คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
สายลมยามเช้าพัดโบกยอดหญ้าสีทองปลิวไสว คล้ายเป็นแดนเซอร์ประกอบกับเสียงหวีดหวิวของสายลม อากาศเช้านี้มืดครึ้มเหมือนทุกวัน ทั้งที่เป็นฤดูร้อนแท้ ๆ แต่สองสามวันมานี้ฝนกลับถาโถมลงมาอย่างหนัก ท้องทะเลก็ปั่นป่วนไปด้วยคลื่นลมจนไม่สามารถออกเดินเรือได้ตามปกติ นานแล้วที่หมู่บ้านแห่งนี้เจอะเจอแต่เรื่องร้าย ๆ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านกำลังย่ำแย่
ร่างสูงของเด็กชายวัยสิบเจ็ดปีบนหน้าผาสูง เขาทอดสายตายาวมองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่เบื้องหน้า นัยน์ตาสีน้ำตาลสะท้อนไปด้วยความเจ็บปวดซึ่งมันสั่งสมมายาวนานจนเขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอส เจ้าต้องทำให้ได้ ต้องช่วยหมู่บ้านของเราให้ได้” เสียงที่ยังคงก้องกังวานในโสตประสาทของเขา ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น น้ำใส ๆ เริ่มคลอดวงตาเขา ความสับสน ความเจ็ดปวด และการสูญเสีย กำลังสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับเขา
“พี่ครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือที่เต็มไปด้วยฝุ่นดินแตะลงบนกองดินที่ทำเป็นเนินเล็ก ๆ และมีป้ายบ่งบอกชื่อเจ้าของร่างที่หลับใหล หลุมฝังศพบนหน้าผาถูกประดับด้วยหญ้าสีทอง และวิวจากท้องทะเล ยามเช้าที่นี่ก็จะสดใส ยามบ่ายแสงแดดส่องกระทบแผ่นน้ำจนเกิดประกายชวนมอง และยามเย็นดวงอาทิตย์สีแดงขนาดใหญ่ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าทอแสงสีแดงงามตา แต่คนตายก็มิอาจมองเห็นสิ่งสวยงามเหล่านี้ได้
“อีกห้าวัน แค่อีกห้าวันเท่านั้น ข้าจะทำให้ได้” ฝ่ามือใหญ่กำแกร็งเป็นกำปั้นแข็งทุบลงบนพื้นดินข้างหลุมศพอย่างหนักหน่วง เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาจะไม่มีวันยอมแพ้ให้กับความสับสนหรืออ่อนข้อให้กับศัตรูหน้าไหน
แปะ แปะ...
เม็ดฝนตกกระทบร่างสูงที่กำลังยืนขึ้น ดวงตาของเขายังไม่ละจากหลุมฝังศพ สองมือกำหมัดแน่น ก่อนตะโกนออกมาเสียงดังท่ามกลางสายฝนที่แรงขึ้นจนตกลงมาไม่ขาดสาย
“ข้าจะต้องชนะแกให้ได้ อากอน เนล” เขาตะโกนสุดเสียงคล้ายคำรามพลางเหยียดแขนทั้งสองข้างชี้ขึ้นฟ้า
เสียงตะโกนของเด็กหนุ่มดังกังวานท่ามกลางสายฝนพร้อมเสียงฟ้าคำรามขานรับคำพูดของเด็กหนุ่มดังไปทั่วบริเวณ
“เจ้าจะเอาชนะเนลได้ยังไงถ้าเจ้าไม่มีพวกเรา” จีน่าเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันพูดพร้อมหยุดยืนข้างเด็กหนุ่ม เธอยื่นร่มที่ถือมาด้วยกางให้กับเด็กหนุ่ม ก่อนเอื้อมมือสัมผัสป้ายหลุมศพตรงหน้า
“แอลคงกำลังมองดูพวกเราอยู่ที่ไหนสักแห่งบนนั้น...” จีน่าแหงนมองท้องฟ้าที่เวลานี้เต็มไปด้วยเมฆฝน เธอชะงักไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ “รวมทั้งพ่อของข้าและทุก ๆ คน” สายตาของเธอลดต่ำลงเมื่อพูดจบ ความเศร้าในใจถูกส่งผ่านแววตาโดยที่เธอไม่รู้ตัว
“รอนคงภูมิใจที่มีลูกสาวเช่นเจ้า” เอสบอกจีน่า รอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ทำให้เด็กสาวรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
“อีกห้าวันข้าจะไปกับเจ้าด้วย” แววตามุ่งมั่นฉายขึ้นจนหน้าตกใจ จนเด็กหนุ่มไม่กล้าจะคัดคานความคิดของเธอ
“ข้าจะไม่เป็นตัวถ่วงแน่นอน แม้ตัวข้าจะฝึกฝนมาน้อยกว่าพวกเจ้า แต่ตลอดเจ็ดปีมานี้ข้าเองก็พยายามอย่างหนักและเฝ้ารอเวลานี้เหมือนกับเจ้า ยังไงซะ ข้าก็ต้องไปให้ได้” จีน่าพูดอย่างมั่นใจ ความมุ่งมั่นของเธอถูกส่งผ่านออกมาทางแววตา เอสมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง เขาอยากให้เธออยู่ห่างเรื่องนี้แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเจ็ดปีที่ผ่านมาจีน่าเองก็ทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก หากจะปฎิเสธเจตจำนงของเธอก็คงจะไม่สำเร็จ
สายฝนเริ่มกระหน่ำลงมาหนักขึ้น พื้นดินเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ บางส่วนกลายเป็นแอ่งน้ำเล็ก ๆ ก่อนขยายพื้นที่กว้างขึ้นเมื่อน้ำระบายลงสู่ทะเลไม่ทัน
“เฮ้ สองคนนั่นนะ จีน่า เอส” เสียงตะโกนดังแข่งกับเสียงฝน แม้จะไม่มองเห็นตัวผู้พูดแต่ทั้งสองก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะน้ำเสียงที่แหบเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของเขาคนนั้นที่เป็นจุดเด่นอีกจุดในตัวของเขา นอกจากหน้าตาและทรงผมที่ดูดีราวกับเจ้าชายสูงศักดิ์
“ว่าไงโทมัส” จีน่าถามเมื่อมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่มีเด็กหนุ่มยืนอยู่ ใช่แล้วละเขาคือเจ้าของเสียงที่เรียกให้เอสกับ จีน่ามาที่นี่
ร่างผอมสูงไว้ผมยาวประบ่า เนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่กระนั้นก็ไม่อาจบดบังใบหน้าเนียนขาวและดวงตาคมเข้มคู่นั้นได้ เขาเหล่ตามองจีน่าคล้ายกำลังวิเคราะห์เธอก่อนหันไปพูดกับเอส
“พ่อเฒ่าให้มาตาม หายออกมานานทุกคนเป็นห่วง” เสียงแหบเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้น ก่อนชำเลืองมองไปทางหญิงสาวอีกครั้ง ใบหน้ายังคงนิ่งไม่แสดงความรู้สึกใด
“เจ้าด้วยนะจีน่า” โทมัสพูดก่อนออกวิ่งผ่านสายฝนตรงไปยังหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกล โดยมีเอสกับจีน่าตามหลังไปติด ๆ
โทมัส เกรอแกรรี่ หนึ่งในสมาชิกที่ร่วมฝึกฝนกันมาเจ็ดปี มีเป้าหมายเดียวกันที่กำลังจะมาเยือนอีกแค่ห้าวันเท่านั้น โทมัสมีความสามารถในการยิงธนูเช่นเดียวกับจีน่า แต่เมื่อเทียบความสามารถของจีน่ากับโทมัสแล้ว จีน่ายังต้องพยายามอีกมาก ในขณะเดียวกันฝีมือระดับจีน่าก็สามารถล้มสัตว์ที่กำลังวิ่งในระยะสี่ร้อยเมตรได้อย่างง่ายดาย และตรงเป้า ด้วยจีน่าเป็นหญิงสาว โทมัสจึงไม่พอใจนักที่เธอจะเข้าร่วมในศึกครั้งนี้ด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โทมัสชอบมองจีน่าด้วยสีหน้าและท่าทางผิดจากคนอื่น
บ้านไม้หลังใหญ่ ภายในปูด้วยพรมที่เก่ามากแล้ว เครื่องประดับภายในบ้านก็ล้วนแต่เป็นของเก่าแก่ทั้งนั้น หากจะถามหาราคาค่างวด ต่อให้ได้ราคาดีแค่ไหนเจ้าของก็คงไม่ยอมขายเป็นแน่ เพราะสิ่งของแต่ละชิ้นล้วนมีความหมายในตัวของมัน แฝงด้วยความเชื่อ ความศรัทธา และการเสียสละของบรรพบุรุษ ไม่เว้นแม้แต่ตู้กระจกบานใหญ่ที่มีลวดลายแกะสลักแปลกตา เชิงเทียนประดับเพชรที่หาดูได้ยาก
“มีอะไรเหรอคะ ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน” จีน่าเดินตรงเข้าไปนั่งข้าง ๆ เตาผิง ที่ตอนนี้มีเด็กหญิงเด็กชายกว่าหกชีวิตกำลังนั่งล้อมรอบตัวผู้เฒ่าอยู่ แววตาตื่นเต้นของเด็ก ๆ คล้ายกำลังรอฟังเรื่องสนุกบางอย่าง ส่วนโทมัสตรงเข้าไปยังห้องด้านหลังโดยไม่ปริปากพูดอะไรกับใคร
ชายแก่วัยแปดสิบยกมือขึ้นห้าม คล้ายยังไม่พร้อมที่จะพูดตอนนี้ จีน่าจึงนั่งมองเงียบ ๆ โดยไม่ส่งเสียงอะไร ราวนาทีที่ทุกอย่างในบ้านเงียบสนิทได้ยินเพียงเสียงฝนที่ตกกระทบกับหลังคาเท่านั้น ผู้เฒ่าในชุดสีเทายาวยังคงนั่งนิ่ง คล้ายกำลังคิดบางอย่างอยู่ เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน กว่าหกสิบปีมาแล้วที่ชายชรายังไม่ยอมหยุดพัก ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของตนจนล่วงเลยวัยมากแล้ว แต่กระนั้นทุกคนก็ยังยอมรับเขาในฐานะหัวหน้าหมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้
“เอส” เสียงแหบพร่าของชายชราดังขึ้น เขายิ้มให้เอสก่อนพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการเชื้อเชิญ เด็ก ๆ ที่นั่งล้อมรอบตัวผู้เฒ่าต่างหันมองมาทางเอสเกือบพร้อมเพรียงกัน เด็กหนุ่มเผยยิ้มเล็กน้อย ก่อนวางร่มในมือพิงไว้กับผนัง และเดินเข้าไปนั่งร่วมวงกับเด็ก ๆ
ชายแก่เผยยิ้มอย่างพอใจเมื่อเอสนั่งลง เขาจิบกาแฟในแก้วก่อนส่งยิ้มในเอสอีกครั้ง ริมฝีปากหนาใต้เครายาวสีขาวเริ่มขยับพูด
บทแรกอาจจะสั้นไปหน่อยนะคะ ^^
ความคิดเห็น