คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
บทที่ 1
ทุกคนมองมาที่เธอเป็นตาเดียว เมื่อพวกทหารมองเห็นของเหลวสีแดงที่หยดลงที่พื้น พวกเขาก็วิ่งเข้ามาล้อมตัวของเธอไว้ โดยที่ทหารทุกคนมีอาวุธพร้อมมือ
“เดี๋ยว!” ชายผมทองเดินลงมาจากเวทีแล้วฝ่าวงทหารเข้าไปหาหญิงผมดำ เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมองที่ดาบของเธอ ผู้ชมทั้งหลายต่างมองเขานิ่งๆ ไม่กล้าเข้าไปห้าม แม้แต่แม่ของเขายังไม่กล้าเอ่ยปากเลย หญิงสาวผมดำยืนอยู่กับที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อชายผมทองเห็นเช่นนั้นเขาก็ยื่นมือเข้าไป เพื่อจับมือข้างที่ถือดาบของเธอ แต่เมื่อเธอเห็นเช่นนั้นก็เอาดาบไปจี้ที่คอของเขา
“ทหาร! จับตัวเธอไว้!!” ผู้เป็นแม่รีบตะโกนสั่งทหารทันที แต่ชายผมทองก็ยกมือห้ามไว้ ทำให้ทหารเริ่มสับสนว่าควรจะทำตามคำสั่งของใครดี แต่ตอนนี้คงต้องทำตามคำสั่งของคนถูกจี้ เมื่อทหารทุกคนเดินถอยหลังกลับไปได้สองสามก้าว ดวงตาของหญิงผมดำก็จ้องตรงไปที่ชายผมทอง
“พวกเราไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายเธอ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอมาจากไหนหรือมาที่นี่ได้อย่างไร แต่ว่าสาเหตุที่เธอมาต้องเป็นเพราะพรมลิขิตแน่ๆ พวกเราต้องมีชะตาบางอย่างที่ทำให้เธอต้องมาที่นี่ในวันนี้ เพราะงั้น...วางมีดลงนะ...นะ” ชายผมทองพูด สายตาเขามองเธอตลอดเพื่อแสดงถึงความจริงจัง เขาค่อยๆ จับมือข้างที่ถือดาบของหญิงสาวคนนั้น เธอเริ่มกระพริบตาแล้วลดดาบลงในที่สุด ชายผมทองเอาดาบออกจากมือของเธอแล้วยื่นให้ทหารแถวๆ นั้น ทุกคนมองมาที่สองคนนี้ ทุกอย่างเงียบสนิทไปประมาณสองนาที
“สวัสดี ^^ ฉันชื่อฮาร์วี่ ขอบใจเธอมากนะที่ไม่ได้ฆ่าฉัน ^^” ชายผมทองพูดแนะนำตัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมยื่นมือข้างขวาเข้าไปหาเธอคนนั้นเป็นการทำความรู้จัก แต่เธอกลับแค่มองมือของเขาอย่างเย็นชาทำเอาคนรอบข้างงงไปเล็กน้อย
“มันเป็นการทักทายน่ะ ทักทายๆ ^^” เขาเอามือของเขาไปจับมือของเธอขึ้นมาแล้วยิ้มหวานให้เธอ ทำเอาหัวใจสาวๆ รอบๆ ละลาย แต่หญิงผมดำกลับมองมือของที่ถูกกุมไว้อย่างเย็นชา ทุกคนถึงกับนิ่ง...หรือว่าเธอจะไม่เข้าใจภาษาของพวกเรา?
“เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดเลยเหรอ? 0.0” ชายผมทองถามเธอโดยที่ยังไม่ปล่อยมือเธอ แต่เธอเพียงแค่มองหน้าเขาแล้วหันไปมองคนรอบๆ แม่ของชายร่างสูงเห็นแบบนี้จึงเดินเข้าไปหาทั้งคู่
“ถ้าเธอไม่เข้าใจภาษาของเรา ลูกจะอยู่กับเธอได้เหรอ?” คนเป็นแม่ถามลูกพร้อมมองหญิงผมดำจากหัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่าบางทีแม่ของเขาอาจคิดเรื่องการเลือกเจ้าสาวให้เขาใหม่ แล้วคนที่ได้รับเลือกอาจเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ น่าเบื่อๆ เขาจึงรีบตอบแม่เขาทันที
“ได้สิ! แม่เป็นคนพูดเองนะว่าชะตาจะเป็นคนเลือกเจ้าสาวให้ผม แล้วชะตาก็ได้เลือกแล้ว แล้วแม่จะประกาศเลือกใหม่ผิดคำพูดของตัวเองต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้เหรอกครับ?^^” เขาพูดเหมือนจะเหยียดหยามแต่เพราะสีหน้าและท่าทางของเขาแสดงท่าทีตื่นเต้นทำให้คำพูดเหล่านั้นเหมือนออกจากปากเด็ด คนเป็นแม่ถึงกับต้องถอนหายใจ
“^^ เพราะงั้นแม่วางใจเถอะ ผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดีครับ” ฮาร์วี่พูดพร้อมกุมมือของหญิงผมดำ “ต้องขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานนี้ด้วยนะครับ ^^ งานแต่งงานจะจัดขึ้นอย่างเป็นพิธีในวันอาทิตย์หน้านะครับ” ร่างสูงหันไปพูดกับแขกทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มือของเขายังคงกุมมือของว่าที่เจ้าสาวของเขาไว้แน่น หลังจากที่พูดจบเขาก็ก้มหัวนิดๆแล้วพาเจ้าสาวของเขาเข้าบ้านไป
ในบ้าน
ตอนนี้ทั้งสองอยู่กันสองต่อสองในบ้าน ฮาร์วี่ยังคงจับมือเธอไว้แต่หน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งนั้น ในที่สุดเขาก็ปล่อยมือของเธอ
“เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดจริงๆหรอ?”
“...”
“ถ้างั้น...” ชายผมทองยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าของสาวผมดำพร้อมกระซิบ “ฉันจะสอนเธอเอง^^” เขายิ้มกวนๆให้กับเธอแล้วจับมือเธอพาเธอขึ้นไปบนห้องของเขา พอเข้าไป ทุกอย่างในห้องนั้นเป็นสีสันที่สดใสมาก ต่างจากตัวบ้านที่มีแต่สีขาว ฮาร์วี่ชี้ไปที่เตียง หญิงสาวก็เดินไปนั่งบนเตียงของเขา
“เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่านะ...ฉันชื่อฮาร์วี่^^” เขาเดินเข้าไปหาคนที่นั่งบนเตียงของเขา เขาพูดพร้อมเอามือทั้งสองชี้เข้าหาตัวเอง คล้ายว่าพยายามทำให้หญิงสาวเข้าใจ เธอมองเขาด้วยสายตาเย็นชาเช่นเคย
“ฉันฮาร์วี่ แล้วเธอ...?” เขาผายมือไปที่คนที่นั่งตรงหน้าเขา แต่เธอกลับไม่ตอบ
“ถ้าเธอไม่ตอบ...ฉันคงต้องตั้งชื่อให้เธอนะ เอาชื่อ...อีฟมั้ย^^ ชั้นว่าชื่ออีฟน่ารักดีนะ” เขาลุกขึ้นเดินไปเดินมา ทำท่าคิดเหมือนว่าจะสนุกอยู่กับการคิดชื่อให้เธอ
“มิยาโกะ”
“เห๋!!?” ชายผมทองรีบวิ่งตรงเข้ามาหาสาวที่นั่งบนเตียงเขา เขาทำตาปริบๆเหมือนจะอยากให้เธอพูดอีกรอบ เธอเอามือทั้งสองข้างวางบนไหล่ของชายผมทอง “ฮาร์วี่” แล้วเธอก็เอามือทั้งสองชี้ตัวเอง “มิยาโกะ”
“ในที่สุดก็พูดแล้ว!! ^^ สวัสดีมิยาโกะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^^” เขายื่นมือเข้าไปหาเธอเพื่อเป็นการทักทายอีกรอบ แต่คราวนี้เธอจับมือเขาไว้
“0.0...^^” ฮาร์วี่ยิ้มละลายแล้วเขย่ามือ
หลังจากนั้นฮาร์วี่ก็พยายามที่จะพูดคุยกับมิยาโกะและพยายามจะสอนเธอให้พูดคำต่างๆ แต่ก็ไม่เป็นผล เธอไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรเลย แถมยังไม่ยิ้มเลยด้วย ไม่ว่าฮาร์วี่จะทำอะไรตลกๆหรือซุ่มซ่ามก็ไม่สามารถทำให้เธอยิ้มได้เลย ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้แล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง...
“ฮาร์วี่...ฮาร์วี่!”
“หืม?!” ชายผมทองรีบสะดุ้งตื่นก็เห็นใบหน้าอันงดงามกำลังจ้องเขาอยู่ ผมสีดำที่ยังถูกมัดเปียไว้พาดมาข้างหน้าไหล่ของเธอ ผมหน้าม้าที่ยาวถึงจมูกตอนนี้ปิดดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอไว้ข้างหนึ่ง
“ฮาร์วี่...” เมื่อเจ้าตัวถูกเรียกชื่ออีกทีก็รีบส่ายหน้าทันที เมื่อกี้เขาบอกว่าหญิงสาวคนนี้สวยงั้นหรอ...มิยาโกะเนี่ยนะ! เขาส่ายหน้าแรงๆอีกรอบก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“มีอะไรหรอ? ^^”
“...” เธอไม่ตอบอะไร ทุกอย่างนิ่งไปเสี้ยววินาทีแล้วก็มีเสียงของแม่ของฮาร์วี่ดังมาจากข้างล่าง บอกว่าได้เวลาทานอาหารเย็นแล้ว ฮาร์วี่หันมายิ้มน้อยๆให้มิยาโกะก่อนจะจับมือเธอแล้วพาลงไปที่ห้องอาหารชั้นล่าง
ณ ห้องอาหาร
ห้องอาหาร...พูดได้เลยว่าเหมือนห้องอาหารในเรื่องแฮรี่พอตเตอร์เลย โดยที่มีโต๊ะสีน้ำตาลเข้มขนาดยาวอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีอาหารน่ากินจัดเรียงอยู่มากกว่าสิบจาน ที่ปลายโต๊ะมีหญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่ ชายผมทองเดินเข้าไปทักทายแม่ของเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะนั่งลง เมื่อเห็นว่าตนลืมเจ้าสาวของตนไว้หน้าประตูห้องอาหาร เขาก็ต้องลุกขึ้นไปจูงมือของเธอมา
“ดูเหมือนจะสนิทสนมกันดีนะ” คนเป็นแม่มองมือของทั้งสองที่กำลังจับกันอยู่ ฮาร์วี่ยิ้มตอบแม่ของเขา เมื่อมิยาโกะเห็นว่าหญิงวัยกลางคนกำลังมองมือของเธออยู่ เธอก็รีบสลัดมือของฮาร์วี่ทิ้งแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง ฮาร์วี่ยืนนิ่งไปเสี้ยววินาที แต่เขาก็ยักไหล่แล้วยิ้มก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ที่นั่งของตน ทั้งชายและหญิงผมทองไม่รีรอใดๆทั้งนั้นเริ่มทานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่หญิงผมดำที่ไม่ค่อยคุ้นกลับไม่แม้แต่ที่จะหยิบส้อมขึ้นมา
“เธอเป็นอะไรมั้ย?” ชายผมทองเอ่ยถาม
“...”
“หรือว่าไม่หิว?” เขาถามเธออีก แทนที่จะนิ่งเหมือนก่อน เธอลุกขึ้นยืนทำให้ฮาร์วี่คิดได้ว่าเธอไม่เข้าใจที่เขาพูด เขานิ่งรอดูว่าเธอจะพูดหรือทำอะไรมั้ย...เธอเอามือไปกุมไว้ที่ท้องเหมือนจะบอกว่าเธอเจ็บท้อง ฮาร์วี่พยักหน้าแล้วชี้ไปที่อาหารบนโต๊ะ ก็ใครจะรู้ละ เธออาจจะเจ็บท้องเพราะไม่ได้กินข้าวก็ได้ แต่เธอกลับส่ายหน้าตอบเขา ชายผมทองพยักหน้าอีกรอบ เมื่อเธอเห็นอย่างนั้นเธอก็เดินออกจากห้องอาหารไป คนเป็นแม่ที่คอยสังเกตุการณ์อยู่ตลอดเวลาถามลูกขึ้นมา
“ถึงจะพูดภาษาของเราไม่ได้แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเข้ากันได้ดีนะ แต่...”
“แต่อะไรครับ?” ทั้งคู่หยุดทางข้าวแล้ววางส้อมกับมีดลง
“แต่ถ้าเธอพูดภาษาของเราไม่ได้ เธอก็ไม่สามรถทำหน้าที่การงานทางด้านกิจการของเราได้หนะสิ การแต่งงานนี้ก็ปล่าวประโยชน์”
ที่จริงแล้วเรื่องนี้เขาคิดได้นานแล้วแหละ แต่ว่าเขาไม่อยากบอกแม่ของเขาเพราะเขาก็คงได้แต่งงานกับหญิงอื่น อย่าเข้าใจผิดนะ เขาไม่ได้ชอบมิยาโกะแต่เขาแค่คิดว่าถ้าแต่งงานกับผู้หญิงที่เพรียบพร้อมจริงๆ ชีวิตของเขาต้องเหมือนมีแม่สองคนแน่ๆเลย เขาต้องหาเหตุผลให้แม่ของเขายอมรับในตัวของมิยาโกะให้ได้
“แม่ก็ให้เวลาเขาหน่อยสิครับ”
“อย่าลืมสิว่าลูกประกาศออกไปแล้วนะว่าจะแต่งงานกับเธอวันอาทิตย์นี้แล้วหนะ”
นั่นสิ! ลืมไปเลยนะเนี่ย จะยกเลิกก็คงไม่ได้ ประกาศออกไปให้คนตั้งมากมายได้รู้ ถ้าจะแต่งไปก่อนแล้วถ้ามันไปกันไม่ได้แล้วค่อยหย่า...มันจะต้องดูไม่ดีแน่ๆ
“เดี๋ยวผมจะสอนเธอเอง”
“ภายในอาทิตย์เดียวเนี่ยนะ?”
“ครับ^^ ผมทำได้แน่ แม่เชื่อใจผมเถอะ” หลังจากพูดเสร็จเขาก็ลุกเดินออกจากห้องอาหารไป แม่ของเขาต้องยิ้มให้กับคำพูดของลูกเธอ เวลาที่ลูกเธอพูดแบบนี้เธอก็ต้องเชื่อใจเพราะเขาไม่เคยผิดคำพูดเลย
ในห้องนอนของฮาร์วี่
เมื่อมิยาโกะเดินขึ้นมาถึงห้องนอนของฮาร์วี่ เธอก็รีบเข้าไปแล้วล็อกประตูทันที เปลี่ยนจากมือที่กุมท้องมากุมที่อกข้างขวาแทน เธอยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมที่เป็นสีดำจึงทำให้เห็นได้ไม่ชัดว่าที่จริงแล้วเธอบาดเจ็บ เธอค่อยๆถอดเสื้อนอกของเธอออกทำให้ตอนนี้เธออยู่ในเสื้อกล้ามสีดำ
“ฮึก! อึก!...” เธอเอามือไปกุมที่อกข้างขวาอีกรอบ ลมหายใจหนักแน่นแสดงถึงความเจ็บปวด เธอค่อยๆเดินไปที่เตียงของฮาร์วี่แล้วฉีกผ้าคลุมเตียงสีขาวมาเส้นหนึ่งเพื่อที่จะนำมาทำแผล
ก๊อกๆๆ
“มิยาโกะ! เธอล็อกประตูหรอ?” เสียงของฮาร์วี่ดังมาจากด้านนอก หญิงผมดำรีบไปหยิบเสื้อนอกมาใส่แล้วเอาผ้าที่ฉีกมาเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง
แอ้ด..
“^^ เธอจะล็อกประตูทำไม ไม่มีใครเข้ามาหรอก...นอกจากฉันหนะนะ^^” พอเปิดประตูออกไปก็เจอกับสีหน้ายิ้มแย้มของฮาร์วี่ทันที ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สังเกตุสีหน้าของเธอหรือปลายผ้าคลุมเตียงที่ขาดไปเลย มิยาโกะเริ่มมองไปรอบๆห้องเพื่อหาที่ทำแผลโดยที่ฮาร์วี่จะไม่รู้ แล้วตาของเธอก็ไปสะดุดกับห้องน้ำ
“หืม? เธออยากอาบน้ำงั้นเหรอ...”
“...”
“ฮ่าๆๆๆ นั่นสินะ ตัวเธอคงเหนียวหมดแล้ว^^ เดี๋ยวเธออาบน้ำแล้วจะได้เข้านอนกัน” หลังจากพูดเสร็จฮาร์วี่ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบผ้าเช็ดตัว เสื้อแขนสั้นสีขาว กับกางเกงขาสั้นคล้ายบอกเซอร์ยื่นให้มิยาโกะแล้วชี้ไปที่ห้องน้ำ
“อ้อลืมไป! เดี๋ยวฉันเปิดน้ำให้^^” แล้วฮาร์วี่ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเปิดน้ำอุ่นๆออกจากฝักบัว มิยาโกะก็เดินตามเข้าไปเพื่อดูวิธีการเปิดน้ำ
“อาบเสร็จแล้วไม่ต้องปิดน้ำหรอกนะ เดี๋ยวฉันอาบต่อ^^” หลังจากพูดเสร็จฮาร์วี่ก็เดินออกจากห้องน้ำไปแล้วปิดประตูตามหลังด้วย มิยาโกะเดินเข้าไปล็อกประตูแล้วเอาผ้าสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็ใช้ผ้าสีขาวที่ฉีกมามาทำแผลแบบลวกๆ แค่เอาพันรอบอกไปสองสามรอบแล้วซ่อนปลายมันซะ เธอนำกางเกงขาสั้นมาใส้แล้วเอาเสื้อสีขาวมาใส่ ดีนะที่ผ้าปูที่นอนเป็นสีขาว ถ้าเป็นสีอื่นฮาร์วี่ต้องเห็นสีผ้าผ่านเสื้อนอนสีขาวแน่เลย
แอ้ด..
หลังจากแต่งตัวเสร็จมิยาโกะก็เปิดประตูออก ชายผมทองที่ยืนรออยู่หน้าประตูถึงกับต้องอ้าปากค้าง ก็ตอนนี้มิยาโกะดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น 100 เท่า! เสื้อนอนสีขาวตัวใหญ่คลุมลงไปถึงเขาปิดกางเกงขาสั้น ทำให้ดูเหมือนว่าเธอใส่แค่เสื้อตัวเดียว ผมสีดำยาวที่เคยถูกมัดเป็นเปียตอนนี้ได้ปล่อยยาวโดยที่ผมหน้ายังคงปิดตาไว้ข้างหนึ่ง หลังจากจ้องไปได้เกือบครึ่งนาที ชายผมทองก็ยิ้มออกมา
“ภรรยาเราก็เป็นสาวสวยเหมือนกันนะเนี่ย ^^” เขาพูดก่อนจะเอามือขยี้ผมมิยาโกะแล้วเดินเห้องน้ำไป มิยาโกะถอนหายใจออกมา โล่งใจที่เขาไม่เห็นอะไรผิดปกติจากเดิม เธอเอาผ้าเช็ดตัวไปพาดไว้ที่หัวเตียงแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง วันนี้มันอะไรกันนะ เธอคิดในใจก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง...
แอ้ด~
ประตูห้องน้ำเปิดอีกรอบไอน้ำร้อนลอยออกมาข้างนอกตามเจ้าของห้องที่ก้าวออกมา เขาใส่เสื้อกล้ามสีแดงกับกางเกงขายาวสีดำ ทำให้ผมสีทองของเขาดูเด่นมากขึ้น ผ้าเช็ดตัวสีขาวพาดที่คอของเขา ชายผมทองมองไปรอบห้องตามหาภรรยาของเขา แล้วตาก็ไปสะดุดกับร่างบอบบางที่หลับใหลอยู่บนเตียงของเขา
เขาก้าวเข้าไปหาหญิงสาวร่างบาง “นอนทั้งๆ ที่ผมยังไม่แห้งมันไม่ดีนะ...” เขาพูดกับตัวเอง เขาจ้องเธออยู่พักหนึ่งแล้วถอนหายใจ เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เธอแต่ก็สังเกตกับบางอย่าง
“ผ้าขาด?...เมื่อเช้ายังดีอยู่เลย...มิยาโกะ...” เขาหันไปมองสาวร่างบางอีกรอบ ใจอยากจะปลุกขึ้นมาสั่งสอนซักหน่อยแต่ก็ต้องใจอ่อนไป เขากลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ...หรือว่าเป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว? เขายักไหล่ เอาผ้าเช็ดตัวมาขยี้ผมเขาซักสองสามนาทีก่อนจะเอาไปแขวนไว้บนหัวเตียงเหมือนกัน ไม่นานเขาก็มานอนร่วมเตียงกับหญิงร่างบาง แล้วก็หลับไปเช่นกัน
9 โมงเช้าของวันต่อมา...
“มิยาโกะ!!!”
หญิงสาวร่างบางต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะใครบางคนตะโกนเรียกชื่อของเธอ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นฮาร์วี่ที่ยังอยู่ในชุดนอน ในมือข้างขวากุมชายผ้าปูเตียงยืนอยู่ข้างหน้าเธอ เขาจับเธอได้ซะแล้ว
“เธอเป็นคนทำใช่มั้ย?!” เขาพูดพร้อมยื่นชายผ้าที่ขาดมาให้เธอดูชัดๆ มิยาโกะมองชายผ้านั้นซักแป้บก่อนจะพยักหน้า
“โธ่!! ทำไมต้องฉีกไปด้วยฮะ! เธอรู้มั้ยว่าผ้านี่มันแพงขนาด...ไม่สิ ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้น ที่ฉันโกรธก็คือทำไมเธอไม่ขอฉัน! ถึงแม้ว่าเธอจะพูดภาษาฉันไม่ได้...” ชายผมทองหยุดบ่นทันที เขาเพิ่งจำได้ว่าบ่นไปเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาจึงเปลี่ยนมาจ้องหน้าของเธอแทน
“เธอ!” เขาพูดเสียงดัง พร้อมเอานิ้วชี้ข้างซ้ายชี้หน้ามิยาโกะ
“เธอทำไม่ดี! ไม่ดีมากๆ!” เขาพูดพร้อมทำท่าทางต่างๆ เพื่อพยายามจะบอกว่าสิ่งที่มิยาโกะทำไปนั้นไม่ดี แต่แทนที่มิยาโกะจะพยักหน้า ส่ายหน้าหรือทำท่าสำนึกผิด เธอกลับมองออกนอกหน้าต่างไปด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ทำเอาคนพยายามสั่งสอนช็อคไป
“เธอจะแสดงท่าทีสำนึกผิดหน่อยก็ได้นะ!...เฮ้! เธอฟังฉันอยู่มั้ยเนี่ย?” เขาใช้มือข้างซ้ายไปดันไหล่ข้างขวาของมิยาโกะ ร่างบางทีไม่ทันตั้งตัวรับแรงกระทำเลยเซไปชนกับผนัง
“เธอฟังฉันอยู่มั้ย?” ชายผมทองถามอีกครั้ง ตอนนี้สีหน้าของมิยาโกะเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนว่าเธอจะแสดงสีหน้าสำนึกผิดแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
“ฮ่าๆๆๆ ขู่แค่นี้ก็กลัวแล้วเหรอ? ฮ่าๆๆๆ ^^” ฮาร์วี่เห็นท่าทางมิยาโกะเป็นแบบนั้นก็ชอบใจหัวเราะออกมา แล้วเอากำปั้นไปชกที่อกข้างซ้ายของมิยาโกะเหมือนกับที่เขามักทำกับเพื่อนชายทั้งหลายของเขา
“อึก!!” มิยาโกะอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด ตัวค่อยๆ ทรุดลงไปนอนกุมอกอยู่บนเตียง
“อะไรกัน? โดนตัวเธอแค่นั้นเป็นขนาดนี้เลยเหรอ? อ่อนไปมั้ย ฮ่าๆๆ ^^”
“...” มิยาโกะไม่ตอบอะไร มีเพียงแต่เสียงหอบหายใจที่หนักแน่นเหมือนว่าเธอจะกำลังเจ็บจริงๆ มือทั้งสองข้างยังกุมอกข้างขวาไว้เหมือนเดิม
“มิยาโกะ?” ชายร่างสูงปีนขึ้นเตียงไปมองดูมิยาโกะใกล้ๆ แต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ เขาจึงพลิกตัวมิยาโกะให้นอนหงาย แล้ววินาทีนั้นเองที่เขาเห็น...เลือด! เลือดซึมผ่านชุดนอนสีขาวออกมา
“เธอไปโดนอะไรมาฮะ!” ฮาร์วี่พูดด้วยเสียงตกใจและเป็นห่วง “ให้ฉันดูแผลเธอหน่อย!” เขาไม่รอคำตอบจากคนเจ็บปวดเขาฉีกคอเสื้อชุดนอนของมิยาโกะออก เผยให้เห็นผ้าพันแผลที่ตอนนี้ได้กลายเป็นสีแดงแล้ว เขาค่อยๆ ดึงผ้าพันแผลลง (อย่าคิดไปไกลนะคะ ไม่ได้ดึงลงมากขนาดนั้น) เผยให้เห็นแผลสด เหมือนว่าจะเป็นแผลจากมีดที่ฟันลงมายาวประมาณ 5-6 เซ็นฯ ได้ ดูเหมือนว่าลึกอยู่เหมือนกัน
“อึก!” สายตาชายผมทองเดิมจ้องอยู่ที่รอยแผลเปลี่ยนมาสบตาหญิงสาวแทน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาอยากจะลงไปเรียกหมอมาสักคนแต่ที่เธอไม่ยอมบอกเขาก็เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครรู้ไม่ใช่เหรอ
“รออยู่นี่ อย่าขยับล่ะ!” เขาพูดด้วยท่าทีจริงจัง แล้ววิ่งไปที่ตู้ทำงานของเขา มิยาโกะก็ยังคงนอนหงายอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ไม่นานชายผมทองก็เดินกลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล เขาเดินเข้ามานั่งข้างๆตัวมิยาโกะ
“คงไม่ต้องเย็บหรอก...เหมือนแผลจะเริ่มสมานแล้วด้วย” ฮาร์วี่ก้มลงมองแผลเพื่อดูว่าเขาควรจะปฐมพยาบาลเธอยังไงดี เขาหยิบสำลีขึ้นมาชุบน้ำยาบางอย่าง
“ต้องล้างแผลก่อนนะ อาจจะแสบนิดนึง ทนเอาหน่อยนะ” หลังจากพูดจบเขาก็เอาสำลีนั้นเช็ดเบาๆรอบๆแผล ถึงเขาจะเป็นผู้ชายแต่ทำไมมือของเขาถึงได้เบากว่ามือของผู้หญิงอีกนะ เขาเช็ดแผลสลับกับการเป่าลมเย็นๆใส่เพื่อไม่ให้มิยาโกะแสบ หลังจากที่เช็ดเสร็จเขาก็เอาผ้าก็อตมาแปะให้แล้วเอาเทปปิดซะ เขาเอามือข้างหนึ่งวางเหนือแผลแล้วร่ายมนต์บางอย่างทำให้เกิดแสงสีฟ้าขึ้นแล้วจางหายไปเมื่อเขาท่องเสร็จ ดวงตาของมิยาโกะเบิกกว้าง เหมือนว่าเธอจะไม่เคยเห็นเวทมนตร์มาก่อน
“หืม? ฮ่าๆๆๆ เธอคงไม่เคยเห็นเวทมนตร์สินะ ^^ มันจะช่วยให้แผลเธอหายเร็วขึ้นหนะ”
เขาเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาชุดหนึ่ง เป็นชุดที่เขาออกไปหาซื้อเมื่อเช้านี้เอง เขายื่นเสื้อผ้าชุดนั้นให้คนที่ยังนอนอยู่บนเตียง
“ลุกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว^^” ร่างสูงยื่นมือข้างที่ไม่ได้ถือเสื้อผ้าไปให้มิยาโกะ เธอมองมือของเขาอย่างงงๆอยู่สักพัก แต่ในที่สุดเธอก็จับมือของเขาแล้วดึงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วเธอก็ต้องแปลกใจที่ตอนนี้เธอไม่มีความเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น หลังจากที่ลุกขึ้นนั่งแล้วชายผมทองก็ยื่นเสื้อผ้ามาให้ หญิงสาวมองเสื้อผ้าพวกนั้นเหมือนจะสงสัยว่าจะอามาทำอะไร
“เสื้อเธอมัน...” ฮาร์วี่พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เสื้อของมิยาโกะที่ฉีกขาดเพราะฝีมือของเขา มิยาโกะก็มองตามนิ้วที่ชี้มา พอเห็นว่าร่างกายของตนเปิดเผยมากไปหน่อยเธอก็รีบรับเสื้อผ้ามาแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“ฮะๆๆๆ^^” ฮาร์วี่หัวเราะออกมากับท่าทางอินโนเซ็นท์ของเธอ มิยาโกะนี่ไม่เหมือนใครดีจริงๆเลย ถ้าได้อยู่ด้วยกันจริงๆชีวิตของเขาต้องมีสีสันเป็นอย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปไม่นานมิยาโกะก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนนี้เธออยู่ในชุดที่ฮาร์วี่ได้เตรียมมาให้ เป็นเสื้อแขนยาวสีเขียวเข้มๆกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินตอนนี้ผมของเธอก็ถูกมัดเป็นเปียแล้วเรียบร้อย
“ว้าว! นี่เราก็เลือกเสื้อผ้าเก่งเหมือนกันนะเนี่ย^^” ฮาร์วี่เดินวนตัวของมิยาโกะเพื่อดูฝีมือการเลือกเสื้อผ้าของเขา ตอนนี้ฮาร์วี่ไม่ได้อยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังจะไปออกรบยังไงยังงั้น คงเป็นเพราะเขาใส่เสื้อที่มีบางส่วนเป็นเกราะที่ตามตรงแล้วถ้าไปออกรบจริงๆ...ตาย
“วันนี้! พวกเราจะไปที่สนามฝึกกัน^^” ชายผมทองพูดกับหญิงสาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเคย ไม่รีรออะไรทั้งนั้นเขาก็จับมือของหญิงสาวแล้วลากไปที่สนามฝึกทันที
ทางเข้าสนามฝึกเป็นเหมือนทางเข้าสวนของพระราชวัง ประตูเหล็กบานใหญ่สองบานเปิดทันทีเมื่อเห็นหน้าของชายผมทอง ทั้งคู่เดินเข้าไป เสียงของหมัดกระทบกัน เหล็กจากดาบตีกันแล้วกลิ่นเหงื่อจากผู้ชายทั้งหลายในนั้น ดวงตาของมิยาโกะเบิกกว้าง พอฮาร์วี่เห็นแบบนั้นเขาก็เอามือโอบไหล่ของเธอ
“ไปดูกันเถอะ^^” แล้วทั้งคู่ก็เดินไปรอบๆสนาม มองดูความสามรถการต่อสู้ของแต่ละคน ไม่มีสายตาใดจ้องมาที่พวกเขา ทุกคนกำลังมุ่งมั่นในการฝึกกันอย่างจริงจัง ตวงตาสีน้ำตาลของหญิงสาวมองไปรอบๆ แต่ก็ไปสะดุดกับชายผมน้ำตาลคนหนึ่งที่กำลังสู้ดาบกับชายอีกคน มิยาโกะหยุดมองเทคนิกการต่อสู้ของเขา เขาเป็นคนมีฝีมือมากเลยทีเดียว ไม่นานก็เอาชนะชายอีกคนได้อย่างง่ายดาย
“คนนั้นหนะ...เป็นมีหนึ่งของเราเลยนะ” ฮาร์วี่พูดขึ้นมา สายตาจ้องตรงไปที่เขาคนนั้น แต่เสียงของเขาไม่ได้เหมือนชื่นชอบ แต่เหมือนจะอิจฉามากกว่า
“เฮ้มาซา!!” ฮาร์วี่โบกมือเรียกชายคนนั้น เมื่อเขาเห็นหน้าของฮาร์วี่ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที แต่พอเห็นมิยาโกะยืนอยู่ข้างฮาร์วี่ดวงตาของเขาก็เหมือนจะจ้องตรงมาที่เธอ
“เฮ้! นั่นมันว่าที่ภรรยาชั้นนะ อย่าจ้องให้มาก” พอฮาร์วี่พูดแบบนั้น มาซากิก็ต้องเปลี่ยนเป็นมองฮาร์วี่แทน พวกเขาทักทายกันเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน
“อ้อ! มาซา นี่มิยาโกะ ว่าที่ภรรยาชั้นเอง มิยาโกะ นี่มาซา มือหนึ่งทางด้านการต่อสู้ของเมืองนี้^^” ฮาร์วี่แนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน มาซากิโค้งหัวคำนับทันทีแต่มิยาโกะกลับนิ่งแล้วมองหน้าเขาทำให้ฮาร์วี่นึกขึ้นได้ว่าเธอพูดภาษาของเขาไม่ได้ เขาจึงต้องเริ่มใหม่โดยการเอานิ้วชี้ที่มาซากิ
“มาซากิ ซากิ” มาซากิมองหน้าของฮาร์วี่แปลกแต่ก็ยิ้มให้กับมิยาโกะ
“มาซากิ...” มิยาโกะพูดตามฮาร์วี่ แล้วโค้งคำนับให้กับมาซากิ เธอไม่พูดอะไรต่อทั้งนั้นแล้วก็เดินไปดูการต่อสู้ชนิดอื่นต่อ ฮาร์วี่กับมาซากิถึงกับนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนที่มาซากิจะได้ถามอะไรฮาร์วี่ ชายผมทองก็วิ่งตามหญิงสาวไปแล้ว เขาจึงกลับไปซ้อมต่อ หลังจากที่เดินดูสนามฝึกจนถึงเที่ยงฮาร์วี่ก็เรียกให่มิยาโกะกลับบ้าน หญิงสาวเดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายเมื่อเขากวักมือเรียกเธอ แต่สาวตาของเธอดูเหมือนว่าไม่อยากออกจากที่นั่นเลย
ทั้งคู่เดินกลับมาที่บ้าน พอเข้าไปกลิ่นของอาหารหลากหลายอย่างก็โชยออกมาทันที ชายผมทองรีบวิ่งตรงไปที่ห้องอาหารแล้วหญิงสาวจึงตามมาทีหลัง พอหญิงสาวมาถึงฮาร์วี่ก็ได้เริ่มทานอาหารไปแล้ว เขากวักมือเรียกเธอ
“มาๆๆๆ มากินๆ เธอคงหิวแย่ ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่” หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งที่นั่งเดิมของเธอแล้วมองอาหารหลากหลายชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่เธอก็ไม่ได้หยิบส้อมขึ้นมาหรือว่าตักอาหารมา
“เป็นอะไรละ? กินสิ เดี๋ยวก็เป็นลมหรอกไม่ได้กินอะไรมาตั้งนาน กินๆๆ” ฮาร์วี่ถึงกับหยิบส้อมขึ้นมาให้เธอ เธอรับส้อมมาช้าๆ มองดูอาหารทั้งหลายอีกครั้งแล้วใช้ส้อมจิ้มอาหารอย่างหนึ่งเข้าปากแล้วเคี้วช้าๆ...
แค็กๆๆๆ แค็กๆๆๆ
พอกลืนสิ่งนั้นลงไป หญิงสาวก็เริ่มไอทันที ตอนแรกก็ไปเหมือนจะสำลักแต่ก็ไม่หยุดสักที กลับไอรุนแรงมากกว่าเดิมเยอะ
“เธอเป็นอะไรมั้ย?”
แค็กๆๆ โครม!
“เฮ้ย!! มิยาโกะ! มิยาโกะ เธอเป็นอะไร?” หญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ล้มลงไปนั่นงที่พื้นพร้อมเอามือจับคอของเธอไว้เหมือนว่าจะหายใจไม่ออก เมื่อชายผมทองเห็นเข้าก็รีบวิ่งเข้ามาประคองเธอทันที ในหัวของเขากระวนกระวาย ไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้ควรจะช่วยเธออย่างไรดี จนกระทั่งหญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น
“เอาน้ำ...เอาน้ำอุ่นมาให้ฉัน...”
เธอพูดภาษาของเราได้!...
ความคิดเห็น