ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นีล่า

    ลำดับตอนที่ #2 : กำไลในตำนาน

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 48




                                                                           Chapter 2…กำไลในตำนาน



         ...เสียงยามเช้าลอดบานหน้าต่างไม้ที่มีผ้าม่านลายวิจิตรตรึงอยู่เข้ามา  ผู้เป็นเจ้าของห้องยังคงอ่อนล้าเกินกว่าจะลุกจึงกระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้แต่สายไปเสียแล้วผู้เป็นมารดาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดึงผ้าห่มออกไปจากผู้ที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง

    “มีเรียนตอนเช้าไม่ใช่หรือลูก” ผู้เป็นมารดาถามเสียงอ่อนโยน พอได้ยินอย่างนี้อาการง่วงงุนก็หายไปเสียสิ้น รีบคว้านาฬิกาข้างบนหัวนอนมาดู

    “ตายแล้ว!” นิลนาศผุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะทะยานออกจากห้องไป ปล่อยให้มารดานั่งส่ายหัวอยู่บนที่นอนยับยู่ยี่ เมื่อนิลนาศเดินเข้ามาในห้องครัวก็พบกับมารดาและพี่ชายคอยอยู่ก่อนแล้ว

    “ว่าไงเรา พระอินทร์หล่อจัดจนไม่อยากจากมาเลยหรือไง...” รามเรศล้อเลียนน้องสาวที่ตอนนี้ค้อนตาหลับตาเหลือก เธอเดินมานั่งลงข้างๆพี่ชายก่อนจะหันไปถามมารดาของตนว่า “พ่อยังไม่ตื่นหรือค่ะ”

    “ออกไปทำงานแล้วจ๊ะ” มารดาหันมาตอบมือยังคงสาละวนอยู่กับของในกระทะ

    “ใครจะขี้เซาเหมือนเราละ” รามเรศยังคงหยอกล้อน้องสาวต่อไป นิลนาศห่อปากไม่พอใจ

    \"พอแล้วราม นิลลูกก็ด้วยรีบๆเข้าเดี๋ยวไปไม่ทันเรียนหรอก” ผู้เป็นมารดาหันมาเปรย

    นิลนาศหยิบขนมปังเข้าปากและคว้ากระเป๋าเตรียมออกจากบ้านแต่รามเรศแย่งกระเป๋าออกจากมือของน้องสาวมาถือเสียเอง

    “เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พูดเพียงเท่านั้นแล้วก็คว้ากุญแจรถเดินนำออกจากตัวบ้าน ถึงแม้ว่า

    รามเรศชอบแกล้งน้องสาวของตนสักเพียงไรแต่เขาก็ไม่เคยทำให้เธอโกรธได้นานๆเลยเพราะเขาจะเอาใจนิลนาศเสียทุกครั้งไป นิลนาศเดินตามออกมานึกขบขันพี่ชายอยู่ในใจ ทุกครั้งเวลาเธอทำท่าจะโกรธรามเรศจะต้องเข้ามาเอาใจเธอก่อนเสียทุกครั้งไปจนเธอยอมอภัยให้ทุกครั้ง  

    “วันนี้เลิกเรียนกี่โมงล่ะ” รามเรศถามน้องสาวหลังจากที่รถมาหยุดตรงหน้ามหาวิทยาลัย

    “ราวๆสามโมงค่ะ” นิลนาศตอบ

    “ดี งั้นเดี๋ยวพี่มารับ” รามเรศพูดต่อท้ายก่อนจะขับรถจากไป นิลนาศนึกแปลกใจร้อยวันพันปีไม่เห็นจะเคยมารับเอาเถอะถ้าไม่นับรวมกับที่โดนแม่คะยั้นคะยอแล้วก็ตามที...

    ...เย็นวันนั้นเมื่อนิลนาศเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสามคนก็พบรามเรศยืนพิงรถของตนอยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นน้องสาวของตนก็ยืดตัวขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา...

    ...รามเรศจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีทีเดียวออกจะดีเกินไปเสียด้วยซ้ำเพราะเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆก็มีคนแกล้งเดินมาชนตั้ง3-4คนขอแค่ให้ได้สบตาเถอะแค่นั้นก็ดูเหมือนจะเพียงพอแล้ว แต่บางครั้งรามเรศก็สนองตอบโดยการหันไปยิ้มให้และถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เพียงแค่นั้นก็ทำเอาสาวเจ้าหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว นิลนาศในฐานะน้องสาวก็เลยดูเหมือนจะถูกอิจฉาตาร้อนจากสาวๆที่คลั่งไคล้ในตัวรามเรศ แต่บางคนก็แผนสูงเข้ามาตีสนิทด้วยหวังว่าเธอจะเสนอชื่อตนให้พี่ชายรู้แต่ส่วนมากก็มักโดนนิลนาศตอกกลับไปให้เจ็บๆคันๆเสียมากกว่า

    “สวัดดีค่ะพี่ราม” บรรดาเพื่อนๆของนิลนาศเองก็พึงใจในตัวของรามเรศอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่เคยทำให้นิลนาศลำบากใจเลย

    “สวัดดีครับ” รามเรศหันไปตอบ “ไปทานข้าวก่อนกลับได้ไหม พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั่งแต่กลางวัน” รามเรศทำแววตาออดอ้อนน้องสาวนิลนาศจึงพยักหน้าตอบรับ “ไปทานข้าวด้วยกันไหม” รามเรศหันไปถามเพื่อนๆของนิลนาศ

    “มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” สิวิตราตอบปฏิเสธอย่างตะกุกตะกักถึงแม้ว่าเธออยากจะไปแต่เธอก็มีมารยาทพอจะรู้ว่าอะไรควรมิควร รามเรศยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่รถพร้อมนิลนาศเสียงประตูรถปิดลงพร้อมๆกับที่รถค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าก่อนจะเพิ่มความเร็วและทะยานสู่ท้องถนนที่แออัดไปด้วยรถราจำนวนมาก นิลนาศจ้องหน้าพี่ชายอย่างเอาเป็นเอาตายรามเรศจึงหันมาถามอย่างอดไม่ได้

    “มีอะไรติดหน้าพี่หรือไง” รามเรศถามยิ้มๆ นิลนาศหันกลับมองตรงไปข้างหน้าทันที

    “พี่นี่หน้าตาดีน่ะ” นิลนาศเปรยออกมาช้าๆ

    “อะไรกันเพิ่งจะรู้หรือไง” รามเรศพูดติดตลกแต่นิลนาศไม่หัวเราะและไม่ยิ้มด้วย เมื่อเห็นดังนั้นรามเรศจึงตัดบทสั้น

    “ไม่เอาน่า”

    ...รามเรศจอดรถที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งและพานิลนาศเข้าไปข้างในเมื่อรับประทานอาหารเสร็จรามเรศเห็นว่าน้องสาวยังอารมณ์ไม่ดีขึ้นจึงพาไปเดินเที่ยวแถวร้านขายของเก่า รามเรสเป็นคนชื่นชอบของเก่ามากไม่ว่าจะเป็นถ้วยโถโอชามหรือแม้แต่

    โครงกระดูกมนุษย์ขอให้บอกว่าเป็นของเก่าเถอะจะต้องเข้าไปขอยลโฉมให้ได้ แต่

    นิลนาศไม่ค่อยชอบของพวกนี้เธอคิดว่ามันน่ากลัวเกินกว่าจะสวยงามดั่งที่พี่ชายพูด ในการมาเดินเที่ยวครั้งนี้นิลนาศคิดว่าก็เพียงเพราะรามเรศอยากจะมาเองเท่านั้นแต่เธอก็ไม่ว่ากระไรได้แต่เดินตามพี่ชายไปเงียบๆ บางทีที่รามเรศชอบมาเดินแถวนี้อาจเป็นเพราะว่าเมื่อมาอยู่ที่นี้เขาก็ไม่ต้องทนกับสายตาสาวๆที่จ้องเขาอย่างหื่นกระหายเพราะที่นี่ไม่มีใครสนใจใครมิหนำซ้ำที่นี่ยังเต็มไปด้วยบุคคลมากหน้าหลายตา มีตั่งแต่นักธุรกิจแต่งตัวโก้หรูหวังจะมาหาของประดับบ้านให้ผู้อื่นฮือฮา พวกบรรดาผู้ที่ชื่นชอบของเก่าจริงๆอย่างรามเรศหรือแม้กระทั่งบุคคลที่แต่งตัวแปลกปละหลาดก็มีให้พบเห็นได้ง่ายๆ นิลนาศเดินมองดูของไปเรื่อยๆบรรดาเจ้าของร้านแนะนำสินค้าอย่างกระตือรือร้นหมายจะขายให้ได้สักชิ้นหนึ่ง นิลนาศเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยผ้าคลุมสีดำจรดเข่าเมื่อเธอเดินไปใกล้ๆถึงกับผงะเมื่อเห็นชายผู้นั้นมีแผลเป็นอยู่ครึ่งใบหน้าเขากำลังสอบถามเรื่องหัวกะโหลกจากชายเจ้าของร้านอยู่ ...บางทีมาเดินทีนี่ก็ไม่เลวนักหรอก...เธอคิดในใจ ทันใดนั้นเองเธอก็เหลือบไปเห็นกำไลข้อมืออันหนึ่งมันวางอยู่หน้าร้านที่มีหญิงแก่เป็นเจ้าของร้าน นิลนาศเดินเข้าไปดูใกล้ๆและพบว่ามันสวยงามอย่างน่าปละหลาด เธอไม่เคยเห็นของสิ่งใดสวยเท่านี้มาก่อนเลย หญิงแก่เห็นนิลนาศยืนจ้องกำไลข้อมืออยู่นานจึงเอ่ยขึ้นลอยๆว่า

    “นานมาแล้วกำไลอันนี้เคยเป็นของนางหญิงผู้หนึ่งเธอได้รับมันมาจากชายที่เธอรักก่อนเขาจะสิ้นลมหายใจลง ในขณะนั้นนางผู้นี้ได้ตั้งท้องอยู่ก่อนแล้วครั้นเมื่อนางคลอดลูกนางได้มอบกำไลอันนี้แก่ลูกชายของนางพร้อมกับบอกว่า “ขออย่าให้เจ้าพบรักที่เจ็บปวด” นางว่าเช่นนั้นและสิ้นใจลง” นิลนาศยังคงจับจ้องอยู่ที่กำไลอันนี้ ดูเหมือนหนึ่งมันเรียกร้องให้นางเข้าไปใกล้แต่พอนางจะแตะต้องก็ดูเหมือนมันจะวิงวอนให้นางไปให้ห่างจากมันเสีย นิลนาศทำท่าแปลกปละหลาดจนรามเรศสังเกตเห็นเดี๋ยวทำท่าจะหยิบพอจะหยิบขึ้นมาก็ชักมือกลับเสียรามเรศสงสัยจึงเดินเข้าไปหา

    “กำไลหรือนี่สวยดีน่ะ” นิลนาศสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายมันทำให้เธอหลุดออกมาจากภวังค์

    “เท่าไหร่ครับ” รามเรศถามหญิงชราเจ้าของร้าน

    “จะซื้อหรือค่ะ” นิลนาศถามเสียงแปลกใจปรกติรามเรศมักซื้อแต่ของที่เธอเห็นว่าไม่น่าใคร่เท่าไหร่

    “น้องชอบมิใช่หรือ” รามเรศว่าพร้อมกับจ่ายเงินให้หญิงชรา นิลนาศสับสนเล็กน้อยแต่เธอก็ยื่นมือไปรับกำไลจากหญิงชราโดยดี ทีแรกเธอรู้สึกเหมือนกำไลจะสั่นน้อยๆอย่างกับมีชีวิตก่อนจะทิ้งทอดตัวเป็นกำไลธรรมดา นิลนาศและรามเรศเดินออกมาหมายจะกลับซึ่งที่พำนัก แต่เสียงของหญิงชราก็ดังมากระทบกับโสตประสาท

    “ขออย่าให้เจ้าพบรักที่เจ็บปวด” รามเรศหันไปมองหญิงชราก่อนจะหันมาถามน้องสาวตนเอง

    “เขาว่าอะไรน่ะ” รามเรศทำสีหน้าฉงน

    “คำสั่งเสียก่อนตายไงค่ะ” นิลนาศตอบยังคงจ้องกำไลในมืออย่างพิสมัย...หรือนี่เราซื้อของอันตรายมาให้น้องแล้วกระมัง...รามเรศคิดในใจ

    ...เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เย็นมากแล้ว บิดาและมารดาของพวกเขาทั้งสองนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารเมื่อรามเรศบอกว่ารับประทานอาหารมาแล้วดูท่าผู้เป็นมารดาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็มิได้ว่ากระไรส่วนนิลนาศเมื่อกลับมาถึงเธอก็รีบเข้าห้องทันทีหมายจะยลโฉมกำไลที่เพิ่งได้มาอย่างเต็มที่ สีทองของมันยังคงเปล่งประกายอยู่จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นของเก่า เม็ดทับทิมสีแดงเล็กๆประดับอยู่รอบตัวเรือนอย่างสวยงาม เมื่อพลิกดูข้างในนิลนาศถึงกับเบิกตากว้างรีบลุกขึ้นนั่งทันที ตัวอักษรที่ไม่คุ้นเคยถูกสลักไว้ด้านในของกำไลโบราณอันนี้ ถึงแม้จะไม่เข้าใจในภาษาแต่เมื่อยามจ้องมองเหมือนจะพบกับความเศร้าที่ยากจะหยั่งถึง...





                                                                                 …Najanoskeeralu…

                                                                  (นาจานอสคีราลู...รักของข้ามีไว้เพื่อเจ้า)







                                                                                                                                                       TO BE CONTINUE.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×