ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short Fiction]::TS&AF::

    ลำดับตอนที่ #6 : [ShortFiction TaoKacha]: มารักทำไมตอนนี้

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 55


    [ShortFiction TaoKacha]: มารักทำไมตอนนี้


    --------------------------------------------------------


    **กดเล่นเพลงไปด้วยเพื่อฟีลลิ่งแบบไรท์เตอร์**
    ---------------------------------------------------------------------




            “ต๋าววววว อาทิตย์หน้าไปเที่ยวสวนสนุกกันนะ”ร่างบางสะกิดเรียกคนตัวขาวให้ละสายตาจากเกมคอมพิวเตอร์มาหาเขา แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือการสะบัดแขนอย่างรำคาญของคนที่ได้ชื่อว่าแฟนของเขา

    “ไม่ เต๋าไม่ว่างนะคชา ต้องทำรายงาน” พูดจยเต๋าก็ยังคงนอนเล่นเกมต่อไป โดยไม่สนใจร่างบางที่กำลังเม้มปากเพื่อกลั้นความเสียใจเอาไว้

    รายงาน รายงานอีกแล้วเรอะ ก็แค่ข้ออ้างเดิมๆ สุดท้ายก็ไปเที่ยวกับคนอื่นนะสิ

            “เต๋า…..”
    “อะไรอีก คนกำลังเล่นเกม รำคาญ!”

            คชาสะอึกทันทีที่ได้ยินคำพูดของเต๋า ขอบตาของเขาร้อยผ่าว ก่อนที่หยดน้ำตาจะไหลออกมาจากดวงตาสวยคู่นั้น นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนร่างเล็กโดนเต๋าว่าแต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบแล้ว

             รำคาญงั้นหรอ เขาน่ารำคาญมากเลยหรอ ที่อยากให้คนที่รักมาสนใจเขาบ้าง เขาผิดขนาดนั้นเลยหรอ ….หรือบางที มันถึงเวลาแล้ว ที่เขาควรจะปล่อยมือจากความรักที่เจ็บปวดทรมานครั้งนี้ อย่างที่ต้นบอกกันนะ

    “….เข้าใจแล้วครับเต๋า” เขาเช็ดน้ำตาลวกๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง “คชากลับละ ดูแลตัวเองดีๆนะเต๋า รักเต๋านะ”

           
     “….”ไร้สัญญาณตอบกลับของคนตรงหน้าที่ยังคงสนใจเกมในคอมต่อไป เมื่อเห็นแบบนั้นคชาจึงตัดสินใจเดินออกนอกห้องไปเงียบๆ ก่อนจะทรุดลงตรงนั้นเมื่อประตูปิดลง น้ำตาที่เก็บไว้นานแตกออกมาอย่างไม่มีทางหยุด คชาร้องไห้อยู่หน้าห้องนั้นก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดหาเบอร์เพื่อนสนิท

    “โหลต้น คืนนี้ไปดื่มเหล้ากัน!!”







    .
    .
    .
    .

            ตอนนี้ทั้งคชาและต้นมานั่งกันที่บาร์เล็กๆริมถนน ท่าทางต้นเองก็มีเรื่องกังวลใจเช่นกัน เพราะแววตาของมันดูอ่อนล้าไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่นัก “ขอบคุณมากที่มาดื่มเป็นเพื่อนกูนะต้น”

            “ไม่เป็นไรเพื่อนกันๆ” ต้นตอบพร้อมกับยิ้มให้คชา ซึ่งก็พอดูออกว่ามันฝืนแค่ไหน เรื่องที่ทำให้ต้นผู้ร้ายกาจเป็นแบบนี้ก็มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือเรื่องของเจมส์ หนุ่มหน้าตี๋เดือนนิติศาสตร์ที่มาติดต้นเหมือนเป็นพี่น้องที่คลอดตามกันมา โดยที่เจมส์มันไม่รู้เลยว่าต้นมันคิดไม่ซื่อกับมัน แต่เขาก็รู้ดีเช่นกัน ว่าถ้าต้นไม่เป็นฝ่ายเล่า เขาก็ไม่มีโอกาสได้รู้อะไรทั้งสิ้น

    คชานั่งมองน้ำสีเหล้าในแก้วตรงหน้าตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง “กูว่ากูพอแล้ววะต้น”

            “หา?”ไอต้นหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทของตนอย่างงงๆ ก่อนจะได้รับความกระจ่างในประโยคต่อมา 



    “กูจะเลิกกับเต๋า”แววตาของคนพูดนั้นเด็ดเดี่ยว แต่ก็แฝงไปด้วยความเจ็บปวดเช่นกัน

            “…มึงแน่ใจ?”ต้นเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นแววตานั้น เขารู้ว่าถ้าคชาทำแววตาแบบนั้นเมื่อไหร่ แปลว่ามันตัดสินใจดีแล้ว เพียงแต่เขากลัวว่าเพื่อนคนนี้จะยังติดพันกับคำว่ารักจากคนๆนั้นอยู่

            “กูแน่ใจแล้ว ไม่ว่ากูจะชวนเขาคุยนู้นคุยนี้ เขาก็จะตอบกลับกูสั้นๆเหมือนไม่ใสใจกู ชวนไปไหนก็ไม่ไปเลย บางครั้งก็บอกว่ากูน่ารำคาญ นี้มันคำที่คนรักกันพูดหรอวะต้น ที่ผ่านมากูให้ความรักมันไปตลอด แล้วสิ่งที่ได้กลับมาละ? ความเจ็บปวด ความเสียใจแบบที่มึงเคยพูด กูโง่เองแหละที่หลงเชื่อคำพูดของมันมาตลอด เต๋ามันสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเอง มันไม่สนใจความรู้สึกของกูเลยแม้แต่น้อย เพราะงั้น กูขอถอยออกมาจากความรักนี้ดีกว่าวะ”ร่างขาวเอ่ยความอัดอั้นมานานให้เพื่อนของตนฟัง ในใจรู้สึกดีที่ได้ระบายสิ่งที่เก็บไว้ออกมาจนหมด ดวงตาของเขาฉายแววมุ่งมั่นว่าคราวนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เขาจะบอกเลิก

            “ถ้ามึงคิดแบบนั้นก็ดีวะ มาๆชนแก้วกัน”เมื่อเห็นว่าคชานั้นแน่วแน่แค่ไหน เพื่อนสนิทอย่างต้นก็เบาใจไป แล้วชูแก้วเหล้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม “ดื่มให้ความรักเฮงซวย”

            “เออ! ดื่ม!”คชาชนแก้วกับต้นก่อนจะดื่มเหล้าในแก้ว ทั้งคู่ยังคงนั่งคุยกันตามประสาเพื่อนสนิท จนกระทั่งมีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นหน้าร้าน

    “ปล่อยชั้นนะ! ไอพวกบ้า!”
            “แหมๆ น้องสาวจ๊ะ อย่าเล่นตัวเลย มาสนุกกับพวกพี่ดีกว่านะ”

    คชาและต้นหันไปทางเสียงโวยวาย ก่นอจะพบว่ามีเด็กผู้หญิงผมน้ำตาลสลวยในชุดนักเรียนกำลังโดนเหล่าอันธพาลที่เมาเหล้าได้ที่ 2-3คนล้อมอยู่ อันธพาลคนหนึ่งทำท่าจะยื่นมือไปจับเด็กสาว แต่เธอก็สะบัดมือนั้นออกอย่างรวดเร็ว

    “อย่ามาจับชั้นนะ ไอพวกขี้เหล้า!!”
            “ปากดีนี้หว่า อยากรู้ว่าถ้าอยู่บนเตียงแล้วปากจะดีเหมือนกันมั้ยน้า?”
    คชาที่ทนเห็นเหตุการณ์นั้นไม่ไหวอีกต่อไปจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปยังกลุ่มอันธพาลนั้นก่อนจะสะกิดเรียกหนึ่งในนั้น


    จึ๋งๆ

    “มีอะระ…..”อันธพาลคนนั้นหันมาเตรียมด่าคคนสะกิดเรียก แต่หมัดขวาของคนสะกิดก็พุ่งเข้าใส่หน้าของอีกฝ่ายอย่างเต็มกำลังจนหมอนั้นล้มลงไปกองกับพื้น 

            “เป็นผู้ชายนะ หัดให้เกียรติผู้หญิงหน่อยสิครับ” คนหน้านิ่งเดินเข้าไปขวางระหว่างหญิงสาวกับเหล่าอันธพาล “ไม่เป็นไรนะครับน้อง”

    “มะ ไม่เป็นไรคะ”เด็กสาวมองคนที่เข้ามาปกป้องอย่างขอบคุณ

            “แก! บังอาจมาต่อยหน้าชั้น!!”อันธพาลที่โดนต่อยลุกขึ้นมาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกอย่างโกรธเกรี้ยว ทว่าอยู่สัมผัสเย็นๆก็เกิดขึ้นที่หลังคอของเขา เมื่อหันไปก็พบว่าสิ่งที่กำลังจ่อขมับเขาอยู่มันคือปืนพกสีดำสนิทที่ถูกถือโดนคนผิวสีแทน เมื่อมองไปรอบๆก็พบว่ามีคนในชุดไปรเวทกำลังเล็งปืนแบบเดียวกันมาทางพวกเขาอีก3คน

            “ลองทำร้ายเพื่อนชั้นกับผู้หญิงคนนั้นดูสิ รับรองว่าพวกแกไม่ตายดีแน่”ต้นเอ่ยน้ำเสียงเย็นๆพร้อมกับเอานิ้วชี้มาเตรียมเหนี่ยวไก เมื่อเห็นปืนเล็งมาที่หัวดังนั้นเหล่าอันธพาลก็เกิดอาการหวาดกลัวก่อนจะยอมถอยไปอย่างรวดเร็วทำให้บรรยากาศหน้าร้านกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

    ต้นลดปืนลงก่อนจะโยนมันให้ชายคนหนึ่งที่รับไว้อย่างรวดเร็ว “พวกนายไปพักต่อเถอะ มีอะไรชั้นค่อยเรียก”
           
     “ครับคุณต้น”ผู้ชายคนนั้นโค้งให้ก่อนที่เขาและพวกอีกสองคนจะแยกย้ายไปนั่งห่างๆโดยมีคชาและเด็กสาวมองแบบงงๆ นี้เพื่อนเขามันมีคนคุ้มกันด้วยเรอะ!?

            “คนคุ้มกันของพ่อชั้นเอง แกเป็นห่วงชั้นนะเลยให้คนมาตามห่างๆเผื่อเหตุการณ์อะไรนะ”ต้นตอบเหมือนรู้ว่าคชาจะถามอะไร ก่อนจะหันไปหาเด็กสาว“แล้วน้องโอเคนะ?”

    “ค่ะ”หญิงสาวตอบแบบกลัวๆ “ขะ ขอบคุณพี่ๆมากนะคะ”
            “ไม่เป็นไรจ้า เพื่อนสาวก็ต้องช่วยเพื่อนสาวสิ ”ต้นพูดอย่างไม่ปิดบังสถานะของตนเอง ทำเอาหญิงสาวเหวอไปอีกรอบ”แล้วนี้น้องมาทำอะไรเนี๊ย?”

    “หนูกำลังกลับบ้านนะคะ ตรงนี้มันทางผ่านพอดี ไม่นึกว่าจะมีพวกขี้เมาอยู่ ไม่งั้นคงกลับโดยแท๊กซี่แล้วละคะ”

           
     “งั้น….คชา!”ต้นกวักมือเรียกเพื่อนตัวเองที่กลับมาทำหน้านิ่งให้เดินไปใกล้ๆ “มึงไปส่งน้องเขาหน่อยไป เดี๋ยวให้พี่นัทตามไปด้วยเผื่อมีอะไร”

            “หา?”คชาได้แต่ยืนทำตาปริบๆอย่างงๆ แต่พอจะปฏิเสธต้นก็เรียกหนึ่งในคนคุ้มกันเรียบร้อยแล้ว “รีบไปแล้วรีบกลัวนะเว๊ย! กูยังมีเรื่องเมาท์ต่อ”

    “เออๆ” เมื่อเห็นว่าไม่สามารถปฏิเสธได้ ต้นจึงยอมเดินออกมาส่งเด็กสาวพร้อมกับคนคุ้มกันอีกคน เดินไปครู่หนึ่งคนร่างขาวก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ถามชื่ออีกฝ่ายจึงหันไปหา “แล้วน้องชื่ออะไรหรอครับ?”

    “หนูชื่อยูกิคะ”





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

            เป็นเวลาหลายวันแล้วนับจากวันๆนั้น ร่างขาวเดินเข้ามหาวิทยาลัยอย่างอารมณ์ดีจนคนอื่นสังเกตเห็น ส่วนหนึ่งก็เพราะหัวใจของเขาเริ่มค่อยๆปล่อยวางเรื่องของเต๋าไปเรื่อยๆนับตั้งแต่ยูกิเข้ามาในชีวิตของเขา ยูกิมักจะโทรคุยกับเขาเสมอทุกวัน เมื่อวานเขาชวนยูกิไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันในวันอาทิตย์ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลงและนัดวันเวลาเรียบร้อย ในขณะเดียวกันเขาไม่ได้รับการติดต่อจากเต๋ามานานจนน่าสงสัยว่านี้นะหรือคนเป็นแฟนกัน เมื่อคืนเขาคิดได้ว่าอีกฝ่ายคงลืมไปแล้วเช่นกันว่าเต๋าและคชาเป็นอะไรกัน แต่แบบนี้ก็ดี อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเจอหน้าเต๋าในระหว่างที่เขากำลังพักหัวใจที่เจ็บปวดดวงนี้

    แต่คชาเองก็คงไม่รู้ว่าตัวเองคิดผิด จนกระทั่งเขากำลังจะเลี้ยวเข้าลานกว้างของมหาวิทยาลัย ก็มีมือมาจับแขนของเขาไว้ก่อน

            “ชา!”เมื่อหันไปก็พบกับใบหน้าคมเข้มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟน รอยยิ้มที่เคยมีบนใบหน้าหายไปพร้อมกับอารมณ์เมื่อครู่แล้วถูกแทนที่ด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะเอ่ยถามน้ำเสียงนิ่งๆ “มีอะไร?”

    “คชาสบายดีมั้ย? ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน เต๋าเป็นห่วงอะ”น้ำเสียงเป็นห่วงถูกถามโดยคนตรงหน้า หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงอ่อนไหวไปกับน้ำเสียงนี้ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่ามันคือการหลอกลวงว่าเป็นห่วงจากคนตรงหน้า รอยยิ้มนี้ก็คงถูกปั้นแต่งเพื่อทำให้เขาตายใจสินะ

            “สบายดี”คชาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบจนอีกฝ่ายหน้าเสีย “ไม่มีอะไรขอตัวนะ คชามีเรียน”

    คนตัวเล็กกว่าออกเดินอีกครั้ง แต่มือที่จับแขนของเขาไว้ก็ยังไม่ปล่อย “ไมอะชา ชาโกรธเต่าหรอ? เต๋าขอโทษนะ ดีกันนะชานะ” ร่างสูงยิ้มเมื่อคชาค่อยๆหันกลับไปมองหน้าเขา 

            “ปล่อยชา”รอยยิ้มนั้นหายไปทันทีเมื่อเจอน้ำเสียงเรียบๆและแววตาที่อ้างว้างของคชา มือที่จับแขนไว้ปล่อยลงทันทีอย่างไม่รู้ตัว “ขอบคุณ”

            คชาเอ่ยก่อนจะหันหลังกลับและเดินจากไป เมื่อแน่ใจว่าคนๆนั้นไม่เห็นเขาแล้ว น้ำตาของคชาก็ไหลออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ เด็กหนุ่มทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ริมทางพร้อมกับปล่อยให้น้ำตาของเขาไหลออกมาเรื่อยๆ

            ในเมื่อก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจเขาเลย จะมาสนใจเขาทำไมกัน ยิ่งตอนนี้เขากำลังตัดใจจากเต๋า แต่มาทำแบบนี้เขาเจ็บ เจ็บที่หัวใจซีกหนึ่งมันยังคงมีคำว่าเต๋าอยู่ในหัวใจ แต่อีกฟากหนึ่งก็เตือนว่าคนๆนี้คือคนทำให้เขาเจ็บมากี่ครั้งแล้ว อย่าไปเชื่อคำพูดของคนๆนี้เป็นอันขาด ในเมื่อจะตัดแล้ว ก็ให้มันขาดไปเลย






            ...อย่าให้เหลือความห่วงใยแก่คนหลอกลวงอีกเลย








    .
    .
    .
    .
    .
    .
            เมื่อเรียนเสร็จเด็กหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องเรียนเพื่อนกลับบ้าน ทว่าเส้นทางนั้นกลับถูกขวางโดยร่างสูงที่มายืนดักรอ“ชา กลับด้วยกันนะ” พูดจบเต๋าก็จับแขนของคชาก่อนจะลากขึ้นรถทันทีโดยไม่ฟังเสียงทักท้วงเลยแม้แต่น้อย

            “วันอาทิตย์นี้ไปเที่ยวกันมั้ยชา?”บรรยากาศในรถนั้นเงียบจนน่าอึดอัดจนคนขับต้องเอ่ยขึ้นมา “ชาว่างใช่มั้ย เดี๋ยวเต๋าพาไปเที่ยวนะ ชาอยากไปไหนเดี๋ยว…”

            “คชาไม่ว่างแล้ว”คชาพูดแทรกอีกคนพร้อมกับหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ทำเอาคนขับรถเหวอไปครู่หนึ่ง“ระ เหรอ งั้นไม่เป็นไรๆ ไว้ว่างแล้วเดี๋ยวไปเที่ยวกันนะ” 

            บรรยากาศกลับมาอึมครึมอีกครั้ง ก่อนที่คชาจะรู้สึกว่ามีคนสะกิด เขาหันไปก่อนจะพบกับดอกกุหลาบปลอมสีแดงที่ถูกยื่นให้โดยคนขับรถ 

            “เต๋าให้ชานะ”คนขับพูดพร้อมรอยยิ้ม คชารับดอกกุหลาบนั้นมามองก่อนจะยิ้มออกมา ทำให้เต๋าเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น แต่รอยยิ้มของคชานั้น ไม่ใช่ยิ้มเพราะยกโทษให้ แต่ยิ้ม ยิ้มเพราะสมเพช สมเพชให้คนที่ได้ชื่อว่าแฟนต่างหากละ!



    ใครมันจะจำไม่ได้ว่านี้คือดอกกุหลาบเก๊ที่เขาทำเองกับมือของเขาเองกันเล่า!!!!





            “ต๋าววววววววว ดูนี้ดิ ชาทำเองเลยนะ” คนตัวเล็กยิ้มพร้อมกับชูดอกกุหลาบสีแดงสดให้อีกคนดู เต๋าเหลือบมองดอกกุหลาบนั้นก่อนจะเอ่ยสั้นๆ แล้วขับรถต่อ“สวยดี ฝากวางไว้หลังรถหน่อย”

    คชาหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะรีบยิ้มออกมาอีกทีเพื่อไม่ให้อีกคนเห็น “อะ อื้อ ได้ๆสิ แล้ววางตรงไหน…”

            “วางๆไปเหอะนา!!”คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธๆ ขอบตาของเด็กหนุ่มร้อนผ่าวขึ้นมา คชาเม้มปากของตนเพื่อกลั้นความรู้สึกเอาไว้ เขามองไปที่เบาะหลังที่เต็มไปด้วยข้าวของก่อนจะตัดสินใจเสียบดอกกุหลาบนั้นลงที่ช่องด้านหลังเบาะคนขับแล้วนั่งเงียบไปตลอดทางเพราะกลัวเต๋าโกรธแล้วตะโดนใส่เขาอีก

    “….ขอบคุณนะ”คชาเอ่ยขึ้นมาทำให้เต๋าหันมามองคนข้างๆยิ้มให้ เขาเองก็ยิ้มอย่างพอใจ

            “…แต่ว่านะเต๋า” พลันนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของคชาก็หายไปพร้อมกับหน้าต่างที่ถูกเปิดออก กุหลาบสีแดงถูกเขวี้ยงออกนอกรถอย่างไม่สนใจใยดี เต๋าตกใจกับการกระทำของแฟนของตนจึงรีบเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ

            “คชาคงไม่อยากได้ของวัญที่ตัวเองทำกับมือเพื่อให้คนรักหรอกนะ!!!”เด็กหนุ่มกระแทกเสียงก่อนจะเปิดประตูรถพร้อมกับกระโดดลงจากรถแล้วเดินจากไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเต๋าแม้แต่น้อย น้ำตาที่คิดว่าน่าจะหายไปหมดแล้วไหลออกมาอีกครั้ง ทว่าเขาก็ยังคงเดินต่อไปโดยไม่หันหลังกลับ






    .
    .
    .
    เพื่อที่อีกฝ่ายจะไม่ให้อีกฝ่ายเห็นความอ่อนแอของเขาอีกต่อไป











    .
    .
    .
    .
            “แค่กๆ พี่คชาร้อนมั้ยคะ?”ยูกิเอ่ยถามคนหน้านิ่งที่ยืนส่ายหน้าท่ามกลางแดดจ้า คนหน้านิ่งส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนที่ทั้งสองคนจะหลบเข้าไปในร้านอาหาร วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เพราะงั้นเขาและยูกิเลยออกมาเที่ยวสวนสนุกตามที่ได้ตัวเองได้สัญญาเอาไว้ แต่ในใจของเด็กหนุ่มยังคงคิดมากเรื่องคนอีกคนอยู่ เต๋าพยายามจะทำตัวดีกับเขาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จนหัวใจของเขาเริ่มอ่อนลง ปณิธานที่มีอยู่ค่อยๆลดลงเพราะคนๆนั้นแท้ๆ แต่เขาเองก็ยังยืนยันกับตัวเองพอแล้วจริงๆ ทำให้ตอนนี้เขาสับสนมาก ว่าเขาควรจะทำยังไงดี

            “พี่คชาเครียดเรื่องพี่เต๋าอยู่หรอคะ?” เมื่อเห็นคนที่พามาด้วยคิ้วขมวดเป็นปม แถมไม่สนใจอาหารตรงหน้า เด็กสาวจึงได้เอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง

    ใช่ว่าเธอไม่รู้ เธอรู้ดีว่าคนตรงหน้านี้เป็นแฟนกับผู้ชายที่ชื่อเต๋า เพราะชื่อเสียงเรื่องความเจ้าชู้ของเต๋านั้นก็ดังกระฉ่อนมาถึงโรงเรียนของเธอเช่นกัน เธอรู้สึกสงสารพี่ชายคนนี้เหลือเกิน ที่ต้องทนแบกรับความเจ็บปวดเอาไว้ เธออยากจะแบ่งเบามันบ้าง อย่างน้อยเขาก็จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ไปคนเดียว

    คนขมวดคิ้วถึงกับสะดุ้งก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ “มะ ไม่มีอะไรหรอกยูกิ ไปกันต่อเถอะ ยูกิอยากเล่นอะไรอีกละ”

            หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมกับกุมมือของชายหนุ่มเบาๆ “พี่พูดมาเถอะคะ กิรู้ว่าพี่คชาคบกับพี่เต๋าอยู่ แล้วก็รู้ว่าตอนนี้พี่มีปัญหา ยูกิยินดีรับฟังนะคะ ถ้ามันทำให้พี่สบายใจขึ้น”

    คชามองเด็กสาวตรงหน้า ท่าทางของยูกิในตอนนี้นั้นดูเหมือนผู้ใหญ่ยิ่งกว่าเขาเสียอีก “พี่….พี่ไม่รู้นะกิ พี่กำลังสับสน ใจนึงของพี่มันให้อภัยเขา พร้อมจะกลับไปรักเขา แต่อีกใจ….มันเหนื่อยที่จะเจ็บแล้ว พี่เชื่อ พี่เชื่อคำพูดของเขามาตลอด แล้วเขาก็ทำลายคำพูดของเขาทุกครั้งไป มันทำให้พี่ไม่รู้ ว่าพี่ควรจะเชื่อสิ่งที่เขาพูดอีกรึเปล่า มันทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บนะกิ พี่ควรจะทำยังไงดี”สุดท้ายคชาก็ทนไม่ไหว น้ำตาของเขาออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้นพร้อมกับคำระบายจากหัวใจของของเอง

            ยูกิมองชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังเช็ดน้ำตาของตนออก ตอนนี้คชาไม่เหมือนกับตอนแรกที่เธอเจอเลยแม้แต่น้อย เขาในตอนนั้นดูเข้มแข็ง และปกป้องคนอื่นได้ แต่ตอนนี้ คนตรงหน้าเธอดูเปราะบาง ราวกับแก้วใสๆที่จะแตกได้ทุกเมื่อ ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นแก้วที่มีรอยร้าวอยู่มากมาย มันแตกและถูกซ่อมแซมเสมอ 
    .
    .
    .
    .
    ….และถ้าหากแก้วใบนี้แตกอีกซักครั้งสองครั้ง…….คงไม่มีทางจะซ่อมได้อีกต่อไป

















    .
    .
    .
    .
            “ดีขึ้นนะพี่คชา” ยูกิถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มหันมายิ้มตอบทั้งที่ดวงตายังแดงอยู่นิดหน่อย “หนูว่าพี่ไปล้างหน้าเถอะพี่”

            “นั้นสินะ รอพี่ตรงนี้นะกิ เดี๋ยวพี่มา”ชายหนุ่มบอกให้หญิงสาวนั่งรอเขาที่ม้านั่ง ก่อนจะวิ่งไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ยูกินั่งรออยู่ที่ม้านั่ง จนเห็นว่านานผิดปกติจึงลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วงคชา หญิงสาวตัดสินใจเดินไปทางห้องน้ำ

            ทว่าขณะกำลังก้มลงลุกขึ้น เธอรู้สึกได้ว่ามีคนยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบกับใบหน้าซีดเซียวของคนคุ้นเคย ดวงตาที่ควรจะหายแดงนั้นกลับยิ่งแดงก่ำ หยดน้ำตาไหลรินลงมาไม่ขาดสาย

    “พี่คชา!”หญิงสาวตกใจกับคนตรงหน้าที่ทำท่าจะล้มได้ทุกเมื่อ เธอรีบเข้าไปประคองชายหนุ่มพร้อมกับคิดในใจ



    มันเกิดอะไรขึ้น!?


    “…บ้าน”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแหบพร่า
    “พาพี่กลับบ้านที ยูกิ”

    เพียงแค่เห็นแววตาของคนเอ่ยปาก หญิงสาวก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น




















    แก้วใบนี้แตกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว




    .
    .
    .
    .
    .
    .

            วันถัดมาตอนเย็น เหล่าผู้คนในมหาวิทยาลัยต่างพากันตื่นตะลึงเมื่อเห็นว่าคนๆหนึ่งกำลังเดินจูงมือเด็กสาวในชุดนักเรียนอย่างมีความสุข ถึงผู้ชายที่จูงมือนั้นจะเปลี่ยนทรงผมจากทรงเห็ดแบ๊วๆมาไถด้านข้างด้านหนึ่งออกจนใบหน้าหวานๆนั้นดูหล่อขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ถึงการแต่งตัวจะเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาธรรมดามาใส่แจ็คเก็ตสีดำ ถึงดวงตาคู่สวยนั้นจะถูกบดบังด้วยแว่นดำ แต่เขาคือคชา แฟนของเต๋าอย่างแน่นอน

            เรื่องที่คชาเปลี่ยนไปมากมาย การที่อยู่ดีๆก็ควงผู้หญิงมาเดินเหมือนเปิดตัวแบบนี้แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับข่าวลือต่างๆนาๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่นานเรื่องนี้ย่อมไปถึงหูของคนอีกคนเป็นที่แน่แท้ ไม่นานนักร่างสูงก็มาปรากฏตัวต่อหน้าคชาและยูกิด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว





            คชา!!! ตอบเต๋ามาเดี๋ยวนี้นะว่านี้มันหมายความว่าไง!! ทำไมถึงได้แต่งตัวแบบนี้! แล้วผู้หญิงคนนั้นมันใครกัน!!”ร่างสูงตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง ทำไมแฟนของเขาถึงได้ทำแบบนี้กัน

            ดวงตาของชายหนุ่มภายใต้แว่นสีดำไม่แสดงอะไรออกมา นอกจากจะหันไปหาหญิงสาวข้างกาย “ไปกันเถอะยูกิ แถวนี้มันเสียงดังเนอะ สงสัยเพราะเสียงหมาติดสัดมันเห่าเนอะ”

            ชายหนุ่มจงใจกระแทกเสียงตรงคำด่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ จนอีกฝ่ายเลือดขึ้นหน้า พุ่งเข้าไปจับแขนของคนตัวเล็กก่อนจะบีบแน่น ขณะที่ยูกินั้นถอยออกมายืนมองด้วยความเป็นห่วงไม่ไกลนัก

            “พูดแบบนี้หมายความว่าไงคชา! หาว่าพี่เป็นหมาเรอะ! พี่เป็นแฟนเรานะ!!”ถึงเต๋าจะบีบแขนอีกฝ่ายแน่นขึ้นเพียงไหน แต่ใบหน้าของคชานั้นกลับเรียบเฉยไร้ความรู้สึกใดๆ คนสวมแว่นแค่นหัวเราะออกมา

            “หึหึ ผมจำไม่ได้ว่าเคยมีแฟนที่มันหลายใจถึงขั้นไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นในห้องน้ำสาธารณะหรอกนะครับ”สิ้นคำพูดดวงตาของเต๋าเบิกโพลงด้วยความตกใจ มือที่จับแขนอยู่ปล่อยออกอย่างรวดเร็ว

    “มะ หมายความว่ายังไงอะชา ชะ ชาเอาอะไรมาพูด”

            “งั้นหรอครับ?”ดขายิ้มเย็นให้กับอีกคนที่กำลังตกใจ “แต่ผมว่าเสียงครางเขาออกจะเพราะนะ น้องโซนี่เนี้ย”

    “ซะ โซนี่ไหน ชาอำเต๋ารึเปล่าเนี้ย? ชื่อคนแปลกดีนะ ฮะๆๆ”ร่างสูงหัวเราะแห้งๆออกมา “เต๋าจะไปมีคนอื่นได้ไงในเมื่อเต๋ามีแต่เรานะชา”

    “……”คราวนี้เด็กหนุ่มไม่พูดอะไรออกมานอกจากหยิบไอโฟนของตนออกมาแล้วโชว์ให้อีกฝ่ายดูพร้อมกดเล่น “งั้นช่วยบอกผมที ว่าไอคนกับเสียงในคลิปนี้นะ เป็นใคร?”

            ดวงตาของเต๋าเบิกกว้างทันที ผิวที่ขาวซีดนั้นซีดลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าภาพที่กำลังเล่นอยู่นั้นคือภาพของอะไร!?

    ซ่า!

            คชาเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก ใบหน้าที่เคยดูสดใสนั้นซํดลงเล็กน้อย ดวงตานั้นมีสีแดงเล็กน้อย ชายหนุ่มถอนหายใจกับสภาพของตัวเอง พลันนั้นก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้น

            “อะ อื้อ ไม่เอานะ พอก่อนเถอะพี่” เสียงครางหวานของผู้ชายดังขึ้น เขาหันกลับไปมองก่อนจะเห็นว่าห้องน้ำห้องด้านในสุดนั้นล๊อคอยู่ ใครกันนะช่างกล้าเสียจริง มาเอากันในห้องน้ำสาธารณะแบบนี้ เขาคิดก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องน้ำ

            “อย่าครางดังสิครับน้องโซนี่” ทว่าเท้าที่กำลังจะก้าวออกจากห้องน้ำต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังออกมา เขากลับไปมองประตูห้องน้ำนั้น

    “ตะ แต่ว่ามัน อื้อ!”เสียงครางหวานลอดออกมาดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาก้าวเท้าเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

            “พี่จะเข้าและนะครับน้องโซนี่” ยิ่งได้ยินใกล้ๆ เขายิ่งมั่นใจว่าเสียงนี้คือเสียงของคนๆนั้นแน่นอน แต่อีกใจบอกว่าอาจจะเป็นคนละคนกัน คชาตัดสินใจเข้าไปยังห้องน้ำข้างๆมือหยิบไอโฟนของตนออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดอัดวิดีโอแล้วค่อยๆยกมันขึ้นเหนือผนังห้องน้ำ

    “อะ อ๊า!”เสียงครางดังขึ้นก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง ตามด้วยเสียงร่างกายกระทบกันเบาๆ และค่อยๆแรงขึ้นเรื่อยๆ คชาก้มหน้าไม่มองวิดีโอที่อัดอยู่ ด้วยหวังว่าคนในนั้นจะไม่ใช่คนที่เขาคิด

            “อ๊า! ระ เร็วกว่านี้”

            “ได้เลยครับน้องโซนี่”

    “อื้อ!” เสียงดูดปากดังขึ้นพร้อมกับเสียงร่างกายกระทบกันแรงๆ ไม่นานนักเสียงครางก็ดังขึ้นพร้อมกับการเรียกชื่ออีกฝ่าย





    “พี่เต๋า! อ๊า!”

            เพียงแค่ชื่อก็ทำให้หัวใจของคนที่นั่งอยู่อีกห้องแตกละเอียด มือที่ชูอยู่ค่อยๆลดลงอย่างสั่นเทาก่อนจะกดหยุดอัดภาพ เขาตัดสินใจเลื่อนภาพไปยังช่วงกลางๆก่อนจะกดเล่น ด้วยหวังว่าคนในภาพที่จะเล่นไม่ใช่เต๋าคนนั้น แต่ภาพที่เขาเห็นเพียงครู่เดียวก็ต้องกดหยุดพร้อมกับเศษหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ มืออีกข้างปิดปากของตนไม่ให้ร้องออกมา หากแต่น้ำตานั้นไหลเป็นสาย พร้อมกับคำพูดของอีกคนที่เพิ่งเสร็จสมอารมณ์หมาย








    .
    .
    .
    .
    “เสียงครางหวานดีนะครับ”

            คชาเอ่ยประโยคเดียวกันออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ทิ่มแทงหัวใจอีกคน “คงจะหวานกว่าคชาเนอะ ไม่สิ ลืมไปว่าพี่ไม่เคยกินผมมาก่อนนี้นา แล้วพี่ก็คงกินของหวานแบบนี้มาอีกหลายคนแล้วมั้ง”

    “ชะ ชา ชาฟังเต๋าก่อนนะ เต๋า เต๋า อธิบายได้นะ เต๋ารักชานะ เต๋ารั…”



    เปรี้ยง!!!

            หมัดขวาลุนๆของคชาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายทันทีจนคนๆนั้นล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ “อย่าพูดคำนั้นออกมา!! เก็บคำว่ารักของเต๋าไปใช้กับคนอื่นเถอะ อย่าเอามาใช้กับคชา เพราะมันไม่มีค่าอะไรเลย!!”


            “เต๋าคิดว่าชาโง่มากรึไง! คิดว่าชาไม่รู้หรอว่าเต๋าโกหกชาแล้วชาไม่รู้! ไปทำรายงาน!? ไปอยู่กับน้องฟิวมากกว่า! ไปเที่ยวกับเพื่อน!? ไปนั่งกอดพี่พะแพงมากกว่า! ติดธุระประชุมงานกลุ่ม!? โทษนะ! นอนอยู่กับกิ๊กคนอื่นบนเตียงโรงแรมม่านรูดมากกว่าละสิ!! ชาไม่ได้โง่หรอกนะ ที่จะให้เต๋าหลอกไปตลอกนะ! คิดว่าชาโง่มากจนไม่เห็นรอบลิปติกที่เสื้อด้านในของเต๋า!? คิดว่าชาโง่มากจนมองรอยจูบบนต้นคอเต๋าไม่ออกหรอ!? เคยสนใจความรักของคชาบ้างมั้ย!? ไม่เคย! ไม่เคยเลยที่เต๋าจะสนใจชา!! แล้วพอชาจะไปจะมารั้งไว้ทำไม!? ชามีคนอื่นบ้างเต๋าถึงกับยอมไม่ได้? หึ!!!  คิดว่าชาเป็นสิ่งของ? เป็นของตายหรอ? คิดว่าชาจะยอมเต๋าเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา!! ชาก็คนนะ คนมีหัวใจ และหัวใจดวงนี้ของชาก็เจ็บปวดเพราะโดนเต๋าย่ำยีมาหลายทีแล้ว แต่มันจบแล้ว!! ชาจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ต่อให้เต๋ามาคุกเข่าอ้อนวอนแค่ไหน ชาก็จะไม่สนใจคนที่ทำร้ายชาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกต่อไปแล้ว พอกันที! ชาเจ็บมามากเกินพอแล้ว!!!”






    คนสวมแว่นดำสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเอ่ยออกมาสั้นๆ

    “เราเลิกกันเถอะ เต๋า!”









    End(?)

    -------------------------------------------------

    ช่วงเวิ่นๆกับไรท์เตอร์

    จบไปอีกตอน อิ่มมาม่าดีมั้ยละ?

    คู่นี้ไม่รู้ทำไมไรท์เตอร์ถึงได้แต่งได้ลื่นไหลไม่รู้ แต่งต้นเจมส์ดีๆดันสมองแล่นเต๋าคชาซะงั้น =[]=’’

    สงสัยเพราะฟังเพลงแล้วฟิลลิ่งมา 555

    ยอมรับว่าถ้าแต่งนิยายแล้วไม่ฟังเพลง ฟีลไม่มาจริงๆ

    ถามว่าจบแค่ตอนนี้มั้ย ไรท์ขอตอบว่ามีตอนหน้าอีกตอนแน่นอน แต่ก็ดราม่าเต็มสูบอีกนั้นแหละ

    บอกเลยว่าคู่นี้เต็มไปด้วยมาม่า ไม่ได้โกรธเคืองใดๆนะ แค่หวยมาม่าของไรท์เตอร์มาลงคู่นี้เอง 5555

    ความจริงแล้วมีแพลนตอนที่สาม แต่อยากได้กันมั้ยละ?

    อยากได้ก็บอกหน่อยนะ ไรท์เตอร์ไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสกปราสาทงามให้เธอ //ดักแก่คนอ่าน

    ล้อเล่นนา ก็บอกหน่อยแล้วกันว่าอยากได้ตอนที่สามองเต๋าคชามั้ย? 

    ถ้าอยากได้ เดี๋ยวแต่งให้ ขอไปคิดชื่อลูกบุญธรรมเต๋าก่อน ลูกคชาคิดได้แล้ว (คนอ่าน: What!!?)

    ไม่มีอะไรละ อ้อ! ไรท์เตอร์ยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนคู่ต่อไปคือใครดี แนะนำหน่อยก็ดีนะครับ

    ไม่งั้นหวยSFคู่ต่อไปอาจกลายเป็นพวกหนูๆAF9อย่างโซ่ไบรท์นะ 5555555555555555[ไม่ค่อยอวยเลยนะคู่นี้]

    หรืออยากได้คู่เก่าๆอย่างโน่ริทละ?

    แต่ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะทำให้ไรท์ต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นSF TS6-8 & AF8,9 แทน 5555555555

    ตายละ ตูฟินไปหน่อย นอนดีกว่าครับทุกคน บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×