คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ป่วนให้รัก มัดหัวใจให้อมยิ้ม ตอนที่ 5
หลังจากที่ยัยคุณหญิงโรคจิต (ฉันขอเรียกว่าโรตจิตก็แล้วกัน) ยิงคำพูดสุดแสนจะแทงใจของแม่ฉัน ทำให้แม่ฉันถึงกับเงียบ พูดอะไรไม่ออกกันเลยทีเดียว สถาณการณ์ ในตอนนี้ปกคลุมไปด้วยความเงียบ แม่ฉันกับยัยคุณหญิงโรคจิตนั่น ยืนจ้องตาอาคาตกันสักพัก
ก่อนที่คุณหญิงโรคจิตจะเดินเชิดหน้าออกไปจากภัตราคารเฉินหลง หลังจากนี้ไปฉันไม่กลัวว่าแม่จะโกรธฉัน เรื่องที่ฉันเอาแกงจืดไปลาดใส่หัวของยัยคุกกี้ คุกขี้อะไรนั่น แต่เมื่อแม่โดนยัยคุณหญิงคู่อริของแม่ หยามหน้ากันซะขนาดนั้น ฉันกลัวว่าแม่จะยิ่งบังคับให้ฉันแต่งตัวเป็นผู้หญิงเร็วขึ้นกว่าเดิมน่ะสิ นั่นมันปัญหาอันใหญ่หลวงของฉันเชียวนะโว้ยย เพราะมันจะพาลทำใหฉันไม่ได้เฟอรี่คันงามไปด้วยน่ะสิ
และตอนนี้ฉันก็มานั่งกุมขมับยู่ในคฤหาสถ์หลังโตเรียบร้อยแล้วล่ะ เพราะแม่สั่งให้ลูกน้องฉัน ลากฉันกลับมา ที่จริงฉันกะว่าเมื่อจบปัญหานี้แล้วฉันก็จะรีบเผ่นแนบไปที่อื่นทันที แต่ดูเหมือนแม่จะรู้ทันฉัน จึงสั่งให้ไอ้เฟิร์สไอ้เซน ลากฉันกลับมาที่บ้าน แล้วไอ้พวกนี้ก็ดันเชื่อฟังคำสั่งของแม่อีก ตกลงมันจะเป็นลูกน้องใครกันแน่ฟะ
“เอาล่ะ.....แม่ขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะเทียน...แม่ทนไม่ไหวแล้ว...ที่ต้องถูกคนอื่นมาหยามหน้าแบบนี้” แม่พูดกับฉันด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย เวลาแม่ทำหน้านิ่งๆแบบนี้ ดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้แฮะ ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเอามือกุมขมับ รับฟังสิ่งที่แม่จะพูดต่อ
“แม่ขอสั่งให้แก .....เปลี่ยนแปลงตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้......แม่ให้เวลาแกสองเดือน...เมื่อถึงวันเกิดท่านทูตรัสเซียเมื่อไหร่แล้วแกยังไม่เป็นผู้หญิงเต็มตัวทั้งกายและใจล่ะก็….”
“…..” ฉันนั่งมองหน้าแม่ ว่าแม่จะพูดอะไร อย่างใจจดใจจ่อ และสิ่งที่แม่จะพูดต่อก็คือ....
“เฟอรารี่ของแก....ก็ถือว่าเป็นโมฆะ ตลอดกาลล่ะกันนะ” หลังจากฉันได้ยินเงื่อนไขอันโหดร้ายของแม่ มันก็ทำให้ฉันถึงขั้นปวดหัวจี๊ด ใครจะว่า ว่ามันไร้สาระก็เถอะ กะอีแค่รถคันเดียวจะเป็นจะตาย แต่นี่มันเฟอรารี่เชียวนะเว้ยเฮ้ย รถที่มีราคาแพงเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยนะ แล้วคิดดูว่าถ้าฉันได้ขับมันออกไปโฉบเล่น มันจะทำให้ฉันดูเท่แค่ไหน โฮะๆๆ ไม่อยากจะคิดเลย สำหรับเด็กอายุสิบแปดอย่างฉัน ฉันว่ามันเป็นของขวัญที่ล้ำค่ามหาศาลมาก ฉันว่าวัยรุ่นทุกคนที่อายุไล่ๆฉัน ก็คงจะคิดเหมือนกันนั่นแหละ ว่ามั้ย..
แต่..เดี๋ยวก่อน...ไหนว่าไอ้พี่ธูปมันจะช่วยฉันไงวะ....ไหงแม่ยิ่งมาบังคับฉันอย่างนี้ล่ะ....ไม่ได้การล่ะ..อย่างนี้ต้องไปโวย
หลังจากคิดได้ดังนั้น ฉันก็รีบขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านทันที และรีบเดินตรงดิ่งไปยังห้องนอนของพี่ธูป
ปังๆๆๆๆ!!!! ฉันเอามือเคาะประตูอย่างรัวโดยไม่สนใจว่า มันจะเสียงดังรบกวนคนที่นอนอยู่ในห้องนี้
“มาแล้วๆๆๆๆ......จะเคาะอะไรนักหนาเนี่ย” เสียงพี่ธูปบ่นอย่างหัวเสีย พลางเปิดปะตูห้องนอนออกมา สภาพของพี่ฉันตอนนี้ไม่เหลือคราบคลาสโนวาหน้าเกาหลีอีกต่อไป ด้วยหัวที่ยุ่งเหยิงจากการตื่นนอน ออกมาพร้อมกับบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว แหม่ จะวาบหวิวไปไหนเนี่ยพี่ฉัน
“นี่...พี่ธูป” ฉันเรียกชื่อพี่ชาย พลางเอามือเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง
“อะไรกันเนี่ย ยัยเทียนฉุน.....มีอะไรฮะ...มาปลุกฉันแต่เช้าเชียว”
“เช้าบ้าอะไรล่ะ.....นี่มันบ่ายโมงแล้วพี่เฮ้ย...แหกตาดูซะบ้างเส่ะ!” ฉันพูดพลางจิ้มนิ้วไปบนนาฬิกาข้อมือของตัวเองและยื่นไปให้พี่ธูปดู
“อ้าว....บ่ายโมงแล้วหรา...พอดีเมื่อคืนฉันหนักไปหน่อยน่ะ…แล้วแกมีอะไรล่ะ..ถึงมาปลุกฉันถึงห้องเนี่ย”
“ยังมีหน้ามาถามอีก......ไหนว่าพี่จะช่วยฉันไง” ฉันพูดพร้อมเงยหน้ามองพี่ธูปที่ตอนนี้กำลังยืนเกาหัวแกรกๆ
“ช่วยหรอ!!......ช่วยเรื่องอะไรอ่ะ....แกไม่เห็นบอกฉันเลย” ยังๆ พี่ฉันยังทำงง เดี๋ยวน้องช่วยเตื่อนความจำให้
แป๊ะ!!~ ว่าแล้วฉันก็เอานิ้วไปดีดที่ติ่งหูของพี่ธูป
“โอ๊ยย...ยัยเทียนฉุนแกดีดหูฉันทำไมเนี่ย..ยัยน้องบ้า..ฉันเจ็บนะโว้ยย!!” พี่ธุปร้องโอดครวญพลางเอามือไปจับที่ติ่งหูของตัวเอง
“ดี....สมน้ำหน้า.....ก็พี่บอกว่าพี่จะช่วยฉันเรื่องที่แม่บังคับฉันให้ฉันแต่งตัวเป็นผู้หญิงไม่ใช่เรอะไง”
“อ๋อ...เรื่องนั้นนั่นเอง....ใช่..ฉันจะช่วยแก....ก็ฉันบอกไปแล้วนี่ว่าฉันจะช่วยแกจริงๆ”
“แล้วทำไมแม่ยิ่งบังคับฉันล่ะ.....ถึงขนาดกำหนดวันเวลาเลยด้วยซ้ำ…พี่ช่วยฉันภาษาอะไรเนี่ย”
“ภาษาธูปครับ…ฮ่าๆ”
“นี่...มุกนี้มันเก่าไป....เค้าเลิกใช้กันไปนานละ”
“อ้าวหรอ.....โอเค..ฉันสัญญาว่าจะช่วยแก...แต่หลังจากแกช่วยฉัน...โอเคตามนี้นะ...ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น”
ปัง!!~ หลังจากพี่ธูปพูดจบ มันก็ปิดประตูใส่หน้าฉันทันที หึ้ย!! ชีวิตฉันที่มันอาภัพจริงๆ แม่ก็ชอบบังคับพี่ชายก็งี่เง่าไม่ได้เรื่อง ทำไมชีวิตมันถึงได้ซวยขนาดนี้!!
ตึกๆๆๆ.....ฉันเดินย่ำเท้าเข้ามาในทีเฮ้าส์ ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวสุดๆ แล้วก็หย่อนก้นลงบนโซฟาตัวหนึ่งหน้าทีวีจอพลาสม่าขนาดยักษ์
“โถ่เว้ย!!” ฉันสบถออกมาพร้อมกับเอาเท้ายันโต๊ะลำรองตรงหน้าล้มแตกกระจาย พวกลูกน้องทั้งหลายที่กำลังนั่งทำธุระของตัวเอง รวมทั้งไอ้เฟิร์สไอ้เซน ที่ตอนนี้กำลังตีดำมี่กันอย่างเมามันส์ ต่างก็หยุดกิจกรรมของตัวเอง และหันมาสนใจฉันที่ตอนนี้ถีบโต๊ะตรงหน้าแตกกระจายไปแล้วแทน
“ใคร!!.....ใครทำให้ลูกพี่ของฉันต้องโมโหขนาดนี้วะ......อย่าให้รู้นะว่าใครมันทำให้ลูกพี่ฉันโมโห...ฉันจะลาดคอมันมาสับ แล้วโยนให้หมาข้างถนนกินซะ” ไอ้เฟิร์ส พูดโหวกเหวกโวยวายขึ้น พลางชี้หน้าลูกน้องแต่ล่ะคนที่ตอนนี้ได้แต่นั่งงงกันใหญ่
“ลูกพี่!!...ใครทำให้ลูกพี่โกรธ...บอกฉันได้นะ..เดี๋ยวฉันจะไปลากคอมันมาลงโทษเอง”
“แม่ฉันเองอ่ะ” ฉันพูดออกไปอย่างเซ็งๆ
“0.0….แม่งั้นหรา”
ฮ่าๆๆๆ~ เสียงหัวเราะของลูกน้องทุกคนดังระงมไปทั่วทั้งทีเฮาส์
“หัวเราะอะไรกันฟะ...หุบปากเดี๋ยวนี้นะพวกแก” เฟิร์สไทม์สั่งลูกน้องทุกคนให้หยุดหัวเราะพลางชี้นิ้วกราดไปยังพวกมัน ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเท้าคาง คิดแต่เรื่องที่แม่บอก สองเดือนงั้นหรา.....ก่อนวันเกิดทูตงั้นหรา นี่แม่คิดจะบังคับให้ฉันแต่งตัวตะแล๊ดแต๊ดแต๋แบบนั้นจริงๆหรือไง
“เป็นอะไรรึเปล่าเทียน....เธอดูเครียดๆนะ” เซนถามฉันขึ้น พลางเอามือมาแต่ะบ่าของฉัน
“ก็เรื่องเดิมนั่นแหล่ะ...ฉันจะต้องทำไงต่อไปวะเซน”
“แล้วพี่ธูปไม่ได้ช่วยเธอหรา”
“ก็ไอ้พี่เฮงซวยมันบอกว่าให้ฉันช่วยมันให้สำเร็จก่อน...แล้วมันถึงค่อยช่วยฉัน....แล้วฉันต้องทำไงต่อไปกับไอ้เลเวลอะไรนั่นต่อล่ะ”
“อ่อ......เอางี้สิ...ในเมื่อพี่ธูปให้ไปจีบหมอนั่นให้ติดแล้วก็หักอกมันซะ.....เธอก็ต้องพยายามทำให้หมอนั่นชอบเธอให้ได้”
“แล้วมันจะต้องทำยังไงล่ะ....แกก็รู้ว่าฉันเกิดมาจากท้องแม่..ฉันยังไม่เคยจีบใครเลยสักคน”
“ฉันจะบอกให้นะ....ผู้ชายน่ะเค้าชอบผู้หญิงที่เหมือนผู้หญิง....เค้าไม่ได้ชอบผู้หญิงที่เหมือนผู้ชาย…ฉันว่าเธอลองวิธีนี้ดูแล้วกัน”
ว่าแล้วไอ้เซนก็ลากฉันขึ้นไปบนรถพอร์ชคันงามของมัน แล้วก็ขับตรงดิ่งไปยังห้างดังข้างหนึ่งทันที นี่มันจะพาฉันมาทำอะไรที่นี่วะเนี่ย อย่าบอกนะว่าพามาเดินเที่ยว หมอนี่ก็รู้อยู่ว่าฉันไม่ชอบเดินเที่ยวห้าง ก็อย่างที่บอก ฉันเบื่อที่ที่มีผู้คนเยอะแยะ..มันอึดอัดนะเว้ยเฮ้ย!!
“นี่แกจะพาฉันไปไหนเนี่ย ไอ้เซน” ฉันถามเซนขึ้นพลางจับข้อมือข้างขวาตัวเอง ที่ตอนถูกกุมด้วยมือไอ้เซนที่กำลังลากฉันไปไหนก็ไม่รู้
“ไม่ต้องถามหรอก....ถึงแล้วเดี๋ยวเธอก็รู้เอง” เซนพูดขึ้น และยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ
และเมื่อฉันกับไอ้เซนเดินวนกันอยู่บนชั้นสองของห้างสักพัก เราทั้งคู่ก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้าน ร้านหนึ่ง
~โอ๋เอ๋ แฟชั่นดีไซส์~
“สวัสดีค่ะ....ร้านโอ๋เอ๋ยินดีต้อนรับค่ะ...เชิญเข้ามาดูข้างในก่อนได้ค่ะ” พนักงานสาวสวย หมวยอึ๋ม คนหนึ่งพูดขึ้น
“นี่แกพาฉันมาที่นี่ทำไม”ฉันสะกิดไอ้เซนพลางกระซิบถามมันขึ้น
“เข้ามาสิ เดี๋ยวก็รู้เองล่ะน่า” ว่าแล้วไอ้เซนก็ลากฉันเข้าไปในร้านโอ๋เอ๋
โอ้โห....ร้านนี้มีแต่เสื้อผ้าผู้หญิงสวยๆทั้งนั้นเลยแฮะ และแน่นอน มันไม่ใช่แนวของฉันทั้งหมดเลย
แล้วไอ้เซนมันพาฉันมาที่นี่ทำไมกันเนี่ย หรือว่าจะให้ฉันมาช่วยมันเลือดชุดให้แฟนของมัน ให้ตายสิ ฉันเลือกเสื้อผ้าผู้หญิงเป็นที่ไหน
“อ่ะ...เธอลองตัวนี้ดูสิ”เซนพูดพร้อมกับส่งชุดเดรสสีชมพูหวานแหววมาให้ฉัน
“นี่แกอย่าบอกนะว่าจะให้ฉันใส่ไอ้ชุดนี้น่ะ”
“เอาน่าก็แค่ลองเฉยๆ” ฉันรับชุดเดรสตัวนั้นมาอย่างโดยดี
และเมื่อเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า ฉันก็พบว่าฉันใส่เดสตัวนี้ไม่เป็น สุดท้ายฉันจึงต้องเรียกพี่พนักงานของร้านมาช่วยใส่ให้ หยึย!! แต่ว่าทำไมมันสั้นจุ๊ดจู๋แบบนี้นะ ใส่แล้วหวิวๆยังไงก็ไม่รู้แฮะ
“ว้าวคุณน้อง....สวยมากเลยค่ะ...อย่างกับแองเจิ้ลน้อยเลยค่ะ” ส่วนพนักงานของร้านก็ยอฉันไม่หยุด ฉันก็เข้าใจนะว่าเค้าก็ต้องทำหน้าที่ของเค้า ลูกค้าลองชุดไหนก็ต้องบอกสวยทุกชุดแหละ แต่ว่าสีหน้าของไอ้เซนตอนนี้สิ ทำไมต้องทำตาโตขนาดนั้นด้วยฟะ
นี่ฉันเป็นคนนะเว้ย ไม่ใช่ผีที่ไหน
“เฮ้ย!! เซน...อึ้งอะไรนักหนา” ฉันตวาดใส่ไอ้เซนที่ตอนนี้เหมือนกำลังเหม่อลอยถึงอะไรสักอย่าง
“สวย....เอ้ย...เปล่าๆๆ...อื้มใช้ได้นี่...พี่ครับเอาชุดนี้แหละครับ”ไอ้เซนบอกกับพี่พนักงานคนสวย
“นี่แกซื้อให้แฟนแกหรา”
“ซื้อให้เธอนั่นแหละ” หา!!~ ซื้อให้ฉันงั้นหรอ
“แกจะบ้าไปแล้วรึไงฟะ...แกก็รู้ว่าฉันชอบใส่ชุดแบบนี้ซะที่ไหนเล่า”
“เอาน่า...ถ้าเธออยากให้นายเลเวลอะไรนั่น ชอบเธอ...เธอก็ต้องแต่งตัวแบบนี้แหล่ะ..ขืนเธอยังแต่งตัวแบบเดิมอยู่ล่ะก็ ฉันฟันธงได้เลยว่าหมอนั่นไม่มีวันชอบเธอแน่ ” มันก็จริงอย่างที่ไอ้เซนพูดแฮะ ใครเค้าจะชอบผู้หญิงที่เหมือนผู้ชายอย่างฉัน(เอ๊ะ นี่ฉันคิดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่) แต่ว่าจะให้ทำไงได้ล่ะ ให้ฉันใส่แบบนี้มันทะแม่งๆยังไงก็ไม่รู้ ในชีวิตเกิดมานอกจากกระโปรงนักเรียน แล้วฉันก็ไม่เคยใส่กระโปรงแบบไหนอีกเลย แล้วไอ้ชุดวาบหวิวแบบนี้ฉันจะใส่ได้ยังไงเล่า ในเมื่อตัวนี้มันสั้นเกินไป ฉันจึงขอต่อรองกับไอ้เซน
และชุดที่ได้มาก็คือ กระโปรงลายลูกไม้ ที่ยาวถึงตาตุ่ม แบบนี้ค่อยรู้สึกมั่นใจหน่อย หลังจากที่ฉันกับไอ้เซนได้ของที่ต้องการครบแล้วเราสองคนก็พากันกลับมายังทีเฮ้าส์ และก็เริ่มช่วยกันวางแผนที่จะจีบนายเลวลให้สำเร็จต่อไป
“เอาล่ะ...ขั้นต่อไปก็คือ...เธอต้องพานายเลเวลไปเที่ยว..เพื่อที่ว่าเธอกับหมอนั่นจะได้ไกล้ชิดกันมากขึ้น”
“แล้วฉันจะพาหมอนั่นไปเที่ยวที่ไหนดีล่ะ” ฉันถามไอ้เซนขึ้น
“หึหึ....ไม่ยากเลย....สวยสนุกไง”
ความคิดเห็น