ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Run Ran Run !!

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : Bet You? [Adj]

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 49


    " คิดจะเลิกตอนนี้น่ะหรอ ลูเซียส  แกต้องบ้าไปแล้ว ไม่คิดบ้างหรอว่ามันสายไปน่ะ " เสียงหัวเราะกวนประสาทดังขึ้นจากอีกฝ่าย   

    " งานมันน่าเบื่อนี่นะ  มันไม่เหมาะกับผมสักนิดนึง " ชายร่างบางนั่งจิบชาที่มีควันลอยกรุ่นมาแตะจมูกกระชับชุดนอนตัวหนา  ในค่ำคืนที่มีเพียงแสงจันทร์ และหิมะ   

    " คิดจะทำอย่างนั้นจริงๆหรอค่ะ " เสียงหวานเรียบๆดังขึ้น ให้ชายหนุ่มขยับรอยยิ้มอย่างนึกดีใจ

    " ถึงจะผิดกับพวกนายอยู่บ้าง แต่ว่า ... "

    " ว่าอะไร...!! " มือใหญ่ๆทุบลงไปบนโต๊ะชา  อาจะเป็นเพราะเกราะที่แม้ถึงเวลาดึกแล้วก็ยังไม่ยอมถอดออกด้วยกระมัง  จึงทำให้เสียงนั้นดังก้องในห้องนั่งเล่นที่กว้างเกินกว่าจะเป็นบ้านคนปกติได้   น้ำเสียงหงุดหงิดของนายพลดังขึ้น หลังจากที่คนพูดเริ่มนิ่งไปนาน   ราวกับชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไรที่เขาไม่ชอบสักนิด

    " มาพนันกันดีกว่าครับ !! " เจ้าตัวเหยียดยิ้มขึ้นราวกับพบเรื่องสนุกๆอีกแล้ว

     

    =======================



            "
    ตื่นได้แล้ว  พิล .... "  เสียงหวานๆจากริมฝีปากบางดังขึ้น  แต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อจะไม่สนใจแม้แต่น้อย  จนคนปลุกเริ่มหงุดหงิดเปลี่ยนโหมดทันที " เฮ้ย บอกให้ตื่นไม่ได้ยินหรอไง ไอ้พิล !! " พอประเคนลูกถีบเข้าไปทีสองทีนั่นแหละ  มันถึงจะยอมโผล่หัวออกมาจากที่นอนได้

     
            "
    อืมม... ขออีก 15 นาทีนะ " ว่าแล้วก็กระชากผ้าห่มงุดๆ ไม่สนใจเพื่อนสาวที่โวยวายอยู่ข้างเตียง


            "
    แกพูดว่าอะไรนะ...พิล " น้ำเสียงเยียบเย็นลอดจากไรฟัน ฟังแล้วทำให้คนฟังรู้สึกอยากลุกขึ้นจากเตียงตะหงิดๆ  " แกบอกให้ฉันมาปลุกแต่เช้าแล้วกลับขอนอนต่อเนี่ยนะ !! " สาวน้อยที่เริ่มฟิวส์ขาดกระชากผ้าห่มที่มันดึงไปห่มตัวออก ทำเอาไอ้ตัวที่เกาะผ้าห่มแน่นหล่นตุบลงไปกองบนพื้น

     
            "
    โอ๊ย !!  เจ็บนะ เซน  แกเอาผ้าห่มมานี่เดี๋ยวนี้ !!  ดู.... ดูนี่!!  เมื่อคืนเพราะใครล่ะ ฉันถึงได้ตาโหลขนาดนี้ " คราวนี้คนฟังกลับกลืนน้ำลายเอื๊อก  รู้สึกเจ็บแปล็บๆที่หลัง เหมือนมีชนักปักอยู่  จนในที่สุด ก็ต้องจำใจปล่อยผ้าห่มคืนมันไป

     
            "
    บอกไว้ก่อนนะ ฉันจะไม่เตือนแกแล้ว  วันนี้แกมีส่งดาบไม่ใช่หรอไง " ร่างเล็กๆก้าวฉับๆออกไปยังโต๊ะอาหารกลางห้อง ค่อยๆวางส้มที่เพิ่งซื้อมาไว้ที่โต๊ะกินข้าว แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้  มองดูเพื่อนไอ้ตัวดีค่อยๆ มุดหัวออกมาจากเตียงช้าๆ 

    มือสีคล้ำหยาบกร้านจากการกรำงานหนักเกินกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน   เกาหัวอย่างคนกำลังมึนเพราะนอนไม่พอ  ยิ่งทำให้ผมสีดำเข้มดูยุ่งเหยิงเข้าไปอีก  มันหาวจนนัยน์ตาสีแดงเพลิงโตๆนั่นลีบเล็กลงไปเป็นเส้นเดียวกัน 

    ท่าทางมันคงจะงัวเงียไปอีกนานแฮะ

     

    " เออ เออ...ไว้ทีหลังแล้วกัน  นับวันบ่นยิ่งกว่าแม่ฉันแล้วนะ    อุ๊บ!! ... " ส้มลูกแรกถูกปาเข้าปากอย่างแม่นยำ  แถมด้วยในมือเจ้าหล่อนยังคีบมีดปอกผลไม้ไว้คามือ


                   ไม่จำเป็นต้องบอกว่าก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปมันจะเป็นยังไง

    ถึงจะรู้ว่าความแม่นยำของเธอคนนี้มันราวกับจับวางก็เถอะ

    หนุ่มผิวคล้ำรีบเอาส้มที่อุดปากตนเองออกร้องห้ามไม่เป็นภาษา

     

    ฉึ่บ !!

    ส้มที่เคยอยู่ในมือชายหนุ่มบัดนี้ กลิ้งหลุนๆ ลงไปกองกับพื้น โดยมีมีดประดับไว้ ราวกับประติมากรรมชิ้นเอก  นี่ถ้าส้มมันยังอยู่ในปาก  แม่เพื่อนตัวดีมันจะเอามีดปอกผลไม้ ปาเข้าปากเค้าไหมเนี่ย  ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม

    " นี่แกจะบ้าหรอไง  เล่นไรวะ น่ากลัวเป็นบ้า "

    " คำก็บ้า  สองคำก็บ้า  แล้วสรุปว่าแกตื่นรึยังล่ะ  หรือจะเอาชุดที่สองพร้อมเสิร์ฟถึงเตียง " ว่าไม่ว่าเปล่า หยิบส้มสามลูกมาโยนเล่นให้คนฟังหนาวๆร้อนๆ  ก่อนจะโยน ปุ ลงบนเตียง ที่บัดนี้ ชายหนุ่มกระวีกระวาดลุกขึ้นเพราะกลัวใจเพื่อนสาว  " รีบๆไปส่งของได้แล้วล่ะมั้ง  ไอ้แบล็ก สมิธ!! "

    " ไม่ต้องเน้นมากก็ได้  เฮ้ย ออกไปปิดประตูด้วยดิ มันหนาวนะ "  ยังไม่ทันพูดอะไร สาวน้อยที่สวมเสื้อโค้ทเสร็จก็กระโดดแผล่วออกไปแล้ว...  เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยน่าเป็นห่วงแบบนี้ซะที  แต่จะทำไงได้ล่ะ

     

    .......................................


    ช่วยไม่ได้นี่นะ  ก็มันมีกันอยู่แค่ สองคนนี่




           " ไม่ตรง หนูๆ ทางขวาอีกนิดจ๊ะทางขวา "

    " ขวานะคะ  ค่ะๆ  "

    แล้วจะรู้ได้ไงวะว่ามันตรงรึยัง

    " ไม่ใช่จ๊ะ  ซ้ายนิดจ๊ะ นั่นอย่างนั้น    มากไปแล้ว... "

    " ค่ะๆ ซ้ายนะคะ "

    " ไม่ใช่แล้วนั่น... "

    โอ้ย...ไรวะ  รำคาญแล้วนะ  ป้าจะสั่งไรมากมายเนี่ยกะอีแค่ป้ายร้าน  ตอนนี้เสียงโวยวายในจิตใจเริ่มหนักข้อขึ้น  แต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้  ขันติ ลูก ขันติๆ

    บันไดลิงที่ถูกใช้พาดอยู่หน้าร้าน  อย่างหมิ่นเหม่ เพราะเซน กำลังเอนหลังสุดตัวเพื่อจะดูว่าป้ายหน้าร้านยัยป้านี่มันตรงรึยัง  เจ้าหล่อนเสยผมหยักศกสีน้ำตาลขึ้นด้วยความรำคาญก่อนจะมัดมันลวกๆไว้กลางหลัง เพื่อให้ทำงานง่ายขึ้น  แต่ไม่ทันจะได้ทำงานเสร็จ เสียงโหวกเหวกที่มาใหม่เริ่มทำให้ต่อมความรำคาญชักทำงานหนักอีกระลอก


            "
    ช่วยด้วยค้า ~~~~ ช่วยด้วย !! " หญิงร่างใหญ่ในชุดขนสัตว์สีดำวิ่งกระหืดกระหอบตาม เด็กหนุ่มฝีเท้าเร็วคนนึงอยู่ด้านหลัง  ยิ่งมองก็ยิ่งขำ ยังกับ ไอ้หมอนั่นโดน หมีฟายไล่ล่า

    " ตรงแล้วจ๊ะหนู อย่างนั้น.. "  มือที่ตอนนี้จัดป้ายร้านอยู่ไม่ได้ใส่ใจเสียงยัยป้าแม้แต่น้อย ไพล่ไปจับป้ายกระชากลงมาขวางทางเด็กหนุ่มซึ่งตอนนี้ พอสรุปได้คร่าวๆ ว่ายังไงก็ขโมย

     

    ไอ้พวกขโมยของคนอื่นล่ะเกลียดนัก!!

     

    ป้ายร้านถูกฟาดไปขนานกับพื้นหมายจะหยุดการเคลื่อนไหวของมัน  นายขโมยสไลด์หลบไปได้อย่างเฉียดฉิว  แน่นอน   อย่างที่เธออยากให้มันหลบ 

    " แอ่ก !! "  เสียงนายขโมยดังขึ้น เพราะมือของร่างเล็กที่กระชากคอเสื้อมันไว้ได้ทันก่อนที่มันจะ เตลิดหนีไป มือเล็กๆ เกร็งขึ้นทันทีที่มันเริ่มดิ้นพราดๆ ราวกับถูกของร้อน พอเห็นหน้าไอ้ตัวดีเท่านั้นแหละ อารมณ์ขันติที่ว่า ก็กระเจิงทิ้งซะแล้ว เข่าเรียวๆสวนเข้าท้องขึ้นอย่างฉุนขาด จนทำให้ไอ้ตัวขี้โวยวายลงไปนอนงอด้วยความจุก

                   โกรธที่มันไม่ยอมฟังเธอ
                  
                   โกรธที่เธอต้องมานั่งแขวนป้ายร้านใหม่ 
                  
                   โกรธที่มัน กลับมาเป็นขโมย !!

                   
                   " ไอ้เกล  ฉันเคยบอกแกรึยังว่าให้เลิกเป็นขโมย " เสียงคนข้างตัวเปรยขึ้นเนิบๆ พอให้เด็กหนุ่มรู้ชะตากรรมที่กำลังเผชิญ อยู่  ตอนนี้จึงได้แค่พยักหน้า  แล้วนิ่งเงียบไป อย่างว่าง่าย  ทำตามได้เพียงเดินตามหลังไปเงียบๆ
                   " แล้วฉันบอกแกรึยัง ว่าชั้นเกลียด ขโมย ... ว่ายังไง " ไออุ่นที่ลอยออกมาจากริมฝีปากบางกระทบความเย็น ม้วนตัวเป็นไออย่างแผ่วเบา
                   " บอกแล้วใช่ไม๊ ว่าขาดเหลืออะไรก็มาหากันได้ !! "  น้ำเสียงสุดท้ายระเบิดราวกับหมดความอดทน  แต่เมื่อมองหน้ามันก็ต้องชะงัก
                 
                    ไอ้เด็กเวรนี่ !!
                    มันขมวดคิ้ว ก้มหน้างุดๆ ราวกับจะร้องไห้
                    เท้าที่กำลังย่ำหิมะหยุดลงกลางคัน  พร้อมกับ ใจที่อ่อนยวบยาบ 

                    ตามเคย....
                 
                    " เอาเหอะ "  เจ้าหล่อนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย  มือที่เคยถูกันอยู่เพื่อหาไออุ่น  จากวันที่ไม่มีหิมะตกเช่นนี้ คลายออกเพื่อกวักมือเรียกให้เด็กชายเดินตามมาเงียบๆ
                    " คนหายไปไหนหมด รู้รึเปล่าเกล
    ???  "
                    " ไปดู งานคัดเลือกองครักษ์ใหม่ "  เสียงตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ลอดผ่านปากมาช้าๆ
                
                    ไม่เห็นไอ้พิลจะบอกเรย ... ว่ามีงานอะไรพรรค์นี้ด้วย
                
                    " ที่ไหน
    ? "
                    " ลานหน้าปราสาท "
                    " หืมม....  ไปด้วยกันไม๊ " เซนปัดผมที่รวบมาด้านหน้าให้มารวมกัน  นัยน์ตาใสแจ๋วสีฟ้ามองเด็กชายอย่างรอคำตอบ
                    " ไม่ !! "  มันปฏิเสธแบบไม่คิดอะไรเลยซักนิดทำให้สาวน้อยผิดหวังหน่อยๆ  " อมีเรียไม่สบาย "
                    " งั้นหรอ "  เธอทำท่าครุ่นคิด   ลมหายใจพ่นเป็นควัน รดหลังมือที่กำลังแตะริมฝีปากบาง  แล้วเหยียดรอยยิ้มบางๆออก  ยิ้มอย่างที่คนข้างตัวไม่อยากเห็น
                

     ดีนะที่ขอบายก่อน

               

    " เอ้า ... "  เสื้อโค้ทตัวเขื่องที่หญิงสาวใส่อยู่ถูกโยนใส่หน้าเด็กชายเต็มๆ  จนร่างเล็กๆต้องตะกายเอาโค้ทนั่นออก  ยังไม่ทันจะตั้งตัวได้  ถุงผ้าบางๆก็ถูกโยนมาให้จนเกือบรับไม่ทัน  " ฝากเยี่ยม อมีเรียแทนด้วยแล้วกันเงินนั่นเป็นค่ายา  ของเยี่ยมไข้จากไอ้พิล  ส่วนโค้ทนั่น ของเยี่ยมไข้จากฉัน "
                    " แต่...เซน ไม่หนาวหรอ " เกลถามน้ำเสียงแปร่งๆ  ปกติมันก็เป็นคนไม่กลัวใครอยู่แล้ว  แต่พอกับเซนล่ะก็ เป็นไม่กล้าหือ ทันที
                
                 คำตอบที่ได้รับมีแค่มือที่โบกลาโดยไม่ยอมหันกลับมามอง
                
                 รู้สึกยังกับว่า  จะไม่ได้เจอกันอีกยังไงยังงั้น

                  .............



                    เสียงตะโกนเชียร์เอ็ดตะโรดังก้องทั่วลานกว้างหน้าพระราชวัง  ผู้คนที่มาดูมีแต่ผู้ชายและคนหนุ่มสาวเลือดร้อน 

    ก็แน่นอนล่ะ 

    พวกแม่บ้าน ทั้งผู้หญิง และเด็ก  ตอนนี้คงอยู่แต่ในบ้าน  ไม่ออกมาดูเขาใช้ความรุนแรงแบบนี้

    นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ไอ้พิลมันห้ามเธอ

    ไร้สาระเป็นบ้า !!

     

    จะว่าไป....

    ผู้คนในรอสเวลล์น่ะ รักสงบ  ไร้สงครามมาแรมปี  ความดีความชอบนี้เป็นขององค์ราชาของรอสเวลล์ที่ไม่นิยมออกมาพบหน้าผู้คนนัก ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

    เดาได้เลยว่า  ตาแก่นั่น   ( Nico : เฮ้ย...องค์ราชา )  ต้องเอาแต่นั่งวางแผนการเมือง การคลัง  อะไรก็ตามที่น่าปวดหัว  อยู่บนปราสาท ห้าหอคอยนั่นแน่ๆ 

    หอคอยที่เธอเคยมองดูจากบ้านอยู่ไกลๆ  บางครั้ง ตอนที่ได้ออกมาเที่ยวในเมืองก็เคยผ่านมาหน้าปราสาทนี่เหมือนกัน  กำแพงรายรอบปราสาททำจากหินผา แข็งแรง ใหญ่  ราวกับป้อมปราการรบ  - -  แต่ตัวปราสาทข้างในกลับสร้างขึ้นจากช่างฝีมือเอก  ไล่ตั้งแต่ซุ้มประตูโค้ง อาร์ค ไปจนจรดเพดานกระจกโค้งรับแสง ยิ่งทำให้ ในปราสาทดูใหญ่ยิ่งขึ้น 

    ความจริงเธอเองก็เคยตามไอ้พิลมันเข้าไปส่งดาบในวังอยู่ครั้งนึง ถึงได้เคยเห็นภายในขนาดนี้   แต่ก็เข้ามาได้แค่ในโถงปราสาทเท่านั้นเอง

    แล้วนี่เราไล่ยาวไปถึงในปราสาทได้ไงเนี่ย

     

    ถึงจะว่าอย่างนั้นลานกว้าง หน้าพระราชวัง ( ที่คนอื่นเค้าเรียกว่าจัตุรัสไรม์เนี่ย  มันก็เป็นที่ๆเค้าเอาไว้จัดเทศกาลต่างๆเท่านั้นเอง เพราะงั้นจึงไม่แปลกอะไรที่งานคัดเลือกจะมีขึ้นที่นี่)

     

    คนที่มาชุมนุมกันแยะจนท่าทางจะเบียดเข้าไปดูได้ยาก    

     

    แล้วจะเข้าไปดูยังไงล่ะเนี่ย
                 

    ถ้ามีปีกเหมือนนกก็ดีน่ะสิ  จะได้บินขึ้นไปดูได้...
                   ขึ้นไปดู  นั่นน่ะสิ  ขึ้นไปดู

                   เจ้าตัวหัวเราะร่วน หลังจากที่ปีนขึ้นมาบนหลังคาได้สำเร็จ  ถึงจะไกลจากลานไปนิด แต่ด้วยเจ้ากล้องที่เธออุตส่าห์พกมา   ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะดูการต่อสู้ข้างล่าง
                   ลมหนาวสดชื่น ปะทะใบหน้า จนเริ่มรู้สึกชาๆ  อากาศข้างบนดีกว่า ข้างล่างมาก เพราะไม่มีกลิ่นเสื้อหนังที่เบียดๆกันอยู่  - -  แต่เสียอย่างเดียว ลมมันพัดแรงไปหน่อย  เมื่อกี้ไม่น่าให้เสื้อโค้ทไอ้เกลไปเรย ให้ตายสิ  - -  คิดแล้วก็ได้แค่ถอนหายใจ  เม้มริมฝีปากทนหนาวไปก่อน  ดูการต่อสู้ด้านล่าง 

                   ชายหนุ่มร่างเล็กกระชับดาบในมือขึ้น  จ้องมองชายร่างใหญ่  ยังกับลูกยักษ์   ด้วยนัยน์ตาเหยี่ยว  อีกฝ่ายกำลังวาดดาบสะเปะสะปะ ราวกับรำคาญเสียงโห่ร้องตะโกนเชียร์รอบลานเต็มทน  แต่คมดาบก็ไม่สามารถถูกตัวเขาได้แม้แต่น้อย   ชายร่างเล็กมองเห็นโอกาส รีบพุ่งตัวเข้าประชิด หมายเผด็จศึกไอ้ลูกยักษ์เบื้องหน้า    - -   ดาบถูกเหวี่ยงไปฟันท่อนขา          

    ฟรึ่บ !!

    ชั่ววินาทีที่ปะทะกัน ชายร่างเล็กกลับเป็นฝ่ายที่กระเด็นออกมา  เลือดอาบแขนขวาซึ่งบัดนี้ ตกลู่แนบข้างลำตัวอย่างใช้การไม่ได้   เสียงคนดังหึ่งๆอยู่รอบลานยังกับผึ้งแตกรัง จนเด็กสาวข้างบนเริ่มรำคาญแทนคนสู้ข้างล่าง  ราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามหาคำตอบให้ได้  ว่าเหตุใดผู้ที่โจมตีถึงได้กลายเป็นผู้ถูกโจมตีไปได้

    คำถามที่ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบสำหรับเซน  เมื่อครู่ ชายร่างเล็กพุ่งตัวเข้าไปก็จริงอยู่  แต่ว่าลงดาบได้ไม่เต็มแรง  ผลก็คือดาบสะท้อนกลับ ไม่สามารถฟันผ่านท่อนซุงไปได้ ( NiCo Robin : เฮ้ย.. นั่นมันขา )  สุดท้ายเขาก็ชะงัก   คู่ต่อสู้เองก็ไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆที่หาได้ยากหลุดไป แล้วก็คว้าโอกาสนั้นไว้ได้อย่างสวยงามเสียด้วย   ชายร่างเล็กจำต้องใช้แขนซ้ายที่เหลืออยู่  ในการต่อสู้ 


                    แน่นอน  ไอ้หมอนั่นมันจะไปสู้ไอ้ลูกยักษ์ได้ยังไง

    อีกเดี๋ยวการต่อสู้คงจะจบลงแบบไม่ต้องเดา

    แต่ว่า...  ขาไอ้ลูกยักษ์มันจะไม่ได้แผลบ้างเชียวหรือ  ถ้าโดนฟันเข้าไปขนาดนั้น

                   

    เป็นไปตามคาด  ในที่สุดหมอนั่นก็แพ้แรงไอ้ลูกยักษ์จนดาบถูกปัดกระเด็นไปไกล  แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดก็ทำให้สาวน้อยลุกพรวดพราด นัยน์ตาสีฟ้าใสเบิกกว้าง  

    ไอ้ลูกยักษ์ไม่ยอมยั้งมือ ไล่ฟันชายร่างเล็กต่อ  แถมไอ้ผู้คุมลานยังยืนตะลึงไม่ยอมเข้าไปช่วย   แน่ล่ะเหตุการณ์วุ่นวายขนาดนั้น  ก็ต้องมีคนวิ่งเข้าไปรับดาบแทนชายหนุ่มคนนั้น  เสียงคมดาบปะทะกันดังก้องไปทั่วลาน   และที่คาดไม่ถึงที่สุดคือ  ไอ้คนที่ออกไปรับดาบ มันคือ ไอ้พิล !!  

     



           “
    แล้วมันก็เจือกทำเป็นเงียบตลอดเซนเดินไปตามหลังคาบ้านที่เกยชิดกันอย่างรวดเร็ว  เจ้าหล่อนบ่นไปตลอดทางเพื่อวิ่งไปหาไอ้เพื่อนตัวดี

    มันไม่เห็นบอกเลยว่าวันนี้มันมีส่งดาบในวัง  แถมเรื่องคัดเลือกราชองครักษ์อีก  คอยดูเหอะ กลับไปจะซัดให้ไม่ครบ สามสิบสอง


           “
    เฮ้ย...  ตรงนั้นน่ะ  หยุดนะเสียงทหารดังไล่หลังมาเมื่อเธอวิ่งไปตามกำแพงปราสาท

    เรื่องอะไรจะหยุดให้โง่ฟะ  แล้วทหารมันจะมาขยันทำงาน อะไรกันตอนนี้ล่ะเนี่ย

    แค่ขอทางด่วนพิเศษหน่อยทำเป็นโวยวาย  ไอ้พวกทหารใช้ไม่ได้เลย

     

    เรื่องฝีเท้า รับรองว่า ไม่มีใครตามทั่นเซนคนนี้ทันแน่นอน  แต่ไอ้เรื่องโดนดักหน้าเนี่ย เค้าเรียกว่าขี้โกงได้รึเปล่านะ 

    จับได้แล้วครับ !! ” นายทหารสองคนล็อกตัวเด็กสาวจากทางด้านหลัง  รู้ไม๊ว่าที่นี่มันเขตพระราชฐ...


                    ผลัวะ
    !!

    เวงกำ  ลืมตัว

    เธอเตะเข้าท้องนายทหารที่ล็อกแขนซ้ายไปสุดแรง จนเขากระเด็นไปติดกำแพงอีกฝั่ง

    เอาวะ ... ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

     

    โครม !!

    นายทหารอีกคนถูกจับทุ่มลงพื้น ไปนอนนับดาวเล่นตอนกลางวัน  แล้วเจ้าตัวก็กระโดดแผล่วลงไปอีกฝั่งของกำแพง

    ผลั่ก !!

    เอ๊ะ  อารายนุ่มๆ  เธอควรจะหล่นลงมาบนพื้นไม่ใช่รึ

    วันนี้อะไรมันจะดวงนารีพิฆาตขนาดนี้  ไอ้ที่ว่านุ่มๆน่ะ  มันตัวชายหนุ่มคนนึง

    ฮึ๊ย...  โทดทีนะน้า  ไงๆก็ขอตัวก่อนแล้วกัน  แน่ล่ะ เรื่องอะไรเธอจะอยู่ให้โง่อีกรอบ  เผ่นสิฟะ

     

     

    เฮ้ย !! มันไปทางนั้นรึเปล่า   มีผู้บุกรุก  รีบออกตามหาโดยด่วน

     

    ตายหอง  

     

    สรุปว่าโดดลงมาผิดฝั่ง   นี่มันข้างในปราสาท

    จากจะมาดูการแข่งขัน  กลายเป็นว่าโดนข้อหาบุกรุกปราสาท  ขืนไอ้พิลรู้ โดนสวดยับแหงๆ

     

    ดูเหมือนว่า...  ชายหนุ่มป้องตามอง  ดูต้นทางให้ก่อนจะฉุดสาวน้อยข้างตัวให้ลุกตาม ท่าทางจะปลอดภัยแล้ว  ชายหนุ่มแปลกหน้าส่งยิ้มหวานมาให้เธอ 

     

    ทำไมไอ้หมอนี่ต้องมาช่วยเธอไว้ด้วยล่ะเนี่ย

     

    งั้น ก็ขอบคุณน้ามากเลยนะ  ถ้าไม่มีไรแล้วขอตัวก่อนแล้วกัน  เซนคิดจะชิ่งหนีชายแปลกหน้าทันที ที่พูดจบ  ชายวัยกลางคนตรงหน้าก็คว้าแขนเด็กสาวไว้ราวกับรู้ใจว่าเธอกำลังจะหนี  นัยน์ตาสีม่วงออกแดงนั้นจับจ้องมาที่เด็กสาว  ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่อยากสบตาเอาซะดื้อๆ  หน้าที่เคยสีแดง ไม่ว่าจะเพราะหิมะกัด หรือจะเพราะความเหนื่อยที่วิ่งหนีมาเมื่อกี้  บัดนี้กลับขาวซีด จนจะละลายไปเป็นหิมะไปให้ได้

     

    น่ากลัว...

    ยิ่งกว่าโดนสอบสวนจากฝ่ายสอบสวนที่เธอเคยโดนซะอีก 

    จะไปไหนละครับ...แอบเข้ามาในปราสาท คิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่ครับรอยยิ้มที่ส่งมาให้มันยังเหมือนเดิมก็จริง แต่รู้สึกเสียวสันหลังวาบแปลกๆ 

     

    ใครมันจะไปตอบ.....

     

    งั้น คำถามใหม่  ...  ชื่ออะไรครับ  เขาเสริมขึ้นราวกับอ่านใจเธอออก

    เซซิเลีย  D. เอสทินี่เจ้าของชื่อยังลืมตัวตอบออกไป จนตะปบปากตัวเองไม่ทัน

    ลูเซียส  เฟท ครับ  ชื่อเพราะดีนะครับ  แล้วก็ยาวด้วย

    เซนคำตอบที่เผลอหลุดออกไปทำให้อยากกัดปากตัวเองเป็นบ้า

     

    จากสัญชาติญาณแล้ว  ประมวลผลออกมาได้ว่า 

     

    อยู่ให้ห่างจากไอ้หมอนี่  โดยด่วน !!

     

    น้า  ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวไปดูการแข่งก่อนนะ ไม่ใช่ว่า ลุงนี่เป็นทหารหรอกนะ

    การแข่งงั้นหรอ... หมายถึง การคัดเลือกราชองครักษ์ล่ะสิ ....  ฉันรู้จักที่ดีๆ ตามมาสิ

    ถึงเฮียแกจะยิ้มยังไงก็ตาม  มันก็ยังดูเจ้าเล่ห์อยู่ดี

     

     

     

    รู้สึกเหมือนคนโง่ยังไงไม่รู้แฮะ  ที่อยู่ดีๆก็ตามคนแปลกหน้าเข้ามาถึงเกือบติดลานคัดเลือก

    นายขี้ก้างนี่ก็ประหลาดคน  รู้ที่ทางดีเกินจริง

    ไอ้หมอนี่มันคงไม่ได้เป็นทหารอย่างที่คิดหรอกนะ 

     

    เสียงปะทะคารมดังมาจากอีกฟากของลานทำให้คนหันไปมองดูกัน

    เสียงนึง  ออกจะคุ้นๆ  ไอ้พิลแหงๆ

     

    .....ว่าแต่ ไอ้พิลมันทะเลาะกับใครวะ

     

    ร่างเล็กๆแหวกทางฝูงชน  พยายามเดินเข้าไปหาต้นเสียงที่บัดนี้ ทะเลาะกับใครก็ไม่รู้

    แต่พอมองอีกที คนที่มันทะเลาะด้วยนั่นมันเป็นถึงนายพลนี่หว่า

     

     

    ผมบอกท่านรึเปล่าครับว่าดาบของผมไม่ได้มีไว้ทำแบบนี้  ช่างหนุ่มมกล่าวอย่างหัวเสีย

    เป็นช่างตีดาบ ก็ควรตีดาบ ทำหน้าที่ไปอย่างสงบเสงี่ยม  ไม่สมควรมายุ่งกับกิจของนักรบ  การกรีดเลือดถือเป็นความภูมิใจของนักรบอีกฝ่ายก็โต้กลับมาดุเดือดไม่แพ้กัน

    กรีดเลือด....ถือเป็นกิจ?? ของนักรบตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ  ผมเข้าใจว่า  ดาบควรจะฝากรอยแผลให้ศัตรูสิครับ  นี่  ผมเข้าใจผิดแต่แรกเลยหรอครับนี่ !! ??  เสียงของไอ้พิลมันเริ่มกวนประสาทเข้าไปทุกที

     

    ทีเรื่องดาบล่ะ  น็อตหลวมง่ายเสียเหลือเกิน 

    เป็นต้องไม่ยอมลงให้กับใคร

    ของแบบนี้มันต้องรู้กาลเทศะรู้เปล่าเนี่ย ไอ้พิล

     

    มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ควรจะเคารพ !! ”  คารมร้อนๆและโทสะถูกส่งมาพร้อมกับเสียงตะคอก

     

    ดาบจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ถือและตัวดาบ ไม่ใช่ธรรมเนียมโบราณ เช่นนี้ !!  ท่านเองก็อยากลองภูมิใจกับภาระนี้บ้างรึเปล่าครับเร็วเท่าความคิดที่ มันเอาดาบจ่อคอหอยคนในชุดเกราะ  แต่ไม่มีใครสักคนที่ขยับตัว  จนกระทั่งมันพูดจบ  แล้วท่านจะรู้ครับว่าชีวิตคนเราไม่ใช่ของเล่น

     

    ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนที่อยู่ในเหตุการณ์   ไม่เว้นแม้แต่ เธอ หรือนายขี้ก้างแปลกหน้า

    อีกฝ่ายเป็นถึงนายพลนะเว้ย  ไอ้พิ๊ล ~ ~ ~ ~ ~ ~

    เพียงไม่ถึงอึดใจ  ทหารก็กรูกันเข้ามาจับมันชาร์ตแทบขยับไม่ได้

     

    นั่นเพื่อนคุณหรือครับนายลูเซียสถามขึ้น

    เออ  คำตอบสุดห้วนถูกส่งไป   เซนกำลังพุ่งตัวเข้าไปหมายจะจัดการกับทหารเป็นฝูง

    เดี๋ยวครับ !! ”  นายลูเซียส  ตะโกนเรียกพลางคว้าเอวของร่างเล็กๆที่กำลังดิ้นอยู่

    ปล่อยเด้ น้าสาวน้อยทิ้งพยายามจะเตะ ต่อย ถีบ แม้กระทั่งกัด  แต่คนที่ล็อกตัวเธอกลับไม่โดนทำร้ายแม้แต่น้อย  มัน...

    แล้วถ้าคุณเข้าไปตอนนี้ มันจะได้อะไรขึ้นมาล่ะครับ  คำพูดรั้งสติให้คนฟังหยุดคิด  แล้วดูนั่นสิครับ นายประหลาดชี้มือไปทางนายพลเบลม็อกค์   ที่ตอนนี้ยืนอย่างไว้ท่า

     

    ถ้านายเอาชนะหมอนี่ได้   ด้วยดาบที่นายตีแล้วล่ะก็  เขาตบลงไปที่บ่ากว้างๆ ของไอ้ลูกยักษ์  ฉันจะยกเลิกธรรมเนียมนี้ ไปเลย  ชายในชุดเกราะประกาศกร้าว ราวกับจะเป็นคำยั่วยุช่างตีดาบหนุ่ม   นัยน์ตาสีเขียวทอประกายกล้าแบบไม่เกรงกลัวใคร  ค่อยๆลุกขึ้นมาหลังจากถูกทับติดพื้นเมื่อครู่

    แล้วท่านจะต้องเสียใจ  มันเดินไปหยิบดาบขึ้นมาจากกองดาบที่มันเอามาส่ง  ก็ทำให้สาวน้อยใจแป้วไม่น้อย 

    นั่นมัน ดาบที่เธอช่วยมันตีเมื่อคืน  หลังจากที่ทำดาบที่มันเตรียมมาเกือบ 3 วัน พังเรียบวุธ 

     

    เสียงหัวเราะดังมากจากข้างหลังของเธอ

    นายลูเซียสคนประหลาด กำลังกลั้นหัวเราะราวกับไม่มีเรื่องอะไรที่น่าตลกไปกว่านี้อีกแล้ว

    ไอ้หมอนี่มันเห็นว่าเรื่องที่เพื่อนเขากำลังจะขึ้นเขียงมันสนุกตรงไหนวะ !!

     

    ผม ขอตัวก่อนนะครับ  ชายหนุ่มพยายามปาดน้ำตาออกจากหางตา  แล้วเดินหายเข้าไปในปราสาท หลังจากที่นายพลเบลม็อกค์ เดินเข้าไปไม่นาน

     

    แล้วยังนี้  ไอ้พิลมันจะรอดไหมเนี่ย  ....

     

     

     

    ถ้านายเอาชนะหมอนี่ได้   ด้วยดาบที่นายตีแล้วล่ะก็ ฉันจะยกเลิกธรรมเนียมนี้ ไปเลย …. ”

    พรืด !!

    ไม่ไหวเลยนะครับท่านนายพลเบลม็อกค์    น้ำเสียงล้อเลียนกับนัยน์ตารู้ทัน ทำให้นายพลรู้สึกไม่ชอบใจนัก  ที่ชายตรงหน้าหัวเราะแบบไม่เกรงใจขนาดนั้น  แหม่  ถ้าริจะพนันแล้วล่ะก็  ไม่เสี่ยงมันก็ไม่สนุกสิครับ  เล่นได้ทั้งขึ้นทั้งล่องแบบนี้  ขี้โกงจริงๆ นายพลผู้ยิ่งหญ่ายยยย ~ ~ ~ ~ ….  ใจจริงอยากเลิกธรรมเนียมนี้มานานแล้วไม่ใช่หรือครับ  ตั้งแต่สมัยก่อนที่ดื้อแพ่งมาตลอดน่ะ

    เงียบไปนายพลกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ  แต่มันก็ไม่วายแสดงออกบนใบหน้าด้วย  พนันของฉันกับเด็กนั่นจะเป็นยังไงก็ช่าง  แต่พนันของฉันกับนาย  ฉันชนะใสๆ

    ถูกใจเด็กหนุ่มคนนั้นเข้าเต็มเปาเลยสินะครับ...  ทั้งเรื่องอาวุธ  ทั้งเรื่องความดื้อแพ่งนั่น นายลูเซียสเกาคางเบาๆ  เหมือนท่านสมัยก่อนไม่มีผิด  แน่นอน  แต่เรื่องนิสัย  ต่างกันแทบจะคนละเรื่องทีเดียว

    แน่นอน ท่านลูเซียส  ตอนนี้ท่านน่ะ เรียกได้ว่ายิ่งกว่าถูกขังอยู่บนหอคอยอีกนะ  จะมีเวลาไหนแอบไปหา ผู้โชคร้าย คนนั้นกัน เบลม็อกค์ยิ้มกว้างราวกับกำลังเป็นต่อ

    ไม่แน่หรอกนะครับ..นายลูเซียสคนประหลาดหัวเราะเบาๆกับท่าทางของเพื่อนสนิท  แบบไม่ยี่หระ

     

    เขาหัวเราะ แบบที่คนข้างตัวไม่อยากได้ยิน หรือแม้แต่จะเห็น

     

    ผมอาจจะเจอตัวหมากคนเก่งของผมแล้วก็เป็นได้นะครับ

    หลอกผมไม่ได้หรอก  ท่านน่ะ ไม่มีเวลาจะกินข้าวด้วยซ้ำ  จะออกไปไหนได้ !!”

    เห็นไหมครับ  งานผมไม่ได้น่าสนุกซักนิด เวลากินข้าวยังไม่มีเลย  แต่ว่า ผมน่ะ สวดภาวนาทุกวันเลยนะครับ    ลูเซียสชี้นิ้วเรียวขึ้นไปบนเพดานกระจกใสสว่าง ราวกับจะสื่อถึงอะไรบางอย่างที่รู้กันเพียง สองคน  บางทีนะ เบลม็อกค์  ท่านอาจจะเห็นใจคนอย่างผม  ส่งนางฟ้าบินลงมาช่วยผมแล้วก็ได้

    เพ้อเจ้อ...  นับวันสมองท่านจะเบลอๆเข้าไปทุกที ท่านนายพลเองก็เริ่มชักจะหวั่นๆคนข้างตัวอยู่ไม่น้อย

    ก็ในเมื่อคนข้างตัวของเขาสามารถทำให้คนที่อยู่ด้วย รู้สึกว่าตนเองโง่อยู่เป็นประจำ 

    นางฟ้าอะไร พูดจาไม่รู้เรื่อง

    ท่านนั่นแหละ  แกล้งทำเป็นไม่รู้เอง  ชายหนุ่มเหล่ตามามองนายพลซึ่งบัดนี้เหงื่อแตกพลั่ก

    ช่างเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกเสียเหลือเกิน

    ถ้าหากเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนเช่นนายพลก็ดีน่ะสิ  ตัวหมากของเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจมากนัก

     

    ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะครับ   


    --------------------------------------------------------------------------------

             ทำไมมันขึ้นซ้ำได้หว่า.....  ช่างมานเหอะ   -*-

    --------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×