คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue 1 : ลูน่า
"ลูน่าลูก! จะสายแล้วนะ!" เสียงของแม่ฟ้าที่ล้างจานอยู่ด้านล่างร้องเรียกสาวน้อยที่หน้าตาไม่เหมือนกับตนสักนิด แต่กลับรักยิ่งกว่าลูกในอก
เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดเทอมสองในฐานะเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หก หลังจากปิดเทอมเดือนตุลาไปทั้งเดือน
ไม่นานนัก เสียงตึงตังก็ดังมาจากบันได สาวน้อยผิวขาวผมบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้า ร่างสูงโปร่งราวร้อยเจ็ดสิบห้า มองมุมไหนเหลี่ยมไหน เด็กนี่ก็ฝรั่งแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้ง ๆ ที่เกิดและโตอยู่ในประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา วิ่งลงมาอย่างลุกลี้ลุกลนราวกับโลกจะแตก ของที่เต็มกระเป๋าฟัดไปฟัดมายิ่งทำให้ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงไปกันใหญ่
"มาแล้วค่ะๆๆๆ หนูพร้อมแล้วค่ะแม่" ลูน่ากล่าวขณะที่ตนรีบมุ่งหน้าไปใส่รองเท้า
ระหว่างนั้นแม่ก็เอากล่องข้าวที่เตรียมเสร็จมาสักพักแล้วใส่กระเป๋าไว้ให้ เพราะรู้ดีว่ายัยลูกสาวคนสวยยังไงก็ตื่นสายทุกกรณี จะนอนดึกนอนเช้านอนแต่หัวค่ำก็ตื่นเวลานี้
นี่! อย่ามาบูลลี่กันนะคะ มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ต่างหาก!
"ตั้งใจเรียนนะลูก อ้อแล้วก็ พรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวง ระวังเรื่องพลังด้วยนะจ๊ะ"
แม่ฟ้ากล่าวพลางรูดซิบกระเป๋าปิด "ที่เดิมจ้ะ ทีนี้ไปได้ละ สู้ๆลูก"
"ค่าแม่ ขอบคุณนะคะ" เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม ลูน่าก็วิ่งออกจากบ้านไป
ถ้าเป็นเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ก็คงจะเรียกรถในแอพสีเขียว หรือไม่ก็รถส่วนตัว โบกวินมอเตอร์ไซค์ หรือบ้านใครใกล้โรงเรียนหน่อยก็เดิน
แต่ระดับลูน่าน่ะ ของพวกนั้นไม่จำเป็นหรอกนะ
บนฟุตบาทที่หันออกไปนิดเดียวก็เป็นถนนใหญ่ที่มีรถยนต์ขวับไขว่ กลุ่มก้อนพลังเวทย์สีขาวประกายทองถูกเรียกขึ้นมาบนมือทั้งสองข้าง ก่อนที่ลูน่าจะใช้มันผลักตัวขึ้นไปบนอากาศแล้วบินมุ่งตรงไปที่โรงเรียน
บินไปเลยค่ะ! คนเก๋ ๆ เขาทำกัน
เธอเดินทางไปโรงเรียนแบบนี้ตั้งแต่เริ่มควบคุมมันได้ชำนาญ
"ส่วนเรื่องว่าจะกลัวใครเห็นอะไรข้างล่างน่ะ สบายใจได้ ฉันใส่กางเกงซ้อนตลอดนะทุกคน" ลูน่าหันมาคุยกับคุณที่กำลังอ่านอยู่ตรงนี้
ชีวิตที่เร่งรีบของคนในเมืองหลวง ทุกคนสนใจแต่เรื่องของตัวเอง ไม่มีใครมาสังเกตหรอกว่ามนุษย์ที่ไหนบินอยู่บนฟ้า นั่นจึงเป็นโชคดีของลูน่าที่จนถึงตอนนี้นอกจากคนที่โรงเรียนแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอบินได้
บินมาสักพักโรงเรียนก็อยู่ไม่ไกลสายตาแล้ว ลูน่าจึงค่อยๆบินต่ำลงแล้วจอดลงบนฟุตบาทที่ห่างจากประตูโรงเรียนไม่ไกลมาก เพราะหากบินไปจอดกลางโรงเรียนเลยก็จะแตกตื่นไปกันใหญ่
"มีพลังไม่จำเป็นต้องทำตัวพิเศษตลอดก็ได้นะทุกคน" เธอหันมาคุยกับคุณอีกครั้งพร้อมขยิบตาก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนไป
โชคดีที่ไม่สายเท่าไหร่ อย่างน้อยก็พอจะทันเข้าแถว ถึงแม้ว่านักเรียนตั้งแต่มอหนึ่งจนถึงมอหกจะเข้าตามแถวตนเรียบร้อยแล้วก็ตาม
แน่นอนว่าคนที่มาโรงเรียนเวลานี้ไม่ได้มีแค่ลูน่า ยังมีนักเรียนอีกมากมายที่บ้านไกล หรือไม่ก็ตื่นสายเหมือน ๆ กับเธอมาพร้อม ๆ กัน
"เร็ว ๆ ครับนักเรียน อย่าช้านะครับ!" แต่ครูสังคมเจ้าระเบียบก็เร่งเร้าให้ไปเข้าที่โดยไวอยู่ดี วันนี้ยังดีนะที่มาคนเดียว ถ้าแท็กทีมกับครูภาษาไทยเมื่อไหร่ล่ะก็ตรวจเครื่องแต่งกายกันยาวแน่ ๆ
ตอนที่ฉันย้ายมาเรียนที่นี่ใหม่ ๆ สมัยมอสี่ วันแรกที่เขาเจอฉันอย่างกับซักประวัตินักโทษเลยล่ะ เป็นใครมาจากไหน อะไรยังไง เพราะคิดว่าฉันย้อมผมและใส่คอนแท็คเลนส์ วันนาบีเป็นฝรั่งทั้งที่ชื่อไทยมากแถมพูดไทยชัดอีก เรื่องมันจบที่แม่ของฉันต้องเอารูปตอนเด็กให้ดูนี่แหละ เป็นเรื่องเป็นราวสุด ๆ
เมื่อนั้นลูน่าจึงรีบสาวเท้าเดินไปหาแถวของมอหกทับหนึ่งที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโดมทันที
ยิ่งโตยิ่งเดินไกล กลัวไขข้อกระดูกนักเรียนเสื่อมล่ะมั้งเนี่ย ขอบคุณนะคะคุณครู แต่หนูเหนื่อยจังเลยค่ะ
เสียงคนจำนวนมากกว่าสามพันคนอยู่รวมกันในโดมจะดังจะเบาก็อื้ออึงมากพอที่ทำให้ลูน่าจับใจความคำเหล่านั้นไม่เข้าใจ เป้าหมายของเธอมีเพียงการเดินไปหาเพื่อนที่รออยู่ในแถวเท่านั้น
"เมื่อไหร่อีแม่มดน้อยโดเรมีจะมาสักทีวะเนี่ย"
"ก็ตามประสาแหละมึง เดี๋ยวก็มาละ"
เมื่อเดินเข้าใกล้แถวของตนมากขึ้น ความใกล้ของเสียงก็ทำให้เธอได้ยินอย่างชัดเจน จ๋ากับฟ่างกำลังนินทาเธอด้วยชื่อที่พวกมันตั้งให้อยู่แน่ ๆ
"นินทาอะไรกูกันอยู่จ๊ะหนู" ลูน่าเข้าไปจับไหล่จ๋าแบบที่ไม่ให้รู้ตัว จนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง
"ว๊าย! เปล่านะคะ ๆ ไม่มีค่ะ บูชาไม่เคยมีใครยันค่ะ!" สาวผมบ๊อบสั้นขี้ตกใจเอ่ยบทภาพยนต์ในดวงใจออกมาแบบสุ่มจนทั้งลูน่าและฟ่างกลั้นขำเอาไว้แทบไม่อยู่
จ๋าที่แสดงอาการตกใจนั้นตลกเสมอสำหรับเธอ จนอดไม่ได้ที่จะแกล้งอยู่บ่อยๆ แม้ว่าหลายๆครั้งจะได้รับกลับมาเป็นการทุบไหล่จนตัวโยก ครั้งนี้ก็ด้วย
"มึงเนี่ยโผล่มาแบบนี้อีกแล้ว! มึงก็ด้วยอีฟ่าง เห็นว่ามันมาก็ไม่เตือนกูเลย"
สาวผมตรงดำขลับมัดหางม้าสูงยาวสลวยเจ้าของชื่อฟ่างไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับสิ่งที่จ๋าบอก
"ใครจะเตือนคะ เดาว่ามึงจะพูดบทอะไรออกมาตลกดีออกนะคะ คุณพยูน"
"พยูนที่หน้ามึงสิ" จ๋าทุบยัยคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าอีกครั้ง
เหตุการณ์ตรงหน้าจึงเป็นจังหวะดีให้ลูน่าได้ผสมโรง "ว๊าย อย่ามีโมเมนท์กันบ่อยนะคะ เดี๋ยวก็ชิปเข้าให้หรอกเตง"
สิ้นประโยคของลูน่าทั้งสองคนพร้อมใจกันหยุดสิ่งที่กำลังทำและทำหน้าเหยเกให้รู้ว่าต่างฝ่ายต่างขยะแขยงกันทันที
"มึงอย่าหาชิปไปทั่วนะลูน่า ใครก็ได้ที่ไม่ใช่อีฟ่างเนี่ย"
"กูไม่ชิปคนอื่นก็ชิปค่ะ" ลูน่าเหลือบมามองคุณพร้อมขยิบตาให้อีกครั้ง
"หรือเราจะเริ่มเลยมั้ยจ๋า" ฟ่างทำทีเอามือยันกำแพงล่องหน ส่วนอีกมือเชยคางของจ๋าไว้ เหมือนพวกพระเอกนิยายการ์ตูนตาหวานที่พยายามจะจีบนางเอกไม่มีผิด
จ๋าขมวดคิ้ว นัยน์ตาล่อกแล่กซ้ายขวา จนในที่สุดก็เจอที่พึ่ง "ไอ้พวกสาววายมันสมองไหลกันหมด ไป ๆ ทำตัวเรียบร้อยได้ละครูเดินมาเช็คชื่อแล้วนั่น"
น่าเสียดายที่ครูเดินมาเสียก่อน เลยอดเห็นซีนละครน้ำเน่าเลย
กิจกรรมหน้าเสาธงตอนเช้าเป็นไปอย่างทุกวัน ดีที่สุดแล้วที่อย่างน้อยการฟังคุณครูพูดอะไรก็ไม่รู้ยาวเหยียดด้วยการนั่ง และอยู่ในโดมซึ่งเป็นที่ร่ม ตรงนี้ลูน่าสามารถเอาหัวพิงหลังจ๋าแล้วหลับรอก็ได้
แต่ความรู้สึกแปลกๆบางอย่างกลับทำให้เธอไม่ง่วงอย่างทุกที
วันนี้ลมแรงมาก เพราะใกล้เข้าฤดูหนาวแล้ว แต่มันแรงเกินไปมากจนสงสารคนที่ลอนผมมาในวันนี้เลยล่ะ
"สำหรับกิจกรรมในเทอมนี้ ใครที่จะเป็นตัวแทน ครูก็ขอให้.."
แกร๊ก
"..." นอกจากเสียงของคุณครูที่พูดอยู่ตรงหน้าเสาธงแล้ว กลับมีเสียงอะไรบางอย่างดังแทรกเข้ามาจนทำให้ตาของเธอต้องเหลือบไปมอง
ธงประจำชาติขนาดเล็กที่ขึ้นเสาด้วยไม้ที่เสียบไว้ในแท่งเหล็กข้างๆเสาธงอันใหญ่ ลูน่าคิดว่าตัวเองได้ยินเสียงมาจากตรงนี้
แกร๊ก..
กรี๊ด!! เสียงของนักเรียนหญิงจากแถวมอห้าดังขึ้นทันทีเมื่อเสาธงไม้นั้นต้านแรงลมไม่ไหวจนหักกระเด็นออกมา หากไม่ทำอะไรสักอย่าง มีคนหัวแตกแน่ ๆ
"เชี่ย!" ลูน่าตกใจ แต่วินาทีนั้นบอลพลังเวทย์สีขาวประกายทองก็ถูกปาออกจากมือของเธอไปชนกับธงอันนั้นให้มันเปลี่ยนทิศไปโดนต้นไม้ข้าง ๆ แทนโดยอัตโนมัติ
ถ้าช้าไปกว่านี้มีคนเจ็บแน่
เธอหอบหายใจท่ามกลางความตกตะลึงของคนทั้งโรงเรียน ยังดีที่มีแต่คนสนใจธงอันนั้น ไม่ทันได้เห็นว่าบอลเวทย์นั้นมาจากไหน
ความคิดเห็น