ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Smile of Love♥ป่วนให้รัก มัดหัวใจให้อมยิ้ม

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 57


     

                                                                                                              บทนำ!!

    nu eng 

     

         "เจ้ามือป๊อกเก้าเด้ง”

         “ฮะ!! เจ้ามือป๊อกอีกแล้วเรอะ นี่ฉันยังไม่ทันได้เปิดไพ่ดูเลยนะ” หญิงสาววัยกลางคน

    ร้องทักขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าตกใจสุดๆราวกับว่ามีญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสีย

         “คนมันดวงกำลังขึ้นก็งี้แหละ....เจ้ไม่ต้องบ่นมาก จ่ายมาให้หมด!!”

         “เฮ้ย! ไอ้เทียนฉันถามแกจริงๆเหอะ แกซ่อนไพ่เปล่าวะ ทำไมแกถึงได้กินเอ๊ากินเอา”

         “โธ่!..เจ๊...เจ๊ก็น่าจะรู้นะ ว่าระดับเทียนหอมคนนี้เล่นเนี่ยไม่เคยพลาดท่าให้ใครง่ายๆอยู่แล้ว หึหึ”

         “ให้ตายสิ! วันหลังพวกฉันจะไม่มาเล่นกับแกอีกแล้ว มาทีไรพวกฉัน

    ไม่วายต้องกลับบ้านกันตัวเปล่าทุกทีฉันไปดีกว่า...ชิ!”

         “โชคดีนะเจ๊..แล้ววันหลังมาเล่นไพ่ให้ฉันกินตังค์ใหม่นะ ฮ่าๆๆ”

    ฉันโบกมือบ๊ายบายเหล่าบรรดาเจ๊ๆป้าๆทั้งหลาย ที่ทุกๆวันพวกเจ๊แกมักจะมาเล่นไพ่ที่บ้านฉันเสมอ แล้วพวกเจ๊แกก็มักจะโดนฉันกินเรียบเสมอด้วยเหมือนกัน เหอะ! อย่าว่าแต่ไพ่ป๊อกเลย ต่อให้ไพ่ตอง ไพ่นกกระจอก หรือแม้กระทั่งไฮโล น้ำเต้าปูปลา ไม่เว้นแม้กระทั่งปั่นแป่ะ เรียกได้ว่าการพนันทุกอย่างฉันคือมือวางอันดับหนึ่ง เอาเป็นว่าฉันขอแนะนำตัวก่อนเลยละกัน ฉันชื่อ เทียนหอม' ให้ตายสิ ชื่อนี้มันแสนจะไม่เหมาะกับนิสัยสันดานฉันสักนิดเลย และที่ฉันเล่นการพนันทุกอย่างได้เซียนขนาดนี้ก็เพราะว่า แม่ของฉันเป็นเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่และมีคนใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทยน่ะสิ แต่นั่นมันเป็นฉากหลังของแม่ ส่วนฉากหน้าของแม่ฉันน่ะเหรอ แม่ฉันน่ะเปิดภัตราคารอาหารฮ่องเต้รสเลิศถึงเจ็ดสาขาด้วยกัน เป็นไงล่ะ แม่ฉันเนี่ยรวยใช่เล่นเลยนะเนี่ย อันที่จริงฉันยังมีพี่ชายอีกคนหนึ่งแต่ว่าแม่น่ะไล่ให้ไปดูแลกิจการบ่อนคาสิโนอยู่ที่มาเก๊าโน่น ส่วนพ่อฉันน่ะเหรอท่านเสียไปนานมากแล้วล่ะ จำได้ว่าตอนนั้นฉันมีอายุเพียงสี่ขวบเศษเอง แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อยอะไรหรอกนะ เพราะว่าแม่ฉันทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในคนๆเดียวกันให้กับฉันและพี่ชาย ครอบครัวเราเลยไม่รู้สึกว่ามันขาดอะไรไป นอกจากนี้แม่ฉันยังเป็นเซียนพนันที่น่ากลัวระดับต้นๆของเอเชียด้วยนะเออ สงสัยฉันคงได้เชื้อแม่มาเยอะล่ะมั้ง ก็อย่างที่เขาว่ากันมา ลูกไม้มันหล่นไม่ไกลต้นหร๊อก

         “เทียนหอมลูกรัก แม่จะไปเดินช็อปปิ้งที่สยาม ลูกจะไปด้วยกันมั้ยจ้ะ” หญิงสาววัยกลางคน

    ที่ฉันเรียกว่าแม่!! เอ่ยถามฉันขึ้น ในขณะที่ฉันกำลังเอี้ยวตัวรวบไพ่บนโต๊ะทั้งหมดเพื่อจะเก็บมันใส่กล่อง

         “ไม่อ่ะแม่ แม่ก็น่าจะรู้ว่าเทียนไม่ชอบไปที่ที่มีคนพลุกพล่าน น่าอึดอัดจะตายไป” ใช่ ! มันน่าอึดอัดและเป็นอะไรที่ฉันเบื่อที่สุดเลยล่ะ

         “เทียนจ้ะ..แม่ว่าแกก็เริ่มโตเป็นสาวแล้วนะ แกน่าจะหัดแต่งเนื้อแต่งตัวให้มันเป็นผู้หญิง

    มากกว่านี้หน่อยระวังเถอะ ระวังจะขึ้นคานนะยะ”

         “โธ่แม่! เทียนไม่กลัวหรอกไอ้เรื่องขึ้นคงขึ้นคานเนี่ย ดีซะอีกเทียนจะได้อยู่กับแม่ไปนานๆไง ”

         “ แต่แม่ว่ามันไม่เห็นจะดีตรงไหนเลยนะลูก แม่น่ะไม่ได้อยู่กับแกไปตลอดชีวิตหรอกนะ

    ถ้าวันหนึ่งไม่มีแม่แล้วถ้าแกก็ยังไม่มีครอบครัว แกจะอยู่กับใคร ฮึ ”

         “ ง่า..แม่อย่าพูดแบบนี้สิ แม่ต้องอยู่กับเทียนไปนานๆนะ....แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆเทียนก็อยู่

    กับพี่ธูปก็ได้นี่” ใช่แล้วล่ะ พี่ชายฉันน่ะชื่อธูป แม่กะตั้งชื่อพวกเราเอาไว้บูชาพระได้เลยมั้งนั่น - -<

         “แกอย่าลืมสิ ว่าเจ้าธูปพี่แกน่ะเค้าก็ต้องไปมีครอบครัวของเค้าเหมือนกัน และอีกอย่าง

    แม่ไม่อยากให้แกต้องแพ้ลูกสาวของยัยคุณหญิงปลื้มจิตนั่นด้วย ” คุณหญิงปลื้มจิตที่แม่ว่านั้นเป็นคู่กัด

    เอ้ย คู่แข่งกับแม่มาสมัยท่านทั้งสองเรียนอยู่ชั้นอนุบาลสามเรียกว่าห้ำหั่นกันมาตั้งแต่วัยกระเตาะเลยล่ะ

    ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่แม่กับคุณหญิงปลื้มจิตต้องเอาชนะกันให้ได้เสมอ แต่เท่าที่ฟังแม่เล่ามาส่วนมาก

    แม่ฉันจะชนะยัยคุณหญิงนั่นซะมากกว่า พอมาถึงรุ่นลูกอย่างฉันแม่ก็เลยไม่อยากให้ฉันแพ้ลูกสาวยัยคุณหญิงนั่น

    ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ครอบครัวเราต้องเป็นที่หนึ่ง!! และฉันยังแอบรู้มาด้วยว่าสมัยสาวๆ คุณพ่อของฉัน

    คุณแม่ก็ไปแย่งยัยคุณหญิงปลื้มจิตมาอีกทีด้วย แหม่! แม่ฉันก็ร้ายใช่ย่อยเลยนะเนี่ย

     

         “ ปัดโธ่แม่! ทำไมแม่ถึงคิดว่าเทียนจะต้องแพ้ลูกสาวยัยคุณหญิงนั่นด้วยล่ะ แม่ไม่เห็นเหรอว่าเทียนเล่นการพนันได้เซียนแค่ไหน ดูสิ๊ขนาดไฮโล เทียนหลับตาปั่นยังชนะใสๆเลย ไหนจะ.....” ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบแม่ก็พูดขึ้นมาขัดจังหวะฉันซะก่อน

         “เทียน แม่รู้ว่าการพนันแกเก่งแกสุดยอดไม่มีใครสู้แกได้ แต่ดูการแต่งตัวของแกสิ๊อะไรเนี่ยแต่งตัวอย่างกับเด็กกะโปโลที่ไหนก็ไม่รู้ แค่แกแต่งตัวแบบนี้แกก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแล้ว ” มันกะโปโลตรงไหนเนี่ยแม่ ฉันแค่ใส่รองเท้าผ้าใบข้างล่ะสีข้างหนึ่งสีเขียวข้างหนึ่งสีแดงกับกางเกงยีนส์ขาสั้นแล้วก็เสื้อเชิ้ตคอโปโลสีส้มเนี่ยนะ ดูสิ๊ออกจะแนว

         “แล้วนี่อะไร...ใครเค้าสั่งเค้าสอนให้แกใส่รองเท้าข้างล่ะสีแบบนี้เนี่ย นี่แกจะบ้าไปแล้วเรอะ”

         “โด่!...แม่ไม่เข้าใจเทียนหรอก มันเป็นสไตล์! ”ฉันยืนกอดอกพูดกับแม่อย่างมันใจในตัวเอง

         “สไตล์บ้าบออะไรของแก สก๊อยมากกว่าล่ะสิไม่ว่า ” โอ้วว..แรง แม่ด่าลูกรักว่าสก๊อยเลยเรอะแม่

     

         “ เอาล่ะ ถึงเวลาที่แม่จะต้องเด็ดขาดกับแกซะทีนะเทียน แม่จะไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวของแม่ต้องมา

    ทำตัวเป็นเด็กกะโปโลหรือยัยทอมโก๊ะที่ไหนอีกแล้ว ถ้าแกยังทำตัวเองให้เป็นผู้หญิงเต็มตัวทั้งร่างกายและจิตใจ

    ไม่ได้ เฟอรารี่คันงามแกก็อย่าได้หวัง ”

         เฮือกก! ฉันสะดุ้งตัวโหยงหลังจากที่ได้ยินแม่พูดจบ นี่แม่ล้อเล่นใช่มั้ย ถึงขนาดต้องเอาเรื่องรถมาขู่กันเลยเหรอ โอ้วว ไม่นะ!! เฟอรารี่เป็นรถที่มีราคาแพงหูฉี่และมันยังเป็นรถที่ฉันใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นเจ้าของมันสักครั้ง อันที่จริงเรื่องนี้ฉันเคยบอกกับแม่แล้วว่าฉันอยากจะได้มันและแม่ก็บอกกับฉันว่าท่านจะซื้อให้ถ้าฉันทำตัวให้เป็นผู้หญิงมากกว่านี้ ตอนนั้นดูจากสีหน้าที่แม่บอกฉันก็คิดว่าแม่คงล้อเล่นล่ะมั้งฉันก็เลยไม่ได้สนใจอะไร ไม่ได้การล่ะก่อนที่แม่จะออกจากตรงจุดนี้ไป ฉันต้องรีบพูดอะไรสักอย่างแล้วล่ะ

         “ เดี๋ยวค่ะแม่ เทียนสาบานได้เลยนะว่าเทียนเป็นผู้หญิงร้อยเปอเซ็นต์ แต่เทียนไม่ขอแต่งตัวแบบนั้น

    ได้มั้ยอ่ะแม่ ” ฉันพูดกับแม่พร้อมกับพยายามทำสีหน้าอ้อนวอนสุดๆเผื่อแม่อาจจะเกิดสงสารและเปลี่ยนใจ

    ขึ้นมาก็ได้

         “ ไม่ได้จ้ะ...แม่พูดคำไหนคำนั้น...เทียน แม่มีลูกสาวคนเดียวนะ ถือว่าแม่ขอละกัน แม่อยากให้แกทำตัว

    ให้มันเหมาะสมกับชื่อที่แม่ตั้งให้แกว่า เทียนหอม หน่อย”

         “ เถอะน่าแม่ ยังไงเทียนก็อยู่ในคราบของผู้หญิง ยังไงเทียนก็เป็นผุ้หยิงอยู่ดีล่ะน่ะ”

         “ อ๋อเหรอ แกบอกว่าแกเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ งั้นแกก็หาแฟนให้แม่ดูสิ ถ้าแกหาได้แม่ก็จะเชื่อว่าแกเป็น

    ผู้หญิงจริงๆ และแม่ขอย้ำนะ ว่าแฟนแกต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น!!”

         แม่ขอย้ำว่าแฟนของแกต้องเป็นผู้ชาย!! ฉันทวนคำพูดของแม่ในใจ หือ นี่แม่คิดว่าลูกสาวตัวเองเป็นทอมหรือยังไงกันเนี่ยให้ตายสิ โอ้ยๆๆ ฉันอยากจะกรี๊ดให้สนามหญ้าหน้าบ้านระเบิดเป็นจุน ดูสิ๊นี่แม่จะให้ฉันทิ้งการแต่งตัวสุดเท่ห์และแนวอย่างที่ฉันเป็นอยู่ได้ยังไง แล้วสาวที่ไหนจะกรี๊ดฉันล่ะ เอิ่ม! อันที่จริง ฉันสาบานได้นะว่าฉันยังเป็นผู้หญิงอยู่ และฉันยังชอบผู้ชายอยู่(มั้ง) แต่ว่าฉันชอบมากๆเลยเวลาที่ฉันออกไปไหนแล้วมีแต่คนมองว่าฉันเท่ห์อะไรงี้อ่ะ และอีกอย่างฉันก็ไม่ชอบแต่งตัวให้มันดูตะแล๊ดแต๊ดแต๋ด้วย แม่นะแม่จะใจร้ายเกินไปหน่อยแล้ว แต่ปัญหาหนักกว่านั้นก็คือแม่จะให้ฉันหาแฟนนี่สิ รู้งี้น่าจะยอมปลี่ยนการแต่งตัวตามที่แม่ต้องการตั้งแต่ที่แรกก็ดีหรอกไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยเรา ให้ฉันมีแฟนฉันยอมดมตูดหมายังดีซะกว่า เหอะ! ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบผู้ชายนะ แต่ว่าฉันแค่ไม่อยากมีแฟนตอนนี้ก็เท่านั้นเอง ไม่รู้สิเวลามีผู้ชายคนไหนมาจีบฉันทีไร มันมักจะทำให้ฉันขนลุกตลอดเลยอ่ะ จนทำให้ฉันทนไม่ไหว ต้องไล่ตะเพิ่ดไอ้ผู้ชายคนนั้นไปซะ เอ๊ะ! หรือว่าฉันเป็นทอมวะ!! ในระหว่างที่ฉันกำลังยืนปวดจิตคิดหนักอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้านนั้น

         “ ลูกพี่ๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้วลูกพี่ แฮ่กๆ ” ไอ้เฟิร์สไทม์ลูกน้องมือขวาฉันก็วิ่งโหวกเหวกโวยวายมาแต่ไกล

    คงสงสัยล่ะสิว่าฉันเป็นมาเฟียมาจากไหนถึงมีลูกน้องได้ยังไง

         อันที่จริงย้อนนน ไปตั้งแต่สมัยมัธยมปลายซึ่งตอนนั้นฉันเป็นเด็กนักเรียนที่เข้าใหม่ของชั้นมอสี่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง และด้วยไอ้ความที่ว่าแม่ฉันเป็นเพื่อนซี้กับเจ้าของโรงเรียน ฉันก็เลยกลายเป็นเด็กนักเรียนเพียงคนเดียวที่มีเส้นสายที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าเพื่อนๆจะทำกิจกรรมอะไร ฉันไม่ต้องทำฉันก็ผ่านได้ เรียกได้ว่าสบายยิ่งกว่าลูกเจ้าของโรงเรียนด้วยซ้ำ ส่วนพวกเฟิร์สไทม์น่ะเหรอ พวกมันเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน หรือจะว่ามันคลุมโรงเรียนเลยก็ว่าได้ และต้นเหตุที่มาของเรื่องก็คือ ผู้หญิงของพวกมันเกิดหมั่นใส้ฉันขั้นโคม่า เลยมาดักรอฉันหน้าโรงเรียนเพื่อจะตบสั่งสอนฉันอะไรประมาณนี้แหละ ส่วนฉัน สาวน้อยน่าใสไร้เดียงสา(ซะเมื่อไหร่) มีเรอะที่จะยอมให้ใครมาทำร้ายง่ายๆ ฉันเลยทึ้งหัวพวกหล่อนเล่นไปคนละสองสามที ยัยพวกนั้นถึงกับวิ่งหนีกันแทบไม่ทันเลยล่ะ หลังจากนั้นยัยพวกนั้นก็ไปฟ้องพวกของเฟิร์สไทม์ ฉันบอกตรงๆเลยนะว่าฉันก็หวั่นๆอยู่เหมือนกัน ก็จะไม่ให้หวั่นได้ไงล่ะ ดูสิผู้ชายนับสิบมายืนล้อมผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันไว้ และพวกผู้ชายที่ว่านั้นก็พวกของเฟิร์สไทม์นั่นล่ะ แต่สุดท้ายพวกมันก็ต้องยอมแพ้ฉัน เหอะ!จะไม่ให้แพ้ได้ยังไงล่ะ ฉันน่ะเทควันโดสายดำดั้งสี่นะจะบอกให้ เรียกได้ว่าขั้นสุดยอดของสุดยอดเลยล่ะ นอกจากนี้ฉันยังเรียนมวยไทย คาราเต้ แล้วก็วูซูอีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากการพนันที่เก่งแล้วเรื่องหมัดมวยนี่ฉันก็ไม่ยอมแพ้ใครเหมือนกัน ถ้าพวกเฟิร์สไทม์มันไม่สลบเหมือดเพราะฝีมือฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเรียนไอ้พวกศิลปะการต่อสู้นี้มาให้สูญเปล่าทำไม พอหลังจากนั้นสาวๆทั้งโรงเรียน ย้ำ!! ว่าทั้งโรงเรียนต่างก็กรี๊ดฉันอย่างบ้าคลั่ง เพราะว่าฉันล้มควาย เอ้ย ล้มผู้ชายนับสิบให้สยบคามือฉันได้ ต่อมาพวกเฟิร์สไทม์และสมุนของมันเลยมาขอเป็นลูกน้องฉัน ทีแรกฉันก็ไม่ยอมหรอก เพราะว่าฉันไม่ชอบเวลาไปไหนมาไหน แล้วต้องมีคนเดินตามตูด ต้อยๆๆ มันน่ารำคาญจะตาย แต่พอไปนานๆเข้าฉันก็เลยชิน เอาล่ะกลับสู่ปัจจุบันกันเถอะ

         “ มีเรื่องอะไรวะไอ้เฟิร์ส วิ่งแหกปากมาแต่ไกลเลยแก ”

         “ มะ..มีใครก็ไม่รู้..มะ...มา กัน ยะ..เยอะ ”

         “ โอ้ยย...จะติดอ่างอีกนานมั้ยวะ มีไรก็รีบๆพูดมาสิเว้ยเฮ้ย ”

         “ มีพวกใครก็ไม่รู้มารวมตัวกันอยู่หน้าทีเฮ้าส์เยอะแยะเลยลูกพี่ แฮ่กๆๆ ”

         “ นั่นมันที่ประชุมของแก็งค์เรานี่หว่า ”

         ใช่ ทีเฮ้าส์คือสถานที่ ที่ใช้รวมตัวของพวกฉันกับลูกน้องทุกคน แต่ก่อนที่จะมาเป็นทีเฮ้าส์ อันที่จริงมันเคยเป็นโรงเรียนฝึกสอนศิลปะการต่อสู้มาก่อน เรียกได้ว่าทั้งนวมทั้งกระสอบทราย ง่ายๆคืออุปกรณ์ซ้อมมวยครบครัน และพอไม่นานนักโรงเรียนก็เจ๊งและปิดตัวลง ด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเลยขอร้องและอ้อนวอนแม่ให้ซื้อมันไว้ หลังจากนั้นฉันเลยปรับปรุงมันให้กลายเป้นทีเฮ้าส์ นอกจากมันจะเป็นแหล่งมั่วสุม เอ้ย แหล่งรวมตัวของพวกเราแล้ว มันยังเป็นสถานที่ฝึกซ้อมมวยของฉันกับลูกน้องด้วย เรียกได้ว่าทีเฮ้าส์เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของพวกเราทุกคนเลยล่ะ

         “ และที่แย่ไปกว่านั้นนะลูกพี่ ตอนนี้ไอ้เซนกำลังโดนพวกมันอัดอยู่ด้วย ”

         “ ฮะ!! ไอ้เซนโดนพวกมันอัดอยู่เหรอ แล้วมันเป็นยังไงบ้าง ”

         “ ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยเป็นอะไร แต่ตอนนี้คิดว่าคงไกล้จะตายแล้วล่ะ.....

    ฉันว่านะมันต้องเป็นไอ้พวกแก็งค์ อูมามิ แน่เลย”

         “ อะไรนะ ไอ้แก็งค์ผงชูรสอีกแล้วเหรอ...นี่วันนั้นพวกมันโดนฉันอัดไปไม่เข็ดเรอะไงฟะ

    อย่างนี้ต้องไปสั่งสอนอีกสักรอบ ”

         “ ครับๆๆ รีบไปเลยครับลูกพี่..ก่อนที่ไอ้เซนมันจะม่องเท่งซะก่อน ”

         “ แล้วแกมัวยืนรอ อาม่าแกมาเชงเม้งอยู่เรอะไง รีบไปช่วยไอ้เซนสิฟะ ” หลังจากฉันตวาดไอ้เฟิร์สเสร็จฉันก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งนำหน้ามันไปทันที เหอะ! ไอ้แก็งค์ผงชูรส บังอาจมาทำร้ายลูกน้องมือซ้ายฉันเหรอ แล้วลูกพี่ที่แสนดีสดใสน่ารักคึกคักเวลาร้องเล่นอย่างฉันจะทนได้ยังไง คอยดูนะแม่จะสอยให้เลือดสาดไข่ขาดกระจายเลยคอยดู ย้ากก พวกแกตายยย!!!




    อ่าๆ อย่าลืมเม้นติชมใกลังใจไรเตอร์ด้วยนะคะ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดประการใด ก็บอกกันด้วยเน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×