ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Teenage Witch ลูน่าแม่มดวัยรุ่น

    ลำดับตอนที่ #5 : Prologue 5 : ถึงเวลาแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 67


    ลูน่า!

    เสียงของแม่ฟ้าดังก้องท่ามกลางความมืด เธอรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาในโถงสีขาว

    "นี่เรา...ตายแล้วเหรอ"

    ลูน่า!

    เสียงของแม่ดังก้องมาจากทุกทิศ เธอหันไปรอบตัวตามหาที่มาของเสียงแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า

    "แม่คะ!" เธอพยายามตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากนั้น ลูน่ายังมองหาคุณ แต่ก็เหมือนว่าจะมองไม่เห็นคุณอีกเช่นกัน

    พลังเวทย์ที่พยายามเรียกขึ้นมาบนมือก็มีเพียงแต่ประกายของมันเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงความกลัว เท่านี้เองหรือชีวิตที่เธอได้มีโอกาสใช้ มันจะจบลงเพียงเท่านี้หรือ

    "ลูน่า"

    เสียงของผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก ดังก้องขึ้นมาจากความว่างเปล่าก่อนที่โถงสี่เหลี่ยมสีขาวนี้จะปรากฏเป็นทางไปต่อ ลูน่ารู้สึกได้ว่าเสียงนั้นเป็นมิตรและอบอุ่นหัวใจอย่างน่าประหลาด คล้ายสิ่งที่ขาดถูกเติมเต็ม

    เธอตัดสินใจก้าวเท้าเดินไปตามเส้นทางใหม่ที่ปรากฏขึ้น แม้จะไม่รู้ว่าปลายทางมีอะไรรออยู่ แต่ก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

    "ฉันไม่เคยได้ยินเสียงคุณมาก่อน.. คุณคือใครคะ" 

    คำถามถูกเอ่ยออกไปทั้งที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตอบ หรือคนคนนั้นฟังอยู่หรือไม่ แต่ในช่วงเวลาที่พลังก็ใช้ไม่ได้ รอบตัวก็มีแต่ความว่างเปล่า การหาคนคุยด้วยน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

    "เธอคือส่วนหนึ่งของฉัน เด็กน้อย" 

    คำตอบบ่ายเบี่ยงนี้ทำลูน่าคิ้วขมวดขณะที่ยังก้าวเดินต่อไป "หมายความว่ายังไงคะ"

    "ฉันรู้จักพลังของเธอดีกว่าใครลูน่า... ฉันคือแม่แท้ ๆ ของเธอ"

    ใจดวงน้อยกระตุกวูบก่อนจะเต้นเร็วขึ้น หยุดชะงักจากการเดิน หันซ้ายหันขวาไปมาอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกตัวชาไปทั้งร่าง

    "อย่ามาพูดเล่นนะคะ!  ล..แล้วถ้าคุณเป็นแม่ของหนูจริง ทำไมถึงทิ้งหนู ทำไมถึง.."

    "ฉันไม่เคยทิ้งเธอ ฉันอยู่ในตัวเธอลูน่า"

    "..."

    "อยู่ในตัวเธอ และแซนดี้"

    เสียงปริศนาที่บอกว่าตนเป็นแม่ของลูน่าได้พูดชื่อของหนังสือเวทย์มนต์ที่เธอตั้งเองโดยที่ยังไม่ได้บอกออกไปสักคำ การยืนยันเพียงเล็กน้อยนี้ทำให้เธอเชื่อได้แล้วว่าเสียงนี้คือแม่ของเธอจริงๆ

    "แล้วแม่... เป็นแม่มดเหรอคะ"

    "ถ้าว่ากันตามตรงก็ใช่ และลูกก็เกิดจากพลังของแม่"

    "เวทย์มนต์บริสุทธิ์ ที่สามารถใช้ได้เลยแม้ไม่ต้องผ่านการร่าย"

    ความสงสัยถึงชาติกำเนิดของตัวเองถูกคลายไปแล้วหนึ่งปม แต่ก็ยังมีคำถามอีกมายมายร้อยแปดที่อยากจะถามเสียงของแม่แท้ ๆ ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ ลูน่าเริ่มเดินต่อแล้วถามคำถามต่อไป

    "แล้วแม่มดคนอื่น ๆ ล่ะคะ หายไปไหนกันหมด ทำไมถึงเหลือหนูอยู่แค่คนเดียว"

    "คนอื่นไม่ได้หายไปไหน เป็นลูกต่างหาก ที่หายไป"

    คำตอบนั้นทำงุนงงหนักกว่าเก่าจึงเริ่มหาคำตอบจากคำตอบนั้น "เป็นหนูที่หายไป.. โลกแม่มด?"

    "หึ ถูกต้องแล้วเด็กน้อย โลกแม่มดเป็นมิติที่ทับซ้อนแต่ก็ตัดขาดจากโลกที่ลูกอยู่โดยสิ้นเชิง ลูกคือแม่มดคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดและเติบโตในโลกมนุษย์นะ"

    ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี ถึงแม้เธอจะมีพลังวิเศษที่ไม่มีใครบนโลกนี้มี สามารถใช้พลังจิต พลังเวทย์ ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่หลายครั้งเธอก็รู้สึกแปลกแยกจากเด็กคนอื่น 

    ความรู้สึกว่างเปล่าที่อยู่ในก้นบึ้งของจิตใจเหมือนเธอยืนอยู่บนแผ่นดินนี้คนเดียวบนโลกติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่อย่างน้อยวันนี้เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีแม่มดคนอื่นอยู่อีก

    "ถ้าอย่างนั้น ทำไมต้องสร้างกฏห้ามใช้พลังในคืนพระจันทร์เต็มดวงให้หนูด้วย"

    นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ชีวิตของลูน่ายุ่งยากไม่น้อย และเป็นเรื่องที่ส่งตัวเธอมาที่นี่อีกด้วย ถึงรอยอักขระจะหายไปแล้ว แต่เธอยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลย

    "แม่ไม่ได้สร้างกฏนี้ แม่มดทุกคนอยู่ในกฏนี้ทั้งนั้น"

    "แต่ลูกอยู่นอกกฏ เวทย์มนต์จึงตัดสินบทลงโทษลูกอย่างยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติแม้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาจากที่ใด"

    เมื่อคำตอบเป็นแบบนี้ ลูน่าก็เริ่มคิด ว่าหากสิ่งที่ตนสันนิษฐานถูกต้อง หากการลงรอยอักขระเป็นการตัดสินอันยุติธรรมแล้วของเวทย์มนต์ล่ะก็..

    "หนูตายหรือยังคะ..?"

    อยู่ ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงการลูบลงมีที่ศีรษะเบา ๆ

    "ความตายมาหาเราทุกคน แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาของลูก ลูกมีเวลาอยู่ในมือแล้ว จะทำยังไงต่อล่ะ"

    แสงสว่างเริ่มปรากฏอยู่ที่ปลายทาง เป็นดั่งแสงแห่งความหวัง ลูน่ามองไปยังทางเบื้องหน้าแล้วเผยรอยยิ้มกว้าง

    "โลกแม่มด! หนูอยากไปโลกแม่มดค่ะ!"

    "ลูกได้ไปแน่จ้ะ โลกแม่มด เพื่อแม่มด ถึงเวลาแล้วที่จะกลับไปแก้ไขทุกสิ่งให้ถูกต้อง"

    ประโยคหลังคล้ายย้ำเตือนสิ่งที่เธอได้ยินมาโดยตลอดในช่วงนี้ แต่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกหลายคำถามที่ยังค้างคาขณะที่เริ่มเข้าใกล้แสงสว่างที่ปลายทางมากขึ้นเรื่อยๆ

    "คำถามสุดท้ายก่อนที่หนูจะไป หนูมาอยู่ที่โลกมนุษย์ได้ยังไงคะ"

    "เรื่องนั้นให้ฟ้าเป็นคนตอบเถอะจ้ะ"

    "แล้วหนูจะได้เจอแม่อีกหรือเปล่า"

    "แม่อยู่กับลูกเสมอ"

    เมื่อสิ้นสงสัยแล้ว ลูน่าจึงเดินเข้าไปในแสงสว่างที่สว่างจนเธอต้องหลับตาเอาไว้

    "ลูน่าลูก!"

    รู้สึกตัวอีกที เมื่อลืมตาขึ้นแม่ฟ้าก็อยู่ตรงหน้าแล้ว เธอนอนอยู่บนตักแม่ ปลายสายตาเป็นนาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้ตีหนึ่ง

    แล้วคุณก็อยู่ตรงนี้นี่เอง ฉันเจอคุณแล้ว!

    แต่ความสงสัยก็ยังไม่หมดไป เมื่อความทรงจำสุดท้ายก่อนสติดับวูบ เธอยังอยู่ที่ตึกร้างอยู่เลยไม่ใช่หรือ

    "หนู.. กลับมาที่บ้านได้ยังไงคะ"

    เธอพยายามนึก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ไม่เข้าใจเลยสักนิด เธอคิดว่าภาพสุดท้ายที่แม่อยู่ตรงหน้าคือสิ่งที่จินตนาการไปเอง

    "ตอนนั้นแม่อ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะกินข้าว แล้วอยู่ ๆ ก็มีแสงโผล่ขึ้นมาบังทีวี แม่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันเปิดเป็นทางที่อีกฝั่งลูกกองอยู่กับพื้น"

    ประตูวาร์ปอย่างนั้นเหรอ พลังของฉันทำอะไรแบบนั้นได้ด้วยเหรอ? แต่ก่อนอื่นที่จะมีเรื่องให้สงสัยไปมากกว่านี้

    "แม่คะ ระหว่างที่หนูสลบ หนูไปเจอแม่..อีกคนมา แม่ช่วยเล่าเรื่อแม่กับเขาให้ฟังได้ไหมคะ"

    แม่ฟ้าชะงักไปนิดหน่อย แต่เธอสัมผัสได้ถึงความคิดถึงในแววตาคู่นั้น "ได้สิจ๊ะ แม่จะเล่าให้ฟัง"

    ลูน่าลุกขึ้นนั่ง จะได้ฟังแม่ได้อย่างถนัดถนี่ "ว่ามาเลยค่ะ"

    "แม่กับเซเลน่า เราเจอกันก่อนลูกจะเกิดห้าปี ตอนนั้นเขาบอกว่าตัวเองเป็นคนจากที่อื่นเพิ่งย้ายเมืองมา แม่ก็ชื่นชมนะว่าเขาเป็นฝรั่งที่พูดไทยชัดมาก แต่ตอนหลังจากที่เราคบกันเขาก็บอกว่าตัวเองเป็นแม่มด.. ตอนแรกแม่ไม่เชื่อ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมีอยู่จริง จนกระทั่งเขาแสดงเวทย์มนต์ให้แม่ดู"

    "แต่แม่ก็ไม่ได้กลัวหรือไล่เขาไปไหน เพราะเขาคือคนแรกที่ยอมรับในความชอบของแม่ เขาคือผู้หญิงคนแรกที่ไม่ตัดสินแม่เพียงแค่แม่ชอบผู้หญิง.. เขาเป็นคนน่ารักนะ"

    "หนึ่งปีก่อนลูกเกิด ตอนนั้นเราตัดสินใจจะมีลูกกัน เพราะเขาบอกว่าเขาสามารถสร้างลูกขึ้นมาได้ และจะย้ายมาอยู่กับแม่ มาเลี้ยงลูกด้วยกัน"

    "เขาก็เทียวไปเทียวมา แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายไป"

    "ผ่านไปสักพักเขาก็โผล่มาพร้อมกับลูกแล้วก็แซนดี้ แต่เขาในตอนนั้นดู..เหนื่อยนะ แล้วเขาก็ขอโทษแม่ทั้งน้ำตา บอกว่าขอโทษที่อยู่ช่วยเลี้ยงลูกไม่ได้แล้วก็หายไป--"

    ตึง ๆๆๆ

    ถึงจะยังไม่รู้ว่าเรื่องที่แม่เล่าจบหรือยัง แต่เสียงตึงตังที่ดังลงมาจากห้องของลูน่าก็ดึงความสนใจของคนทั้งสองคนจากทุกสิ่ง ก่อนที่จะวิ่งกันขึ้นไปดูทั้งสองคน

    ทันทีที่แม่ฟ้ากำลังจะจับลูกบิดประตูห้อง ก็เป็นลูน่าที่จับแขนแม่ของตัวเองเอาไว้

    "ลูน่า.."

    "หนูเองค่ะแม่"

    เธอเปิดประตูห้องของตนเข้าไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน เหมือนเมื่อวานนี้ไม่มีผิด ลมปริศนาพัดทุดสิ่งในห้องปลิวว่อนไปทั่ว ไฟติด ๆ ดับ ๆ แซนดี้ลอยขึ้นเหนือโต๊ะ แต่ครั้งนี้ประตูมิติเป็นปลายทางเบื้องหน้าเป็นสถานที่ที่เธอไม่รู้จักปรากฏขึ้นมาด้วย

    "ถึงเวลาแล้ว ที่เจ้าต้องกลับไปแก้ไขทุกสิ่งให้ถูกต้อง"

    เสียงของแซนดี้เอ่ยต่อเธอ

    "วันนี้แล้วเหรอแซนดี้.." แม่ฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

    "ท่านแม่ก็รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง ให้ลูน่าไปเถอะ นี่คือโชคชะตาของนาง"

    ลูน่าเหลือบมองแม่ของตนเล็กน้อย ก่อนจะคว้ามือมากุมไว้

    "เดี๋ยวหนูกลับมาค่ะแม่ โลกแม่มด เพื่อแม่มด" เธอเอ่ยด้วยสายตามุ่งมั่น

    "อย่างนั้นแม่ก็ขอให้ลูกโชคดี"

    เมื่อได้รับคำอนุญาต ลูน่าก็คว้าแซนดี้ แล้ววิ่งเข้าไปในประตูมิติทันที ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรอเธออยู่แต่เธอก็พร้อมจะเผชิญทั้งนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×