ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กำไลในตำนาน
                                                                      Chapter 2 กำไลในตำนาน
    ...เสียงยามเช้าลอดบานหน้าต่างไม้ที่มีผ้าม่านลายวิจิตรตรึงอยู่เข้ามา  ผู้เป็นเจ้าของห้องยังคงอ่อนล้าเกินกว่าจะลุกจึงกระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้แต่สายไปเสียแล้วผู้เป็นมารดาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดึงผ้าห่มออกไปจากผู้ที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง
“มีเรียนตอนเช้าไม่ใช่หรือลูก” ผู้เป็นมารดาถามเสียงอ่อนโยน พอได้ยินอย่างนี้อาการง่วงงุนก็หายไปเสียสิ้น รีบคว้านาฬิกาข้างบนหัวนอนมาดู
“ตายแล้ว!” นิลนาศผุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะทะยานออกจากห้องไป ปล่อยให้มารดานั่งส่ายหัวอยู่บนที่นอนยับยู่ยี่ เมื่อนิลนาศเดินเข้ามาในห้องครัวก็พบกับมารดาและพี่ชายคอยอยู่ก่อนแล้ว
“ว่าไงเรา พระอินทร์หล่อจัดจนไม่อยากจากมาเลยหรือไง...” รามเรศล้อเลียนน้องสาวที่ตอนนี้ค้อนตาหลับตาเหลือก เธอเดินมานั่งลงข้างๆพี่ชายก่อนจะหันไปถามมารดาของตนว่า “พ่อยังไม่ตื่นหรือค่ะ”
“ออกไปทำงานแล้วจ๊ะ” มารดาหันมาตอบมือยังคงสาละวนอยู่กับของในกระทะ
“ใครจะขี้เซาเหมือนเราละ” รามเรศยังคงหยอกล้อน้องสาวต่อไป นิลนาศห่อปากไม่พอใจ
\"พอแล้วราม นิลลูกก็ด้วยรีบๆเข้าเดี๋ยวไปไม่ทันเรียนหรอก” ผู้เป็นมารดาหันมาเปรย
นิลนาศหยิบขนมปังเข้าปากและคว้ากระเป๋าเตรียมออกจากบ้านแต่รามเรศแย่งกระเป๋าออกจากมือของน้องสาวมาถือเสียเอง
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พูดเพียงเท่านั้นแล้วก็คว้ากุญแจรถเดินนำออกจากตัวบ้าน ถึงแม้ว่า
รามเรศชอบแกล้งน้องสาวของตนสักเพียงไรแต่เขาก็ไม่เคยทำให้เธอโกรธได้นานๆเลยเพราะเขาจะเอาใจนิลนาศเสียทุกครั้งไป นิลนาศเดินตามออกมานึกขบขันพี่ชายอยู่ในใจ ทุกครั้งเวลาเธอทำท่าจะโกรธรามเรศจะต้องเข้ามาเอาใจเธอก่อนเสียทุกครั้งไปจนเธอยอมอภัยให้ทุกครั้ง 
“วันนี้เลิกเรียนกี่โมงล่ะ” รามเรศถามน้องสาวหลังจากที่รถมาหยุดตรงหน้ามหาวิทยาลัย
“ราวๆสามโมงค่ะ” นิลนาศตอบ
“ดี งั้นเดี๋ยวพี่มารับ” รามเรศพูดต่อท้ายก่อนจะขับรถจากไป นิลนาศนึกแปลกใจร้อยวันพันปีไม่เห็นจะเคยมารับเอาเถอะถ้าไม่นับรวมกับที่โดนแม่คะยั้นคะยอแล้วก็ตามที...
...เย็นวันนั้นเมื่อนิลนาศเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสามคนก็พบรามเรศยืนพิงรถของตนอยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นน้องสาวของตนก็ยืดตัวขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา...
...รามเรศจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีทีเดียวออกจะดีเกินไปเสียด้วยซ้ำเพราะเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆก็มีคนแกล้งเดินมาชนตั้ง3-4คนขอแค่ให้ได้สบตาเถอะแค่นั้นก็ดูเหมือนจะเพียงพอแล้ว แต่บางครั้งรามเรศก็สนองตอบโดยการหันไปยิ้มให้และถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เพียงแค่นั้นก็ทำเอาสาวเจ้าหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว นิลนาศในฐานะน้องสาวก็เลยดูเหมือนจะถูกอิจฉาตาร้อนจากสาวๆที่คลั่งไคล้ในตัวรามเรศ แต่บางคนก็แผนสูงเข้ามาตีสนิทด้วยหวังว่าเธอจะเสนอชื่อตนให้พี่ชายรู้แต่ส่วนมากก็มักโดนนิลนาศตอกกลับไปให้เจ็บๆคันๆเสียมากกว่า
“สวัดดีค่ะพี่ราม” บรรดาเพื่อนๆของนิลนาศเองก็พึงใจในตัวของรามเรศอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่เคยทำให้นิลนาศลำบากใจเลย
“สวัดดีครับ” รามเรศหันไปตอบ “ไปทานข้าวก่อนกลับได้ไหม พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั่งแต่กลางวัน” รามเรศทำแววตาออดอ้อนน้องสาวนิลนาศจึงพยักหน้าตอบรับ “ไปทานข้าวด้วยกันไหม” รามเรศหันไปถามเพื่อนๆของนิลนาศ
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” สิวิตราตอบปฏิเสธอย่างตะกุกตะกักถึงแม้ว่าเธออยากจะไปแต่เธอก็มีมารยาทพอจะรู้ว่าอะไรควรมิควร รามเรศยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่รถพร้อมนิลนาศเสียงประตูรถปิดลงพร้อมๆกับที่รถค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าก่อนจะเพิ่มความเร็วและทะยานสู่ท้องถนนที่แออัดไปด้วยรถราจำนวนมาก นิลนาศจ้องหน้าพี่ชายอย่างเอาเป็นเอาตายรามเรศจึงหันมาถามอย่างอดไม่ได้
“มีอะไรติดหน้าพี่หรือไง” รามเรศถามยิ้มๆ นิลนาศหันกลับมองตรงไปข้างหน้าทันที
“พี่นี่หน้าตาดีน่ะ” นิลนาศเปรยออกมาช้าๆ
“อะไรกันเพิ่งจะรู้หรือไง” รามเรศพูดติดตลกแต่นิลนาศไม่หัวเราะและไม่ยิ้มด้วย เมื่อเห็นดังนั้นรามเรศจึงตัดบทสั้น
“ไม่เอาน่า”
...รามเรศจอดรถที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งและพานิลนาศเข้าไปข้างในเมื่อรับประทานอาหารเสร็จรามเรศเห็นว่าน้องสาวยังอารมณ์ไม่ดีขึ้นจึงพาไปเดินเที่ยวแถวร้านขายของเก่า รามเรสเป็นคนชื่นชอบของเก่ามากไม่ว่าจะเป็นถ้วยโถโอชามหรือแม้แต่
โครงกระดูกมนุษย์ขอให้บอกว่าเป็นของเก่าเถอะจะต้องเข้าไปขอยลโฉมให้ได้ แต่
นิลนาศไม่ค่อยชอบของพวกนี้เธอคิดว่ามันน่ากลัวเกินกว่าจะสวยงามดั่งที่พี่ชายพูด ในการมาเดินเที่ยวครั้งนี้นิลนาศคิดว่าก็เพียงเพราะรามเรศอยากจะมาเองเท่านั้นแต่เธอก็ไม่ว่ากระไรได้แต่เดินตามพี่ชายไปเงียบๆ บางทีที่รามเรศชอบมาเดินแถวนี้อาจเป็นเพราะว่าเมื่อมาอยู่ที่นี้เขาก็ไม่ต้องทนกับสายตาสาวๆที่จ้องเขาอย่างหื่นกระหายเพราะที่นี่ไม่มีใครสนใจใครมิหนำซ้ำที่นี่ยังเต็มไปด้วยบุคคลมากหน้าหลายตา มีตั่งแต่นักธุรกิจแต่งตัวโก้หรูหวังจะมาหาของประดับบ้านให้ผู้อื่นฮือฮา พวกบรรดาผู้ที่ชื่นชอบของเก่าจริงๆอย่างรามเรศหรือแม้กระทั่งบุคคลที่แต่งตัวแปลกปละหลาดก็มีให้พบเห็นได้ง่ายๆ นิลนาศเดินมองดูของไปเรื่อยๆบรรดาเจ้าของร้านแนะนำสินค้าอย่างกระตือรือร้นหมายจะขายให้ได้สักชิ้นหนึ่ง นิลนาศเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยผ้าคลุมสีดำจรดเข่าเมื่อเธอเดินไปใกล้ๆถึงกับผงะเมื่อเห็นชายผู้นั้นมีแผลเป็นอยู่ครึ่งใบหน้าเขากำลังสอบถามเรื่องหัวกะโหลกจากชายเจ้าของร้านอยู่ ...บางทีมาเดินทีนี่ก็ไม่เลวนักหรอก...เธอคิดในใจ ทันใดนั้นเองเธอก็เหลือบไปเห็นกำไลข้อมืออันหนึ่งมันวางอยู่หน้าร้านที่มีหญิงแก่เป็นเจ้าของร้าน นิลนาศเดินเข้าไปดูใกล้ๆและพบว่ามันสวยงามอย่างน่าปละหลาด เธอไม่เคยเห็นของสิ่งใดสวยเท่านี้มาก่อนเลย หญิงแก่เห็นนิลนาศยืนจ้องกำไลข้อมืออยู่นานจึงเอ่ยขึ้นลอยๆว่า
“นานมาแล้วกำไลอันนี้เคยเป็นของนางหญิงผู้หนึ่งเธอได้รับมันมาจากชายที่เธอรักก่อนเขาจะสิ้นลมหายใจลง ในขณะนั้นนางผู้นี้ได้ตั้งท้องอยู่ก่อนแล้วครั้นเมื่อนางคลอดลูกนางได้มอบกำไลอันนี้แก่ลูกชายของนางพร้อมกับบอกว่า “ขออย่าให้เจ้าพบรักที่เจ็บปวด” นางว่าเช่นนั้นและสิ้นใจลง” นิลนาศยังคงจับจ้องอยู่ที่กำไลอันนี้ ดูเหมือนหนึ่งมันเรียกร้องให้นางเข้าไปใกล้แต่พอนางจะแตะต้องก็ดูเหมือนมันจะวิงวอนให้นางไปให้ห่างจากมันเสีย นิลนาศทำท่าแปลกปละหลาดจนรามเรศสังเกตเห็นเดี๋ยวทำท่าจะหยิบพอจะหยิบขึ้นมาก็ชักมือกลับเสียรามเรศสงสัยจึงเดินเข้าไปหา
“กำไลหรือนี่สวยดีน่ะ” นิลนาศสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายมันทำให้เธอหลุดออกมาจากภวังค์
“เท่าไหร่ครับ” รามเรศถามหญิงชราเจ้าของร้าน
“จะซื้อหรือค่ะ” นิลนาศถามเสียงแปลกใจปรกติรามเรศมักซื้อแต่ของที่เธอเห็นว่าไม่น่าใคร่เท่าไหร่
“น้องชอบมิใช่หรือ” รามเรศว่าพร้อมกับจ่ายเงินให้หญิงชรา นิลนาศสับสนเล็กน้อยแต่เธอก็ยื่นมือไปรับกำไลจากหญิงชราโดยดี ทีแรกเธอรู้สึกเหมือนกำไลจะสั่นน้อยๆอย่างกับมีชีวิตก่อนจะทิ้งทอดตัวเป็นกำไลธรรมดา นิลนาศและรามเรศเดินออกมาหมายจะกลับซึ่งที่พำนัก แต่เสียงของหญิงชราก็ดังมากระทบกับโสตประสาท
“ขออย่าให้เจ้าพบรักที่เจ็บปวด” รามเรศหันไปมองหญิงชราก่อนจะหันมาถามน้องสาวตนเอง
“เขาว่าอะไรน่ะ” รามเรศทำสีหน้าฉงน
“คำสั่งเสียก่อนตายไงค่ะ” นิลนาศตอบยังคงจ้องกำไลในมืออย่างพิสมัย...หรือนี่เราซื้อของอันตรายมาให้น้องแล้วกระมัง...รามเรศคิดในใจ
...เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เย็นมากแล้ว บิดาและมารดาของพวกเขาทั้งสองนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารเมื่อรามเรศบอกว่ารับประทานอาหารมาแล้วดูท่าผู้เป็นมารดาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็มิได้ว่ากระไรส่วนนิลนาศเมื่อกลับมาถึงเธอก็รีบเข้าห้องทันทีหมายจะยลโฉมกำไลที่เพิ่งได้มาอย่างเต็มที่ สีทองของมันยังคงเปล่งประกายอยู่จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นของเก่า เม็ดทับทิมสีแดงเล็กๆประดับอยู่รอบตัวเรือนอย่างสวยงาม เมื่อพลิกดูข้างในนิลนาศถึงกับเบิกตากว้างรีบลุกขึ้นนั่งทันที ตัวอักษรที่ไม่คุ้นเคยถูกสลักไว้ด้านในของกำไลโบราณอันนี้ ถึงแม้จะไม่เข้าใจในภาษาแต่เมื่อยามจ้องมองเหมือนจะพบกับความเศร้าที่ยากจะหยั่งถึง...
                                                                            Najanoskeeralu
                                                              (นาจานอสคีราลู...รักของข้ามีไว้เพื่อเจ้า)
                                                                                                                                                  TO BE CONTINUE.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น