คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : Get it !!
ไอ้บ้านี่ มันไปกินรังแตนมาจากไหนฟะ
พอคนคุมลานส่งสัญญาณเริ่มเท่านั้น มันก็พุ่งเข้าใส่ไม่คิดหน้าคิดหลัง
จนเพื่อนอย่างเธอต้องมานั่งลุ้นแทน
น่าประหลาด ... ปกติไอ้พิลมันต้องคิดแล้วคิดอีกไม่บุ่มบ่ามบ้าๆแบบเธอ
เออ .... ใช่ แบบเธอ
หน้าที่คอยเตือนสติเธอเป็นหน้าที่มัน ไม่ใช่ให้มันมาน็อตหลวมเองแบบนี้
เสียงดาบปะทะกันดังแปลกๆ ...
ว่าแต่ว่า เสียงดาบที่แปลกไป คงไม่ใช่ดาบของมันหรอกนะ
ไอ้ลูกยักษ์ก็ยังคงฟันสะเปะสะปะ ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม ไอ้พิลได้เปรียบเห็นๆ มันเล่นกับดาบมาตั้งแต่จำความได้ ไม่มีทางที่จะหลบดาบไม่พ้นแน่นอน แต่ที่น่าหวาดเสียวที่สุดก็ตอนที่มันรับดาบไอ้ลูกยักษ์นั่นแหละ
ทำไมกัน .... ไอ้หมอนั่นถึงได้ลงดาบได้หนักหน่วงขนาดนั้นนะ
ถึงปกติไอ้พิลมันจะไม่ใช่พวกบ้าพลัง แต่เรื่องใช้กำลัง มันก็ไม่เคยแพ้ใคร แต่คราวนี้มันถึงกลับ ออกอาการ หอบ ทั้งๆที่เพิ่งสู้กันได้ไม่นาน
ประหลาด...
ประหลาดที่สุด !!
“ ว้ายยยยยยย ~~~ ” เสียงกรีดร้องดังมาจากสาวๆด้านหลังที่คู่ต่อสู้ของเขากำลังเซไปหา
เขาเองก็ไถกรูดกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง จากแรงดีดตัวตอนปะทะกัน
รอยร้าวที่ใบดาบเริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆจนน่าหวั่นใจ ว่าจะสู้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
ถ้าไม่รีบปิดบัญชี ล้มคู่ต่อสู้ของเขาให้ได้ล่ะก็ เขาเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ... จะทำยังไงกับผงแรงดึงดูดนั่นดี
วืด !!
ดาบของฝ่ายตรงข้ามที่แทงผ่านแขนไป หากเขาไม่เบี่ยงตัวหลบ ไหล่ขวาของเขาคงได้มีรูเอาไว้ประดับเล่นแล้ว มันจะมาแม่นอะไรเอาตอนนี้นะ
“ เฮ้ย... ออกไปจากตรงนี้ซะทีสิฟะ... มันบังคนอื่นรู้เปล่า ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นเรียกให้ปรายตาไปมอง
อย่างที่คิด ไม่ใช่ใครที่ไหน
แม่ตัวยุ่งกำลังตะโกนว่าคู่ต่อสู้ของเขาอยู่...
ชายร่างยักษ์ กระโจนพุ่งตรงมาทันทีทั้งๆที่เขายังไม่ทันตั้งตัว - - ดาบที่ถูกยกขึ้นมารับแบบผิดท่าผิดทาง แม้มันจะช่วยกั้นระหว่างดาบของศัตรูและตัวเขา ได้ แต่มันก็ยังไม่ดีพอ ในเมื่อมันเริ่มส่งเสียงร้องลั่น
เปรี๊ยะ !!
สัญญาณที่สั่งให้อีกฝ่ายลงมือซ้ำโดยไม่ลังเล
แรงกระแทกอย่างหนักทำให้ดาบหักเป็นสองท่อน ...
เสียงคนดูฮือฮาทั่วลาน แต่บัดนี้มันแทบไม่เข้าหูเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย ในเมื่อเขากระโดดหลบความตายไปได้เพียงเสี้ยววินาที เสี้ยววินาทีนั้น ที่หวิดขาดเป็นสองท่อน !!
รอยแผลที่สีข้างมีเลือดซึมออกมาอย่างรวดเร็ว
แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังยันตัวขึ้น พุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวเกรง
“ เฮ้ยๆ !! ไอ้บ้านั่นมันทำเกินไป ” เสียงนายพลเบลม็อกค์ โวยวายลั่นห้อง
“ จะมาโวยวายอะไรแถวนี้ กันล่ะครับ ” ชายหนุ่มพูดเนิบๆ “ คุณเป็นคนให้เขาสู้กับ เอ่อ ... ผู้ชายคนนั้นเองนะครับ ” ขนาดลูเซียสยังไม่มั่นใจที่จะเรียกไอ้ลูกยักษ์ว่าคนหรือผู้ชายเลย
“ แต่นี่มันทำงานเกินสั่ง ! วุ่นวายจริง ” นายพลในชุดเกราะทำท่าจะเดินออกจากห้อง ดูจากสีหน้าหงุดหงิดแล้ว ลูเซียสมั่นใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ชายคนนี้ต้องไปหยุดการต่อสู้ข้างล่างแน่ๆ
นั่นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้
แขนยาวๆของชายหนุ่มคว้าไปที่ไหล่เพื่อนซี้พลิกให้เจ้าตัวกลับมาที่เดิม
“ ไม่เอาน่า เด็กนั่นยังไม่ยอมแพ้เสียหน่อย ดูนั่นสิ ” เขาพยักเพยิดไปทางลานต่อสู้เบื้องล่าง เด็กหนุ่มที่ถือดาบพุ่งเข้าประชิดชายร่างยักษ์ได้รวดเร็วปานสายลม ดาบที่วาดสะเปะสะปะของมันฝันผ่านเส้นผมไปแค่ไม่กี่มิล แต่ก็ไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มชะงักได้ ช่างตีดาบหนุ่มย่อตัวลงกระทุ้งด้ามดาบเข้าท้องมันสุดแรงเกิดจนมันกระเด็นกลับไปทางเดิม ลงไปนอนนับดาวตอนกลางวันแสกๆ
นับว่าน่าประหลาดใจสำหรับชายหนุ่มที่ตัวเล็กกว่า คู่ต่อสู้เกือบเท่าตัว
“ อะฮ้า... สวยงาม ” นายพลดีใจเสียจนออกนอกหน้า ทำเอาชายหนุ่มหัวเราะกิ๊ก “ ดูสิเขาชนะ !! แกเห็นนั่นไหมลูเซียส ”
“ คร้าบๆ... เด็กคนนั้นชนะแล้ว ” แต่ฝีมือก็ยังไม่ดีพอ ... เขาคิดในใจ
“ เห็นทีคงจะต้อง... เฮ้ย !! ” นายพลร้องตะโกนรีบวิ่งลงไปแบบที่ลูเซียสยังห้ามไม่ทัน และเขาไม่คิดจะห้ามเสียด้วย ไอ้ลูกยักษ์กระชากตัวสาวน้อยข้างสนามมาเป็นโล่กำบัง ถ้าเป็นสาวน้อยคนอื่นลูเซียสคงสามารถออกคำสั่งได้อย่างมีสติยิ่งกว่านี้
แต่ไอ้ลูกยักษ์นั่นกล้าดียังไงถึงมายุ่งกับนางฟ้าของเขา
ผลั่ก !!
ลูกถีบสุดท้ายเสยปลายคางส่งชายร่างยักษ์ลงไปนอนแอ้งแม้งอีกรอบ
“ รู้จักทั่นเซนคนนี้น้อยไปซะแล้ว ” สาวน้อยที่ดูยังไงก็ไม่ใช่นางฟ้าปัดมือเบาๆ “ แล้วแกน่ะขี้โกงใช่ไม๊ ผงแรงดึงที่รองเท้าบูทกับดาบแกน่ะ ”
“ ทหาร จับมัน !! ” นายพลสั่งอย่างรู้สึกเสียหน้าสุดๆที่วิ่งเข้าไปพยายามจะช่วยเจ้าหล่อน ลูเซียสที่ตามลงมาบัดนี้ยังอดลอบยิ้มไม่ได้ เมื่อหมากตัวสำคัญของเขาเก่งกว่าที่คาดเอาไว้มาก
“ รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เรื่องมันโกงน่ะ ” ไอ้เพื่อนตัวดีเดินเข้ามาหาเธอทั้งๆที่มือมันยังกุมสีข้างที่ยังบาดเจ็บอยู่
“
” การนิ่งเงียบถือเป็นการยอมรับกลายๆของมันอย่างนึง ที่เซนศึกษามานาน
“ แกรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไม๊
แล้วยังเจือกไปรับคำท้าเค้าอีก บ้ารึเปล่าห๊ะ ไอ้งี่เง่า ไอ้เต่าถุย ไอ้ ..... โอย คิดไม่ออก ไม่รู้จะด่ายังไงถึงจะพอ อ้ากกกก~~~~ ”
แล้วสรุปว่ามันก็รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่า ชายหนุ่มตาเหยี่ยวที่สู้กับไอ้ลูกยักษ์นี่ถูกโกงมาตั้งแต่แรก
ไอ้เรารึก็เพิ่งรู้ตอนที่ ไอ้ลูกยักษ์มันเซมาหาจนผงแรงดึงดูดหกลงพื้น
มิน่าล่ะ ตอนรับดาบไอ้ลูกยักษ์แต่ละที ถึงดาบแทบหัก
( แน่นอนว่าเรื่องดาบหักมันต้องไม่ใช่ความผิดของเธอ )
“ อยู่ตรงนั้น ผู้บุกรุก !! ” เสียงทหารตะโกนมาจากอีกฟากของลานกว้าง ทำเอาสาวน้อยเบิกตากว้างอย่างตกใจ ส่วนเพื่อนที่ยืนเจ็บสีข้างอยู่ข้างๆตอนนี้กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก
เออ....ลืมไปเลย !!
“ มาทางนี้ดีกว่านะครับ !! ” น้ำเสียงเร่งรีบดังออกมาจากปากชายแปลกหน้าอย่างนายลูเซียส แล้วแรงกระชากที่ข้อมือทำให้เด็กสาวออกวิ่งไป โดยไม่สนใจเพื่อนตัวเอง ที่ดูเหมือนจะเรียบเรียงเรื่องราวได้แล้ว
มันยืนมองได้พักนึงแล้วล้มลงไปให้สาวน้อยใจหายวาบ คนคุมลานกับชายอีก 2-3 คนวิ่งไปหามัน
มันคงไม่ตายใช่ม๊ะนั่น
........
“ ตามหาให้ทั่ว !! ” นายทหารที่เซนคาดว่าเป็นหัวหน้ากองตะโกนสั่ง “ เราไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร เข้ามาจากไหน มีจุดประสงค์อะไร แต่ เพื่อความปลอดภัยขององค์ราชา เราต้องจับตัวผู้บุกรุกให้ได้ !! ” เสียงตอบรับดังขึ้นอย่างห้าวหาญ ชวนให้นายทหารแถวนั้นรู้สึกฮึกเหิม
ทำให้คิดได้เพียงว่า...
นี่มันจะบ้ากันเกินไปรึเปล่าวะ
กะอีแค่แอบเข้าวังนิดๆหน่อยๆ ทำยังกับเกิดรัฐประหาร
จะว่าไป - - ตาแก่ราชาก็ท่าทางจะซื้อใจพวกทหารไว้น่าดูเลยทีเดียว
แต่ว่า ... ตอนนี้กลายเป็นว่า ติดหนี้นายลูเซียสเข้าไป สองรอบแล้ว
ดีหน่อยที่รอบนี้มาติดแหง่กอยู่ในตรอกเล็กๆตรอกนึง รอบที่แล้วเล่นเอาคันหยุบหยับไปหมด
แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ากันไปมากนักในเมื่อมันทั้งมืดทั้งหนาวแบบนี้
“ ติดหนี้น้าเข้าไปตั้ง สองรอบแล้วสิเนี่ย ” สาวน้อยขยับรอยยิ้มบางๆ “ ขอบคุณน้ามากๆเลยนะ ”
“ ขอเป็นอย่างอื่นแทนคำขอบคุณไม่ได้เหรอครับ ” ชายหนุ่มยิ้มหวานมาให้ จนสาวน้อยไม่กล้าสบตา ไอ้หมอนี่มันอะไรของมันเนี่ย
นึกว่ามันจะเป็นพ่อพระ นี่มันซาตานชัดๆนี่หว่า
“ แหม่ .... ที่ผมจะขอน่ะ.... ” ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีมอ ไม่น่าไว้วางใจ
“ เจอตัวแล้ว !! ”
อะไรกันนักกันหนาฟะเนี่ย
ไอ้พวกทหารมมันหาเจอได้ไง
กึก !!
ไม้พลองขัดอยู่ที่คอนายลูเซียส ความจริง มันควรจะขัดอยู่ที่คอเจ้าหล่อนต่างหาก
แต่เพราะเขาเอาตัวบังเธอไว้ พวกนายทหารจึงตัดสินได้อย่างง่ายดาย
ว่าเขาคือ ผู้สมรู้ร่วมคิด
มันเป็นความคิดที่ทำให้เซนกลับมานั่งหัวเราะเอาทีหลัง แบบแทบเป็นแทบตาย
“ ค่อยๆคุยกันก็ได้ครับ ” นายลูเซียส ยิ้มให้นายทหารสองนายที่เข้าประชิดตัว หมายจะจับกุมพวกเธอทั้งคู่ “ ถ้าคนเราคุยกัน ไม่ว่าอะไรก็คงไม่ยากเกินจะเข้าใจหรอกครับ ”
“ ส่งตัวผู้บุกรุกมาเดี่ยวนี้ ” นายทหารขยับไม้พลองเชิงขู่ ให้นายขี้ก้างถอนหายใจ
“ ท่าทางคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องสินะครับ งั้นขอเวลาผมสักครู่นะ ” นายลูเซียสยื่นข้อเสนอบ้าๆไปให้ฝ่ายนั้น เป็นผลให้นายทหารสองคนมองหน้ากันแล้วกดไม้พลองลองชิดตัวเขาเข้าไปอีก
“ ท่านผู้กองครับ ” นายทหารหันไปเห็นหัวหน้าตนที่วิ่งกระหืดกระหอบมายังที่เกิดเหตุ “ จับตัวได้แล้วครับผม คาดว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย เราจะจับตัวพวกมันไปกันเลยไหมครับ ” ผู้กองที่ตอนนี้หน้ามันใกล้จะละลายเป็นหิมะมากกว่าเซน ตบหัวลูกน้องสองคนดังพลั่ก แล้วรีบกดหัวนายทหารทั้งคู่งุดๆ
เป็นทหารนี่ก็ทำอะไรกันประหลาดดีแฮะ
“ ขออภัยด้วย ขอรับ ” หัวหน้าละล่ำละลักก้มหัวตามลูกน้องงุดๆ “ เป็นเพราะข้าสั่งสอนลูกน้องไม่ดีเอง ถึงได้ทำเสียมารยาทเช่นนี้ ”
ไอ้นี่มันท่าจะเมาหนักแฮะ ถึงกับพูดสุภาพกับพวกเรา
รึว่าพูดกับนายลูเซียสขี้ก้าง
“ ใช่... อยู่ดีๆก็เล่นออกมาเดินเล่นแบบนี้ ทุกคนตกใจกันขนาดไหนตอนเห็นท่านที่ลานกว้าง ท่านรู้ไหม ” เสียงนายพลก้องใหญ่สำทับมาอีกรอบ ไอ้พิลที่วิ่งตามมาก็อีกคน
ท่าทางมันไม่กลัวแผลเปิดเลยนะ
“ เอ้า พวกทหาร กลับไปได้แล้ว !! ไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ ”
พอสิ้นคำสั่งท่านนายพลเท่านั้นแหละ ทหารที่มาสมทบก็แตกฮือ
“ ท่านก็อีกคน ” นายพลเริ่มบ่นต่อ ราวกับตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็ก “ เป็นถึงองค์ราชา หัดทำตัวให้คนอื่นไม่ต้องเป็นห่วงซะบ้างสิ ”
องค์ราชา...??!!
นายพลนี่ก็ท่าจะเมาอีกคน
ว่าแต่จะเมาหมู่ยังไงก็น่าจะมีขอบเขตบ้าง
“ เมาป่าวอ้ะ ” คิ้วเรียวขมวดมุ่นแบบไม่เข้าใจว่านี่เขากำลังจัดฉากถ่ายละครอยู่รึเปล่า
“ ยังไม่เข้าใจอีกหรอเซน... คนที่พาเธอวิ่งมาน่ะ คือราชาของรอสเวลล์ไงล่ะ ” ไอ้พิลเฉลยอย่างน่าเหนื่อยใจ มือกุมหน้าผากราวกับ เธอมันงี่เง่าเสียเต็มประดา
เดี๋ยวดี้...~~
เดี๋ยวนะ.....
“ นายบอกว่า...น้าคนประหลาดนี่..... ” เสียงของเซนตอนนี้แทบจะไม่ต่างอะไรกับเสียงกระซิบ “ คือ...องค์ราชาจริงๆอ้ะ ... ”
“ ความจริงพวกคุณไม่น่ามาขัดจังหวะผมเลยนะครับ ” ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ เขารู้ดีว่า ไอ้ที่นายพลวิ่งกระหืดกระหอบมาเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะห่วงเขาจริงๆหรอก
ยังไงเสียเขาก็ดูแลตัวเองได้
แต่ คงเป็นเพราะอยากกันท่าไม่ให้เขาหาผู้โชคร้ายคนนั้นได้ต่างหาก
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย........
แล้วตาแก่บนหอคอยห้ายอด ของเธอหายไปไหน !!
ตาแก่ที่ทำงานยุ่งทั้งวัน คอยแก้ปัญหาน่าเบื่อๆ
แล้วนายลูเซียสขี้ก้างเป็นราชาได้ไง....
ฝัน นี่ต้องฝันแน่ๆ !!
“ เรื่องที่ผมช่วยไว้สองครั้งน่ะ ยังไม่เคลียร์กันเลยนะครับ ” ชายหนุ่มยิ้มแบบที่เธอไม่อยากจะเห็นอีกต่อไปแล้ว “ ผมแค่อยากให้คุณช่วยรับของสิ่งนี้ไว้เท่านั้นเอง ” ชายหนุ่มคว้ามือเธอขึ้นมาวางสร้อยเส้นเย็นๆไว้บนฝ่ามืออย่างถือวิสาสะ
สร้อยที่มีแท่งเหล็กทรงกระบอกอันเล็กๆ อะไรสักอย่างห้อยอยู่
ดูแล้วมันเหมือน...
“ นกหวีด?? ” เสียงเธอแผ่วเบาลงราวกับไม่แน่ใจถึงน้ำหนักความสำคัญของในมือ
พวกนี้เล่นบ้าอะไรกัน...
ที่สำคัญ ไอ้นายพลร่างใหญ่ทำไมต้องทำตาโตขนาดนั้นด้วย
“ เรายังพนันกันไม่จบเลย !! ลูเซียส แกทำอย่างนี้ได้ยังไง ” เบลม็อกค์เริ่มโวยวายขึ้น “ แล้วเด็กคนนี้ล่ะ ” เขาดันไหล่เด็กหนุ่มข้างตัว
“ เดี๋ยวครับ พนันอะไรกัน... ผมไปเกี่ยวด้วยได้ยังไง ” พิลมันขมวดคิ้วมุ่น พยายามแกะมือที่อยู่บนไหล่ออก “ อธิบายมานะครับ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับยัยนี่ยังไง ”
“ พิลคุงสินะครับ ” นายลูเซียสขี้ก้าง เอ๊ย !!ไม่สิ องค์ราชาต่างหาก วางมือไว้บนไหล่ของเพื่อนเธอ - - น่าแปลกที่เมื่อกี้ มันปัดมือของนายพลแทบเป็นแทบตาย แต่พอตอนนี้ล่ะกลับยืนนิ่งฟังคนตรงหน้าพูด “ คงรู้สินะครับ ว่างานปกครองบ้านเมืองมันไม่ใช่เรื่องตลก ... เป็นงานที่หนักหนาสากรรจ์เอาการ ผมเอง ก็ไม่ใช่คนหนุ่มสาวที่มีความคิดก้าวหน้าแล้ว - - งานพวกนี้น่ะหนักราวกับโซ่ตรวน จนผมอยากจะปลดโซ่นี้ทิ้งเสีย
แล้วสิ่งที่ผมอยากทำคือ ออกเดินทางไปพักผ่อน ปลดระวางเสียที พวกคุณเองอาจจะไม่เข้าใจ แน่นอน เบลม็อกค์ที่อยู่ข้างหลังคุณเองยังไม่เข้าใจเลย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อผมไป ก็ต้องมีคนขึ้นมาปกครองแทน - - เป็นเรื่องธรรมดา ” สายตาสีม่วงแดงวาวโรจน์อยู่ครู่นึงเมื่อสบตาสีแดงเพลิง แล้วหลับตาลง ใบหน้าของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาระบายยิ้ม เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเบื้องหน้าเข้าใจเขา
“ หมายความว่าท่านคิดจะให้เซนเป็นคนที่มาแทนท่าน !! ” นัยน์ตาสีแดงเพลิงเบิกกว้าง “ เป็นไปไม่ได้ ขออภัยเถอะครับ จะให้ยัยนี่ดูแลคนทั้งเมือง ทั้งทวีป ทั้งๆที่มันยังดูแลตัวเองไม่ได้เลยเนี่ยนะ ”
“ ถูกต้องครับ ” คราวนี้จากที่ลูเซียสแค่ขยับรอยยิ้มธรรมดากลายเป็นยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“ ใช่ เป็นไปไม่ได้ !! ” คราวนี้นายพลเบลม็อกค์ตะโกนขึ้นมาบ้าง “ เรายังพนันกันไม่จบเลยด้วยซ้ำ แล้วแกทำแบบนี้ มันออกจะ... ”
“ ออกจะอะไรครับ
” คารมร้อนๆถูกดับด้วยน้ำเสียงเนิบๆ “ งั้น ให้พิลคุงเป็นตัวแทนอีกคนเสียก็หมดเรื่องใช่ไม๊ล่ะครับ - - แต่เรื่องนั้น ขึ้นอยู่กับว่าพิลคุงจะรับไม๊เท่านั้นเอง ”
“ ไม่ !! ” มันตะโกนเสียงดังจนหูจะแตก
น่าแปลกที่ไอ้พิลมันไม่คิดก่อนตอบสักนิด
ปกติเห็นหว่าจะทำอะไรซักที คิดแล้วคิดอีก คิดมันให้ยุ่งวุ่นวาย
ไหงวันนี้มันมาแปลกแบบนี้
“ ไอ้หนู... แกเพี้ยนไปแล้ว สิทธิในการเป็นราชาอยู่ตรงหน้านะเฮ้ย ” นายพลโวยวายหนักข้อหลังจากที่เงียบไปแปปนึง ( ก็แค่แปปเดียว ) ตอนที่นายลูเซียสยื่นข้อเสนอใหม่
“ ผมไม่นิยมเรื่องที่ทำให้ชีวิตยุ่งยาก ” - - แค่ดูแลแม่ตัวยุ่งก็วุ่นเกินพอแล้ว - - “ แล้วผมก็ไม่อยากจะมาแข่งรับสิทธิ์บ้าบออะไรกับเพื่อนผม ”
“ ได้ไง ไม่ได้นะเว้ยเฮ้ย !! ” นายพลหน้าถอดสี มองมาที่เธอ... สงสัยเค้าจะไม่รู้ว่า หล่อนเป็นเพื่อนไอ้พิล แล้วใครมันจะบ้าอยากมาแข่งกับเพื่อนตัวเอง
เฮ้ย !!
เดี๋ยวก่อน...
ใครไปรับสิทธิ์อะไรนั่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนนี้หน้าเธอก็ซีดไม่แพ้นายพลนั่นเหมือนกันแล้ว
“ แก ลูเซียส แกรู้เรื่องนี้อยู่แล้วใช่ไม๊ ว่างไงล่ะ ” นายพลตะคอกใส่หน้าชายประหลาดที่บัดนี้เอียงคอมองท่านนายพลด้วยความระอานิดๆ
เธอสาบานได้ว่าเห็นนาย “ ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกน่า เบลม็อกค์ - - ผมบอกแล้วไง ไม่มีอะไรที่มันแน่นอนหรอกนะครับ ”
“ ไอ้ตัวดี แกรู้มาตลอดว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมาทำไก๋... ”
“ พิลคุง จากนี้ไปต้องฝากเซนด้วยนะครับ ยังไงก็ช่วยๆกันนะครับ ” เขาว่าต่ออย่างไม่สนใจนายพลที่รั้งแขนเสื้อสีมอเขาไว้ “ ฝีมือดาบของคุณใช้ได้เลยนะครับ คงจะช่วยในการเดินทางได้ไม่มากก็น้อย ”
“ ม่ายยยยยยยยยยย นี่มันอะไรกัน.. ” นัยน์ตาสีฟ้าเริ่มฉุนขาดเมื่อนิ่งฟังมานาน “ ใครไปรับสิทธิ์อะไรมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ” ทุกคนหยุดนิ่งมองเธอราวกับตัวประหลาด
ตอนนี้นายลูเซียสเดินเข้ามาลูบหัวเธอเบาๆ ราวกับเธอเป็นเด็ก
“ พยายามเข้านะครับ ”
ยิ่งเห็นไอ้พิลถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยิ่งโมโห
จากนี้ไปมันจะมีเรื่องอะไรที่มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีกไม๊เนี่ย
แล้ว สิ่งที่คาใจเธอมากที่สุดก็คือ
นายลูเซียสขี้ก้าง ... มันรู้ชื่อไอ้พิลได้ยังไง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แงะ กว่าจะพิมได้มันช๊า~~~~ ช้า....
หวังว่ารอบนี้มันคงไม่มีซ้ำโผล่มาให้เห็นหรอกนะค่ะ
ช่วยแนะนำ ติชมด้วยนะค่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไอ้บ้านี่ มันไปกินรังแตนมาจากไหนฟะ
พอคนคุมลานส่งสัญญาณเริ่มเท่านั้น มันก็พุ่งเข้าใส่ไม่คิดหน้าคิดหลัง
จนเพื่อนอย่างเธอต้องมานั่งลุ้นแทน
น่าประหลาด ... ปกติไอ้พิลมันต้องคิดแล้วคิดอีกไม่บุ่มบ่ามบ้าๆแบบเธอ
เออ .... ใช่ แบบเธอ
หน้าที่คอยเตือนสติเธอเป็นหน้าที่มัน ไม่ใช่ให้มันมาน็อตหลวมเองแบบนี้
เสียงดาบปะทะกันดังแปลกๆ ...
ว่าแต่ว่า เสียงดาบที่แปลกไป คงไม่ใช่ดาบของมันหรอกนะ
ไอ้ลูกยักษ์ก็ยังคงฟันสะเปะสะปะ ไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม ไอ้พิลได้เปรียบเห็นๆ มันเล่นกับดาบมาตั้งแต่จำความได้ ไม่มีทางที่จะหลบดาบไม่พ้นแน่นอน แต่ที่น่าหวาดเสียวที่สุดก็ตอนที่มันรับดาบไอ้ลูกยักษ์นั่นแหละ
ทำไมกัน .... ไอ้หมอนั่นถึงได้ลงดาบได้หนักหน่วงขนาดนั้นนะ
ถึงปกติไอ้พิลมันจะไม่ใช่พวกบ้าพลัง แต่เรื่องใช้กำลัง มันก็ไม่เคยแพ้ใคร แต่คราวนี้มันถึงกลับ ออกอาการ หอบ ทั้งๆที่เพิ่งสู้กันได้ไม่นาน
ประหลาด...
ประหลาดที่สุด !!
“ ว้ายยยยยยย ~~~ ” เสียงกรีดร้องดังมาจากสาวๆด้านหลังที่คู่ต่อสู้ของเขากำลังเซไปหา
เขาเองก็ไถกรูดกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง จากแรงดีดตัวตอนปะทะกัน
รอยร้าวที่ใบดาบเริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆจนน่าหวั่นใจ ว่าจะสู้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
ถ้าไม่รีบปิดบัญชี ล้มคู่ต่อสู้ของเขาให้ได้ล่ะก็ เขาเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ... จะทำยังไงกับผงแรงดึงดูดนั่นดี
วืด !!
ดาบของฝ่ายตรงข้ามที่แทงผ่านแขนไป หากเขาไม่เบี่ยงตัวหลบ ไหล่ขวาของเขาคงได้มีรูเอาไว้ประดับเล่นแล้ว มันจะมาแม่นอะไรเอาตอนนี้นะ
“ เฮ้ย... ออกไปจากตรงนี้ซะทีสิฟะ... มันบังคนอื่นรู้เปล่า ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นเรียกให้ปรายตาไปมอง
อย่างที่คิด ไม่ใช่ใครที่ไหน
แม่ตัวยุ่งกำลังตะโกนว่าคู่ต่อสู้ของเขาอยู่...
ชายร่างยักษ์ กระโจนพุ่งตรงมาทันทีทั้งๆที่เขายังไม่ทันตั้งตัว - - ดาบที่ถูกยกขึ้นมารับแบบผิดท่าผิดทาง แม้มันจะช่วยกั้นระหว่างดาบของศัตรูและตัวเขา ได้ แต่มันก็ยังไม่ดีพอ ในเมื่อมันเริ่มส่งเสียงร้องลั่น
เปรี๊ยะ !!
สัญญาณที่สั่งให้อีกฝ่ายลงมือซ้ำโดยไม่ลังเล
แรงกระแทกอย่างหนักทำให้ดาบหักเป็นสองท่อน ...
เสียงคนดูฮือฮาทั่วลาน แต่บัดนี้มันแทบไม่เข้าหูเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย ในเมื่อเขากระโดดหลบความตายไปได้เพียงเสี้ยววินาที เสี้ยววินาทีนั้น ที่หวิดขาดเป็นสองท่อน !!
รอยแผลที่สีข้างมีเลือดซึมออกมาอย่างรวดเร็ว
แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังยันตัวขึ้น พุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวเกรง
“ เฮ้ยๆ !! ไอ้บ้านั่นมันทำเกินไป ” เสียงนายพลเบลม็อกค์ โวยวายลั่นห้อง
“ จะมาโวยวายอะไรแถวนี้ กันล่ะครับ ” ชายหนุ่มพูดเนิบๆ “ คุณเป็นคนให้เขาสู้กับ เอ่อ ... ผู้ชายคนนั้นเองนะครับ ” ขนาดลูเซียสยังไม่มั่นใจที่จะเรียกไอ้ลูกยักษ์ว่าคนหรือผู้ชายเลย
“ แต่นี่มันทำงานเกินสั่ง ! วุ่นวายจริง ” นายพลในชุดเกราะทำท่าจะเดินออกจากห้อง ดูจากสีหน้าหงุดหงิดแล้ว ลูเซียสมั่นใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ชายคนนี้ต้องไปหยุดการต่อสู้ข้างล่างแน่ๆ
นั่นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้
แขนยาวๆของชายหนุ่มคว้าไปที่ไหล่เพื่อนซี้พลิกให้เจ้าตัวกลับมาที่เดิม
“ ไม่เอาน่า เด็กนั่นยังไม่ยอมแพ้เสียหน่อย ดูนั่นสิ ” เขาพยักเพยิดไปทางลานต่อสู้เบื้องล่าง เด็กหนุ่มที่ถือดาบพุ่งเข้าประชิดชายร่างยักษ์ได้รวดเร็วปานสายลม ดาบที่วาดสะเปะสะปะของมันฝันผ่านเส้นผมไปแค่ไม่กี่มิล แต่ก็ไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มชะงักได้ ช่างตีดาบหนุ่มย่อตัวลงกระทุ้งด้ามดาบเข้าท้องมันสุดแรงเกิดจนมันกระเด็นกลับไปทางเดิม ลงไปนอนนับดาวตอนกลางวันแสกๆ
นับว่าน่าประหลาดใจสำหรับชายหนุ่มที่ตัวเล็กกว่า คู่ต่อสู้เกือบเท่าตัว
“ อะฮ้า... สวยงาม ” นายพลดีใจเสียจนออกนอกหน้า ทำเอาชายหนุ่มหัวเราะกิ๊ก “ ดูสิเขาชนะ !! แกเห็นนั่นไหมลูเซียส ”
“ คร้าบๆ... เด็กคนนั้นชนะแล้ว ” แต่ฝีมือก็ยังไม่ดีพอ ... เขาคิดในใจ
“ เห็นทีคงจะต้อง... เฮ้ย !! ” นายพลร้องตะโกนรีบวิ่งลงไปแบบที่ลูเซียสยังห้ามไม่ทัน และเขาไม่คิดจะห้ามเสียด้วย ไอ้ลูกยักษ์กระชากตัวสาวน้อยข้างสนามมาเป็นโล่กำบัง ถ้าเป็นสาวน้อยคนอื่นลูเซียสคงสามารถออกคำสั่งได้อย่างมีสติยิ่งกว่านี้
แต่ไอ้ลูกยักษ์นั่นกล้าดียังไงถึงมายุ่งกับนางฟ้าของเขา
ผลั่ก !!
ลูกถีบสุดท้ายเสยปลายคางส่งชายร่างยักษ์ลงไปนอนแอ้งแม้งอีกรอบ
“ รู้จักทั่นเซนคนนี้น้อยไปซะแล้ว ” สาวน้อยที่ดูยังไงก็ไม่ใช่นางฟ้าปัดมือเบาๆ “ แล้วแกน่ะขี้โกงใช่ไม๊ ผงแรงดึงที่รองเท้าบูทกับดาบแกน่ะ ”
“ ทหาร จับมัน !! ” นายพลสั่งอย่างรู้สึกเสียหน้าสุดๆที่วิ่งเข้าไปพยายามจะช่วยเจ้าหล่อน ลูเซียสที่ตามลงมาบัดนี้ยังอดลอบยิ้มไม่ได้ เมื่อหมากตัวสำคัญของเขาเก่งกว่าที่คาดเอาไว้มาก
“ รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เรื่องมันโกงน่ะ ” ไอ้เพื่อนตัวดีเดินเข้ามาหาเธอทั้งๆที่มือมันยังกุมสีข้างที่ยังบาดเจ็บอยู่
“ ” การนิ่งเงียบถือเป็นการยอมรับกลายๆของมันอย่างนึง ที่เซนศึกษามานาน
“ แกรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไม๊ แล้วยังเจือกไปรับคำท้าเค้าอีก บ้ารึเปล่าห๊ะ ไอ้งี่เง่า ไอ้เต่าถุย ไอ้ ..... โอย คิดไม่ออก ไม่รู้จะด่ายังไงถึงจะพอ อ้ากกกก~~~~ ”
แล้วสรุปว่ามันก็รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่า ชายหนุ่มตาเหยี่ยวที่สู้กับไอ้ลูกยักษ์นี่ถูกโกงมาตั้งแต่แรก
ไอ้เรารึก็เพิ่งรู้ตอนที่ ไอ้ลูกยักษ์มันเซมาหาจนผงแรงดึงดูดหกลงพื้น
มิน่าล่ะ ตอนรับดาบไอ้ลูกยักษ์แต่ละที ถึงดาบแทบหัก
( แน่นอนว่าเรื่องดาบหักมันต้องไม่ใช่ความผิดของเธอ )
“ อยู่ตรงนั้น ผู้บุกรุก !! ” เสียงทหารตะโกนมาจากอีกฟากของลานกว้าง ทำเอาสาวน้อยเบิกตากว้างอย่างตกใจ ส่วนเพื่อนที่ยืนเจ็บสีข้างอยู่ข้างๆตอนนี้กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก
เออ....ลืมไปเลย !!
“ มาทางนี้ดีกว่านะครับ !! ” น้ำเสียงเร่งรีบดังออกมาจากปากชายแปลกหน้าอย่างนายลูเซียส แล้วแรงกระชากที่ข้อมือทำให้เด็กสาวออกวิ่งไป โดยไม่สนใจเพื่อนตัวเอง ที่ดูเหมือนจะเรียบเรียงเรื่องราวได้แล้ว
มันยืนมองได้พักนึงแล้วล้มลงไปให้สาวน้อยใจหายวาบ คนคุมลานกับชายอีก 2-3 คนวิ่งไปหามัน
มันคงไม่ตายใช่ม๊ะนั่น
........
“ ตามหาให้ทั่ว !! ” นายทหารที่เซนคาดว่าเป็นหัวหน้ากองตะโกนสั่ง “ เราไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร เข้ามาจากไหน มีจุดประสงค์อะไร แต่ เพื่อความปลอดภัยขององค์ราชา เราต้องจับตัวผู้บุกรุกให้ได้ !! ” เสียงตอบรับดังขึ้นอย่างห้าวหาญ ชวนให้นายทหารแถวนั้นรู้สึกฮึกเหิม
ทำให้คิดได้เพียงว่า...
นี่มันจะบ้ากันเกินไปรึเปล่าวะ
กะอีแค่แอบเข้าวังนิดๆหน่อยๆ ทำยังกับเกิดรัฐประหาร
จะว่าไป - - ตาแก่ราชาก็ท่าทางจะซื้อใจพวกทหารไว้น่าดูเลยทีเดียว
แต่ว่า ... ตอนนี้กลายเป็นว่า ติดหนี้นายลูเซียสเข้าไป สองรอบแล้ว
ดีหน่อยที่รอบนี้มาติดแหง่กอยู่ในตรอกเล็กๆตรอกนึง รอบที่แล้วเล่นเอาคันหยุบหยับไปหมด
แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ากันไปมากนักในเมื่อมันทั้งมืดทั้งหนาวแบบนี้
“ ติดหนี้น้าเข้าไปตั้ง สองรอบแล้วสิเนี่ย ” สาวน้อยขยับรอยยิ้มบางๆ “ ขอบคุณน้ามากๆเลยนะ ”
“ ขอเป็นอย่างอื่นแทนคำขอบคุณไม่ได้เหรอครับ ” ชายหนุ่มยิ้มหวานมาให้ จนสาวน้อยไม่กล้าสบตา ไอ้หมอนี่มันอะไรของมันเนี่ย
นึกว่ามันจะเป็นพ่อพระ นี่มันซาตานชัดๆนี่หว่า
“ แหม่ .... ที่ผมจะขอน่ะ.... ” ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีมอ ไม่น่าไว้วางใจ
“ เจอตัวแล้ว !! ”
อะไรกันนักกันหนาฟะเนี่ย
ไอ้พวกทหารมมันหาเจอได้ไง
กึก !!
ไม้พลองขัดอยู่ที่คอนายลูเซียส ความจริง มันควรจะขัดอยู่ที่คอเจ้าหล่อนต่างหาก
แต่เพราะเขาเอาตัวบังเธอไว้ พวกนายทหารจึงตัดสินได้อย่างง่ายดาย
ว่าเขาคือ ผู้สมรู้ร่วมคิด
มันเป็นความคิดที่ทำให้เซนกลับมานั่งหัวเราะเอาทีหลัง แบบแทบเป็นแทบตาย
“ ค่อยๆคุยกันก็ได้ครับ ” นายลูเซียส ยิ้มให้นายทหารสองนายที่เข้าประชิดตัว หมายจะจับกุมพวกเธอทั้งคู่ “ ถ้าคนเราคุยกัน ไม่ว่าอะไรก็คงไม่ยากเกินจะเข้าใจหรอกครับ ”
“ ส่งตัวผู้บุกรุกมาเดี่ยวนี้ ” นายทหารขยับไม้พลองเชิงขู่ ให้นายขี้ก้างถอนหายใจ
“ ท่าทางคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องสินะครับ งั้นขอเวลาผมสักครู่นะ ” นายลูเซียสยื่นข้อเสนอบ้าๆไปให้ฝ่ายนั้น เป็นผลให้นายทหารสองคนมองหน้ากันแล้วกดไม้พลองลองชิดตัวเขาเข้าไปอีก
“ ท่านผู้กองครับ ” นายทหารหันไปเห็นหัวหน้าตนที่วิ่งกระหืดกระหอบมายังที่เกิดเหตุ “ จับตัวได้แล้วครับผม คาดว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย เราจะจับตัวพวกมันไปกันเลยไหมครับ ” ผู้กองที่ตอนนี้หน้ามันใกล้จะละลายเป็นหิมะมากกว่าเซน ตบหัวลูกน้องสองคนดังพลั่ก แล้วรีบกดหัวนายทหารทั้งคู่งุดๆ
เป็นทหารนี่ก็ทำอะไรกันประหลาดดีแฮะ
“ ขออภัยด้วย ขอรับ ” หัวหน้าละล่ำละลักก้มหัวตามลูกน้องงุดๆ “ เป็นเพราะข้าสั่งสอนลูกน้องไม่ดีเอง ถึงได้ทำเสียมารยาทเช่นนี้ ”
ไอ้นี่มันท่าจะเมาหนักแฮะ ถึงกับพูดสุภาพกับพวกเรา
รึว่าพูดกับนายลูเซียสขี้ก้าง
“ ใช่... อยู่ดีๆก็เล่นออกมาเดินเล่นแบบนี้ ทุกคนตกใจกันขนาดไหนตอนเห็นท่านที่ลานกว้าง ท่านรู้ไหม ” เสียงนายพลก้องใหญ่สำทับมาอีกรอบ ไอ้พิลที่วิ่งตามมาก็อีกคน
ท่าทางมันไม่กลัวแผลเปิดเลยนะ
“ เอ้า พวกทหาร กลับไปได้แล้ว !! ไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ ”
พอสิ้นคำสั่งท่านนายพลเท่านั้นแหละ ทหารที่มาสมทบก็แตกฮือ
“ ท่านก็อีกคน ” นายพลเริ่มบ่นต่อ ราวกับตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็ก “ เป็นถึงองค์ราชา หัดทำตัวให้คนอื่นไม่ต้องเป็นห่วงซะบ้างสิ ”
องค์ราชา...??!!
นายพลนี่ก็ท่าจะเมาอีกคน
ว่าแต่จะเมาหมู่ยังไงก็น่าจะมีขอบเขตบ้าง
“ เมาป่าวอ้ะ ” คิ้วเรียวขมวดมุ่นแบบไม่เข้าใจว่านี่เขากำลังจัดฉากถ่ายละครอยู่รึเปล่า
“ ยังไม่เข้าใจอีกหรอเซน... คนที่พาเธอวิ่งมาน่ะ คือราชาของรอสเวลล์ไงล่ะ ” ไอ้พิลเฉลยอย่างน่าเหนื่อยใจ มือกุมหน้าผากราวกับ เธอมันงี่เง่าเสียเต็มประดา
เดี๋ยวดี้...~~
เดี๋ยวนะ.....
“ นายบอกว่า...น้าคนประหลาดนี่..... ” เสียงของเซนตอนนี้แทบจะไม่ต่างอะไรกับเสียงกระซิบ “ คือ...องค์ราชาจริงๆอ้ะ ... ”
“ ความจริงพวกคุณไม่น่ามาขัดจังหวะผมเลยนะครับ ” ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ เขารู้ดีว่า ไอ้ที่นายพลวิ่งกระหืดกระหอบมาเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะห่วงเขาจริงๆหรอก
ยังไงเสียเขาก็ดูแลตัวเองได้
แต่ คงเป็นเพราะอยากกันท่าไม่ให้เขาหาผู้โชคร้ายคนนั้นได้ต่างหาก
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย........
แล้วตาแก่บนหอคอยห้ายอด ของเธอหายไปไหน !!
ตาแก่ที่ทำงานยุ่งทั้งวัน คอยแก้ปัญหาน่าเบื่อๆ
แล้วนายลูเซียสขี้ก้างเป็นราชาได้ไง....
ฝัน นี่ต้องฝันแน่ๆ !!
“ เรื่องที่ผมช่วยไว้สองครั้งน่ะ ยังไม่เคลียร์กันเลยนะครับ ” ชายหนุ่มยิ้มแบบที่เธอไม่อยากจะเห็นอีกต่อไปแล้ว “ ผมแค่อยากให้คุณช่วยรับของสิ่งนี้ไว้เท่านั้นเอง ” ชายหนุ่มคว้ามือเธอขึ้นมาวางสร้อยเส้นเย็นๆไว้บนฝ่ามืออย่างถือวิสาสะ
สร้อยที่มีแท่งเหล็กทรงกระบอกอันเล็กๆ อะไรสักอย่างห้อยอยู่
ดูแล้วมันเหมือน...
“ นกหวีด?? ” เสียงเธอแผ่วเบาลงราวกับไม่แน่ใจถึงน้ำหนักความสำคัญของในมือ
พวกนี้เล่นบ้าอะไรกัน...
ที่สำคัญ ไอ้นายพลร่างใหญ่ทำไมต้องทำตาโตขนาดนั้นด้วย
“ เรายังพนันกันไม่จบเลย !! ลูเซียส แกทำอย่างนี้ได้ยังไง ” เบลม็อกค์เริ่มโวยวายขึ้น “ แล้วเด็กคนนี้ล่ะ ” เขาดันไหล่เด็กหนุ่มข้างตัว
“ เดี๋ยวครับ พนันอะไรกัน... ผมไปเกี่ยวด้วยได้ยังไง ” พิลมันขมวดคิ้วมุ่น พยายามแกะมือที่อยู่บนไหล่ออก “ อธิบายมานะครับ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับยัยนี่ยังไง ”
“ พิลคุงสินะครับ ” นายลูเซียสขี้ก้าง เอ๊ย !!ไม่สิ องค์ราชาต่างหาก วางมือไว้บนไหล่ของเพื่อนเธอ - - น่าแปลกที่เมื่อกี้ มันปัดมือของนายพลแทบเป็นแทบตาย แต่พอตอนนี้ล่ะกลับยืนนิ่งฟังคนตรงหน้าพูด “ คงรู้สินะครับ ว่างานปกครองบ้านเมืองมันไม่ใช่เรื่องตลก ... เป็นงานที่หนักหนาสากรรจ์เอาการ ผมเอง ก็ไม่ใช่คนหนุ่มสาวที่มีความคิดก้าวหน้าแล้ว - - งานพวกนี้น่ะหนักราวกับโซ่ตรวน จนผมอยากจะปลดโซ่นี้ทิ้งเสีย
แล้วสิ่งที่ผมอยากทำคือ ออกเดินทางไปพักผ่อน ปลดระวางเสียที พวกคุณเองอาจจะไม่เข้าใจ แน่นอน เบลม็อกค์ที่อยู่ข้างหลังคุณเองยังไม่เข้าใจเลย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อผมไป ก็ต้องมีคนขึ้นมาปกครองแทน - - เป็นเรื่องธรรมดา ” สายตาสีม่วงแดงวาวโรจน์อยู่ครู่นึงเมื่อสบตาสีแดงเพลิง แล้วหลับตาลง ใบหน้าของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาระบายยิ้ม เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเบื้องหน้าเข้าใจเขา
“ หมายความว่าท่านคิดจะให้เซนเป็นคนที่มาแทนท่าน !! ” นัยน์ตาสีแดงเพลิงเบิกกว้าง “ เป็นไปไม่ได้ ขออภัยเถอะครับ จะให้ยัยนี่ดูแลคนทั้งเมือง ทั้งทวีป ทั้งๆที่มันยังดูแลตัวเองไม่ได้เลยเนี่ยนะ ”
“ ถูกต้องครับ ” คราวนี้จากที่ลูเซียสแค่ขยับรอยยิ้มธรรมดากลายเป็นยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“ ใช่ เป็นไปไม่ได้ !! ” คราวนี้นายพลเบลม็อกค์ตะโกนขึ้นมาบ้าง “ เรายังพนันกันไม่จบเลยด้วยซ้ำ แล้วแกทำแบบนี้ มันออกจะ... ”
“ ออกจะอะไรครับ ” คารมร้อนๆถูกดับด้วยน้ำเสียงเนิบๆ “ งั้น ให้พิลคุงเป็นตัวแทนอีกคนเสียก็หมดเรื่องใช่ไม๊ล่ะครับ - - แต่เรื่องนั้น ขึ้นอยู่กับว่าพิลคุงจะรับไม๊เท่านั้นเอง ”
“ ไม่ !! ” มันตะโกนเสียงดังจนหูจะแตก
น่าแปลกที่ไอ้พิลมันไม่คิดก่อนตอบสักนิด
ปกติเห็นหว่าจะทำอะไรซักที คิดแล้วคิดอีก คิดมันให้ยุ่งวุ่นวาย
ไหงวันนี้มันมาแปลกแบบนี้
“ ไอ้หนู... แกเพี้ยนไปแล้ว สิทธิในการเป็นราชาอยู่ตรงหน้านะเฮ้ย ” นายพลโวยวายหนักข้อหลังจากที่เงียบไปแปปนึง ( ก็แค่แปปเดียว ) ตอนที่นายลูเซียสยื่นข้อเสนอใหม่
“ ผมไม่นิยมเรื่องที่ทำให้ชีวิตยุ่งยาก ” - - แค่ดูแลแม่ตัวยุ่งก็วุ่นเกินพอแล้ว - - “ แล้วผมก็ไม่อยากจะมาแข่งรับสิทธิ์บ้าบออะไรกับเพื่อนผม ”
“ ได้ไง ไม่ได้นะเว้ยเฮ้ย !! ” นายพลหน้าถอดสี มองมาที่เธอ... สงสัยเค้าจะไม่รู้ว่า หล่อนเป็นเพื่อนไอ้พิล แล้วใครมันจะบ้าอยากมาแข่งกับเพื่อนตัวเอง
เฮ้ย !!
เดี๋ยวก่อน...
ใครไปรับสิทธิ์อะไรนั่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนนี้หน้าเธอก็ซีดไม่แพ้นายพลนั่นเหมือนกันแล้ว
“ แก ลูเซียส แกรู้เรื่องนี้อยู่แล้วใช่ไม๊ ว่างไงล่ะ ” นายพลตะคอกใส่หน้าชายประหลาดที่บัดนี้เอียงคอมองท่านนายพลด้วยความระอานิดๆ
เธอสาบานได้ว่าเห็นนาย
“ ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกน่า เบลม็อกค์ - - ผมบอกแล้วไง ไม่มีอะไรที่มันแน่นอนหรอกนะครับ ”
“ ไอ้ตัวดี แกรู้มาตลอดว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมาทำไก๋... ”
“ พิลคุง จากนี้ไปต้องฝากเซนด้วยนะครับ ยังไงก็ช่วยๆกันนะครับ ” เขาว่าต่ออย่างไม่สนใจนายพลที่รั้งแขนเสื้อสีมอเขาไว้ “ ฝีมือดาบของคุณใช้ได้เลยนะครับ คงจะช่วยในการเดินทางได้ไม่มากก็น้อย ”
“ ม่ายยยยยยยยยยย นี่มันอะไรกัน.. ” นัยน์ตาสีฟ้าเริ่มฉุนขาดเมื่อนิ่งฟังมานาน “ ใครไปรับสิทธิ์อะไรมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ” ทุกคนหยุดนิ่งมองเธอราวกับตัวประหลาด
ตอนนี้นายลูเซียสเดินเข้ามาลูบหัวเธอเบาๆ ราวกับเธอเป็นเด็ก
“ พยายามเข้านะครับ ”
ยิ่งเห็นไอ้พิลถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยิ่งโมโห
จากนี้ไปมันจะมีเรื่องอะไรที่มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีกไม๊เนี่ย
แล้ว สิ่งที่คาใจเธอมากที่สุดก็คือ
นายลูเซียสขี้ก้าง ... มันรู้ชื่อไอ้พิลได้ยังไง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แงะ กว่าจะพิมได้มันช๊า~~~~ ช้า....
หวังว่ารอบนี้มันคงไม่มีซ้ำโผล่มาให้เห็นหรอกนะค่ะ
ช่วยแนะนำ ติชมด้วยนะค่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น