ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มหน้า ใสหัวใจลึกลับ

    ลำดับตอนที่ #2 : ไปดูหนังกัน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 49


    "พี่ครับ.... คือที่จริงแล้วผมมีเรื่องกลุ้มใจ ตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือจากพี่อย่างเร่งด่วน ไม่อย่างงั้นผมคงอยู่ต่อไปไม่ได้ ถ้าผมผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้ ผมคง....." เรื่องอะไรกันเนี้ยะ น้องเราไปทำอะไรไว้กันนะ.....

    หลังจากที่ฟายน้องรักของผมพูดยังไม่ทันจบ สายของมันก็หลุดไป ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันต้องมีเรื่องที่ร้ายรงแหงๆ ไม่สิถ้ามีเรื่องร้ายแรงหละก็ ทำไมตอนแรกถึงยังฟังดูร่าเริงอยู่เลย หรือว่าจะอารมณ์ดีกลบเกลื่อนแล้วน้องเราจะเป็นอะไรรึเปล่านี่... ขณะที่ผมกำลังคิดได้ว่าจะต้องรีบโทรกลับไปหาน้อง อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมรีบรับโดนไว ต้องเป็นน้องเราแน่นอน

    "มันเกิดอารัยกับชั้น นึกแล้วก็แปลกใจ จากไม่เคยจะสนก็มาหวั่นไหว....." เพลงคุ้นๆ ฟายร้องนี่หว่า ไหงมาร้องเพลงบ้าๆ ตอนนี้หล่ะ จากที่คุยกันเมื่อกี้มันต้องเศร้าสิ มันมีเรื่องทุกข์ใจไม่ใช่หรือ อะไรกัน

    "หยุดๆ พอเลยๆ อะไรกันหน่ะ..." ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย ทั้งๆ ที่น้ำเสียงก่อนที่คลื่นโทรศัพท์จะขาดหายไป มันฟังแล้วเจ้านี่มันมีเรื่องให้เราช่วยแท้ๆ หรือมันจะปั่นหัวเราเล่น

    "อ๋อเมื้อกี้เจ้าพุดดิ้ง หมาของผมมันมาเหยียบโทรศัพท์เล่นหน่ะ ก็เลยหลุดไปตอนนี้เจ้าพุดดิ้งก็โดนเนรเทศไปอยู่นอกห้องแล้วคับ" นี่ไง หลอกตูเห็นๆ ทำซะตูเป็นเจ๊กตื่นไฟอยู่คนเดียว พูดกับมันทีไรมึนทุกที

    "แล้วเมื้อกี้จะให้พี่ช่วยอะไร ว่ามาดิ" อะไรกันน้องใครฟะ พี่มันคงหล่อน่าดู ( ไม่ค่อยเลย ) กลับมาเข้าเรื่องกันอีกครั้ง คราวนี้ต้องรู้เรื่องแล้วนะ เปลืองตังค์ ไม่ใช่สิ มันโทรมาแล้วเราจะเสียตังค์ได้ไง เห่อๆ คุยมาเลยน้องรักของพี่....

    "อ๋อ... คือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผมได้เข้าไปเรียนวิชาสังคมที่ตึกๆ หนึ่งของคณะอะไรซักอย่างนี่แหละ โหยพี่รู้ป่าว ครูมันเก็บค่ารถโคตรแพงเลย แล้วรู้ป่าวมันเอารถอะไรมารับ รถสี่ล้อแดงเก่ามากๆ รถเคลื่อนทีนะ ร้องอี๊ด อ๊าด จะพังแหล่ไม่พังแหล่ น้องนั่งงี้เสียวมันพังกลางทางชิบ ไม่รู้ครูแกไปขุดรถคันนี้มาจากไหน แถมคนขับนะแก่หงำเหงือกสุดยอด ขับรถงี้ช้าอย่างกะเต่า ไม่ใช่สิ เต่ายังเรียกพี่เลย ไม่รู้แกกะให้พวกเราถึงปีหน้ารึเปล่า..." มันจเข้าเรื่อละยังเนี้ยะ ถึงตูไม่เสียสตางค์ แต่ก็ไม่มีเวลามากพอมานั่งฟังแกโม้นะโว้ย

    "เฮ้ยๆ...หยุดๆๆ เนื้ออะ รู้จักมั้ย เล่าให้มันมีเนื้อมั่งสิ เล่นมีแต่น้ำเข้าเรื่องได้แล้ว หูพี่เริ่มร้อนแล้วนะ เค้าบอกโทรศัพท์นานๆ มันไม่ดีนะ เพราะมันจะทำลายเซลล์ประสาทในสมอง แถมยังเสียเงินอีก ไม่รู้บ้างรึไง" ผมโวยใส่ฟายไปเล็กน้อย ( รึนั่น )

    "รู้ครับๆ แต่มีอยู่อย่างที่ผิด คือมันตังค์ผม พี่ไม่เสียอย่าบ่น งั้นเข้าเรื่องแล้วกัน คืองี้ ครูเค้าให้นักเรียนลองทำโพวกันดู ไม่ใช่สิ ให้นักเรียนทำเลยซะมากกว่า แล้วเค้าให้สงผลโหวดในเดือนหน้าหน่ะ ผมคิดไว้หัวข้อนึงละ ผมว่ามันต้องเป็นหัวข้อที่ถกแถงกันให้ตายก็ตอบไม่ได้อยู่ดีว่า อันไหนดีกว่ากันพี่ว่าป่าว" ในชีวิตคุณเคยเรียนเลขยากๆ แล้วทำไม่ได้รึเปล่าคับ ผมกำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่คับ....

    "มาว่าป่าวอะไร หัวข้อพี่ยังไม่รู้เลย" หัวเรื่องก็ไม่บอก ไม่ใช่พระพุทธเจ้านะ จะได้ตรัสรู้อะว่าแกคิดจะทำหัวข้อเรื่องไร ขืนรู้นะจะไปเป็นหมอดูให้ดังกว่าอาจารย์ลักษณ์เลย จะได้รวยๆ ซะที

    "เอ่อ... จริงด้วย ลืมไปๆ ขัวข้อมีอยู่ว่า ถ้าให้เลือกระหว่าง หน้าตาดีแต่มีสมองอันน้อยนิด กับ หน้าตาเฮ็งซวยสุดชีวิตแต่ความคิดนั้นเป็นเลิศ" โห... ดูมันตั้งซื้อซะอย่างกะหนังเลย ไปเป็นคนสร้างหนังซะดีมั้ยน้องเรา แล้วอย่าลืมเอาพี่ไปเป็นพระเอกหล่ะ

    "แล้วให้พี่ทำไง กะไอ้โพว ดีหมองห่วยเลิศ ดะไรของแกนี่อะ" ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ยาวอย่างแรง ไม่ใช่คอมนะจะจำได้ทุกคำ ถ้าได้ก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องอ่านหนังสือหลายรอบให้เมื่อยตา

    "ก็ให้พี่ช่วยสำรวจไง ไหนๆ พี่ก็ทั้งหล่อทั้งเท่ แล้วก็อยู่โรงเรียนหญิงล้วนซะด้วย พี่ก็รับหน้าที่ในการสำรวจความคิดเห็นของผู้หญิงไปละกัน ส่วนน้องจะสำรวจความคิดของผู้ชายที่เรียนรด.ด้วยกันละกัน เข้ใจที่พูดป่าว..??" ไม่ได้โง่นะ รู้แล้วคร๊าบ ข้าน้อยขอรับบัญชา

    "ได้ๆ แล้วพี่จะจัดการให้" คิดผิดคิดถูกนะเรา นี่เราโง่หรือฉลาดน้อยกันนะ ไม่สิต้องถือว่าเป็นการทำบุญทำธารแก่หมาแมวละกัน ไม่ใช่ๆ ถ้าน้องเป็นหมาเป็นแมว พี่อย่างเราก็ต้องเป็นด้วยซิ ไม่เอา เอาใหม่ๆ ถือว่าเป็นการทำเพื่อคนหน้าตาดีๆ ซะคนก็แล้วกัน 555+

    "ขอคุณมา แค้นี้นะ เปลืองเงินไปมากมายแล้ว แล้วก็ทำไวๆ ด้วยหล่ะ ไม่อยากรอให้เสียอารมณ์ แล้วก็เลิกบ่นเป็นพ่อแล้วงกเหมือนแม่ได้แล้วนะ แค่นี้หล่ะ บาย" ตู้ดๆๆ มันวางไปอย่างไม่รีรอ หืม ด่าเราซะยับเลยนะไว้เจอกันก่อนเจอ หมัด เข่า สอย แถมวัดมะกอกด้วยเลย ตอนนี้มันเหมือนกับสำนวนไทยๆ หลายอันเลยอย่าง แกว่งเท้าหาเสี้ยน แล้วในที่สุดมันก็จะกลายเป็นดินพอกหางหมู สรุปนี่มันทำบุญบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปแท้ๆ อุส่าช่วยยังมีมาว่า ขี้บ่นเหมือนพ่อ งกเหมือนแม่อีก มันน่าตืบดีแท้....

    ..........................................................................................

    "มาแต่เช้าเลยนะ แล้วนั่นกล่องอะไรอะยิ้ม" วันนี้เราว่ามาเช้าล้วนะ แต่ทำไมตายิ้มถึงมาก่อนเราอีกนะนี่ หรือว่าที่ผ่านๆ มาเรามาสายตลอด เห่อๆ ก็คนมันง่วงนี่ มันก็เยอลากงีบต่อหน่ะ

    "เช้าอะไรกัน นี่มันสายแล้วนะพลอย ไปอาคารประชาสัมพันธ์กับเราหน่อย" แล้วยิ้มก็เดินไปพร้อมกับถือกล่องที่มีสีสันโดยเด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก ชั้นก็เดินตามไปด้วยความสงสัย

    ในขณะที่เรากำลังเดินไปยังอาคารประชาสัมพันธ์ ที่โดนรอมจะมีนักเรียนนั่งอยู่เป็นกลุ่มๆ ที่ค่อยนั่งจับกลุ่มคุยกันตั้งแต่เช้า วันนี้อากาศสดใสปลอดโปล่งเอามากๆ วันนี้เป็นวันแรกจริงๆ ที่ชั้นมาโรงเรียนเช้าขนาดนี้ ถึงแม้ตอนนี้จะเรียกว่าสายสำหรับยิ้มก็ตาม พอเราเดิมมาถึงอาคารประชาสัมพันธ์ ยิ้มก็บอกให้ชั้นนั่งรออยู่บริเวณระเบียงที่มีเก้าอี้ไม้เก่าๆ ตั้งเรียงอยู่กันเป็นแถวยากๆ ชั้นเอามือดึงแผ่นไม่ที่เอาไว้สำหรับนั่งลง หลังจากทีมันพิงอยู่กับพนักพิงหลัง เสียงมันดังออดแอดและมีเสียงเอี๊ยดแสนแสบแก้วหูดังเล็ดรอดออกมาด้วย มันทำให้ฉันหวั่นขึ้นมาเล็กน้อย ว่าเราควรที่จะเอาชีวิตไปฝากกับมันหรือไม่ ในที่สุดชั้นก็นั่งลงไปด้วยความพยายามที่จะลงแรงไปให้น้อยที่สุด ยิ้มเดินเข้าไปหาอาจารย์ที่นั่งหน้าดุอยู่ข้างใน เชื่อเลยว่านายยิ้มกล้าคุยกับอาจารย์มหาโหย ที่ไม่เคยยอมให้นักเรียนมาประกาศของหายอย่างซีซั้ว วันเพื่อนชั้นมันตั้งใจจะเกลี้ยงเพื่อนอีกคน ไม่รู้คิดได้ไง มันประกาศว่า ตอนนี้นะคะ มีเพื่อนนักเรียนอยู่คนนึงค่ะ เป็นนักเรียนที่ดีมากเลยนะคะ เค้าคนนั้นมีชื่อ ชื่อพ่อของเพื่อนคนนั้นหล่ะคะ ได้บำเพ็ญประโยชน์โดยการเก็บขยะอยู่บริเวรหน้าเสาธง.... โหยเนียนมากๆ แต่ไม่รู้เจ๊แกรู้ได้ไง เพื่อนชั้นโดนไล่ออกากการเป็นประชาสัมพันธ์เลย ชั้นนั่งคอยดูยิ้มอยู่นาน จนเหลือบไปมองเห็นหนังสืออยู่เล่มหนึ่งมีรูปของชายคนหนึ่งหน้าตาคุ้นมากๆ บนปกมีตัวหนังสือตัวเบ้อเริ่มเขียนว่า หนังสือของโรงเรียน ห้ามนำออกนอกบริเวณตึกเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะโดนปรับเป็น 3 เท่าของราคาหนังสือ ไม่น่าเชื่อเลย อาจารย์เล่นทั้งดุทั้งงก ไม่น่าเชื่อว่ามีสามีแล้ว สงสัยคิดผิดถนัด ชั้นนั่งเปิดหนังสือเล่มนี้โดยไวเพื่อดูหน้าหนุ่มหน้าคุ้นคนนี้ต่อ มันเป็นรูปยิ้มคะ หล่อมากๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าต่ายิ้มจะหน้าตาดีได้ขาดนี้ แต่ไม่เห็นเอามาอวดชั้ซะกะที ครู่หนึ่งยิ้มก็เดินออกมาจากห้องของอาจารย์มหาโหดด้วยใบหน้ายิ้มๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะสำเร็จ สงสัยเล่น ศัยศาสตร์แหง มือข้างหนึ่งยังคงถือกล่องสุดแสนอลังกาลไว้แน่ แล้วมืออีกข้างก็มากว่ามือชั้นแล้วลากไปยังหน้าเสาธง ทั้งๆ ที่ยังดูหนังสือไม่จบเลยด้วยซ้ำ จะถึงหน้าชื่ออยุ๋แล้วเชียว ชั้นไม่เชื่อหรอกค่ะว่าตานี่จะไปถ่ายแบบโดยไม่บอกชั้นเลยซักคำ ให้ตายสิ... ยิ้มมันลากชั้นขึ้นมาบนเวทีหน้าเสาธง พร้อมกับมีนักเรียนประชาสัมพันธ์ยื่นไมย์มาให้

    "นายจะทำอะไรหน่ะ" ฉันถามด้วยความตกใจ และอายมากเพราะตอนนี้นักเรียนเริ่มมาเตรียมตัวเข้าแถวกันแล้ว ด้วยความอายของลงก้อนนะค๊า... ชั้นวิ่งลงมาจากเวทีอย่างไว ในขณะที่สาวๆ ทั้งหลายกำลังหันไปสนใจกับยิ้มที่ยื่นอยู่อย่างโดดเด่นบนเวที

    "ทุกๆคนครับ ขอเวลาซักแปบนึงนะครับ" ยิ้มพูดเชิญชวนให้ทุกคนมาสนอกสนใจกับเค้าอยู่ พร้อมกับที่ยิ้มส่งกล่องให้กับนักเรียนประชาสัมพันธ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่หาชั้นไม่เจอ เสียงของการพูดคุยเริ่มดังขึ้น

    "ขอความกรุณาฟังกนด้วยนะครับ เพื่อนๆเห็นกล่องใบนี้กันรึเปล่าครับ" มีเสียงของพวกบ้าผู้ชายตอบรับยิ้มอย่างไว เห็นค่ะ เห็นๆ พร้อมด้วยแฟนคลับที่คลั่งไคล้ยิ้ม ไม่น่าเชื่อมีด้วยหรือนี่

    "ครับ ผมอยากให้เพื่อนๆ ช่วยกันส่งคำตอบกันเข้ามากันนะครับ ในหัวข้อที่มีชื่อว่า ระหว่าง หน้าตาดีแต่มีสมองอันน้อยนิด กับ หน้าตาเฮงซวยสุดชีวิตแต่ความคิดนั้นเป็นเลิศ คุณอยากเลือกเป็นแบบไหน ช่วยกันเขียนมาด้วยนะครับว่าชอบแบบไหน และเพราะอะไร พร้อมเขียนชื่อและห้องมาด้วยนะครับ โดนเขียนใส่ลงในกระดาษแล้วนำมาหย่อนลงในกล่องใบนี้นะครับ หากใครมีเหตุผลที่ดีที่สุดจะได้มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารกับผม แต่ขอย้ำไว้นิดนึงนะครับว่าส่งคนละครั้งเดียวพอนะครับ ขอบคุณมาครับ" เล่นงี้เลยหรอเนี๊ยะ แถมมีชมตัวเองซะอีก ไม่น่าเชื่อหลังจากที่ยิ้มพูดจบไม่ถึง 5 นาที มีคนเอากระดาษคำตอบไปหย่อนลงในกล่องกันเต็มเลย และแล้วยิ้มก็หาเราเจอ และเดินตรงเข้ามาหาชั้น

    "เป็นไงมั่ง พลอยว่าความคิดเราดีเปล่า" ไม่ดีมั้ง ถามาได้ ลองดูไปซินั่นสิกล่องของแกอะจะขาดอยู่มะรอมมะล่อแล้วนะโว้ย.... สงสัย มีตาหามีเมียตาไม่ มาจาก มีตาหามีแววไม่ แล้วมันเกี่ยวกับยายตรงไหนหน่ะ เริ่มงงตัวเองละเรา

    "ก็ดีอ่านะ... ได้ผลเกินคาดมั้ง" มันก็จริงๆ อะ เราว่าไปทำ กล่องมาเพิ่มเลยดีกว่า เอาแบบเสริมเหล็กด้วย ไม่งั้นพวกเสนาชะนี ( พวกผู้หญิงบ้าผู้ชายหน่ะ ) ได้แย้งกันส่งจนกล่องพังแหงๆ

    "เห็นมั้ย... คนหน้าตาดีย่อมมีความคิดดีๆ แล้วเวลาทำอะไรก็รุ่งเสมอ" เอาเข้าไป ต้องส่งโรงบาลแล้วนะ ต้องเป็นโรงพยาบาลประสาทอีกตะหาก เพราะว่าเริ่มบ้าแล้ว ไม่น่าเลยเพื่อนเรา.....

    "รุ่งงั้นหรอ.... รุ่งริ่งอะสิไม่ว่า...." ชั้นโวยกลับด้วยความหมั่นไส้ หล่อตายแหละ พอพูดจบตายิ้มก็เอามือมาตบหัวชั้นอย่างจัง นี่มันประทุษร้ายกันนี่หล่า..... ทำกันงี้มันต้องเจอนิ้วพิฆาต

    "โอ้ยๆ ไม่เอาแล้วๆ พอเลยๆ หยุดนะ...." ยิ้มชักดิ้นชักงออย่างเช่นเคย หลังจากโดนนิ้วของชั้นจี้จุดไปลายที สมน้ำหน้าเล่นรุนแรงเองช่วยไม่ได้ 555+

    ..........................................................................................


    หลังจากที่ผมชักดิ้นชักงอไปชั่วขณะหนึ่ง ผมและพลอยก็เดินตรงไปยังแถวของห้องของเรา ตอนนี้แถวเรามีคนมายังไม่มาก สงสัยนั่งลอกการบ้านกันอยู่แหงๆ เป็นอย่างงี้กันประจำแหละครับ ทั้งๆ ที่ยังเป็นช่วยเปิดเทอมอยู่แท้ๆ แต่โรงเรียนก็จัดกิจกรรมต่างๆ มาให้นักเรียนทำกันอย่างไม่ได้ว่างเว้น ไม่รู้ไปหากิจกรรมที่ไหนมากันนักหนา ทำให้เวลาในการทำการบ้านอันแสนโหดคือมันทั้งยากทั้งเยอะ ของพวกเรานั้นเสร็จด้วยการไปลอกเพื่อนๆ เอา ช่างเป็นอะไรที่ชั่วร้ายจริงๆ แต่ยังไงการลอกมันก็เป็นนิสัยของคนทุกคน คงไม่มีคนไหนที่ไม่เคยลอกคนอื่นหรอก คุณว่าป่าว.... ( อันนี้จากชีวิตจริง..!! เห่อๆ คิดว่าเพื่อนๆก็เป็นนะ )

    "หวัดดีทุกคน เมื่อกี้ตอนที่เราเดินมา เราได้ยินเสียงของนายอะ ใช่รึเปล่า..." เสียงของหญิงร้างสูงพอๆ กับผม วิ่งเข้ามาในแถวอย่างหมาหอบแดก ( เกี่ยวกันมั้ยนี่ ) เธอชื่อสอง สงสัยว่าคงจะมีพี่อีกคนชื่อหนึ่ง ไม่เคยพบไม่เคยเห็นผู้หญิงชื่อสอง แปลกดี

    "ใช่ๆ... เมื้อกี้ไอ้ยิ้มอยู่ดีๆมันก็ขึ้นไปพูดบนหน้าเสาธง ตอนแรกมันลอกเราขึ้นไปด้วย อายโคตรๆ เราเลยรีบวิ่งลงมาซะก่อน" นี่ยายพลอย สองมันถามตูนะไม่ใช่สู ตอบแทนซะยืดยาวเชียว

    "จะได้รู้กันทั่วๆ ไง" ผมรีบแจงเหตุผลใหญ่ แต่พลอยก็ยังคงทำหน้าตื่นๆ อยู่ อะไรกัน คนที่อายน่าจะเป็นตูซะมากกว่า ก็แค่ลากขึ้นมายืนเป็นเพื่อนเอง แล้วก็ดันหนีไปซะไวอีก ยังรู้สึกอายอยู่อีกเรอะไง

    "อืม.. งี้นี่เอง แล้วพลอยคิดว่าอันไหนดีหล่ะระหว่างอะไรนะ.... หน้าตาดีแต่โง่ กัน ไม่สวยแต่ฉลาดอะ หืมว่าไง" สองถามพลอยด้วยความสนอกสนใจในหัวข้อนี้ แล้วอย่าลืมส่งกันมานะ

    "แล้วนายหล่ะ" พลอยยืนคิดอยู่นานพอสมควร แล้วก็หันมาถามผมแทน ซะงั้น... สงสัยจะเลือกไม่ถูก

    "อย่างเราก็ต้องเลือก ข้อที่หน้าตาดีอ่านะ มันเข้ากับเราดี" สองทำหน้าอยากอาเจียน ( ดูมันทำ ) จะบ้ารึไง ไม่ต้องถึงขั้นนั้นก็ได้นะ คนหน้าตาอีกจะดีพูดผิดตรงไหนมิทราบ...

    "นั่นสินะ ก็นายทั้งล่อทั้งโง่นิ" ยายพลอยตอบกลับมาทำเอาผมผึ้งไปเล็กน้อย นี่เธอชมว่าผมหล่ออย่างงั้นหรอ ไม่สิมันว่าผมโง่ไม่นะๆ ชั้นออกจะเก่ง

    "นั่นเอาเข้าไป ตูไม่น่าไปตอบมันเลย หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ อย่างงี้ต้องไปฝึกสมองกับอิกคิวซังซักหน่อยละ จะได้ตามเธอทันซะที" ผมไม่เคยทันมุขยายนี่จริงๆ ครับ ไม่รู้ไปฝึกมาจากไหน หรือว่ากับอิกคิวซังนะ ไม่ทันการแล้วอย่างงี้ต้องรีบไปซะแล้วเรา ( ประสาทแดกแล้วเรา )

    "กับ... เณรน้อยหัวขี้กากหน่ะหรอ" ห๊า... อะไรนะ เณรน้อยหัวขี้กาก มันต้องเณรน้อยเจ้าปัญญาไม่ใช่รึ ไหงมาหัวขี้กากซะได้

    "ยังไงวะ" ผมถามพลอยกลับด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจจริงๆทำไมยายนี่มีเรื่องมาให้ผมงงอยู่เรื่อย แต่ผมก็มีเรื่องให้เธอตกใจอยู่เหมือนกัน เอาคืนไง

    "ชั้นดูเรื่องนี้ทีไรนะ เห็นเอานิ้วแปดน้ำลายแล้วก็เอามาวนๆ อยู่ที่หัว สกปรกชิบ ไม่รู้จะสระผมซะมั่ง" 555+ คิดได้ไง มันก็จริงอานะ ไม่เห็นสระผมกะเค้าซะที ซกมกสุดยอด

    "พลอยก็ผีบ้าเหมือนกันนะ" พลอยทำสีหน้างงๆ เอาคิ้วมาชนกัน ดูเหมือนเป็นเส้นเดียวกันเลย อะไรจะงงหนาดนั้น คราวนี้หล่ะจะได้เอาคืนมั่ง

    "นี่นายว่าชั้นผีบ้าหรอไง ไหนนายพูดมาซิว่าฉันบ้ายังไง" พลอยเริ่มฉุนเล็กน้อย แต่ผมกำลังจะเริ่มหัวเราะ ตอนนี้สองก็ทำหน้าสงสัยเหมือนพลอยเมื้อกี้เปะ หลังจากคุยกับเพื่อนอีกกลุ่มมา

    "ป่าวๆ... ไม่คิดมั่งหรอว่า อิกคิวซังจะสระผมทำเพื่อ... ไม่มีผมซักเส้น จะให้สระยังไงจ้า 555+" พลอยเงียบไป ผมสะใจเอามากๆ ที่คิดมุขนี้ได้ แต่มันจะฝืดป่าวนะ แต่คงไม่อะ ให้ตายสิ พลอยหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหลเชียว เวอร์ละๆ อะไรจะขนาดนั้น...

    ด้วยความอยากรู้ของผมว่าใครจะเลือกแบบไหนบ้าง ผมก็ไปถามคนอื่นเค้าไปทั่ว แต่ผมว่าคนเขียนเค้าต้องเลือกฉลาดแต่หน้าตาไม่ดี ( ยอมรับโดยดี แต่เรื่องหน้าตานี่มันหาเรื่องกันป่าว พูดงี้มาตีกันดีกว่า ให้ตายสิชั้นไม่น่าสร้างแกขึ้นมาเลย... ) ขอโทษครับๆ ถือว่าเป็นเสียงหมาตัวหนึ่งละกันนะ ที่เลือกเพราะมีเหตุผล ( พูดให้ถูกหูหล่ะไม่งั้นชะตาขาดแน่ ) ซวยแล้วตู คืองี้... ความฉลาดก็จะทำให้เรามีงานที่ดีๆ มีเงินเยอะๆ แล้วก็ไม่ ศัลยกรรม ตกแต่ใบหน้า เข้าสปา แล้วก็อะไรต่อมิอารัย และในที่สุดก็จะทั้งหน้าตาดี ทั้งฉลาดจริงมั้ยคร๊าบบบ... ( ให้เหตุผลได้ดี ) รอดตายแล้วเรา... เห็นมั้ยครับถ้าคุยคิดเหมือนผมรึเปล่าคับ ที่สามารถเข้าร่วมสงผมทายเข้ามาได้ หากท่าเลือกข้อ 1 หน้าตาดีแต่โง่ พิมพ์ P เว้นวรรคตามด้วยเลข 1 หาที่เลือกฉลาดแต่หน้าตาไม่ดี ให้พิมพ์ P เว้นวรรคตามด้วย 2 แล้วกดส่งมาที่ 1900-1900-..... ( ไอ่ยิ้ม ไม่ใช่เกมส์โชว์ ) เอ่อ..! จริงด้วย สงสัยดูทีวีมากไปแล้วเรา

    "ยิ้มมาเข้าแถวเร็ว" เสียงตะโกนที่ไม่ดังมากนักดังมาจากแถวห้องของผม ผมรีบกลับไปที่แถวของผมทันทีเพราะครูมหาภัยมาอีกแล้ว ไม่ใช่ครูประชาสัมพันธ์หรอกนะ ตาครูนี่ชื่อวา สงสัยมาจากว๊าก แม่งว๊ากนักเรียนแทบทุกวัน หันมาทางนี้แล้วไง ตายแล้ว เรา......


    "หมดเขตแล้วนะคร๊าบบบบ... ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมือ" ผมขอบคุณด้วยความดีใจที่ได้รับใบคำตอบมาอย่างท่วมท้น ถึงแม้มันจะไม่ใช่งานของผมก็ตามและต้องมานั่งเสียเวลาทำกล่องใหม่อีก เสียเงินไปหลายเพื่อนน้องความคนเดียว

    "แล้วคนที่จะได้ไปทานข้าวกับพี่ยิ้มนี่คือใครคะ แล้วจะบอกเมื่อไหร่" ผมยืนฟังอยู่นานพอสมควรอันนี้เท่าที่สรุปได้ทั้งๆที่เมื่อกี้มันคือ พี่คะที่ยิ้มจะเมื่อแล้วกันที่ไหนหล่ะกันค่ะ ภาษาต่างดาวชัดๆ วอหนึ่งวอสอง อีทีมารับเพื่อนกลับบ้านด่วน....

    "ครับๆ.... จะมาประกาศผมวันจันหน้านะคร๊าบ..." พอพูดจบผมรีบลงมาเพราะต้องวิ่งหนี.... พวกผู้หญิง ไม่นะไม่อยากเสียตัวตั่งแต่ยังเด็ก..... ผมยังเวอร์จิ้นอยู่น้าาาา

    "เมื่อกี้ Don't ประชา He เค้าพูดอะไรกันวะ" หลังจากที่วิ่งหนีพวกนั้นออกมาได้พ้น ตอนนี้ผมอยู่กับพลอยที่ยืนดูผมอยู่ใกล้ๆ

    "จะรู้ป่าวไม่ใช่คนพูดซะหน่อย" พลอยพูดขณะผมกำลังปาดเหงื่ออยู่ ให้ตายสิเธอไม่ได้ยินที่พวกนั้นพูดมั่งรึไง เธอก็ยืนอยู่กับพวกนั้นนะ... หูไม่ดีอะสิถ้า แก่แล้วนิน่าสงสาร ไม่ทันไรก็จะตายซะละเพื่อนเรา

    "สงสัยคนพูดต้องมาจากต่างดาวแน่ๆ ต้องเรียกตำรวจมาจับรึเปล่ายิ้ม แล้วโลกเราจะโดนยึดรึเปล่า ไม่นะ ชั้นยังไม่อยากตายจากโลกนี้ไป คอยดูสิถ้ารู้ว่าเป็นใคร จะฆ่ามันให้ดู" ใช่ พลอยเธอพูดถูก... วันนี้เธอพูดตรงใจชั้นจริงๆ

    "แล้วใครเป็นคนพูดหล่ะ...??? คนเขียนแน่ๆ ใช่ป่าว" อะไรๆ... ลามปามนะเรา โทษคร๊าบ... ( พร้อมยิกมือไหว้เหนือหัว ) ไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดินนะ เล่นนักเด๋วแม่งจับไปประหาร เสียหัวประจารไปทั่วเมืองเลย

    "ประจารความหล่อหรอคับ" เปิดศาล เฮ..... ฮู....... เอามันไปประหารหัวสุนัข ( เปาบุ้นจิ้น ) ข้าน้อยผิดไปแล้ว อย่าฆ่าข้าเลยนะนายท่าน.... ทนายพลอยช่วยข้าหน่อย

    "ขอค้าน เนื่องจากคนปากหมารายนี้มีความผิดไม่มากพอ ถึงความผิดจะร้ายแรงแต่ท่านโปรดเห็นแก่คนโง่เง่าผู้นี้เถิดอย่างน้องตานี่ก็ยังเป็นตัวนำเรื่องตัวหนึ่งในเรื่องนี้ หากขาดมันผู้นี้ไป ข้าน้อยก็แสดงความดีใจกับท่านด้วย" อ่าวไหงเป็นงี้หล่ะยายพลอย ไม่นะต้องช่วยชั้นสิ

    "ช้าก่อน" พลอยขัดขึ้นอีกครั้ง "นายยิ้มเจ้ารู้หรือไม่ว่ากล่องของเจ้าอยู่ไหน..." กล่องๆๆๆ .....กล่องอยู่ไหน

    "ไอ่บ้าเอ้ย ก่องใหญ่เท่าควาย ใหญ่พอๆ กับแกเลยนะ ยังมีหน้ามาลืมได้อีก" เอาเข้าไป.... ดาตูเข้าไป สมใจอะสิท่า

    "ชั้นเป็นควาย เธอก็ต้องควายด้วยเหมือนกันแหละ" ถ้า เน้น ถ้า...ผมเป็นควาย ผมก็ต้องพูดภาษาควาย เพื่อนผมอย่างพลอยก็ฟังภาษาควายออก ดังนั้นเธอก็ต้องเป็นควาย คนที่อ่านและเขียนภาษานี้ได้ก็ต้องเป็นควายด้วย ( นี่มันหาเรื่องหมูนี่หว่า )

    "ใครบอก....พวกเรา" พลอย + คนเขียน + คนอ่าน เรามาร้องเพลงนี้กันเถอะ " เรา" ทุกคนชี้ไปที่ตัวเอง แต่ยิ้มยังคงทำหน้าเป็นควายอยู่ "ชาวนาอยู่กับควาย" ( คงรู้ะว่าชี้ไปที่ใครอีก ) 555+ "พอมีงานไถก็จูงยิ้มไปไถนา ฮุ้ย...ๆ..ๆๆ"

    "ไล่ยังไม่ไปเอาอีก ฮุ้ย.....ๆ" ยายพลอยแกตายแน่.......

    ..........................................................................................

    รอนานแล้วนะ นี่มันนัดมาเที่ยวหรือให้ชั้นมาฝึกความอดทนกันแน่ ชั้นไม่ได้อยากเป็นทหารนะ ตอนนี้ชั้นยืนรอตายิ้มอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แถวนี้มีวัยรุ่นเดินกันยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ไม่ก็นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ตามบันไดบริเวณหน้าห้าง ตอนนี้รอมาประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ ชั้นยืนแข็งทื่อเป็นยามมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วหรอนี่.... เซ็ง หลังจากนั้นซัก 20 นาทีไม่สิครึ่งชั่วโมงมากกว่า ไม่รู้ว่ามันกำลังไปนั่งผลิตรถที่จะนั่งมารึไง ช้ามาก โทรไปหาก็มีแต่ผู้หญิงรับ แถมฟังแล้วน่ารำคาญสุดๆ แค่คำแรกชั้นก็กดวางเลย ไม่รู้จะฟังคำอธิบายจากผู้หญิงคนนั้นทำไมซ้ำๆ ซากๆ ( หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้... ตู๊ด ๆ ๆ <<< คิดได้ไง พอดีที่โรงเรียนใช้กันบ่อยอะ ) แล้วอะไรกันอีกอยู่ๆ ฝนก็เริ่มยั้ว ( อ่อย ) ไม่ดีล่ะเรา แต่มันก็ตกลงมาห่าใหญ่ ทุกคนต่างหาที่หลบฝนกันจ้าลาหวั่น ซักพักก็มีคนๆ หนึ่งวิ่งมาตามฟุตบาตร ผู้คนต่างมองเค้าด้วยความสงสัย ว่าไม่หลบฝนว้า..... ให้ตายสิ นั่นมันนานยิ้ม ตัวงี้เปียกอย่างกะลูกหมาตกน้ำ แต่ดูยังไงก็ยังเท่เล่นแต่ซะอย่างกะนายแบบ ไม่ทราบว่ามาคอลเล็คชั้นไหน มีตากฝนด้วย ในที่สุดยิ้มก็ฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง ตกเยอะไม่ดีนะ ขี้เกียจฟังเพื่อนบ่น เนี๊ยะรู้ป่าว ทราย + ดิน นะมันเข้ามาเต็มบ้านเค้าเลย แม่งคอมดันเอาขึ้นชั้นบนไม่ทันได้เอาไปซ่อม ตอนนี้ยังไม่ได้คืนเลย เอ็มก็ไม่ได้เล่น คลิปก็ไม่ได้ดูตูอยากจะบ้าตาย น่าคือคำพูดของเพื่อนๆ หลังจากที่ฝนตกหนักแล้วน้ำท่วมอยู่บ่อยๆ

    "ยิ้มนายไปทำไรมา ดูชิตัวเปียกไปหมดเลย" นี่นายไม่คิดจะหลบฝนก่อนรึไง น่ามาเที่ยวห้างนะ เข้าไปข้างในก็ต้องเจอแอร์เย็นๆ อีก ไม่คิดจะรักตัวเองมั่งรึไง

    "โทษทีนะที่มาช้า... ส่วนเรื่องเปียกไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็แห้ง เราเข้าไปข้างในกันเหอะ" ดีมากที่รู้ตัวว่ามาช้า ไม่มาพรุ่งนี้เลยหล่ะ จากการวิเคราะห์น้ำเสียงและหน้าตา บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ายังไม่เป็นอะไร

    "โอเคๆ รีบๆ ไปเหอะ รู้มั๊ยชั้นต้องโทรไปบอกพี่ให้เลื่อนรอบหนังให้ รู้ป่าวมันเปลืองนะ" พอดีพี่เราทำงานอยู่ที่โรงหนังหน่ะ แล้วก็สนิทกับผู้จัดการ พี่เรานี่ตีซี๊เก่งจริงๆ ดีนะที่ย้ายแค่รอบเดียว ถ้าเกิดไอ่ยิ้มมาช้ากว่านี้พี่แกได้ด่าเราตายแหงๆ

    "เอ่อ ลืมไปเลยวันนี้ดูเรื่องไรหล่ะ" พอดีเรามาดูกันบ่อย เราสองคนเป็นคอหนังจะว่าอย่างงั้นก็ได้ 555+ เพราะว่าดูทีไรได้ส่วนลดทุกที

    "เรื่อง The Load Of The Ring แบบ 3 ภาครวด" ยิ้มทำหน้าตกใจเล็กน้อยถึงมากที่สุด ไม่ให้ตกใจได้ไง ตอนแรกที่พี่โทรมาบอกก็ตกใจเหมือนกัน ( ทุกทีพี่เลือกให้หน่ะเพราะดูมาแทบทุกเรื่องแล้ว ) พี่บอกว่ามันเป็นเวอร์ชั่นพิเศษมีเพียงไม่กี่รอบ มาดูซะ ผู้จัดการบอกว่าจะลดให้ 50 เปอร์เซ็นต์

    "แล้วมันกี่ชั่วโมงล่ะ ถ้าหนังหนึ่งภาค ก็ 2 ชั่วโมง คูณ 3 ภาคเข้าไป ก็ 6 ชั่วโมง ห๊า... ( ร้องเสียงหลงเชียว ) 6ชั่วโมง นี่มันทุ่มแล้วนะ" แม่นแล้วค่ะนี่มันทุ่มแล้ว เสร็จก็คงสักตี 1 คิดไดไงนะพี่เรา ดูกันจนตาแฉะพอดี

    หลังจากที่เราเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไป ตอนี้คนยังอยู่กันเต็มอยู่เลย สงสัยมาดูเรื่องเดียวกับเราแหง อีก 15 นาทีหนังจะเข้า ตอนนี้เราก็เลยตรงไปยังร้านหนังสือที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อฆ่าเวลากันไปก่อน ซักพักพนักงานสาวเสียงสวยก็ประกาศ ขอเชิญท่านที่มารับชมหนังเรื่องSeasons Changeเข้าสู่โรงหนังได้แล้วค่ะๆ ก็มีคนเริ่มทยอยกันเดินเข้าไป อะไรกันหายไปหมดเลย.... ไม่มีใครมาดูหนังเรื่องเดียวกับเราเลยรึไง ให้ตายสิ หนังออกจะไม่นาน แค่ 6 ชั่วโทงเอง แถมเป็นเวอร์ชั่นพิเศษอีกนะ ชั้นหันไปหายิ้ม ตอนนี้ยิ้มกำลังซุกหัวอยู่ในกองหนังสือหลังร้าน เนื่องจากเรามาดูหนังบ่อย เลยมาร้านนี้บ่อย เลยสนิทกับเจ้าของร้าน เวลามาเราก็จะได้อ่านหนังสือที่ยังไม่วางแผง ช่างดีจริงๆ ไม่เราเราไปเอาเชื้อการตีซี้มาจากไหน ( ก็พี่แกอะดิ ) อย่าพึ่งไปยุ่งกับมันดีกว่า ชั้นเลยเดินออกมาหาพี่ที่อยู่แถวๆ ด้านในโรงหนัง ชั้นเดินหาไปทั่วหาไปไหนะพี่เรา งั้นก็เดินเล่นแถวนี้ก่อนละกัน ดูบอร์ดดีกว่า Seasons Change โหยเรื่องนี้ดูตั้งแต่ยังไม่เข้าโรงเลย อะไรกันไม่มีเรื่องใหม่อีกเหรอ อุ้ยนั้นมันบอร์ดพนักงานนี้ ดูหน้าพี่เราหน่อยดิ 555+ หน้าเอ๋อชิบหาย หัวงี้ฟูอย่างกะสิงโต แถวทำหน้าเก๊กอีกตะหาก เอ้ยพี่เราเป็นรองผู้จัดการแล้วหรอ ว้าวๆๆๆๆๆ เงินเดือนก็ขึ้นอะดิ งี้ต้องบีบคอให้เลี้ยงหมูกระทะซะหน่อย.....

    "ว่าไงไอ่น้อง มายืนหัวโด่อะไรอยู่ตรงนี้" หลังจากที่ชั้นมุ่งมั้ยอยู่กับการดูบอร์ดได้ซักพักก็มีเสียงคุ้นๆ ดังมาจากข้างหลัง

    "พี่เรานี่เอง ก็นึกว่าใคร แต่ตัวซะเท่เลยนะ พี่ทำได้ไงดูนี่สิ...." ชั้นชี้ไปยังรูปที่ติดอยู่ตรงบอร์ดสีเขียวอันใหญ่ ที่ติดอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าโรงหนัง และทางไปห้องน้ำ แล้วชั้นจะบอกทำไมกันเนี๊ยะ

    "พี่เก่งใช่ไหนหล้า... ที่ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงรองผู้จัดการ พึ่งได้ย้ายเมื่อไม่นานนี้เอง เดี๋ยวต้องไปเลี้ยงหนูกระทะซักหน่อย" พี่เรานี่พูดอย่างกับรู้เลยว่าเราคิดอารัย ดีๆ หมูกระทะของโปรดของหนู หมูเยอะๆ ว๊าว.....ชอบ

    "ขอบคุณนะแน่น้องหมายถึงทำไมทำหน้าได้เอ๋อขนาดนี้อะ..." จากหน้าที่เคยยิ้มกลายเป็นหน้าที่ดุขึ้นเล็กน้อย และชั้นก็โดนเบิดกะโหลกเข้าไปหนึ่งที โอ้ย เจ็บนะ

    "พี่ไม่เห็นมีใครมาดูหนังเลย" ดูดิพอประกาศเรื่องSeasons Changeเข้าโรงไปกันหมด เรื่องที่เราดูไม่มีใครมาดูกันมั่งเหรอไง สาวก The Load of the Ring หายไปไหนกันหมดนะ

    "มีสิวันนี้มีลูกค้าเยอะจะตาย ไม่เห็นรึไงเมื่อกี้เดินเข้าโรงกันเป็นร้อยๆ..." พี่เรายิ้มอย่างภาคภูมิใจ ที่มีลูกค้ามากมายขนาดนี้ แถมเหลียวมองตามดูสาวสวยที่เดินผ่านหน้าไป สนใจน้องตัวเองมั่งสิ

    "นี่ค่ะ" นี่มันอะไรกันให้เบอร์กันง่ายขนาดนี้เลยหรอวะ ผู้หญิงสมัยนี้ใช้ไม่ได้จริงๆเลย รักนวลสงวนตัวหน่อยสิ ไม่รู้อยากเป็นสัตว์สงวนกนนักรึไง ไม่ดีเลยอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวเจ็บตัว ( แรด )

    "พี่....น้องว่าพี่ผู้หญิงคนนั้นต้องสายตาไม่ดีแน่ๆ เลย" 555+ ทำหน้าเครียดอีกแล้วพี่เรา อย่ามาฆ่าหนูน้า...

    "ไม่รู้อะไรเค้าใส่คอนแท็ก เด็กโง่เอ้ย..." แหนะมาว่าเราโง่อีก พี่เรานี่น่าฆ่าจริงๆ ให้ตายดิเข้าเรื่องๆ

    "พี่หนังเรื่องที่น้องดูนี่มีคนมาดูเยอะมั๊ยอะ ไม่เห็นมีใครเลย" ไอ่พี่บ้า ช่วยโงหัวขึ้นมาจากเศษกระดาษนั่นซะที

    "อ๋อ... เรื่องที่แกกับไอ่ยิ้มดูกันหน่ะหรอ ที่จริงเรื่องนี้ไม่มีแล้วหล่ะ สรุปคืออดดู แต่พี่มีกิจกรรมดีๆ ให้น้องสุดที่รักทั้ง 2 คนไว้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงไปที่โรง 7 นะ" แล้วพี่เราก็เดินไป งั้นหนังก็อดดูอะดิ ไอ่ยิ้มได้บ่นตายแหง

    "เร็วๆ หล่ะ" ค๊า.... นี่พี่เราคิดหลอกเรามาทำอะไร บอกว่ามีหนังใหม่เข้ารอบพิเศษซะด้วย แต่กลับมาบอกทีหลังว่าไม่มีแต่มีกิจกรรมดีๆ รอไว้ พี่เราเริ่มประสาทแล้วนะเนี๊ยะ...

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ไม่นะมีคนเข้ามาอ่านแค่ 5 คนโอ้พระเจ้าจะรุ่งรึเปล่าครั้งนี้ ก็พึ่งเริ่มเขียนหน่ะ ช่วยกันเป็นกำลังใจให้กับแพ็ทด้วยนะครับ แล้วก็ฝากบล๊อคด้วย http://sincerepat7.exteen.com/ ชอบไม่ชอบยังไงก็ว่ากันมานะ

    เรื่องนี้ตอนที่ 1 - 1.5 มีต้นแบบ คือเขียนไว้ในสมุดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ที่เหลือและต่อจากนี้ มันคือการแต่งสด อุปสรรคอันมากมายก็ถาโถมเข้ามาใส่ คือการบ้านปิดเทอม ให้ตายสิ อาทิตย์หน้าก็เปิดแล้ว และก็การขายน้ำชามุกอีก ลงๆ นั่งๆ กันทั้งวัน ไม่มีเวลามาเขียนอย่างเป็นสุขๆ กะเค้าซ้า...ที เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อยากให้เรื่องเป็นไงต่อก็บอกมาได้ จะได้เอาไปปรับแต่นะ....





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×