Yourniverse ภาคบรรยาย - Yourniverse ภาคบรรยาย นิยาย Yourniverse ภาคบรรยาย : Dek-D.com - Writer

    Yourniverse ภาคบรรยาย

    Yourniverse ภาคเค้าง้อกันจ้า

    ผู้เข้าชมรวม

    482

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    482

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    10
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ย. 61 / 04:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    This may include sensitive content




    “เราจะไม่พูดซ้ำแล้วครับ ถ้าชานยอลอยากได้ยินประโยคที่คิดไว้เราว่าควรกลับไปนะ” โดนกฮูกตัวจริงแน่นอน เจอประโยคแรกเข้าไปเสื้อโปโตกัส ดี เอสที่ใส่อยู่คือเหี่ยวเหมือนโดนเครื่องปั่นไปแปดสิบรอบพร้อมตัวคนใส่ด้วย แล้วคยองซูก็เก็บม้วนฟิล์มลงกระเป๋าโดยไม่มองกันเลย นั่น เดินเข้าไปเอาน้ำยาอะไรไม่รู้อีกห้องแล้ว 

    ชานยอลยืนเกาหัวแกรกๆ โอเคกูไม่ควรมาในลุครองเท้าแตะเกงยีนส์เหี่ยว แต่ต้องเมินกันขนาดนี้เลยปะ สรุปนี่มาง้อมันเหรอวะ สรุปคนผิดคือกูใช่ไหม

    “นกฮูก....”

    “อ้อ นั่นชื่อเรากลับมาแล้วเหรอ” 

    “อย่าประชดได้ปะ นี่พี่มาคุยดีๆ” อะ ม้วนฟิล์มนะค้นมันเข้าไป มีอยู่แค่สองสามม้วนน่ะแต่ทำเหมือนกระเป๋าเป็นบ้านพักในควิดดิชเวิลด์คัพเลยนะไอ้ตัวยุ่ง

    “มีอะไรที่เรายังไม่ได้อธิบายอีกไหม นอกจากนั่นคือแฟนเก่า และนั่นคือจูบแบบ casual และไม่ได้ตั้งใจจูบกันต่อหน้าแต่ชานยอลเดินมาพอดี และเราขอโทษไปจนงงว่าถ้าการพูดความจริงทำให้เราผิด เราน่าจะโกหกไปเลยว่าเออ นายอนสะดุดล้มแล้วปากโดนกันพอดี” โทนเสียงเริ่มโมโนโทนจนงงว่าทำไมมันเรียบได้อีก ชาได้อีก เมินได้อีก จิตใจทำด้วยอะไรวะโดคยองซู ทั้งๆ ที่เขาจะร้องไห้อยู่แล้วเนี่ย แล้วกูใส่เสื้อลายโปโตกัสร้องไห้มาด้วยไง ยูนิโคลลดราคาอะ

    “พี่ไม่ได้โกรธ แต่ไม่ชอบ ซึ่งไม่รู้ว่ามีสิทธิไม่ชอบได้ไหม มากแค่ไหน แต่ถ้าเดาจากสถานการณ์และความรู้สึกตอนนี้ อย่างน้อยพี่ก็มีสิทธิไม่โอเค” คยองซูมองหัวสีชมพูฟลามิงโกของคนที่สูงกว่ามาก ชานยอลกะพริบตาช้าๆ ถอนหายใจแรงจนได้ตีความได้ว่าผิดปกติ ดูอึนๆ เหมือนเพิ่งตื่นแล้วขับรถมานี่เลย

    “ยังไม่ย้อมผมกลับอีกเหรอ” อืม นี่โกรธเคืองกันอยู่เนอะ ระดับที่ไม่คุยเลย ระดับที่พูดจาแรงใส่กันประมาณนึงแต่ก็ยังจะเอามือมาจับๆ ลูบๆ ที่ผมข้างหู มันใช่เวลาไหมคยองซู แล้วยังไง กูก็ยืนให้เด็กนี่มันลูบเหมือนหมาเลย ก้มหัวให้ด้วยอีก เชื่องยิ่งกว่า เหมือนหมาหุ่นยนตร์ที่โดนคนกดรีโมทแล้วเชื่อฟังทุกอย่างอะ

    “หูกางจัง” ยัง ยังไม่หยุด ดึงหูกูอีก ช่วยเข้าใจหน่อยเหอะว่ากูงอน กูน้อยใจ กูมีเหตุผลร้อยแปดประการ เขียนได้ร้อยเรียงเป็นพงศาวดารที่จะไม่ขับรถมาที่นี่ตอนสามทุ่ม แต่คือยังไง กูก็มาเพราะกูคิดถึง เนี่ย แล้วพอมันยิ้มนิดๆ กูก็จะยิ้มตามอีกแล้ว มุมปากกระตุกจัดๆ แต่ต้องคีพลุคนิ่งไว้ จะเป็นไบโพลาร์แล้วมึง แทอู ช่วยกูด้วย

    “คยองซู...”

    “ครับ”

    “กินข้าวรึยัง” ปาร์คชานยอล ไอ้ควาย มึงมาเคลียร์ พิมพ์โปรแกรมไว้ในสมองจับจองทุกพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ว่าต้องมาคุยให้รู้เรื่องไม่มีการอ่อนข้อแม้จะเจอการอ้อนระดับเยลลี่นุ่ม แต่นี่คืออะไร คยองซูยืนเฉยๆ แบบจะเป็นรูปปั้นอยู่แล้ว ไร้ซึ่งความละมุน แต่มึงเผยความห่วงใยออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เคลียร์ห่าอะไรเลย มึง หมาเวร อัพไอเอสเดี๋ยวนี้

    “กินข้าวปั้นหมูทอดไปแล้วตอนกลางวัน แต่ตอนนี้เราหิวมาก อยากกินซังกยอบซัล~” 

    “เดี๋ยวพาไปกิน แต่ต้องคุยกันก่อน” ฮือ คุยกันยังไม่ถึงสิบประโยค ตกลงพาเขาไปแดกข้าวเย็นแล้วเรียบร้อย นี่คือความอัปยศอศสูของคนที่เป็นประธานชมรมบาสสองปีซ้อนตอนมัธยมใช่ไหม รุ่นน้องเคารพมากเลยนะ บางคนแม่งตัวใหญ่อย่างกับเสาไฟแต่ก็ยังเกรงใจ หรือดาเมจตาแป๋วไอ้ตัวเล็กนี่มันจะรุนแรงเกินไป หรือกูเป็นไบโพลาร์แล้ววะตอนนี้ อยากยิ้มมากแต่ก็โคตรเคืองมากๆๆ ด้วย

    “อะ คุย นั่ง” เรานั่งกันในห้องเล็กที่เชื่อมกับห้องล้างรูปอย่างหลอนๆ แอร์เพิ่งดับเสียงหงึ่งๆ โหวงๆ ยังดังอยู่ปลายหู คยองซูนั่งอยู่อีกฝั่งโต๊ะกลม รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องสอบปากคำเวลาที่นักโทษโดนตำรวจลากมาแล้วตบโต๊ะแรงๆ ขู่ว่าถ้าไม่สารภาพจะโดนทรมานตัดนิ้วถอดเหงือกอะไรก็ว่าไป ถามว่านักโทษคือเด็กนี่เหรอ อ่อ เปล่า กูเอง

    “กับนายอน เราเลิกเด็ดขาดแล้วจริงๆ ที่ยังติดต่อกันเพราะเราถามเรื่องเรียน แล้วช่วงนี้เขามาเยี่ยมญาติที่เกาหลีพอดีเลยแวะมา ที่ไม่ได้บอกเพราะเรายุ่งกะตัวโทมากเลยแล้วก็คิดว่ามันคงไม่ได้สำคัญอะไร”

    “ทำไมเราถึงคิดว่ามันไม่สำคัญ”

    “แฟนเก่าไงชานยอล “เก่า” คืออดีตไปแล้ว เราเจอเขารวมคุยกันยังไม่ถึง 20 นาทีเลย ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ต้องทำ” ชานยอลพิงพนักเก้าอี้ พยักหน้าน้อยๆ

    “แล้วถ้าเป็นแฟนเก่าพี่บ้าง จูบกัน casual เลย ไม่มีอะไร จบไปแล้ว บอกแบบนี้เราเชื่อไหม”

    “เชื่อสิ”

    “แล้วรู้สึกปกติธรรมดา ใจไม่กระตุก unaffected สบายใจเลยหรือเปล่า” สีหน้าคยองซูไม่เปลี่ยนไปเลย มีแค่คำตอบที่ชานยอลไม่ได้ในทันทีเหมือนสิบนาทีที่ผ่านมา เขาไม่ได้กดดันอะไร มองเอกสารมุมห้อง มองโทรศัพท์ มองโคมไฟอะไรไปถือซะว่าให้เวลาเด็กมันคิด แล้วก็ให้เวลาตัวเองเตรียมอกแตกตายไว้ด้วยถ้าคำตอบของคยองซูคือ ใช่ ธรรมดาเลย ถ้าเป็นงั้นสถานะเราก็ไม่ต้องเลื่อนไปไหนแล้ว ตลกร้ายเหมือนกันที่เรายังเบลอๆ อยู่แบบนี้ว่าระหว่างกันคืออะไร เพราะถ้าเลื่อนขึ้นไปแบบใช้สิทธิหวงได้เต็มที่ สุดท้ายหล่นลงมาจากหอคอยแม่งแย่กว่าเก่าอีก บางทีหัวใจล้มเหลวอยู่บนเส้นด้ายบางๆ นี่ก็ดีแล้วมั้ง หัวไม่แตก เลือดไม่ออกด้วย ชานยอลนั่งคิดสตอรี่บอร์ดในใจแล้วยิ้มแห้งออกมา

    “แฮปปี้เหรอที่ถามเราแบบนี้” 

    “หือ แฮปปี้อะไร?”

    “ชานยอลยิ้มทำไม” คราวนี้แหละสีหน้าคนตรงข้ามเริ่มเปลี่ยนแบบไม่รู้สาเหตุ อยู่ดีๆ ตึงเฉย คยองซูเริ่มเม้มปากซึ่งเป็นนิสัยเวลาตื่นตระหนก แล้วเขาก็ใบ้แดก เออ ละจะให้กูตอบอะไร อ๋อ พี่ยิ้มสมเพชตัวเอง งี้เหรอ มันไม่เท่มากกว่านี้ได้อีกเหรอ

    “ตอบคำถามมาเหอะ”

    “ไม่....” แล้วก็เงียบ ตึงเหี้ยๆ ครับตอนนี้ ละเป็น “ไม่” ที่ลุ้นที่สุดในชีวิตรอบสามเดือน เหมือนตอนขอถอนวิชาโหดระหว่างเทอมเพราะชีวิตจะพินาศ แต่อาจารย์ตอบว่า ‘ไม่’ F ก็เรื่องของมึง กับ ‘ไม่’ ที่ที่ฝึกงานที่หมายปองไว้บอกผ่านเมลอย่างไร้เมตตาว่าตำแหน่งมันเต็มแล้ว มึงไปสมัคร B.A.D ไปไอ้น้อง จนมาถึงตอนนี้ ก็คือเหงื่อแตกเต็มจักกะแร้แล้วครับไอ้ชิบหาย

    “ไม่ คือ?”

    “ไม่อยากตอบ” อะ กวนตีนกูอีก

    “คยองซู พี่ไม่ได้มาเล่นสงครามประสาทกับเรานะ เอาจริงๆ ก็เหนื่อยแล้ว ไม่อยากหึงอยากหวงให้รำคาญหรอกเพราะก็รำคาญตัวเองเหมือนกัน แต่พี่ว่าเราต้องชัดเจนกันแล้วว่ะว่าที่จีบๆ กันอยู่นี่สรุปเป็นแฟนกันยัง สิทธิไหนใช้ได้ไม่ได้บ้าง” เด็กนกฮูกเริ่มตาโตสมฉายา เผยอปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ก้มหน้าลงไปเหมือนเดิมเหมือนว่าคำตอบอาจทำให้โลกแตกได้ตอนนี้เลย ไงล่ะ คิดว่าพูดตรงได้คนเดียวรึไง กูก็หน้านิ่งพูดนิ่งได้เหมือนกันเว้ย เสียงแอร์แม่งก็ดังหงึ่งๆ บิ้วต์อยู่นั่นแหละ ปิดไปชาตินึงแล้วยังหนาวชิบหายอยู่เลย นึกว่าอยู่ในสงครามเย็น ห้องแม่งซีลด้วยความอ้างว้างเหรอสัด 


    “ใครเป็นคนตั้งกฎขึ้นมาว่าไม่เป็นแฟนแล้วห้ามทำนู่นทำนี่ ทำไมเราไม่สร้างกฎของเราขึ้นมาเอง เราทำให้ไม่ชัดเจนยังไงว่าหวงไม่ได้” เออ เอาดิ ใครสอนให้พูดจาน่ารักทั้งๆ ที่หน้าตึงขนาดนั้นวะ แทอู น้องมึงร้ายกาจขนาดนี้เลยเหรอถามจริง กูควรจองโรง’บาลไหมอะ exaggerate คำพูดคำจาเขาขนาดนี้อะ

    “ก็นี่ไง หวงอยู่แต่โดนหาว่างี่เง่าอีก แล้วทีนี้พี่จะเอาอะไรไปเถียง เพราะสถานะจริงๆ เลยคือรุ่นพี่ต่างคณะ เราไม่เคยตกลงกันเรื่องกฎของสองคนอะไรนั่นเลยนะครับ”

    “งั้นเรามาตกลงกันตอนนี้เลยตะเกียบ”

    “ตกลงว่าเป็นแฟนรึเปล่าก่อน ง่ายกว่า”

    “อย่ามาเนียน”

    “เราก็อย่ามาเนียน ที่ถามไปยังเฉไฉไม่ตอบเลย”

    “ก็ชานยอลไม่ทำแบบนั้นกับแฟนเก่าให้เราเห็นอยู่แล้ว” โอ้โห ได้เหรอ เหนือกฎหมายงี้เลยเหรอครับ นี่กูดีเบทภายใต้หัวข้ออะไรอยู่วะโดนเถียงกลับออกอ่าวแบบนี้อะ

    “เดี๋ยวนะ พี่เคืองที่เราไปจูบ casual กับแฟนเก่าแล้วยังต้องมาง้อเราที่นี่ แล้วต้องมาฟังว่าพี่ไม่มีสิทธิแม้จะทำแบบที่เราทำเหรอ อภิสิทธิชนไปไหมอะ” 

    “หรือไม่จริง ชานยอลไม่ทำหรอก” โดคยองซูตัวแทนเด็กเรียนเอกฟิล์ม คณะวารสารฯ น้องจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะครับ น้องตีกับพี่นอกประเด็นชิบหายอยู่นะครับจุดนี้ 

    “อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากเป็นแฟนกันก็บอกมา” อะ เล่นนอกเรื่องได้กูก็เอาบ้างอะ ออกมหาสมุทรแปซิฟิกทะลุทุ่งหญ้าทุนดราสะวันนาไปหาดัมเบิลดอร์ที่ฮอกวอตส์เลยกูก็พร้อม มาดิ ก็มาดิครับ

    “ชานยอล เราว่าคุยไม่รู้เรื่องแล้วนะ ไม่อยากถามคำนี้เลย แต่ไม่เชื่อใจกันเลยหรือไง” คือใจยวบไปแล้ว แต่บุญหัวหน่อยที่คยองซูพูดเรียบๆ ตาไม่ละห้อย เสียงไม่อ่อย ไม่นุ่มนิ่มคัพเค้กอะไรทั้งสิ้น เน้นคอนเทนต์วอร์มากๆ ดาเมจเลยเบาลง ชานยอลเลยยังพอตั้งคอตอบกลับได้บ้าง 

    “ถ้าไม่เชื่อจะมาหาเราในลุคเห่ยๆ นี้เหรอนกฮูก เรื่องความเชื่อใจกับความเสียใจมันคนละเรื่องกันนะ” คือเรื่องเชื่อใจไม่ต้องถามถึงแล้ว เท่าที่รู้จักมาหลายเดือนเขายังประเมินเป็นข้อต้นๆ ได้เลยว่าคยองซูเป็นคนตรงๆ เวลาทะเลาะกันไม่แบ๊วออกนอกเรื่องจนกว่าจะเคลียร์จบ (ซึ่งนี่เป็นเรื่องแรกที่เคลียร์ไม่จบ) ตัวเล็กนี่ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาจีบ แต่คยองซูมีวิธีการจัดการพวกเจ๋อเหล่านั้นด้วยวิธีการของนางมาร(ไม่ได้เว่อร์คับ นกฮูกน่ากลัวจริงคับ) จริงๆ ก็เป็นเรื่องเคมีทางความรู้สึกหน่อยๆ ด้วยที่ทำให้เขาพอจะมั่นใจได้ว่าตอนนี้เราทั้งคู่ไม่สนใจคนอื่น 

    “เราขอโทษไปแล้ว เราไม่ได้ชอบใครเลย”

    “นอกจากพี่?”

    “เออ”

    “แล้วถ้าพี่จูบกับแฟนเก่า แล้วขอโทษด้วยท่าทีเฉยๆ ชิวๆ แบบเราทำ โกรธปะ”

    “ไม่โกรธ”

    “แต่จะตัดหางปล่อยวัด ไลน์มาบอกว่าเลิกคุยกันแม่งไปเลย เอาซีดีเอาหนังสือทุกอย่างออกไปจากห้องพี่ หนักหน่อยอาจจะบล็อกเบอร์ไปเลย ถูกปะ”

    “...................” อะ คยองซู.jpg 

    “เข้าใจกันหน่อยดิว่าคนมันเสียใจ” 

    “..................”

    “มานี่มา” เห็นท่าแล้วว่าอีกฝั่งเริ่มห่อตัวเป็นเกี๊ยวกุ้งเลยจะช่วยให้การง้อของคนมีความพยายามง่ายขึ้นหน่อย อะ เปิดให้เนียนๆ แล้วช่วยง้องอนกูให้ลูฟี่คนนี้จิตใจนุ่มฟูขึ้นบ้างเถิดคุณชาย เหี่ยวเป็นใบชาน้ำสุดท้ายในกาแล้วครับ 

    คยองซูลุกออกมาจากโต๊ะผู้สอบสวนฝั่งตรงข้าม หยุดยืนอยู่ข้างๆ ค้อนนิดๆ ก่อนจะนั่งลงบนตัก พอหลุดสบถฟัคก็เลิกคิ้วใส่กูแบบร้ายๆ เลยครับ เหวอแดกไปดิ เอางี้เลยนะ เบอร์นี้เลย กอดคอ ดึงหูดึงผมเล่นไปอีก สนุกมากไหม สามขวบเหรอ แม่งเก้าอี้พลาสติกนี่ก็โงนเงนชิบหายเลยต้องจับเอวคนตัวเล็กไว้แน่น คยองซูเห็นถึงได้ขยับตัวเปลี่ยนท่า หันหน้าเข้าหาแล้วเอาขาคร่อม เด็กนกฮูก.jpg ดันเก้าอี้ไปนิดหน่อยจนชิดผนังแล้วเอามือท้าวไว้กับกำแพงเพื่อคานสมดุล อันนี้เหมือนคุ้นๆ ว่าต้องเป็นบทกู แต่ตอนนี้ตัวเกร็งเหมือนมีคนเอาคีมมาหนีบนิ้วตีนห้านิ้วแล้วครับ ใจบาปแบบจะท่องพุทโธยังไม่กล้าเลยเพราะกลัวศาสนาเขาเสื่อมเสีย

    “เกร็งทำไม ใช่ว่าไม่เคยใกล้ขนาดนี้”

    “แต่ไม่ใช่ในห้องคณะฯ เธอไงครับ พี่ยามชอบเดินมาเช็คนะถ้าเห็นเราจูบกันเดี๋ยวโดนหรอก”

    “ทำมาเรียกว่าเธอ”

    “สร้างกฎของเราสองคนที่บอกไง”

    “พี่ยามไม่เห็นนี่มุมอับ ตอนนี้เขาอยู่ชั้นล่าง” โห กูยอมเลย 

    “แล้วใครบอกเราจะจูบชานยอล”

    “ท่าขนาดนี้ตอนแรกนึกว่าจะโดนปล้ำแล้วครับ” 

    “ไม่ปล้ำที่นี่ครับ” อื้อหือ อยากวาร์ปเลยครับ คยองซูตาปรือ.gif อวาดา เคดาฟรา หัวใจกูแยกส่วนเป็นพิกเซ็ลในโฟโตช็อปแล้วไอ้เหี้ย 

    “ซน” นี่คือวิธีการง้อของน้องเขาเหรอ เอามือมาจิ้มเบาๆ ตามหน้าแล้วแกล้งปาดไปตามริมฝีปากเหมือนเวลาทาลิปมัน งี้งอนบ่อยๆ แล้วจะได้อะไรแบบนี้ใช่ไหม จะหาเรื่องทะเลาะมันทุกวันทุกวินาทีเลย หน้าเราใกล้กันนิดเดียวแต่ยังไม่มีใครจูบใครก่อนเหมือนกลัวแพ้ คยองซูเอาปลายจมูกมาปัดๆ ตามประสาคนขี้แกล้ง เล่นผมสีชมพูหลังท้ายทอยไปด้วย สองคนนั่งกันบนเก้าอี้แคบๆ ตัวเดียวมันเลยต้องขยับอยู่เรื่อย แล้วไอ้ทุกการขยับนี่โพสิชันเซ็กซี่จนเขาต้องเลียริมฝีปากอยู่หลายครั้ง และใช่ครับ บางครั้งมันก็โดนนิ้วของเด็กนี่ที่มาซนอยู่แถวปากเขานี่แหละ

    “เอาวิธีนี้มาง้อพี่เหรอ”

    “เปล่า คืนกำไรสู่สังคมเฉยๆ” 

    “อืมม นักบุญ เป็นคนใจดีนะครับ สังคมซาบซึ้งเลย งี้มาคืนกำไรแล้วจะจากไปแบบไร้สถานะอีกปะครับ”

    “เดี๋ยวไม่จูบเลย” ชานยอลสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตลายดอกพิโอนี เรียกเสียงเบาๆ ได้ เป็นเสียงตกใจเล็กๆ ไม่ใช่เสียงห้าม เขาจึงเล่นวนกับซี่โครงที่โผล่พ้นเนื้อมาบ้างใต้เนื้อผ้า เสียงอืออาที่ดังผ่านลำคอหอมที่จมูกเขาซุกอยู่นั้นบอกได้เลยว่าเจ้าตัวชอบนักล่ะ ไอ้ sexual tension ที่ขยันบ่มให้อีกฝ่ายตบะแตกจนต้องทำรอยไว้ตรงแนวไหปลาร้า มือเล็กซนๆ เลื้อยไปจับหน้าท้องกับกลุ่มผมของคนข้างล่างจนชานยอลหายใจถี่ขึ้น น้ำหนักมือก็แรงขึ้น ห้องเย็นแต่อุณหภูมิของคนที่ก่ายกันอยู่บนเก้าอี้ร้อนไปหมด

    นี่ขนาดยังไม่ได้จูบนะ

    “ถ้าจูบแล้วไม่ได้แฟนไม่ต้องจูบเลยครับ พี่ไม่จูบ” ปาร์คชานยอลหล่อมาก ได้มายากมาก แต่คือมึงพูดไปจูบซอกคอเขาไปแบบนี้มันน่าเชื่อถือมากมั้งชานยอล 

    “เล่นตัวมากนะครับคุณคนนี้” คยองซูแหงนคอให้ชานยอลจูบปัดถนัดขึ้น นึกถึงมวลอารมณ์แบบนี้ตอนเราดูหนังเรื่อง Never Let Me Go ด้วยกันในห้อง คือหนังดราม่าโศกหนักจัดแต่คนดูสองคนนัวกันในห้องมืดตั้งแต่กลางเรื่อง แสงไฟทึมๆ จากจอสกรีนคล้ายๆ กับไฟเหลืองใกล้จะพังในห้องเก็บเอกสารตอนนี้ มันทำให้เขาเห็นกันและกันในบางอวัยวะ บางเสี้ยว บางส่วน มาถึงตอนนี้คยองซูยอมรับแล้วก็ได้ว่ากลิ่นบุหรี่ที่ติดตัวอีกฝ่ายมามันทำให้รสของอากาศถูกปากขึ้น

    “ตะเกียบ”

    “อืมม ยุ่งอยู่”  

    “จะเอาจริงๆ ใช่ไหม สถานะแฟนบ้าบออะไรเนี่ย”

    “อือออ จะเอา” เขาอาจจะเมาไปแล้วในตอนนี้ ไหล่ แก้ม หลังคอ ใบหูมันกวักมือเรียกจมูกไปกดลงตรงนั้นหมดเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องมาตึงกันไปอยู่หลายวัน ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกันดีๆ วันนี้เลยเหมือนเขื่อนแตก อำนาจความน่ารักรุนแรงเหมือนประเทศมหาอำนาจพร้อมใจกันยิงระเบิดนิวเคลียร์ พอมาง้อหน้าซึนๆ ปากแข็งๆ แต่ยอมให้กอดให้หอมแล้วเขาแพ้เวอร์ชันนี้มาก มากจนไม่รู้ว่าอดใจไม่จูบมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง

    “ห้ามไปทำกับแฟนเก่าแบบนั้นนะครับ ห้ามจูบ” คนที่พูดไม่ใช่ชานยอลแต่เป็นคยองซู เด็กนกฮูกหยุดจูบคางเขาแล้วผละออกมาจ้องหน้าแบบจริงจัง เหมือนตอนนี้อยู่ในโลกเวทมนตร์ แบบขึ้นบันไดวนแล้วเปลี่ยนทิศให้ไปเรื่อยๆ ถ้าถึงเดิร์มสแตรงค์ได้ก็คงไม่แปลก คืองงไปหมดว่าแม่งมาเรื่องนี้ได้ยังไงนะตกลง

    “หะ พี่ไม่เคยทำเลยนะฮูก”

    “รู้ แต่เมื่อกี้ชานยอลพูดเหมือนจะประชดเราไปทำแบบนั้นจริงๆ หน้านิ่งมาก” 

    “ทำไม โดนถามย้อนจี้ใจดำอะดิเธอ” โดนค้อนแรงๆ หนึ่งทีก่อนที่ไอ้ตัวเล็กบนตักจะพยักหน้าเบาๆ เอามือเขาไปจับเล่นสักพักก่อนจะยกขึ้นไปแนบแก้มอุ่น

    “ขอโทษครับ” คนโดนอ้อนไม่ทันได้ตั้งตัวเลยได้แต่ยิ้มเอ็นดูไปหนึ่งที โดนเด็กนั่งทับมานานจนขาเริ่มจะชาๆ ชานยอลเลยคิดว่าเขาควรจะจูบคนตรงหน้าได้แล้ว จากนั้นเราจะได้วาร์ปกลับห้องแล้วก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติไป วันนี้เอามอไซ’มาเหมือนรู้ว่ามีงาน after fight party  ห้องนอนก็เพิ่งเปลี่ยนผ้าปูเลย เอาจริงตอนนี้จะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นแฟนไม่ใช่ประเด็นอะไรแล้ว 

    แต่คนที่ยังคิดช้าทำช้าก็ยังเป็นชานยอลอยู่ดี คยองซูค้อมตัวลงมาจูบพร้อมกับลากมือใหญ่ไปจับกับสะโพก กางเกงยีนส์ทรงบอยเฟรนด์ของน้องขาดๆ วิ่นๆ แถมบางมาก เขารู้เพราะมันเป็นตัวเดียวกับวัน Never Let Me Go นั่นเลย สองมือเล็กทำงานละเอียดอย่างเคย แตะสันกรามเขาบ้าง หน้าอกบ้าง แทรกผมเข้าไปกดให้จูบของเราฟุ้งบ้างจนมาหยุดอยู่ที่ขอบเสื้อ ริมฝีปากผละห่างกันครู่เดียวที่เสื้อยืดโปโตกัสเหี่ยวๆ ลงไปกองกับพื้น ชานยอลยื่นหน้าเข้ามาแต่คนตัวเล็กผละหนี ดวงตากวางนั้นสำรวจร่างนักกีฬาที่มีกล้ามเนื้อแบบลีนๆ กับกางเกงยีนส์เอวต่ำแล้วกระพริบตาช้าๆ ที่ชานยอลเสียวท้องน้อยวูบใหญ่ก็ไอ้ตรงที่น้องมันค่อยๆ ถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองทีละเม็ดๆ จนผิวสะอาดนั้นอยู่ใกล้สายตาแค่ไม่กี่มิล

    “อืออ เราชอบลุค shirtless  กับกางเกงยีนส์แบบนี้” แล้วต้องมาพูดพร้อมเอาหน้าซุกอกอ้อนตอนนี้ด้วยนะ รู้ไหมว่าเขากำลังจะตายแล้ว มานาหมดแล้วครับ

    “แต่พี่ชอบเธอแบบ naked มากกว่า” โดนกัดปากเลย นี่ไม่ใช่การทำโทษนะครับคยองซูพี่พูดเลย

    “เราทำในนี้ไม่ได้ใช่ไหมครับ” ถ้าอยากได้ลูกผู้ชายต้องขอตรงๆ แม่สอนมา เล่นยั่วยับขนาดนี้จะให้เอาสี่เอาแปดที่ไหนไปทนล่ะครับน้อง ลมหายใจม้วนเข้าหากันใกล้ๆ หยุดจูบก็หยุดไม่ได้ พอปากห่างกันก็ต้องมีใครสักคนสอดลิ้นเข้าไปใหม่ อารมณ์มันปั่นมาจนชานยอลคิดว่าห้องเอกสารนี้มันมีใครแอบพี้กัญชา ภาพตรงหน้ามันเลยเบลอๆ เหมือนมีควันลอยว่อนอยู่ตามตัวคยองซู เสื้อเชิ้ตที่ร่นลงไปกองอยู่ตรงข้อศอกก็เกินจะเยียวยาแล้ว

    “อืออ ไม่ได้ครับเธอ ชานยอลไม่ไหวแล้วเหรอ” เอาตาใสๆ ขึ้นมามองกันแปปเดียวก็หันไปจูบเล็กจูบน้อยต่อ เดี๋ยว มันจะมากไปแล้วนะเด็กนกฮูก ไปเรียนอะไรแบบนี้มาจากไหนวะ หนังฟิล์มนัวร์เหรอ เออ ก็นัวจริงอะ อาร์ตมากจนอยากเห็นท่าอื่น เสียงร้องอื่น สีหน้าอื่นที่มันชื้นเหงื่อกว่านี้

    “ยั่วจังเลยวันนี้ ง้อพี่ขนาดนี้อยากได้อะไรครับ”

    “อยากทำ....ตอนแรกเราแค่อยากจูบเฉยๆ เพราะชานยอลงอนแรงอะ” โอเค พอกันที กูโดน solo kill เรียบร้อย ก่อนที่เขาจะอุ้มเด็กนี่นัวกันลงไปเสิร์ฟ NC ใส่พี่ยามเราควรตกลงกันว่าอยากรักกันที่ไหน จริงๆ ที่นี่เลยก็ได้ ลองย้ายไปห้องมืดดู

    “หายหมดแล้ว ตั้งแต่ทำคิสมาร์คแล้วครับ”

    “ทำแต่ที่คอเต็มไปหมดเลย”

    “จะให้พี่ทำที่อื่นด้วยได้ไง กางเกงคับจะแย่แล้ว”

    “แต่เราอยู่ชั้นเจ็ดนะครับ” เขาเผยยิ้มเจ้าเล่ห์

    “งั้นสรุปเราทำในนี้ได้ไหมครับ” กะพริบตาปริบๆ พร้อมกับบ่นงุบงิบอะไรอยู่คนเดียว ใบหน้าเล็กแนบเข้ามาบอกเบาๆ ว่า ‘แต่เราร้องดัง’ เท่านั้นแหละเหมือนกดรีโมทระเบิด เขาอุ้มน้องเข้าเอว เปิดประตูที่เชื่อมเข้าไว้กับห้องล้างฟิล์ม พอเปิดไฟแล้วเป็นแสงสีแดง เราเลยเหมือนโฮโลแกรมที่กำลังกอดฟัดกันอยู่กันในโปรแกรมต่างดาว ไหนจะคนตรงหน้าที่บ่น 18+ กับตัวเองเสียงเครียดเหมือนท่องโน้ตเข้าห้องสอบแต่ได้ยินมาถึงหูเขาทุกประโยค

    ‘ชานยอลอย่าลืมถุงยาง’ บ้าง ‘เอาเดเวลอปเปอร์ตรงซิงก์ออกก่อนนะครับเดี๋ยวมันหก’ บ้าง ‘รีบทำนะ ถ้าไม่พอต้องต่อที่บ้านแล้วนะครับ’ บ้าง ‘What would we do if we smell sex after doing this?’ ประโยคสุดท้ายคือเอาจริงดิคยองซู จะฮอตกว่าตอนทำที่ห้องขนาดนี้ไม่ได้นะครับ ด้านล่างนี่ลุกฮือไปหมด เรียนเขียน copy โฆษณาดูเร็กซ์ที่ลีโอเบอร์เน็ตมาเปล่าวะเนี่ย


    (cut) 


    ต่างคนต่างไล้หน้าตากันไปเรื่อยๆ ยังไม่มีใครส่งเสียงอะไรนอกจากนั้น ชานยอลหยิบรูปจากไม้หนีบออกมา รูปแรกที่ถ่ายที่สนามบาสและเขาได้กินแซนวิชหมูทอดหอมใหญ่ที่คนๆ นี้ทำเป็นครั้งแรก 

    “พี่หิวมากเลยเธอวันนั้น” คยองซูย่นจมูก

    “มันอร่อยจริงหรือเธอแกล้งชมเราเพราะจะจีบ” ชานยอลหัวเราะ กัดหัวไหล่ไปเสียทีหนึ่ง

    “หลงตัวเองไปปะ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดจะจีบอะไรทั้งนั้นครับ”

    “แต่คิดว่าน่ารัก”

    “หยุดมองเลย เราไม่ได้ทึกทักเอง พี่แทอูบอก” แทอู ถ้ามันรู้ว่าจับลูกเขามายำปากยำตัวในห้องเรียนนี่เขาจะโดนมันยำตีนไหมวะ แต่เออ กูก็ไม่ได้เริ่มซะหน่อย คนเริ่มนั่งมองกันปากยื่นอยู่ตรงหน้านี่ต่างหาก

    “อือ ก็น่ารัก” แล้วตอนนี้ก็คือโคตรน่ารัก เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าต้องเขินกับความฮอตที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ น้องเลยผลักอกเขาเบาๆ เพื่อถอดอะไหล่ที่สอดใส่ของกันและกันออก

    “วันนั้นขอขึ้นห้องเลยว่ะ อย่างดุ” 

    “ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย ชานยอลอย่ามั่ว ตอนนั้นแค่อยากทำงานให้มันเสร็จๆ ไป”

    “อือ ก็เสร็จจริงอะ เสร็จกันทั้งหมดตรงนี้เลย” โดนตบบ้องหูไปเลยทีนึง ใครจะคิดว่าโปรเจ็กต์ Yourniverse มันจะแนบแน่นได้ขนาดนี้ล่ะครับน้อง นี่ท่อนล่างยังปวดอยู่เลยเนี่ย

    “พี่ชอบตอนเธอถ่ายที่ Ghetto มาก silhouette สวยทุกรูป แบบพี่ซิ่วมาดูยังเม้นอะว่าแสงร้านกูมันดีขนาดนี้หรือคยองซูมันเก่งวะ เลยตอบไปว่าเธอเก่ง พี่ซิ่วเบ้ปากเดินหนีเลยว่ะ”

    “ก็ขี้เว่อร์จริงอะ แสงสวยอยู่แล้วเหอะ” คยองซูเดินไปหยิบรูปที่มุมขวาห้องออกมา เป็นรูปชานยอลสะบัดผมพร้อมกีต้าร์อยู่ในร้าน จำได้ว่าวันนั้นคนมาดูเยอะมากเพราะเล่นเป็นวงเปิดให้ offonoff สมัยยังไม่ดังเปรี้ยงปร้างเท่านี้

    “หือ นี่ทุกรูปยังแขวนอยู่เลยเหรอ ตั้งแต่เดือนแรกๆ อะนะ”

    “ส่วนใหญ่นะ รูปที่เลือกจะลองล้างไว้หลายๆ แบบเลยครับ บางอันก็ใช้ dodging อารมณ์ภาพก็จะเปลี่ยนไป แต่มองในนี้ไม่เห็นอะ” ชานยอลมองน้องจากเสี้ยวหน้าด้านข้างเพราะกอดซ้อนหลังกันอยู่ ริมฝีปากเล็กพยายามจะอธิบายว่าเทคนิค dodging กับ burning มันต่างกันยังไงด้วยศัพท์แสงมากมาย ยอมรับก็ได้ว่าไม่ได้ฟังเลยเพราะฝันอยู่ มันเป็นสถานการณ์ที่เราทำรักกันเสร็จก็มานั่งพลอดรักดูความทรงจำกันต่อในห้องล้างฟิล์มเซอร์เรียลนี่ ยูโทเปียชิบหายเลย 

    “นี่ก็ได้มองหน้าพี่หลายๆ ครั้งต่อวันเลยดิ”

    “ไม่อยากจะมองเหอะ มันงานเราไงเธอ” 

    “อือ งานแฟนก็เหมือนงานเราแหละเนอะ” แทนที่จะได้ยินเสียงประท้วงกลับเป็นความเงียบ ชานยอลหันขวับไปมองคยองซูที่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ทำเป็นหยิบรูปนู้นรูปนี้มาอธิบายงึมงำว่าถ่ายยากยังไงบ้าง

    “หือ ยังไงครับฮูก ไม่ปฏิเสธพี่ถือว่า in a relationship แล้วนะ กลับบ้านไปต้องไปเปลี่ยนเอาอี complicated ออกเลยนะ” 

    “ให้แท็กชื่อด้วยเลยไหมอะ”

    “อ้าว ได้เหรอ เดี๋ยวไปเอาไอโฟนแป๊ป”

    “ไอ้บ้า” เสียงหัวเราะสดชื่นดังขึ้น คยองซูไล่ให้เสาไฟฟ้าที่กำลังหอมไหล่เขาอยู่ไปแต่งตัวเพราะมันเริ่มจะดึกและพี่ยามก็ได้เวลาโชว์ตัวแล้ว เดี๋ยวได้ชิบหายกันหมดนี่ เสียงคลิกของกล้องยังต่อเนื่องจนงงว่านี่มันกล้องกี่แสนกี่หมื่นกันตั้งเวลาถ่ายอะไรได้นานขนาดนี้ เด็กเอกฟิล์มตัวเล็กเลยเดินไปปลดกล้องลงมาจากขาตั้ง หันมาข้างๆ ชานยอลเลยเห็นว่าอ๋อ ไม่ใช่หรอก มันมีรีโมทอยู่ คยองซูจะความสามารถเหนือจริงอะไรขนาดนั้น เมียดุขนาดมีเซ็กส์ไปด้วยหยิบรีโมทมากดไปด้วยได้ไงวะ จะเนิร์ดทุกเรื่องยันเรื่องบนเตียงงี้เลยนะ

    “ไหน ดูรูปบ้างดิ” คยองซูรีบเอี้ยวกล้องหลบ

    “ไม่ ห้ามดูที่นี่เลยนะ ....ค่อยกลับไปดูที่บ้าน” ดูที่นี่เดี๋ยวก็ได้เริ่มอะไรประหลาดๆ อีกรอบ จริงๆ คยองซูก็กดชัตเตอร์ไปมั่วๆ ไม่สนคอมโปอะไรใดๆ ทั้งนั้น สติเหลือก้นถ้วยมากไหมล่ะ แค่ย้อนกลับไปคิดเขาก็อายจนอยากจะถามตัวเองเมื่อสี่สิบนาทีแล้วซักร้อยที ว่าทำไมตัดสินใจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอะไรขนาดนี้ นี่ห้องเรียนนะ แล้วต่อไปนี้เขาจะมาล้างรูปในห้องด้วยความรู้สึกแบบไหนกัน

    “คงต้องปริ้นท์อย่างเดียวละเนอะ ไปร้านอัดรูปนี่น่าจะแบบ....”

    “คอมมอนเซนส์มั้ยชานยอล ใครจะไปอัด แล้วจะปริ้นท์เพื่อ” 

    “เอ้า รูปเยสกะเธอมันช่วยได้นะตอนเรางานยุ่งๆ ไม่ว่างกันอะ sexphone ก็ไม่ได้ ที่ผ่านมาใช้คลิปบอกฝันดีตลอดเลยมันช้า นี่ก็แค่เอารูปเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็.....”

    “หยุด!!”

    “ฮ่าๆๆๆ น่ารักว่ะ” ยีผมยุ่งๆ ของน้องมันไปทีสองที แล้วเก็บข้าวของ จัดเรียงเดเวลอปเปอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ ให้เรียบร้อย คยองซูนอยด์จัดจนเปิดประตูออกไปเอาน้ำหอมในเป้ออกมาฉีดไปทั่วห้อง มันจะยิ่งน่าสงสัยไหมเนี่ย จากที่กลิ่นมันยังระบุแน่ชัดไม่ได้ฉีดน้ำหอมไปเยอะขนาดนี้คนก็สงสัยหนักแล้วไหมว่าใครมาฉีดกลบกลิ่น 

    “พอแล้วเธอ คนจะเสือกต่อเพราะกลิ่นมันแรงขนาดนี้นี่แหละ”

    “ก็ยังดีว่ากลิ่นอื่นแล้วกัน เราต้องมาเรียนที่นี่อีกเป็นปีนะ” 

    “โห แล้วเธอจะยังไงอะ ทนได้ไม่ได้เวลาใช้โต๊ะใช้ซิงก์อะ โอ้ย” โดนหยิกเนื้อแบบไม่ปรานี พอเป็นแฟนแล้วลงมือลงเท้าหนักจังเนาะ

    “เราจะกด mute นาย หยุดพูดเดี๋ยวนี้”

    “นี่คำถามเชิงวิเคราะห์นะครับนักศึกษา คิดดู ถึงห้องไม่ smell sex แต่ตอนนี้เราแบบ smell xing sex เลยอะเธอ” คราวนี้โดนโบกกระหม่อมไปเลยเต็มๆ 

    “เอะอะใช้กำลังนะเรา อะๆ ไม่ล้อแล้ว หิวยังครับ ไปกินหมูกัน” 

    “อื้ออ หิววว ร้านลุงหลังม.จะปิดยังอะตอนนี้”  เปลี่ยนเวอร์ชันเป็นมาร์ชเมลโลอย่างเร็วครับ ตะกี้ยังเป็นพริกแซ่บๆ ฮอตๆ อยู่เลยเว้ย

    “แว๊นไปอาจจะทัน อะ เก็บหลักฐานเรียบร้อยยังครับนักสืบจิ๋ว”

    “ชานยอลเก็บถุงยางไปยัง” น่าเอ็นดูและกร้านโลกไปพร้อมๆ กันได้ยังไงวะเด็กนี่ กูจะเป็นบ้าแล้วนะครับ

    “แล้ว”

    “พวกผ้าที่เช็ดคราบล่ะ”

    “แล้วครับ ทิชชู่ยังเก็บเลยเนี่ย”

    “โอเค แป๊ปๆ” หายเข้าไปในห้องล้างฟิล์มอีกรอบอยู่นานสองนาน คยองซูก็โผล่หน้าออกมายิ้มบอกว่าเช็คดีแล้วไม่มีอะไร มองหน้ากันอบอุ่นใจสักพัก จุ๊บสักหน่อยก็ค่อยปิดไฟเดินออกไปจากห้อง ตึกวารสารฯ ตอนดึกนี่หลอนชิบหาย กระจกเต็มไปหมด มุมอับก็เยอะเกิ๊น เออ พูดไปก็เหมือนทำเวรเลยเนอะ เก็บงานละเอียดมากๆ ปัดกวาดเช็ดถูกันยันห้องล้างฟิล์ม เจอหน้าพี่ยามแล้วบอกว่าไรดี ทำไมขึ้นมานานจัง 

    สงสัยกูต้องงัดออสการ์สาขานำชายออกมาแล้วโชว์แล้วมั้งแทอู





    “เธอ ต่อที่ห้องอีกนะ ฉลองสเตตัสแฟน”

    “mute!”





    End






    NC ครั้งแรกในชีวิต ยากมากโว้ยจ้า คำนวณ geometry ในหัวหนักมาก ใครอยากบอกอะไรฮอบไปได้ในแท็ก #yourniverse ฮะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×