ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Smile of Love♥ป่วนให้รัก มัดหัวใจให้อมยิ้ม

    ลำดับตอนที่ #5 : ป่วนให้รัก มัดหัวใจใหอมยิ้ม  ตอนที่4(อัพ100%)ดุเดือด เผ็ดมันเลยตอนนี้

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 54


      nu eng

     

       

     หึ หึ หึผมหัวเราะเบาๆสามทีเพื่อจะไว้อาลัยให้กับตัวเอง ที่ตอนนี้โดนยัยกระทิงป่า ฉุด กระชาก ลากถูเข้ามาในตัวภัตราคารเฉินหลง ภัตราคารที่หรูและไฮโซที่สุดในประเทศไทย ไม่รู้ว่ายัยบ้านี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ยัยนี่จะจีบผมงั้นเรอะ -*- คงไม่ใช่หรอกมั้ง ผู้หญิงบ้าอะไรจีบผู้ชายด้วยวิธีบังคับแบบนี้ เกิดมาผมยังไม่เคยพบเคยเจอจริงๆให้ตายเถอะ - -* และที่ผมยอมมาตามนัดของยัยกระทิงนี่ ใช่ว่าผมจะกลัวยัยนี่หรอกนะ แต่ผมไม่อยากให้ยัยบ้านี่ไปยุ่งวุ่นวาย ที่บ้านของผมต่างหาก แล้วอีกผมไม่อยากให้ม๊ากับเตี่ยต้องรู้เรื่องนี้ด้วย ต่อให้ยัยนี่จะอยากได้ผมเป็นแฟนแค่ไหนก็เหอะ ยังไงผมก็ไม่มีทางจะคบกับผู้หญิงที่นิสัยแย่ หยาบคาย อย่างยัยนี่เด็ดขาด ต่อให้ยัยนี่จะหน้าตาน่ารักบ้องแบ๊วซักแค่ไหนก็เหอะ แต่ยังไงการกระทำของยัยนี่ที่แสดงออกมา มันก็ยังไม่เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไปอยู่ดีแหละนะ ตอนนี้ผมกำลังนั่งจ๊องง่องจ้องหน้ายัยกระทิงป่านี่อยู่ ที่จ้องไม่ใช่ว่าผมจะสนใจหน้าตาของยัยนี่หรอกนะ แต่ผมสนว่ายัยนี่จะมาไม้ไหนกับผมอีกต่างหากล่ะ

        “นี่... ฉันอุตส่าพานายมาออกเดททั้งทีนะ..ทำหน้าให้ดูตื่นเต้นหน่อยได้มั้ย

        “แล้วใครว่าฉันอยากมากับเธอล่ะ หึ!”ผมพูดกับยัยกระทิงป่า พลางทำหน้าตาเย่อหยิ่งใส่ยัยนั่น

        “เอาเถอะนะ...วันนี้เป็นเดทแรกของฉัน ฉันจะปล่อยนายไปซักวันนึงก็ได้

        “ฮะ!!..ว่าไงนะ! เดทแรกงั้นเหรอยัยกระทิงนี่ยังไม่เคยออกเดทกับใครซักครั้งเลยเหรอเนี่ย

        “อื้ม!! ก็ใช่น่ะสิ เนี่ยเดทแรกของฉันเลยนะจะบอกให้ ฉันนะตื่นเต้นโคตรๆเลยล่ะ วะฮะ ฮ่าๆๆ^0^” ยัยเทียนหอมพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบใจ ถึงยัยนี่จะดูโหดและบ้าบิ่นแค่ไหน แต่ยัยนี่ก็ยังแฝงความไร้เดียงสาไว้ด้วยเหมือนกันนะเนี่ย แต่เพราะว่ายัยนี่ชอบทำตัวห้าวเกินผู้หญิงธรรมดาทั่วไปน่ะสิ มิน่าล่ะถึงยังไม่เคยมีเดทแรกกับผู้ชายคนไหน และในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้ซักพักผมก็บังเอิญเหลือบไปเห็น หญิงสาวหน้าตาสวยคม ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนดัดเป็นลอนใหญ่ สัดส่วนสูงเพรียวได้รูป ซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารถัดจากโต๊ะผมไปสามโต๊ะ แล้วก็ตรงกับจังหวะที่เธอคนนั้นหันมาเห็นผมพอดี เธอไม่รีรอที่จะเดินเข้ามาหาผมทันที แต่ดูจากอารมณ์และท่าทางที่เดินมาหาผมนั้น คงไม่ใช่การดีแน่ๆ

        “เลเวล!!” หญิงสาวเรียกชื่อผมขึ้นพลางเอามือทังสองข้างเท้าสะเอว

        “อ้าว..คุ้กกี้..มาได้ไงเนี่ย..บังเอิญจังนะ ^^” ผมพูดพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้คุกกี้ คุกกี้คือคนสนิทผมคนหนึ่ง เธอเป็นลูกส่าวของเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย แต่ก่อนบ้านผมกับบ้านเธอจะอยู่ไกล้ๆกัน แต่ตอนนี้เธอย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้วล่ะ จำได้ว่าตอนเด็กๆผมกับเธอชอบเล่นด้วยกัน พ่อแม่ของเราทั้งสองฝ่ายเคยเกือบจะให้เราทั้งสองคนหมั้นกันตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว แต่โชคดีที่คุกกี้ย้ายบ้านไปซะก่อน พอโตมาไอ้เรื่องหมั้นหมายตอนเด็กๆ พวกเราก็เลยลืมกันไปซะ แต่พอหลังจากคุกกี้เรียนจบมอหกจากนิวซีแลนด์ เธอก็กลับมาอยู่เมืองไทยอีกครั้ง รู้สึกว่าเธอจะกลับมาได้สองเดือนกว่าแล้วล่ะ เราสองคนรักกันมากๆ แต่ไม่ใช่แบบชู้สาว ผมรักคุ้กกี้แบบน้องสาวคนหนึงต่างหาก แต่สำหรับเธอจะคิดกับผมยังไงนั้น ต้องอ่านเอาเองละกัน - -*!!

        “พี่มาทำอะไรที่นี่คะ....แล้วนี่พี่มากับผู้หญิงคนนี้เหรอคุกกี้พูดพลางกราดนิ้วไปชี้ที่หน้าเทียนหอม

        “อ่อ..อื้ม!!.....ว่าแต่คุกกี้มาคนเดียวเหรอผมถามคุกกี้ขึ้น

        “เปล่าค่ะ กี้มากับคุณแม่- -* นังผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันคะ...อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนของพี่น่ะ - -” คุกกี้ถามผมขึ้น

         “เอ่อ....คือ...เอ่อ...”

         “ทำไมพี่ไม่บอกคะ....นังนี่มันเป็นใคร ทำไมพี่ถึงยอมมากับมัน พี่บอกมาเดี๋ยวนี้นะ >>0<<”
    คุกกี้พูดพลางเขย่าไหล่ผมไปด้วย อันทีจริงถึงผมจะรักคุกกี้เหมือนน้องสาวก็ตาม แต่ผมก็รู้ดีว่าคุ้กกี้ไม่ได้คิดกับผมแค่พี่ชายแน่ๆ เพราะทุกครั้งเวลาที่เธอเห็นผมคุยกับผู้หญิงคนไหน เธอก็มักจะออกอาการหึงหวงใส่ตลอด

         “เอ่อ..กี้จ้ะ ใจเย็นๆนะ..”

         “แล้วนังนี่มันเป็นใครกัน ทำไม พี่ต้องมากับมัน ทำไมพี่ทำกับกี้แบบนี้หละ..กี้ไม่ย๊อม ไม่ยอมจริงๆด้วย>>,<<” คุกกี้พูดพลางกระทืบเท้าตัวเองกับพื้น ส่วนยัยเทียนหอมตอนนี้ก็กำลังกินอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย..
    ให้ตายสิ!! นี่ยัยนี่ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยเรอะไงเนี่ย นั่งกินหน้าตาเฉยอยู่ได้

         “เอ่อ...ผู้หญิงคนนี้เค้าเป็นเพื่อนพี่อ่ะจะ...ไม่มีอะไรจริง จริ๊ง ^^'” ส่วนผมก็พยายามพูดเล้าโลมให้คุกกี้ใจเย็นๆ เพราะถ้าเกิดปล่อยให้คุกกี้อาละวาดล่ะก็ รับรองแขกในร้านนี้จะกินอาหารไม่เป็นสุขแน่

         “นี่แก!!....แกบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าแกเป็นอะไรกับพี่เลเวล.....นี่ฉันถามแกอยู่นะ ทำไมไม่ตอบล่ะนังบ้า นั่งกินอยู่ได้ กรี๊ดดดดดนั่นไงว่าแล้ว กรี๊ดแรกปล่อยออกมาแล้วครับท่าน ตอนนี้คุกกี้เริ่มโวยวายใส่เทียนหอมแล้วล่ะ ส่วนยัยเทียนหอมที่กำลังจะคีบหมูหันเข้าปาก ก็ต้องชะงักและลุกตัวยืนขึ้นประชันหน้ากับคุกกี้ทันที

         “ฉันน่ะเหรอ!! ฉันก็เป็นแฟนของไอ้ปลาไหลนี่ไงยัยเทียนหอมพูดพลางชี้นิ้วมาที่ผม เฮ้ย!! 
    ผมไปเป็นแฟนกับยัยนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

        “กรี๊ดดด!! แก! แกบังอาจมาเป็นแฟนพี่เลเวลของฉันได้ยังไง แกอย่าหวังว่าจะได้พี่เลเวลของฉันไป นี่แหนะ!!!” คุกกี้พูดพร้อมกับหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะ ขึ้นมาสาดหน้าเทียนหอม

         “-_-'” และนี่คือสีหน้าของยัยเทียนหอมตอนนี้  เทียนหอมหลับตาลงพลางเอามือขวาขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองที่โดนน้ำสาดเมื่อตะกี้ ขณะเดียวกันที่ผมก็เหลือบไปเห็นมือข้างซ้ายของยัยนี่กำหมัดจนแน่น ถ้าผมเดาไม่ผิด อีกไม่ถึงห้าวินาที ผมรับรองได้เลยว่าหมัดข้างซ้ายของยัยนี่ต้องพุ่งเข้าใส่หน้าของ คุกกี้แน่ๆ



         5...

         4...

         3...

         2....

         ฟ้าววววว~ นั่นไง ยัยเทียนหอมกวาดหมัดเข้าใส่คุกกี้แล้ว แต่ผิดคลาดโทษที 
        
    หมับ!! คุกกี้ยกมือขวามารับหมัดของเทียนหอมทัน 0.0 โอ้ มายก็อด พระเจ้าจ๊อส แจ็คดอสั้น- -* สงสัยว่า งานนี้ยัยกระทิงป่าจะเจอคู่แข่งตัวจริงเข้าให้แล้วล่ะ

     

         “เหอะๆ...จะต่อยหน้าฉันเหรอ นังบ้า...ฝันไปเถอะย่ะ”   ยัยกระสือคุกกี้พูดพร้อมกับกวาดหมัดข้างขวามาหาฉัน แต่โชคดีที่ฉันหลบทัน เหอะ!! เห็นยัยนี่ทำตัวตะแล๊ดแต๊ดแต๋แบบนี้ แท้จริงแล้วยัยนี่ก็เป็นมวยเหมือนกันนะเนี่ย ก่อนที่ยัยคุกขี้!! จะตั้งหลักทัน ฉันจึงไม่รีรอ รีบใช้ขาข้างขวาเต่ะเข้าที่ข้อพับตรงหัวเข่าของยัยนี่ทันที แล้วยัยปีศาจคุ้กขี้ ก็ล้มลงนั่งพลางเอามือจับตรงข้อพับหัวเข่าตัวเอง เหอะ!! เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเจัเทียนหอมคนนี้ได้ยังไง ไม่รู้เรอะว่าฉันเป็นถึงหัวหน้าแก็งค์มาเฟียเชียวนะโว้ยยย!! 
         
    แต่ยังไงก็เหอะ..แค้นนี้ต้องชำแหละ!!! ฉันคิดในใจพลางหยิบเหยือกน้ำที่อยู่บนโต๊ะมาถือไว้ หึหึ!! คงรู้นะว่าฉันจะทำอะไรต่อไป หลังจากคิดได้ดังนั้นฉันก็ไม่รีรอทันที
         
    ซ่าาาาา~ ตอนนี้น้ำที่อยู่ในเหยือกถูดสาดเข้าใส่ตัวของยัยคุกขี้จนเปรียกซกไปทั้งตัวเลยล่ะ แล้วเสียงนรกก็ตามมาทันที

         “กรี๊ดดดดดด....นังบ้า แก!!!!”    เสียงนรกที่ว่าก็เสียงยัยคุกขี้ หน้าผีนี่แหละ ฮ่าๆๆ ขำเป็นบ้าเลยว่ะ ดูหน้ายัยนี้ตอนนี้สิ อย่างกับผีเน่า ก็จะไม่ให้เป็นแบบนี้ได้ไงล่ะ ยัยนี่เล่นแต่งหน้าซะอย่างกับผีจีน อย่างกับจะไปเล่นงิ้วที่ไหนซักแห่ง พอหน้าเจ้าหล่อนโดนน้ำ เครื่องสำอางค์บนหน้า ไม่ว่าจะเป็น มาสคาร่า หรือไอ้ที่ดำๆที่ตรงเปลือกตา เค้าเรียกกันว่าไรนะ อายๆ อะไรซักอย่าง ต่างก็เยิ้มทั่วใบหน้าเลยล่ะ โฮะๆๆ สะใจเป็นบ้าเลย แต่ว่าดูแขกในร้านตอนนี้สิ ต่างมองมาที่ฉันกับยัย คุกขี้ หน้าผีกันใหญ่เลย ไม่ได้การล่ะ ก่อนที่คุณเฉียงเฉียง(นั่นชื่อคนเรอะ- -*)ผู้จัดการร้าน จะไปฟ้องแม่ว่าฉันก่อเรื่อง ฉันต้องรีบทำอะไรซักอย่างเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ และเพื่อไม่ให้คุณเฉียงเฉียงรู้ว่าฉันกับยัยคุกขี้ทะเลาะกันด้วย ฉันต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะ

         “เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทุกท่าน เชิญทุกท่านนั่งรับประทานอาหารกันต่อเถอะค่ะ เพื่อนดิฉันเค้าแค่เป็นลมบ้าผู้ชายเท่านั้นอ่ะค่ะ ดูสิ ดิ้นพรวดๆใหญ่แล้ว ฮ่าๆๆ อุ๊บ :x”    ไม่ได้ๆ จะหลุดขำไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย เราต้องทำทีว่าสงสารยัยนี่สิ

         “กรี๊ดดดดด..อ๊ายยย ฉันจะ ฆ่า...”   ไม่ทันยัยคุกกี้จะพูดคำสุดท้าย ฉันก็หยิบเหยือกน้ำอีกเหยือกนึงมาราดที่หัวยัยนี่อีก หลังจากโดนน้ำไปอีกหนึ่งเหยือก ยัยนี้ก็กรีดร้องลั่น พลางดิ้นกระแด่วๆไปด้วย ฮ่าๆๆ สะใจฉิบเป๋งเลยให้ตายสิ ไม่เคยขำและสจไปพร้อมๆกันมากขนาดนี้เลย ดูสิยัยนี่ดิ้นอย่างกับใส้เดือนโดนน้ำร้อนลวก ฮ่าๆๆๆ

         “นี่ๆ คุกขี้!! ไม่เอาสิอย่าดิ้นสิ อย่าดิ้น น้ำสองเหยืกยังไม่หายชักใช่มั้ย เดี๋ยวฉันเอาน้ำใส่ถังมาราดให้เธอก็ได้นะ เธอจะได้หาย ^^ ดูสิคะเพื่อนดิฉันเค้าอาการหนักมากเลย ชักดิ้นชักงอไม่หยุดเลยฉันพูดพลางทำท่าเรียกให้แขกในร้านดูยัยคุกกี้ ที่ตอนนี้กำลังนั่งกรีดร้องโวยวายอยู่กับพื้น

         “คุกกี้!! ฉันไม่มีน้ำจะราดให้เธอแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะหายล่ะ แต่ไม่มีเป็นไร เอาแกงจืดเต้าหู้หมูสับแก้ขัดไปก่อนนะ มันคงจะแทนน้ำเปล่าได้ว่าแล้วฉันก็หยิบถ้วยแกงจืดมาและกำลังจะราดใส่หัวยัยนี่

         “ ยะ อย่าๆนะ....”

         พรวดดด ~ ฉันราดลงไปเรียบร้อย แต่ไม่ได้ราดโดนยัยคุกกี้หรอก แต่ฉันราดโดนไอ้คนที่มาห้ามเมื่อกี้ต่างหาก นั่นก็คือนายเลเวลนั่นเอง ช่วยไม่ได้ หมอนี่อยากจุ้นเข้ามารับเองนี่

         “ยัยกระทิง...เธอเอาแกงจืดมาราดฉันทำไมเนี่ย >O<” นายเลเวลโวยวายขึ้น

         “แล้วใครบอกให้นายมารับแทน ยัยคุกขี้ หน้าผีนี่ล่ะ

         “กรี๊ดดด..นังบ้าฉันชื่อคุกกี้ย่ะ ไม่ใช่คุกขี้ คอยดูนะฉันจะฟ้องคุณแม่ให้จัดการแก!!”

         “เชิญขี่ม้าสี่สิบห้าศอก ไปฟ้องเลยไป๊ ชิ่วๆ....แบร่ :p” ฉันพูดกับยัยคุกกี้ พลางทำหน้าล้อเลียนและส่ายก้นไปมา ส่วนยัยคุกกี้ก็ได้แต่กรี๊ดโวยวายใส่ฉันไม่หยุด และในระหว่างที่ฉันกำลังหัวเราะอย่างซะใจอยู่ และยัยคุกกี้ก็กำลังนั่งกรี๊ดดิ้นกระแด่วๆกับพื้นอยู่ ทันใดนั้นเอง

         “หยุดเดี๋ยวนี้นะผู้หญิงวัยเกือบชรา แต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนจะไปเล่นลิเกที่ไหนซักแห่ง พูดขึ้น พร้อมกับเดินมาทางจุดเกิดเหตุที่ฉันกับยัยคุกกี้เล่นสงกรานต์สาดน้ำใส่กันอย่างเมามันส์(อันที่จริงฉันมันส์คนเดียว)ทุกสายตาในตอนนี้ต่างเพ่งมองไปที่ หญิงเกือบชรา(เกือบจริงๆนะ)ที่เดินเฉิดฉายเข้ามาทางที่ฉันอยู่

         “คุณแม่!!” ยัยคุกกี้เรียกผู้หญิงคนนั้นขึ้น หา!นี่เหรอแม่ของยัยคุกขี้อะไรนี่อ่ะ มิหน้าล่ะ เชื้อมันไม่ทิ้งแถวจริงๆ ลูกยังไง แม่อย่างนั้น ลูกแต่งเป็นงิ้ว แม่แต่งเป็นลิเก สงสัยจะคณะเดียวกันโฮะๆ ^0^

         “คุ้กกี้ลุกแม่ ทำไมมอมแมมเหมือนหมาแบบนี้ล่ะลูก ใครทำอะไรทูนหัวของแม่จ้ะ

         “เหมือนหมาเลยเหรอคะแม่ T^T นังนั่นค่ะแม่ นั่งนั่นมันทำคุ้กกี้ มันเอาน้ำมาสาดคุกกี้ค่ะT^T” ส่วนยัยคุกกี้ก็ทำเป็นอิดออด ออเซาะแม่ตัวเองใหญ่เลย

         “นี่เธอ...เธอเป็นใครมีสิทธอะไร เอาน้ำมาสาดลูกฉัน...ต๊ายย..เด็กอะไรสันดานเสียชะมัดโอ้วว สันดานงั้นเรอะ สงสัยยัยป้าลิเกนี่อยากจะเข้าโลงก่อนอายุไข แฮะ

         “นี่ป้า! ฉันไม่ได้ทำอะไรลูกสาวป้าเลยนะ ลูกสาวป้านั่นแหละที่มาทำฉันก่อน”   ฉันพยายามอธิบายให้ป้าแกเ
    ข้าใจ

         “ไม่มีทาง ลูกฉันไม่มีวันทำใครก่อน เธอนั่นแหละที่มาทำลูกสาวฉันแล้วยังมาใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก นี่แหละน้าที่เค้าว่ากันว่า รักลูกเกินไป ทำให้หน้ามืดตามัวเห็นผิดเป็นชอบ

         “ลูกป้านั่นแหละทำฉันก่อน

         “แกนั่นแหละทำลูกฉัน'

         “ลูกป้านั่นแหละ

         “แกนั่นแหละ

        “ลูกป้า

        “แก..”

        “ลูกป้าาาาา

        “ต๊ายย นังเด็กบ้า หึ! เถียงคำไม่ตกฟากเลยนะแก

        “ถ้าฉันบ้า ป้าก็บ้าเหมือนกันแหละน่า ไม่งั้นป้าจะคุยกับคนบ้ารู้เรื่องเรอะ ฮ่าๆๆ ^O^”

        “กรี๊ดดด แก! พ่อมีแกไม่สั่งสอนเรอะไง รึว่าแกไม่มีพ่อแม่ให้สอน ใชิ่ส แกมันคงเป็นได้แค่เด็กกะโปโลแหละนะ  เหอะ! ต่ำ....ป่าเถื่อนที่สุด...”  โอ้ววว ยัยป้านี่วอนซะละ สงสัยป้าแกว๊อน

         “ป้า! ฉันว่านะทางที่ดีนะป้าไปซื้อคารามายให้ลูกป้าใช้แก้คันก่อนดีกว่ามั้ย เอ้อ รึว่าป้าจะซื้อใช้เองก็ดีนะจะได้ไม่ต้องคัน!! มาหาเรื่องชาวบ้านแบบนี้

         “ต๊ายย นังเด็กไม่มีสัมมาคาราวะ แกไปเรียกพ่อแม่แกมาเคลียร์กับฉันเดี๋ยวนี้นะ นังเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน

         “มีอะไรกับลูกสาวฉันเหรอคะ คุณหญิงปลื้มจิต!!” เสียงหญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้น แล้วผู้หญิงที่ว่าก็ไม่ใช่ใคร แม่!! ฉันเองงง

         “โอ๊ะโอ! ที่แท้ก็ลูกสาวคุณหญิงวิภาดานี่เอง มิหน้าล่ะป่าเถื่อนเหมือนกันไม่มีผิด หึหึที่แท้นี่ก็คือยัยคุณหญิงปลื้มจิตคู่อริของแม่ตั้งแต่อนุบาลสามงั้นเหรอ แต่ฉันว่านะน่าเป็นเป็นคุณหญิงโรคจิตมากกว่า เข้าท่ากว่าเยอะ!

         “ถ้าไม่ป่าเถื่อน แล้วงานแข่ง ไฟ้ล์ติ้ง บ็อกซิ่งเมื่อสิบปีที่แล้ว ฉันจะชนะคุณหญิงจนได้แชมป์ มวยโลกมาเหรอคะ" โอ้วว นี่แม่ฉันเป็นยอดนักมวยเรอะ มิน่าล่ะถึงขะยั้นขะยอให้ฉันเรียนมวยจังเลย ที่แท้แม่ก็อยากให้ฉันเก่งเหมือนท่านนี่เอง แต่ว่ายัยคุณหญิงโรคจิตก็เป็นมวยเหมือนกันเหรอเนี่ย มิน่าล่ะ ยัยคุกขี้ถึงรับหมัดฉันได้

         “หึ! นั่นมันก็แค่อดีตนะคะ คุณหญิง

         “โอ๊ะโอ! นี่ก็คงเป็นลูกสาวคุณหญิงปลื้มจิตสิท่า มิน่าล่ะ แต่งตัวเป็นลิเกพอๆกันเลย อะคิ อะคิ

         “หึหึ! ก็ยังดีกว่าลูกสาวคุณหญิงวิภาดานะคะ ดูสิแต่งตัวอย่างกับเด็กกะโปโล อ่ะเคอะ อ่ะเคอะแน่ใจว่านี่คือเสียงหัวเราะ - -* แต่ว่ายัยคุณหญิงโรคจิตพูดแทงใจดำแม่ฉันมากเลยแฮะ ดูสิ แม่ฉันถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ แม่!! อย่ายอมสิแม่ เงียบทำไมล่ะแม่ เถียงยัยคุณหญิงโรคจิตต่อสิแม่ !!





    อัพได้ 100%แล้วค่ะ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้กันด้วยเน้อ ช่วงนี้รู้สึกว่าจะเบลอๆไปหน่อย^^

        

       

        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×