คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 1 : โลกแม่มด
เพียงเสี้ยววินาทีที่ประตูมิติถูกปิดลง ลูน่าก็ล้มลงกองกับพื้นเพราะวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเอาแต่มองแม่ของตนที่อยู่อีกฝั่ง จนไปสะดุดกับรากไม้เข้า
"อ๊ะ!!"
ปักกก!!
แซนดี้ได้ทีก็บ่นเธอยกใหญ่ "นี่! เจ้าวิ่งอะไรของเจ้ากัน ทำอย่างกับตัวเองเป็นเด็กไปได้!"
"โอ้ย เจ็บ ๆๆๆ " เธอค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น แต่เมื่อสังเกตที่แขนตัวเองกลับรู้สึกว่าอยู่ในเสื้อผ้าที่แปลกไปอย่างน่าประหลาด
เสื้อแขนยาวสีขาวเข้ารูปพอดีตัวเช่นเดียวกับกางเกง ลายผ้าปักด้วยดิ้นทองและซ่อนลวดลายสีเงินเอาไว้ เมื่อกระทบแสงจันทร์จึงพบความงามอันถ่องแท้
ผมสีบลอนด์ที่เคยรวบเป็นหางม้าก็ถูกปล่อยให้ยาวสยาย แต่ก็สวมทับด้วยผ้าคลุมสีเงินโปร่งแสง และทับอีกครั้งด้วยรัดเกล้าสีขาวนวล
เธอหมุนไปหมุนมาดูรอบตัว พินิจอาภรณ์บนร่างกายอย่างถี่ถ้วน "นี่มัน.. เหมือนในหนังฮีโร่ค่ายนั้นเลย!"
"ลูน่า! ก่อนที่เจ้าจะพูดอะไร ช่วยหยิบข้าขึ้นมาก่อนได้ไหม" แซนดี้หนังสือขี้บ่นเริ่มบ่นออกมาอีกครั้ง
"โอ้! ขอโทษที ๆ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเธอพูดแบบนี้ได้ด้วย" เธอก้มลงไปหยิบแซนดี้
ลูน่ารู้สึกไม่ชินนิดหน่อยที่ปกติแล้วเธอกับแซนดี้จะคุยกันผ่านกระแสจิตเท่านั้น แต่พอก้าวเข้ามาในโลกแม่มดแล้ว เจ้าหนังสือก็เริ่มเปิดปิดพูดไม่หยุดเลย
"ก็ที่นี่โลกแม่มด หนังสือขยับได้ไม่ใช่เรื่องแปลก ลองข้าไปคุยแบบนี้กับเจ้าที่โลกมนุษย์ดูสิมีหวังโดนจับไปขูดหวยแน่"
"ก็จริงของเธอ ว่าแต่.." ลูน่ากอดหนังสือเวทย์มนต์ด้วยสองมือ หันซ้ายหันขวามองดูรอบตัวอีกครั้ง เมื่อครู่นี้เธอสังเกตดูแต่ตัวเองจนไม่ได้มองทิวทัศน์
ลมอ่อน ๆ พัดผ่านพอให้ผ้าคลุมและผมของเธอปลิวไสว ต้นไม้แถวนี้ทั้งสูงและใหญ่มาก เปลือกไม้สีม่วงเข้มมีแสงสีฟ้าซึ่งเป็นสีเดียวกับใบวิ่งไปทั่วร่องที่ลึกลงไปของต้นไม้
ใบไม้ที่โรยราและค่อย ๆ ร่วงลงมาให้แสงสว่างเพียงริบหรี่ก่อนจะดับไปเมื่อตกถึงพื้น
แต่มันก็อยู่แค่สองฝั่งระหว่างสองข้างทาง ราวกับว่าตอนนี้เธอยืนอยู่บนถนนที่ถูกทำให้เดินทางสะดวกมาแล้ว เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า แสงสว่างของพระจันทร์เต็มดวงก็สาดลงมาอย่างไร้เมฆใด หรือเงาจากต้นไม้ใดบดบัง คล้ายกับธรรมชาติรอต้อนรับเธอมาแสนนานแล้ว
"เราอยู่ที่ไหนกันเหรอแซนดี้" เธอถามทั้งที่ยังตกตะลึงในความงามของธรรมชาติอันแปลกตาและไม่เคยเห็นมาก่อน
"เจ้าถามอะไรของเจ้า ก็โลกแม่มดไง" ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้แซนดี้เป็นหนังสือตรง ๆ หรือจงใจกวนประสาทกันแน่ ใกล้ๆนี้ก็มีแม่น้ำ โยนทิ้งเลยดีไหมเนี่ย
"รู้แล้ว หมายถึงว่าอยู่ส่วนไหนของโลกแม่มด"
"อืม... เจ้าลองปล่อยข้าก่อนซิ"
ไม่รู้เลยว่าเจ้าหนังสือในอ้อมอกมีความตั้งใจจะทำอะไร แต่เมื่อปล่อยมือออกจากเขา แซนดี้ก็กางออกแล้วลอยขึ้นไปบนอากาศ จนถึงตอนนี้ลูน่าก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแซนดี้มันก็บินได้นี่หน่า
"ป่าหมอกคราม"
"ป่าหมอกคราม?" ลูน่าย้ำคำด้วยความสงสัย
"บริเวณป่าที่เต็มไปด้วยต้นหมอกคราม ต้นไม้ใหญ่ ๆ ที่อยู่รอบตัวเจ้าตอนนี้นี่แหละ ใบของมันสามารถสร้างหมอกได้เพียงเล็กน้อย แต่มันสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนของมันเลยทำให้สามารถสร้างหมอกที่หนามากพอจนไม่สามารถเห็นแม้แต่ทางเบื้องหน้าที่เจ้ากำลังจะไป และหลงอยู่ในหมอกได้เลยในคืนเดือนมืด ถือว่าเจ้าโชคดีนะที่ชะตากำหนดให้เจ้ามาโลกแม่มดในคืนจันทร์เต็มดวง ป่าหมอกครามจึงเปิด"
แค่ได้ฟังเพียงเท่านั้นก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่สิ่งที่น่าทึ่งไม่ใช่ความอัศจรรย์ของป่านี้หรอก หากแต่เป็น..
"เพิ่งเคยเห็นแซนดี้พูดจามีสาระแบบนี้ครั้งแรกเลยนะเนี่ย"
"ข้าเป็นหนังสือ! ข้าคือความรู้และสาระทั้งมวล! ทำไมถึงกวนประสาทข้าอยู่เรื่อยเลยลูน่า เจ้านี่นะ!"
น้ำสูงไหลลงที่ต่ำฉันใด ลูน่ากับแซนดี้ก็ตีกันอยู่วันยังค่ำฉันนั้น ไม่รู้เลยว่าถูกสร้างขึ้นมาจากคนคนเดียวกันทำไมถึงได้มีนิสัยที่ต่างกันสุดขั้วแบบนี้นะ
จนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่า 'กลับไปแก้ไขทุกสิ่งให้ถูกต้อง' นั้นคืออะไร เธอต้องเริ่มทำอะไรก่อน มันจะมีหน้าต่างเควสต์ประจำวันหรือเควสต์เนื้อเรื่องโผล่ขึ้นมาเหมือนนิยายระบบที่เธอเคยอ่านหรือเปล่า แต่เมื่อเธอก็คำตอบไม่ได้ แซนดี้ก็ให้คำตอบไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ยิ่งเดินไปบนทางทอดยาวที่สองข้างทางก็มีแต่ต้นไม้ ไม่มีคนอื่น มีเพียงตัวเองและหนังสือเวทย์มนต์ที่ลอยอยู่เคียงข้าง ความเงียบและบรรยากาศก็เริ่มแปลเปลี่ยนเป็นความเบื่อหน่าย เมื่อนั้นลูน่าจึงเริ่มคิดหาอะไรสักอย่างมาคุย
"นี่แซนดี้"
"มีอะไร"
"ฉัน.. เปลี่ยนเป็นชุดนี้ได้ยังไงเหรอ" ระหว่างที่ถามเธอก็พินิจลายบนแขนเสื้อและเนื้อผ้าเบาสบายนี้ไปด้วย
"เวทย์มนต์ยังไงล่ะ"
"เวทย์มนต์เปลี่ยนเสื้อผ้าได้ด้วยเหรอเนี่ย.." วันนี้เธอได้ความรู้ใหม่มาเยอะมากเหลือเกิน เพิ่งรู้เลยว่าพลังที่เธอมีทำอะไรได้มากกว่าที่คิด อะไรที่มากกว่าบอลเวทย์ ยกของ ย้ายตำแหน่งวัตถุ แล้วก็บิน
ใช่แล้ว.. บินไง!
เธอเรียกพลังเวทย์ขึ้นมาบนมือทั้งสองข้าง เตรียมจะผลักตัวเองขึ้นไปอยู่กลางอากาศ จะมามัวเดินอยู่อีกทำไมเสียเวลา บินไปนี่แหละ เร็วกว่ากันเยอะ
"เดี๋ยว ๆๆๆ เจ้าหยุดเดี๋ยวนี่เลยลูน่า หยุด! เดี๋ยว! นี้!"
แต่ก็โดนแซนดี้เบรกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย นั่นทำลูน่าคิ้วขมวดเล็กน้อย "ทำไมล่ะ บินไปเร็วกว่านะ"
"ถ้าเจ้าอยากตายเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็เชิญเถอะ ป่าหมอกครามเป็นที่อยู่ของเสือไพลิน เสือสีน้ำเงินที่ทำรังอยู่บนต้นหมอกครามรอจับเหยื่อที่บินขึ้นสูงกว่าหรืออยู่ในระดับใบไม้"
ลอยขึ้นเหนือพื้นได้นิดเดียวก็ต้องกลับลงมาเดินต่อ น่าเสียดายนิดหน่อย แต่ตั้งแต่มาเหยียบที่โลกนี้เธอก็ลืมนึกไปเลยว่านี่ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เธอรู้จัก แถมตอนนี้ก็ยังอยู่ในป่า สัตว์ตัวไหนเป็นอันตรายหรือไม่เป็นอันตรายบ้างก็ไม่รู้ ถ้าไม่ได้แซนดี้เตือนไว้ เธอก็คงจะปิดตำนานอยู่ที่ป่าหมอกครามนี่แหละ
"งั้น..เดินเอาก็ได้ แต่ทำไมเธอไม่เคยสอนฉันเรื่องสภาพแวดล้อมของโลกแม่มดบ้างล่ะ ถ้ารู้ว่าสักวันฉันจะต้องมาที่นี่อย่างน้อยก็ควรจะปูพื้นฐานเรื่องป่าเรื่องเขาบ้างสิ"
"โชคชะตาที่เจ้าจะต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ยังไม่มาถึงในตอนนั้น บ้างครั้งความรู้ก็ดีกว่าหากลงมือปฏิบัติเอง มากกว่าจะอ่านจากในตำรา"
เรียนรู้เองจนเกือบบินขึ้นไปให้เสือกินเนี่ยนะ ประสบการณ์แบบไหนล่ะเนี่ย ถึงจะมีค้านบ้างอยู่ในใจแต่ก็น่าตื่นเต้นดีที่จะเรียนรู้มัน
"แต่ตอนนี้ในตัวข้าได้เพิ่มบทที่เกี่ยวกับโลกแม่มดมาให้เจ้าแล้วล่ะนะ หากจะศึกษาก็เปิดอ่านได้เลย"
ลูน่ายิ้มขำเล็กๆเพียงเพราะนึกไปว่าหนังสือเวทย์มนต์เองก็มีการอัพเดตแพทช์เหมือนกันเหรอเนี่ย แต่ก็ลอบขำได้ไม่นานเมื่อทางเบื้องหน้าถูกตัดขาดกลายเป็นว่าต้องเดินเข้าป่าอย่างเดียว
"โลกแม่มดนี่แปลกดีนะ"
"เดี๋ยวมีแปลกกว่านี้อีกเยอะ เจ้ารอดูได้เลย"
ความคิดเห็น