คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : How to get warm when you are freezing
Chapter 1 How to get warm when you are freezing
‘ ก็แค่เย็นขึ้นเรื่อยๆ จนร่างไม่อาจอบอุ่นได้อีก ’
- Ella -
แหมะ แหมะ
ซ่า!
เสียงเม็ดฝนตกกระทบลงบนใบหน้าขาวซีด ก่อนจะกระหน่ำเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว ในยามค่ำคืนแบบนี้และฝนที่ตกหนักจนทำให้ทัศนวิสัยพร่ามัว ทำให้ไฟถนนทั้งสองข้างทางเป็นเพียงแค่แสงสลัวๆที่สาดส่องลงบนพื้น ร่างผอมบางนอนแน่นิ่งอยู่กลางถนนสีดำอันมืดมิดที่ราวกับจะทอดยาวไปในความมืดมิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เป็นคืนวันศุกร์ที่แสนจะเงียบเหงาผิดวิสัย ด้วยความที่ถนนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานเริงรมณ์อันมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเมือง ทุกคืนจะมีรถราวิ่งผ่านไปผ่านมาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่คงไม่ใช่คืนนี้
ร่างที่อยู่บนพื้นหายใจรวยริน อากาศที่หนาวเย็นและสายฝนที่ซัดสาดราวกับมีดเล่มเล็กๆที่เสียบแทงผิวกาย แต่เขาแทบจะไม่มีแรงแล้ว หมดแรงจะก้าวเดิน และไม่แม้แต่จะสามารถตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ มีเพียงแพขนตายาวราวกับพัดที่สั่นไหวน้อยๆยามเขากระพริบตาด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล
แผลบนหน้าผากที่มีเลือดไหลซึมตอนนี้เลือดหยุดไหลแล้ว และถูกน้ำฝนชะล้างรอยเลือดที่อยู่บนใบหน้าออกไปจนหมด เผยให้เห็นดวงหน้าเล็กที่แทบจะไร้สีเลือด ดวงตาสีดำสนิทเช่นเดียวกันเส้นผมไร้ประกายใดๆ เหม่อมองท้องฟ้าที่มืดมิด
น่าแปลกที่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องราวอันเลวร้ายที่เคนเกิดขึ้น หรือความทรงจำที่ดีใดๆเลย แค่คิดว่า
‘ พื้นนี่เย็นจริงๆ
เย็นยะเยือก....
เย็นจนร่างกายเริ่มด้านชา
ความเย็นค่อยๆกัดกร่อนความรู้สึกไปช้าๆ
ช้า….ช้า
ราวกับว่าหัวใจเต้นช้าลง’
ตึกตัก….ตึก…..ตัก…..ตึก….ตัก
และก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า
‘ไม่ว่าจะนอนอยู่ที่พื้นนานเท่าไร….. ก็ไม่อาจทำให้พื้นอุ่นขึ้นได้เลย ‘
กลับกลายเป็นตัวเขาเสียอีก ที่ค่อยๆสูญเสียความอบอุ่นจากร่างกายไปอย่างช้าๆ
‘ก็แค่เย็นขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายไม่อาจอบอุ่นได้อีก’
จนแทบจะหมดสิ้น.
ดวงตากลมโตสีดำกระพริบช้าๆ แพขนตายาวทาบทับลงบนแก้มใสกลมยุ้ยก็ชวนให้เอานิ้วไปเขี่ยเล่นเสียเหลือเกิน เส้นผมสีดำสนิทตัดสั้นระต้นคอแผ่เต็มพื้นหินอ่อน ผมหน้าม้าที่เพิ่งจัดเป็นทรงไปอย่างดีเมื่อเช้าก็เริ่มยุ่งเสียแล้ว แต่เจ้าตัวก็ดูจะไม่ใส่ใจมันนัก เพราะจดจ่อไปกับการจ้องโคมไฟระย้าบนเพดาน
ริมฝีปากเล็กๆพึมพำตัวเลขบางอย่างไม่หยุด ใบหน้าจริงจังที่ออกจะดูน่ารักเสียมากกว่าสำหรับเด็กวัยนี้ที่จะทำหน้าเคร่งขรึม
" 20…………21………….22…………..23…………..24…….
“ทำอะไรอยู่น่ะ”
เสียงที่ดังขึ้นโดยฉับพลันทำให้เจ้าตัวที่นอนแผ่อยู่บนพื้นสะดุ้งโหยงอย่างตกใจทันที
หน้ากลมๆหันซ้ายขวามองหาต้นตอของเสียงทั้งๆที่ตัวยังแช่อยู่บนพื้น ก่อนจะเห็นเจ้าของเสียงอ่อนวัยก้าวขายาวๆเข้ามาในห้อง
เด็กหนุ่มผมบลอนด์อ่อนสั้นระต้นคอถูกหวีและจัดแต่งเป็นทรงอย่างเรียบร้อย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจาง บางครั้งยามกระทบแสงก็จะออกเป็นสีทองอร่าม มองมาที่เจ้าตัวน้อยด้วยความเอ็นดูระคนอ่อนใจ
“มาเล่นซนอะไรอยู่ตรงนี้อีกล่ะ ฮึ ชอบจริงๆเลยมานอนตรงนี้ทุกวัน”
ปากเล็กยู่ลงเพราะรู้ตัวว่าจะต้องลุกในอีกไม่ช้า
“บอกแล้วไงว่าอย่ามานอนเล่นบนพื้นหินอ่อนน่ะ มันเย็น เดี๋ยวเธอก็ไม่สบายอีก”
คราวนี้ดวงตากลมโตของเด็กน้อยบนพื้นมองอย่างเว้าวอน ทว่าเด็กหนุ่มไม่ใจอ่อน
“ลุกเลย เอล ”
เด็กน้อยเอลที่ปกติจะลุกขึ้นอย่างว่าง่ายคราวนี้กลับยังไม่ขยับตัว สองมือน้อยๆชูขึ้นเป็นเชิงว่า
อยากให้ลุกก็มาดึงสิ ไม่ยอมลุกเองหรอกนะ
ที่ริมฝีปากของเด็กหนุ่มปรากฎรอยยิ้มจาง เขามีความสุขทุกครั้งที่ เอล เด็กน้อยตรงหน้าออกอาการดื้อรั้น หรือ เอาแต่ใจ ซึ่งน้อยครั้งนักที่เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้น
ปกติเอลมักจะทำหน้าตานิ่งเฉย ไม่ยิ้ม ไม่พูดจา ไม่แสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า แต่อาจเพราะยังเป็นเด็ก ทุกอย่างจึงแสดงออกทางสายตาอย่างซื่อตรง เขาอยากให้เอลทำตัวเป็นเด็กสมอายุมากกว่านี้เสมอ จึงอดจะดีใจไม่ได้ ยามปากน้อยๆนั่นเบะออก หรือดวงตากลมคู่นั้นจ้องเขม็งมา และเผลอตามใจไปเสียทุกคราอย่างอดไม่ได้
‘เด็กก็ต้องดื้อบ้าง ซนบ้าง เอาแต่ใจบ้างสิถึงจะสมเป็นเด็ก’
คิดราวกับลืมไปว่าตัวเองก็โตกว่ากันไปไม่เท่าไหร่
“แต่ครั้งนี้ยอมไม่ได้แล้วนะครับเอล ยอมมาหลายครั้งจนเธอป่วยแล้วนะ”
มือเรียวเรียบเนียนอย่างคุณชายน้อยที่ไม่ต้องทำอะไรเองก็มีคนนำมาประเคนให้ทุกอย่างกุมสองมือป้อมแล้วค่อยๆดึงขึ้นอย่างเบามือ
คราวนี้เด็กน้อยยอมโอนอ่อนแต่โดยดี เรียกรอยยิ้มน้อยๆแต้มบน ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ฉายแววหล่อเหลาแต่เด็ก สองแขนออกแรงดึงเพิ่มขึ้นเพื่ออุ้มเจ้าตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด
“เอ้า ฮึบ!”
สองแขนป้อมของเอลกอดที่คอของคนพี่อย่างคุ้นชิน แก้มย้วยๆซบลงบนบ่าเล็กทว่าอบอุ่น ราวกับทำเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
เมื่อมั่นใจว่าอุ้มเอลจนมั่นคงพอแล้วก็สาวเท้ายาวๆหมายจะออกไปจากโถงหินอ่อน ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเด้กน้อยในอ้อมแขนติดใจอะไรโถงหินอ่อนนี่นักจนแวบมานอนได้เสียทุกวัน
“แล้วเมื่อไหร่จะบอกผมได้ล่ะว่ามาทำอะไรที่นี่”
“ก็…”
“ก็อะไร หื้ม”
“ก้ออยากรู้ว่าต้องนอนอยู่บนพื้นนานเท่าไหร่ พื้นเย็นๆถึงจะอุ่นขึ้น”
เสียงเล็กๆกระซิบบอก
สองร่างหายลับไปจากห้องโถงอันเย็นสบาย แต่ยัยแว่วเสียงทุ้มใสของหนุ่มน้อยตอบก้อนกลมอย่างเอาใจใส่
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน…..แต่คงจะนานมากเลยทีเดียว แต่ที่ผมรู้แน่ๆเลยก็คือ ถ้านอนบนพื้นนานไป กว่าจะทำให้พื้นอุ่นขึ้นได้ ความเย็นของพื้นจะทำให้ตัวเธอเย็นจนไม่สบายเอาเสียก่อนน่ะสิ"
ไม่ยอมให้มานอนเล่นตรงนี้ทุกวันหรอกนะ เดี๋ยวเป็นหวัดไปจะแย่เลย เจ้าตัวเล็กยิ่งสุขภาพไม่ดีอยู่ด้วย
“จริงเหนอ”
เสียงเล็กๆหงอยลงทันทีจนคนฟังอดจะใจอ่อนไม่ได้
“อื้อ แต่ถ้าอยากให้อุ่นขึ้นจริงๆล่ะก็ ครั้งหน้าลองมานอนกอดกับมิลก็แล้วกัน….
บทสนทนาของสองเด็กน้อยค่อยๆแผ่วเบาลงจนลอยไปตามสายลม
1 คอมเมนต์ = 1 ล้านกำลังใจ
สัญญาเลยค่ะว่าไม่เทแน่นอน จะเขียนจนจบให้ได้
ฝากฟีดแบคให้เค้าหน่อยนะคะ จะนำไปปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไปค่ะ
รบกวนคอมเม้นต์อย่างสุภาพด้วยนะคะ ใจเค้าก้แค่นิ้ รักทุกคนค่ะ ขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านกันนะคะ
ความคิดเห็น