ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [แปล] โลกต่างมิติน่ะต้องไปกับสมาร์ทโฟน

    ลำดับตอนที่ #2 : #2 ลืมตา แล้วก็โลกต่างมิติ

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 57


        พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นท้องฟ้า

        เมฆลอยไปช้าๆ ได้ยินเสียงนกร้องแว่วมาจากไหนซักที่

        โงกตัวขึ้นมา ไม่เจ็บตรงไหนแฮะ ลุกขึ้น มองไปรอบๆก็มีภูเขารึทุ่งหญ้าเปิดกว่าออกไป เหมือนกับอยู่แถวบ้านนอกซักที่

        นี่คือโลกต่างมิติเหรอ



    001-002-01.jpg


        เห็นต้นไม้ใหญ่อยู่ลิบๆ ที่อยู่ใกล้ๆนั่นจะใช่ถนนรึเปล่านะ


    “ก่อนอื่นก็ไปตามถนนก่อนแล้วจะได้เจอคนสินะ?”


        ตัดสินใจไปแบบนั้น แล้วก็ออกเดินไปสู่งต้นไม้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า ในที่สุดก็มองเห็นทาง นี่มันถนนจริงๆด้วย


    “เอาล่ะ ที่เหลือก็ จะไปทางไหนดี…”


        ยืน ลำบากใจอยู่ที่รากต้นไม้ใหญ่ว่าจะไปซ้ายดีรึไปขวาดี อืม ถ้าไปขวาชั่วโมงเดียวถึงเมือง ไปซ้ายต้องใช้แปดชั่วโมงนี่ก็แย่เลย...ตอนที่กำลังลังเลอยู่นั้น จู่ๆมือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา

        พอเอาออกมาดู ก็เห็นอักษรคำว่า “สายเข้า พระเจ้า”


    “สวัสดีครับ?”

    ‘โอ้ ติดแล้ว ติดแล้ว ไปถึงโดยปลอดภัยสิแล้วสินะ’


        พอเอาลำโพงแนบหูแล้วก็ได้ยินเสียงของพระเจ้าออกมา เพิ่งจากกันเมื่อกี๊แท้ๆ รู้สึกคิดถึงยังไงก็ไม่รู้สิ


    ‘ลืมบอกไป มือถือของเธอน่ะ เปลี่ยนแผนที่ที่ให้มาใช้กับโลกทางนี้แล้วนะ ลองใช้ดูละกัน’

    “งั้นเหรอครับ? แหมช่วยได้พอดีเลยครับ กำลังหลงทางอยู่เลย”

    ‘ว่า แล้วเชียว จะให้ส่งเธอไปลงกลางเมืองมันก็ได้อยู่หรอก แต่คิดว่ามันจะวุ่นวายน่ารำคาญล่ะนะ ก็เลยส่งไปที่ลับตาคนน่ะ แต่ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะส่งไปไหนดีล่ะนะ’

    “อ่า ก็นะ”


        ตอบไปพร้อมกับยิ้มแหยๆ ก็จริงที่ผมนั้นไม่มีจุดหมายปลายทาง ก็ไม่มีทั้งบ้านเกิดทั้งคนรู้จักนี่นะ


    ‘เช็คแม็พไปเดินไปเรื่อยๆก็ไปถึงเมืองได้เองแหละ พยายามเข้าละกัน’

    “ครับ สวัสดีครับ”


        วาง สายโทรศัพท์แล้วก็จิ้มหน้าจอมือถือ เปิดแอ็พฯแม็พขึ้นมา มันแสดงแผนที่โดยมีตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ข้างๆมีถนนทอดยาวออกไป นี่คือถนนที่ยืนอยู่สินะ พอย่อลงที่ปลายถนน ทางด้านตะวันตกนั้นมีเมืองอยู่ เอ่อ...ลีฟเล็ท? เมืองลีฟเล็ทงั้นเหรอ


    “เอาล่ะ งั้นก็ไปได้ละ”


        ผมก็เดินไปทางตะวันตกพร้อมกับตรวจสอบตำแหน่งในแอพฯไปด้วย




        เดินไปได้ซักพักก็นึกขึ้นได้ว่าสถานการณ์มันเลวร้ายแล้ว

        อย่าง แรกเลย ไม่มีอาหาร น้ำก็ไม่มี พอถึงเมืองแล้ว หลังจากนั้นล่ะ? ไม่มีเงินเลย มีกระเป๋าสตางค์อยู่หรอก แต่จะใช้แทนเงินของทางนี้ได้เหรอ? คิดยังไงก็ไม่น่าได้ใช่มั้ยล่ะ แล้วจะเอาไงดี...

        แล้ว ระหว่างที่คิดไปเดินไป ก็มีเสียงอะไรไม่รู้มาจากข้างหลัง หันกลับไปก็เห็นอะไรซักอย่างที่อยู่ไกลๆกำลังมุ่งมาทางนี้ นั่นมัน...รถม้าเหรอ เพิ่งเคยเห็นรถม้านี่แหละ ก็คงมีใครนั่งอยู่ล่ะมั้ง...

        แม้จะเป็นเฟิสต์คอนแท็คตั้งแต่มาโลกต่างมิติ แต่จะทำไงดี หยุดรถม้า? ขอไปด้วยครับ ก็คงได้อยู่หรอก แต่อย่าดีกว่า ทำไมน่ะเหรอ

        พอรถม้าเข้ามาใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่ารถม้านี่เป็นของหรูหราสุดๆเลย มีลายแกะสลักละเอียดวิบวับ ต้องเป็นของพวกขุนนางไม่ก็เศรษฐีไม่ผิดแน่

        ถ้าไปหยุดคนแบบนั้นเข้าแล้วโดน”เจ้าคนไร้มารยาท! จงชดใช้มาซะ!”กลับมาล่ะก็ไม่เวิร์คแน่ เลยออกข้างทางหลีกให้รถม้าที่มาจากข้างหลัง

        รถ ม้าก็วิ่งผ่านไปพร้อมกับเสียงกุบกับและฝุ่นฟุ้งๆ ก็ผ่านไปได้โดยไม่มีเรื่องยุ่งยากอะไร กลับมาที่ถนนอีกรอบ พอจะออกเดินถึงได้เห็นว่ารถม้านั้นหยุดอยู่


    “เธอ! เธอตรงนั้นน่ะ!”


        ประตู รถม้าเปิดดังโครมแล้วที่ออกมานั้นก็คือสุภาพบุรุษผู้มีผมขาวและหนวดอันเริด หรู สวมผ้าพันคอและแมนเทิ่ลดูมีสไตล์ บรูชกุหลาบเปล่งประกายอยู่ที่หน้าอก


    “อะไรหรือครับ…?”


        ใน ขณะที่มองสุภาพบุรุษที่มาทางนี้ด้วยท่าทีตื่นเต้น ซอกนึงในใจของผมก็เบาใจว่า”อ๊ะ คุยกันรู้เรื่องด้วย” จับใหล่หมับ แล้วก็จ้องวงไปทั่วตัวราวกับจะโลมเลีย เอ๋ อะไรเนี่ย สถานการณ์ย่ำแย่แล้วรึเปล่า


    “ช ชุดนี้ไปได้มาจากไหนรึ!?”

    “หา?”


        แว่บ นึง ที่ไม่เข้าใจว่าพูดอะไร ถึงกับอึ้งไปเลย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรผม สุภาพบุรุษหนวดก็วนไปข้างหลัง แล้วก็วกมาข้างๆ เพื่อดูผมที่อยู่ในชุดนักเรียนให้ชัดๆ


    “เป็นดีไซน์ที่ไม่เคยเห็นเลย แล้วก็การตัดเย็บแบบนี้...ทำยังไงเนี่ย...อืมมม……”


        พอจะเข้าใจล่ะ สรุปแล้วก็คือชุดมันแปลกนั่นเอง สงสัยโลกนี้คงไม่มีชุดแบบนี้ล่ะมั้ง ถ้าแบบนั้นล่ะก็


    “......ถ้ายังไงจะรับไว้มั้ยครับ?”

    “จริงนะ!?”


        สุภาพบุรุษหนวดสนใจข้อเสนอของผมแบบสุดตัวเลย


    “ชุด นี้นี่ซื้อมาจากพ่อค้าเร่น่ะครับ ถ้ายังไงจะรับไว้ก็ได้นะครับ แต่จะขายชุดที่สวมอยู่ทั้งหมดก็คงจะลำบากอยู่ ถ้าเมืองถัดไปมีเตรียมชุดไว้ให้ก็จะขอบคุณมากเลยครับ…”


        จะ ให้บอกว่าเป็นชุดจากต่างโลกก็กระไรอยู่ เลยเติมข้ออ้างที่นึกได้ใส่ๆไป ถ้าขายชุดนี้แล้วได้เงินมาบ้างก็คงดี ไม่เตะตาดีด้วย ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเลย


    “ได้เลย! ขึ้นรถม้ามา จะให้นั่งไปถึงเมืองถัดไปด้วยละกัน แล้วก็จะหาชุดใหม่ให้เธอที่นั่น หลังจากนั้นค่อยขายชุดให้ก็ได้”

    “งั้นก็ตกลงกันได้แล้วสินะครับ”


        สุภาพ บุรุษหนวดกับผมก็จับมือกันแน่น จากนั้นก็ได้ขึ้นรถม้าไป เด้งไปสามชั่วโมงจนกว่าจะถึงเมืองลีฟเล็ท ในระหว่างนั้นสุภาพบุรุษหนวด(เห็นว่าชื่อซานัคซัง) ก็ถอดเสื้อผมไป แล้วตรวจสอบสัมผัสรึฝีเข็มอย่างสนอกสนใจ

        เหมือน ว่าซานัคซังจะทำงานเกี่ยวกับเสื้อผ้าอยู่ วันนี้ก็เพิ่งกลับมาจากไปสมาคมที่ว่า อย่างนี้นี่เอง เข้าใจได้เลยว่าทำไมถึงมีปฏิกิริยากับเรื่องเกี่ยวกับชุด

        สำหรับผม ก็เพลิดเพลินกับวิวท่านผ่านหน้าต่างไป โลกที่ไม่เคยเห็น จากนี้ที่นี่คือโลกของผมแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×