Secret love ความลับความรัก - นิยาย Secret love ความลับความรัก : Dek-D.com - Writer
×

    Secret love ความลับความรัก

    ผีมันมีในโลกจริงๆหรอ หรือฉันฝันไป เขาเป็นใครกันนะ เมเปิ้ลคนนี้จะต้องรู้ให้ได้....

    ผู้เข้าชมรวม

    230

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    230

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 ธ.ค. 57 / 14:33 น.
    e-receipt e-receipt
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Secret love ความลับความรัก 1

    ความลับที่ไม่อาจจะรู้

    กริ๊งงง!! “โอ๊ย ให้ตายสิจะดังอะไรนักหนาเนี่ยคนจะหลับจะนอน” ฉันลุกขึ้นจากที่นอนงัวเงียหลังจากปิดนาฬิกาปลุกที่แสนจะดังน่ารำคาญ “เอ๋ ว่าแต่ วันนี้วันอะไรกันนะทำไมฉันตั้งนาฬิกาปลุก ปลุกเช้าจังเลย” ฉันหันไปมองนาฬิกาแล้วบ่นพึมพำแต่พอนึกอะไรบางอย่างได้ “มันรู้สึกแปลกแล้วนะหรือว่า” ฉันรีบหันไปมองปฏิทินที่วางอยู่บนโต๊ะและมันก็มีตัวอักษรที่เขียนว่า เปิดเทอม“ห๊ะให้ตายสิเปิดเทอมแล้วหรอเนี่ย ทำไมฉันพึ่งนึกออกเนี่ยนั่งคิดแค่นี้ก็เสียเวลามากแล้ว โอ๊ย สายแน่ๆเลย อ๊ากกก!

    “เฮ้อออ.........”หลังจากที่วิ่งรอบห้องไปมาได้สักประมาณ10รอบก็แต่งตัวเสร็จ ฉันเลยรีบเดินมาที่โต๊ะอาหารแบบเหนื่อยๆ เหมือนคนหมดแรง แต่มันก็หมดแรงจริงแหละนะวิ่งซะรอบห้องเลย-_-;

    “มาทานอาหารเช้าได้แล้วจ๊ะ เมเปิ้ลสาวน้อยของแม่”คุณแม่ที่แสนจะใจดีของฉันเรียกพร้อมกวักมือให้ฉันรีบเดินไปหาท่านเพราะใกล้จะสายแล้ว

    “ค่ะ คุณแม่ โอ้โห!! อาหารหน้าตาหน้าทานจังเลยค่ะ เมเปิ้ลรักคุณแม่ที่สุดเลย”ฉันเดิมมาที่โต๊ะอาหารแล้วกอดอ้อนคุณแม่อย่างที่เคยทำ

      ที่นี่ก็บ้านของฉันเองแหละนะ เป็นบ้านที่ไม่ได้ใหญ่โตนักแต่ก็สวยใช้ได้ บ้านฉันเป็นบ้านสวนมีที่รอบๆก็ราวๆ500ไร่ได้นะมีสวนหน้าบ้านหลังบ้านซึ่งฉันเป็นคนออกแบบเอง (ภูมิใจตัวเองจัง) บรรยากาศที่นี่ยามเช้าแสนจะสดชื่นมีลมพัดเบาๆหมอกลงกระทบกับแสงแดด วู๊วว สวยมากๆเลยแหละขอบอก

    “หนูไปก่อนนะค่ะคุณแม่สวัสดีค่ะ”ฉันไหว้คุณแม่แล้วรีบเดินขึ้นรถซึ่งมีคุณลุงทองสุขเป็นคนขับรถให้

      หลังจากที่ขึ้นรถมาฉันก็นั่งในรถเงียบๆนั่งคิดอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองไปมา จนฉันคิดถึงคำๆนั้นที่ฉันเคยถามคุณแม่เรื่องพ่อ

    คุณแม่ค่ะ คุณพ่ออยู่ไหนหรอค่ะ คุณพ่อหนูคือใคร หน้าตายังไงค่ะท่านอึ้งกับคำถามฉันก่อนจะถอนหายใจแล้วกอดฉันโดยส่งความรักความอบอุ่นของท่านมาทางกอดแล้วตอบฉันเบาๆว่า

    คุณพ่อของหนูไปสบายแล้วจ๊ะ

    ไปสบายหรอค่ะตอนนั้นฉันยังเด็กมากยังไม่รู้เองอะไร

    จ๊ะท่านเห็นว่าฉันเงียบไปสักพักท่านเลยพูดขึ้นอีกว่า อย่าคิดมากเลยนะเราต้องสู้ต่อไปแม่จะอยู่ตรงนี้กับหนูเองนะเมเปิ้ล ลูกต้องเข้มแข็งและอย่าอ่อนแอนะลูก

    ค่ะคุณแม่หนูจะทำให้ได้ค่ะนั้นสินะคุณแม่ท่านพูดถูกฉันจะต้องสู้ต่อไปห้ามอ่อนแอห้ามร้องไห้ จะทำได้ไหมเนี่ยยัยเมเปิ้ลเอ้ย!!

    “คุณหนูครับๆ”เสียงคุณลุงทองสุขเรียกฉันทำให้ฉันสะดุ้งแล้วลืมสิ่งที่ฉันคิดไป

    “อะ อะไรหรอค่ะคุณลุง”ฉันตอบเสียงตะกุกตะกัก

    “เปล่าครับ แค่เห็นคุณหนูเงียบไป แล้วลุงก็แค่จะบอกว่าถึงโรงเรียนแล้วครับ”

    “คะ ค่ะ ขอบคุณนะค่ะคุณลุง”ฉันรีบเดินลงจากรถ ฉันจะต้องไม่ลืมคำที่ฉันสัญญากับคุณแม่ ฉันต้องทำให้ได้ ฉันเดินตามถนนในโรงเรียนมาเรื่อยๆมัวแต่คิดเรื่องนู้นนี้นั้นจน...........

    ตุ๊บ!!!

    ฉันไม่ได้มองทางอีกแล้วจนฉันชนคนๆหนึ่งเขาเป็นผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีใช้ได้ท่าทางจะเป็นนักเรียนใหม่เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยผมก็สีส้มทองตาสีฟ้าต้องเป็นลูกครึ่งแน่ๆเลย

        แต่ว่าวันนี้โถ่ ให้ตายเถอะซวยแต่เช้าเลยฉัน ฉันกำลังจะเอ่ยปากขอโทษแต่ดันโดนอีตาคนนั้นด่ามาก่อนซะงั้น

    $#$%#$%#!#$^&^%”อีตาผมสีส้มทองคนนี้พูด(ภาษาชนพื้นเมืองของประเทศ E)

    “เอ่อ” ภาษาอะไรเนี่ยไม่เห็นเคยได้ยินเลยแต่คุ้นๆนะ หรือจะเป็นภาษาต่างดาว นี่มนุษย์ต่างดาวหรอเนี่ย เหวอ!!!! ฉันจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเข้าสู้สินะ พูดไม่เก่งอยู่ด้วย “ Sa sorry I not....”

    “เหอะ ภาษาอังกฤษห่วยมาก พูดก็ไม่ชัดไปหัดเรียนภาษาอังกฤษใหม่ไป”อีตาบ้าผมทองพูดไทยชัดแจ๋วเลย เหอะอย่างนี้มันน่าด่าซะให้เข็ดเลยแถมยังมีหน้ามาด่าว่าฉันไม่เก่งอังกฤษอีก (แต่ก็จริง) ไม่ได้ยังไงก็จะมาหยามยัยเมเปิ้ลคนนี้ไม่ได้

    “นี่ นายนะ มาด่าฉันได้ยังไงห๊ะ อีตาบ้าปากเสีย อีตามนุษย์ต่างดาว บราๆๆ -*- ” ฉันตะโกนใส่หน้าอีตาผมส้มทองนี้จนเขามองหน้าฉันนิ่งสีหน้าเขาไม่รู้สึกกับคำที่ฉันด่าไปเลย รู้สึกเหมือนเขาไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่ได้ยินที่ฉันพูดกันเนี่ย

    “เธอชนฉัน เธอต้องชดใช้นะ”อีตาบ้าผมสีทองพูดแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆเหมือนมีแผนอะไรสักอย่าง

    “ห๊ะ อะไรกันแค่นี้เองนะขอโทษก็น่าจะพอแล้วนิ ”ฉันค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้นหลังจากที่นั่งด่าอีตาบ้าอยู่นานจนคนรอบๆหันมามอง -////- เริ่มอายแล้วสิ ฉันไม่ใช่คนนิสัยไม่ดีนะอย่าเข้าใจผิด

    “แต่เธอทำฉันเป็นแผลนะ นี่เห็นไหม”เขาพูดเสียงดุพรางยกแขนที่ถลอกให้ดู โถๆๆแขนที่แสนจะขาวของเขาดันมาถลอกแถมมีเลือดซึมมานิดๆด้วยน่าเสียดายแขนสวยๆจัง แต่นี่ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ยไม่ได้ๆ

    “ก็ไปทำแผลที่ห้องพยาบาลสิ มานี่ฉันจะพาไปเอง”ฉันพูดจบแล้วรีบลากตัวเขามาหยุดที่หน้าห้องพยาบาล ฉันใช้มือดันหลังเขาให้เข้าไปทำแผล ไม่นานก็เสร็จ...

    ok ฉันเสียเวลามามากแล้วถ้าไม่มีอะไรล่ะก็ฉันไปล่ะ”ฉันกำลังหมุนตัวเดินหนีไปแต่มีมือเรียวยาวของเขามาดึงแขนของฉันแล้วหมุนไปเผชิญหน้ากับเขาจังๆจนฉันตั้งหลักไม่อยู่เลยซบไปที่หน้าอกอันแข็งแกร่งของขาอย่างจัง ตอนนั้นฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

    “สบายไหม”เขาพูดด้วยน้ำเสียเรียบ ฉันเลยรีบผลักเขาออกไปห่างๆแล้วยืนมองหน้าเขาพยายามไม่ไห้ตัวเองหน้าแดง

    “มะ มีอะไรอีกล่ะคุยกับจบแล้วไม่ใช่หรอ”ฉันพยายามไม่ให้เสียงสั่นแล้วนะแต่ทำไมเสียงฉันมันสั่นเครือแบบนี้ล่ะ ไม่นะ ยัยเมเปิ้ล อย่าหวั่นไหวนะ

    “หึ เขินหรอหน้าแดงเชียว”เขาพูดปนขำ นั้นมันทำให้ฉันหันขวับไปจ้องหน้าเขาโดยเร็วทำให้สายตาเราสองคนประสานกัน ฉันตาฝาดไปรึเปล่าเมื่อกี้เขายิ้ม เขาไม่น่าจะยิ้มเป็นนะ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าหน้าตัวเองมันร้อนผ่าวขึ้นมาเลยล่ะ

    “ขงเขินอะไรกัน ห๊ะ มีอะไรพูดมาเลยฉันรีบ”ฉันพูดโดยไม่มองหน้าเขา เพราะกลัวว่าหน้าตัวเองจะแดงขึ้นมากกว่าเดิมนะสิ เฮ้อทำไมเขาหล่ออย่างนี้นะ “ มองดีๆก็ อึ้ย!! ฉันกำลังคิดอะไรของฉันเนี่ยไม่นะไม่ๆ”ฉันสบถออกมาเบาๆแล้วใช้มือตีหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมา

    “เธอเป็นอะไรของเธอ”เขาพูดเสียงเรียบแล้วมองฉันอย่างครุ่นคิด สงสัยเขาคงคิดว่าฉันบ้าไปแล้วมั้ง เหอะๆ

    “เปล่านิ ว่าแต่มีอะไรพูดมาเลยฉันรีบไปขึ้นเรียน”-*-

    “เธอเดินมาชนฉันทำให้ฉันล้มแล้วมีแผล เธอต้องชดใช้ฉัน 3 อย่างเอาไว้ฉันต้องการใช้มันเมื่อไหร่ฉันจะบอกเธอเอง”

    “ชดใช้หรอ เหอะ ก็ได้ก็ได้แค่นี้ใช่ไหมงั้นฉันไปล่ะ”เมื่อฉันพูดจบฉันก็รีบวิ่งแจ้นหนีเขาทันที เหอะ ชดใช้งั้นหรอ ให้ตายเถอะซวยชะมัดเลยโถ่เอ้ย!!

        ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนแบบเหนื่อยๆ ดีนะที่วันนี้อาจารย์ไม่อยู่เลยสั่งงานให้ทำแล้วก็ไปทำธุระ ฉันก็เลยรอดตัวไป^^ เมื่อฉันเข้ามานั่งในห้องได้ไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อีตาบ้าคนนั้นนั่นเอง แหมผมสีส้มทองกับรูปร่างของเขาช่างเข้ากันจริงๆนี่พระเจ้าคงจะทำสารความหล่อหกใส่ตอนที่สร้างเขามาแน่ๆเลย โอ๊ย!! ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย ไม่ๆ ไม่คิดๆ แต่เดี๋ยวก่อนนะ เรียนห้องเดียวกันด้วยหรอเนี่ยมีหวังฉันโดนอีตาคนนี้แกล้งแน่ๆเลย ฮือๆToT

    “ไง สวัสดี”ฉันรีบหันไปมองที่ต้นเสียงทันที

    “โอ๊ะ!!

    “อะไรกัน ตกใจนักหรือไงห๊ะนี่คนนะไม่ใช่ผีแบบเธอ”ชายผมสีส้มทองพูดเสียงเรียบแถมทำหน้าตากวนประสาทซะมัด อย่างนี้น่าจะต่อยสักรอบดีไหม(คิดไปงั้นแหละไม่กล้าทำ)

    “เอ๊!! นี่นายฉันคนย่ะไม่ใช่ผี”

    “หรอ”

     “ใช่ นายนี่มันกวนประสาทชาวบ้านจริงๆ”

    “อืม ขอบใจนะ”

    -*- ฉันคุยกับนายฉันคงจะทำงานไม่เสร็จแน่ๆ หึ”

    “งั้นก็อย่าคุยสิ ฉันก็ไม่ได้อยากคุยกับเธอนักหรอก”

    “ได้”ฉันตอบเขาไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจแล้วหันกลับมาสนใจเนื้อหาที่ต้องเรียนต่อ ให้ตายเถอะวันนี้น่าเบื่อชะมัด วิชาแรกก็วิชาภาษาอะไรไม่รู้เรียนไม่เห็นรู้เรื่องเลยอาจารย์บอกว่ามันเป็นภาษาชนพื้นเมืองของประเทศ E อะไรนักหนาไม่รู้เยอะแยะไปหมดปวดหัวชะมัดเลย ไม่รู้จะเรียนทำไมไม่จำเป็นต้องใช้หรอกไอ้ภาษาแบบนี้ แม่นะแม่ทำไมต้องบอกให้คุณลุง (ผู้อำนวยการ) เพิ่มครอสวิชานี้ด้วยนะ คุณลุงแกก็ยอมด้วย -*- คุณลุงบอกว่าเป็นการรักษาวัฒนธรรมชนพื้นเมือง เฮ้อ ยังไงฉันเป็นเด็กไม่สามารถไปขัดใจผู้ใหญ่เขาได้หรอก “โอ๊ย!! ฉันหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะเพราะความปวดหัวและงงกับภาษาที่กำลังทำ

    “เหอะ ตอนนั้นก็บอกจะตั้งใจทำงาน แล้วดูตอนนี้สิหลับซะงั้น ยัยบ๊องเอ้ย”

    “หืม อะไรใคร ยัยบ๊องย่ะ”

    “เธอนั้นแหละ ยัยบ๊อง”

    “ฉันไม่ได้ชื่อ ยัยบ๊องย่ะฉันชื่อเมเปิ้ล ทีหลังหัดเรียกให้ถูกบ้างนะนายชาเย็น”

    “ฉันไม่ได้ชื่อชาเย็นฉันชื่อ สไปรท์เธอก็หัดเรียกให้ถูกซะบ้าง”

    “ชิ”แต่ชื่อสไปรท์งั้นหรอ คุ้นๆนะเหมือนได้ยินที่ไหนมาก่อน

    “ไหนถึงไหนแล้วห๊ะงาน เอามาดูหน่อยสิ”ฉันกำลังจะคว้าสมุดมาเก็บก็แต่ดันโดนอีตาชาเย็นแย่งไปก่อนจนได้

    “ฮ่าๆๆ ทำไม่เป็นทำไมไม่บอกฉันจะได้สอน”

    “ใครว่าฉันทำไม่เป็น ฉันไม่อยากโชว์ฝีมือต่างหากย่ะ” (เรื่อโกหกนี่เก่งจัง)

    “ก็เห็นๆอยู่ว่าทำไม่เป็นมานี่เดี๋ยวฉันสอน”

    “ฉันไม่จำเป็นต้องให้ใครสอนแม้นแต่นายก็ด้วย นายชาเย็น แบร่ๆ”ฉันเก็บสมุดลงใต้โต๊ะและมองไปนอกหน้าต่างและไม่ได้หันกลับไปสนใจว่าหน้าตาของอีตาเย็นชาตอนที่โดนฉันปฏิเสธเป็นยังไง บรรยากาศข้างนอกนี่ร่มรื่นจังนะตอนไหนจะพักเที่ยงเนี่ย ฉันมัวแต่เพลินมองข้างนอก จนพึ่งนึกได้ว่างานยังไม่เสร็จเลยรีบหันเข้ามาในห้องเพื่อจะทำงานต่อแต่ฉันไม่ทันระวัง หน้าของฉันก็เกือบจะชนกับหน้าของอีตาเย็นชาที่จ้องหน้าฉันด้วยสายตาที่พร้อมจะฆ่าคนนั้นที่จ้องทันทีเลยแหละ แถมคนนั้นที่เขาจ้องก็คือฉันอีก สายตาเขาตอนนี้ฉันไม่กล้าจะมองเลยแหละน่ากลัวจัง หรือคำพูดฉันมันแรงไปนะ 0-0?

    “นี่ นายะนะเป็นอะไรรึเปล่าห๊ะ”ฉันพูดขึ้นเพื่อขจัดสายตาเขาให้เขามองไปทางอื่น ถึงฉันจะถามไปงั้นแต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรมาหรอกเขาหันไปทำงานของเขาต่อ ส่วนฉันก็คงต้องใช้วิชาโอตามั่วซะแล้วมั้งเนี่ย ยากชะมัดเลย แม่จ้าหนูทำไม่ได้T.T

    กริ๊ง!!!! .................พักเที่ยง

      เย้ในที่สุดก็พักเที่ยง ปวดหัวอยู่นานในที่สุดก็ ไม่เสร็จอยู่ดีแหละ ยัยคาราเมลหายไปไหนเนี่ยไม่เห็นแต่เช้าแล้วรึว่าไม่สบายสงสัยต้องไปเที่ยวไม่ชวนแน่ๆเลย อิอิ กลับมาเลยไม่สบาย 5555+ ว่าแต่แล้วฉันจะไปกินข้าวกับใครเนี่ย “สงสัยวันนี้ต้องไปกินข้าวคนเดียวแล้วล่ะมั้ง เฮ้อ”

    ฟึบ!!

    “โอ๊ย เอ๋นี่นาย”ฉันชี้หน้าเขาโดยที่มืออีกข้างของฉันโดนเขาจับมือไว้อยู่ ทำไมพระเจ้าต้องสร้างผู้ชายให้มีกำลังมากกว่าผู้หญิงเนี่ย

    “อะไร”เขาตอบหน้านิ่ง

    “นายจะจับมือฉันทำไม ฉันจะไปกินข้าว”ฉันตอบแล้วค่อยๆแกะมือเขาออก ให้ตายเถอะแกะยังไงก็แกะไม่ออก

    “ไปกินข้าวกับฉันสิ เห็นเธอบอกว่าวันนี้เธอจะต้องไปกินข้าวคนเดียวไม่ใช่หรอ”

    “มะ”ฉันยังกำลังจะตอบปฏิเสธเขา แต่เขาดันดึงแขนฉันไปโดยไม่รอคำตอบ แล้วทำไมเขาต้องพูดเป็นเชิงคำถามด้วยล่ะ หึ ในที่สุดเขาก็ฉุดกระชากลากถูฉันมาถึงโรงอาหารจนได้

    “เธอรออยู่ที่โต๊ะตรงนี้เดี๋ยวฉันจะไปซื้อข้าวมาให้ แล้วเธออยากกินอะไร”

    “ไม่เป็นไรฉันไปซื้อเองก็ได้แล้วนายก็เป็นเด็กใหม่ไม่ใช่หรอ”

    “แต่ฉันเป็นผู้ชายนะจะให้ผู้หญิงไปซื้อได้ยังไง”

    “อืมๆ นายนี่ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่านายจะเป็นสุภาพบุรุษกับเขาด้วย หึๆ”ฉันพูดปนขำ เขาไม่ได้พูดอะไรมากเพราะถ้าเขาตอบฉันมาวันนี้คงจะไม่ได้กินข้าวกันแน่ๆ เขาเดินไปซื้อข้าวที่ร้านป้าเขียว ฉันพึ่งนึกได้ ไม่มีน้ำนี่น่า ฉันคงต้องไปซื้อเองซะแล้วถ้ารอให้เขาไปซื้อให้คนคงจะเยอะกว่านี้แน่ๆอีกอย่างฉันไม่ค่อยชอบอยู่นิ่งด้วยสิ ในที่สุดก็ฝ่าด่านคนเยอะแยะมาถึงร้านขายน้ำจนได้ “ป้าค่ะน้ำเปล่า 2 ขวดค่ะ” เมื่อฉันซื้อน้ำเสร็จกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะสงสัยวันนี้จะเป็นวันซวยของฉันจริงๆสินะเดินชนใครไม่ชนดันไปชนพี่บิ๊ก (ขาโจ๋ประจำโรงเรียน)

    “เฮ้ยนี่เดินดูทางรึเปล่าเนี่ย”

    “ขะ ขอโทษค่ะ”

    “เปลี่ยนจากคำขอโทษมาเป็นแฟนพี่ดีกว่าจ๊ะน้องเมเปิ้ล”แหมพอเห็นหน้าว่าเป็นใครเปลี่ยนน้ำเสียงเชียวแถมทำหน้าตากวนประสาทอีก

    “ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่อยากมีแฟนเป็นนักเลงโรงเรียน แต่อยากมีลูกน้องเป็นนักเลงมากกว่าค่ะแล้วพี่บิ๊ก พูดอย่างนี้เดี๋ยวเมเปิ้ลจะไปฟ้องคาราเมลเลยนะค่ะ”

    “แหมๆพี่ก็แค่ล้อเล่นนะ ตามประสาพี่กับน้องเนอะ”พี่บิ๊กไม่พูดเปล่าเขาพยายามจะจับแขนฉันและดึงเข้าไปกอดเหมือนทุกครั้งที่ทำแต่ก็เคยได้กอดฉันสักทีเพราะฉันมักจะจับแขนพี่บิ๊กแล้วหมุนไปข้างหลัง

    ฟึบ!! โอ๊ย!!

       เสียงคนล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงฮือฮากันทั้งโรงอาหาร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อฉันตั้งสติได้ฉันก็รู้สึกว่าฉันกำลังถูกโอบไหล่อยู่พร้อมกับพี่บิ๊กที่ล้มลงกับพื้นเหมือนโดนผลักแรงๆ (ฉันไม่ได้ทำนะ)ผู้คนในโรงอาหารจ้องมาทางพวกเราเป็นสายตาเดียวกันส่วนคนที่โอบไหล่ฉันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนายชาเย็นนั้นแหละ

    “เป็นอะไรรึเปล่าเจ็บตรงไหนไหม”เขาถามด้วยน้ำเสียงกังวลนิดๆแต่หน้าเขานิ่งจนไม่มีความรู้สึกลอกผ่านออกมาทางใบหน้าของเขาได้เลย

    “ไม่”

    “เห็นไหมฉันบอกให้เธอรออยู่ที่โต๊ะเธอเคยจะฟังฉันรึเปล่า เธอนี่มันชอบขัดคำสั่งจริงๆ เธอนี่มันหัวดื้อจริงๆ”เขาร่ายยาวออกมา เขานี่ทำเหมือนกับเป็นผู้ปกครองฉันงั้นแหละ

    “พูดจบรึยังฉันจะได้พูด”ฉันพูดแล้วทำหน้าตากวนประสาทเขา

    “เธอนี่”

    “อะไรกัน ฉันก็แค่มาซื้อน้ำเท่านั้นเองนะ ส่วนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่บิ๊กเขาเป็นขาโจ๋ประจำโรงเรียน เขาไม่กล้าทำอะไรฉันหรอกเพราะฉันมีคาราเมลสาวสวยแฟนพี่บิ๊กเขาเป็นเพื่อน ที่พี่เขาพูดเขาก็แค่พูดเล่นๆตามประสาพี่กับน้องเท่านั้นเองนายไม่ควรคิดไปเองเลยนะ”ฉันไม่รอให้เขาพูดจบฉันก็ร่ายยาวพร้อมอธิบายเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วรีบหลีกตัวออกจากกอดของเขามาหาพี่บิ๊กที่กำลังยืนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    “พี่บิ๊กเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ”ฉันรีบถามด้วยความเป็นห่วงเพราะถ้าพี่บิ๊กเป็นอะไรไป ยัยคาราเมล ต้องบ่นยาวแน่ๆเลย

    “ไม่หรอกจ๊ะพี่สบายมาก ว่าแต่หมอนั้นเป็นใครหรอเมเปิ้ลพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย”

    “อ๋อ คนรู้จักค่ะ พึ่งย้ายมาจาก จากไหนไม่รู้ค่ะไม่เคยถาม”

    “อืม พี่ก็นึกว่าเขาเป็นแฟนเมเปิ้ลซะอีก”

    “บ้าหรอค่ะ เราสองคนเกียจกันจะตาย”ฉันพูดแล้วทำหน้าตาไม่พอใจใส่นายชาเย็น

    “เอ่อ...ฉันขอโทษนะเมเปิ้ล”

    “นายจะขอโทษฉันทำไม นายควรจะขอโทษพี่บิ๊กมากกว่านะ”

    “อืม พี่บิ๊ก ครับผมขอโทษนะครับผมเข้าใจผิด”

    “ไม่ๆ พี่ไม่ถือสาอะไรหรอกนะ ฮ่าๆ หน้าตาพี่นี่มันโหดอยู่วันยังค่ำสินะ”

    ตอนเย็น...................

    “เมื่อไหร่จะมานะ”

    “รออะไรอยู่”

    “นี่นายมาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงตกใจหมด”ฉันตกใจแทบจะใช้มือชกหน้าเขาแล้วเชียว ฉันน่าจะเตือนเขานะเพราถ้าทำแบบนี้อีกฉันคงไม่ไว้หน้าเขาแน่นอน

    “หน้าเธอตอนตกใจน่ารักดีนะ”เขาสบถออมาเบาๆแต่ฉันไม่ได้ยินหรอกว่าเขาพูดอะไรฉันเลยถามเขาไปอีกรอบ

    “หืมอะไรนะ”

    “เปล่า ฉันบอกว่าหน้าเธอตอนตกใจตลกดีอ่ะเหมือนลิงเลยฮ่าๆๆ”

    “นายนี่มัน จริงๆเลยนายเย็นชา อีกอย่างฉันเป็นคนนะย่ะไม่ใช่ลิง”ฉันโวยวาย

    “แล้วเธอรออะไรอยู่”

    “รอรถที่บ้านมารับสิ”

    “งั้นฉันรอเป็นเพื่อน”

    “ไม่เป็นไรฉันอยู่คนเดียวได้”

    “เธอนี่ดื้อจริงๆ ถึงจะยังงั้นก็เถอะฉันจะรอเป็นเพื่อนอยู่ดีแหละ”

        หลังจากทานข้าวกับคุณแม่เสร็จฉันก็เดินขึ้นห้องมาอาบน้ำเตรียมตัวนอน แต่ก่อนที่ฉันจะนอนฉันจะต้องจดบันทึกซะหน่อย

    วันนี้จะว่าเป็นวันที่ดีก็ไม่ใช่ ไม่ดีก็ไม่เชิงฉันได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งตัวสูงหน้าตาใช้ได้นะ แต่นิสัย เนี่ยสิต้องปรับปรุงหน่อย จะว่าไปถ้ามองเขาดีๆเขาก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ หรือว่าเขาต้องการอะไรจากฉันจะต้องรู้ให้ได้ แถมยังมีการให้ฉันชดใช้อีกเฮ้อ

    ลงชื่อ

    เมเปิ้ล

    อีกด้านหนึ่ง.....

    วันนี้เป็นวันแรกของการไปเรียนที่โรงเรียนใหม่ มันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายหรอกกนะที่ต้องย้ายโรงเรียนเพียงแต่ฉันจะต้องทำภารกิจอะไรต่างๆนาๆที่ต้องรับผิดชอบแถมภารกิจนี้ไม่ใช่ง่ายๆด้วยสิ เป็นภารกิจที่จะต้องดูแลยัยตัวแสบเมเปิ้ลสาวน้อยลูกท่านลุงเพื่อนคุณพ่อที่เป็นมาเฟียอยู่ที่ประเทศEไม่อยากจะเชื่อว่าลุงท่านจะมีลูกสาวที่น่าตาน่ารักใช้ได้เลยนะแต่เสียเพียงอย่างเดียวหัวดื้อไปหน่อย ถึงอย่างนั้นก็เถอะฉันจะต้องดูแลเธอให้ได้อยู่ดี จนกว่าจะถึงวันที่เธอจะต้องขึ้นไปเป็นมาเฟียแทนพ่อของเธอ ในขณะที่ฉันกำลังทำภารกิจอยู่ฉันคงจะต้องระวังเป็นพิเศษเพราะมีคนรู้แล้วว่าเธอคือลูกมาเฟียแต่คงยังไม่ปรากฏตัวเท่านั้น มันคงจะรอคอยวันที่จะต้องทำร้ายเธอแน่ๆ ถึงจะตายฉันก็จะต้องปกป้องเธอยัยเมเปิ้ลตัวแสบ

           ในขณะที่ฉันกำลังนั่งจดบันทึกอยู่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องจด แต่มันก็คงจะชินจากตอนเด็กๆล่ะมั้งเพราะฉันเคยนั่งจดบันทึกความทรงจำกับเด็กคนหนึ่ง แต่มันเป็นเพียงความทรงจำที่ลางเลือน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงอยากทำภารกิจนี้ทั้งๆที่ฉันก็มีภารกิจที่ฉันสนใจอยู่มากมาย มันคงจะเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต ตอนแรกที่ฉันได้เจอเมเปิ้ลฉันรู้สึกได้เลยว่าเมเปิ้ลกับฉันเคยเจอกันมาก่อน แต่เพียงแค่เมเปิ้ลเขาโตขึ้นมาก เขาหัวดื้อมากกว่าเดิมซะอีก ความหวังตั้งแต่ตอนเด็กๆที่ฉันรอให้เมเปิ้ลกลับมาตามคำสัญญาว่า ไปร์ฉันจะกลับมาหานายฉันจะกลับมาเล่นกับนายอีกนะ คำๆนั้นมันยังก้องอยู่ในหัวใจฉันไม่เคยลืม เธอคงจะลืมคำสัญญาของเราสองคนแล้วล่ะมั้ง.................

    เช้าวันต่อมา.............

    “แม่ค่ะเมเปิ้ลไปเรียนก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ”

    “จ๊ะ เรียนให้สนุกนะลูกเย็นนี้จะมีแขกกมาที่บ้านเราอย่ากลับช้านะลูก”

    “ค่ะแม่”

        เฮ้อ วันนี้ก็คงจะเป็นวันที่น่าเบื่ออีกวันหนึ่งสินะเมื่อไหล่จะปิดเทอมเนี่ย เฮ้อออ ฉันนี่ก็บ้าเนอะพึ่งเปิดเทอมแค่สองวันเองจะให้ปิดอีกล่ะ ว่าแต่วันนี้มีแขกมาเยี่ยมหรอใครกันนะ อยากรู้จัง

    ตึ้งตึง!!

    “เอ๊ะ ไลน์เข้า คุณแม่นี่น่า”   แม่ลืมบอกไปว่าให้ชวนเพื่อนที่โรงเรียนมาหน่อยนะจ๊ะ

    “วันนี้ต้องมีงานเลี้ยงแน่เลยคุณแม่ถึงให้ชวนเพื่อนมาที่บ้าน แขกคนนั้นเป็นใครกันนะ”

       “โอ๊ย วันนี้เมื่อยชะมัดเลย เต้นอะไรไม่รู้ขาจะพันกันหมดแล้วเนี่ยแถมได้คู่กับอีตาชาเย็นอีก ซวยชะมัด”หลังจากที่เรียนชั่วโมงภาคเช้าจบด้วยการเรียนเต้นลีลาศ

    “เธอบ่นอะไรของเธอ”

    “เห้ย นี่นายมาให้เสียงบ้างสิ ฉันตกใจหมด”

    “ถ้าฉันมาแบบมีเสียงฉันก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังนินทาฉันอยู่นะสิ”เขาพูดกวนประสาทฉันอีกแล้วนะ อึ้ย น่าจะกระโดดกัดหูวะให้เข็ด(ฉันเป็นตัวอะไรเนี่ย)

    “ไม่คุยด้วยแล้ว ชิ”

    “แหม แค่นี้เองทำเป็นโกรธ งั้นขอโทษล่ะกันนะ ดีกันนะ”เขาพูดแล้วชูนิ้วก้อยเรียวยาวท่าทางจะให้ฉันดีด้วย ฉันยิ่งเป็นคนใจอ่อนอยู่ยิ่งสีหน้าท่าทางแล้ว เขามีมุมแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย

    “นายจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย กะจะแกล้งฉันล่ะสิ ไม่มีทางหรอก แบร่”ฉันแลบลิ้นให้เขาแล้วรีบหันหลังเดินหนีออกมาจากตรงนั้น สีหน้าท่าทางอ้อนของเขามันทำให้ฉันหัวใจเต้นแรงผิดปกตินี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย-///-

            ฉันเดินมาเรื่อยจนหยุดที่ตึกๆหนึ่งของโรงเรียนตึกนี้เป็นตึกห้ามเข้าทั้งเก่าหญ้ารกรุงรัง ฉันน่ะน่าจะบอกคุณลุงให้คนสวนมาตัดบ้างก็ดีนะเนี่ย

           นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่ฉันไม่เคยกล้าขนาดถึงขั้นที่จะเดินเข้ามาในเขตแดนนี้เลยฉันรู้สึกเหมือนฉันถูกสะกดจิตให้เดินเข้ามาในตึกนี้ฉันเดินขึ้นตามบันไดมาเรื่อยๆจนหยุดที่ห้องๆหนึ่งเขียนว่า ‘4/3’ นี่คงจะเป็นห้องเรียนเก่าสินะฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรอยู่ในนั้น

             ครั้งแรกที่ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องเดินสำรวจดูรอบๆห้องนี้เก่ามากใยแมลงมุมเต็มไปหมดโต๊ะที่กองรวมกันอยู่ข้างหลังกับกระดานดำเก่าๆ ฉันไม่ค่อยจะรู้ประวัติโรงเรียนนี้สักเท่าไหร่ทำไมตึกนี้ถึงถูกปิด ทำไมถึงห้ามเข้า

    “มันต้องมีอะไรที่มีลับลมคมในอยู่แน่ๆ ซึ่งฉันเมเปิ้ลคนนี้จะต้องสืบให้ได้”ฉันสบถกับตัวเองเบาๆ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น