คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ป่วนให้รัก มัดหัวใจใหอมยิ้ม ตอนที่4(อัพ100%)ดุเดือด เผ็ดมันเลยตอนนี้
“หึ หึ หึ” ผมหัวเราะเบาๆสามทีเพื่อจะไว้อาลัยให้กับตัวเอง ที่ตอนนี้โดนยัยกระทิงป่า ฉุด กระชาก ลากถูเข้ามาในตัวภัตราคารเฉินหลง ภัตราคารที่หรูและไฮโซที่สุดในประเทศไทย ไม่รู้ว่ายัยบ้านี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ยัยนี่จะจีบผมงั้นเรอะ -*- คงไม่ใช่หรอกมั้ง ผู้หญิงบ้าอะไรจีบผู้ชายด้วยวิธีบังคับแบบนี้ เกิดมาผมยังไม่เคยพบเคยเจอจริงๆให้ตายเถอะ - -* และที่ผมยอมมาตามนัดของยัยกระทิงนี่ ใช่ว่าผมจะกลัวยัยนี่หรอกนะ แต่ผมไม่อยากให้ยัยบ้านี่ไปยุ่งวุ่นวาย ที่บ้านของผมต่างหาก แล้วอีกผมไม่อยากให้ม๊ากับเตี่ยต้องรู้เรื่องนี้ด้วย ต่อให้ยัยนี่จะอยากได้ผมเป็นแฟนแค่ไหนก็เหอะ ยังไงผมก็ไม่มีทางจะคบกับผู้หญิงที่นิสัยแย่ หยาบคาย อย่างยัยนี่เด็ดขาด ต่อให้ยัยนี่จะหน้าตาน่ารักบ้องแบ๊วซักแค่ไหนก็เหอะ แต่ยังไงการกระทำของยัยนี่ที่แสดงออกมา มันก็ยังไม่เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไปอยู่ดีแหละนะ ตอนนี้ผมกำลังนั่งจ๊องง่องจ้องหน้ายัยกระทิงป่านี่อยู่ ที่จ้องไม่ใช่ว่าผมจะสนใจหน้าตาของยัยนี่หรอกนะ แต่ผมสนว่ายัยนี่จะมาไม้ไหนกับผมอีกต่างหากล่ะ
“นี่... ฉันอุตส่าพานายมาออกเดททั้งทีนะ..ทำหน้าให้ดูตื่นเต้นหน่อยได้มั้ย”
“แล้วใครว่าฉันอยากมากับเธอล่ะ หึ!”ผมพูดกับยัยกระทิงป่า พลางทำหน้าตาเย่อหยิ่งใส่ยัยนั่น
“เอาเถอะนะ...วันนี้เป็นเดทแรกของฉัน ฉันจะปล่อยนายไปซักวันนึงก็ได้”
“ฮะ!!..ว่าไงนะ! เดทแรกงั้นเหรอ” ยัยกระทิงนี่ยังไม่เคยออกเดทกับใครซักครั้งเลยเหรอเนี่ย
“อื้ม!! ก็ใช่น่ะสิ เนี่ยเดทแรกของฉันเลยนะจะบอกให้ ฉันนะตื่นเต้นโคตรๆเลยล่ะ วะฮะ ฮ่าๆๆ^0^” ยัยเทียนหอมพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบใจ ถึงยัยนี่จะดูโหดและบ้าบิ่นแค่ไหน แต่ยัยนี่ก็ยังแฝงความไร้เดียงสาไว้ด้วยเหมือนกันนะเนี่ย แต่เพราะว่ายัยนี่ชอบทำตัวห้าวเกินผู้หญิงธรรมดาทั่วไปน่ะสิ มิน่าล่ะถึงยังไม่เคยมีเดทแรกกับผู้ชายคนไหน และในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้ซักพักผมก็บังเอิญเหลือบไปเห็น หญิงสาวหน้าตาสวยคม ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนดัดเป็นลอนใหญ่ สัดส่วนสูงเพรียวได้รูป ซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารถัดจากโต๊ะผมไปสามโต๊ะ แล้วก็ตรงกับจังหวะที่เธอคนนั้นหันมาเห็นผมพอดี เธอไม่รีรอที่จะเดินเข้ามาหาผมทันที แต่ดูจากอารมณ์และท่าทางที่เดินมาหาผมนั้น คงไม่ใช่การดีแน่ๆ
“เลเวล!!” หญิงสาวเรียกชื่อผมขึ้นพลางเอามือทังสองข้างเท้าสะเอว
“อ้าว..คุ้กกี้..มาได้ไงเนี่ย..บังเอิญจังนะ ^^” ผมพูดพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้คุกกี้ คุกกี้คือคนสนิทผมคนหนึ่ง เธอเป็นลูกส่าวของเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย แต่ก่อนบ้านผมกับบ้านเธอจะอยู่ไกล้ๆกัน แต่ตอนนี้เธอย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้วล่ะ จำได้ว่าตอนเด็กๆผมกับเธอชอบเล่นด้วยกัน พ่อแม่ของเราทั้งสองฝ่ายเคยเกือบจะให้เราทั้งสองคนหมั้นกันตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว แต่โชคดีที่คุกกี้ย้ายบ้านไปซะก่อน พอโตมาไอ้เรื่องหมั้นหมายตอนเด็กๆ พวกเราก็เลยลืมกันไปซะ แต่พอหลังจากคุกกี้เรียนจบมอหกจากนิวซีแลนด์ เธอก็กลับมาอยู่เมืองไทยอีกครั้ง รู้สึกว่าเธอจะกลับมาได้สองเดือนกว่าแล้วล่ะ เราสองคนรักกันมากๆ แต่ไม่ใช่แบบชู้สาว ผมรักคุ้กกี้แบบน้องสาวคนหนึงต่างหาก แต่สำหรับเธอจะคิดกับผมยังไงนั้น ต้องอ่านเอาเองละกัน - -*!!
“พี่มาทำอะไรที่นี่คะ....แล้วนี่พี่มากับผู้หญิงคนนี้เหรอ” คุกกี้พูดพลางกราดนิ้วไปชี้ที่หน้าเทียนหอม
“อ่อ..อื้ม!!.....ว่าแต่คุกกี้มาคนเดียวเหรอ” ผมถามคุกกี้ขึ้น
“เปล่าค่ะ กี้มากับคุณแม่- -* นังผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันคะ...อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนของพี่น่ะ - -” คุกกี้ถามผมขึ้น
“เอ่อ....คือ...เอ่อ...”
“ทำไมพี่ไม่บอกคะ....นังนี่มันเป็นใคร ทำไมพี่ถึงยอมมากับมัน พี่บอกมาเดี๋ยวนี้นะ >>0<<”
คุกกี้พูดพลางเขย่าไหล่ผมไปด้วย อันทีจริงถึงผมจะรักคุกกี้เหมือนน้องสาวก็ตาม แต่ผมก็รู้ดีว่าคุ้กกี้ไม่ได้คิดกับผมแค่พี่ชายแน่ๆ เพราะทุกครั้งเวลาที่เธอเห็นผมคุยกับผู้หญิงคนไหน เธอก็มักจะออกอาการหึงหวงใส่ตลอด
“เอ่อ..กี้จ้ะ ใจเย็นๆนะ..”
“แล้วนังนี่มันเป็นใครกัน ทำไม พี่ต้องมากับมัน ทำไมพี่ทำกับกี้แบบนี้หละ..กี้ไม่ย๊อม ไม่ยอมจริงๆด้วย>>,<<” คุกกี้พูดพลางกระทืบเท้าตัวเองกับพื้น ส่วนยัยเทียนหอมตอนนี้ก็กำลังกินอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย..
ให้ตายสิ!! นี่ยัยนี่ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยเรอะไงเนี่ย นั่งกินหน้าตาเฉยอยู่ได้
“เอ่อ...ผู้หญิงคนนี้เค้าเป็นเพื่อนพี่อ่ะจะ...ไม่มีอะไรจริง จริ๊ง ^^'” ส่วนผมก็พยายามพูดเล้าโลมให้คุกกี้ใจเย็นๆ เพราะถ้าเกิดปล่อยให้คุกกี้อาละวาดล่ะก็ รับรองแขกในร้านนี้จะกินอาหารไม่เป็นสุขแน่
“นี่แก!!....แกบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าแกเป็นอะไรกับพี่เลเวล.....นี่ฉันถามแกอยู่นะ ทำไมไม่ตอบล่ะนังบ้า นั่งกินอยู่ได้ กรี๊ดดดดด” นั่นไงว่าแล้ว กรี๊ดแรกปล่อยออกมาแล้วครับท่าน ตอนนี้คุกกี้เริ่มโวยวายใส่เทียนหอมแล้วล่ะ ส่วนยัยเทียนหอมที่กำลังจะคีบหมูหันเข้าปาก ก็ต้องชะงักและลุกตัวยืนขึ้นประชันหน้ากับคุกกี้ทันที
“ฉันน่ะเหรอ!! ฉันก็เป็นแฟนของไอ้ปลาไหลนี่ไง” ยัยเทียนหอมพูดพลางชี้นิ้วมาที่ผม เฮ้ย!!
ผมไปเป็นแฟนกับยัยนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“กรี๊ดดด!! แก! แกบังอาจมาเป็นแฟนพี่เลเวลของฉันได้ยังไง แกอย่าหวังว่าจะได้พี่เลเวลของฉันไป นี่แหนะ!!!” คุกกี้พูดพร้อมกับหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะ ขึ้นมาสาดหน้าเทียนหอม
“-_-'” และนี่คือสีหน้าของยัยเทียนหอมตอนนี้ เทียนหอมหลับตาลงพลางเอามือขวาขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองที่โดนน้ำสาดเมื่อตะกี้ ขณะเดียวกันที่ผมก็เหลือบไปเห็นมือข้างซ้ายของยัยนี่กำหมัดจนแน่น ถ้าผมเดาไม่ผิด อีกไม่ถึงห้าวินาที ผมรับรองได้เลยว่าหมัดข้างซ้ายของยัยนี่ต้องพุ่งเข้าใส่หน้าของ คุกกี้แน่ๆ
5...
4...
3...
2....
ฟ้าววววว~ นั่นไง ยัยเทียนหอมกวาดหมัดเข้าใส่คุกกี้แล้ว แต่ผิดคลาดโทษที
หมับ!! คุกกี้ยกมือขวามารับหมัดของเทียนหอมทัน 0.0 โอ้ มายก็อด พระเจ้าจ๊อส แจ็คดอสั้น- -* สงสัยว่า งานนี้ยัยกระทิงป่าจะเจอคู่แข่งตัวจริงเข้าให้แล้วล่ะ
“เหอะๆ...จะต่อยหน้าฉันเหรอ นังบ้า...ฝันไปเถอะย่ะ” ยัยกระสือคุกกี้พูดพร้อมกับกวาดหมัดข้างขวามาหาฉัน แต่โชคดีที่ฉันหลบทัน เหอะ!! เห็นยัยนี่ทำตัวตะแล๊ดแต๊ดแต๋แบบนี้ แท้จริงแล้วยัยนี่ก็เป็นมวยเหมือนกันนะเนี่ย ก่อนที่ยัยคุกขี้!! จะตั้งหลักทัน ฉันจึงไม่รีรอ รีบใช้ขาข้างขวาเต่ะเข้าที่ข้อพับตรงหัวเข่าของยัยนี่ทันที แล้วยัยปีศาจคุ้กขี้ ก็ล้มลงนั่งพลางเอามือจับตรงข้อพับหัวเข่าตัวเอง เหอะ!! เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเจัเทียนหอมคนนี้ได้ยังไง ไม่รู้เรอะว่าฉันเป็นถึงหัวหน้าแก็งค์มาเฟียเชียวนะโว้ยยย!!
แต่ยังไงก็เหอะ..แค้นนี้ต้องชำแหละ!!! ฉันคิดในใจพลางหยิบเหยือกน้ำที่อยู่บนโต๊ะมาถือไว้ หึหึ!! คงรู้นะว่าฉันจะทำอะไรต่อไป หลังจากคิดได้ดังนั้นฉันก็ไม่รีรอทันที
ซ่าาาาา~ ตอนนี้น้ำที่อยู่ในเหยือกถูดสาดเข้าใส่ตัวของยัยคุกขี้จนเปรียกซกไปทั้งตัวเลยล่ะ แล้วเสียงนรกก็ตามมาทันที
“กรี๊ดดดดดด....นังบ้า แก!!!!” เสียงนรกที่ว่าก็เสียงยัยคุกขี้ หน้าผีนี่แหละ ฮ่าๆๆ ขำเป็นบ้าเลยว่ะ ดูหน้ายัยนี้ตอนนี้สิ อย่างกับผีเน่า ก็จะไม่ให้เป็นแบบนี้ได้ไงล่ะ ยัยนี่เล่นแต่งหน้าซะอย่างกับผีจีน อย่างกับจะไปเล่นงิ้วที่ไหนซักแห่ง พอหน้าเจ้าหล่อนโดนน้ำ เครื่องสำอางค์บนหน้า ไม่ว่าจะเป็น มาสคาร่า หรือไอ้ที่ดำๆที่ตรงเปลือกตา เค้าเรียกกันว่าไรนะ อายๆ อะไรซักอย่าง ต่างก็เยิ้มทั่วใบหน้าเลยล่ะ โฮะๆๆ สะใจเป็นบ้าเลย แต่ว่าดูแขกในร้านตอนนี้สิ ต่างมองมาที่ฉันกับยัย คุกขี้ หน้าผีกันใหญ่เลย ไม่ได้การล่ะ ก่อนที่คุณเฉียงเฉียง(นั่นชื่อคนเรอะ- -*)ผู้จัดการร้าน จะไปฟ้องแม่ว่าฉันก่อเรื่อง ฉันต้องรีบทำอะไรซักอย่างเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ และเพื่อไม่ให้คุณเฉียงเฉียงรู้ว่าฉันกับยัยคุกขี้ทะเลาะกันด้วย ฉันต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะ
“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทุกท่าน เชิญทุกท่านนั่งรับประทานอาหารกันต่อเถอะค่ะ เพื่อนดิฉันเค้าแค่เป็นลมบ้าผู้ชายเท่านั้นอ่ะค่ะ ดูสิ ดิ้นพรวดๆใหญ่แล้ว ฮ่าๆๆ อุ๊บ :x” ไม่ได้ๆ จะหลุดขำไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย เราต้องทำทีว่าสงสารยัยนี่สิ
“กรี๊ดดดดด..อ๊ายยย ฉันจะ ฆ่า...” ไม่ทันยัยคุกกี้จะพูดคำสุดท้าย ฉันก็หยิบเหยือกน้ำอีกเหยือกนึงมาราดที่หัวยัยนี่อีก หลังจากโดนน้ำไปอีกหนึ่งเหยือก ยัยนี้ก็กรีดร้องลั่น พลางดิ้นกระแด่วๆไปด้วย ฮ่าๆๆ สะใจฉิบเป๋งเลยให้ตายสิ ไม่เคยขำและสจไปพร้อมๆกันมากขนาดนี้เลย ดูสิยัยนี่ดิ้นอย่างกับใส้เดือนโดนน้ำร้อนลวก ฮ่าๆๆๆ
“นี่ๆ คุกขี้!! ไม่เอาสิอย่าดิ้นสิ อย่าดิ้น น้ำสองเหยืกยังไม่หายชักใช่มั้ย เดี๋ยวฉันเอาน้ำใส่ถังมาราดให้เธอก็ได้นะ เธอจะได้หาย ^^ ดูสิคะเพื่อนดิฉันเค้าอาการหนักมากเลย ชักดิ้นชักงอไม่หยุดเลย”ฉันพูดพลางทำท่าเรียกให้แขกในร้านดูยัยคุกกี้ ที่ตอนนี้กำลังนั่งกรีดร้องโวยวายอยู่กับพื้น
“คุกกี้!! ฉันไม่มีน้ำจะราดให้เธอแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะหายล่ะ แต่ไม่มีเป็นไร เอาแกงจืดเต้าหู้หมูสับแก้ขัดไปก่อนนะ มันคงจะแทนน้ำเปล่าได้” ว่าแล้วฉันก็หยิบถ้วยแกงจืดมาและกำลังจะราดใส่หัวยัยนี่
“ ยะ อย่าๆนะ....”
พรวดดด ~ ฉันราดลงไปเรียบร้อย แต่ไม่ได้ราดโดนยัยคุกกี้หรอก แต่ฉันราดโดนไอ้คนที่มาห้ามเมื่อกี้ต่างหาก นั่นก็คือนายเลเวลนั่นเอง ช่วยไม่ได้ หมอนี่อยากจุ้นเข้ามารับเองนี่
“ยัยกระทิง...เธอเอาแกงจืดมาราดฉันทำไมเนี่ย >O<” นายเลเวลโวยวายขึ้น
“แล้วใครบอกให้นายมารับแทน ยัยคุกขี้ หน้าผีนี่ล่ะ”
“กรี๊ดดด..นังบ้าฉันชื่อคุกกี้ย่ะ ไม่ใช่คุกขี้ คอยดูนะฉันจะฟ้องคุณแม่ให้จัดการแก!!”
“เชิญขี่ม้าสี่สิบห้าศอก ไปฟ้องเลยไป๊ ชิ่วๆ....แบร่ :p” ฉันพูดกับยัยคุกกี้ พลางทำหน้าล้อเลียนและส่ายก้นไปมา ส่วนยัยคุกกี้ก็ได้แต่กรี๊ดโวยวายใส่ฉันไม่หยุด และในระหว่างที่ฉันกำลังหัวเราะอย่างซะใจอยู่ และยัยคุกกี้ก็กำลังนั่งกรี๊ดดิ้นกระแด่วๆกับพื้นอยู่ ทันใดนั้นเอง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ผู้หญิงวัยเกือบชรา แต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนจะไปเล่นลิเกที่ไหนซักแห่ง พูดขึ้น พร้อมกับเดินมาทางจุดเกิดเหตุที่ฉันกับยัยคุกกี้เล่นสงกรานต์สาดน้ำใส่กันอย่างเมามันส์(อันที่จริงฉันมันส์คนเดียว)ทุกสายตาในตอนนี้ต่างเพ่งมองไปที่ หญิงเกือบชรา(เกือบจริงๆนะ)ที่เดินเฉิดฉายเข้ามาทางที่ฉันอยู่
“คุณแม่!!” ยัยคุกกี้เรียกผู้หญิงคนนั้นขึ้น หา!นี่เหรอแม่ของยัยคุกขี้อะไรนี่อ่ะ มิหน้าล่ะ เชื้อมันไม่ทิ้งแถวจริงๆ ลูกยังไง แม่อย่างนั้น ลูกแต่งเป็นงิ้ว แม่แต่งเป็นลิเก สงสัยจะคณะเดียวกันโฮะๆ ^0^
“คุ้กกี้ลุกแม่ ทำไมมอมแมมเหมือนหมาแบบนี้ล่ะลูก ใครทำอะไรทูนหัวของแม่จ้ะ”
“เหมือนหมาเลยเหรอคะแม่ T^T นังนั่นค่ะแม่ นั่งนั่นมันทำคุ้กกี้ มันเอาน้ำมาสาดคุกกี้ค่ะT^T” ส่วนยัยคุกกี้ก็ทำเป็นอิดออด ออเซาะแม่ตัวเองใหญ่เลย
“นี่เธอ...เธอเป็นใครมีสิทธอะไร เอาน้ำมาสาดลูกฉัน...ต๊ายย..เด็กอะไรสันดานเสียชะมัด” โอ้วว สันดานงั้นเรอะ สงสัยยัยป้าลิเกนี่อยากจะเข้าโลงก่อนอายุไข แฮะ
“นี่ป้า! ฉันไม่ได้ทำอะไรลูกสาวป้าเลยนะ ลูกสาวป้านั่นแหละที่มาทำฉันก่อน” ฉันพยายามอธิบายให้ป้าแกเ
ข้าใจ
“ไม่มีทาง ลูกฉันไม่มีวันทำใครก่อน เธอนั่นแหละที่มาทำลูกสาวฉันแล้วยังมาใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก” นี่แหละน้าที่เค้าว่ากันว่า รักลูกเกินไป ทำให้หน้ามืดตามัวเห็นผิดเป็นชอบ
“ลูกป้านั่นแหละทำฉันก่อน”
“แกนั่นแหละทำลูกฉัน'
“ลูกป้านั่นแหละ
“แกนั่นแหละ”
“ลูกป้า”
“แก..”
“ลูกป้าาาาา”
“ต๊ายย นังเด็กบ้า หึ! เถียงคำไม่ตกฟากเลยนะแก “
“ถ้าฉันบ้า ป้าก็บ้าเหมือนกันแหละน่า ไม่งั้นป้าจะคุยกับคนบ้ารู้เรื่องเรอะ ฮ่าๆๆ ^O^”
“กรี๊ดดด แก! พ่อมีแกไม่สั่งสอนเรอะไง รึว่าแกไม่มีพ่อแม่ให้สอน ใชิ่ส แกมันคงเป็นได้แค่เด็กกะโปโลแหละนะ เหอะ! ต่ำ....ป่าเถื่อนที่สุด...” โอ้ววว ยัยป้านี่วอนซะละ สงสัยป้าแกว๊อน
“ป้า! ฉันว่านะทางที่ดีนะป้าไปซื้อคารามายให้ลูกป้าใช้แก้คันก่อนดีกว่ามั้ย เอ้อ รึว่าป้าจะซื้อใช้เองก็ดีนะจะได้ไม่ต้องคัน!! มาหาเรื่องชาวบ้านแบบนี้”
“ต๊ายย นังเด็กไม่มีสัมมาคาราวะ แกไปเรียกพ่อแม่แกมาเคลียร์กับฉันเดี๋ยวนี้นะ นังเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
“มีอะไรกับลูกสาวฉันเหรอคะ คุณหญิงปลื้มจิต!!” เสียงหญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้น แล้วผู้หญิงที่ว่าก็ไม่ใช่ใคร แม่!! ฉันเองงง
“โอ๊ะโอ! ที่แท้ก็ลูกสาวคุณหญิงวิภาดานี่เอง มิหน้าล่ะป่าเถื่อนเหมือนกันไม่มีผิด หึหึ” ที่แท้นี่ก็คือยัยคุณหญิงปลื้มจิตคู่อริของแม่ตั้งแต่อนุบาลสามงั้นเหรอ แต่ฉันว่านะน่าเป็นเป็นคุณหญิงโรคจิตมากกว่า เข้าท่ากว่าเยอะ!
“ถ้าไม่ป่าเถื่อน แล้วงานแข่ง ไฟ้ล์ติ้ง บ็อกซิ่งเมื่อสิบปีที่แล้ว ฉันจะชนะคุณหญิงจนได้แชมป์ มวยโลกมาเหรอคะ" โอ้วว นี่แม่ฉันเป็นยอดนักมวยเรอะ มิน่าล่ะถึงขะยั้นขะยอให้ฉันเรียนมวยจังเลย ที่แท้แม่ก็อยากให้ฉันเก่งเหมือนท่านนี่เอง แต่ว่ายัยคุณหญิงโรคจิตก็เป็นมวยเหมือนกันเหรอเนี่ย มิน่าล่ะ ยัยคุกขี้ถึงรับหมัดฉันได้
“หึ! นั่นมันก็แค่อดีตนะคะ คุณหญิง”
“โอ๊ะโอ! นี่ก็คงเป็นลูกสาวคุณหญิงปลื้มจิตสิท่า มิน่าล่ะ แต่งตัวเป็นลิเกพอๆกันเลย อะคิ อะคิ”
“หึหึ! ก็ยังดีกว่าลูกสาวคุณหญิงวิภาดานะคะ ดูสิแต่งตัวอย่างกับเด็กกะโปโล อ่ะเคอะ อ่ะเคอะ” แน่ใจว่านี่คือเสียงหัวเราะ - -* แต่ว่ายัยคุณหญิงโรคจิตพูดแทงใจดำแม่ฉันมากเลยแฮะ ดูสิ แม่ฉันถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ แม่!! อย่ายอมสิแม่ เงียบทำไมล่ะแม่ เถียงยัยคุณหญิงโรคจิตต่อสิแม่ !!
อัพได้ 100%แล้วค่ะ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้กันด้วยเน้อ ช่วงนี้รู้สึกว่าจะเบลอๆไปหน่อย^^
ความคิดเห็น