ใครคือผู้ที่อยู่...ใกล้หัวใจมากที่สูด - ใครคือผู้ที่อยู่...ใกล้หัวใจมากที่สูด นิยาย ใครคือผู้ที่อยู่...ใกล้หัวใจมากที่สูด : Dek-D.com - Writer

    ใครคือผู้ที่อยู่...ใกล้หัวใจมากที่สูด

    หลายคนอาจจะพูดประโยคนี้ให้กับเพื่อนหรือแฟน แต่ลืมคิดถึง คนที่สำคัญที่เราเรียกว่า "แม่"

    ผู้เข้าชมรวม

    216

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    216

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 มี.ค. 49 / 14:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                                ดิฉันเป็นเด็กผิวขาว ตัวเล็ก ๆๆ อายุ 14 ปี คนหนึ่งมีนิสัยขยันขัน     แข็ง  แต่บางครั้งก้อเปนคนเอา  แต่จัยตัวเอง  ดิฉันอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งกะบแม่  พ่อของดิฉันเสียชีวตตั้งแต่ฉันยังไม่เกิด  และทุก ๆ เช้าดิฉันจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งปลุกทุกเช้า  
                                
                      " ลูก  ลูก  ตื่นรีบไปโรงเรียนเถอะลูก "   ดิฉันรู้สึกรำคานมาก  ไม่อยากได้ยิน ทุก ๆ เช้า  หลังจากที่แม่ปลุกดิฉัน  และทำอาหารเช้าให้ดิฉันทานเสร็จเรีบยร้อยแล้ว  แม่ก้อจาหยิบเสื้อกันหนาวมาถักทุกเช้า  และขณะนี้เป็นเวลา  3  ปีแล้ว ทุก ๆ เช้าก้อยังเปนเหมือนเดิม
                                 
                      " โอ้ย  แม่หิวข้าวจังเลย"  
                                  
                      "  เด๋วลูก  อีกประเดี๋ยวเดียว  แม่ขอถักเสื้อกันหนาวตัวนี้ก่อนจะเสร็จแล้วลูก "
                                
                      " โอ้ย อะไรหนักหนา ถักมา 2 - 3 ปีแล้ว ทุกเช้าทุกเย็น ยังไม่เสร็จอีกหรือ"
                                  
                      "  ถ้าลูกหิว  ก็ไปเอามากินก่อนเลย  แม่ทำอาหารดสร็จแล้วอยู่ในตู้กับข้าวจ๊ะลูก "

                           ขณะนั้นดิฉันโกรธและรำคานมาก  จึงเข้าไปกระชากเสื้อกันหนาวจากมือแม่  แล้วชีกเสื้อนกันหนาวออกเปนชิ้นๆๆ
                                  
                        "  อ้าวลูกไม่ทานข้าวหรือ  เห็นบ่นว่าหิวไง "
                                  
                        " ไม่.....หนูกินไม่ลง "
                                  
                        " ทำไมล่ะลูก "
                                  
                        " หนูอยากกินปลานิลทอด แม่ทำอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นหน้ากินเลย  "
                                  
                        " นะ  ลูกทานก่อนเถอะ  เด๋วพุ่งนี้แม่จะทำให้ทาน "

                                 ขณะนั้นดิฉันโกรธแม่มาก  ดิฉันจึงเข้าห้องปิดประตูดังปัง!!  แล้วก็เงียบอยู่ในห้องเป็นเวลานานขณะนี้เป็นเวลา 17.00 น แล้ว  ดิฉันก็นึกว่าแม่ คงทานอาหารคนเดียวอย่างเอร็ดอร่อยคนเดียวไปแล้ว  สักพักดิฉันได้ยินเสียงดังจากถนนปากซอย   เอี๊ยด.......โครม !!!
                                   
                       " เสียงอะไร "
                                  ดิฉันเปิดหน้าต่างดูด้วยความสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้น ในไม่กี่นาทีต่อมาก็มีรถตำรวจและรถพยาบาลมาจอดที่หน้าปากซอย  ด้วยความอยากรู้อยากเห็นดิฉันจึงวิ่งออกมาดู  แล้วดิฉันก็ได้ถามป้าคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น
                                   
                       " ป้าคะ  คัยเป็นอะไรคะ "
                                   
                       " ป้าเห็นผู้หญิงวัยกลางคนที่อยู่ซอย 6 สงสัยจะออกมาซื้อปลานิล แต่ดันมาถูกรถชน ดูซิในมือยังถือถุงปลานิลอยู่เลย "
                                   
                        " อะไรนะ !!! "
                                 
                                    ขณะนั้นดิฉันรีบวิ่งเข้าไปดู  ในใจก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นแม่ของเราเลย  แต่ภาพที่เห็นเป็นภาพของแม่ดิฉันเองนอนจมกองเลือด  ดิฉันคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี ๆ  น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของดิฉันทั้งสองข้าง  ภาพเหตุการในอดีตที่ดิฉันอยู่กับแม่ก้อรื้อฟื้นขึ้นมาในความคิดด้วยความอาลัยอาวรณ์
                                     
                         " โธ่แม่...หนูทำแม่ตาย "

                                       หลังจากงานศพของแม่ดิฉันผ่านพ้นไปแล้ว  ป้าจึงรับดิฉันไปอยู่ที่ภูเก็ต  และในคืนนั้น ดิฉันได้เก็บข้าวของเครื่องใช้  ดิฉันก็ไม่ลืมที่จะหยิบรูปแม่ใส่กระเป๋าขณะที่ฉันนั่งมองรูปแม่ด้วยความเสียใจ  สายตาของดิฉันได้ไปเห็นไดอารี่ เล่มสีชมพูวาง - อยู่บนที่นอนของแม่ดิฉันจึงหยิบมาอ่านด้วยน้ำตา
                                       
                          " วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายแล้วซินะที่จะถักเสื้อกันหนาวตัวนี้เสร็จ  พุ่งนี้ก็จะถึงวันเกิดของลูกแล้ว  ลูกของแม่ คงจะดีใจน่าดูที่ของขวัญวันเกิดปีนี้ของลูกเป็นเสื้อกันหนาวตัวนี้ อืม...ลูกของแม่อายุ  15  ปี  แล้วหรือนี่  ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน  ลูกของแม่ก็เป็นสาวขึ้นทุกวันแล้ว ลูกรู้รึป่าวว่าแม่รักลูกมาก  รักจนแม่ไม่สามารถเขียนบรรยายลงมาบนกระดาษแผ่นนี้ได้หมด  ลูกจ๋า.....แม่อยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อรอดูความสำเร็จของลูก   ต่อให้ลูกจะเป็นอย่างไงก็แล้วแต่  แม่ อยากจะบอกกับลูกว่า  แม่อาจจะเป็นแม่ที่ไม่ดีพอสำหรับตัวลูก  ลูกจงจำไว้นะว่าลูกเป็นคนที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตของแม่  แม้ต่อให้เกิดอะไรขึ้นลูกจงก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจอย่าท้อแท้  แล้วแม่คนนี้จะคอยเป็นกำลังใจ  กำลังใจที่อาจจะเล็กน้อยสำหรับลูก แต่คำที่ซ่อนอยู่ที่คำว่าเล็กน้อยมันมีค่ามาก เพราะว่ามันเป็นกำลังใจที่มาจากคนที่ลูกเรียกว่า  "แม่"
                                          
                                        หลังจากที่ดิฉันอ่าน "ไดอารี่" เสร็จน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างและดิฉันก็หยิบ  "ไดอารี่"   สีชมพูและรูปของแม่เดินกอดไว้แนบอก  พร้อมกับปิดประตูห้องของผู้เป็นแม่ ลงช้า ๆ  เหตุการที่เกิดขึ้นครั้งนี้คงจะเป็น  " ตราบาป "   ที่ดิฉันไม่มีวันลืมตลอดชีวิต
       
                                                     เรื่องราวทั้งหมดที่นมาเข้าในชีวิตของดิฉัน  ดิฉันถือว่าเป็นบทเรียน  และเป็นบทเรียนที่ดิฉันไม่สามารถที่จะแก้ตัวใหม่ได้อีกเลยทั้งชีวิต  เพราะฉะนั้นคุณจงทำวันนี้ วันแรกของวันที่เหลืออยู่นี้ช่างสั้นเหลือเกินและเราไม่มีทางรู้ว่าเรามี " วันแรกของวันที่เหลืออยู่"  อีกสักกี่วัน
                                                     โปรดใช้เวลาสักนิด  แสดงออกถึงความลึกซึ้ง แต่คนที่เราเรียกว่า " แม่ " แม้จะไม่กล้าพูดออกมาก็ตาม  จะเหลือเพียงความทรงจำและความเสียงใจเท่านั้น  อย่าเพิกเฉยกับคนที่อยู่ใกล้หัวใจคุณมากที่สุด  "รักแม่ ให้มากกว่าที่คุณรักตัวเอง "

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×