คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : Bet You? [Adj]
" คิดจะเลิกตอนนี้น่ะหรอ ลูเซียส แกต้องบ้าไปแล้ว ไม่คิดบ้างหรอว่ามันสายไปน่ะ " เสียงหัวเราะกวนประสาทดังขึ้นจากอีกฝ่าย
" งานมันน่าเบื่อนี่นะ มันไม่เหมาะกับผมสักนิดนึง " ชายร่างบางนั่งจิบชาที่มีควันลอยกรุ่นมาแตะจมูกกระชับชุดนอนตัวหนา ในค่ำคืนที่มีเพียงแสงจันทร์ และหิมะ
" คิดจะทำอย่างนั้นจริงๆหรอค่ะ " เสียงหวานเรียบๆดังขึ้น ให้ชายหนุ่มขยับรอยยิ้มอย่างนึกดีใจ
" ถึงจะผิดกับพวกนายอยู่บ้าง แต่ว่า ... "
" ว่าอะไร...!! " มือใหญ่ๆทุบลงไปบนโต๊ะชา อาจะเป็นเพราะเกราะที่แม้ถึงเวลาดึกแล้วก็ยังไม่ยอมถอดออกด้วยกระมัง จึงทำให้เสียงนั้นดังก้องในห้องนั่งเล่นที่กว้างเกินกว่าจะเป็นบ้านคนปกติได้ น้ำเสียงหงุดหงิดของนายพลดังขึ้น หลังจากที่คนพูดเริ่มนิ่งไปนาน ราวกับชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไรที่เขาไม่ชอบสักนิด
" มาพนันกันดีกว่าครับ !! " เจ้าตัวเหยียดยิ้มขึ้นราวกับพบเรื่องสนุกๆอีกแล้ว
=======================
" ตื่นได้แล้ว พิล .... " เสียงหวานๆจากริมฝีปากบางดังขึ้น แต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อจะไม่สนใจแม้แต่น้อย จนคนปลุกเริ่มหงุดหงิดเปลี่ยนโหมดทันที " เฮ้ย บอกให้ตื่นไม่ได้ยินหรอไง ไอ้พิล !! " พอประเคนลูกถีบเข้าไปทีสองทีนั่นแหละ มันถึงจะยอมโผล่หัวออกมาจากที่นอนได้
" อืมม... ขออีก 15 นาทีนะ " ว่าแล้วก็กระชากผ้าห่มงุดๆ ไม่สนใจเพื่อนสาวที่โวยวายอยู่ข้างเตียง
" แกพูดว่าอะไรนะ...พิล " น้ำเสียงเยียบเย็นลอดจากไรฟัน ฟังแล้วทำให้คนฟังรู้สึกอยากลุกขึ้นจากเตียงตะหงิดๆ " แกบอกให้ฉันมาปลุกแต่เช้าแล้วกลับขอนอนต่อเนี่ยนะ !! " สาวน้อยที่เริ่มฟิวส์ขาดกระชากผ้าห่มที่มันดึงไปห่มตัวออก ทำเอาไอ้ตัวที่เกาะผ้าห่มแน่นหล่นตุบลงไปกองบนพื้น
" โอ๊ย !! เจ็บนะ เซน แกเอาผ้าห่มมานี่เดี๋ยวนี้ !! ดู.... ดูนี่!! เมื่อคืนเพราะใครล่ะ ฉันถึงได้ตาโหลขนาดนี้ " คราวนี้คนฟังกลับกลืนน้ำลายเอื๊อก รู้สึกเจ็บแปล็บๆที่หลัง เหมือนมีชนักปักอยู่ จนในที่สุด ก็ต้องจำใจปล่อยผ้าห่มคืนมันไป
" บอกไว้ก่อนนะ ฉันจะไม่เตือนแกแล้ว วันนี้แกมีส่งดาบไม่ใช่หรอไง " ร่างเล็กๆก้าวฉับๆออกไปยังโต๊ะอาหารกลางห้อง ค่อยๆวางส้มที่เพิ่งซื้อมาไว้ที่โต๊ะกินข้าว แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองดูเพื่อนไอ้ตัวดีค่อยๆ มุดหัวออกมาจากเตียงช้าๆ
มือสีคล้ำหยาบกร้านจากการกรำงานหนักเกินกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เกาหัวอย่างคนกำลังมึนเพราะนอนไม่พอ ยิ่งทำให้ผมสีดำเข้มดูยุ่งเหยิงเข้าไปอีก มันหาวจนนัยน์ตาสีแดงเพลิงโตๆนั่นลีบเล็กลงไปเป็นเส้นเดียวกัน
ท่าทางมันคงจะงัวเงียไปอีกนานแฮะ
" เออ เออ...ไว้ทีหลังแล้วกัน นับวันบ่นยิ่งกว่าแม่ฉันแล้วนะ อุ๊บ!! ... " ส้มลูกแรกถูกปาเข้าปากอย่างแม่นยำ แถมด้วยในมือเจ้าหล่อนยังคีบมีดปอกผลไม้ไว้คามือ
ไม่จำเป็นต้องบอกว่าก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปมันจะเป็นยังไง
ถึงจะรู้ว่าความแม่นยำของเธอคนนี้มันราวกับจับวางก็เถอะ
หนุ่มผิวคล้ำรีบเอาส้มที่อุดปากตนเองออกร้องห้ามไม่เป็นภาษา
ฉึ่บ !!
ส้มที่เคยอยู่ในมือชายหนุ่มบัดนี้ กลิ้งหลุนๆ ลงไปกองกับพื้น โดยมีมีดประดับไว้ ราวกับประติมากรรมชิ้นเอก นี่ถ้าส้มมันยังอยู่ในปาก แม่เพื่อนตัวดีมันจะเอามีดปอกผลไม้ ปาเข้าปากเค้าไหมเนี่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม
" นี่แกจะบ้าหรอไง เล่นไรวะ น่ากลัวเป็นบ้า "
" คำก็บ้า สองคำก็บ้า แล้วสรุปว่าแกตื่นรึยังล่ะ หรือจะเอาชุดที่สองพร้อมเสิร์ฟถึงเตียง " ว่าไม่ว่าเปล่า หยิบส้มสามลูกมาโยนเล่นให้คนฟังหนาวๆร้อนๆ ก่อนจะโยน ปุ ลงบนเตียง ที่บัดนี้ ชายหนุ่มกระวีกระวาดลุกขึ้นเพราะกลัวใจเพื่อนสาว " รีบๆไปส่งของได้แล้วล่ะมั้ง ไอ้แบล็ก สมิธ!! "
" ไม่ต้องเน้นมากก็ได้ เฮ้ย ออกไปปิดประตูด้วยดิ มันหนาวนะ " ยังไม่ทันพูดอะไร สาวน้อยที่สวมเสื้อโค้ทเสร็จก็กระโดดแผล่วออกไปแล้ว... เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยน่าเป็นห่วงแบบนี้ซะที แต่จะทำไงได้ล่ะ
.......................................
ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็มันมีกันอยู่แค่ สองคนนี่
" ไม่ตรง หนูๆ ทางขวาอีกนิดจ๊ะทางขวา "
" ขวานะคะ ค่ะๆ "
แล้วจะรู้ได้ไงวะว่ามันตรงรึยัง
" ไม่ใช่จ๊ะ ซ้ายนิดจ๊ะ นั่นอย่างนั้น มากไปแล้ว... "
" ค่ะๆ ซ้ายนะคะ "
" ไม่ใช่แล้วนั่น... "
โอ้ย...ไรวะ รำคาญแล้วนะ ป้าจะสั่งไรมากมายเนี่ยกะอีแค่ป้ายร้าน ตอนนี้เสียงโวยวายในจิตใจเริ่มหนักข้อขึ้น แต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ขันติ ลูก ขันติๆ
บันไดลิงที่ถูกใช้พาดอยู่หน้าร้าน อย่างหมิ่นเหม่ เพราะเซน กำลังเอนหลังสุดตัวเพื่อจะดูว่าป้ายหน้าร้านยัยป้านี่มันตรงรึยัง เจ้าหล่อนเสยผมหยักศกสีน้ำตาลขึ้นด้วยความรำคาญก่อนจะมัดมันลวกๆไว้กลางหลัง เพื่อให้ทำงานง่ายขึ้น แต่ไม่ทันจะได้ทำงานเสร็จ เสียงโหวกเหวกที่มาใหม่เริ่มทำให้ต่อมความรำคาญชักทำงานหนักอีกระลอก
" ช่วยด้วยค้า ~~~~ ช่วยด้วย !! " หญิงร่างใหญ่ในชุดขนสัตว์สีดำวิ่งกระหืดกระหอบตาม เด็กหนุ่มฝีเท้าเร็วคนนึงอยู่ด้านหลัง ยิ่งมองก็ยิ่งขำ ยังกับ ไอ้หมอนั่นโดน หมีฟายไล่ล่า
" ตรงแล้วจ๊ะหนู อย่างนั้น.. " มือที่ตอนนี้จัดป้ายร้านอยู่ไม่ได้ใส่ใจเสียงยัยป้าแม้แต่น้อย ไพล่ไปจับป้ายกระชากลงมาขวางทางเด็กหนุ่มซึ่งตอนนี้ พอสรุปได้คร่าวๆ ว่ายังไงก็ขโมย
ไอ้พวกขโมยของคนอื่นล่ะเกลียดนัก!!
ป้ายร้านถูกฟาดไปขนานกับพื้นหมายจะหยุดการเคลื่อนไหวของมัน นายขโมยสไลด์หลบไปได้อย่างเฉียดฉิว แน่นอน อย่างที่เธออยากให้มันหลบ
" แอ่ก !! " เสียงนายขโมยดังขึ้น เพราะมือของร่างเล็กที่กระชากคอเสื้อมันไว้ได้ทันก่อนที่มันจะ เตลิดหนีไป มือเล็กๆ เกร็งขึ้นทันทีที่มันเริ่มดิ้นพราดๆ ราวกับถูกของร้อน พอเห็นหน้าไอ้ตัวดีเท่านั้นแหละ อารมณ์ขันติที่ว่า ก็กระเจิงทิ้งซะแล้ว เข่าเรียวๆสวนเข้าท้องขึ้นอย่างฉุนขาด จนทำให้ไอ้ตัวขี้โวยวายลงไปนอนงอด้วยความจุก
โกรธที่มันไม่ยอมฟังเธอ
โกรธที่เธอต้องมานั่งแขวนป้ายร้านใหม่
โกรธที่มัน กลับมาเป็นขโมย !!
" ไอ้เกล ฉันเคยบอกแกรึยังว่าให้เลิกเป็นขโมย " เสียงคนข้างตัวเปรยขึ้นเนิบๆ พอให้เด็กหนุ่มรู้ชะตากรรมที่กำลังเผชิญ อยู่ ตอนนี้จึงได้แค่พยักหน้า แล้วนิ่งเงียบไป อย่างว่าง่าย ทำตามได้เพียงเดินตามหลังไปเงียบๆ
" แล้วฉันบอกแกรึยัง ว่าชั้นเกลียด ขโมย ... ว่ายังไง " ไออุ่นที่ลอยออกมาจากริมฝีปากบางกระทบความเย็น ม้วนตัวเป็นไออย่างแผ่วเบา
" บอกแล้วใช่ไม๊ ว่าขาดเหลืออะไรก็มาหากันได้ !! " น้ำเสียงสุดท้ายระเบิดราวกับหมดความอดทน แต่เมื่อมองหน้ามันก็ต้องชะงัก
ไอ้เด็กเวรนี่ !!
มันขมวดคิ้ว ก้มหน้างุดๆ ราวกับจะร้องไห้
เท้าที่กำลังย่ำหิมะหยุดลงกลางคัน พร้อมกับ ใจที่อ่อนยวบยาบ
ตามเคย....
" เอาเหอะ " เจ้าหล่อนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย มือที่เคยถูกันอยู่เพื่อหาไออุ่น จากวันที่ไม่มีหิมะตกเช่นนี้ คลายออกเพื่อกวักมือเรียกให้เด็กชายเดินตามมาเงียบๆ
" คนหายไปไหนหมด รู้รึเปล่าเกล ??? "
" ไปดู งานคัดเลือกองครักษ์ใหม่ " เสียงตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ลอดผ่านปากมาช้าๆ
ไม่เห็นไอ้พิลจะบอกเรย ... ว่ามีงานอะไรพรรค์นี้ด้วย
" ที่ไหน? "
" ลานหน้าปราสาท "
" หืมม.... ไปด้วยกันไม๊ " เซนปัดผมที่รวบมาด้านหน้าให้มารวมกัน นัยน์ตาใสแจ๋วสีฟ้ามองเด็กชายอย่างรอคำตอบ
" ไม่ !! " มันปฏิเสธแบบไม่คิดอะไรเลยซักนิดทำให้สาวน้อยผิดหวังหน่อยๆ " อมีเรียไม่สบาย "
" งั้นหรอ " เธอทำท่าครุ่นคิด ลมหายใจพ่นเป็นควัน รดหลังมือที่กำลังแตะริมฝีปากบาง แล้วเหยียดรอยยิ้มบางๆออก ยิ้มอย่างที่คนข้างตัวไม่อยากเห็น
ดีนะที่ขอบายก่อน
" เอ้า ... " เสื้อโค้ทตัวเขื่องที่หญิงสาวใส่อยู่ถูกโยนใส่หน้าเด็กชายเต็มๆ จนร่างเล็กๆต้องตะกายเอาโค้ทนั่นออก ยังไม่ทันจะตั้งตัวได้ ถุงผ้าบางๆก็ถูกโยนมาให้จนเกือบรับไม่ทัน " ฝากเยี่ยม อมีเรียแทนด้วยแล้วกันเงินนั่นเป็นค่ายา ของเยี่ยมไข้จากไอ้พิล ส่วนโค้ทนั่น ของเยี่ยมไข้จากฉัน "
" แต่...เซน ไม่หนาวหรอ " เกลถามน้ำเสียงแปร่งๆ ปกติมันก็เป็นคนไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่พอกับเซนล่ะก็ เป็นไม่กล้าหือ ทันที
คำตอบที่ได้รับมีแค่มือที่โบกลาโดยไม่ยอมหันกลับมามอง
รู้สึกยังกับว่า จะไม่ได้เจอกันอีกยังไงยังงั้น
.............
เสียงตะโกนเชียร์เอ็ดตะโรดังก้องทั่วลานกว้างหน้าพระราชวัง ผู้คนที่มาดูมีแต่ผู้ชายและคนหนุ่มสาวเลือดร้อน
ก็แน่นอนล่ะ
พวกแม่บ้าน ทั้งผู้หญิง และเด็ก ตอนนี้คงอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกมาดูเขาใช้ความรุนแรงแบบนี้
นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ไอ้พิลมันห้ามเธอ
ไร้สาระเป็นบ้า !!
จะว่าไป....
ผู้คนในรอสเวลล์น่ะ รักสงบ ไร้สงครามมาแรมปี ความดีความชอบนี้เป็นขององค์ราชาของรอสเวลล์ที่ไม่นิยมออกมาพบหน้าผู้คนนัก ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เดาได้เลยว่า ตาแก่นั่น ( Nico : เฮ้ย...องค์ราชา ) ต้องเอาแต่นั่งวางแผนการเมือง การคลัง อะไรก็ตามที่น่าปวดหัว อยู่บนปราสาท ห้าหอคอยนั่นแน่ๆ
หอคอยที่เธอเคยมองดูจากบ้านอยู่ไกลๆ บางครั้ง ตอนที่ได้ออกมาเที่ยวในเมืองก็เคยผ่านมาหน้าปราสาทนี่เหมือนกัน กำแพงรายรอบปราสาททำจากหินผา แข็งแรง ใหญ่ ราวกับป้อมปราการรบ - - แต่ตัวปราสาทข้างในกลับสร้างขึ้นจากช่างฝีมือเอก ไล่ตั้งแต่ซุ้มประตูโค้ง อาร์ค ไปจนจรดเพดานกระจกโค้งรับแสง ยิ่งทำให้ ในปราสาทดูใหญ่ยิ่งขึ้น
ความจริงเธอเองก็เคยตามไอ้พิลมันเข้าไปส่งดาบในวังอยู่ครั้งนึง ถึงได้เคยเห็นภายในขนาดนี้ แต่ก็เข้ามาได้แค่ในโถงปราสาทเท่านั้นเอง
แล้วนี่เราไล่ยาวไปถึงในปราสาทได้ไงเนี่ย
ถึงจะว่าอย่างนั้นลานกว้าง หน้าพระราชวัง ( ที่คนอื่นเค้าเรียกว่าจัตุรัสไรม์เนี่ย มันก็เป็นที่ๆเค้าเอาไว้จัดเทศกาลต่างๆเท่านั้นเอง เพราะงั้นจึงไม่แปลกอะไรที่งานคัดเลือกจะมีขึ้นที่นี่)
คนที่มาชุมนุมกันแยะจนท่าทางจะเบียดเข้าไปดูได้ยาก
แล้วจะเข้าไปดูยังไงล่ะเนี่ย
ถ้ามีปีกเหมือนนกก็ดีน่ะสิ จะได้บินขึ้นไปดูได้...
ขึ้นไปดู นั่นน่ะสิ ขึ้นไปดู
เจ้าตัวหัวเราะร่วน หลังจากที่ปีนขึ้นมาบนหลังคาได้สำเร็จ ถึงจะไกลจากลานไปนิด แต่ด้วยเจ้ากล้องที่เธออุตส่าห์พกมา ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะดูการต่อสู้ข้างล่าง
ลมหนาวสดชื่น ปะทะใบหน้า จนเริ่มรู้สึกชาๆ อากาศข้างบนดีกว่า ข้างล่างมาก เพราะไม่มีกลิ่นเสื้อหนังที่เบียดๆกันอยู่ - - แต่เสียอย่างเดียว ลมมันพัดแรงไปหน่อย เมื่อกี้ไม่น่าให้เสื้อโค้ทไอ้เกลไปเรย ให้ตายสิ - - คิดแล้วก็ได้แค่ถอนหายใจ เม้มริมฝีปากทนหนาวไปก่อน ดูการต่อสู้ด้านล่าง
ชายหนุ่มร่างเล็กกระชับดาบในมือขึ้น จ้องมองชายร่างใหญ่ ยังกับลูกยักษ์ ด้วยนัยน์ตาเหยี่ยว อีกฝ่ายกำลังวาดดาบสะเปะสะปะ ราวกับรำคาญเสียงโห่ร้องตะโกนเชียร์รอบลานเต็มทน แต่คมดาบก็ไม่สามารถถูกตัวเขาได้แม้แต่น้อย ชายร่างเล็กมองเห็นโอกาส รีบพุ่งตัวเข้าประชิด หมายเผด็จศึกไอ้ลูกยักษ์เบื้องหน้า - - ดาบถูกเหวี่ยงไปฟันท่อนขา
ฟรึ่บ !!
ชั่ววินาทีที่ปะทะกัน ชายร่างเล็กกลับเป็นฝ่ายที่กระเด็นออกมา เลือดอาบแขนขวาซึ่งบัดนี้ ตกลู่แนบข้างลำตัวอย่างใช้การไม่ได้ เสียงคนดังหึ่งๆอยู่รอบลานยังกับผึ้งแตกรัง จนเด็กสาวข้างบนเริ่มรำคาญแทนคนสู้ข้างล่าง ราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามหาคำตอบให้ได้ ว่าเหตุใดผู้ที่โจมตีถึงได้กลายเป็นผู้ถูกโจมตีไปได้
คำถามที่ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบสำหรับเซน เมื่อครู่ ชายร่างเล็กพุ่งตัวเข้าไปก็จริงอยู่ แต่ว่าลงดาบได้ไม่เต็มแรง ผลก็คือดาบสะท้อนกลับ ไม่สามารถฟันผ่านท่อนซุงไปได้ ( NiCo Robin : เฮ้ย.. นั่นมันขา ) สุดท้ายเขาก็ชะงัก คู่ต่อสู้เองก็ไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆที่หาได้ยากหลุดไป แล้วก็คว้าโอกาสนั้นไว้ได้อย่างสวยงามเสียด้วย ชายร่างเล็กจำต้องใช้แขนซ้ายที่เหลืออยู่ ในการต่อสู้
แน่นอน ไอ้หมอนั่นมันจะไปสู้ไอ้ลูกยักษ์ได้ยังไง
อีกเดี๋ยวการต่อสู้คงจะจบลงแบบไม่ต้องเดา
แต่ว่า... ขาไอ้ลูกยักษ์มันจะไม่ได้แผลบ้างเชียวหรือ ถ้าโดนฟันเข้าไปขนาดนั้น
เป็นไปตามคาด ในที่สุดหมอนั่นก็แพ้แรงไอ้ลูกยักษ์จนดาบถูกปัดกระเด็นไปไกล แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดก็ทำให้สาวน้อยลุกพรวดพราด นัยน์ตาสีฟ้าใสเบิกกว้าง
ไอ้ลูกยักษ์ไม่ยอมยั้งมือ ไล่ฟันชายร่างเล็กต่อ แถมไอ้ผู้คุมลานยังยืนตะลึงไม่ยอมเข้าไปช่วย แน่ล่ะเหตุการณ์วุ่นวายขนาดนั้น ก็ต้องมีคนวิ่งเข้าไปรับดาบแทนชายหนุ่มคนนั้น เสียงคมดาบปะทะกันดังก้องไปทั่วลาน และที่คาดไม่ถึงที่สุดคือ ไอ้คนที่ออกไปรับดาบ มันคือ ไอ้พิล !!
“ แล้วมันก็เจือกทำเป็นเงียบตลอด ” เซนเดินไปตามหลังคาบ้านที่เกยชิดกันอย่างรวดเร็ว เจ้าหล่อนบ่นไปตลอดทางเพื่อวิ่งไปหาไอ้เพื่อนตัวดี
มันไม่เห็นบอกเลยว่าวันนี้มันมีส่งดาบในวัง แถมเรื่องคัดเลือกราชองครักษ์อีก คอยดูเหอะ กลับไปจะซัดให้ไม่ครบ สามสิบสอง
“ เฮ้ย... ตรงนั้นน่ะ หยุดนะ ” เสียงทหารดังไล่หลังมาเมื่อเธอวิ่งไปตามกำแพงปราสาท
เรื่องอะไรจะหยุดให้โง่ฟะ แล้วทหารมันจะมาขยันทำงาน อะไรกันตอนนี้ล่ะเนี่ย
แค่ขอทางด่วนพิเศษหน่อยทำเป็นโวยวาย ไอ้พวกทหารใช้ไม่ได้เลย
เรื่องฝีเท้า รับรองว่า ไม่มีใครตามทั่นเซนคนนี้ทันแน่นอน แต่ไอ้เรื่องโดนดักหน้าเนี่ย เค้าเรียกว่าขี้โกงได้รึเปล่านะ
“ จับได้แล้วครับ !! ” นายทหารสองคนล็อกตัวเด็กสาวจากทางด้านหลัง “ รู้ไม๊ว่าที่นี่มันเขตพระราชฐ... ”
ผลัวะ !!
เวงกำ ลืมตัว
เธอเตะเข้าท้องนายทหารที่ล็อกแขนซ้ายไปสุดแรง จนเขากระเด็นไปติดกำแพงอีกฝั่ง
เอาวะ ... ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
โครม !!
นายทหารอีกคนถูกจับทุ่มลงพื้น ไปนอนนับดาวเล่นตอนกลางวัน แล้วเจ้าตัวก็กระโดดแผล่วลงไปอีกฝั่งของกำแพง
ผลั่ก !!
เอ๊ะ อารายนุ่มๆ เธอควรจะหล่นลงมาบนพื้นไม่ใช่รึ
วันนี้อะไรมันจะดวงนารีพิฆาตขนาดนี้ ไอ้ที่ว่านุ่มๆน่ะ มันตัวชายหนุ่มคนนึง
“ ฮึ๊ย... โทดทีนะน้า ไงๆก็ขอตัวก่อนแล้วกัน ” แน่ล่ะ เรื่องอะไรเธอจะอยู่ให้โง่อีกรอบ เผ่นสิฟะ
“ เฮ้ย !! มันไปทางนั้นรึเปล่า มีผู้บุกรุก รีบออกตามหาโดยด่วน ”
ตายหอง
สรุปว่าโดดลงมาผิดฝั่ง นี่มันข้างในปราสาท
จากจะมาดูการแข่งขัน กลายเป็นว่าโดนข้อหาบุกรุกปราสาท ขืนไอ้พิลรู้ โดนสวดยับแหงๆ
“ ดูเหมือนว่า... ” ชายหนุ่มป้องตามอง ดูต้นทางให้ก่อนจะฉุดสาวน้อยข้างตัวให้ลุกตาม “ ท่าทางจะปลอดภัยแล้ว ” ชายหนุ่มแปลกหน้าส่งยิ้มหวานมาให้เธอ
ทำไมไอ้หมอนี่ต้องมาช่วยเธอไว้ด้วยล่ะเนี่ย
“ งั้น ก็ขอบคุณน้ามากเลยนะ ถ้าไม่มีไรแล้วขอตัวก่อนแล้วกัน ” เซนคิดจะชิ่งหนีชายแปลกหน้าทันที ที่พูดจบ ชายวัยกลางคนตรงหน้าก็คว้าแขนเด็กสาวไว้ราวกับรู้ใจว่าเธอกำลังจะหนี นัยน์ตาสีม่วงออกแดงนั้นจับจ้องมาที่เด็กสาว ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่อยากสบตาเอาซะดื้อๆ หน้าที่เคยสีแดง ไม่ว่าจะเพราะหิมะกัด หรือจะเพราะความเหนื่อยที่วิ่งหนีมาเมื่อกี้ บัดนี้กลับขาวซีด จนจะละลายไปเป็นหิมะไปให้ได้
น่ากลัว...
ยิ่งกว่าโดนสอบสวนจากฝ่ายสอบสวนที่เธอเคยโดนซะอีก
“ จะไปไหนละครับ...แอบเข้ามาในปราสาท คิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่ครับ ” รอยยิ้มที่ส่งมาให้มันยังเหมือนเดิมก็จริง แต่รู้สึกเสียวสันหลังวาบแปลกๆ
ใครมันจะไปตอบ.....
“ งั้น คำถามใหม่ ... ชื่ออะไรครับ ” เขาเสริมขึ้นราวกับอ่านใจเธอออก
“ เซซิเลีย D. เอสทินี่ ” เจ้าของชื่อยังลืมตัวตอบออกไป จนตะปบปากตัวเองไม่ทัน
“ ลูเซียส เฟท ครับ ชื่อเพราะดีนะครับ แล้วก็ยาวด้วย ”
“ เซน ” คำตอบที่เผลอหลุดออกไปทำให้อยากกัดปากตัวเองเป็นบ้า
จากสัญชาติญาณแล้ว ประมวลผลออกมาได้ว่า
อยู่ให้ห่างจากไอ้หมอนี่ โดยด่วน !!
“ น้า ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวไปดูการแข่งก่อนนะ ” ไม่ใช่ว่า ลุงนี่เป็นทหารหรอกนะ
“ การแข่งงั้นหรอ... หมายถึง การคัดเลือกราชองครักษ์ล่ะสิ .... ฉันรู้จักที่ดีๆ ตามมาสิ ”
ถึงเฮียแกจะยิ้มยังไงก็ตาม มันก็ยังดูเจ้าเล่ห์อยู่ดี
รู้สึกเหมือนคนโง่ยังไงไม่รู้แฮะ ที่อยู่ดีๆก็ตามคนแปลกหน้าเข้ามาถึงเกือบติดลานคัดเลือก
นายขี้ก้างนี่ก็ประหลาดคน รู้ที่ทางดีเกินจริง
ไอ้หมอนี่มันคงไม่ได้เป็นทหารอย่างที่คิดหรอกนะ
เสียงปะทะคารมดังมาจากอีกฟากของลานทำให้คนหันไปมองดูกัน
เสียงนึง ออกจะคุ้นๆ ไอ้พิลแหงๆ
.....ว่าแต่ ไอ้พิลมันทะเลาะกับใครวะ
ร่างเล็กๆแหวกทางฝูงชน พยายามเดินเข้าไปหาต้นเสียงที่บัดนี้ ทะเลาะกับใครก็ไม่รู้
แต่พอมองอีกที คนที่มันทะเลาะด้วยนั่นมันเป็นถึงนายพลนี่หว่า
“ ผมบอกท่านรึเปล่าครับว่าดาบของผมไม่ได้มีไว้ทำแบบนี้ ” ช่างหนุ่มมกล่าวอย่างหัวเสีย
“ เป็นช่างตีดาบ ก็ควรตีดาบ ทำหน้าที่ไปอย่างสงบเสงี่ยม ไม่สมควรมายุ่งกับกิจของนักรบ การกรีดเลือดถือเป็นความภูมิใจของนักรบ ” อีกฝ่ายก็โต้กลับมาดุเดือดไม่แพ้กัน
“ กรีดเลือด....ถือเป็นกิจ?? ของนักรบตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ผมเข้าใจว่า ดาบควรจะฝากรอยแผลให้ศัตรูสิครับ นี่ ผมเข้าใจผิดแต่แรกเลยหรอครับนี่ !! ?? ” เสียงของไอ้พิลมันเริ่มกวนประสาทเข้าไปทุกที
ทีเรื่องดาบล่ะ น็อตหลวมง่ายเสียเหลือเกิน
เป็นต้องไม่ยอมลงให้กับใคร
ของแบบนี้มันต้องรู้กาลเทศะรู้เปล่าเนี่ย ไอ้พิล
“ มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ควรจะเคารพ !! ” คารมร้อนๆและโทสะถูกส่งมาพร้อมกับเสียงตะคอก
“ ดาบจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ถือและตัวดาบ ไม่ใช่ธรรมเนียมโบราณ เช่นนี้ !! ท่านเองก็อยากลองภูมิใจกับภาระนี้บ้างรึเปล่าครับ ” เร็วเท่าความคิดที่ มันเอาดาบจ่อคอหอยคนในชุดเกราะ แต่ไม่มีใครสักคนที่ขยับตัว จนกระทั่งมันพูดจบ “ แล้วท่านจะรู้ครับว่าชีวิตคนเราไม่ใช่ของเล่น ”
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่เว้นแม้แต่ เธอ หรือนายขี้ก้างแปลกหน้า
อีกฝ่ายเป็นถึงนายพลนะเว้ย ไอ้พิ๊ล ~ ~ ~ ~ ~ ~
เพียงไม่ถึงอึดใจ ทหารก็กรูกันเข้ามาจับมันชาร์ตแทบขยับไม่ได้
“ นั่นเพื่อนคุณหรือครับ ” นายลูเซียสถามขึ้น
“ เออ ” คำตอบสุดห้วนถูกส่งไป เซนกำลังพุ่งตัวเข้าไปหมายจะจัดการกับทหารเป็นฝูง
“ เดี๋ยวครับ !! ” นายลูเซียส ตะโกนเรียกพลางคว้าเอวของร่างเล็กๆที่กำลังดิ้นอยู่
“ ปล่อยเด้ น้า ” สาวน้อยทิ้งพยายามจะเตะ ต่อย ถีบ แม้กระทั่งกัด แต่คนที่ล็อกตัวเธอกลับไม่โดนทำร้ายแม้แต่น้อย “ มัน... ”
“ แล้วถ้าคุณเข้าไปตอนนี้ มันจะได้อะไรขึ้นมาล่ะครับ ” คำพูดรั้งสติให้คนฟังหยุดคิด “ แล้วดูนั่นสิครับ ” นายประหลาดชี้มือไปทางนายพลเบลม็อกค์ ที่ตอนนี้ยืนอย่างไว้ท่า
“ ถ้านายเอาชนะหมอนี่ได้ ด้วยดาบที่นายตีแล้วล่ะก็ ” เขาตบลงไปที่บ่ากว้างๆ ของไอ้ลูกยักษ์ “ ฉันจะยกเลิกธรรมเนียมนี้ ไปเลย ” ชายในชุดเกราะประกาศกร้าว ราวกับจะเป็นคำยั่วยุช่างตีดาบหนุ่ม นัยน์ตาสีเขียวทอประกายกล้าแบบไม่เกรงกลัวใคร ค่อยๆลุกขึ้นมาหลังจากถูกทับติดพื้นเมื่อครู่
“ แล้วท่านจะต้องเสียใจ ” มันเดินไปหยิบดาบขึ้นมาจากกองดาบที่มันเอามาส่ง ก็ทำให้สาวน้อยใจแป้วไม่น้อย
นั่นมัน ดาบที่เธอช่วยมันตีเมื่อคืน หลังจากที่ทำดาบที่มันเตรียมมาเกือบ 3 วัน พังเรียบวุธ
เสียงหัวเราะดังมากจากข้างหลังของเธอ
นายลูเซียสคนประหลาด กำลังกลั้นหัวเราะราวกับไม่มีเรื่องอะไรที่น่าตลกไปกว่านี้อีกแล้ว
ไอ้หมอนี่มันเห็นว่าเรื่องที่เพื่อนเขากำลังจะขึ้นเขียงมันสนุกตรงไหนวะ !!
“ ผม ขอตัวก่อนนะครับ ” ชายหนุ่มพยายามปาดน้ำตาออกจากหางตา แล้วเดินหายเข้าไปในปราสาท หลังจากที่นายพลเบลม็อกค์ เดินเข้าไปไม่นาน
แล้วยังนี้ ไอ้พิลมันจะรอดไหมเนี่ย ....
“ถ้านายเอาชนะหมอนี่ได้ ด้วยดาบที่นายตีแล้วล่ะก็ ฉันจะยกเลิกธรรมเนียมนี้ ไปเลย . ”
พรืด !!
“ ไม่ไหวเลยนะครับท่านนายพลเบลม็อกค์ ” น้ำเสียงล้อเลียนกับนัยน์ตารู้ทัน ทำให้นายพลรู้สึกไม่ชอบใจนัก ที่ชายตรงหน้าหัวเราะแบบไม่เกรงใจขนาดนั้น “ แหม่ ถ้าริจะพนันแล้วล่ะก็ ไม่เสี่ยงมันก็ไม่สนุกสิครับ เล่นได้ทั้งขึ้นทั้งล่องแบบนี้ ขี้โกงจริงๆ นายพลผู้ยิ่งหญ่ายยยย ~ ~ ~ ~ . ใจจริงอยากเลิกธรรมเนียมนี้มานานแล้วไม่ใช่หรือครับ ตั้งแต่สมัยก่อนที่ดื้อแพ่งมาตลอดน่ะ ”
“ เงียบไป ” นายพลกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ แต่มันก็ไม่วายแสดงออกบนใบหน้าด้วย “ พนันของฉันกับเด็กนั่นจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่พนันของฉันกับนาย ฉันชนะใสๆ ”
“ ถูกใจเด็กหนุ่มคนนั้นเข้าเต็มเปาเลยสินะครับ... ทั้งเรื่องอาวุธ ทั้งเรื่องความดื้อแพ่งนั่น ” นายลูเซียสเกาคางเบาๆ “ เหมือนท่านสมัยก่อนไม่มีผิด ” แน่นอน แต่เรื่องนิสัย ต่างกันแทบจะคนละเรื่องทีเดียว
“ แน่นอน ท่านลูเซียส ตอนนี้ท่านน่ะ เรียกได้ว่ายิ่งกว่าถูกขังอยู่บนหอคอยอีกนะ จะมีเวลาไหนแอบไปหา ผู้โชคร้าย คนนั้นกัน ” เบลม็อกค์ยิ้มกว้างราวกับกำลังเป็นต่อ
“ ไม่แน่หรอกนะครับ.. ” นายลูเซียสคนประหลาดหัวเราะเบาๆกับท่าทางของเพื่อนสนิท แบบไม่ยี่หระ
เขาหัวเราะ แบบที่คนข้างตัวไม่อยากได้ยิน หรือแม้แต่จะเห็น
“ ผมอาจจะเจอตัวหมากคนเก่งของผมแล้วก็เป็นได้นะครับ ”
“ หลอกผมไม่ได้หรอก ท่านน่ะ ไม่มีเวลาจะกินข้าวด้วยซ้ำ จะออกไปไหนได้ !!”
“ เห็นไหมครับ งานผมไม่ได้น่าสนุกซักนิด เวลากินข้าวยังไม่มีเลย แต่ว่า ผมน่ะ สวดภาวนาทุกวันเลยนะครับ ” ลูเซียสชี้นิ้วเรียวขึ้นไปบนเพดานกระจกใสสว่าง ราวกับจะสื่อถึงอะไรบางอย่างที่รู้กันเพียง สองคน “ บางทีนะ เบลม็อกค์ ท่านอาจจะเห็นใจคนอย่างผม ส่งนางฟ้าบินลงมาช่วยผมแล้วก็ได้ ”
“ เพ้อเจ้อ... นับวันสมองท่านจะเบลอๆเข้าไปทุกที ” ท่านนายพลเองก็เริ่มชักจะหวั่นๆคนข้างตัวอยู่ไม่น้อย
ก็ในเมื่อคนข้างตัวของเขาสามารถทำให้คนที่อยู่ด้วย รู้สึกว่าตนเองโง่อยู่เป็นประจำ
“ นางฟ้าอะไร พูดจาไม่รู้เรื่อง ”
“ ท่านนั่นแหละ แกล้งทำเป็นไม่รู้เอง ” ชายหนุ่มเหล่ตามามองนายพลซึ่งบัดนี้เหงื่อแตกพลั่ก
ช่างเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกเสียเหลือเกิน
ถ้าหากเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนเช่นนายพลก็ดีน่ะสิ ตัวหมากของเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจมากนัก
“ ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะครับ ”
--------------------------------------------------------------------------------
ทำไมมันขึ้นซ้ำได้หว่า..... ช่างมานเหอะ -*-
--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น