในฐานะคนร่วมทีมที่พึ่งได้ทำภารกิจวันนี้วันแรก
“ทำไมซิสถึงชอบส่งแต่เด็กใหม่ให้ฉันเนี่ยะ คราวก่อนพาไปตายมา 3ตัวแล้วไม่หลาบจำ”
เฮือก!! เสียงตกใจเล็กน้อยจากมิว เด็กสาวตัวเล็กกว่ามิวเล็กน้อยผมสีดำเข้มยาวถึงต้นคอ พูดพร้อมถอนหายใจทำหน้าเซ็ง
มิวขมวดคิ้วแสดงอาการกังวลว่าจะเป็นตัวถ่วงทีมหรือเปล่า
“นี่ รู้ว่าเธอเจ๊งสุดนะ แต่นี่เค้าร่วมทีมกับเราครั้งแรกอย่าทำแบบนี้สิ รีช่า”เด็กชายพูดต่อว่าเด็กสาว
“นายก็เป็นแบบนี้แหละ อโวกาโดอยู่มานานแล้วฝีมือไม่พัฒนาไร้สมอง” รีช่าต่อว่า
“เอ่อ... ชั้นว่านายเลิกสนใจหล่อนเถอะ หล่อนแบบนี้แหละ มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า ชั้นชื่ออโวกาโดจะแนะนำนายเอง”เค้าหยุดกระเอม
“ว่าแต่นายเหอะ ชื่ออะไรเหรอ??”อโวกาโดถาม
“อ้อ ผมชื่อมิวครับ” เด็กชายตอบ
“มิวเหรอ อืมนายมาจากไหน” อโวกาโดถาม
“ไม่ทราบ ผมเสียความทรงจำก่อนมาที่นี่จากเหตุปะทะที่เรียล” มิวตอบเสียงเศร้าๆ
“อืม น้อยคนที่จะเสียความจำก่อนที่จะมีพลังพิเศษ น่าสงสารจริงอีก1นาทีภารกิจจะมาละ” อโวกาโดรีบเปลี่ยนเรื่องไม่ให้กระทบจิตรใจมิว อันที่จริงเขารู้สึกถูกชะตากับมิวมากเพราะที่นี่เด็กต่ำกว่า20ไม่ค่อยมี คงมีแต่ทีมเขาในตอนนี้ที่อายุไล่เลี่ย วัยรุ่นเหมือนกันเข้าใจกันดี ว่าการที่เสียความทรงจำเหมือนกับการเสียคนที่รักตั้งแต่เด็กๆเช่นกัน
แอ๊ด!!
ใจกลางตะแกรงเหล็กมีวัตถุสีดำแทรกขึ้นมาจากวารีเบื้อง มีจอคอมคล้ายๆจอที่มีไว้ใช้ในวาร์ปโผล่ขึ้นมา
“อรุณสวัสดิ์ ทุกๆคน มีภารกิจแต่เช้าเลยนะ อ้อนายเด็กใหม่ยังไม่มี ไอซีพีใช่ไหม”จอนั่นถาม
“ไอซีพี??? คืออะไรเหรอครับ”มิวถามคิ้วขมวด
“ไอซีพี คือไมโครชิปขนาดเล็กสั่งการได้ทุกอย่าง ใส่ไว้ใต้หน้ากาก มันช่วยในการมองเห็นให้นาย เป็นได้ทั้งโทรศัพท์และมินิคอมพิวเตอร์โดยภาพการคำนวณสภาพอากาศการต่อสู้ สีกลิ่น และอื่นแสดงให้นายดูภายใต้หน้ากากเป็นมิติ 3 มิติที่นายจะเห็นสามารถคำนวณทั้งทางเคมี ฟิสิกส์ คณิต และสามารถเปลี่ยนเสียงของนายได้อีกแถมทั้งเป็นทรานสเลทแปลภาษาได้ด้วย ทั้งยังเป็นตัวรองรับระบบทั้งหมดของชุดที่นายใส่อยู่ สามารถปรับความแข็งแกร่งและโหมดการต่อสู้ให้มีประสิทธิภาพถึงขีดสุดแค่นายพูดสั่งมัน หรืออีกนัยน์หนึ่งมันคือโรบอทดีๆนี่เอง”อโวกาโดอธิบายพร้อมหยิบหน้ากากเขาให้ดูพร้อมเปิดชิปที่ซ่อนไว้ในเนื้อหน้ากากให้ดูขนาด1คูณ1เซนติเมตรเห็นจะได้
“ถูกของนายอโวกาโด เอานี่ชิปของนายมิวมันจะสแกนเลนส์ตานายว่าใช่นายหรือเปล่าถ้าไม่ใช่นาย มันจะไม่เปิดให้ดู” จอนั่นเอ่ย
“รับชิปจากเรนสิมิว” อโวกาโดพูด
“เรน??? อะไรคือเรน” มิวถาม
“ก็นั่นไงหุ่นยนต์บอกภารกิจชื่อเรน นายยังมีหุ่นให้จำอีกมากไม่ต้องห่วง” อโวกาโดอธิบาย
“ชั้นล่ะเบื่อ พวกตกเทคโนโลยี บ้านนายยังใช้กูเกิ้ล หาข้อมูลทางเน็ตรึป่าวเนี่ย” เสียงเด็กสาวเอ่ยมาดูถูก
“ผมจำไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่บ้านต้องขอโทษครับ” มิวพูดอย่างเจียมตัว
“เธอนี่มัน.....” อโวกาโดโกรธแทนมิตรใหม่จนหูแดง
หยุดทะเลาะได้แล้วเดี๊ยวจะเริ่มอธิบายภารกิจมาแล้ว เอนดรอยด์บีมจะมารับพวกเธอไปเขต B-720 ที่ตอนเหนือของ G.K.(Great reseal kingdom) บริเวณน้ำตกดับเบิ้ลเอเจล บริเวณนั้นมีฐานของรัฐบาลตั้งอยู่ เมื่อปี2011 ภาพของกูเกิ้ลเอิร์ทที่เก็บไว้ได้เป็นภาพของป่าดงดิบที่มีภูเขาไฟ แต่ดาวเทียมของมินินาซ่าในปัจจุบันส่งลงไปมีแต่หมอกทั้งๆที่ตอนเหนืออากาศร้อนกว่าตอนใต้ไม่นาจะมีมีหมอกลง หลังจากที่ดาวเทียมของกูเกิ้ลถูกรัฐบาลโลกยิงตกไปเมื่อปี 2017ก็ไม่เคยมีภาพบริเวณนั้นปรากฏอีกเลย นักสำรวจธรรมชาติ ทั้งนักชีววิทยาเข้าไปที่นั่นก็ไม่เคยได้ออกมามีแต่การสาบสูญ หน้าที่ของเราสำรวจที่นั่นถ้าพบอะไรบ่งต่อการทำสงครามให้กำจัดทิ้งทันที่ 48 ชม. หาภารกิจไม่เสร็จเราจะส่งกำลังเสริมไปกับแบล็คฮอค อ้อที่นั่นไม่มีเสาสัญญาณหรอกนะ เหนือหมอกขึ้นมาเท่านั้นที่ใช้ได้ เราตึงไม่สามารถติดต่อได้ชั่วคราว แต่คาดว่าใต้หมอกคงจะไม่มีปัญหาการใช้ติดต่อกันในทีม เอนดรอยด์บีมจะมาล่ะ โชคดีกับภารกิจ อ้อมิว พลังของนายใช้ให้เป็นประโยชน์ล่ะ” เจ้าเสาคอมหดแทรกวารีลงไป
หวี๊ดดดด......!!!
ยานขนาดเท่าเครื่องบินโดยสารส่วนตัวในปี 2008-2009 จอดอยู่ต่อหน้าพวกเขา ยานสีเทาดำบังคับโดยหุ่นยนต์หรือเครื่องบินบังคับตัวเองนั่นเองที่ท้ายเป็นทรงกระบอกนอนยาวราว5เมตรเส้นผ่านศูนย์กลาง เมตรครึ่ง ปีขนาดเล็กหนีบติดอยู่ทั้งสอยข้าง หัวยานมีลักษณะ3เหล่ยม ประตูที่ท้ายเลื่อนลงมาให้พวกเขาเข้าไป
ไม่นานทั้ง3ก็เข้าไปนั่งประจำที่บนเอนดรอยด์บีมประตูหลังเลื่อนขึ้นมาปิดตามเดิม
“โปรดรัดเข็มขัดนิรภัย”เสียงดังขึ้นจากหัวยาน
ทุกคนรัดเข็มขัดอย่ารวดเร็ว
3
2
1
ออกเดินทาง
เฟี้ยววววววววววววววว............................
เสียงแหวกอากาศของยานที่ความเร็วเหนือแสงบินจากบริเวณทะเลตอนใต้ของ G.K.ไปยังส่วนภาคเหนือ ไม่นานก็มาถึงบริเวณ B-719 ใกล้กับเขตทำภารกิจ แอนดรอยด์บีมลดความเร็วอย่างเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ภายในก็ตามเหนือระดับพื้นดินประมาณ 10- 11 กิโลเมตร ทางเข้าไปในป่าเป็นผาหินที่ไร้ต้นไม้มองลึกเข้าไปใต้เงาหมอกเห็นป่ามืดสีเขียวเข้ม ทางเข้าเป็นช่องเขาพอรถบรรทุก 2 คันขับสวนไปมากันได้
ตัวท้ายยานเปิดออกพร้อมที่จะปล่อยมิวและผองเพื่อนลงไปทำภารกิจในป่านรกที่ไม่สามารถส่งสัญญาณโทรศัพท์ หรือวิทยุ หรือคลื่นดาวเทียมไดๆ ออกมาได้แม้แต่น้อย
อโวกาโดถอดเข็มขัดยืนขึ้นบิดขี้เกียจ เอี้ยวซ้ายทีขวาทีพร้อมสวมหน้ากาก แล้วหันไปทางมิวพร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญาณ
“ไปกันเหอะมิว ใช้เตาพลังงานที่หลังให้ร่อนได้ด้วยล่ะเปลี่ยนโหมดภายใต้หน้ากาก” ฉันลงไปก่อนนะ อโวกาโดเดินถอยหลังจนไปสุดปลายแล้วหงายหลังลงไปทิ้งไว้แต่เพียงความทรงจำก่อนจะลงไป มิวลุกขึ้นสวมหน้ากาก แต่เขาไม่รู้วิธีเปลี่ยนโหมดต่างๆเกี่ยวกับชุดจึงยืนอึ้งๆอยู่
“พูดกับมันสิ มันใช้ระบบพูดมันคือชิปที่ฉลาดนะไม่โง่เหมือนนาย” รีช่าเอ่ยพร้อมวิ่งลง ตามไปอีกคน
“เปลี่ยนโหมด ใช้เตาปฏิกรณ์ร่อนอากาศ” ใบพัดหลังชุดเกราะหมันอย่างรวดเร็วทำให้เขาเกือบจะลอยก็ว่าได้ เขาหันออกไปหน้าจอหน้ากากแสดงถึงสภาพอากาศ ความเร็วลม ปริมาณส่วนประสมของก๊าซของอากาศด้านนอกยานทุกอย่าง
“เอาละวะเอาไงเอากัน” มิวพูดพร้อมวิ่งออกไปตกลงมาจากฟ้าราวๆ10 กว่ากิโล อากาศเสียดสีกับเนื้อเขาอย่าแรงและเร็ว
“เหวอ...... ว๊าก”เสียงของเค้าร้องด้วยความตกใจมากเพราะไม่เคยดิง่ลงมาสูงขนาดนี้
สักพักหนึ่งเขาจึงนึกขึ้นได้
“เพิ่มการลอยตัว” เขาพูด ใบพัดหมุนเร็วขึ้น จากเดิมทำให้การดิ่งลงมาคราวนี้ช้าเหมือนเดินบนอากาศดั่งใจนึก
ไม่นานก็ลงมาจนเห็นเงาที่ อโวกาโดและ รีช่ารออยู่
ตุบ!!! เสียงเท้ากระทบพื้น
“ชักช้าจริงนายเนี่ยอย่าถ่วงให้มันมาก อยากได้อะไรพูดๆไปมันทำตามเองล่ะ” รีช่าพูด
“เธอก็จะเอาเขาให้ตายหรือไงเขา พึ่งเริ่มภารกิจแรก” อโวกาโดพูดแก้
“ครับๆอย่าเถียงกันเลย เราจะพยายามทำให้ดีกว่านี้” เขาพูดเพื่อให้การโต้วาทีที่จะประทุหยุดลง
“ว่าแต่ต้องเข้าไปในป่าเฮงซวยนี่เหรอ” อโวกาโดพูดพร้อมหันไปในช่องเขา
“อืม ท่าจะหนักแฮะภารกิจนี้” รีช่าพูดพร้อมหันมองไปทางเดียวกัน
ลมพัดอ่อนๆจากช่องเขาออกมาพาเศษใบ้ไม้สีเหลืองน้ำตาลออกมา และเศษดิน เศษหญ้าออกมาจากตัวหุบเขา ทั้งสามเดินตรงเข้าไปสู่เงามืดภายใต้หมอก เพื่อเริ่มภารกิจค้านหาที่สุมกองกำลังของรัฐบาลที่อยู่บริเวณน้ำตกดับเบิ้ลเองเจล เสียงนกจากป่าที่พวกเขายืนอยู่ดังไปทั่ว ทางช่องเขาจนเชื่อเขาไปในหุบ มีทางรถบรรทุกผ่านไปมาอย่างเห็นได้ชัดสังเกตจากรอยหญ้าที่ตายขานานกันสม่ำเสมอ รอยล้อรถใหม่ๆที่พึ่งเหยียบหญ้าบริเวณนี้ไปคาดว่าคงจะผ่านไปเมื่อราว 2 -3ช.ม.ที่แล้ว มีโคลนเล็กน้อยเนื่องจากตอนหัวรุ่งของวันนี้ฝนตกบริเวณนี้ไปทำให้มีน้ำขังเนื่องจากแสงแดดส่องมาไมไม่ถึงเพราะ ต้นไม้สูงใหญ่บังเอาไว้
“เช็ครอยล้อ และรายละเอียดหลักฐานที่ทิ้งอยู่บนดินหน่อย” รีช่าพูดพร้อมนั่งยองๆลงไปที่รอยล้อรถช่วงหนึ่ง
“อืม ล้อของบริษัทเซ็ทเทิ้ลไลท์เป็นบริษัทยางประหยัดน้ำมันของรัฐบาลนี่ น่าจะมากัน 2 คัน อืมเราม้าช้าไป 2
ชั่วโมงถ้าเร็วกว่านี้คงจะพลอยรถไปได้ด้วยเห้อ... ต้องเหนื่อยอีกแล้ว” รีช่าพูดจากการประมวลผลของไอซีพี ให้คนในทีมฟัง
“อืมแต่ยังสรุปไม่ได้ว่าใช่รัฐบาลรึป่าวนะรีช่า ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม” อโวกาโดพูดแย้งเพื่อแสดงความเป็นเหตุเป็นผล
“สรุปได้สิ ฉันเจอบางอย่างแล้วล่ะ ทุกคนหาที่หลบเร็ว” รีช่าสั่ง หล่อนกระโดดไปหลบอยู่หลังกอเฟิร์นกอหนึ่งที่ด้านขวาของถนน ส่วนอโวกาโดกระโดดไปทางซ้าย มิวยังยืนอยู่
“แกอยากตายหรือไงเจ้าทึ่ม??” รีช่าพูดผ่านไอซีพีไปที่มิว
มิวนึกอะไรไม่ออกกระโดดขึ้นไปบนต้นไทรดึกดำบรรพ์ สูงราวๆ 5 เมตรที่เป็นร่มเงาปิดถนนไว้ เขาหากิ่งดีๆที่พอจะนั่งสังเกตการณ์ได้ อโวกาโดกับรีช่าถึงกับอ้าปาเหวอ เพราะกระโดดได้สูง 5 เมตรพวกเขาไม่คิดว่ามิวจะเลือกความสามารถนี้ แต่อันที่จริงมิวเลือกทุกอันยังไม่มีใครรู้
ไม่นานนัก รถจิ๊บทหารมีปืนกลหนักอยู่บนหลังคาก็ขับมาถึงจุดที่พวกเขารวมตัวอยู่ก่อนหน้า รถหยุดอยู่ตรงนั้น อึดใจเดียวประตัวเปิดออกมา บราสสองนายออกมาจากรถจากประตูแต่ละด้าน
“เฟร็ด ข้าว่าข้าเห็นมีคนยืนอยู่นะตรงนี้” บราสนายหนึ่งเอ่ยพร้อมส่งสายตาไปทั่วๆบริเวณ
“ใครจะมาที่นี่ ตาฝาดแล้วล่ะ อาร์ตเราต้องรีบพาของไปส่งนะ จะได้กลับฉันไม่ชอบที่นี่เลย”เฟร็ดพูด
“มีอะไรกัน” มีคนโผล่ออกมาจากหลังคารถที่มีปืนกลหนักตั้งอยู่
“นี่ไง ดูนี่สิรอยรองเท้าคอมเเบ็ท ไม่ใช่ของพวกเรา ลายอะไรเนี่ย s.d.c.” เฟร็ดก้มดูลายรองเท้าที่จมลงไปในโคลนแห้งๆ
“พวกไหน s.d.c.องค์กรพิเศษมั้งพวกนักวิจัยที่รัฐบาลจ้างมาแหง” อาร์ตพูด
“จะบ้าเหรอนักวิจัยใส่คอมแบ็ท” จิ๊งส์นายวิทยุเข้าไปที่ฐานหน่อย
“ครับท่าน” คนที่ประจำปืนกลหนักมุดลงไปในรถอีกรอบ
“ตัดสัญญาณซะ” รีช่ากระซิบ
“ท่านครับไม่มีคลื่นเลยครับ” เสียงตะโกนออกมาจากรถ
“สงสัยมีอะไรแน่ๆ รีบไปกันเหอะ” เฟร็ดพูด
“จิ๊งส์นายประที่ มีอะไรโผล่มาเอามันเลย” อาร์ตพูดแล้วเปิดประตูรถ
แปะ!!!
จิ๊งส์ดูที่เหนือหลังคารถมีโคลนหยดลงมา 2-3หยด
“นายครับ มันยังอยู่ที่นี่ บนต้นไม้”เขาเงยไปดูตามกิ่งก้านของต้นไทรใหญ่ที่มีรากห้อยลงมารุงรัง
“ไอทึ่มมิว ปัญหาจริง ทุกคนเอามันอย่าให้มีเสียงปืน” รีช่าสั่งลูกทีม
ไม่ทันข้ามวินาที ดาวกระจายที่ออกมาจากกอเฟิร์น 1 ดอกเฉือนกระเดือกจิ๊งส์ ร่างกายเขานอนคว่ำลงบนหลังคารถเลือดไหลลงทั้ง2ข้างของตัวรถจิ๊บ
ประตูด้านคนขับ เฟร็ดกำลังเปิดออกมา
ตุบ!!
มิวกระโดดลงมา เขาปิดประตูใส่หัวของเฟร็ดให้มึน เฟร็ดโดนกระแทกเข้าไปในรถ มิวตบเซเบอร์ทีแขวนอยู่ที่หลังออกมากดดาบแสงสีเขียวมรกต ปักลงไปใจกลางอกเฟร็ดตายคารถ
อาร์ตเมื่อเห็นเช่นั้นกำลังจะลั่นปืน แต่ช้าไป อโวกาโดใช้ดาบฟาดลงไปบนมือจนขาด เลือดแดงฉานสาดออกมาเต็มคันรถ เฟร็ดล้วงมีดสั้นที่เหน็บอยู่ตรงเอวซ้ายออกมาเสียบไปที่คอของอาร์ตอีกครั้ง อาร์ตดับชีวิตลงเพียงไม่ถึง 10 วินาที
“ทำได้ดีนี่มิว แต่นายให้เขาตายกับเซเบอร์มันตายเร็วไปนะ” อโวกาโดพูดชม
“แต่ถ้าให้ดีคนชั่วแบบนี้ มันต้องทรมานกันหน่อย” รีช่าพูด
“ไม่ล่ะชั้นสงสารให้ไปดีไวๆดีกว่า” มิวพูดเสียงเศร้าๆ นี่เขาฆ่าคนแล้วเหรอ เขาคือใครฆาตกรหรือไง?? เขาถามตัวเอง
“อย่าเครียดเลย นายไม่ฆ่ามันมันก็ฆ่าเรา” อโวกาโดพูด
“ถูกของนาย ฉันต้องเข้มแข็งกว่านี้” มิวพูดเสียงเข้มแข็ง
รอยยิ้มที่มุมปากภายใต้หน้ากากของเด็กสาวที่แสดงความประทับใจต่อนิสัยของเด็กหนุ่มหน้าใหม่ที่มาร่วมทีมกับเขาครั้งแรก แต่ด้วยนิสัยของหล่อน!!
“เกือบตายกันหมดแล้วไหมละ นายนี่ไม่หัดระวังเลย ถ่วงจริงๆ” พูดกลบเกลื่อนต่อความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อมิว
“ขอโทษนะคราวหลังฉันจะระวัง” มิวพูด
“อย่าขอโทษเลยไม่มีใครผิดเราก็อยู่ในโคลนกันทั้งนั้น ไม่มีใครคิดซักหน่อยว่ามันจะหยุดตรงนี้จริงไหม รีช่าก็ปากร้าย” อโวกาโดให้กำลังใจเพื่อนตัวเอง
“เหอะ!! ก็เพราะแบบนี้ไงนายถึงไม่เคยได้เป็นหัวหน้าทีม”หล่อนค้อนเดินไปที่ทางเข้าหุบเขา
“นายรอแปปนะ ฉันจัดการรถนี่ก่อน” อโวกาโดพูดแล้วเอามือทาบรถ
แสงสีเขียวมรกตออกมาจากมือเขารถจิ๊บโลหะค่อยๆสลายกลายเป็นไอขึ้นสู่ท้องฟ้า
“นั่นความสามารถของนายเหรอ??” มิวทำเสียงตกใจถาม
“อือ ฉันสามารถทำให้ทุกอย่างสลายได้ แต่ก็ใช้พลังพอดูเลยล่ะ” อโวกาโดถอนมือจากอากาศที่เคยเป็นรถจิ๊บมาก่อน
“มานี่เร็ว เราเข้าไปในนี้กันดีกว่า” รีช่าเรียกลูกทีม
มิว และอโวกาโดเดินมาสมทบ มองไปในป่าข้างในมืดนิดหน่อยเนื่องจากแสงแดดส่องไม่ค่อยถึง เสียงนกที่ดังอยู่ในป่านอกหุบเขานั้นก็ไม่มี เรียกว่ามีแต่เสียงลมพัดกับเสียงลมหายใจก็ว่าได้ ต้นไม้แต่ละต้นสูง 8-9 เมตรทะลุชั้นหมอกที่ปกคลมุมอยู่
โฮกกกกกกกกก.....!!! เสียงคำรามจากป่าด้านในใกล้เข้ามาตรงช่องทางเข้าหุบเขา มีลมกรรโชกแรง ใบไม้ปลิวว่อน
พื้นดินสั่นครอนด้วยสิ่งบางอย่างที่วิ่งเข้ามาที่พวกมิวอย่างรวดเร็ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น