คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : SF[ถถบ]: พี่น้องสองถัง
SF[ถถบ]: พี่น้องสองถัง
--------------------------------------------
“ขอแสดงความยินดีกับV18 เนเน่ครับ”
เพียงแค่จบประโยคนี้สมองของผมก็หยุดทำงานไปแทบจะทันที ดวงตาของผมมองไปยังผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวที่ตอนนี้เขากำลังกอดยินดีกับน้องคนเล็กของบ้านที่ได้ผ่านเข้าเป็น12นักล่าฝันตัวจริงด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์โดยไม่เคยเปลี่ยน ทั้งที่เขาเป็นคนที่ไม่อาจเดินไปถึงฝันที่เขาตามล่ามาถึง2ปีติดได้แม้จะเหลือเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
กว่าที่ผมจะรู้สึกตัว น้ำตาของผมก็ไหลลงมาอย่างไม่หยุด ผมพยายามเข้าไปหาผู้ชายคนนั้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะทุกคนกำลังแย่งกันกอดพี่เขา ผมจึงได้แต่ตะโกนเรียกชื่อของเขาพร้อมกับพยายามเอื้อมมือไปจับเขา ผมตะโกนเรียกชื่อของบุคคลที่ผม ‘รัก’ มากที่สุดในบ้านหลังนี้จนพี่เขาหันมาหาผมพร้อมรอยยิ้ม มีหลายอย่างที่ผมอยากพูดกับพี่เขา แต่ตอนนั้นพี่กำลังโดนทีมงานพาออกไปเพื่อบอกลาครู ผมจึงทำได้เพียงโบกมือให้เขาเท่านั้น พร้อมกับร่างของเขาที่ค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ จนหายไปกับประตูบานแคบๆนั้นโดยที่ผมทำได้แค่เพียงมอง เพียงแต่ครั้งนี้ น้ำตาของผมไหลออกมาไม่หยุด จนเหินฟ้าต้องดึงผมไปกอด ส่วนเต้ยก็ต้องบอกให้ผมหยุดร้องไห้และร้องเพลงธีมต่อไป แต่ผมทำไม่ได้ ผมคิดถึงพี่เขา คิดถึงเสียจนไม่อาจบรรยายได้
…..ผมเคยเห็นเขาครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว นักล่าฝันที่ตีกลองโคตรเก่ง กีตาร์ก็เทพ แต่เต้นไม่เป็น น่าเสียดายที่เขาไม่อาจผ่านการคัดเลือกเข้าบ้านใหญ่ได้ เพียงแค่เห็นหน้าของเขา บางอย่างบอกผมว่าผู้ชายคนนี้แหละ คือไอดอลของผม ยิ่งชื่อของเขาที่แปลกไม่เหมือนใคร ยิ่งทำให้ผมจดจำเขาได้ดี ผู้ชายคนที่ชื่อ“ถัง รักสงฆ์”
ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ผมถึงได้เอาชื่อของเขามาใส่เพิ่มในชื่อตัวเอง จาก “เบียร์” กลายเป็น “ถังเบียร์”ไปซะนี้ คงเป็นเพราะผมอยากมีชื่อคล้ายๆเขาละมั้ง
จนมาปีนี้ ราวกับพรหมลิขิต ผมและเขาก็ได้มาเจอกัน และผ่านเข้าสู่การเป็นนักล่าฝัน24คนของAF10 บอกตามตรง ตอนแรกที่ผมเจอเขา ไม่นึกว่าเขาจะเป็นคนปากร้ายแบบนี้ แต่ผมมีความสุขนะ ถึงเราจะอยู่คนละทีมก็เถอะ อาจจะไม่ค่อยได้คุยกัน จนหลังเหตุการณ์ในคราวนั้น ที่ทำให้ผมได้ใกล้เห็นมุมมองอีกมุมของผู้ชายปากเสียของเขา
เหตุการณ์กล่องดำ เหตุการณ์ที่ทำให้ผมแทบหมดกำลังใจในการล่าฝัน ตอนที่ผมแทบไม่เหลือใคร มีเพียงมือของผู้ชายคนนี้ที่ยื่นมาประคองและให้กำลังใจผมเสมอมา นั้นทำให้ผมรู้สึกดีกับ “พี่ชาย”คนนี้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกที ผมมักจะมานั่งกินข้าวร่วมกับพี่ถังและแก๊งของเขาไปซะแล้ว
อาทิตย์แต่ละอาทิตย์ผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมกับความสัมพันธ์ของผมและพี่ถังที่ก่อตัวกันมากขึ้นๆ อาจจะมีบางช่วงที่เราทะเลาะกันบ้าง แต่ทุกครั้งมันทำให้เรายิ่งสนิทกันมากขึ้น จนหลังๆ แค่มองตาเราก็รู้กันแล้วว่าอีกฝั่งคิดอะไร
ขากลับผมนั่งเงียบๆคนเดียวขณะที่คนอื่นกำลังยิ้มมีความสุขกับการได้เป็นตัวจริง ผมคิดถึงเจ้าของเสื้อหนาวสีแดงที่ผมกำลังใส่ ไม่รู้ว่าเมื่อวีคที่แล้วคิดอะไรถึงมาแลกเสื้อกับผม แต่เวลานี้มันคือสิ่งๆหนึ่งที่เป็นของพี่ถังที่ติดตัวผม
ผมเคยคิดว่ายังไงๆ พี่คงได้เป็น12ตัวจริงแน่ๆ เลยไม่ได้เอ่ยคำสัญญาว่าเราจะไปร้องเพลงกันที่อิมแพคเหมือนพี่เทม จนถึงตอนนี้ ผมอยากให้เขารู้เหลือเกินว่าผมอยากจะยืนเคียงคู่เขาบนอิมแพคเหมือนกับพี่เทม อยากจับมือเดินเขียงข้างเขาไปสู่ฝันด้วยกัน แต่ตอนนี้เหลือเพียงผมคนเดียวแล้ว ทำไมผมรู้สึกไม่มีกำลังใจที่จะก้าวเดินตามฝันต่อเลยนะ
“เฮ้ยๆ ดูนั้นดิ มีคนเขียนถึงถังเบียร์ด้วย”เสียงพี่บีมปลุกผมออกจากภวังค์ "ถังเบียร์สู้ๆ พี่ถังเอาใจช่วย"
ผมรีบมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะพบข้อความเดียวกับที่พี่บีมเพิ่งอ่านให้ฟัง เพียงเท่านี้กำลังใจที่ผมคิดว่ามันคงไม่เหลือแล้วกลับฟื้นคืนมาอย่างน่าประหลาด และข้อความอีกข้อความที่ตามมาไม่นานนักหลังจากข้อความแรก ทำให้ผมยิ้มออกมาได้อีกครั้งทั้งที่คิดว่าไม่สามารถจะยิ้มได้เร็วขนาดนี้ "อย่าเฟลนะ พี่ถังรออยู่ข้างนอก"
พี่ถังยังคงเป็นพี่ถังจริงๆ ถึงเราจะไม่อยู่ใกล้กันแล้ว แต่เขายังรู้ ยังรู้ว่าผมเป็นยังไง ณ ตอนนี้ และยังคงห่วงใยผมเสมอไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ
ผมมองออกไปยังข้อความนั้นก่อนจะตัดสินใจบอกตัวเอง
ผมตัดสินใจแล้ว ฝันของพี่ ผมจะขอสานฝันต่อ ผมจะทำมันให้เป็นจริงแทนพี่เอง พี่คอยดูผมนะพี่ถัง น้องคนนี้จะสู้แทนพี่เอง
เพราะพวกเราเป็นพี่น้อง2ถังนี้เนอะ
-----------------------------------
ไม่รู้ไม่ชี้ ผมเศร้าที่ถังออก ฮรือ Q_Q
ความคิดเห็น