ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my Doctor? or You're my Love.::ชิ่งหัวใจคุณหมอที่รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : Love to Change : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 53


    Intro

     

    ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~*~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~*

                แม่!!!.....ไนท์จะจีบหมอ

                ทันที ที่หญิงสาวลงจากรถและมองเห็นแม่ที่นั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน   คำพูด ที่เอ่ยออกไปเรียกรอยยิ้มให้เกิดขึ้นจากคนทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ ที่เพิ่งออกมาจากครัว และน้องสาวที่เอารถไปจอดในที่ของมัน

                คิดดีแล้วหรือ?  เสียงของพ่อ พูดขึ้น  เมื่อได้ยินคำคำนั้น แล้วหมอคนไหนล่ะที่จะเป็นผู้โชคร้ายคนนั้น ฮ่าๆ  เสียงหัวเราะอย่างชอบใจพร้อมกับคำพูดที่เสียดแทงหัวใจลูกสาวคนโต  เดินกลับเข้าไปภายในครัวที่อยู่ด้านหลังบ้านเพื่อทำกับข้าวต่อ

                แม่จำหมอคนนั้นได้ไหม? คนที่เขาดูแลมิ้นตอนอยู่โรงพยาบาลเมื่อครั้งนอนรักษาตัว ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ช่วงปลายปีที่แล้วไงค่ะ  เสียงลูกสาวคนเล็ก ดังเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึง เปลที่ผูกไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นร่มกันแดดให้กับแคร่ไม้ 

               

    ....................................

     

    เรื่องทั้งหมดมันจะไม่เกิดขึ้น 

     

     

    ถ้าวันนั้นเราไม่เจอกัน

     

    .

     

    .

     

    .

     

    เย็นวันเสาร์ ช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มตั้งเค้าว่าจะมีฝนให้ตกลงมาในเร็วๆนี้ ก้อนเมฆก่อตัวสีดำทะมึน เสียงร้องยังครวญครางไม่ขาดสาย  ผสานเสียงรถที่วิ่งวุ่นกันให้ขวักไขว่

     

    บอกหน่อยสิ ใครว่าบ้านนอกอย่างนี้รถไม่เยอะ....เชื่อเหอะว่าคิดผิด

     

    นี่ ตกลงเราจะไปหาหมอกันไหม? เสียงของคนที่ทำหน้าที่เป็นคนขับ อยู่ข้างหน้าถามขึ้น ขณะที่มือกำลังกดสตาร์ทเจ้าพู่ รถมอเตอร์ไซต์ ระบบเกียร์อัตโนมัติคู่ใจ

     

    ก็แล้วแต่สิ  ยังไงก็ได้ ...พี่ไม่ใช่คนเจ็บนี่ จะว่าไปฉันก็พูดถูกนะ ฉันไม่เจ็บ จะไปหรือไม่ไป มันก็ ไม่สำคัญสำหรับฉันสักเท่าไหร่ ก็เพราะคนที่เจ็บ ก็คือคนที่ทำหน้าที่ขับรถให้ฉันนั่งสบายใจอยู่นี่แหล่ะ

     

    อืม....แต่นี่ คลินิกปิดหมดเลย.... จะกลับบ้านเลยไหม? ฟ้าก็ดูเหมือนจะมีฝนตกด้วยสิ

    เสียงของคนที่ได้ชื่อว่าคนเจ็บเอ่ยพูดมาอีกครั้ง ก็ใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่อยากเข้าไปพบหมอเพื่อตรวจอาการที่โดนเจ้าตัวต่อนั่นต่อยเอาสักเท่าไหร่นัก  แต่เป็นเพราะ เราหาคลินิกที่จะเข้าไปพบไม่ได้ต่างหาก  คลินิกที่มาใช้บริการประจำ ก็ปิดหมดทุกแห่ง  แล้วยิ่งกับคนที่เพิ่งจะกลับมาอยู่บ้านได้แค่ไม่กี่เดือนอย่างฉัน ยิ่งแล้วใหญ่ นอกจาก สองที่ ที่วนไปดูนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะมีที่อื่นให้เข้าไปอีกเลย นอกจาก โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้ๆบ้านเท่านั้น

     

    แต่ คลินิกไม่เปิดนี่นา แล้วจะไปไหนหล่ะ  นี่ถ้าปวดมากก็ให้พี่ขับรถเองก็ได้นะ

                ฉันสะกิดให้ ยายมิ้น หรือธารานิล นารารักษ์  น้องสาวให้จอดรถเพื่อที่จะได้เปลี่ยนไปเป็นคนขับรถให้กับคนเจ็บแทน  แต่  แม่น้องสาวของฉันกลับไม่ยอมจอดรถ   เหตุผลที่ได้ยินมันฟังไม่ค่อยขึ้นเลยสักนิด   นานๆจะได้ขับเจ้าพู่ที เจ็บแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกน่า  คำพูดก่อนที่เราจะออกมาจากบ้านกัน

     

                เออใช่.....นี่ๆมีคลินิกเปิดใหม่แถวๆโรงพยาบาล  เราไปที่นั่นก็ได้ จู่ๆ ก็เหมือนว่าเธอจะเพิ่งนึกถึงอะไรบางอย่างได้  เป็นช่วงเวลาเดียวกับรถที่ขับมาถึงซอยทางเข้า  รถจึงเลี้ยวเข้าไปทันที

                มีด้วยหรอ?? เข้ามา ตั้งนานแล้วยังไม่เห็นมีเลย

                มีสิ...อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว หมอหล่อนะ...ใจดีด้วย เสียงกระดี๊กระด๊า ไม่เหมือนกับว่ากำลังจะไปหาหมอ เพื่อรักษาอาการเจ็บและปวดที่ต้นขาด้วยซ้ำ แต่ก็ยังดี ที่บริเวณที่โดนตัวต่อต่อยนั่นจะอยู่เหนือเข่าไปไม่มากนัก   ไม่ใช่ที่ต้นขาช่วงบน แต่บริเวณนั้นก็เป็นเนื้ออ่อน  จึงทำให้มีอาการปวด

     

                แล้วไม่นาน เจ้าพู่รถคู่ใจก็มาจอดอยู่ที่ป้ายคลินิกที่ชื่อว่า คลินิกหมอคฑาภัทร 

    ดูจากชื่อแล้ว  หมอหล่อของยายน้องสาวคนนี้คงจะดูดีไม่น้อยเลย 

     

                ฉันได้แต่ เดินตามน้องสาวเข้าไปข้างในคลินิก ที่ตอนนี้คน ไม่มากเท่าไหร่  มีทักทายคนรู้จัก ที่มาหาหมอ บ้างนิดหน่อย  ก็ได้แต่ส่งยิ้มไปเรื่อย ตามประสาคนที่อัธยาศัยดี แล้วก็พาตัวเองไปนั่งอยู่ ตรงที่นั่ง ตรงข้ามกับคิวที่นั่งคนไข้ มุมที่คิดว่าจะสามารถ ใช้สายตาในการ สอดส่องดู ผู้ที่อยู่ในห้องตรวจ ได้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้กลับเห็นแค่ด้านหลังเท่านั้นเอง  ส่วนหนูมิ้น ก็ไปนั่งอยู่ที่นั่งคิวคนไข้  สักพัก พี่สาวคนหนึ่ง  (คาดว่าน่ะ  เพราะเห็นเด็กตัวเล็ก เรียกว่าแม่) ก็เรียกเข้าไปตรงที่นั่ง ซักประวัติ  เห็นมีการถามนั่นโน่นนี่  สักพัก  หนูมิ้น ก็ออกมานั่งอยู่ที่เดิม เพื่อรอ การเข้าไปพบแพทย์  หรือ ที่ใครๆเรียกกันว่า หมอพีช

                ฉันได้แต่นั่งรอ แล้วก็เดินออกไปข้างนอกบ้าง เพื่อมองดูมุม ของตึกห้องแถวที่นำมาปรับเปลี่ยนเป็นคลินิกสถานพยาบาล  จากตำแหน่งงานของฉัน ทำให้ พอมีความรู้ เกี่ยวกับ เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง  เท่าที่ดูแล้ว ตัวตึก เป็นห้องแถว ที่น่าจะเพิ่งทำการก่อสร้างใหม่  เพราะยังสะอาด และมีความคงทนอยู่มาก  มีป้ายชื่อ ที่สามารถ มองเห็นได้ไกล และคงทน มีป้ายที่ได้รับการอนุญาตให้มีการเปิดให้บริการได้ โดยผู้ที่ได้รับอนญาติ มีชื่อ ของ นพ.คฑาภัทร  เจริญรักษ์ษา  

    การจัดวางมุมอุปกรณ์ ดูๆแล้ว ก็น่าจะเป็น คลินิกที่เพิ่งเปิดใหม่ ได้ไม่นาน  ซึ่งมันก็น่าจะจริง  เพราะหนูมิ้นบอกว่า คลินิกหมอหล่อ แห่งนี้เพิ่งมาเปิด เมื่อปีที่แล้วนี่เอง และตอนนั้น...ฉันก็ยังเรียน ไม่จบซะด้วยสิ

     

                คนต่อไปเข้ามาได้เลยครับ เสียงของคน ที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของหมอ พูดขึ้น เมื่อประตูห้องตรวจเปิดออก 

               

                แล้วฉันก็ได้เจอกับใครคนหนึ่ง  คนที่ฉันคิดว่า ไม่น่าจะมี  ...คนที่ทำให้หัวใจฉันมันเต้นแปลกๆ ... ใบหน้า รูปเรียวรับเข้ากับทรงผม ที่ปล่อยให้ยาวลงมาเล็กน้อย  สไตล์เกาหลี ที่ฮิตๆ อยู่ตอนนี้ คิ้วได้รูป ดวงตาใต้กรอบแว่นใสที่มองยังไง ก็สะดุดใจของ สายน้ำยามค่ำคืน อย่างฉันไปเต็มๆ ยิ่งผิวขาว คล้ายอย่างหมอ ทั่วๆไปที่ส่วนมากจะขาว(สังเกตุกันไหม?ว่า ส่วนมากหมอจะขาวกันทุกคน...น่าแปลกเนอะ)  ทุกๆอย่างของผู้ชายคนนี้ ที่อยู่ตรงหน้าฉัน คนที่กำลังส่งยิ้มให้กับหนูมิ้น
    "ฉันก็อยากได้รอยยิ้มแบบนั้นเหมือนกันนะ" 
    ก็ได้แค่คิด และต่อว่าในใจคนเดียว

     

    ทุกๆอย่างที่รวมเป็นเขาคนนั้น ทำให้หัวใจของฉัน มันไม่เป็นของตัวเองนับตั้งแต่นั้นมา

     

                แล้วประตูห้องนั่นก็ปิดลง หลังจากที่น้องสาวตัวดีหันมายิ้มที่มุมปาก ให้กับคนที่กำลัง ยืนเหม่อ อย่างฉัน

     

                แบบนี้เข้าเรียกว่ารักแรกพบหรือเปล่า  โธ่... ทำไม หัวใจ มันเต้น ไม่ยอมหยุดสักทีนะ

                แล้วรอยยิ้ม กับความคิดของฉันก็เกิดขึ้น  เมื่อนึกไปถึงป้าย ที่ตั้งไว้ที่หน้าคลิคิก....เกี่ยวกับบริการที่จะมีให้.... "รับปรึกษา สารพัดปัญหา  ฮ่าๆ  จะว่าไป ข้อความแบบนี้ มันไม่ผ่านเกณฑ์ การตั้งคลินิกเลยสักนิด  แต่เอาเถอะ ฉันจะถือซ่ะว่า ฉันไม่เคยเห็นก็แล้วกัน     และ....เจ้าของคลินิกแห่งนี้ อาจต้องมีบางอย่างมาแปลกเปลี่ยนกันสักหน่อยละนะ ....

     

                หลายคนอาจสงสัย ว่าฉันเป็นใคร  ทำไม ถึง.....

     

                ผู้หญิงคนนี้เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่ง  ที่ทำงานในวงการที่ไม่แตกต่างไปจากหมอนัก  แต่งานของฉันไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล และ ไม่ได้ให้บริการด้านสุขภาพอย่างหมอหรือพยาบาล ฉันทำงานในหน่วยงานที่เป็นส่วนประสานงาน ทางด้านสุขภาพ  เป็นที่ๆคอยออกประเมินและติดตามดูสถานที่ที่ให้บริการทางสุขภาพ ว่ามีมาตรฐานมากน้อยเพียงใด  แล้ว สถานที่จำพวกนี้ จะอยู่ต่อไป หรือปิดลงก็ขึ้นอยู่กับพวกเราที่ว่าจะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน  เป็นหน่วยงานที่น้อยคนนักจะรู้จัก

               

    .......................................

     

                พี่... พี่ไนท์....พี่นายยยยยยยยยยยยยย เสียงที่ดังเหมือนเกือบตะโกนของธารานิล เรียกให้ฉัน ที่นั่งเพลิน (แน่นอนว่าสายตา จับจ้องอยู่ที่เดียว...) ให้รีบไปขึ้นรถ... เพราะดูเหมือนว่า บรรยากาศข้างนอกเริ่มค่ำแล้ว

                เอ๊ะ...เอ๋?? ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันรีบละสายตา จากคนที่ทำให้ใจฉันเต้นเร็วไม่ยอมหยุด หันมาคุยกับน้องสาว ที่ออกมารออยู่ด้านหน้า

                ก็ออกมา  เมื่อกี้ไง...อะไร ก็เห็นว่ามองดูอยู่นี่  อย่าบอกว่า ไม่เห็นน้องออกมานะ สายตายียวน พร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยนัยบางอย่างของน้องสาว มันชวนให้ฉันได้รู้สึกแปลกๆจริงๆ สายตา ที่กำลังจับจ้องไปที่ คุณหมอ คนนั้น  พร้อมกับรอยยิ้มแบบนี้ ไม่อยากจะคิดอะให้มากไปกว่านี้เลย...

                มะ..ไม่อ่ะ  ไม่ได้มอง  ก็ได้แต่ยิ้มแก้เขิน...  แล้วนี่ได้ยาอะไรมาบ้าง ไหนเอามาดูหน่อยสิ  ทำเป็นเรื่องไปซ่ะงั้น

                เป็นไงหมอหล่อ... ถูกใจละสิสายตาของคนที่พูดไม่ได้หันมามองหน้าพี่สาวเลยสักนิด เหมือนว่าคนที่อายุน้อยว่าจะจับทิศทางรู้ทันอยู่ตลอด ไม่ให้โอกาสที่มีต้องหลุดลอย วกกลับมาเข้าเรื่องเดิม

                ก็ไม่ได้ อะไรมากมายสักเท่าไหร่หรอกนะ  ....ไปเถอะน่า กลับบ้านกันเถอะ ป่านนี้ แม่เป็นห่วงแย่แล้ว 

                ไม่ต้องมาเฉไฉน่า...ตอบมาเถอะ   ว่าหมอคนนี้อ่ะ  ถูกใจ

    ก็บอกว่าไม่ไง.....นี่ รีบๆออกรถไปเถอะน่า 

    ตอนนี้เราทั้งคู่ก็มานั่ง ที่รถแล้ว  และหนูมิ้นก็ยังคงเป็นคนขับเหมือนเดิม... แต่คราวนี้เราสองคน ไม่ได้สวมหมวกกันน๊อค เพราะ ตลอดทางกลับบ้าน คงมีเรื่องที่ต้องได้พูดกันอีกยาว

     

    แล้วมันก็เป็นจริง  เพราะยัยน้องสาว ทั้งซัก  ทั้งสาธยายเรื่องของ หมอหล่อ คนนั้น ไม่ยอมหยุด...แล้วที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ...หัวใจเจ้ากรรมของฉันนี่มันก็เต้นรัว ไม่ยอมหยุด เพราะแค่ชื่อของเขาคนนั้น เพียงคนเดียว....

     

    ..............................

     ตอนนี้เวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว ฉันได้แต่นอนมองกลุ่มดาว ซึ่งกำลังแต่งแต้มเต็มท้องฟ้า ที่ระเบียงชานด้านหลังบ้านชั้นสอง ไม่คิดที่จะเข้าไปนอน สายลมเอื่อยๆ ยังคงพัดผ่านให้ความเย็น บรรยากาศสบายๆแบบนี้ มันน่าจะทำให้ฉันนอนหลับได้ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องใช้ แอร์หรือ พัดลม เลยด้วยซ้ำ แต่....บางอย่างที่อยู่ในความคิด ของฉันมันกำลังตบตีกัน ทำให้วันนี้ฉันต้องเข้านอนช้ากว่าปกติไปสักนิด

     

    เพราะถ้าเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่พูดอะไรบ้าๆออกไปมันก็ดีอยู่หรอก

     

                หญิงสาว ท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านดวงที่ขับแข่งทอแสงระยับ แต่งแต้มให้คำคืนเดือนมืดได้สว่างไสว  สายลมเหนือที่พัดผ่าน หอบไอเย็นในห้วงแห่งฤดูหนาวได้เข้ามาห้อมล้อม  พริ้วเส้นสลวยไปตามแรงลม... ค่ำคืนที่แสนหวานกำลังโอบล้อมความรู้สึกฃองใครคนหนึ่งได้เปลี่ยนแปลงไป....

     

                จากความหวาน กำลังจะพุ่งทะยานกลายไปเป็นใครอีกคน

                ที่ยอมเปลี่ยนทุกสิ่งเพื่อให้ได้มา....ซึ่งความรัก......

     

               

     

               

     

     

     

    2 b con ….

     

     

     

    รู้ตัวว่า ช่วงแรก ลักษณะการเขียนยังดูแปลกๆไปบ้าง แต่ก็แก้ไม่ได้สักที

    ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ

    Re#_1 ----> 20100407
    Re#_2 ----> 20100819

     

    เรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่ง

    ขออภัยหากชื่อ-สกุล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ ตรงกับผู้ใดอย่างไม่เจตนา

    (ทุกเรื่องราวที่เขียน เกิดขึ้นจากผู้แต่งเอง ไม่ได้ลอกเลียนแบบหรือ คัดลอกมาแต่อย่างใด)

    บทความชุดนี้ได้รับการคุ้มครองตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×