ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Teenage Witch ลูน่าแม่มดวัยรุ่น

    ลำดับตอนที่ #3 : Prologue 3 : ใกล้เข้ามาทุกที

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 67


    "มีอะไรหรือเปล่าคะ พรนภา" 

    คุณครูประจำวิชาถามทั้งที่มีสีหน้างงงวยราวกับไม่เข้าใจว่ามีอะไรเกิดขึ้น หรือพูดว่าอะไรเมื่อครู่นี้ แต่ในขณะเดียวกันเพื่อนทั้งห้องกลับค่อยๆหันกลับไปแล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดแปลกไป

    แย่แล้วลูน่าเอ๊ย ครูกำลังสงสัยแล้ว ต้องรีบแก้ตัว ต้องรีบแก้ต้วแล้ว! ทำไงดี ๆๆๆ

    "อ๋อ เปล่าค่ะ ๆ พอดีว่า--"

    "พรนภาตั้งใจจะไปเรียนต่อหมอเลยท่องตารางธาตุอยู่น่ะค่ะครู แต่เหมือนจะต้องจำเยอะไปหน่อยเลยเผลอพูดออกมา เมื่อคืนนะคะหนูโทรคุยกับเค้าอยู่ ตีหนึ่งตีสองอ่านหนังสือใหญ่เลยค่ะ"

    ขณะที่ลูน่าลนลานเหมือนโดนไล่ต้อนจนจนมุม เสียงของหัวหน้าห้องผู้แสนดีเป็นดั่งบันไดสวรรค์พาเธอรอดไปจากเหตุโป๊ะแตกตรงนี้ได้อย่างหวุดหวิด 

    ขอบคุณนะ บุญคุณครั้งนี้จะจำไม่ลืมเลย ฮือออ

    "อ๋อ.. เหรอจ๊ะ สู้ๆนะลูกไปต่อทางนี้น่ะเรียนหนักหน่อย แต่ตั้งใจเรียนของครูด้วยนะคะ"

    "ได้ค่ะครู ขอโทษที่รบกวนค่ะ" ลูน่าพูดพลางหัวเราะแหะ ๆ ขณะที่คุณครูหันกลับไปเขียนกระดาน

    ระหว่างที่ทุกอย่างเกิดขึ้นนั้น เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าจ๋าเพื่อนรักที่นั่งข้าง ๆ นั้นมีสีหน้าแบบไหน หรือกลั้นขำมานานแค่ไหนแล้ว เมื่อลูน่าเริ่มพลิกหน้ากระดาษหนังสือคณิตศาสตร์ เพื่อนรักแสนรู้ใจก็เริ่มขยับไหล่ยุกยิกและร้องเพลงเบาๆ

    "ฉันตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าจะเก็บความลับนี้ไว้ ได้นานเท่าไหร่"

    ไม่รอให้ร้องต่อ ลูน่าก็คว้ากระเป๋าดินสอของจ๋าขึ้นเคาะหัวเจ้าตัวดังปัก! ก่อนจะวางกลับที่เดิม

    "เดี๋ยวกูก็ลาบาชูบาชู้เข้าให้"

    บทสนทนาของเธอจบลงเพียงเท่านั้นก่อนที่ครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้จะเป็นการตั้งใจเรียนหนังสืออย่างไม่น่าเชื่อ

    เอาอีกแล้วนะคะ!

    ลูน่าไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยาก นั่นเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่เธอไม่ชอบการที่นั่งจดลงสมุดและฟังครูพูดให้ความรู้ไหลเข้าหัวเฉยๆ แต่พอบอกว่าตั้งใจมันก็ได้แค่สามสิบนาทีนั้นนั่นแหละ

    "โห่น้องครับ พี่ขอไอจีแค่นี้เอง อย่าให้พี่ต้องบังคับเลยนะ"

    ไม่รู้ว่าเพราะอาคารที่เธอเรียนอยู่ตอนนี้มันเตี้ย เธอหูดี หรือคนพวกนั้นพูดดังเกินไป แต่นั่นก็มากพอแล้วที่จะดึงความสนใจเธอไปจากตัวหนังสือบนหน้ากระดาษ ยิ่งที่ที่เธอนั่งติดหน้าต่างแล้ว เพียงแค่หันออกไปก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

    "ม..ไม่สะดวกให้จริงๆคะพี่"

    เหมือนว่าจะมีพวกผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเธอสองคนกำลังคุกคามน้องมอห้าอยู่ โดยไม่รู้สึกรู้สาเลยว่าที่ทำมันดูทุเรศเนี่ยนะ?

    "ไม่สะดวกอะไรกันครับน้อง แค่พิมพ์ชื่อไอจีให้พี่แป๊บเดียวไม่นานหรอก"

    การกระทำของผู้ชายพวกนั้นทำลูน่าคิ้วขมวด ยิ่งพูดอะไรที่ส่อถึงทัศนคติเอาแต่ได้พวกนั้นยิ่งน่าหงุดหงิดไปกันใหญ่ แถมน้องเขาเริ่มกลัวแล้วด้วย เธอจะต้องทำอะไรสักอย่าง แต่จะช่วยยังไงดีล่ะ

    เธอเริ่มกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณ ตอนนี้สมองและความรับรู้ตัดขาดออกจากการเรียนโดยสิ้นเชิงแล้ว คิดแค่ว่าต้องพาน้องคนนั้นออกมาจากสถานการณ์ตรงนั้นก่อน

    แล้วทันทีที่ลูน่าเหลือบไปเห็นถังขยะขนาดใหญ่ที่วางอยู่แถวนั้นก็เกิดความคิดบรรเจิด เธอเริ่มยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะใช้พลังจิตดึงฝักต้นหางนกยูงฝรั่งให้ร่วงลงมาใส่หัวคนที่อยู่ใกล้น้องเขาที่สุด

    แป๊ะ!

    "โอ๊ย! ไอ้เหี้ยไรวะ!" น่าเสียดายนิดหน่อยที่มันไม่ร่วงลงมาเป็นแนวตรง กลับโดนหัวในแนวขวางเสียได้ แต่แค่นี้มันยังไม่จบหรอก

    พอคนเจ็บเริ่มเงยหน้ามองหาที่มา ข่ายพลังสีขาวประกายทองก็ตรึงร่างเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันแล้วยกมันลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆถอยหลัง

    "เห้ย ๆๆๆๆ ไอ้บาส! กูเป็นอะไรไม่รู้ ช่วยกูด้วย ไอ้บาส! ไอ้บาส!"

    ทั้งหมดนี้ลูน่าควบคุมพลังเวทย์ด้วยมือเดียว แต่พอเห็นมันเริ่มโวยวาย เธอก็เลยใช้อีกมืออัดพลังใส่ร่างที่ถูกตรึงให้กระเด็นถอยหลังหัวคะมำลงถังขยะไป

    "เห้ยไอ้เหี้ยเกิดไรขึ้นวะเนี่ย!"

    พอหันกลับมาอีกครั้งเห็นเพื่อนตัวเองขาชี้ฟ้าอยู่ในถังขยะก็รีบปรี่เข้าไปช่วย เป็นจังหวะให้น้องคนนั้นหนีไปทั้งที่สับสนไม่ต่างกันว่าเกิดอะไรขึ้น

    ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้าใจหรอก เพราะตัวต้นเรื่องอยู่ตรงนี้ค่ะน้อง ๆ

    น้องคนนั้นรอดจากการคุกคามไปได้แล้ว แต่ลูน่ากลับรู้สึกว่ามันยังไม่สาแก่ใจ ทำตัวเป็นขยะด้วยกันแท้ ๆ จะให้ลงถังไปคนเดียวก็ยังไงอยู่

    ก็ลงไปด้วยกันนั่นแหละ

    ข่ายพลังเวทย์สีขาวประกายทองตรึงร่างคนที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะชื่อบาส แล้วอัดพลังใส่กลางหลังให้ตัวพุ่งลงถังขยะไปอีกคน

    เธอยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นขาสองคู่ชี้ขึ้นฟ้า พยายามตะกายหาทางออกจนถังสั่น ก่อนจะหันมายิ้มกวนทำทีแลบลิ้นให้คุณ

    "อย่าไปทำอะไรแบบนี้กับใครที่ไหนนะคะ"

    เมื่อพอใจแล้วจึงหันกลับมาตั้งใจกับหนังสือเรียนบนโต๊ะ แต่ใบหน้าของจ๋าที่มองอย่างสงสัยก็ทำเธอตกใจจนสะดุ้ง ดีนะที่ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา

    "คุยกับใครอ่ะ" จ๋าถามกระซิบ เพราะห้องกำลังเงียบ ไม่อยากพูดดัง

    "โอ๊ย ไม่มี ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยอีนี่! ตั้งใจเรียนไป" ลูน่ากระซิบคืนบ้าง

    วันทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเหตุการณ์ช่วยน้องมอห้าจากชายแท้แล้วก็ไม่มีเหตุอะไรให้เธอต้องใช้เวทย์มนต์อีก

    พอได้เวลาที่ประตูโรงเรียนเปิด เป็นสัญญาณบอกว่านักเรียนทุกคนสามารถกลับบ้านได้ ลูน่าจึงร่ำลากับจ๋าและฟ่างเพื่อนรักก่อนจะกลับบ้าน

    แน่นอนว่ามาอย่างไรก็กลับอย่างนั้น เธอเดินไปตามทางฟุตบาทจนพินิจดูแล้วรู้สึกว่ารอบตัวไร้ผู้คน จึงเรียกกลุ่มก้อนพลังเวทย์สีขาวประกายทองออกมาบนมือทั้งสองข้าง ใช้มันผลักตัวขึ้นบนฟ้าแล้วเดินทางกลับ

    เมื่อพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า อาการปวดเนื้อปวดตัว และปวดหัวอ่อน ๆ ก็เริ่มแสดงอาการทีละส่วน 

    ฉันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยค่ะ หลังจากที่ใช้พลัง แต่ถ้าวันไหนไม่ได้ใช้ เป็นเหมือนคนปกติเดินดินทั่วไปก็หลับสบายทุกครั้งเหมือนกัน แต่ฉันก็ชินแล้วล่ะนะ

    ทุกครั้งที่ว่าคือเป็นมาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มพูดรู้เรื่อง ควบคุมพลังได้นั่นแหละ เธอเองก็เคยถามแม่ฟ้า ว่าถ้าพลังนี้ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิดแล้วสมัยทารกเธอควบคุมมันอย่างไร

    คำตอบที่ได้ทำเธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ เมื่อแซนดี้สอนแม่ฟ้าวาดยันต์รูนผนึกพลังไว้ตรงกลางหลังเธอ จึงทำให้ลูน่าไม่เผลอใช้พลังมั่วซั่ว

    ที่ไม่น่าเชื่อก็เพราะเป็นแซนดี้นั่นแหละค่ะ ไม่คิดว่าเขาก็มีความรู้อะไรแบบนี้ด้วย น่าแปลกใจนะคะ

    บินมาสักพักในที่สุดก็ถึงบ้านแสนรักเสียที ลูน่าลงจอดที่ประตูหน้าบ้านพอดีเป๊ะ เพียงแค่อยากจะบิดลูกบิดประตูเข้าไปแล้วเอ่ยอย่างสดใส

    "กลับมาแล้วค่ะแม่!"

    "จ้าลูก แม่ทำกับข้าวอยู่ในครัวค่ะ" เสียงของผู้เป็นแม่ดังมาจากในครัวจริงๆอย่างเช่นทุกวัน เธอจึงถอดรองเท้าแล้วเดินขึ้นห้องไปตามปกติ

    วิ๊ง....

    "?" ทันทีที่จับลูกบิดประตูห้องของตน เสียงแหลมสูงก็แว่วเข้ามาในหูของลูน่าก่อนจะตามด้วยเสียงสะท้อนที่เธอฟังไม่ได้ศัพท์จากที่ไกล ๆ

    พยายามแล้วที่จะมองหา แต่กลับไม่พบ จึงเดาว่าหูแว่วไปเองแล้วเปิดประตูเข้าไป

    สิ่งแรกที่เธอทำคือเปิดสวิตช์ไฟให้ห้องสว่างขึ้น และเมื่อตาของลูน่าเหลือบไปเห็นสมุดเวทย์มนต์แซนดี้ที่วางอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือ เสียงที่สะท้อนไปมาก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง แต่มันเริ่มที่จะเป็นคำมากขึ้น 

    วงกลม....

    วงกลม? หมายความว่าอะไรกันแน่ แซนดี้เพ้ออะไร หรือเป็นผลข้างเคียงของเวทย์ย้ายวัตถุอย่างนั้นเหรอ

    เมื่อนั้นไฟห้องของเธอก็เริ่มติด ๆ ดับ ๆ ลมปริศนาพัดเข้ามาจากทุกทิศทั้งที่หน้าต่างปิดสนิท กระดาษในห้องเริ่มปลิวว่อนไปทั่ว ทำเอาเธอตกใจรีบหันซ้ายหันขวาหาต้นตอที่มา และไม่ลืมที่จะเรียกก้อนพลังเวทย์มาไว้บนมือทั้งสองข้าง

    พลังเวทย์ในอุ้งมือนั้นสว่างท่ามกลางความมืดทันทีที่ไฟตก แสงสีขาวประกายทองนี้เธอเชื่อใจกว่าแสงไหน ๆ และพร้อมปะทะทันทีหากมีตัวอะไรออกมา

    แต่ก็ไม่มีตัวอะไรออกมาอย่างที่เธอคิด เพียงแต่แซนดี้เริ่มเปิดออก ลอยตัวขึ้นเหนือโต๊ะ หน้ากระดาษพลิกไปอย่างรวดเร็ว ตัวอักษรทุกหน้าเปล่งแสงสีทองสว่างไสว

    วงกลมเวียนมาบรรจบ จุดสิ้นสุดกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น ใกล้เข้ามาแล้ว.. 

    เสียงนั้นสะท้อนไปมาอยู่ในหัวของลูน่าจนเธอเริ่มรู้สึกปวดหู พลังในมืออันตรธานหายไปทันทีเมื่อยกมือขึ้นมาปิดหูไว้

    "หยุดนะ! หยุดสักที!"

    เธอทรุดลงและพูดต่อแซนดี้

    เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม จงกลับไปแก้ไขให้ทุกสิ่งถูกต้อง...

    สิ้นประโยคนั้น ทั้งลม และไฟที่ติด ๆ ดับ ๆ หรือแม้แต่แซนดี้ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ร่วงตุ้บลงบนโต๊ะ ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ เสียงสะท้อนได้หายไปแล้ว แต่สิ่งที่ได้ยิน เธอกลับไม่อาจลืมเลือน

    "เมื่อถึงเวลา.. จงกลับไปแก้ไข.."

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×