คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 3 : รูน
ลูน่าจับท่อนไม้ในมือแม่นมั่น ทั้งเพ่งมองเจ้าหมาป่าตัวที่เป็นคู่ต่อสู้ของตน
มีสติ... สมาธิอยู่กับตัวเองลูน่า หาจุดอ่อนของมันให้เจอ เธอพร่ำบอกตัวเองอยู่ในใจซ้ำ ๆ ระหว่างที่กำลังทำทุกสิ่งตรงข้ามกับเจ้าหมาป่า
มันเดินซ้าย เธอเดินขวา มันเดินหน้า เธอถอยหลัง รักษาระยะห่างเอาไว้หากไม่มากขึ้นก็ไม่ควรน้อยลง
"มัวรออะไรอยู่ไอ้หนุ่ม แน่จริงก็เข้ามาเลย" เธอท้าทายมันราวกับว่าคุยกันรู้เรื่องอีกครั้ง แต่ทั้งหมดนี้เป็นการซื้อเวลา เพื่อพยายามวิเคราะห์ว่าทำยังไงให้มันสลายไปภายในทีเดียวแบบตัวแรก
กรรร..
เสียงขู่ในลำคอของมันทำให้เสียสมาธินิดหน่อย แต่ก็พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว จึงได้คำตอบ
ช่างมันแล้วกันวะ! สุ่ม ๆ ไปเลยนี่แหละ!
"เปิดก่อนได้ปูดไอ้น้อง!" เธอพูดพลางพุ่งตัวเข้าใส่หมาป่าขนสีเงินเบื้องหน้า ก่อนจะฟาดลงกลางหัวของมันเต็มแรง และเธอก็คิดถูกเมื่อร่างของมันเริ่มที่จะสลายไปทีละน้อย
เอ๊ะ!
เหมือนว่าจะมีแสงอะไรออกมาจากจุดที่เธอตี เมื่อพยายามมองก่อนที่ร่างหมาป่าตัวนั้นจะสลายไปจนหมดจึงพบว่าเป็นยันต์รูนสีฟ้าที่ประทับอยู่ตรงนั้น
ลูน่าคล้ายพบแสงที่ปลายอุโมงค์ เหมือนว่าจะเข้าใจอะไรขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่มีเวลาให้ดีใจนานเมื่อตัวที่สามรออยู่แล้ว
มันกระโจนเข้ามาเหมือนสองตัวก่อนหน้าในจังหวะที่ลูน่าหน้ากำลังตกตะกอนความคิด โชคดีที่ไหวพริบสั่งร่างกายให้ยกไม้ขึ้นรับคมเขี้ยวที่กำลังจะเข้าขย้ำเธอ
เธอยืนต้านแรงกับหมาป่า พลางมองหาตำแหน่งยันต์รูนของมัน
ข้างลำตัวก็แล้ว ใต้ท้องก็แล้ว แม้แต่ที่หางหรือ ขาหน้าขาหลังก็ยังหาไม่เจอ
ถึงอย่างไรแรงมันก็เทียบเท่าแรงของสัตว์ป่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง แถมเธอเองก็เป็นแค่เด็กอายุสิบแปด เรี่ยวแรงที่มีก็เริ่มจะต้านไม่ไหวอีกต่อไป
"อ..อึก!" ต้องเจอสิต้องเจอ ต้องหาให้เจอให้ได้ อุตส่าห์ได้ภารกิจมาให้แก้ไขทุกสิ่ง จะมาตายเพราะหมาป่าตัวเดียวไม่ได้
เมื่อแสงจันทร์บนฟ้ากระทบดวงตาของลูน่า แววตาวาวโรจน์ของหมาป่าก็ปรากฏบางสิ่งขึ้นในนัยน์ตาข้างซ้าย
นั่นไง! ยันต์รูน!
เมื่อรู้จุดตายของคู่ต่อสู้ตรงหน้า เธอจึงปล่อยมือซ้ายออกจากไม้ที่ถืออยู่ นั่นทำให้การต้านแรงหมาป่ายากขึ้นเล็กน้อย แต่มือที่ปล่อยออกจากไม้ก็จิ้มเข้าไปที่ตาซ้ายของเจ้าหมาป่าจนร่างของมันสลายไป
"แฮ่ก... แฮ่ก.. หมดแล้ว... ชนะแล้ว!"
เธอลงไปนอนกับพื้นโดยไม่สนใจอีกแล้วว่าชุดที่ใส่อยู่นั้นดำขาวอย่างไร รู้แค่ว่าตอนนี้ยังไม่ตายก็ดีใจมากแล้ว
ลูน่ากอดแซนดี้ที่นิ่งสนิทไม่ต่างจากหนังสือธรรมดาไว้แน่นด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อพลังเวทย์ของตนที่พยายามเรียกออกมาก็ยังคงออกมาเพียงแค่ละออง
นั่นทำเธอเซ็งนิดหน่อย จึงลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง หันมองไปยังทางที่ตนจากมาซึ่งก็มีแต่ป่าและต้นไม้ ก่อนจะหันมามองสนามต่อสู้ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อครู่นี้พร้อมนึกถึงเจ้าหมาสามตัวที่น่ากลัวแต่ตายง่ายได้ใจสุด ๆ
ถึงว่ามันถึงเข้ามาตีทีละตัว ไม่ใช่นิสัยของสัตว์ป่าเลยสักนิด ไม่งั้นคงไม่เกิดคำว่า'หมาหมู่'ขึ้น มันคือสัตว์ที่ถูกเสกขึ้นจากเวทย์มนต์และจุดอ่อนของมันคือยันต์รูนที่สร้างพวกมันขึ้นมานี่เอง
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือที่ดังมาจากด้านทำให้เธอต้องหันขวับไปดู
"เจ้าเก่งมาก ที่จัดการลูกสมุนของข้าได้ทุกตัวโดยที่ไม่ต้องใช้พลังเวทย์ เก่งมาก.."
เจ้าของเสียงปรบมือนั้นคือหญิงสาวเรือนผมสีดำขลับ สวมผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้ม ทั้งยังปิดหน้าครึ่งล่างเอาไว้ด้วยผ้าสีดำจึงดูไม่ออกนักว่าหน้าตาหรืออายุอานามเป็นอย่างไร
แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วสิ่งที่ลูน่าสรุปได้สั้น ๆ ในใจ นี่แหละ! นังตัวต้นเรื่อง!
เธอรีบลุกขึ้นยืน จึงได้ข้อมูลเพิ่มว่าผู้หญิงคนนี้ตัวเล็กกว่าเธอนิดหน่อย ทั้งยังพกมีดเอาไว้ข้างลำตัว
"เธอเป็นใคร! แล้วทำแบบนี้ทำไม!" ลูน่าทำใจกล้าถามออกไป
หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ตอบคำถามเพียงแต่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแนบไว้ที่บริเวณปากของตัวเอง เพียงชั่วพริบตาก็หายวับไปจากที่ที่ยืนอยู่
"แม่มดน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าข้าคือผู้ใด" เสียงนั้นมาจากอีกด้านที่เธอหันหลังให้ นั่นทำให้ลูน่าสับสนนิดหน่อย แต่ก็รีบหันตามไปทันที
"วาร์ปได้ด้วยเหรอวะเนี่ย.." รู้ตัวอีกทีผู้หญิงคนนั้นก็ไปยืนพิงอยู่ที่ต้นไม้
จากความรู้สึกแล้ว เธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มาดีแน่ ๆ จึงพยายามจะเรียกพลังออกมาต่อสู้กันให้สมศักดิ์ศรีแม่มด แต่พยายามเท่าไหร่ สิ่งที่ออกมาก็มีแต่เพียงละอองเวทย์สีทอง
"โถ่เว้ย!" เธอสบถ
แม่มดลึกลับเลิกคิ้ว "เจ้าพยายามจะทำอะไรแม่มดน้อย หมายถึง.. แบบนี้หรือ"
เพียงสะบัดข้อมือเล็กน้อย พลังเวทย์สีฟ้าก็กระชากร่างของลูน่าลอยหวือไปชนกับต้นไม้อีกฝั่ง
"อั่ก!!" ต้นหมอกครามสั่นไหวเล็กน้อยแต่ใบที่ใกล้โรยราก็ร่วงเกรียวลงมาก่อนกำหนด พร้อมกับหมอกสีน้ำเงินที่ฟุ้งออกมาจากลำต้นจากการโดนกระแทก
"ฮ่า ๆๆ!! เจ้ายังอ่อนหัดนัก แม่มดน้อยเอ๋ย!" แม้หมอกจะตลบไปหมด แต่แสงสีฟ้าจากการย้ายตำแหน่งของแม่มดปริศนาก็ทะลุหมอกเหล่านั้นจนเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน
แม้จะไม่รู้แล้วว่าตอนนี้แม่มดคนนั้นหายไปไหนแล้ว แต่เธอก็พยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นโดยอาศัยต้นไม้ที่เธอปลิวมาชน
ความรู้สึกจุกทำเธอพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้เพียงแค่พิงต้นไม้แล้วหอบหายใจ
ในจังวะนั้น แสงสีฟ้าอ่อน ๆ ก็แยงตาของเธอผิดปกติจนต้องหันไปมองแม้จะคิดว่ามันเป็นแสงที่มาจากเปลือกของต้นหมอกคราม
"..."
อักขระที่สักอยู่บนเปลือกไม้ตรงหน้าคล้ายกับซ้อนทับลงมาในความทรงจำกับตอนที่มองเข้าไปในนัยน์ตาของหมาป่า เมื่อนั้นความรู้และข้อมูลหลายๆส่วนจากทั้งที่เพิ่งได้รับและเรียนรู้มาตลอดชีวิตก็เริ่มปะติดปะต่อกัน
ลูน่ามองหาต้นไม้ที่อยู่ในระยะความเป็นไปได้ในสิ่งที่เธอสันนิษฐาน รวมกับต้นนี้ก็ต้องมีทั้งหมดหกต้น
แสงสีฟ้าที่เป็นคนละเฉดกับต้นหมอกครามอยู่บนต้นไม้อีกห้าต้นตามที่เธอคิดจริง ๆ ในที่สุดเธอก็ได้คำตอบแล้ว
ที่เธอใช้พลังเวทย์ไม่ได้ ที่แซนดี้อยู่ ๆ ก็นิ่งไป ทั้งหมดนี้มีเหตุผลรองรับทั้งหมด
"อาณาเขตยันต์รูนหกเหลี่ยม เป็นศาสตร์เวทย์ป้องกันพื้นฐาน มีเพียงแม่มดผู้ที่ร่ายมันเท่านั้นจึงจะสามารถใช้เวทย์มนต์ในอาณาเขตนี้ได้ พลังเวทย์นอกจากนั้นจะถูกผนึกทั้งหมด"
เสียงของแซนดี้ก้องขึ้นมาจากความทรงจำสมัยที่เธออายุสิบสองขวบ ขณะเดียวกันลูกสมุนของแม่มดปริศนาก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกสองตัว แต่คราวนี้ไม่ใช่หมาป่า หากแต่เป็นกวางมูสที่ตัวใหญ่ยิ่งกว่าที่เธอเห็นมาทั้งชีวิต
"ลองเล่นกับลูกสมุนข้าอีกสักสองตัวสิ อยากรู้นักว่าเจ้าจะสู้ได้สักกี่น้ำ โดยไม่มีพลังเวทย์ ฮ่า ๆๆๆ !"
เสียงแม่มดนั่นดังมาอย่างไร้ทิศทาง แต่ลูน่าไม่กลัวเลยสักนิด ทั้งยังยกยิ้มเมื่อมองไปยังเจ้ากวางตัวใหญ่
"กำลังอยากได้ตัวอะไรใหญ่ ๆ พอดีเลยต่างหาก"
ความคิดเห็น