คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : @_แนวข้อสอบแพทย์ขอนแก่น_@ > เป็นยังไงบ้างน้า.....แล้วอ่านยังไงดี
ขอนอกเรื่องแปป #นอกเรื่องตลอดดด! 555555
พี่อยากแนะนำให้น้องลองเข้าค่ายของคณะอื่นๆบ้างนะ
ที่นอกเหนือจากค่ายแพทย์แล้ว....เผื่อน้องจะรู้สึกสนใจ
แล้วก็ศึกษาดูบ้าง จะได้เรียนอย่างที่น้องชอบจริงๆหน่ะ
เป็นการเปิดใจรับอย่างอื่น แล้วก็รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย :)
P.S. พี่เคยไปเข้าค่ายวิศวะ กับ อักษรด้วยแหละ ฮ่าๆ
มาๆๆๆ เข้าเรื่องการสอบแพทย์ขอนแก่นเลยดีกว่า
>>>>> ข้อสอบเป็นยังไงบ้างน้าาาา..... <<<<<
เกริ่นก่อนว่าทุกวิชามี 50 ข้อ 5 ฉ้อย ข้อละ 2 คะแนน
คะแนนเต็ม 100 คะแนน ทุกวิชาต้องผ่านเกณฑ์ 30% (30 คะแนน)
มีเวลาวิชาละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ใช้เวลาสอบทั้งหมด 2 วัน
โดยน้ำหนักแต่ละวิชา คือ.....ภาษาอังกฤษ 20% , ไทย 10% , สังคม 10%
คณิตศาสตร์&ฟิสิกส์&เคมี&ชีวะ อย่างละ 15%
ก่อนจะลงสนามสอบจริง แนะนำให้หาข้อสอบโควต้าของขอนแก่นมา
ทำย้อนหลังซักปีนึงหรือมากกว่านั้นเพื่อให้รู้แนวทางของข้อสอบ
ข้อสอบโควต้าจะมี 4 ฉ้อย ป.ล. ข้อสอบ MDX (ชุดเดียวกับ MD02 , DTX) จะไม่เปิดเผยน้า
รีบไปแต่เช้าด้วยหล่ะ สายๆแล้วรถจะติด(พี่ไปถึงโรงเรียน 6 โมง 555 รีบมาก!)
ไปทำสมาธิด้วยแหละคะ ไปนั่งให้ชินกับสนามสอบ ไปหาตึก หาห้อง
ก่อนออกจากโรงแรมที่พักก็ควรทำธุระให้เรียบร้อย(คืนก่อนสอบพี่กินโยเกิร์ต อิอิ)
คณิตศาสตร์
วิชานี้ยากมากๆโดยเฉพาะปีนี้ และยากมาทุกๆปีคะ ต้องเตรียมตัวมาให้ดีๆเลยนะ
ระดับความยากจะมากกว่าข้อสอบโควต้าขอนแก่นเยอะมาก
ข้อนึงชอบมีข้อย่อยๆแล้วถามว่าข้อไหนถูกบ้าง
บางข้อพอทำได้นะ แต่คือต้องใช้เวลาเยอะมากเพราะข้อย่อยๆนี่แหละ
แล้วด้วยความที่เค้าให้เวลามาน้อยอยู่แล้ว
จึงทำไม่ทันกันเป็นแถวเลย มันเป็นวิชาแรกที่สอบด้วยคะ
พี่เลยทำใจตั้งแต่วิชานี้เลย 5555 ไม่ติดแน่ๆ ประมาณนี้
รอลุ้นแค่ว่าวิชานี้จะเกิน 30 ไหม๊ (ซึ่งผลออกมาคือพี่ได้ 30 เป๊ะ #เกือบหลุดแล้ว)
ทุกๆบทจะออกเฉลี่ยๆกันที่เห็นมากหน่อย คือ ความน่าจะเป็น + ตรีโกณ + สถิติ
พอได้ข้อสอบมาก็มัวแต่พลิกไปพลิกมา แล้วก็เปิดผ่านซ้ำๆ
ไม่รู้จะทำข้อไหนดี (feelนี้เลยจริงๆ) เลยพอรู้นิดหน่อยว่า
ปีพี่ไม่ออกทฤษฎีกราฟจ้าาาาา..........
เท่าที่ทำไปมีข้อเดียวที่ง่ายไปเลย เป็นโจทย์ในบทสถิติ
แบบบอกฐานนิยม ค่าเฉลี่ย พิสัย หาค่าสังเกตที่เหลือ พอนึกออกไหมเอ่ย?
ส่วนโจทย์ในบทความน่าจะเป็น + ตรีโกณมิติ จะชอบหลอก ต้องดูเงื่อนไขให้ดีๆ
จำได้ว่าเรื่องเซตออกในข้อแรกเลย ถามว่าข้อไหนถูก
ซึ่งเราต้องแม่นทฤษฎีมากๆ (ซึ่งพี่ไม่แม่นเลยแห้วไป T^T)
การทำโจทย์เลขของพี่จะเปิดดูผ่านๆก่อนว่ามีโจทย์ข้อไหนที่พอทำได้บ้าง
จะไม่ทำเรียงข้อไป แล้วก็ข้ามไปดูโจทย์แคลคูลัส(แต่MDXไม่ออกบทนี้) + สถิติก่อน
เพราะมันค่อนข้างตายตัว ไม่พลิกแพลงอะไรมาก
หลังจากนั้นจะไปทำในบทที่ตัวเองถนัด แล้วค่อยทำ
ความน่าจะเป็น + ตรีโกณมิติทีหลัง แต่ถ้าข้อไหนดูแล้วมันง่ายก็ทำไปเลยยย #ลุย!
ฟิสิกส์
วิชานี้ความยากง่ายพอๆกับโควต้าเลยจ้า คือจะไม่ยากมาก
ถ้าจำสูตรแม่น ก็จะทำได้เลย ไม่ต้องคิดมาก
เรื่องทฤษฎีก็ต้องแม่นนะ มีหลายข้อเหมือนกันที่เป็นบรรยาย
ถ้าน้องๆฝึกทำโจทย์บ่อยๆ เจอโจทย์บ่อยๆอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา
ปีของพี่เค้าเน้นฟิสิกส์ของ ม.5 แต่ปีก่อนจะเน้นของ ม.4
ไม่แน่ว่าปีของน้องอาจเน้นของ ม.6 ก็ได้น้าาา ^.^
แต่เค้าจะไม่ออกเรื่องฟิสิกส์อะตอมกับฟิสิกส์นิวเคลียร์ (ของ ม.6 เทอม 2)
เพราะเค้าจะถือว่าเราไม่ได้เรียน.....ไฟฟ้ากระแสสลับ
ซึ่งเป็นบทของ ม.6 เทอม 1 ปลายๆก็ยังออกแค่ 2 ข้อเอง
เรื่องไฟฟ้ากระแสก็จะออกเรื่องการหาทิศซะส่วนมาก ไม่เน้นคำนวณ
บางข้อเค้าก็เอาซะคุ้มเลยนะ เช่นการเคลื่อนที่ ม.4 เทอม 1
ถามเป็นข้อย่อยๆอ่ะคะ ข้อแรกให้หาระยะทาง ข้อสองหาเวลา ประมาณนี้
มีโจทย์ข้อนึงถามว่า ข้อใดไม่ใช่หน่วย SI (เมตร , แคนเดลา , คูลอมบ์ ,...)
แล้วก็มีข้อนึงเป็นกล่อง 2 กล่องวางทับกันอยู่ มีเชือกมาดึงกล่องล่าง
เค้าถามว่าแรงที่กระทำต่อ 2 กล่องนี้แตกต่างกันกี่แรง
แล้ววิชานี้พี่ก็ทำไม่ทันอีกแล้ว เป็นธรรมดาของวิชาคำนวณนะ
อ่อ...อย่าลืมดูเวลาด้วยนะ โดยส่วนตัวพี่จะใช้เวลา 5-10 นาทีสุดท้าย
ดิ่ง(ข้อ 3)ในข้อที่ยังไม่ได้ทำและทำไม่ได้ แล้วเอาเวลาที่เหลืออยู่บ้าง
มาทำต่อ ยังไงก็ค่อยลบแล้วฝนคำตอบใหม่ได้
***อย่าลืมมั่วให้ทันโดยเฉพาะวิชาเลข(และฟิสิกส์) แม้โอกาสจะถูกแค่ 20%
ก็ยังดีกว่า 0% เลยนะ***
แล้วก็แนะนำให้ดิ่งข้อที่เราตอบไปน้อยที่สุดให้หมด เพราะเค้าเฉลี่ยฉ้อยเท่าๆกัน
คือมี 50 ข้อ 5 ฉ้อย (ฉ้อยละ 10 ข้อ)
แต่บางคนก็จะดิ่งทีละ 3-4 ข้อก็เปลี่ยน แล้วดิ่งให้แต่ละฉ้อยมีประมาณ 10 ข้อ
ซึ่งแล้วแต่วิจารณญานของน้องนะคะ แต่ที่พี่เลือกดิ่งรวด
ก็เพราะว่าพี่มักไม่มี sense ในการเดา เดาทีไรก็ผิดทุกที 5555555
ก็เลยเลือกดิ่งไปข้อเดียวเลย -.-
ใครที่ปกติไม่ใส่นาฬิกา(เหมือนพี่)ก็ไปหาซื้อมาเน้ออออ
ตอนทำข้อสอบก็อย่าไปกดดันตัวเอง ไม่งั้นจะรนแล้วคะแนนจะแย่
เท่าที่ผ่านมาเราอ่านมาแค่ไหนก็ทำไปตามศักยภาพของเรา
แล้วคะแนนที่ออกมาจะใกล้เคียงกับความสามารถเราที่สุด
บางคนจะมีปัญหาเวลาลงสนามจริง มันจะรน แล้วสติแตก ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
พี่ก็แนะนำว่าเวลาทำโจทย์อยู่ที่บ้านก็จับเวลาด้วยทุกครั้ง
แล้วจะเริ่มชิน เริ่มรู้ว่าเราควรบริหารเวลาอย่างไร
สรุปพี่ได้คะแนนจากวิชานี้มา 58
เคมี
โจทย์ประมาณเดียวกับโควต้าขอนแก่นเลยจ๊ะ :)
คล้ายๆโจทย์ entrance เก่าๆ แนะนำให้ทำมาเยอะๆ
หรือจะไปหาข้อสอบโควต้าขอนแก่นมาทำย้อนหลังซัก 4-5 ปีก็ดี
ข้อสอบที่ออก เช่น ข้อใดแสดงการเกิด IE3 ได้ถูกต้อง
ถามรูปร่างพันธะ + เหลืออิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวกี่คู่
มีเรื่องการนับพันธะโควเวเลนต์ ให้การทดสอบมาแล้วถามว่าน่าจะเป็นสารใด
ปริมาณสารสัมพันธ์ กรด-เบส ออกคำนวณพื้นๆจ๊ะ
ทุกๆปีจะมีเรื่องเคมีอินทรีย์ 10 ข้อ (ถือว่าเยอะมากนะ)
เรื่องเชื้อเพลิงซากดึกดําบรรพ์และผลิตภัณฑ์จะออกบรรยายแบบละเอียดยิบ
ซึ่งพี่จำไม่ได้หรอก มั่วเอา --* พวกพอลิเมอร์ การถลุงไรงี้
สรุปพี่ได้มา 54 คะแนน (กะไว้ว่าจะได้ซัก 70 ฮ่าาาาา #ถูกหลอกบานแน่เลย)
ชีวะ
โจทย์จะยากกว่าโควต้านิดหน่อยคะ พี่ว่าแนวมันค่อนข้างจะต่างกัน
ในข้อสอบของพี่เหมือนจะเน้นการทดลองที่พี่รู้สึกมึนๆ ฮ่าๆๆๆ
เอาเป็นว่าต้องเอาทฤษฎีที่รู้มาประยุกต์ใช้ต่อ
โจทย์บางข้อก็ละเอียดยิบเลย แบบเปิดหาในหนังสือพี่เต๊นท์ไม่เจอ
งงเลยว่าเอาที่ไหนมาออก แต่ก็อย่าคิดมาก มั่วไปเลย มีข้ออื่นให้เราทำอีก
บางข้อก็จะถามตรงๆ เช่น สาหร่ายชนิดใดทำให้เกิดปรากฏการณ์
ที่เรียกว่า Red Tide (ไดโนแฟลกเจลเลต)
พี่เจอเนื้อหาของม.6เยอะแห๊ะ พวก genetic วิวัฒนาการ ระบบนิเวศ
สรุปพี่ได้ 58 คะแนน
ภาษาอังกฤษ
วิชานี้ไม่มีอะไรมากค่า ให้น้องไปทำข้อสอบโควต้าขอนแก่นเก่าๆ
ความยากจะพอๆกัน ค่อนข้างจะเป็น pattern เดิมๆ
แต่ของ MDX จะมีแต่ reading เรื่องในวงการหมอๆ เรื่องสุขภาพ โรคนู่นนี่
error ก็เป็นเนื้อความที่ต่อกันด้วยเกี่ยวกับหมอๆ (ที่พี่แปลไม่ออก 55)
conversation ก็เป็นการโต้ตอบระหว่างหมอกับคนไข้
vocab ก็ตรงกับศัพท์ 4 หน้าของครูสมศรีด้วยนะ ^^
วิธีการทำของพี่จะทำ part ที่ถนัดก่อนจะได้มีกำลังใจ
แล้วก็เอา reading ไว้อันสุดท้ายเลยจ้า จะได้มีเวลาอ่านเยอะๆ
พี่ได้ 70 คะแนนค่า :)
ภาษาไทย
วิชานี้จะเน้นให้เราวิเคราะห์ ให้อ่านแล้วก็หาประเด็นหลักของเรื่อง
ข้อใดไม่สามารถอนุมานจากเรื่องนี้ได้ ข้อใดไม่เหมาะสมจะใช้พูดในที่ประชุม
ข้อใดมีการใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ ข้อใดใช้คำฟุ่มเฟือย
ถ้าหลักภาษาก็จะมี ข้อใดสะกดถูกทุกคำ ให้คำประพันธ์ที่ติดยาวกันมาเป็นพรืด
แล้วถามว่าเป็นคำประพันธ์ประเภทใด กาพย์ กลอน ฉันท์ ร้าย หรือ โคลง
ความยากพอๆกับข้อสอบโควต้าเก่าเลยค่า แต่ข้อสอบเก่าจะเน้นวิเคราะห์
ส่วนข้อสอบ MDX จะมีสัดส่วนข้อสอบหลักภาษามากขึ้น(แต่ก็ไม่เยอะมากหรอกคะ)
ถ้าใครเรียนกับอ.ปิงนี่สบายเลยเพราะอาจารย์ให้เราทำโจทย์ในห้องบ่อยๆอยู่แล้ว
เราจะได้วิธีคิดเจ๋งๆจากตอนที่อาจารย์เฉลยนี่แหละ
แล้วก็อย่าลืมอ่าน mini thai book ด้วยหล่ะ จุ๊ฟฟฟฟ
พี่ได้ 70 คะแนนจ้าาา
สังคม
เอาข้อสอบโควต้าขอนแก่นเก่ามาออกซัก 2-3 ข้อด้วย
แบบเหมือนเด๊ะเลย แค่เพิ่มฉ้อยข้อ 5 เข้าไป
แนวจะเหมือนกับโควต้าเลยคะ ต้องเอามานั่งทำนะ บังคับเลย 5555!
จะใช้องค์ความรู้เดิมๆ เช่น ปีที่แล้วเค้าถามมรรค 8 ด้าน สติ แต่ปีนี้
ออกมรรค 8 ด้านปัญญามีอะไรบ้าง(สัมมาทิฏฐิ , สัมมาสังกัปปะ)
สาระประวัติศาสตร์ก็ออกเนื้อเรื่องเหมือนข้อสอบเก่า
เช่น ข้อสอบเก่าออกการปฏิวัติอุตสาหกรรม ปีนี้ก็ออกอีก
แต่ไม่ใช่ข้อเดิมนะ เปลี่ยนโจทย์แต่เป็นเรื่องเดิมอ่ะจ๊ะ
แล้วก็ชอบมีตารางเชื่อมโยงกัน เช่น ช่องแรกเป็นศาสนา
ช่องสองศาสดา ช่องสามความเชื่อ ช่องสี่คัมภีร์
แล้วถามว่าข้อใดถูกทั้งหมด (เช่นศาสนาคริสต์ - ไบเบิล บลาๆๆ) พอนึกภาพออกมั๊ย?
ภูมิศาสตร์จะยากมากอ่าาา T^T ชอบให้รูปมาแล้วพี่ก็งงเลย
เป็นสาระที่พี่กะจะมามั่วอยู่แล้ว เลยไม่คิดอะไรมาก ทำใจมาแล้ว
เศรษศาสตร์ ก็ออก อุปสงค์ อุปทาน กลไลราคาปกติ
สาระที่พี่คิดว่าควรอ่านให้แม่นก่อนคือ ศาสนา หน้าที่พลเมือง กฎหมาย เศรษฐศาสตร์
มันค่อนข้างตายตัวแล้วก็เก็บคะแนนได้ง่าย
ส่วนประวัติศาสตร์ + ภูมิศาสตร์จะค่อนข้างกว้างมาก ถ้าไม่ทันพี่ก็ไม่อ่านคะ แหะๆ
เพราะอ่านไปถ้าไม่ตรงก็เสียเวลา สู้เอาไปอ่านวิชาอื่นดีกว่า
แต่ถ้าน้องพร้อมทุกสาระก็เยี่ยมยอดไปเลยนะ
สรุปแล้วพี่ได้มา 56 คะแนน
รวมทุกวิชาพี่ได้ 56.6 จ้า ปกติคนที่จะติด MDX ปีก่อนๆต้องประมาณ 59-60
แต่ปีนี้เค้าประกาศเพิ่ม(303 คน)จากปีที่แล้ว(200 กว่าคน) ปีก่อนนู้นประกาศ 100 กว่าคน
ทางมอขอก็ไม่น่าประกาศมากกว่านี้แล้วหล่ะคะ
เพราะว่าปีนี้มีสำรองตั้ง 25 คน (ตอนนี้เรียกไปแล้ว 13 คน ซึ่งครบโครงการแล้ว)
แต่ที่ประกาศเพิ่มจากปีที่แล้วเพราะปีที่แล้วคนไปเรียนไม่ครบ 44
ขาดไปประมาณ 9-10 คนนี่แหละ จำเลขแน่นอนไม่ได้ ^_____^
พี่สังเกตจากคะแนนสูงสุดของปีนี้มันต่ำกว่าปีที่แล้ว 6.3 คะแนน
ก็เลยพูดกันว่าข้อสอบมันยากขึ้น (พี่คิดว่าเป็นเพราะวิชาเลข) + ประกาศเยอะขึ้น
คะแนนเฉลี่ยก็เลยต่ำลง(ปีนี้ตัดที่ 53.9)
ขอเล่านิดนึงว่าตอนสัมภาษณ์มีอาจารย์หลายห้องมากคะ
แต่มีอาจารย์ห้องนึงที่สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ใช่ห้องพี่นะ (รอดตัวไป 55)
ที่พี่เจอนี่อาจารย์ใจดีมากกกก :) ถามแบบเป็นกันเอง
คำถามหลักที่มีทุกห้องก็คงเป็น "ทำไมถึงอยากเรียนหมอ"
นอกนั้นก็ถามถึงกิจกรรมที่เราทำในโรงเรียน ครอบครัว
ต่อมาจะมีบทความมาให้อ่าน 2 บทความ แล้วตอบคำถาม
พี่เจอเรื่อง ยาแลกไข่ไก่ + หมอ พยาบาลขายอาหารเสริม
แนะนำให้อ่านเกี่ยวกับจริยธรรมแพทย์ไป ^^
พี่คิดว่าเค้าตัดว่าใครเป็นตัวจริงตัวสำรองจากคะแนนภาษาอังกฤษรอบ 2
จะเป็น listening 25 ข้อ และ Reading&conversation(ง่ายกว่ารอบแรก) รวมกัน 25ข้อ
ด้วยความที่พี่ไม่ค่อยได้ฝึกฟังอ่ะนะ คะแนนอังกฤษรอบ 2
เลยร่วงเลย (58 คะแนน) ได้เป็นสำรองอันดับ 2 (ที่มีสำรองอันดับ 1 ตั้ง 8 คน) =3=
พี่ก็พยายามจะนึกถึงข้อสอบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วน้าาา :)
มันผ่านมา 3 เดือนแล้ว แหะๆ ><
ที่น้องต้องทำคือหาข้อสอบเก่ามาทำเน๊อะ จะไม่ต่างกันมากหรอก สู้ๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อไปก็จะพูดถึงข้อสอบ PI & ข้อสอบบูรณาการ ของ ม.เชียงใหม่
ความคิดเห็น